อิงรักลืมตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดที่อบอุ่น เตียงนอนเล็กๆ ที่เธอนอนทุกวันวันนี้กลับเป็นเรื่องราวดีๆ ที่มีผู้ชายอีกคนมานอนอยู่ด้วยมือบางกระชับกอดชายหนุ่มให้แน่นขึ้น ซึ่งเป็นอ้อมกอดที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น โดยที่อิงรักไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน อ้อมกอดของฟินนิคซ์ทำให้อิงรักรู้สึกอบอุ่นและมีความสุขมากดวงตากลมโตจ้องมองใบหน้าหล่อที่นอนหลับอยู่พร้อมรอยยิ้ม ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าเธอจะตื่นมาเจอเขานอนอยู่ข้างๆ แบบนี้ อิงรักอยากจะเก็บและจดจำภาพและความรู้สึกดีๆ แบบนี้เอาไว้ในหัวใจตราบนานเท่านานทว่าเวลาในตอนนี้ก็ล่วงเลยมาจนใกล้จะถึงเวลาตื่นนอนของแม่บ้านที่ต้องมาทำความสะอาดและเตรียมของเอาไว้สำหรับเจ้านาย“คุณฟินน์! คุณฟินน์ตื่นค่ะ” อิงรักเรียกชื่อชายหนุ่มเพื่อที่จะปลุกเขา แต่เธอก็ไม่กล้าพอที่จะพูดเสียงดัง เพราะกลัวว่าจะมีใครได้ยิน เธอจึงเปลี่ยนมาใช้วิธีสะกิดแทน“อืม มีอะไร” ร่างหนางัวเงียถาม“คุณฟินน์รีบกลับห้องก่อนค่ะ” อิงรักบอกชายหนุ่มที่เอาแต่นอนหลับตาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น“แต่ฉันง่วง” คำตอบสั้นๆ ง่ายๆ แต่มีความหมายชัดเจน“ง่วงก็กลับไปนอนต่อที่ห้องก็ได้หนิคะ” อิงรักพยายามดึงชายหนุ่มให้ลุกขึ้นนั่ง“ไม
ตอนเช้าของวันทุกคนนั่งรวมกันอยู่ที่โต๊ะอาหารพร้อมหน้าพร้อมตาอยากมีความสุข ขาดก็แต่ฟินนิคซ์พี่ชายคนโตของบ้านที่วันนี้ยังไม่ลงมา ซึ่งดูผิดปกติมากเพราะฟินนิคซ์เป็นคนขยันและตื่นเช้ามาโดยตลอด“ทำไมพี่ฟินน์ยังไม่ลงมาทานข้าวอีกคะ” เฟญ่าถามขึ้นมาด้วยความสงสัย เมื่อไม่เห็นพี่ชายลงมาทานอาหารเช้าด้วยกันเหมือนทุกวัน“ไม่รู้สิ” ฟาร์ริกซ์ตอบก่อนจะหันไปคุยกับลูกสาว“เดี๋ยววันนี้คุณพ่อต้องไปทำงานแล้วนะครับ”“ไปนานไหมคะ” น้องเฟิร์สถามคุณพ่อไปตามปกติ ถึงคุณพ่อจะไปทำงานอยู่ไกลแต่คุณพ่อก็โทรมาหาน้องเฟิร์สทุกวัน“ไม่นานครับ เดี๋ยวคุณพ่อจะรีบกลับมาหาน้องเฟิร์สนะ” ฟาร์ริกซ์บอกลูกสาวพร้อมรอยยิ้ม“พี่ฟินน์ มาทานข้าวเร็วค่ะ” เฟญ่าดูตื่นเต้นกว่าใครเมื่อเห็นพี่ชายเดินเข้ามา“ทำไมวันนี้ลงมาช้าจังเลยคะ ตื่นสายเหรอ” เฟญ่ายังคงถามต่อหลังจากที่พี่ชายนั่งลงยังที่ประจำ“อืม” ฟินนิคซ์พยักหน้าตอบด้วยท่าทางที่ดูเหนื่อยล้าเพราะเมื่อคืนได้นอนเพียงไม่กี่ชั่วโมง“พี่ฟินน์ไม่สบายหรือเปล่าคะ ทำไมดูเหนื่อยๆ” เฟญ่าเจ้าสงสัยถามคำถามพี่ชายไม่หยุด ปกติก็ไม่เคยถามแต่วันนี้กลับถามแบบไม่พัก“ช่วงนี้พี่ออกกำลังกายหนัก” ชายหนุ่มตอบพร้อม
สามเดือนต่อมาความสัมพันธ์ของฟินนิคซ์กับอิงรักยังคงเป็นความลับ ถึงแม้ว่าฟาร์ริกซ์กับเฟญ่าพอจะดูออกแล้วแต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา เพราะอยากจะรู้เหมือนกันว่าความสัมพันธ์ลับนี้จะเป็นยังไงต่อไปถ้าหากไม่มีใครพูดอะไรก็คงจะต้องรอเวลาให้ฟินนิคซ์กับอิงรักได้เป็นคนพูดและเปิดเผยความสัมพันธ์ออกมาเอง แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่วันนั้นจะมาถึงสักทีบางทีความรักอาจจะกำลังเบ่งบานในหัวใจโดยที่ฟินนิคซ์ไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าความเป็นจริงแล้ว เขากำลังตกหลุมรักหญิงสาวโดยไม่รู้ตัว เพราะชีวิตเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยความสุข ซึ่งเป็นความสุขที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเมื่อก่อนถ้าที่ไหนมีน้องเฟิร์สก็จะมีอิงรัก แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปถ้าที่ไหนมีน้องเฟิร์สกับอิงรัก ที่ตรงนั้นก็จะมีฟินนิคซ์อยู่ด้วยจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว“ทำอะไรกันอยู่คะ” เฟญ่าที่เดินเข้ามาเห็นก็เอ่ยถามพี่ชาย“น้าเฟย์มาเล่นของเล่นด้วยกันสิคะ”ยังไม่ทันที่ฟินนิคซ์จะได้ตอบอะไรน้องเฟิร์สก็รีบชวนคุณน้าคนสวยมาเล่นด้วยทันที“ได้ค่ะ” เฟญ่าเดินเข้าไปเล่นกับหลานสาวตัวเล็กอย่างไม่รีรอ“วันนี้พี่ฟินน์ไม่ออกไปไหนเหรอคะ”เฟญ่าแกล้งถามเพราะช่วงนี้พี่ชายอยู่แต่บ้านไม่
เช้าวันต่อมาในวันปกติอิงรักจะเป็นคนไปส่งน้องเฟิร์สที่โรงเรียน โดยมีรถยนต์คันหรูพร้อมคนขับมาให้ทุกวัน ตอนเช้ามาส่งพอถึงตอนเย็นก็มารับ ทุกอย่างวนเวียนอยู่แบบนี้ทุกวันยกเว้นก็แต่วันหยุด“ตั้งใจเรียนนะคะ เดี๋ยวตอนเย็นพี่อิงจะมารับ” อิงรักถือกระเป๋ามาส่งน้องเฟิร์สที่หน้าประตูโรงเรียน ซึ่งมีคุณครูประจำชั้นยืนต้อนรับอยู่“สวัสดีค่ะ”น้องเฟิร์สยกมือขึ้นไหว้พี่เลี้ยงก่อนจะโบกมือลาแล้วเดินเข้าไปหาคุณครูโดยที่ไม่งอแงหรือร้องไห้เลยสักนิด ผิดกับเพื่อนในห้องบางคนที่ยังร้องไห้ไม่ยอมลงจากรถอิงรักมองน้องเฟิร์สเดินเข้าไปกับคุณครูจนลับสายตา เธอจึงหันหลังเดินกลับขึ้นมาที่รถยนต์คันหรู ซึ่งมีคุณลุงพรชัยเป็นคนขับเมื่อเก็บมาบ้านอิงรักก็เก็บห้อง ทำความสะอาด เก็บของเล่นของน้องเฟิร์สให้เรียบร้อยซึ่งก็ใช้เวลาไม่นาน หลังจากนั้นเธอก็ว่างยาวๆ ไม่ได้ทำอะไร รอแค่เวลาไปรับน้องเฟิร์สที่โรงเรียนในตอนเย็น“คุณฟินน์ยังไม่ไปทำงานอีกเหรอคะ”อิงรักเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินเข้ามาหาเธอที่ห้องรับแขก ปกติเวลานี้ทุกคนจะต้องออกไปทำงานกันหมดแล้ว แต่ทำไมวันนี้เจ้าของบ้านถึงยังไม่ออกไปทำงานอีก“วันนี้ไม่ไป” เมื่อได้โอกาสและ
ในขณะเดียวกันก็มีสาวสวยสองคนที่ยืนดูกระเป๋าคอลเลคชั่นใหม่อยู่ร้านฝั่งตรงข้าม สายตาเฉี่ยวคมก็เหลือบไปเห็นใครบางคนยืนอยู่หน้าร้านพอดี“นั่นพี่ฟินน์หนิ มากับใครอะ”กัสจังพูดขึ้นมาเมื่อเห็นผู้ชายที่เพื่อนแอบรักมากับผู้หญิงคนอื่นที่เธอไม่เคยเห็นและไม่คุ้นหน้ามาก่อน“พี่เลี้ยงที่บ้าน” พลอยขวัญหันไปมองตามที่เพื่อนบอกก่อนจะเห็นว่าฟินนิคซ์มากับผู้หญิงที่เธอเคยเจออยู่ที่บ้านเมื่อนานมาแล้ว“รู้จักเหรอ” กัสจังถามต่อเพราะไม่คิดว่าเพื่อนสนิทจะรู้ผู้หญิงคนนั้น“ก็เป็นพี่เลี้ยงของน้องเฟิร์สไง” พลอยขวัญอธิบายต่อ“หลานของพี่ฟินน์เหรอ” หญิงสาวยังคงถามต่อเมื่อนึกขึ้นได้ว่าพลอยขวัญเคยเล่าให้ฟังว่าฟินนิคซ์มีหลานสาว“ใช่”“แต่ดูยังไงก็ไม่เหมือนเจ้านายมากับลูกน้องนะ มันดูเหมือนคนเป็นแฟนกันมากกว่า ดูท่าทางสนิทกันมากเลย” กัสจังพูดไปตามที่เห็นและเธอก็รู้สึกตามที่พูดออกมาจริงๆ“แค่เจ้านายกับลูกน้องจริงๆ” คุณหมอพลอยขวัญยังคงยืนยันคำตอบเดิม ก่อนจะหันมาสนใจกระเป๋าที่อยู่ตรงหน้าต่อ“ดูสิ! ซื้อของแบรนด์เนมให้กันด้วย” กัสจังรีบสะกิดให้พลอยขวัญดูทันที“อาจจะซื้อไปให้น้องสาวก็ได้ เห็นบอกว่าพี่เลี้ยงเป็นเพื่อนสนิทของน้อง
อิงรักกลับมาบ้านด้วยอาการเหม่อลอยเหมือนหัวใจของเธอได้หลุดลอยไป ตอนนี้เหลือเพียงแค่ร่างกายที่ไร้หัวใจเมื่อกลับมาถึงบ้านหลังใหญ่อิงรักก็ขังตัวเองอยู่ในห้องนอนเล็กๆ ของตัวเอง เธอพยายามอยู่เงียบๆ เพื่อที่จะคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาและฟังเสียงหัวใจของตัวเองให้ชัดเจนอีกครั้งแต่ยิ่งคิดคำตอบที่ได้คือความไม่เหมาะสม เธอกับเขาไม่มีอะไรเหมาะสมกันเลยสักนิด ถ้าขืนอยู่ไปก็มีแต่ความเจ็บปวด ที่ผ่านมาสำหรับเธอมันคือความรัก แต่สำหรับเขา… เธอไม่รู้เลยว่ามันคืออะไรกันแน่ตอนนี้เธอไม่รู้เลยว่าการกระทำของเขาสามารถเชื่อได้อีกต่อไปหรือเปล่า ยิ่งคิดความรู้สึกภายในใจก็ยิ่งสับสน“จะทำยังไงต่อไปดีนะ” อิงรักถามตัวเองเสียงเศร้า วันนี้เป็นวันที่เธอรู้สึกเหนื่อยล้ามากจริงๆ มันคือความรู้สึกที่หนักอึ้งอยู่ภายในใจและเธอก็ไม่รู้เลยว่าจะผ่านช่วงเวลาแบบนี้ไปได้ยังไงทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้คือเธอต้องเป็นฝ่ายไปเรื่องทุกอย่างก็จะได้จบลง แต่ถ้าหากเธอยังอยู่ทุกอย่างก็คงจะวนเวียนอยู่แบบนี้ไปจบไม่สิ้นและเธอก็จะเป็นคนที่เสียใจมากที่สุดมือบางปาดน้ำตาออกจากแก้มก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดเพื่อที่จะได้ออกไปรับน้องเฟิร์
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาตลอดระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่อิงรักหนักใจมากที่สุด เธอต้องทนอยู่กับความอึดอัดและทรมานหัวใจอย่างสุดช้ำ เธอพยายามนิ่งและเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้และต้องอยู่ให้ห่างจากฟินนิคซ์ แถมยังต้องทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นถึงแม้ภายในใจจะไม่ไหวและบอบช้ำแค่ไหน แต่อิงรักก็ต้องอดทนเพื่อที่จะก้าวผ่านความรู้สึกและเหตุการณ์นี้ไปให้ได้ในช่วงเวลาที่เป็นวันหยุดบ้านหลังใหญ่ที่เคยสดใสแต่วันนี้กลับเต็มไปด้วยความเงียบเหงาเมื่อเด็กน้อยตัวเล็กไม่อยู่บ้านอิงรักว่างงานตั้งแต่ตอนเช้าจนถึงค่ำเพราะโรสรินมารับลูกสาวอย่างน้องเฟิร์สไปเที่ยวด้วย ซึ่งครั้งนี้ฟาร์ริกซ์ไม่ได้เพราะติดประชุมและเพิ่งจะเดินทางมาถึงบ้านในช่วงบ่ายตอนที่น้องเฟิร์สไม่อยู่บ้านอิงรักก็ว่างงานไม่รู้จะทำอะไร จะออกไปสมัครก็ไม่ได้เพราะเป็นวันหยุด เธอจึงอยู่ที่บ้านทั้งวันไม่ได้ทำอะไรโชคดีที่ช่วงนี้ฟินนิคซ์งานเยอะเช้าออกไปทำงานกว่าจะกลับมาถึงบ้านก็ดึก ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาให้กับอิงรักเท่าไหร่ แรกๆ อิงรักก็เศร้าแต่พอหลังๆ มาเธอก็เริ่มทำใจได้และยอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ได้ร่างบางนั่งเล่นอยู่ที่ห้องรับแขกคนเดียว ควา
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จอิงรักก็รีบเข้าห้องตัวเองทันที เนื่องจากวันนี้คุณแม่ของน้องเฟิร์สมานอนด้วยและทุกคนในบ้านก็รับรู้กันแล้วว่าเธอจะลาออกจากตำแหน่งพี่เลี้ยงตอนแรกน้องเฟิร์สก็งอแงและไม่ยอมให้อิงรักลาออก แต่ทุกคนต่างพูดคุยกับน้องเฟิร์สด้วยเหตุผลและความเป็นจริง ทำให้น้องเฟิร์สต้องเปลี่ยนใจและยอมรับให้ได้ช่วงนี้โรสรินก็มารับน้องไปเที่ยวบ้างและมานอนกับน้องเฟิร์สบ่อยขึ้น ซึ่งบ่งบอกว่าเป็นสัญญาณที่ดีในความสัมพันธ์ของฟาร์ริกซ์และโรสรินที่อาจจะกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้ง“จะรู้บ้างไหมว่าตอนนี้อิงทรมานมากแค่ไหน” หญิงสาวบ่นพึมพำกับตัวเองอยู่บ้านในห้องนอนเล็กอิงรักนั่งจมอยู่กับความน้อยใจ ในใจเธออยากจะบอกเรื่องวันนั้นให้ฟินนิคซ์รู้ แต่ถ้าหากเธอพูดก็อาจจะดูไม่เหมาะสม เพราะพลอยขวัญบอกกับเธอว่ากำลังจะหมั้นพลอยขวัญเป็นถึงคุณหมอที่โรงพยาบาลชื่อดัง มีฐานะและหน้าที่การงานที่มั่นคง อีกทั้งยังเป็นผู้หญิงที่สวยและมีเสน่ห์ ดูยังไงก็เหมาะสมกับฟินนิคซ์แตกต่างจากเธอที่เป็นเด็กกำพร้าจนๆ เรียนจบแค่ปริญญาตรี พ่อแม่ไม่มี ใช้ชีวิตตัวคนเดียวมาตั้งแต่เด็ก ไม่มีหน้ามีตาทางสังคมและไม่มีอะไรที่เหมาะสมกับฟินนิคซ
เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงหลังจากที่ถ่ายรูปกับแขกที่มาร่วมงานเพื่อเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกเสร็จก็ถึงเวลาที่จะต้องส่งตัวเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเข้าห้องหอ ซึ่งเป็นเวลาที่ฟินนิคซ์รอคอยมากที่สุดมีญาติผู้ใหญ่และแขกเพียงไม่กี่คนที่ได้เข้ามาอวยพรในช่วงพิธีการที่สำคัญในครั้งนี้ เพราะการส่งตัวถือเป็นพิธีที่สำคัญมาก“ขอให้ทั้งสองความรักยืดยาว ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชรนะ” แขกผู้ใหญ่คนสำคัญที่มาร่วมงานก็อวยพรให้บ่าวสาวในห้องหอ“ขอบคุณครับ / ขอบคุณค่ะ” เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวต่างก็ยกมือไหว้ขอบคุณญาติผู้ใหญ่ที่สละเวลาที่มีค่ามาร่วมงานและร่วมอวยพรในงานแต่งของเขาและเธอเมื่ออวยพรเสร็จญาติผู้ใหญ่ก็เริ่มทยอยออกไป เหลือเพียงแค่คนในครอบครัวที่ยืนรออวยพรให้ทั้งสองคนอยู่“ขอให้พี่ฟินน์กับอิงรักมีความสุขมากๆ ในชีวิตคู่นะคะ” โรสรินยิ้มกว้างด้วยความดีใจที่วันนี้ทั้งสองคนได้แต่งงานกันและทั้งสองยังมีส่วนร่วมที่ทำให้เธอกับฟาร์ริกซ์ได้กลับมาใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอีกครั้ง“ดีใจด้วยนะ ถ้าหากมีเรื่องหรือมีปัญหาอะไรเข้ามาก็ขอให้ทั้งสองคนหันหน้าคุยกันให้เข้าใจนะ” ฟาร์ริกซ์ยินดีและดีใจกับพี่ชาย“รีบมีน้องไวๆ นะคะเดี๋ยวน้องเฟิร์สจะช่ว
ห้าวันต่อมาและแล้ววันที่ใครหลายๆ คนรอคอยก็มาถึง งานแต่งถูกจัดขึ้นที่โรงแรมหรูชื่อดังอยู่ใจกลางเมืองอย่างยิ่งใหญ่และสมฐานะ แขกในงานที่มาร่วมแสดงความยินดีต่างก็เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงกันทั้งนั้นบรรยากาศในงานเต็มไปด้วยเสียงเพลงช้าๆ ที่เปิดคลอเอาไว้เบาๆ เพื่อที่จะไม่ทำให้บรรยากาศในงานนั้นดูเงียบจนเกินไป แต่ก็ไม่ได้เปิดเสียงดังจนรู้สึกว่าดังรบกวนแขกในงานที่พูดคุยกัน“ขอบคุณที่มาร่วมงานนะครับ” ฟินนิคซ์เดินขอบคุณแขกที่มาร่วมงานด้วยตัวเองระหว่างที่รอเวลาเข้าสู่พิธีการของงาน“ยินดีด้วยนะครับ” หุ้นส่วนของบริษัทที่มาร่วมงานก็แสดงความยินดีกับเจ้าบ่าว“ไม่ทราบว่าจ้างบริษัทไหนมาจัดงานให้คะ สวยมากเลย” ภรรยาสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็เอ่ยถามด้วยความสนใจ“น้องสาวผมเป็นคนจัดการทุกอย่างให้หมดเลยครับ” ฟินนิคซ์ตอบด้วยความภูมิใจ เพราะนี่ไม่ใช่คนแรกที่ถามเขา ทุกคนที่มาร่วมงานต่างเอ่ยชมและพูดเป็นเสียงเดียวกัน“เก่งมากเลยนะครับ แขกในงานก็ชมใหญ่เลยว่าจัดงานได้สวยมาก” แขกในงานชมไม่หยุด ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูสวยงามไปหมด“ขอบคุณนะครับ”“ไม่ทราบว่าน้องสาวคุณฟินน์มีแพลนจะเปิดร้านออร์แกไนซ์ไหมคะ” แขกที่มาร่วมงานถึงกั
หนึ่งเดือนต่อมางานแต่งถูกจัดขึ้นอย่างรวดเร็วตามสไตล์ของคนใจร้อนที่ไม่อยากเสียเวลารออะไรนานๆ ทำเอาน้องสาวอย่างเฟญ่าวุ่นวายไปหมด เพราะนอกจากเธอจะต้องเตรียมชุดของตัวเองที่จะใส่วันงานแต่งของพี่ชายแล้วเธอยังต้องเป็นคนจัดการและเตรียมงานในครั้งนี้ด้วย“เลื่อนออกไปอีกสักเดือนไม่ได้เหรอคะพี่ฟินน์” เฟญ่านั่งทำหน้าเซ็งหลังจากที่ไปผสานงานกับทีมต่างๆ มาตลอดทั้งวัน บทจะช้าก็ช้าแต่พอถึงบทจะรีบก็รีบแบบไม่รอใครเลยจริงๆ“ไม่ได้ ก็บอกทุกคนไปหมดแล้วจะให้เลื่อนอะไรอีก” ฟินนิคซ์มองหน้าน้องสาวด้วยความไม่เข้าใจ หลังจากที่คุยเรื่องนี้ไปหลายรอบแล้ว แต่เฟญ่าก็ยังคงบ่นไม่หยุด“แต่เหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่วันเองนะคะ” เฟญ่ายังคงทำหน้าเซ็งไม่หาย ถ้าไม่ติดว่าเป็นงานแต่งของพี่ชายกับเพื่อนสนิทของเธอ เธอคงไม่ต้องมานั่งวุ่นวายทำทุกอย่างคนเดียวแบบนี้“เฟย์ก็เตรียมงานใกล้เสร็จแล้วไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่มเชื่อมั่นในฝีมือของน้องสาว เพราะรู้ว่าน้องสาวเก่งเรื่องนี้ ถ้าหากว่างานนี้เฟญ่าทำออกมาได้ดี หลังเสร็จงานเขาคงต้องเปิดร้านออร์แกไนซ์ให้น้องสาวอย่างแน่นอน“ใกล้เสร็จอะไรกันคะ เฟย์เพิ่งจะคอนเฟิร์มแบบไปเอง” เฟญ่ายกมือกุมขมับด้วยท่าทา
เมื่อดอกไม้ที่สั่งมาถึงเฟญ่า น้องเฟิร์สและแม่บ้านต่างก็ช่วยกันจัดตกแต่งมุมปาร์ตี้ที่สวนหลังบ้านให้สวยงามและเหมาะกับการขอแต่งงานมากที่สุดน้องเฟิร์สทั้งดีใจและตื่นเต้นช่วยแถมยังช่วยคุณน้าคนสวยจัดดอกไม้ด้วยถึงจะทำไม่เป็นก็ตาม แต่เด็กตัวเล็กก็อยากจะช่วยส่วนฟินนิคซ์กับฟาร์ริกซ์ก็นั่งดูอยู่ไม่ห่าง ด้วยความที่เป็นผู้ชายก็เลยไม่มีความสามารถที่จะช่วยจัดดอกไม้ได้ จึงทำได้เพียงแค่นั่งดูและให้กำลังใจทุกคน“มีของมาส่งค่ะ” พี่นิดหน่อยเดินเข้ามาบอกผู้เป็นเจ้านาย“พี่ฟินน์พี่เขามาส่งแหวนแล้วค่ะ” เฟญ่าที่เห็นพนักงานที่ร้านเดินเข้ามาก็รีบตะโกนบอกทันทีเพราะเธอจำหน้าพนักงานที่ร้านเพชรได้“มาส่งแหวนใช่ไหมครับ” ฟินนิคซ์เอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง“ใช่ค่ะ” พนักงานตอบก่อนจะหยิบกล่องแหวนพร้อมใบเสร็จขึ้นมาให้ชายหนุ่มดู“เฟย์มาดูก่อน ใช่แบบที่สั่งไว้ไหม” ฟินนิคซ์ตะโกนเรียกน้องสาวให้มาดู เพราะเขาไม่รู้ว่าเธอสั่งแบบไหนและถูกต้องตามที่สั่งหรือเปล่าเฟญ่าวางงานจัดดอกไม้ตรงหน้าแล้วรีบมาตรวจดูแหวนเพชรเม็ดโตที่เธอสั่งทำพิเศษเพื่อพี่ชายกับเพื่อนรักของเธอโดยเฉพาะ“สวยมากเลยค่ะ พี่ฟินน์จ่ายเงินด้วยนะ” เฟญ่าเปิดกล่องแ
เช้าวันต่อมาวันนี้เป็นวันหยุดบ้านหลังใหญ่ก็เต็มไปด้วยความสดใสและเสียงหัวเราะจากสมาชิกในบ้านที่นานๆ ทีจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา“น้องเฟิร์สอยากให้เป็นแบบนี้ทุกวันเลยค่ะ” เด็กตัวเล็กพูดออกมาด้วยท่าทางสดใสชีวิตของน้องเฟิร์สตอนนี้กลับมาสดใสและมีความสุขอีกครั้งเมื่อคุณแม่กลับมาอยู่ที่บ้านด้วย ส่วนคุณพ่อก็กำลังจัดการเรื่องบริษัทที่กำลังจะย้ายกลับมาทำที่ประเทศไทยอย่างถาวร จะได้มีเวลาอยู่กับลูกสาวและภรรยามากขึ้นหลังจากที่น้องเฟิร์สเศร้าเรื่องที่พี่เลี้ยงอย่างอิงรักลาออก แต่ไม่นานคุณลุงฟินนิคซ์ก็ไปตามตื้อพี่เลี้ยงให้กลับมาอยู่บ้านด้วยกันเหมือนเดิมจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลาหนึ่งปีเต็มและสมาชิกในบ้านก็ค่อยๆ เพิ่มมากขึ้น ฟาร์ริกซ์ก็มีโรสรินมาอยู่ด้วย ส่วนพี่ชายคนโตอย่างฟินนิคซ์ก็มีอิงรักมาอยู่ด้วยเช่นกัน จะเหลือก็แต่เฟญ่าที่ยังไม่มีคู่ทำให้ต้องมานั่งเหงาอยู่คนเดียว“งั้นเย็นนี้เราจัดปาร์ตี้กันดีไหมคะ” เฟญ่าถามอย่างเอาใจหลานสาว“ดีค่ะ” น้องเฟิร์สดีใจและเห็นด้วยก็รีบปรบมือรัวๆ ทันที“เมนูอะไรดีนะ” เฟญ่าถามหลานสาว“บาร์บีคิวกับไก่ทอดดีไหมคะน้าเฟย์” เด็กตัวเล็กเสนอเมนูโปรดของตัว
หนึ่งปีต่อมา“อิงขอรายชื่อลูกค้าทั้งหมดที่จะมาร่วมงานภายในวันนี้ด้วยนะคะ” หญิงสาวในชุดทำงานสุดเนี๊ยบสั่งพนักงานด้วยท่าทางและน้ำเสียงที่จริงจัง“วันนี้!” หญิงสาวในตำแหน่งผู้ช่วยพูดขึ้นมาด้วยความตกใจ เมื่อเจ้านายสั่งให้ทำงานสำคัญให้เสร็จภายในวันนี้“ใช่ค่ะ” อิงรักพยักหน้าตอบด้วยความมั่นใจ“แต่อีกไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงเวลาเลิกงานแล้วนะคะ” พนักงานที่ทำหน้าที่ผู้ช่วยก็ถึงกับคิดหนักขึ้นมาทันที เมื่อเหลือเวลาทำอีกไม่นาน“แล้วยังไงคะ” ใบหน้าสวยขมวดคิ้วถาม ถึงรายชื่อทั้งหมดจะมีเยอะก็จริง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร แค่รวบรวมรายชื่อทั้งหมดมาให้เธอ“ได้ค่ะ” ผู้ช่วยก้มหน้าตอบเพราะไม่มีทางที่จะปฏิเสธอะไรได้ คำสั่งของเจ้านายยังไงก็ต้องทำ“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเอ่ยขอบคุณก่อนจะก้มหน้าอ่านเอกสารที่อยู่ตรงหน้า เพื่อที่จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ออกมาดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้อิงรักเข้ามาทำงานในตำแหน่งเลขาและผู้ช่วยของฟินนิคซ์ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงประธานบริษัทและเธอก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่และออกมาดีที่สุดนี่ก็ครบหนึ่งปีแล้วที่เธอมาทำงานที่บริษัทและย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านของฟินนิคซ์ในฐานะแฟนอย่างเป็นทางการ นอกจาก
ฟินนิคซ์กลับบ้านมาด้วยท่าทางอารมณ์ดี เขาตั้งใจที่จะกลับมาเตรียมความพร้อมและเตรียมคำพูดที่จะพูดกับอิงรักในค่ำคืนนี้ชายหนุ่มซ้อมคำพูดกับตัวเองอยู่ในห้องเพื่อที่จะไม่ให้ใครเห็น ฟินนิคซ์พยายามหาคำพูดต่างๆ มาปรับและรวมกันให้เป็นตัวเขามากที่สุด เพื่อที่จะไม่ให้ดูเป็นทางการและกดดันอีกฝ่ายมากเกินไปเมื่อใกล้ถึงเวลาฟินนิคซ์ก็รีบอาบน้ำแต่งตัว จะได้ออกไปรับอิงรักที่คอนโด ส่วนเรื่องร้านอาหารเขาได้ให้เลขาจองโต๊ะและให้ทางร้านจัดเตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว คืนนี้ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามแผนและออกมาดีที่สุด“พี่ฟินน์!” เฟญ่าที่นั่งอยู่ที่ห้องรับแขกเมื่อเห็นพี่ชายเดินมาเธอจึงเอ่ยเรียก“มีอะไร” ชายหนุ่มก้มหน้าจัดเน็กไทอยู่รีบหันไปมองตามเสียงเรียก“จะออกไปไหนคะ” การแต่งตัวของพี่ชายเรียกความสงสัยจากเธอได้ไม่น้อย“ไปทานข้าว”“ทำไมต้องแต่งตัวเต็มขนาดนี้ด้วยคะ”“ก็แต่งตัวปกติหนิ” ฟินนิคซ์สำรวจชุดที่ตัวใส่ด้วยความมั่นใจ เพราะเขาแต่งตัวแบบนี้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว“เฟย์ก็นึกว่าจะไปประชุมที่ไหนซะอีก”“มันดูทางการเกินไปเหรอ” เมื่อโดนน้องสาวทักความมั่นใจที่มีก็เริ่มลดน้อยลงทันที“จะไปทานข้าวกับใครคะ”เฟญ
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาอิงรักย้ายออกจากบ้านหลังใหญ่เข้าไปอยู่ที่คอนโดขนาดกลาง มีห้องต่างๆ แยกเป็นสัดส่วนและมีระบบรักษาความปลอดภัยพร้อมทั้งกล้องวงจรปิด ซึ่งถือว่ามีความปลอดภัยเป็นอย่างมาและการจัดตกแต่งห้องก็น่ารักตามสไตล์ที่เธอชอบซึ่งราคาห้องพักค่อนข้างแพงถ้าให้เธอเช่าอยู่ เงินทั้งหมดที่มีของเธอคงอยู่ได้ไม่ถึงครึ่งปีแน่นอน แต่โชคดีที่ฟาร์ริกซ์ซื้อพร้อมทั้งจัดตกแต่งห้องตามแบบที่เธอชอบ แถมยังให้เธอจ่ายค่าเช่าในราคาที่ถูกมากจนเธอรู้สึกเกรงใจ แต่เขาก็บอกว่าถือเป็นค่าตอบแทนที่เธอช่วยเลี้ยงและดูแลน้องเฟิร์สมาเป็นอย่างดีอิงรักรู้สึกโล่งและสบายใจมากที่ได้ย้ายออกมาอยู่คนเดียว โชคดีที่ฟินนิคซ์ไม่อยู่เธอจึงย้ายออกมาทันที ถึงจะคิดถึงและยังรักแต่วิธีนี้ก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับเธอแล้วร่างบางเก็บของในห้องให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่นถูกจัดเป็นสัดส่วน ไม่ว่าจะมองไปมุมไหนก็ดูดสวยงามถูกใจอิงรักไปหมดตอนนี้อิงรักมีเงินเก็บเยอะพอสมควร แต่ถึงจะมีเงินเยอะแค่ไหนอิงรักก็ยังไม่สบายเมื่อความจริงแล้วเธอยังไม่ได้งานทำ ทุกอย่างเป็นเพียงแค่คำพูดโกหกเพื่อให้ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงเธอเท่
ตลอดทั้งวันจากเช้าจนถึงเย็นฟาร์ริกซ์พาอิงรักไปหาห้องพัก กว่าจะได้ห้องที่ปลอดภัยและราคาถูกก็ใช้เวลานานพอสมควรสุดท้ายเพื่อความปลอดภัยของอิงรัก ฟาร์ริกซ์ก็ได้ทำการเซ็นสัญญาซื้อห้องที่ปลอดภัยและเป็นห้องที่อิงรักชอบ เพื่อที่จะให้อิงรักได้ผ่อนกับเขาในราคาที่ถูกลง“ขอบคุณพี่ฟาร์มากเลยนะคะ”เมื่อกลับมาถึงบ้านอิงรักก็ไม่ลืมที่จะขอบคุณชายหนุ่มใจดีที่พาเธอไปดูห้องแถมยังซื้อเอาไว้ให้เธอเช่าในราคาที่ถูกลง ซึ่งเป็นราคาที่ถูกมากๆ และเธอคงหาราคานี้ที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว“ไม่เป็นไร อย่าลืมไปบอกเฟญ่าด้วยล่ะ ห้องสวยแถมยังปลอดภัยด้วย”วันนี้ทั้งวันฟาร์ริกซ์เอาชื่อเฟญ่ามาอ้างตลอด และพูดย้ำกับอิงรักทุกครั้งว่าเฟญ่าบอกให้เอาเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก จนอิงรักต้องยอมเมื่อเป็นคำสั่งของเฟญ่า“ค่ะ” อิงรักพยักหน้าตอบ“อิงไปพักได้เลยนะ วันนี้โรสจะมานอนกับน้องเฟิร์ส” ฟาร์ริกซ์หันไปบอกหญิงสาวเมื่อวันนี้โรสรินโทรบอกเขาล่วงหน้าแล้ว“ค่ะ อิงขอตัวก่อนนะคะ” หญิงสาวก้มหัวให้ชายหนุ่มก่อนจะเดินแยกออกไปส่วนฟาร์ริกซ์ก็ตัดสินใจไปนั่งรอพี่ชายที่ห้องทำงาน เพราะถ้ากลับมาบ้านพี่ชายจะเข้าห้องทำงานก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งวันนี้เขามีเรื