“ถ้ายังเรียกผมมาด้วยเรื่องไร้สาระอีกล่ะก็ คราวหน้าได้เห็นดีกันแน่”
ชายหนุ่มใบหน้าบึ้งตึงประกาศกร้าวไม่สนหัวหงอกหัวดำในห้อง เหวี่ยงประตูห้องประชุมปิดตามแรงอารมณ์
“เอ่อ ท่านประธานครับ”
“มีอะไรอีก” ครามถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“คุณพิศาล ตอนนี้อยู่ในห้องท่านประธานครับ”
ครามหยุดเดินไปจังหวะหนึ่งก่อนจะก้าวเดินเร็ว ๆ กลับไปยังห้องทำงานของตน ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปพบกับภาพปู่หลานเล่นกันอย่างสนุกสนาน
“ลลิต ไหนเรียกปู่สิ”
“ปู ปู ปู”
“ฮ่าฮ่าฮ่า เก่งมากนี่รางวัลคนเก่ง” คุณพิศาลหยิบแบงก์เทามาอีกหนึ่งใบ ตอนนี้รอบตัวหนูน้อยลลิตมีแบงก์หลากสีไม่ว่าจะสีแดง สีม่วง สีเขียวเต็มไปหมด
“อูวววว ปู ปู” เงินเยอะแยะไปหมดเลยฮะ คุณปู่
“คุณพ่อ !!!” ครามส่งเสียงเรียกตัวการที่ทำให้เกิดประชุมผู้ถือหุ้นด่วนทำให้เขาต้องฝากลลิตไว้ให้คุณขวัญดูแล
“ลลิต วันนี้เราจะไปเที่ยวทะเลกัน ตื่นเต้นไหมครับ” คุณหญิงไพลินแย่งที่นั่งข้างหนูน้อยลลิตมาได้เอ่ยหยอกล้อกับทารกที่กอดตุ๊กตาตัวโปรด “ยา ยา อ้ายยย” ทะเลเหรอฮะคุณย่า “ตื่นเต้นสินะ ย่าเองก็ตื่นเต้นเหมือนกัน” หญิงวัยกลางคนตื่นเต้นเพราะลูกชายตัวดีโทรมาบอกตนว่าจะไปเที่ยวทะเลในวันหยุดพร้อมกับแผนการขอลออจันทร์แต่งงานอีกด้วย ทันทีที่ได้ยินลูกชายบอกคุณหญิงก็ตกใจแทบแย่ สุดท้ายตั้งสติได้ก็เอ่ยปรามลูกชายด้วยเสียงที่ไม่มั่นใจ “จะดีเหรอตาคราม แกเพิ่งหย่าหนูรินไปไม่ถึงเดือนเลยนะ” “ผมไม่สนใจสายตาคนอื่นหรอกคร
ตอนที่ครามเดินลงบันไดมาก็นับว่าเลยเวลาอาหารกลางวันไปมากโข คุณไพลินที่เพิ่งป้อนข้าวให้หลานชายเสร็จถลึงตาใส่ลูกชายที่เดินหน้าตาระรื่น ยิ้มกว้างแทบไม่หุบ “หม่ำ หม่ำ” คุณย่าฮะ ลลิตยังไม่อิ่มเลย “ลลิตคิดถึงพ่อไหมครับ” ครามหอมแก้มลูกที่เลอะเทอะไปด้วยอาหารเด็กอย่างไม่รังเกียจ “แอ้ แอ้” เจ้าพ่อบ้า มาให้หยุมหัวเดี๋ยวนี้นะ ทันทีที่ลลิตเห็นใบหน้าของครามก็เริ่มขยับแข้งขาอาละวาด จนครามต้องปลดลูกชายออกจากเก้าอี้เด็กมาอุ้มไว้เอง “ปาปา มามา บูววว” นี่แน่ะ นี่แน่ะ กล้ารังแกหม่าม้าเรอ
หลังจากกลับจากเที่ยวทะเลในครั้งนี้ แวดวงไฮโซก็เกิดข่าวลือสะท้านวงการครั้งใหญ่ วงในต่างก็ซุบซิบกันไปทั่วข่าวลือเกี่ยวกับตระกูลโยธินตระกูลถูกพูดถึงอีกครั้ง“ได้ยินรึเปล่า คุณครามกับยัยโรสรินหย่ากันแล้วนะ”“ตายแล้วจริงเหรอ” “ใช่ เขาลือกันว่าลูกชายที่เพิ่งคลอดไม่ใช่ลูกของคุณครามล่ะ”“ฉันว่าแล้ว ตอนอยู่เมืองนอกยัยรินมั่วจะตาย”“มีอีกเรื่อง เอาหูมาใกล้ ๆ ซิ”“อะไรอีกยะหล่อน”“วงในบอกฉันว่า เมื่อไม่กี่วันก่อนคุณครามแต่งงานใหม่แล้วนะ”“ห๊ะ จริงเหรอ แต่งกับใครยะ”“ไม่รู้หรอก ไม่มีคนรู้จักเลย”ครามที่เป็นต้นตอของข่าวลือพยักหน้าพอใจในผลงานของเตวิช ความจริงเขาอยากประกาศให้ทุกคนรู้เลยด้วยซ้ำว่าลออจันทร์เป็นภรรยาของเขาแต่ถูกลออจันทร์ห้ามไว้เสียก่อน&l
สามปีผ่านไป “หม่าม้า รอลลิตด้วยคับ” เสียงตึงตังรีบวิ่งลงมาจากชั้นบน ร่างอ้วนกลมของทารกน้อยขยายยืดตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น ใบหน้าเริ่มฉายแวววสวยหวานเหมือนลออจันทร์ผู้เป็นแม่ทำให้ครามเริ่มหนักใจขึ้นทุกวัน “ลลิต หม้าม้าบอกว่าอย่าวิ่งลงบันไดไงครับ” ลออจันทร์ดุลูกชายตัวน้อยที่วิ่งเข้ามาในครัว “ก็ลลิตกลัวป๊ะป๋าหอมแก้มหม่าม้าก่อนนี่นา”หนูน้อยรีบบอกเหตุผลให้หม่าม้าฟัง ลออจันทร์ได้ยินก็ยิ้มขำก้มลงหันแก้มด้านหนึ่งให้ลลิตหอมแก้มดังฟอด “ชื่นใจจังเลยครับ” “คิกคิก”&nbs
“นั่งเล่นกับลลิตในห้องทำงานพี่แป๊ปนึงนะครับ” จุ๊บแก้มลออจันทร์พร้อมกลับไปอุ้มลลิตออกจากอ้อมแขนคุณพิศาลที่ตั้งใจตีมึนอุ้มลลิตเข้าห้องประชุม“ลลิตอยู่กับหม่าม้านะครับ”“คับ”ครามกำชับลูกน้อยดูแลหม่าม้าเนื่องจากลูกชายคุ้นเคยกับที่ทำงานมากกว่า ลออจันทร์มองดูลูกชายที่จูงมือตนเดินสำรวจห้องทำงานและมุมของเล่น ครามยืนมองแม่ลูกครูหนึ่งก่อนจะเข้าไปประชุมต่อ“หม่าม้า ลลิตนั่งเล่นตรงนี้คับ” ลลิตชูโมเดลรถยนต์ให้ลออจันทร์ดู ชายหนุ่มมองของเล่นที่ไม่เคยเห็นมาก่อน“ใครให้ของเล่นหนูมาเยอะแยะเลยครับ”“อืม ก็มีคุมปู่คม คุมเลขา น้าเต มีอีกเยอะเลยฮะ” ลลิตชูนิ้วไล่นับให้หม่าม้าฟังทีละคน จนลออจันทร์มองลูกชายอย่างอ่อนใจมิน่าลลิตถึงชอบมาที่บริษัทก๊อก ก๊อก“ขออนุญาตนะคะ” เป็นคุณขวัญยกชากับขนมเข้ามาเสิร์ฟให้ภรรยาและลูกชายของท่านประธานนั่นเอง“อ่ะ ครับเชิญครับ&rdqu
“หม่าม้า ลลิตไม่อยากไปโยงเยียน”“หืม? ทำไมหนูถึงไม่อยากไปครับ?”ลออจันทร์กำลังอาบน้ำให้ลลิตอยู่ในห้องน้ำนึกฉงน เมื่อจู่ ๆ ลูกชายก็โพล่งขึ้นมาไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย“โรงเรียนมีแต่เด็กเย็ก ลลิตไม่ชอบ” มีแต่ขี้มูกเต็มหมดแค่คิดว่าจะต้องกลับไปเรียนอนุบาลอีกรอบเขาก็รับไม่ได้แล้ว“แต่หนูก็ยังเป็นเด็กเล็กนะครับ”“ไม่ฮะ ลลิตโตแย้ว”คนที่บอกว่าโตแล้วแต่ยังออกเสียงยังไม่ชัดเลย ลออจันทร์กลั้นยิ้มไม่พูดให้คนตัวเล็กเสียกำลังใจ“นะฮะ หม่าม้าให้หนูเยียนที่บ้านนะคับ” ลลิตยังคงหว่านล้อมจันทร์เสียงหวาน เมื่อคิดได้ว่าตัวเองเรียนที่บ้านได้“หนูรู้จักโฮมสคูลด้วยเหรอครับ”“อะ เอ่อลลิตจำมาจากทีวีคับ” เด็กน้อยแถไปเรื่อยเมื่อเผลอปล่อยไก่ออกมา ลออจันทร์พยักหน้าเข้าใจก่อนจะยอมถอยหนึ่งก้าว“หม่าม้าขอปรึกษาป๊ะป๋าก่อนนะครับ” แต่ลลิตยิ้มแหยเมื่อได้ยินคำพู
“ยินดีต้อนรับคุณครามกับคุณลออจันทร์ครับ ที่นี่โรงเรียนนานาชาติไอซิสของเรามีการจัดการเรียนการสอนทุกระดับชั้น ตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ....” ลลิตซบไหล่ของครามที่เดินดูบริเวณรอบโรงเรียนนานาชาติพร้อมกับผู้อำนวนการโรงเรียนที่ออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง“และส่วนนี้คือที่เราให้เด็กอนุบาลวิ่งเล่นครับ” ผู้อำนวยการผายมือไปยังเครื่องเล่นขนาดย่อมที่ย่อส่วนออกมา เมื่อลลิตได้เห็นเครื่องเล่นก็ตาโตดิ้นลงจากอ้อมแขนครามทันที“ป๊ะป๋า ลลิตอยากไปเล่นตรงโน้นฮะ” นิ้วมือเล็กชี้ไปที่สนามเด็กเล่นที่มีเด็กบางคนเล่นกองทรายอยู่ไม่ไกล“นะคับ ผมอยากไปเล่นก่อทรายกับเด็กที่อยู่ตรงนู้น” เสียงเจื้อยแจ้วออดอ้อนจนครามใจอ่อนครามหันไปมองลออจันทร์เชิงขออนุญาต ลออจันทร์พยักหน้ายิ้มอย่างอ่อนโยน ลลิตคงจะเบื่อที่พวกเขาเอาแต่เดินไปเดินมา“หนูเล่นตรงนี้ อย่าไปที่ไหนนะครับ”“คับป๋ม” ลลิตรับคำก่อนจะวิ่งฉิวไปยังสนาม
เสียงหอบหายใจดังขึ้นในห้องนอนกว้าง สองร่างที่ถาโถมเข้าหากันตั้งแต่ตอนหัวค่ำจนกระทั่งผ่านไปค่อนคืนก็ยังไม่ยอมหยุด "อื้อ พี่ครามพอได้แล้วครับ” ลออจันทร์หอบหายใจพลางดันหน้าท้องแกร่งให้ถอนตัวตนออกไป “อีกนิดนะครับ” ชายหนุ่มยังคงสอบสะโพกเข้าหาช่องทางนุ่มเป็นจังหวะเนิบนาบ จังหวะที่ตัวตนโยกเข้าออกดังเฉอะแฉะจากน้ำรักที่ถูกปลดปล่อยไปก่อนหน้านี้ จังหวะเนื้อกระทบเนื้อดังขึ้นอีกระลอกท่ามกลางเสียงครางระงม ผ่านไปสักพักทั้งสองก็จับจูงมือไปถึงฝั่งฝันระเบิดอารมณ์ออกมาพร้อมกัน “เมื่อไหร่ลออจะยอมมีน้องให้ลลิตนะ” ครามค่อย ๆ ถอนตัวตนออกมาจนน้ำรักที่อยู่ภายในช่องทางไหลเยิ้มออกมาด้วย ชายหนุ่มมองเมล็ดพันธุ์ของตนอย
“คุมปู่ คุมย่า แงงงงงง” เมื่อรถกอล์ฟจอดสนิทที่ลานหน้าบ้านโยธินตระกูล ลลิตก็รีบลงจากรถวิ่งร้องไห้เรียกทั้งคุณปู่ทั้งคุณย่าเสียงลั่น“ลลิต หลานเป็นอะไร ร้องไห้ทำไมครับ” คุณพิศาลที่จิบกาแฟอยู่แทบจะพ่นออกมาเมื่อได้ยินเสียงหลานรักร้องไห้วิ่งเข้ามาในบ้าน“ลลิตหลานย่า” คุณไพลินเดินออกมาห้องครัวก่อนจะรับร่างที่ยังอยู่ในชุดนอนโผเข้ามาหา“หม่าม้า ฮึก หม่าม้า” ลลิตร้องไห้พร้อมกับพูดไปด้วยทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองจับใจความไม่ได้ จนกระทั่งป้าจิตรีบเดินเข้ามาพร้อมกับอธิบายเรื่องที่ลออจันทร์หมดสติและตอนนี้เจ้านายหนุ่มของตนพาภรรยาไปส่งโรงพยาบาลจึงขอฝากลลิตไว้กับพ่อแม่ก่อน“ฮึก คุมย่า ลลิตอยากไปหาหม่าม้า” หนูน้อยซบอกออดอ้อนคุณไพลินจนใจแทบละลาย“ได้จ้ะ เดี๋ยวลลิตไปเปลี่ยนชุดลงมาทานข้าวเช้าก่อนนะจ๊ะ แล้วย่าจะพาหนูไปหาหม่าม้า” ลลิตรับปากอย่างว่าง่ายก่อนจะถูกคุณไพลินจูงมือขึ้นไปอาบน้ำด้านบน ส่วนคุณพิศาลสั่งให้คนขับรถเตรียมรถไว้สำหรับเดินทาง
“ต้องขอโทษคุณปราบอีกครั้งนะครับ เดี๋ยวทางเราจะส่งตัวแทนไปคุยสัญญาอีกรอบนะครับ” “ทางนี้ก็ต้องขอโทษเหมือนกันครับ แทนลูกขอโทษหนูลลิตด้วยสิ” ปกติลูกชายคนโตของเขาเป็นเด็กเรียบร้อย ไม่เคยทำตัวเกเรสักครั้งแต่วันนี้มาแปลกสงสัยคงจะชอบหนูลลิตมากทีเดียว “.....” แทนไทมองไปยังร่างเล็กที่หลบอยู่หลังผู้เป็นพ่อไม่ยอมออกมา ครามเห็นแววตาสำนึกผิดของหนูน้อยแทนไทก็ดันหลังลูกชายออกมาเผชิญหน้า “พี่ขอโทษที่ทำให้ร้องไห้นะ”แทนไทกล่าวขอโทษก่อนจะก้าวเข้าไปจุ๊บแก้มกลมป่องเบา ๆ หนึ่งที “แงงงงงง ป๊ะป๋า” ครั้งนี้ลลิตตกใจจริง ๆ ครามรีบอุ้
เสียงหอบหายใจดังขึ้นในห้องนอนกว้าง สองร่างที่ถาโถมเข้าหากันตั้งแต่ตอนหัวค่ำจนกระทั่งผ่านไปค่อนคืนก็ยังไม่ยอมหยุด "อื้อ พี่ครามพอได้แล้วครับ” ลออจันทร์หอบหายใจพลางดันหน้าท้องแกร่งให้ถอนตัวตนออกไป “อีกนิดนะครับ” ชายหนุ่มยังคงสอบสะโพกเข้าหาช่องทางนุ่มเป็นจังหวะเนิบนาบ จังหวะที่ตัวตนโยกเข้าออกดังเฉอะแฉะจากน้ำรักที่ถูกปลดปล่อยไปก่อนหน้านี้ จังหวะเนื้อกระทบเนื้อดังขึ้นอีกระลอกท่ามกลางเสียงครางระงม ผ่านไปสักพักทั้งสองก็จับจูงมือไปถึงฝั่งฝันระเบิดอารมณ์ออกมาพร้อมกัน “เมื่อไหร่ลออจะยอมมีน้องให้ลลิตนะ” ครามค่อย ๆ ถอนตัวตนออกมาจนน้ำรักที่อยู่ภายในช่องทางไหลเยิ้มออกมาด้วย ชายหนุ่มมองเมล็ดพันธุ์ของตนอย
“ยินดีต้อนรับคุณครามกับคุณลออจันทร์ครับ ที่นี่โรงเรียนนานาชาติไอซิสของเรามีการจัดการเรียนการสอนทุกระดับชั้น ตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ....” ลลิตซบไหล่ของครามที่เดินดูบริเวณรอบโรงเรียนนานาชาติพร้อมกับผู้อำนวนการโรงเรียนที่ออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง“และส่วนนี้คือที่เราให้เด็กอนุบาลวิ่งเล่นครับ” ผู้อำนวยการผายมือไปยังเครื่องเล่นขนาดย่อมที่ย่อส่วนออกมา เมื่อลลิตได้เห็นเครื่องเล่นก็ตาโตดิ้นลงจากอ้อมแขนครามทันที“ป๊ะป๋า ลลิตอยากไปเล่นตรงโน้นฮะ” นิ้วมือเล็กชี้ไปที่สนามเด็กเล่นที่มีเด็กบางคนเล่นกองทรายอยู่ไม่ไกล“นะคับ ผมอยากไปเล่นก่อทรายกับเด็กที่อยู่ตรงนู้น” เสียงเจื้อยแจ้วออดอ้อนจนครามใจอ่อนครามหันไปมองลออจันทร์เชิงขออนุญาต ลออจันทร์พยักหน้ายิ้มอย่างอ่อนโยน ลลิตคงจะเบื่อที่พวกเขาเอาแต่เดินไปเดินมา“หนูเล่นตรงนี้ อย่าไปที่ไหนนะครับ”“คับป๋ม” ลลิตรับคำก่อนจะวิ่งฉิวไปยังสนาม
“หม่าม้า ลลิตไม่อยากไปโยงเยียน”“หืม? ทำไมหนูถึงไม่อยากไปครับ?”ลออจันทร์กำลังอาบน้ำให้ลลิตอยู่ในห้องน้ำนึกฉงน เมื่อจู่ ๆ ลูกชายก็โพล่งขึ้นมาไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย“โรงเรียนมีแต่เด็กเย็ก ลลิตไม่ชอบ” มีแต่ขี้มูกเต็มหมดแค่คิดว่าจะต้องกลับไปเรียนอนุบาลอีกรอบเขาก็รับไม่ได้แล้ว“แต่หนูก็ยังเป็นเด็กเล็กนะครับ”“ไม่ฮะ ลลิตโตแย้ว”คนที่บอกว่าโตแล้วแต่ยังออกเสียงยังไม่ชัดเลย ลออจันทร์กลั้นยิ้มไม่พูดให้คนตัวเล็กเสียกำลังใจ“นะฮะ หม่าม้าให้หนูเยียนที่บ้านนะคับ” ลลิตยังคงหว่านล้อมจันทร์เสียงหวาน เมื่อคิดได้ว่าตัวเองเรียนที่บ้านได้“หนูรู้จักโฮมสคูลด้วยเหรอครับ”“อะ เอ่อลลิตจำมาจากทีวีคับ” เด็กน้อยแถไปเรื่อยเมื่อเผลอปล่อยไก่ออกมา ลออจันทร์พยักหน้าเข้าใจก่อนจะยอมถอยหนึ่งก้าว“หม่าม้าขอปรึกษาป๊ะป๋าก่อนนะครับ” แต่ลลิตยิ้มแหยเมื่อได้ยินคำพู
“นั่งเล่นกับลลิตในห้องทำงานพี่แป๊ปนึงนะครับ” จุ๊บแก้มลออจันทร์พร้อมกลับไปอุ้มลลิตออกจากอ้อมแขนคุณพิศาลที่ตั้งใจตีมึนอุ้มลลิตเข้าห้องประชุม“ลลิตอยู่กับหม่าม้านะครับ”“คับ”ครามกำชับลูกน้อยดูแลหม่าม้าเนื่องจากลูกชายคุ้นเคยกับที่ทำงานมากกว่า ลออจันทร์มองดูลูกชายที่จูงมือตนเดินสำรวจห้องทำงานและมุมของเล่น ครามยืนมองแม่ลูกครูหนึ่งก่อนจะเข้าไปประชุมต่อ“หม่าม้า ลลิตนั่งเล่นตรงนี้คับ” ลลิตชูโมเดลรถยนต์ให้ลออจันทร์ดู ชายหนุ่มมองของเล่นที่ไม่เคยเห็นมาก่อน“ใครให้ของเล่นหนูมาเยอะแยะเลยครับ”“อืม ก็มีคุมปู่คม คุมเลขา น้าเต มีอีกเยอะเลยฮะ” ลลิตชูนิ้วไล่นับให้หม่าม้าฟังทีละคน จนลออจันทร์มองลูกชายอย่างอ่อนใจมิน่าลลิตถึงชอบมาที่บริษัทก๊อก ก๊อก“ขออนุญาตนะคะ” เป็นคุณขวัญยกชากับขนมเข้ามาเสิร์ฟให้ภรรยาและลูกชายของท่านประธานนั่นเอง“อ่ะ ครับเชิญครับ&rdqu
สามปีผ่านไป “หม่าม้า รอลลิตด้วยคับ” เสียงตึงตังรีบวิ่งลงมาจากชั้นบน ร่างอ้วนกลมของทารกน้อยขยายยืดตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น ใบหน้าเริ่มฉายแวววสวยหวานเหมือนลออจันทร์ผู้เป็นแม่ทำให้ครามเริ่มหนักใจขึ้นทุกวัน “ลลิต หม้าม้าบอกว่าอย่าวิ่งลงบันไดไงครับ” ลออจันทร์ดุลูกชายตัวน้อยที่วิ่งเข้ามาในครัว “ก็ลลิตกลัวป๊ะป๋าหอมแก้มหม่าม้าก่อนนี่นา”หนูน้อยรีบบอกเหตุผลให้หม่าม้าฟัง ลออจันทร์ได้ยินก็ยิ้มขำก้มลงหันแก้มด้านหนึ่งให้ลลิตหอมแก้มดังฟอด “ชื่นใจจังเลยครับ” “คิกคิก”&nbs
หลังจากกลับจากเที่ยวทะเลในครั้งนี้ แวดวงไฮโซก็เกิดข่าวลือสะท้านวงการครั้งใหญ่ วงในต่างก็ซุบซิบกันไปทั่วข่าวลือเกี่ยวกับตระกูลโยธินตระกูลถูกพูดถึงอีกครั้ง“ได้ยินรึเปล่า คุณครามกับยัยโรสรินหย่ากันแล้วนะ”“ตายแล้วจริงเหรอ” “ใช่ เขาลือกันว่าลูกชายที่เพิ่งคลอดไม่ใช่ลูกของคุณครามล่ะ”“ฉันว่าแล้ว ตอนอยู่เมืองนอกยัยรินมั่วจะตาย”“มีอีกเรื่อง เอาหูมาใกล้ ๆ ซิ”“อะไรอีกยะหล่อน”“วงในบอกฉันว่า เมื่อไม่กี่วันก่อนคุณครามแต่งงานใหม่แล้วนะ”“ห๊ะ จริงเหรอ แต่งกับใครยะ”“ไม่รู้หรอก ไม่มีคนรู้จักเลย”ครามที่เป็นต้นตอของข่าวลือพยักหน้าพอใจในผลงานของเตวิช ความจริงเขาอยากประกาศให้ทุกคนรู้เลยด้วยซ้ำว่าลออจันทร์เป็นภรรยาของเขาแต่ถูกลออจันทร์ห้ามไว้เสียก่อน&l
ตอนที่ครามเดินลงบันไดมาก็นับว่าเลยเวลาอาหารกลางวันไปมากโข คุณไพลินที่เพิ่งป้อนข้าวให้หลานชายเสร็จถลึงตาใส่ลูกชายที่เดินหน้าตาระรื่น ยิ้มกว้างแทบไม่หุบ “หม่ำ หม่ำ” คุณย่าฮะ ลลิตยังไม่อิ่มเลย “ลลิตคิดถึงพ่อไหมครับ” ครามหอมแก้มลูกที่เลอะเทอะไปด้วยอาหารเด็กอย่างไม่รังเกียจ “แอ้ แอ้” เจ้าพ่อบ้า มาให้หยุมหัวเดี๋ยวนี้นะ ทันทีที่ลลิตเห็นใบหน้าของครามก็เริ่มขยับแข้งขาอาละวาด จนครามต้องปลดลูกชายออกจากเก้าอี้เด็กมาอุ้มไว้เอง “ปาปา มามา บูววว” นี่แน่ะ นี่แน่ะ กล้ารังแกหม่าม้าเรอ