ตอนที่ 4 หนีตาม
หลังจากนั้นไม่กี่วันต่อมา คิมหันต์ได้ให้คนของตนส่งฤกษ์แต่งงานที่จะจัดขึ้นในอีก 3 เดือนข้างหน้ามายังคฤหาสน์เกษมมนตรี
กุลนารีมีท่าทีร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด เธอเริ่มลังเลกับการตัดสินใจที่เผลอพลั้งปากออกไป หญิงสาวเดินวนไปวนมาอยู่กับความคิดที่ยังคงไม่มีทางออกที่ดีนักสำหรับตนเอง
ในขณะที่คุณอัศวินและคุณมาลาต่างก็กลุ้มอกกลุ้มใจไม่แพ้กัน หากต้องให้ลูกสาวไปแต่งงานกับผู้ชายที่เธอไม่รัก ชีวิตนี้เธอคงหาความสุขได้ยากยิ่ง หัวอกคนเป็นพ่อแม่จะทนเห็นลูกสาวต้องเดือดร้อนเพราะตนเองได้อย่างไรกัน
“ลูกแม่ มาทานข้าวก่อนเถอะ แล้วเราค่อยมาคิดหาทางออกกันอีกที” คุณมาลากล่าวเรียกหญิงสาวที่ยังคงเดินวนไปมาจนน่าเวียนหัว
ป้าพริกที่จัดเตรียมสำรับอาหารที่หญิงสาวถูกปากไว้อย่างมากมายหวังให้นายหญิงของตนเจริญอาหารได้บ้าง
“แม่คะ แอ้ควรทำอย่างไรดี แอ้ไม่อยากแต่งงาน แอ้รักเข็มทิศ แอ้ไม่อยากให้เข็มทิศต้องผิดหวัง” หญิงสาวระบายความอัดอั้นออกมา
“พ่อผิดเองลูก พ่อไม่น่าทำให้ครอบครัวเราต้องเดือดร้อนเลย ถ้าลูกไม่อยากแต่ง พ่อกับแม่จะไม่บังคับ เราลองไปเริ่มต้นใหม่กันอีกครั้งก็ได้” คุณอัศวินกล่าวเสียงเศร้า
กุลนารีได้ฟังยิ่งทอดถอนใจ หญิงสาวเดินเข้าไปโอบกอดคุณอัศวินอย่างปลอบโยน
“พ่ออย่าโทษตัวเองสิคะ แอ้ไม่มีทางให้พ่อแม่ต้องลำบากหรอก” กุลนารีกล่าวเพื่อให้ทั้งสองสบายใจ แต่สีหน้าและแววตากลับหม่นหมองอย่างยิ่ง
บ่ายวันดังกล่าว เข็มทิศได้มาหากุลนารีที่บ้าน ชายหนุ่มหายหน้าไปหลายวันรู้สึกเป็นห่วงหญิงสาวอย่างยิ่ง แต่ด้วยงานที่จำเป็นต้องเดินทางไปต่างจังหวัดด่วน อีกทั้งพื้นที่ที่ไปยังอับสัญญาณโทรศัพท์ทำให้เขาไม่ได้แม้แต่จะล่ำลาเธอ
“แอ้ ผมคิดถึงคุณมากนะ คุณเป็นอย่างไรบ้าง” ชายหนุ่มรีบกอบกุมมือหญิงสาวทันทีที่พบหน้า
“เอ่อ...แอ้ดีขึ้นแล้ว ทำไมเข็มทิศหายไปตั้งหลายวัน แอ้ใจคอไม่ดีเลย” กุลนารีกล่าวอย่างตัดพ้อออกมาก
“ผมมีงานด่วนจริง ๆ แอ้ อย่าโกรธผมเลยนะ” ชายหนุ่มรีบแก้ตัวทันที
“ช่างมันเถอะค่ะ แอ้มีเรื่องต้องบอกคุณ” กุลนารีเอ่ยปากอย่างลำบากใจ หญิงสาวชั่งใจอยู่นานก็จะเอ่ยออกมา
“แอ้จำเป็นต้องแต่งงานกับคุณคิมหันต์ เพื่อรักษาบ้านหลังนี้ และเพื่อพ่อแม่แอ้ เข็มทิศ....คุณ...” หญิงสาวหยุดเอ่ย
“ผมไม่ยอมนะ ทำไมคุณต้องแต่งงานกับเขา เรารักกันนะแอ้ ถึงแม้ผมจะไม่ได้ร่ำรวย แต่ผมจะดูแลคุณอย่างดี” ชายหนุ่มประท้วงทันที
“แล้วพ่อแม่แอ้ละคะ พวกท่านอายุมากแล้ว จะทนลำบากได้อย่างไร ไหนจะป้าพริกอีก จะให้แอ้และครอบครัวเป็นภาระคุณคนเดียว แอ้จะยอมได้อย่างไรกัน แอ้เอาเปรียบคุณขนาดนั้นไม่ได้หรอก” หญิงสาวแย้งออกมา
“เอ่อ...ผม...” เข็มทิศหมดคำพูด เขารู้ดีว่าฐานะอย่างเขาจะเลี้ยงดูทั้งครอบครัวคงเป็นการยากพอสมควร
“มันต้องมีทางสิแอ้ มันต้องมีทาง” ชายหนุ่มเพ้อออกมาทั้งที่หมดหนทาง
ระหว่างนั้น คุณอัศวินและคุณมาลาที่ได้ยินทั้งสองพูดคุยกันต่างมองหน้าอย่างขมขื่น ภาพลูกสาวตัวน้อยที่ยอมกรีดข้อมือหนีปัญหาทั้งหลายยังคงติดตรึงอยู่ในหัวใจทั้งคู่
“ลูกทั้งสองหนีไปเถอะ พ่อกับแม่ดูแลตัวเองได้ไม่ต้องห่วงหรอก” คุณอัศวินตัดสินใจโพล่งขึ้นมา พวกเขาทั้งคู่แก่มากแล้ว จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ แต่กุลนารีนั้นยังเด็กนัก หากต้องเอาความสุขทั้งชีวิตมาทิ้งไว้เพื่อพวกเขา มันคงไม่ยุติธรรมสักเท่าไหร่
“คุณพ่อ”
“พ่อคะ” ทั้งคู่อุทานขึ้นมาพร้อม ๆ กัน
“พ่อพูดจากใจจริงนะลูก ถ้าลูกทั้งสองรักกัน รีบหนีไปเถอะ หนีไปให้ไกลจากคุณคิมหันต์ เขามีอิทธิพลมาก ถ้าหากเขารู้เรื่องเข้าคงไม่ยอมปล่อยลูกทั้งสองแน่ ๆ” คุณอัศวินเตือน ชายแก่รู้ดีว่านิสัยอย่างคิมหันต์ ไม่มีวันยอมเสียเหลี่ยมใครแน่ ๆ และเขาจะไม่หยุดหากไม่ได้สิ่งที่หวังไว้
คุณมาลาเดินเข้ามากอบกุมมือทั้งสองไว้แน่น น้ำตาเอ่อล้นออกมาจากดวงตา
“แม่ขอให้ลูกทั้งสองมีความสุขนะ เข็มทิศฝากดูแลยายหนูแทนพวกเราด้วย ไม่ต้องห่วงทางนี้ ยังไงเราสองคนจะรับหน้าคุณคิมหันต์เอง” คุณมาลาเอ่ยอวยพรเป็นครั้งสุดท้าย เธอทำใจไว้แล้วว่าคงยากที่จะได้พบเจอลูกสาวสุดที่รักของเธออีกครั้ง
ป้าพริกที่ได้ยินรีบวิ่งไปจัดแจงกระเป๋าเดินทางให้หญิงสาวทันที เธอจัดเตรียมเสื้อผ้าต่าง ๆ พร้อมทั้งข้าวของที่จำเป็นรวมถึงเครื่องประดับมีราคาที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ก่อนจะรีบลุกไปหยิบซองเงินเก็บที่เธอมี สอดไว้ในเสื้อผ้าหญิงสาว หวังให้เป็นทุนรอนสำหรับเธอ ป้าพริกเป็นคนเก่าคนแก่ที่นี่ เห็นหญิงสาวมาแต่อ้อนแต่ออก รักใคร่ดูแลเธอดุจดั้งลูกหลานก็ไม่ปาน
หลังจากเก็บข้าวของเสร็จ ป้าพริกรีบยกกระเป๋ามาให้กุลนารี
“ป้าเก็บข้าวของที่จำเป็นให้คุณหนูแล้ว ต่อไปคุณหนูต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะคะ คุณหนูไม่ต้องห่วงคุณท่านทั้งสอง ป้าพริกจะดูแลพวกท่านให้เอง” ป้าพริกกล่าวน้ำตาคลอ
กุลนารีสวมกอดป้าพริกแน่น ก่อนจะหันไปสวมกอดพ่อแม่ของเธอ น้ำตาหญิงสาวไหลรินไม่หยุด
“แอ้...แอ้ขอโทษค่ะ แอ้เป็นลูกอกตัญญู” หญิงสาวต่อว่าตนเองอย่างหนัก
คุณอัศวินดึงตัวลูกสาว ก่อนจะค่อย ๆ เช็ดน้ำตาที่นองหน้า
“แอ้ พ่อกับแม่อยากให้หนูมีความสุขนะลูก ขอเพียงหนูมีชีวิตที่ดี แค่นี้พ่อกับแม่ก็ดีใจมากแล้ว อย่าโทษตัวเองเลยลูก” คุณอัศวินปลอบโยนลูกสาว
“ไปเถอะแอ้ รีบไปก่อนที่คุณคิมหันต์จะรู้เรื่อง ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป”
เข็มทิศประคองหญิงสาวไปยังรถของตน ก่อนจะขับพาเธอออกจากคฤหาสน์หลังงามออกไป
กุลนารีมองเหลียวหลังไปยังพ่อแม่และป้าพริกจนสุดสายตาแล น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง อย่างเจ็บปวดหัวใจ สิ่งที่เธอกำลังตัดสินใจทำนั้นถูกแล้วหรือไม่...
ตอนที่ 5 พรากจากหลังจากขับรถออกมาจากบ้านหญิงสาว เข็มทิศพากุลนารีเดินทางไปยังบ้านของเขาในจังหวัดทางภาคเหนือ บ้านหลังไม่ใหญ่มากนัก แต่ถูกตกแต่งอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย กระถางต้นไม้เล็ก ๆ ห้อยเรียงเป็นแนวยาวตามทางเดิน ยิ่งทำให้ดูสงบร่มรื่น “แอ้ เข้ามาพักในบ้านก่อน บ้านอาจจะเล็กไปหน่อย แอ้คงไม่รังเกียจนะ” เข็มทิศออกตัวอย่างกลัวหญิงสาวจะไม่ชอบใจ “บ้านน่าอยู่มากเลย แอ้คงมีความสุข ถ้าได้อยู่ที่นี่กับเข็มทิศ” กุลนารีพูดอย่างเอาใจ เข็มทิศดึงหญิงสาวเข้ามาสวมกอดอย่างรักใคร่ยิ่งนัก “เดี๋ยวแอ้พักผ่อนก่อน เย็นนี้จะพาไปเดินตลาดคนเดิน แอ้ต้องชอบมากแน่ ๆ” เข็มทิศพูดพลางจูงหญิงสาวไปยังห้องนอน ก่อนจะปล่อยให้เธอได้พักผ่อนตามสะดวก ตกเย็น เข็มทิศพากุลนารีไปเที่ยวยังตลาดคนเดินของจังหวัด อากาศค่อนข้างเย็นสบาย ในขณะที่ผู้คนเริ่มหนาแน่นเบียดเสียด “ระวังนะ” เข็มทิศกระซิบบอก พลางกุมมือหญิงสาวแน่น อย่างกลัวเธอจะพลัดหลงไป กุลนารีรู้สึกมีความสุขอย่างมาก การได้เดินจับมือคนที่เธอรัก เดินเล่น หยอกล้อกันไปมา ยิ่งทำให้จิต
ตอนที่ 6 งานแต่งอันแสนเศร้าคิมหันต์พาตัวกุลนารีกลับมายังกรุงเทพฯ ชายหนุ่มมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์เกษมมนตรีทันที “คุณจะทำอะไร คุณคิมหันต์” กุลนารีแหวใส่ชายหนุ่มทันที “ผมจะทำให้คุณรู้ไง ว่าการต่อต้านผมผลลัพธ์จะเป็นยังไง” คิมหันต์ตอบกลับอย่างท้าทาย “ฉันเกลียดคุณ” หญิงสาวรู้สึกเกลียดยิ่งนัก “คนที่คุณเกลียด กำลังจะเป็นผัวคุณในเร็ว ๆ นี้แหละ คุณหนูแอ้” ชายหนุ่มยียวนใส่หญิงสาวอย่างสาแก่ใจ เมื่อถึงบ้านหญิงสาว คุณอัศวินและคุณมาลารีบปรี่เข้ามาหาคนทั้งคู่ “นี่ เกิดอะไรขึ้นลูก ทำไมหนูถึงมาอยู่กับ...เอ่อ...” คุณมาลากล่าวอย่างตกใจ เธอไม่คิดฝันว่าคิมหันต์จะตามตัวลูกสาวเธอกลับมาเร็วขนาดนี้ “คุณพ่อ คุณแม่คงไม่ทราบเรื่องที่ แอ้...ไปพักผ่อนมา ใช่ไหมครับ” คิมหันต์เน้นคำถามอย่างไม่ต้องการคำตอบ “เรื่องนี้พ่อแม่ฉันไม่เกี่ยว คุณอย่ายุ่งกับพวกท่านนะ” กุลนารีโวยวายใส่ “คุณคิมหันต์ ใจเย็น ๆ ก่อน เข้ามาในบ้านดื่มน้ำดื่มท่า ให้ใจเย็นดีกว่าไหม” คุณอัศวินพยายามแก้สถานการณ์ “ไม่เป็
ตอนที่ 7 ได้เพียงกายหลังงานเลี้ยงแต่งงานเสร็จสิ้น กุลนารีถูกพามายังห้องสวีทสุดหรูชั้นบนสุดของโรงแรม หญิงสาวเดินไปมาอย่างกระวนกระวายใจ อีกเพียงไม่นานคิมหันต์คงกลับมาเป็นแน่ เมื่อหญิงสาวลองแง้มประตูออก เธอพบว่ามีบอร์ดี้การ์ดร่างใหญ่สองนายคอยเฝ้าน่าห้องอยู่ “ต้องการรับอะไรครับ คุณผู้หญิง” ชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยถาม กุลนารีปิดประตูใส่หน้าเสียงดังปัง นี่ชีวิตของเธอกำลังจะกลายเป็นนักโทษแล้วหรือนี่ ไม่นานนัก ประตูก็เปิดออก คิมหันต์เข้าห้องมาด้วยสภาพกรึ่มเมานิดหน่อย “ทูนหัวของผัว รอผัวไม่ไหวเลยเหรอ” ชายหนุ่มเดินโซเซเข้ามาหาหญิงสาวอย่างอารมณ์ดี “ออกไปนะ...ไป...ฉันเกลียดคุณ ได้ยินไหม ฉันเกลียดคุณ ต่อให้คุณทำอะไรฉัน ชาตินี้คุณก็ได้แค่ตัวของฉันเท่านั้นแหละ ฉันรักเข็มทิศ ได้ยินรึยัง ฉันรักเข็มทิศ” กุลนารีตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ความกลัวเข้าครอบงำหญิงสาว ดุจดั่งกวางน้อยที่ต้องเผชิญหน้ากับราชสีห์ คิมหันต์ที่ได้ยินคำพูดบาดใจ อารมณ์เขาแปรเปลี่ยนไปทันที ชายหนุ่มกระโจนเข้ามากระชากตัวหญิงสาวเข้าปะทะอ้อมอกใหญ่ “โอ๊ย.
ตอนที่ 8 ร่างกายทรยศ เสียงประตูปิดดังโครม ทำให้กุลนารีสะดุ้งไหว คิมหันต์คงออกจากห้องนอนไปแล้ว แต่เธอหาได้สนใจไม่ หญิงสาวน้ำตาไหลพราก กุลนารีเกลียดคิมหันต์มากพอ ๆ กับเกลียดตัวเอง ร่างกายที่ทรยศเธอกลับโอนอ่อนไปตามแรงรักที่ชายหนุ่มปรนเปรอให้ เธอขยะแขยงร่างนี้เสียเหลือเกิน หญิงสาวค่อย ๆ พยุงตัวลุกขึ้น ร่องหลืบกลางกายเจ็บจี๊ดขึ้นมา รอยเลือดที่เปื้อนเป็นด่างดวงบนเตียงนุ่ม เป็นหลักฐานว่าเธอไม่สะอาดบริสุทธิ์เหมือนเช่นเดิมแล้ว หญิงสาวค่อย ๆ พยุงร่างเข้าไปในห้องอาบน้ำ น้ำที่ไหลจากฝักบัวเย็นเฉียบ แต่ไม่หนาวยะเยือกเท่ากับในหัวใจของเธอในตอนนี้ น้ำที่ไหลตั้งแต่ศีรษะราดรดลงมาทั่วตัว แต่ไม่อาจชะล้างคราบคาวมลทินที่ชายหนุ่มหยิบยื่นให้เธอได้ หญิงสาวใช้นิ้วเรียวถูไถไปทั่วตัวอย่างแรง หวังให้ร่องรอยรักหายออกไปตามสายน้ำ น้ำตายังคงรินไหลออกมา จนร่างบางสั่นสะท้าน เธอฟุบหน้าลงข้างกำแพงห้อง เนื้อตัวสั่นคลอนไปตามแรงสะอื้นไห้ จนสักพักที่หญิงสาวจึงออกมาจากห้อง เปลี่ยนชุดนอนยาวคลุมเข่า ก่อนจะหยัดกายลงบนเตียงนุ่ม และหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าและอ่อน
ตอนที่ 9 ดื้อรั้นคิมหันต์ตื่นขึ้นมาในตอนสาย เขาหยัดกายขึ้นมองดูหญิงสาวข้างกาย ใบหน้าจิ้มลิ้ม หมดจด ริมฝีปากบางน่าจูบ จมูกเชิดรั้นที่ดูพยศเยอะเอาการ แต่เวลานี้ช่างดูไร้พิษสง น่าเอ็นดูอย่างยิ่ง เขายิ้มน้อยออกมาอย่างใจชุ่มชื้น หญิงสาวที่เขาฝันหามานานหลายปี ตอนนี้เขาครอบครองเธอได้สำเร็จแล้ว แม้ว่าเธอจะมอบเพียงร่างกายให้เขาก็ตาม แต่คนอย่างเขา จะต้องได้ทั้งตัวและหัวใจของหญิงสาวมาครองให้ได้ ชายหนุ่มก้มลงสูดดมความหอมจากแก้มนวล เลื่อนไล้ไปยังริมฝีปากบาง ความตั้งใจแรกเขาเพียงต้องการจุมพิตหญิงสาวเท่านั้น แต่เมื่อได้สัมผัส เขากลับเปลี่ยนใจรุกล้ำเข้าไปในโพรงปาก ลิ้นหนาเลียไล้หยอกล้อลิ้นบางอย่างหลงใหล “อือออ...อืมมม...” เสียงครางประท้วงดังออกจากหญิงสาวที่เริ่มรู้สึกตัวตื่น เธอพยายามหยัดกายชายหนุ่มออกไป ไฟรักที่ชายหนุ่มถาโถมใส่เธอเมื่อคืนยังทำให้เธอเหนื่อยและอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก เวลานี้เธอหมดแรงต่อต้าน หมดแรงประท้วง หมดแรงร่วมรักกับเขาแล้ว เธอต้องการเพียงการพักผ่อนเท่านั้น คิมหันต์ใช้มือทั้งสองจับข้อมือของหญิงสาวยกขึ้นเหนือหัวก่อนจะจูบเรียกร้องอีกครั้ง ร่า
ตอนที่ 10 เกลียดชังกุลนารีย้ายมาอยู่คฤหาสน์ของคิมหันต์ นอกจากตอนกลางคืนที่ชายหนุ่มคอยปรนเปรอบทรักเร่าร้อนให้ หากแต่กลางวันชายหนุ่มกลับให้คนคอยติดตามหญิงสาวตลอดเวลา ยิ่งนานวันเธอยิ่งเหมือนติดอยู่ในคุก คอยเป็นนางบำเรอให้เขาสุขสมในทุกค่ำคืน แม้ว่าเธอเองต้องยอมรับว่าบทรักที่เขามอบให้ทำให้เธอแทบจะกระอักความสุขที่ท่วมท้น หากแต่ใจหญิงสาวกลับเฝ้าคิดถึงและเป็นห่วงเข็มทิศชายคนรัก ตั้งแต่งานแต่งเธอก็ไม่เคยได้เจอกับเขาอีกเลย กับคิมหันต์เองนั้น แม้ว่าบทรักจะเข้าขากันเป็นอย่างดี แต่เมื่อกลับสู่โลกแห่งความจริง เธอก็ยังคงตั้งแง่และคอยหลบเลี่ยงเขาตลอดเวลา ในขณะที่ชายหนุ่มเองก็หัวเสียทุกครั้งกับปฏิกิริยาที่หญิงสาวมีให้ ยิ่งหญิงสาวทำตัวเหินห่าง มองเขายิ่งกว่ากิ้งกือ ไส้เดือน เขายิ่งหงุดหงิด หุนหันออกไปในตอนกลางวันและกลับมาหลับนอนกับเธอในตอนกลางคืน วันแล้ววันเล่าที่ผ่านไป ยิ่งทำให้หญิงสาวทุกข์ทน หน้าตาหมองคล้ำ ทั้งสองใช้ชีวิตเหมือนสงครามเย็น กลางวันเย็นชาเมินเฉยใส่กัน กลางคืนกลับมาร่วมรักเร่าร้อนรุนแรง นั่นยิ่งทำให้หญิงสาวรู้สึกห่อเหี่ยวลงทุกวัน ๆ “ต้องการอะไรคร
ตอนที่ 11 ข้อเสนอ กุลนารีหันกลับมา พร้อมเดินมาเผชิญหน้ากับคิมหันต์“คุณจะมาไม้ไหนกับฉันอีก” หญิงสาวถามใส่ ใบหน้าเชิดขึ้นอย่างหยิ่งยโสชายหนุ่มยิ้มมุมปาก ก่อนจะลอยหน้าบอกเงื่อนไขที่เขาต้องการ“ข้อแรก คุณต้องเรียกผมว่าพี่คิม และตัวเองว่าแอ้...ข้อสอง ห้ามไปเจอกับชายชู้เป็นอันขาด” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “คุณ...” “ยังก่อน ข้อสุดท้าย คุณต้องให้รางวัลผม ตามที่ผมต้องการ...ตอนนี้” ชายหนุ่มแย้งขึ้นก่อนจะลากเสียงยียวน พร้อมยื่นหน้าเข้าหาหญิงสาว ลมหายใจร้อนเป่ารถใบหน้ากันและกัน สายตาบ่งบอกความต้องการที่ปิดไม่มิด “แต่...ที่นี่...เนี่ยนะ” หญิงสาวหันรีหันขวาง เธอไม่น่าตกหลุมพรางชายหนุ่มเลย นึกไว้แล้วว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างเขาต้องไม่ธรรมดาแน่ “ถ้าคุณไม่ตกลง ผมก็ไม่ตกลง” ชายหนุ่มยังคงลอยหน้ากวนหญิงสาวต่อไป “ว่าไง” เขายังคงเน้นย้ำ น้ำเสียงเริ่มอ่อนลง อย่างรอคำตอบ หญิงสาวถอยร่นออกห่างชายหนุ่มทันที อย่างชั่งใจ “ถ้าฉันไม่ตกลง” หญิงสาวกล่าวเสียงสั่น “งั้นคุณก็ต้องทนเป็นนักโทษผม
ตอนที่ 12 กุลนารีที่รัก ด้านเข็มทิศนั้น ในคืนงานแต่งของกุลนารี หลังจากที่เขาโดนคิมหันต์พรากหญิงคนรักไปจากอ้อมกอด บอร์ดี้การ์ดหลายคนต่างกรูเข้ามาล็อกตัวเขาก่อนจะโยนออกนอกงานเลี้ยง แม้เขาจะพยายามขัดขืนมากเท่าไหร่ แต่เขาตัวคนเดียวก็ไม่สามารถสู้กับแรงคนหมู่มากได้ ชายหนุ่มเดินโซซัดโซเซอย่างหมดแรงทั้งกายและใจ ร่างเหมือนคนไร้วิญญาณ เดินไปอย่างเลื่อนลอย ชายหนุ่มตรงเข้าไปยังบาร์ของโรงแรม เขานั่งหน้าเคาน์เตอร์ก่อนจะสั่งเหล้ากลมใหญ่ บริกรรินเหล้าลงบนแก้วเจียระไนอย่างดี หากแต่ชายหนุ่มหาได้สนใจไม่ เขากระดกเหล้าเข้าปากรวดเดียวจนหมด สุราร้อนไหลผ่านไปตามลำคอเลื่อนไหลลงสู่หน้าท้องหากแต่ความร้อนของเหล้าก็ไม่อาจสู้ความร้อนในใจที่สุมทรวงได้ไม่ คืนนี้หญิงสาวที่รักจะกลายเป็นของคนอื่นไปเสียแล้ว และเขาคงต้องสูญเสียเธอไปตลอดกาล ยิ่งคิด เข็มทิศก็ยิ่งแค้นใจนัก เขายกขวดเหล้ารินลงแก้ว ก่อนจะกระดกเข้าปากอีกหลายต่อหลายครั้ง แพรวพราย สาวไฮโซสุดเปรี้ยว ลูกพี่ลูกน้องของคิมหันต์เดินเข้ามายังบาร์ดังกล่าว เธอเดินตรงไปยังกลุ่มเพื่อนที่รอปาร์ตี้อยู่ รูปร่างสูงโปร่งเยี
ตอนที่ 36 ดีใจที่มีเธอหลังจากงานแต่งงานของแพรวพราวและเข็มทิศเสร็จสิ้น คิมหันต์และกุลนารีก็กลับมาถึงห้องพักของพวกเขา ห้องพักที่จัดไว้สวยงามและเรียบร้อย มีแสงไฟอ่อน ๆ ที่ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นและผ่อนคลาย ผ้าม่านสีครีมปิดลงครึ่งหนึ่ง ทิ้งให้แสงจันทร์ส่องเข้ามาอย่างนุ่มนวลคิมหันต์นั่งลงบนเตียงพร้อมดึงกุลนารีมานั่งข้าง ๆ เขา สายตาของเขาเต็มไปด้วยความรักและความห่วงใย "แอ้...แอ้เสียใจไหมที่คนข้าง ๆ แอ้เป็นพี่" เขาถามออกมาอย่างนึกหวั่นใจ น้ำเสียงที่อ่อนโยนปนด้วยความประหม่าที่ยังคงติดอยู่ในใจของเขากุลนารีหันมองหน้าคิมหันต์อย่างอ่อนโยนก่อนจะยิ้มและส่ายหน้าไปมา "แอ้ไม่เสียใจค่ะ" สายตาของหญิงสาวที่ดูจริงจังและหนักแน่น ทำเอาคิมหันต์ถึงกับยิ้มกว้างออกมากับคำตอบที่ได้รับ"งั้นแปลว่าดีใจใช่ไหม" คิมหันต์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าของกุลนารี ก่อนจะจ้องมองหน้าของหญิงสาวด้วยสายตากรุ้มกริ่มและความออดอ้อนกุลนารียิ้มอย่างนึกขำ "แน่นอน แอ้ต้องดีใจสิคะ" หญิงสาวพูดพร้อมยกมือบางลูบไล้ไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มอย่างหลงใหล สายตาหญิงสาวจ้องมองชายหนุ่มด้วยแววตาที่หวานซึ้ง กุลนารีอยากให้คิมหันต์รับรู้ถึงความรู้สึกที่เธอ
ตอนที่ 35 รักลงตัวบรรยากาศในวันแต่งงานของแพรวพราวและเข็มทิศอบอวลไปด้วยรอยยิ้มและความสุข สวนสวยกลางแจ้งที่จัดงานเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสันและไฟประดับระยิบระยับ แขกเหรื่อที่มาร่วมงานต่างยิ้มแย้มและแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว แพรวพราวในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ เดินเคียงข้างเข็มทิศผู้สวมชุดสูทสีเทาเข้ม ทั้งคู่ต่างมองหน้ากันไปมาด้วยความรักลึกซึ้ง มือใหญ่ของเข็มทิศกอบกุมมือบางไว้ไม่หยุดเมื่อเข็มทิศและแพรวพราวเดินเข้ามาในพิธีแต่งงาน เข็มทิศกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงานด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลและมั่นคง "ผมขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมแสดงความยินดีกับเราในวันนี้ ผมเคยทำผิดพลาดจนเกือบจะต้องเสียแพรวไปจากชีวิตของผม วันนี้ผมได้หัวใจของผมคืนมาแล้ว ผมสัญญาว่าจะรักและดูแลพราวอย่างดีที่สุด จะทำให้เธอมีความสุขในทุกๆ วันครับ"คำพูดของเข็มทิศทำให้แขกทั้งหลายต่างปรบมือและส่งเสียงแสดงความยินดี แพรวพราวยิ้มอย่างเขินอาย รอยยิ้มกว้างใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความสุขฉายออกมาอย่างชัดเจน หญิงสาวกอดแขนของเข็มทิศแน่น ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยความรักและความซาบซึ้งคิมหันต์กับกุลนารีที่มาร่วมงานในชุดสูทสีดำที่ตัดเย็บอย่างประณีต ดูหล่อเหล
ตอนที่ 34 ข่าวดี ในช่วงบ่ายวันหนึ่ง แพรวพราวและเข็มทิศขับรถมุ่งหน้าไปยังบ้านของคิมหันต์ เมื่อมาถึงบ้านของชายหนุ่ม ทั้งสองคนก้าวลงจากรถและเดินเข้าไปในบ้าน บรรยากาศยามบ่ายที่บ้านของคิมหันต์และกุลนารีเต็มไปด้วยความเงียบสงบ เมื่อมาถึงคิมหันต์และกุลนารีนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น คิมหันต์เงยหน้าขึ้นมองทั้งสองคนที่เข้ามาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย “ทำไมวันนี้ถึงมาที่นี่ได้เล่า” คิมหันต์ทักทายแพรวพราว พร้อมปรายตามองเข็มทิศที่ยืนอยู่ด้านข้างอย่างไม่สบอารมณ์แพรวพราวทำเป็นไม่สนใจสีหน้าของคิมหันต์ หญิงสาวจูงมือเข็มทิศมานั่งด้านข้างคนทั้งสอง ก่อนจะยิ้มกว้างให้กับคิมหันต์และกุลนารี “พี่คิม คุณแอ้ พราวมีเรื่องสำคัญจะบอกค่ะ” คิมหันต์เลิกคิ้วมองน้องสาวด้วยความสงสัย “พราวมีเรื่องอะไรเหรอ” แพรวพราวสูดหายใจลึกๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคง “พี่คิมคะ พราวกับเข็มทิศตัดสินใจจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้ค่ะ” คำพูดนี้ทำให้ทุกคนในห้องเงียบลงไปชั่วขณะ กุลนารีมีสีหน้ายิ้มแย้ม เธอรู้สึกตื่นเต้นและดีใจกับข่าวที่ได้รับ หญิงสาวรีบแสดงความยินดีกับทั้งสอง
ตอนที่ 33 เรื่องของเราคิมหันต์และกุลนารีกลับออกมาจากห้องของแพรวพราว ความเงียบสงบในคอนโดตัดกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในใจของคิมหันต์ เมื่อถึงพวกเขาถึงที่รถ คิมหันต์เองที่ยังคงรู้สึกหงุดหงิดใจอยู่ไม่หาย เขายืนอยู่ข้างรถ เอามือเท้าสะเอว พลางมองไปรอบๆ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจกุลนารีมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง “พี่คิม คิดอะไรอยู่คะ”คิมหันต์หันมามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิด “พี่ไม่ชอบหน้าไอ้เข็มทิศเอาเสียเลย เชอะ...จะให้พี่ยอมรับงั้นเหรอ เข็มทิศทำให้พราวเกือบต้องตาย แล้วจะให้พี่วางใจง่ายๆ ได้ยังไง”กุลนารีมองค้อนคิมหันต์ ก่อนจะพูดประชดออกมา “พี่คิม อันที่จริงจะโทษเข็มทิศฝ่ายเดียวก็ไม่ถูกนะ เพราะจริง ๆ แล้วเรื่องทั้งหมดก็เริ่มมาจากพี่คิมไม่ใช่เหรอ”คิมหันต์ได้ยินถึงกับสะอึกไปทันที ชายหนุ่มมองหญิงสาวตาละห้อย ก่อนจะรีบโอบร่างบางเข้าหา “แอ้กำลังโทษพี่เหรอ” เสียงออดอ้อนทำเอากุลนารีถึงกับอ่อนใจ หญิงสาวได้แต่เบนหน้าหนี “แล้วแอ้พูดผิดตรงไหนกัน” เสียงหญิงสาวยังคงกล่าวออกมาด้วยความงอน ชายหนุ่มถึงกับไปไม่เป็น รีบแก้ตัว “เพราะพี่รักแอ้หรอกนะ ถ้าพี่ไม่ทำอย่างนั้น วันน
ตอนที่ 32 เผชิญหน้าในเช้าวันต่อมา แสงแดดยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องของแพรวพราว บรรยากาศอบอุ่นและสงบ เข็มทิศลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเบิกบาน ชายหนุ่มหันมองหน้าหญิงสาวในอ้อมกอด เขาเผลอยิ้มขึ้นมาในทันใด มือหน้าลูบไล้เส้นผมที่ปรกลงบนใบหน้าอย่างรู้สึกเอ็นดู เขาเหม่อมองใบหน้านวลเนิ่นนานอย่างรู้สึกโล่งใจ บัดนี้เขารับรู้ความรู้สึกที่ตนมีต่อหญิงสาวถึงความเสน่หาอย่างแท้จริงทันใดนั้นเสียงกริ่งประตูดังขึ้นทำให้เข็มทิศชะงักมือลง แพรวพราวยังคงงัวเงียด้วยความอ่อนเพลียอยู่อย่างนั้น ชายหนุ่มได้แต่นึกเอ็นดู เขาค่อย ๆ ขยับตัวลงจากเตียงอย่างเงียบ ๆ เพื่อไม่ให้รบกวนหญิงสาวตรงหน้า เข็มทิศที่ยังสวมเสื้อผ้าไม่เรียบร้อยเดินมาเปิดประตู ทันทีที่เห็นแขกมาเยือนเขาก็ได้แต่ชะงักงันลงไปคิมหันต์ที่ถือข้าวของมาอย่างพะรุงพะรังนิ่งอึ้งไป เขาเกือบโยนข้าวของดังกล่าวแล้วกระโจนเข้าใส่ชายหนุ่มตรงหน้า คิมหันต์มองเข็มทิศด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ “นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”เข็มทิศมองคิมหันต์อย่างไม่เกรงกลัว “ผมค้างที่นี่” คำตอบของเขาทำเอาคิมหันต์ถึงกับบันดาลโทสะ ชายหนุ่มโยนของลงกับพื้นพร้อมปรี่เข้าหาเข็มทิศ “
ตอนที่ 31 ตามง้อเข็มทิศยังคงมาหาแพรวพราวที่โรงพยาบาลทุกวัน ชายหนุ่มรู้สึกถึงความเจ็บปวดในใจทุกครั้งที่เห็นแพรวพราวที่นอนอยู่บนเตียง ใบหน้าของเธอดูสดใสขึ้นแม้จะยังซีดเซียวอยู่ แต่แพรวพราวก็ยังคงปากแข็งไม่ยอมคืนดีด้วย ทุกครั้งที่เข็มทิศเอ่ยปากขอโทษและพยายามอธิบายความรู้สึกของตัวเอง แพรวพราวก็เพียงแค่เบือนหน้าหนีและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เข็มทิศ คุณกลับไปเถอะ ฉันไม่ต้องการเห็นหน้าคุณอีกแล้ว” แพรวพราวพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและแววตาแสดงถึงความงอนง้อคิมหันต์ยืนอยู่ข้างๆ เตียงผู้ป่วย เอาแต่มองเข็มทิศด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหมั่นไส้ “คุณควรจะเลิกมาที่นี่ได้แล้ว แพรวพราวต้องการคนที่ดีกว่าคุณ”เข็มทิศถอนหายใจหนัก ความรู้สึกท้อแท้เข้ามาท่วมท้นในใจเขา แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ “ผมรู้ว่าผมทำผิดพลาดมาก แต่ผมอยากให้พราวให้โอกาสผมอีกครั้ง”คิมหันต์ส่ายหน้าอย่างไม่พอใจ “โอกาส คุณเคยมีโอกาสแล้วแต่คุณก็ทำมันพัง คุณคิดว่าคุณสมควรได้รับโอกาสอีกครั้งหรือ”ในขณะที่สถานการณ์ดูเหมือนจะไม่ดีขึ้นเลย กุลนารีมองค้อนคิมหันต์อย่างไม่พอใจ หญิงสาวกระทุ้งแขนเข้าที่เอวชายหนุ่มอย่างแรง คิมหันต์ได้แต่มองกุลนารีตาละห้อย พร
ตอนที่ 30 ตามหาหัวใจ ในขณะเดียวกัน กุลนารีและคิมหันต์เดินกลับมาที่ห้องพักผู้ป่วยของแพรวพราว กุลนารีมองหญิงสาวที่นอนบนเตียงด้วยความสงสารและเห็นใจ เธอรับรู้ถึงความรู้สึกที่เจ็บปวดที่แพรวพราวต้องเผชิญและหวังว่าเธอจะกลับมามีชีวิตที่มีความสุขได้อีกครั้ง คิมหันต์ที่ยืนอยู่ข้างๆ กุลนารี เขามองดูน้องสาวด้วยความเห็นใจ ชายหนุ่มรู้สึกผิดที่เขามีส่วนทำให้แพรวพราวต้องเผชิญกับเรื่องร้ายๆ เช่นนี้“คุณพราว คุณพักผ่อนเสียก่อนเถอะ แอ้เชื่อว่าเข็มทิศต้องคิดได้ในเร็ว ๆ นี้แน่” กุลนารีปลอบใจแพรวพราวที่ยังคงนอนหันหลังให้กับพวกเขา"พราว พี่ไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างนี้ พี่ขอโทษ" คิมหันต์พูดเสียงเบา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “พราวอยากอยู่คนเดียว พี่คิมพาคุณแอ้กลับไปก่อนเถอะ” เสียงแผ่วเบาที่ส่งผ่านมา สะท้อนความรู้สึกว่างเปล่าและเลื่อนลอยของแพรวพราว คิมหันต์และกุลนารีต่างมองหน้ากันและกัน ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินไปลูบศีรษะของแพรวพราวอีกครั้งอย่างปลอบโยน “งั้นพรุ่งนี้พวกเราจะมาใหม่ พราวอย่าได้คิดมากอีก พักผ่อนให้เยอะ ๆ นะ” แพรวพราวยังคงนิ่งเงียบไม่ได้ตอบสิ่งใดออกมา
ตอนที่ 29 ร่องรอยของความเจ็บปวดเข็มทิศยังคงนั่งนิ่งอยู่ในรถด้วยความรู้สึกสับสน ชายหนุ่มหายใจเข้าลึก ๆ พยายามสงบสติอารมณ์และทำใจให้สงบ แต่หัวใจที่เต้นรัวและความรู้สึกสับสนที่ไม่สามารถควบคุมได้กลับทำให้เขารู้สึกอึดอัดมากขึ้นเรื่อย ๆ ในหัวของเขามีภาพของกุลนารีและแพรวพราวสลับกันไปมา ชายหนุ่มไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองมากนัก เขารักกุลนารีอย่างเต็มหัวใจ แต่เมื่อได้รู้ว่าแพรวพราวอยู่โรงพยาบาล หัวใจเขาก็เหมือนถูกเข็มนับร้อยทิ่มแทงจนเขารู้สึกเจ็บปวดอย่างยากจะบรรยายเข็มทิศตัดสินใจเผชิญหน้ากับสิ่งที่เขาทำลงไป ชายหนุ่มตัดสินใจขับรถตรงไปยังโรงพยาบาล แม้จะยังไม่แน่ชัดในความรู้สึกของตัวเองก็ตาม เขาขับรถผ่านถนนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่กลับรู้สึกเหมือนทุกสิ่งรอบตัวกลายเป็นภาพเบลอ เสียงเพลงที่เคยทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายกลับทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด เข็มทิศปิดเพลงลงและตั้งใจขับรถไปยังจุดหมายเดียวคือโรงพยาบาลเมื่อมาถึงโรงพยาบาล เข็มทิศจอดรถและเดินเข้าไปในอาคารด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง หัวใจของเขาเต้นแรงและมือของเขาสั่นเล็กน้อยเมื่อเปิดประตูห้องผู้ป่วย ภาพที่ชายหนุ่มได้เห็นทำให้เขารู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบค
ตอนที่ 28 ตามทวงคืนคิมหันต์ที่กำลังร้อนใจอย่างถึงที่สุด เขาขับรถด้วยความเร็วตามเส้นทางที่ปรากฏในมือถือ “เข็มทิศ ฉันไม่เอานายไว้แน่” “แอ้ คุณอย่าเป็นอะไรนะ” ความคิดวนเวียนในหัวไม่หยุดยิ่งทำให้ชายหนุ่มแทบคลั่งจนจะเป็นบ้าขณะนั้นเอง เข็มทิศที่จอดรถอยู่ข้างทาง ชายหนุ่มมองกุลนารีด้วยหัวใจที่แตกสลาย เขาไม่เคยคิดว่าหญิงสาวจะเปลี่ยนใจจากเขาได้ แต่เมื่อเห็นท่าทางร้องไห้เจ็บปวดเช่นนี้ เขาก็ไม่อาจตัดใจทำร้ายเธอไปมากกว่านี้ ความเงียบงันบังเกิดในรถแคบ ๆ คงมีเพียงเสียงสะอื้นไห้ของกุลนารีที่ดังออกมาเป็นพัก ๆคิมหันต์ที่ขับรถตามมาถึง เขามองเห็นรถของเข็มทิศที่จอดอยู่ข้างถนน เขารีบลงจากรถและวิ่งเข้ามาหาพร้อมเปิดประตูแล้วดึงมือกุลนารีลงจากรถทันที"แอ้ คุณเป็นอย่างไรบ้าง" คิมหันต์พูดด้วยเสียงที่เป็นกังวล คราบน้ำตาที่เปอะเปื้อนใบหน้าทำเอาชายหนุ่มรู้สึกโกรธเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว “เข็มทิศ นายกล้ามานะ” คิมหันต์กล่าวด้วยเสียงขู่อาฆาตพร้อมจ้องมองเข็มทิศตาเขม็ง ถ้าไม่เป็นเพราะหญิงสาวในอ้อมกอด ชายหนุ่มคงจะเดินเข้าไปตะบันหน้าชายตรงหน้าเสียแล้วเข็มทิศหันมามองคิมหันต์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคืองแค้นเช่นกัน "ถ้าผ