“คิก คัก” ลลิตน้อยกำลังเล่นปาลูกบอลอยู่ในคอกเด็กเล่นอย่างสนุกสนานแต่หูกลับคอยเงี่ยฟังบทสนทนาที่ห่างไปไม่ไกล
“ผมต้องกราบขอโทษคุณหญิงด้วยนะครับที่ทำให้ท่านต้องผิดหวัง” ลออจันทร์ยกมือไหว้ขอโทษอดีตเจ้านาย ครามรีบคุกเข่าเคียงข้างผู้เป็นภรรยาพร้อมกับรับผิดชอบร่วมกัน
“เรื่องนี้ผมเองก็มีส่วนผิดด้วยครับ ถ้าหากผมไม่ดื่มจนขาดสติเรื่องทั้งหมดก็คงไม่เกิดขึ้น”
คุณหญิงไพลินมองดูสองคนที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงตก โบกมืออนุญาตให้ทั้งสองลุกขึ้น
“ลุกมานั่งเก้าอี้ดี ๆ เถอะ วันนี้ฉันไม่ได้จะมาต่อว่าอะไร แค่อยากมาเห็นหน้าหลานเท่านั้น”
ลออจันทร์กับครามมองหน้ากันอย่างงุนงงไม่นึกว่าเรื่องจะจบง่ายดายแบบนี้ เมื่อเห็นสายตาของคุณหญิงที่มองมาอย่างเมตตาก็ยอมลุกขึ้นมานั่งโซฟาโดยที่ครามยังคงนั่งตัวติดกันไม่ยอมห่าง
“แล้วจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร แกคงไม่อยากให้ลลิตเป็นลูกนอกสมรสอีกต่อไปใช่ไหม” หญิงวัยกลางคนเอ่ยอย่างกังวลใจ น่าเสียดายที่หลานชายที่แท้จริงของท่านต้องมาระหกระเหินอยู่ข้างนอก
“คุณแม่ไม่ต้องห่วงครับ ตอนนี้ผมกับลออจดทะเบียนสมรสกันเรียบร้อยแล้วครับ”ครามตอบเพื่อคลายกังวล ลออจันทร์ที่นั่งอยู่ด้านข้างหน้าแดงระเรื่อด้วยความอาย
คุณไพลินพูดไม่ออกเมื่อเห็นการแก้ปัญหาที่ฉับไวของลูกชาย ก่อนจะหันมาสนใจด้านลออจันทร์บ้าง
“ลออ เลี้ยงลูกตัวคนเดียวคงเหนื่อยมากสินะ”
“คุณหญิง ผม...”
“เรียกคุณแม่เถอะ”
“!!!!!”
ลออจันทร์ทั้งตกใจและประหลาดใจเมื่อคุณไพลินยอมโอนอ่อนให้ตน จึงหันไปสบตากับครามด้วยความดีใจ
“อะแฮ่ม ฉันเห็นแก่หลานของฉันหรอกนะ” เมื่อเห็นชายหนุ่มตรงหน้าก็นึกไม่สบอารมณ์เล็กน้อย เห็นท่านเป็นคนใจยักษ์ใจมารหรือไรกัน
“แอ้ ยา ยา”ลลิตยืนเกาะรั้วมองมาทางผู้ใหญ่ด้วยสายตาน่ารักน่าชัง คุณไพลินที่เห็นท่าทางของหลานชายก็ปรี่เข้าไปเล่นด้วยทันที ไม่สนใจลูกชายลูกสะใภ้คนใหม่ของท่านอีก
“มามะ มาเล่นกับย่าดีกว่า”คุณไพลินหอมแก้มลลิตจนแก้มโย้ไปข้างหนึ่ง นึกชื่นชมลออจันทร์ที่เลี้ยงหลานของท่านออกมาได้จ้ำม่ำขนาดนี้
“ยา ยา ยา”ลลิตที่ตอนนี้คิดว่าตัวเองต้องมัดใจหญิงวัยกลางคนตรงหน้าก็ปลดปล่อยความน่ารักอย่างเต็มที่
ทีนี้ล่ะ เขาก็มีคนที่ช่วยหยุมหัวเจ้าพ่อโง่เพิ่มอีกคนแล้ว วะฮ่าฮ่า
ช่วงสายหลังหนูน้อยลลิตถึงเวลานอนกลางวัน คุณไพลินก็ขอตัวกลับไปก่อนก่อนกลับไม่ลืมย้ำให้พาหลานชายไปเที่ยวที่บ้านใหญ่บ่อย ๆ ด้วย ลออจันทร์รับปากอย่างยินดีก่อนยืนส่งคุณหญิงขึ้นรถจากไป
ครามโอบไหล่ลออจันทร์พากันเดินเข้าไปในบ้าน ก่อนจะชักชวนลออจันทร์ไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าในตอนบ่าย
ลออจันทร์ต้องการซื้อของสดมาทำอาหารจึงรับปากชายหนุ่ม พร้อมกับนั่งลิสต์รายการที่ต้องซื้อเพิ่มอย่างจริงจัง ครามยิ้มขำก่อนจะขอตัวไปจัดการงานที่คั่งค้างในห้องทำงานระหว่างรอให้ลูกชายตื่นนอน
เวลา 15.00
“ฮ้าวววว แม่ะ แม่ะ” เสียงหาววอดมาพร้อมกับเสียงเรียกของลูกชายทำให้ลออจันทร์ผละออกมาจากห้องครัว
“ลลิต ตื่นแล้วเหรอครับ มาล้างหน้ากันดีกว่านะ”
“คิก คิก”
ลลิตที่หลับไปตื่นหนึ่งรู้สึกกระฉับกระเฉงขึ้น ครามที่แต่งตัวเสร็จลงมาด้านล่างจึงอาสาล้างหน้าให้ลูกน้อยและบอกให้ลออจันทร์ขึ้นไปแต่งตัว
“แอ้ แอ้” เราจะไปไหนกันเหรอ
ทารกน้อยได้แต่สงสัยก่อนที่จะโวยวายดังลั่นเมื่อครามใช้แรงเช็ดหน้าจนใบหน้าน้อย ๆ ของตนแดงเถือกไปหมด
“แอ้ แอ้” เจ้าพ่อโง่นี่จะรังแกเขาให้ได้เลยใช่ไหม
“พ่อลูกเล่นอะไรกันครับ” ลออจันทร์ที่เดินลงมาหลังจากเปลี่ยนเครื่องแต่งกายแล้ว เดินไปหาพ่อลูกที่ส่งเสียงครึกครื้น
“มา มา มา” หม่าม้าลลิตเปียกไปหมดแล้ว
ครามได้แต่ยิ้มแหยเมื่อเห็นผลงานของตน ลออจันทร์ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจเมื่อเห็นสภาพเปียกปอนของพ่อลูกจึงไล่ให้ครามขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกรอบ
“แอ้ แอ้”
“โอ๋ ป๊ะป๋าเขาไม่ได้ตั้งใจให้ลูกเปียกหรอกนะครับ หนูยกโทษให้ป๊ะป๋าเถอะนะ”ลออจันทร์เห็นลลิตหน้าบึ้งตึงก็รีบกล่อมให้หนูน้อยสงบลง
ใช้เวลาไม่นานทั้งครอบครัวก็อยู่บนรถครอบครัวคันใหญ่พร้อมสำหรับเดินทาง ลลิตกอดตุ๊กตาไดโนเสาร์คู่ใจไว้ไม่ห่าง ขาป้อมกวัดแกว่งบนที่นั่งคาร์ซีทอย่างอึดอัด
“แม่ะ มา มา” หม่าม้าลลิตอึดอัด
ลออจันทร์ที่นั่งข้างหลังมองดูท่าทางอึดอัดของลูกน้อยก็ได้แต่ใจแข็งเพื่อความปลอดภัยของลูกชาย
“ลูกคงยังไม่ชินน่ะ” ครามที่รับหน้าที่เป็นคนขับรถเอ่ยกับลออจันทร์ที่นั่งด้านข้างเมื่อเห็นท่าทีพะวักพะวง
“ครับ” ลออจันทร์ได้แต่ทำใจแข็งหลบสายตาลูกน้อยเบนไปยังครามที่แม้วันนี้แต่งตัวง่าย ๆ แต่ก็ยังดูดี ใบหน้าเริ่มเห่อร้อนเมื่อมองไล่ตามแขนแกร่งไปถึงมือหนาที่จับพวงมาลัยรถก่อนจะเสหลบสายตาไปมองวิวทัศน์ด้านนอกแทน
ครามยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นท่าทางเขินอายของโอเมก้าหนุ่ม ในใจนึกไปถึงยามค่ำคืนที่ทั้งสองจะได้นอนร่วมห้องด้วยกันครั้งแรกก็อดตื่นเต้นแทบทนไม่ไหว
รถแล่นเข้าไปจอดตรงช่องสำหรับผู้บริหารทำให้อยู่ติดกับทางเข้าห้างสรรพสินค้า ครามอาสาอุ้มลลิตที่ถูกห่อตัวด้วยชุดคุณหมีขึ้นมาอุ้มเอาไว้เอง ลออจันทร์ถือรถเข็นเดินนำพ่อลูกเข้าในโซนผักผลไม้
“อูววว แม่ะ อูววว” หม่าม้าลลิตอยากกินแอปเปิ้ล
ครามรวบร่างตุ้ยนุ้ยของลูกชายที่พยายามตะเกียกตะกายไว้แน่นยิ่งผ่านโซนผลไม้สีสด ลลิตยิ่งส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวอย่างตื่นเต้น
ลออจันทร์รีบซื้อของสดที่จำเป็นก่อนจะรีบเข็นรถไปทางของใช้ในครัว ครามรวบร่างลลิตไว้แน่นขณะเดินผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้ากันไม่ให้ลลิตมือซนคว้าไปเล่น
“แอ้ แอ้” แน่นไปแล้ว
“เลือกของเสร็จแล้ว เราไปทานข้าวด้านบนกันเถอะ” ครามเอ่ยบอกลออจันทร์เมื่อเห็นว่าเลือกของตามที่ต้องการไว้ในตะกร้าหมดแล้ว ก็รีบแย่งรถเข็นตรงไปยังแคชเชียร์ยื่นบัตรจ่ายเงินโดยที่ร่างบางไม่ทันทักท้วง
ครามมือหนึ่งอุ้มลูกชายอีกมือโอบร่างลออจันทร์ขึ้นบันไดเลื่อนไปยังชั้นอาหารที่จองไว้ ชายหนุ่มเดินยังร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง พนักงานที่เห็นร่างสูงก็รีบเดินเข้ามาบริการทันที
“เชิญคุณครามทางนี้ครับ”
“หม่ำ หม่ำ” ลลิตที่กัดหางไดโนเสาร์อยู่กวาดสายตาสำรวจไปทั่วร้าน ได้กลิ่นหอมของอาหารท้องน้อย ๆ ก็เริ่มประท้วง
“ขออาหารสำหรับเด็กอ่อนชุดหนึ่งด้วยนะ”ครามสั่งอาหารก่อนจะกำชับเมนูของลูกชายเป็นพิเศษ ลลิตที่เริ่มหิวตบมือกับถาดอาหารน้ำลายเริ่มไหลออกมาจากมุมปาก
“อดทนแป็ปนึงนะครับคนเก่ง เดี๋ยวอาหารก็มาแล้ว” ลออจันทร์เช็ดมุมปากลูกชายด้วยผ้าอ้อมผืนเล็กรอไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟด้วยความรวดเร็ว
“หม่ำ อาาา” หิวแล้ว ลลิตหิวแล้ว
ทารกน้อยทานอาหารเสร็จอย่างรวดเร็วจากนั้นก็นั่งมองลออจันทร์กับครามนั่งทานข้าวต่อ
“คุณครามครับ คืนนี้ผมขอให้ลลิตมานอนกับเราได้ไหมครับ”ลออจันทร์รวบรวมความกล้าเอ่ยกับคนตรงหน้า
“ได้สิ” ครามชะงักไปนิดนึงก่อนจะตอบตกลงอย่างง่ายดาย ลออจันทร์ยิ้มอย่างดีใจก่อนจะทานอาหารที่ครามตักมาให้อย่างมีความสุขโดยไม่ทันสังเกตสายตาแวววับ
หึหึ คิดว่ามีลลิตมานอนด้วยแล้วพี่จะไม่กล้าทำอะไรงั้นเหรอ เด็กน้อยจริง ๆ
“อาบน้ำป๋อมแป๋มกันครับ” ลลิตถูกลอกคราบจนตัวเปล่าเปลือยโชว์พุงอยู่อ่างอาบน้ำขนาดเล็ก ในมือถือตุ๊กตาเป็ดที่ลอยอยู่เต็มอ่าง “แอ้ อ้าย คิก คิก” หม่าม้าอาบน้ำให้ลลิตมีความสุขจังเลย อิอิ “หนูอย่าตีน้ำสิครับ อ้าวยกมือขึ้น ฮึบ” ลลิตชูมือตามผู้เป็นแม่ “เด็กดีของหม่าม้า” “คิก คิก” “ลออ ลูกอาบน้ำเสร็จรึยัง” ครามชะโงกหน้าเข้ามาถามแม่ลูกเมื่อเวลาผ่านไปสมควรแล้ว ภายในห้องน้ำมีลออจันทร์อุ้มก้อนขาวนุ่มนิ่มถูกห่อตัวด้วยผ้าสีสันสดใสกำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ “ลออไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวพี่แต่งตัวให้ลูกเอง” ครามอาสาแก้ตัวอีกร
“โธ่ ลลิตหนูกินอีกนิดนึงสิครับ” ลออจันทร์พยายามป้อนนมให้ลลิตแต่หนูน้อยกลับส่ายหน้าไม่ยอมดื่มจากขวดนมเอาแต่ใช้หัวดุนดันหน้าอก ลออจันทร์ได้แต่ยอมเลิกเสื้อนอนขึ้นมา ลลิตน้อยดีใจที่แม่ยอมตามใจตนปากน้อยดูดกลืนยอดถันที่บวมเต่งอย่างรวดเร็ว แต่ไม่นานก็คายออกแล้วร้องไห้จ้าออกมา “แงงงงง”ทำไมไม่มีน้ำนมแล้วอ่ะหม่าม้า ลออจันทร์ที่เห็นลูกร้องไห้ก็หน้าเสียทันที ตวัดสายตาคาดโทษไปหาคนที่เปิดประตูห้องน้ำออกมา ครามยิ้มเจื่อนเดินเช็ดผมเสร็จก็คลานขึ้นมาบนเตียงโฉบอุ้มร่างที่งอแงอยู่กับหน้าอกลออจันทร์มาอุ้มเอาไว้เอง “ลลิตหนูร้องไห้ทำไมครับ คนเก่ง” เอ่ยปลอบลูกเสียงอ่อนโยนแต่ลอบส่งสายตามองลออจันทร์ที่สวมแค่เสื้อนอนของตนเพียงตัวเดีย
“ถ้ายังเรียกผมมาด้วยเรื่องไร้สาระอีกล่ะก็ คราวหน้าได้เห็นดีกันแน่”ชายหนุ่มใบหน้าบึ้งตึงประกาศกร้าวไม่สนหัวหงอกหัวดำในห้อง เหวี่ยงประตูห้องประชุมปิดตามแรงอารมณ์“เอ่อ ท่านประธานครับ”“มีอะไรอีก” ครามถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด“คุณพิศาล ตอนนี้อยู่ในห้องท่านประธานครับ”ครามหยุดเดินไปจังหวะหนึ่งก่อนจะก้าวเดินเร็ว ๆ กลับไปยังห้องทำงานของตน ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปพบกับภาพปู่หลานเล่นกันอย่างสนุกสนาน“ลลิต ไหนเรียกปู่สิ”“ปู ปู ปู”“ฮ่าฮ่าฮ่า เก่งมากนี่รางวัลคนเก่ง” คุณพิศาลหยิบแบงก์เทามาอีกหนึ่งใบ ตอนนี้รอบตัวหนูน้อยลลิตมีแบงก์หลากสีไม่ว่าจะสีแดง สีม่วง สีเขียวเต็มไปหมด“อูวววว ปู ปู” เงินเยอะแยะไปหมดเลยฮะ คุณปู่“คุณพ่อ !!!” ครามส่งเสียงเรียกตัวการที่ทำให้เกิดประชุมผู้ถือหุ้นด่วนทำให้เขาต้องฝากลลิตไว้ให้คุณขวัญดูแล
“ลลิต วันนี้เราจะไปเที่ยวทะเลกัน ตื่นเต้นไหมครับ” คุณหญิงไพลินแย่งที่นั่งข้างหนูน้อยลลิตมาได้เอ่ยหยอกล้อกับทารกที่กอดตุ๊กตาตัวโปรด “ยา ยา อ้ายยย” ทะเลเหรอฮะคุณย่า “ตื่นเต้นสินะ ย่าเองก็ตื่นเต้นเหมือนกัน” หญิงวัยกลางคนตื่นเต้นเพราะลูกชายตัวดีโทรมาบอกตนว่าจะไปเที่ยวทะเลในวันหยุดพร้อมกับแผนการขอลออจันทร์แต่งงานอีกด้วย ทันทีที่ได้ยินลูกชายบอกคุณหญิงก็ตกใจแทบแย่ สุดท้ายตั้งสติได้ก็เอ่ยปรามลูกชายด้วยเสียงที่ไม่มั่นใจ “จะดีเหรอตาคราม แกเพิ่งหย่าหนูรินไปไม่ถึงเดือนเลยนะ” “ผมไม่สนใจสายตาคนอื่นหรอกคร
ตอนที่ครามเดินลงบันไดมาก็นับว่าเลยเวลาอาหารกลางวันไปมากโข คุณไพลินที่เพิ่งป้อนข้าวให้หลานชายเสร็จถลึงตาใส่ลูกชายที่เดินหน้าตาระรื่น ยิ้มกว้างแทบไม่หุบ “หม่ำ หม่ำ” คุณย่าฮะ ลลิตยังไม่อิ่มเลย “ลลิตคิดถึงพ่อไหมครับ” ครามหอมแก้มลูกที่เลอะเทอะไปด้วยอาหารเด็กอย่างไม่รังเกียจ “แอ้ แอ้” เจ้าพ่อบ้า มาให้หยุมหัวเดี๋ยวนี้นะ ทันทีที่ลลิตเห็นใบหน้าของครามก็เริ่มขยับแข้งขาอาละวาด จนครามต้องปลดลูกชายออกจากเก้าอี้เด็กมาอุ้มไว้เอง “ปาปา มามา บูววว” นี่แน่ะ นี่แน่ะ กล้ารังแกหม่าม้าเรอ
หลังจากกลับจากเที่ยวทะเลในครั้งนี้ แวดวงไฮโซก็เกิดข่าวลือสะท้านวงการครั้งใหญ่ วงในต่างก็ซุบซิบกันไปทั่วข่าวลือเกี่ยวกับตระกูลโยธินตระกูลถูกพูดถึงอีกครั้ง“ได้ยินรึเปล่า คุณครามกับยัยโรสรินหย่ากันแล้วนะ”“ตายแล้วจริงเหรอ” “ใช่ เขาลือกันว่าลูกชายที่เพิ่งคลอดไม่ใช่ลูกของคุณครามล่ะ”“ฉันว่าแล้ว ตอนอยู่เมืองนอกยัยรินมั่วจะตาย”“มีอีกเรื่อง เอาหูมาใกล้ ๆ ซิ”“อะไรอีกยะหล่อน”“วงในบอกฉันว่า เมื่อไม่กี่วันก่อนคุณครามแต่งงานใหม่แล้วนะ”“ห๊ะ จริงเหรอ แต่งกับใครยะ”“ไม่รู้หรอก ไม่มีคนรู้จักเลย”ครามที่เป็นต้นตอของข่าวลือพยักหน้าพอใจในผลงานของเตวิช ความจริงเขาอยากประกาศให้ทุกคนรู้เลยด้วยซ้ำว่าลออจันทร์เป็นภรรยาของเขาแต่ถูกลออจันทร์ห้ามไว้เสียก่อน&l
สามปีผ่านไป “หม่าม้า รอลลิตด้วยคับ” เสียงตึงตังรีบวิ่งลงมาจากชั้นบน ร่างอ้วนกลมของทารกน้อยขยายยืดตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น ใบหน้าเริ่มฉายแวววสวยหวานเหมือนลออจันทร์ผู้เป็นแม่ทำให้ครามเริ่มหนักใจขึ้นทุกวัน “ลลิต หม้าม้าบอกว่าอย่าวิ่งลงบันไดไงครับ” ลออจันทร์ดุลูกชายตัวน้อยที่วิ่งเข้ามาในครัว “ก็ลลิตกลัวป๊ะป๋าหอมแก้มหม่าม้าก่อนนี่นา”หนูน้อยรีบบอกเหตุผลให้หม่าม้าฟัง ลออจันทร์ได้ยินก็ยิ้มขำก้มลงหันแก้มด้านหนึ่งให้ลลิตหอมแก้มดังฟอด “ชื่นใจจังเลยครับ” “คิกคิก”&nbs
“นั่งเล่นกับลลิตในห้องทำงานพี่แป๊ปนึงนะครับ” จุ๊บแก้มลออจันทร์พร้อมกลับไปอุ้มลลิตออกจากอ้อมแขนคุณพิศาลที่ตั้งใจตีมึนอุ้มลลิตเข้าห้องประชุม“ลลิตอยู่กับหม่าม้านะครับ”“คับ”ครามกำชับลูกน้อยดูแลหม่าม้าเนื่องจากลูกชายคุ้นเคยกับที่ทำงานมากกว่า ลออจันทร์มองดูลูกชายที่จูงมือตนเดินสำรวจห้องทำงานและมุมของเล่น ครามยืนมองแม่ลูกครูหนึ่งก่อนจะเข้าไปประชุมต่อ“หม่าม้า ลลิตนั่งเล่นตรงนี้คับ” ลลิตชูโมเดลรถยนต์ให้ลออจันทร์ดู ชายหนุ่มมองของเล่นที่ไม่เคยเห็นมาก่อน“ใครให้ของเล่นหนูมาเยอะแยะเลยครับ”“อืม ก็มีคุมปู่คม คุมเลขา น้าเต มีอีกเยอะเลยฮะ” ลลิตชูนิ้วไล่นับให้หม่าม้าฟังทีละคน จนลออจันทร์มองลูกชายอย่างอ่อนใจมิน่าลลิตถึงชอบมาที่บริษัทก๊อก ก๊อก“ขออนุญาตนะคะ” เป็นคุณขวัญยกชากับขนมเข้ามาเสิร์ฟให้ภรรยาและลูกชายของท่านประธานนั่นเอง“อ่ะ ครับเชิญครับ&rdqu
แทนไทเดินเข้าไปที่ห้องรับแขก วันนี้นอกจากจะมีครอบครัวเพลิงโชติเมธีแล้วยังมีครอบครัวโยธินตระกูลมาร่วมรับประทานอาหารด้วยลินินตอนนี้อยู่ในอ้อมแขนของคุณวาสินีที่ยิ้มไม่หุบตั้งแต่เข้ามา ร่างตุ้ยนุ้ยนั่งเก้าอี้คอยชวนคุณยายพูดคุยด้วยท่าทางไร้เดียงสา ครามกับปราบนั่งคุยล้อมวงกับคุณอารัญและคุณพิศาล เด็กชายคีตานั่งไถโทรศัพท์เงียบ ๆ นั่งข้างลลิตกับแทมมาลีน“อ้าว พี่จ๋าหายไปไหนมา”แทมมาลีนเอ่ยทัก เผลอละสายตาจากหมากรุกที่เขากับลลิตฟาดฟันมาหลายนาที จังหวะที่ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นไม่รู้ตัวเลยว่าลลิตแอบหยิบหมากตัวเองออกไปหนึ่งตัว“ตานายแล้ว รีบเดินสิ”“เร่งทำไม เอ๊ะ ทำไมมันแปลก ๆ”“แปลกอะไร ไม่มี้” ลลิตพูดเสียงสูง ไม่มีพิรุธสักนิด แทมมาลีนที่เห็นท่าทางลลิตเป็นแบบนี้ก็กระโจนเข้าไปขยี้ผมนุ่มทันที“หน็อยแน่ ทำเป็นเนียนเลยนะ”“ปล่อยนะ นายกล้าทำกับพี่เขยแบบนี้ได้ยังไง” ลลิตเผลอตัวหลุดโพล่งออกมา
“บาดแผลสมานตัวดีมาก อย่าลืมมาพบแพทย์ตามนัดอีกสองสัปดาห์นะครับ ตอนนี้คุณหนูสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้วครับ”คุณหมอมอบรอยยิ้มให้เด็กหนุ่มตรงหน้าที่นั่งยิ้มหน้าบาน“ขอบคุณคุณหมอมาก ๆ ครับ”ลลิตไหว้ขอบคุณลุงหมอเจ้าของไข้ที่คอยดูแลเขามาตลอดที่อยู่โรงพยาบาลเมื่อบอกลาคุณหมอเสร็จเจ้าตัวแสบก็ลงมายืนข้างเตียงโดยที่ไม่ต้องมีใครช่วยพยุงอีกแล้ว“...”แทนไทที่เตรียมอุ้มลลิตทำหน้าเสียดาย ช่วงหลังที่ลลิตพักฟื้นเท้าแทบไม่ติดพื้นเพราะมีครามกับแทนไทคอยอุ้มไปไหนต่อไหนตลอดถึงจะถูกลออจันทร์บ่นว่าก็ทำหูทวนลมทั้งสามีและลูกเขยวันนี้ครามติดประชุมสำคัญทำให้มารับลูกชายออกจากโรงพยาบาลไม่ได้ แทนไทจึงอาสามารับแทนสร้างความประทับใจให้แก่ลออจันทร์ยิ่งไปอีก“ไปกันครับ ผมอยากกลับบ้านจะแย่อยู่แล้ว”ลลิตเดินนำหน้าลออจันทร์และแทนไทออกไปอย่างร่าเริง“ลูกคนนี้นับวันยิ่งแก่นแก้วไปทุกที” แทนไทมองลลิตที่ทำตัวร่าเริงด้วยแววตาอ่อนโยน“ดีแล้วครับ ผมชอบที่เขาเป็นแบบนี้”“หม่าม้า ล
“ตอนนี้แผลผ่าตัดของคุณหนูลลิตปกติดีครับ ไม่มีการติดเชื้อใด ๆ ผู้ป่วยสามารถลุก เดิน นั่งได้ด้วยตัวเอง หากไม่มีภาวะแทรกซ้อนภายใน หมอจะทำการตัดไหมในวันที่ 7 พร้อมกลับบ้านในวันเดียวกันได้เลยครับ”ครามและลออจันทร์นั่งฟังคำวินิจฉัยของแพทย์ด้วยความดีใจ“คุณหมอหมายความว่า ลลิตหายแล้วใช่ไหมครับ” ลออจันทร์ถามย้ำอย่างตื่นเต้น“ครับ ตอนนี้คุณหนูลลิตปลอดภัยแล้วครับแต่ยังต้องทานยาและมาพบแพทย์ตามนัดด้วยนะครับ”“ขอบคุณครับหมอ” ครามโค้งตัวขอบคุณคุณหมอที่ช่วยชีวิตลูกชายของเขาไว้“ไม่เป็นไรครับ เป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว”คุณหมอนพ เจ้าของคนไข้นึกชื่นชมเจ้าของโรงพยาบาลตรงหน้าที่ไม่ถือตน เมื่อได้เวลาที่ต้องไปตรวจคนไข้ก็ขอตัวออกไปก่อน ลออจันทร์ลูบกลุ่มผมนุ่มของคนที่ยังหลับใหล“ลลิตปลอดภัยแล้วนะครับ”“รีบตื่นมาฟังข่าวดีได้แล้ว เจ้าตัวยุ่ง” เหมือนลลิตรู้ตัวว่าหม่าม้ากำลังพูดกับตน ร่างบางส่งเสียงพึมพำออกมาอย่าง
ครามที่สองมือหอบข้าวของของภรรยาและลูกชายมาเต็มสองมือไม่ยอมให้ป้าจิตช่วยถือเดินเข้าโรงพยาบาลมาพร้อมกับคุณไพลินและคุณพิศาลที่เดินหน้าเครียดสร้างความตื่นตกใจให้แก่บุคลากรของโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก“พี่คราม ผมได้ยินข่าวของลลิตแล้ว หลานของผมเป็นยังไงบ้างครับ” หมอกันต์ที่ออกไปสัมมนาข้างนอกวิ่งเข้ามาเจอครอบครัวของญาติผู้พี่พอดีถามเสียงลั่นไม่นะ หลานชายที่น่ารักของเขาทำไมต้องโชคร้ายขนาดนี้ด้วย“ตอนนี้ลลิตยังปลอดภัย แกก็อย่าตื่นตระหนกไปมากกว่านี้ได้ไหม กว่าฉันจะปลอบคุณแม่ให้สงบลงต้องใช้เวลาแค่ไหน”ครามกระซิบบอกน้องชายเสียงเบา สายตาคอยมองคุณไพลินที่เดินนำหน้าด้วยความเป็นห่วง“แหะ แหะ เข้าใจแล้วครับ” หมอกันต์แย่งตุ๊กตาไดโนเสาร์สีเหลืองที่ผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชน&
“ป๊ะป๋าตื่นสาย”ลลิตพูดลอย ๆ เมื่อเห็นครามอุ้มลินินเดินลงมาจากชั้นบน ตอนนี้เขากับคีตากำลังกินข้าวเช้าที่ป้าจิตเป็นคนทำให้ คีตาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เกี่ยวกับแผนการของพี่ชายนั่งตักข้าวต้มกินต่อไป “วันนี้วันหยุด ป๊ะป๋าก็อยากตื่นสายบ้าง หม่าม้าก็ชอบตื่นสายเหมือนป๊ะป๋านะ” ครามตอบโต้ลูกชายด้วยการยกหม่าม้าของเจ้าตัวขึ้นมาอ้าง ลลิตหน้าบูดเมื่อพูดอะไรไปเจ้าพ่อบ้ากามก็ไม่สะทกสะท้านจึงนั่งจ้วงข้าวต้มเข้าปากคำโต “มาค่ะ ลินินเดี๋ยวพ่อป้อนหนูนะคะ” “อื้อ ไม่เอาค่ะ หนูอยากกิงเอง ลินินโตแย้วนะ” เด็กหญิงบอกว่าตัวเองโตแล้ว ครามได้แต่นั่งลงทานข้าวแต่โดยดี “เด็ก ๆ ทานข้าวเสร็จหรือยังครับ”ลออจันทร์ที่แต่งตัวเรียบร้อยเดินมาหาลูกชายลูกสาวก่อนจะไล่หอมหัวคนละหนึ่งที&nbs
"แล้วนายจะกลับอิตาลีเลยหรือเปล่า”ลลิตถามอัยวาขณะที่ทั้งสองอยู่ในลิฟต์ ครามอยากตามลงมาด้วยแต่ถูกเตวิชขวางไว้เสียก่อนจึงได้แต่มองลูกชายและอดีตลูกชายเดินออกไปตาละห้อย “คงต้องกลับเลย ฉันลาหยุดได้แค่ไม่กี่วัน” ราฟาเอลก็ทิ้งการเรียนตามเขามาด้วย อัยวาไม่อยากให้แฟนตัวเองถูกไล่ออกจึงต้องรีบกลับไป“ฉันอยากแวะไปหาคุณยายกับคุณตานะแต่ฉันไปตามที่อยู่เดิมกลับมีคนอื่นเข้ามาอาศัยอยู่แล้ว” อัยวาพูดด้วยน้ำเสียงจนใจ ลลิตได้แต่เห็นใจเรื่องของครอบครัวอัยวาเขาคงไปยุ่งมากไม่ได้โอเมก้าสองคนเดินไปยังร้านกาแฟของลออจันทร์ ทันทีที่ลลิตเปิดประตูเข้าไปก็ต้องอมยิ้มเมื่อเห็นอัลฟ่าสองคนนั่งจ้องหน้ากันโดยมีน้องคีย์นั่งทำการบ้านด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับ“พี่ลลิตมาแย้ว”ลินินที่นั่งอยู่บนตักแทนไทดิ้นลงวิ่งมาหาพี่ชาย“ลินินมาได้ไงครับ” ลลิตถามด้วยความแปลกใจ นี่ยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียนนี่นา“วันนี้โยงเยียนเล
“ป๊ะป๋าพรุ่งนี้ว่างหรือเปล่าครับ”ลลิตที่ยื่นหน้ามาทางประตูเอ่ยถามครามที่นั่งทำงานอยู่ในห้องหนังสือ “ลลิต พ่อตกใจหมด”ครามลูบอกปลอบตัวเอง จู่ ๆ ลูกชายก็โผล่แค่ส่วนหัวเข้ามาทำให้ครามตกใจ “คิกคิก ป๊ะป๋าขี้กลัว”ลลิตยอมโผล่ออกมาเต็มตัวเดินเข้าไปนั่งหน้าโต๊ะดี ๆ หยิบปากกาที่วางอยู่บนโต๊ะมาควงเล่น “หม่าม้าทำอะไรอยู่ครับ”ครามอยากจะถามว่าทำไมลลิตถึงมาหาเขาที่ห้องหนังสือได้ปกติจะตัวติดหม่าม้าตลอด “หม่าม้าอาบน้ำให้ลินินอยู่ครับ ส่วนน้องคีย์นั่งทำการบ้านอยู่ในห้องนอนแล้ว”ลลิตเอ่ยรายงานครบถ้วนก่อนจะวกเข้าเรื่องที่ต้องการถาม “พรุ่งนี้ผมพาเพื่อนใหม่มาเจอป๊ะป๋าได
ตึก ตึก ตึก“พี่คีย์ เร็วหน่อยจิ”เสียงของเด็กน้อยดังขึ้นทำให้เด็กชายรูปร่างสูงปราดเปรียวเร่งจังหวะฝีเท้าให้ทันสาวน้อยวัยอนุบาล“ลินิน รอพี่ด้วย”เสียงห้าวที่เพิ่งแตกหนุ่มของเด็กชายคีตาเรียกน้องสาวตัวน้อยให้รอตนด้วย“ไม่เอา ลินินคิดถึงพี่ลลิตนี่นา”สาวน้อยวิ่งเข้าไปบริษัทไม่ยอมรอพี่ชายอีกต่อไป ทำให้ คีตาต้องวิ่งตามเข้าไปก่อนจะอุ้มร่างตุ้ยนุ้ยขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนหม่าม้าของเขาเลี้ยงลูกเก่งทุกคนเหมือนที่คุณย่าเคยว่าไว้เป๊ะ จะมีลูกกี่คนก็เลี้ยงลูกให้ตัวจ้ำม่ำทุกคนถึงคุณไพลินจะว่าอย่างนั้นแต่ในใจก็อดปลื้มใจที่บรรดาลูกหลานตัวอวบอ้วนทุกคน ถึงตอนโตขึ้นมาจะหุ่นดีกันหมดก็เถอะ“คิกคิก ปล่อยลินินนะ”สาวน้อยดีดดิ้นอยากลงไปวิ่งเองมากกว่าแต่คีตาไม่ยอมปล่อยให้น้องสาววิ่ง กระชับอ้อมกอดเดินไปยังร้านกาแฟ“พี่ลลิตจะมาหรือยังนะ”ลินินโอบคอพี่ชายคนรองถามอย่างใคร่รู้“คงมาแล้วล่ะ พี่แทนก็คงมาด้วย”“พี่
“อัยวา?”“...”ผู้ชายผิวขาวหน้าตาคล้ายโรสรินหันมาตามเสียงเรียก สายตามีความงุนงงเล็กน้อยก่อนจะเบิกตาโพลงเมื่อคิดออก“ลลิตใช่ไหม !!”คราวนี้ลลิตเป็นฝ่ายงุนงงบ้าง เคยเจอกันแค่ตอนเด็กเพียงครั้งเดียวอัยวาไม่น่าจะจำเขาได้นะ“พวกนายรู้จักกันงั้นเหรอ”เสียงภาษาไทยติดสำเนียงแปร่งดังออกมาจากร่างบึกบึนด้านหลังอัยวาแทนไทมองท่าทีคุกคามของชาวต่างชาติก็ไม่พอใจเคลื่อนตัวมาบังหน้าลลิต ราฟาเอลเห็นท่าทางของแทนไทก็เดินมาบังหน้าโอเมก้าของตนบ้างตอนนี้ต่อให้ลลิตและอัยวาเขย่งสุดเท้าแค่ไหนก็ไม่สามารถมองข้ามหัวไหล่ของอัลฟ่าทั้งสองไปได้“หลบไปเลยนะ” อัยวาร้อนใจถีบไปที่หน้าแข้งของคนตัวยักษ์ทำให้ราฟาเอลถลาไปกอดแทนไทที่อยู่ตรงข้ามหมับสถานการณ์ในตอนนี้ช่างดูอิหลักอิเหลื่อเหลือเกิน แทนไทเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองตกอยู่ในอ้อมกอดของราฟาเอลก็ผลักร่างหนาออกไปทันทีพร้อมกับราฟาเอลที่ดีดตัวออกอย่างรวดเร็ว