ตอนที่ 6 งานแต่งอันแสนเศร้า
คิมหันต์พาตัวกุลนารีกลับมายังกรุงเทพฯ ชายหนุ่มมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์เกษมมนตรีทันที
“คุณจะทำอะไร คุณคิมหันต์” กุลนารีแหวใส่ชายหนุ่มทันที
“ผมจะทำให้คุณรู้ไง ว่าการต่อต้านผมผลลัพธ์จะเป็นยังไง” คิมหันต์ตอบกลับอย่างท้าทาย
“ฉันเกลียดคุณ” หญิงสาวรู้สึกเกลียดยิ่งนัก
“คนที่คุณเกลียด กำลังจะเป็นผัวคุณในเร็ว ๆ นี้แหละ คุณหนูแอ้” ชายหนุ่มยียวนใส่หญิงสาวอย่างสาแก่ใจ
เมื่อถึงบ้านหญิงสาว คุณอัศวินและคุณมาลารีบปรี่เข้ามาหาคนทั้งคู่
“นี่ เกิดอะไรขึ้นลูก ทำไมหนูถึงมาอยู่กับ...เอ่อ...” คุณมาลากล่าวอย่างตกใจ เธอไม่คิดฝันว่าคิมหันต์จะตามตัวลูกสาวเธอกลับมาเร็วขนาดนี้
“คุณพ่อ คุณแม่คงไม่ทราบเรื่องที่ แอ้...ไปพักผ่อนมา ใช่ไหมครับ” คิมหันต์เน้นคำถามอย่างไม่ต้องการคำตอบ
“เรื่องนี้พ่อแม่ฉันไม่เกี่ยว คุณอย่ายุ่งกับพวกท่านนะ” กุลนารีโวยวายใส่
“คุณคิมหันต์ ใจเย็น ๆ ก่อน เข้ามาในบ้านดื่มน้ำดื่มท่า ให้ใจเย็นดีกว่าไหม” คุณอัศวินพยายามแก้สถานการณ์
“ไม่เป็นไรครับ ผมแค่แวะมาบอกคุณพ่อคุณแม่ ว่าแอ้จะเข้าไปอยู่กับผม จนกว่าจะแต่งงาน ส่วนข้อตกลงอื่น ๆ ยังคงเหมือนเดิม หวังว่าคงไม่ติดอะไรใช่ไหมครับ” คิมหันต์กล่าวเรียบ ๆ แต่แข็งกร้าว
“ใครจะไปอยู่กับคุณ ฉันจะอยู่ที่นี่ ที่บ้านของฉัน” หญิงสาวแย้ง
“บ้านคุณ...คุณคงเข้าใจอะไรผิด เพราะตราบที่คุณยังไม่ได้แต่งงานกับผม บ้านหลังนี้เป็นของผม และถ้ายังมีปัญหามากนัก พ่อแม่คุณคงต้องหาที่อยู่ใหม่กันแล้วละ” คิมหันต์กล่าวอย่างเยือกเย็น
“คุณ...ฮึ” หญิงสาวสะกดกั้นอารมณ์โกรธ เธอรู้ดีว่าไม่อาจต่อกรชายหนุ่มได้ในเวลานี้
“ถ้างั้น ผมขอตัวก่อน” คิมหันต์ลา ก่อนจะบีบแขนหญิงสาวให้ตามเขากลับไป
คุณอัศวินและคุณมาลาได้แต่มองตามอย่างเป็นห่วงลูกสาว นี่มันเวรกรรมอะไรของพวกเขาหรือนี่
ที่คฤหาสน์ชายหนุ่ม บ้านหลังใหญ่ในบริเวณที่ดินกว้างขวาง รายล้อมไปด้วยสวนดอกไม้และต้นไม้ใหญ่ แต่หญิงสาวกลับไม่ได้แยแสเท่าไหร่นัก
“เตรียมห้องที่ติดกับฉันให้คุณกุลนารี ต่อไปเธอจะเข้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะคุณผู้หญิงของบ้าน” คิมหันต์สั่งแม่บ้าน
แม่บ้านรับคำก่อนจะรีบไปจัดเตรียมตามคำสั่งนายใหญ่ของบ้าน
“คุณคิมหันต์ เรามาคุยกันดี ๆ ดีกว่าไหม คุณปล่อยฉันไปเถอะ ฉันไม่ได้รักคุณ ฉันมีคนรักอยู่แล้ว คุณก็รู้ดี คุณคงไม่อยากแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักคุณหรอก จริงไหม” กุลนารีพยายามเกลี้ยกล่อมชายหนุ่มตรงหน้า
ชายหนุ่มจับไหล่ทั้งสองข้างของหญิงสาวเข้าหาตัว
“ไม่มีทาง คุณต้องเป็นของผม คุณเลิกทำให้ผมอารมณ์เสียได้แล้ว” คิมหันต์ตัดบท
“แต่..” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะแย้งอะไร ชายหนุ่มโน้มริมฝีปากบดเข้าหาริมฝีปากบางทันที
หญิงสาวที่ไม่ทันระวัง ลิ้นร้อนซุกไซ้เข้าโพรงปาก กวัดรัดลิ้นบางอย่างเร่งเร้า ทั้งเรียกร้อง ทั้งลงทัณฑ์
“อื้อ...อื้อ...” หญิงสาวพยายามผลักไส ประท้วงการกระทำอันน่ารังเกียจนี้
คิมหันต์กระชับร่างบางเข้าหาตัว ยิ่งหญิงสาวพยศมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เขาอยากปราบพยศเธอมากเท่านั้น
หญิงสาวดิ้นรนจนไม่อาจต้าน ความซาบซ่านที่ได้รับทำให้หญิงสาวค่อยหยุดการขัดขืนใด ๆ ชายหนุ่มบดจูบ ดูดดื่มความหวานล้ำจากหญิงสาวจนพอใจ ลิ้นรื้นพันเกี่ยวลิ้นบาง ดึงดุนลิ้นบางเข้าหาปากหนาอย่างคนมีประสบการณ์
“อ่าาา....อ่าาา..” หญิงสาวรู้สึกรัญจวนจากสัมผัสที่ได้รับจนเผลอหลุดปากครางออกมา
ชายหนุ่มดูดดื่มความหวานจนพอใจ ก่อนจะผละปากหนาออกมา เขาจ้องตาเธอไม่กะพริบ สายตาที่ส่งไปบ่งบอกถึงความปรารถนาที่มากกว่านี้
“ปล่อยนะ” หญิงสาวที่ได้สติ รีบสะบัดตัว ถอยออกมาทันที ก่อนจะหันหลังหนีชายหนุ่มตรงหน้า
คิมหันต์ยกมือลูบริมฝีปากอย่างมีชัย ไม่นานหญิงสาวตรงหน้าตรงสยบแทบเท้าเขา ชายหนุ่มคิดอย่างมั่นใจ
ตลอดเวลาที่อยู่ในบ้านคิมหันต์ กุลนารีเอาแต่พยายามหมกตัวอยู่แต่ในห้องนอนใหญ่ที่จัดเตรียม และพยายามหลบหน้าชายหนุ่มอยู่ตลอดเวลา ยิ่งเวลาผ่านไปมากขึ้น ๆ หญิงสาวก็ยิ่งอับจนหนทางเข้าทุกที ในขณะที่คิมหันต์เอง ก็หาได้สนใจหญิงสาวไม่ ขอเพียงเธอยังอยู่ในบ้านเขา เขาเองไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอะไรให้ไก่ตื่น
ผ่านไป 1 เดือน คิมหันต์เปิดประตูเข้ามาในห้องหญิงสาว
“คุณเข้ามาทำอะไร” หญิงสาวแหว พร้อมปาหมอนใส่ชายหนุ่มทันที อย่างระวังภัย
ชายหนุ่มปัดหมอนออกไปอย่างไม่แยแส
“อีกสามวันเตรียมตัวเข้าพิธีแต่งงานได้แล้ว ผมให้คนจัดเตรียมทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับคุณทั้งหมด” ชายหนุ่มกล่าวเรียบ ๆ ก่อนจะเดินออกไป
หญิงสาวตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน ทำไมชายหนุ่มเร่งจัดงานเร็วขึ้นขนาดนี้ หญิงสาวได้แต่ฟุบหน้าลงบนหมอน ก่อนจะร้องไห้โฮออกมาอย่างสุดกลั้น
ในงานแต่งงานที่ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ภาพเจ้าบ่าวที่แต่งชุดสูทหรูสีขาว หน้าตาหล่อเหลา รูปร่างภูมิฐาน ในขณะที่เจ้าสาวเองที่อยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาว ชุดยาวลากลงกับพื้น ทั้งคู่ดูเหมาะสมกันอย่างยิ่งในสายตาแขกเหรื่อที่มาร่วมแสดงความยินดี
ผิดกับหน้าเจ้าสาวที่เอาแต่ก้มหน้านิ่ง ใบหน้าเศร้าหมอง น้ำตาคลอเบ้าตลอดเวลา ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มเฉกเช่นเจ้าสาวทั่วไป
“ทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อย เดี๋ยวคนอื่นจะหาว่าผมรังแกเจ้าสาวตั้งแต่ยังไม่ทันเข้าหอหรอก” คิมหันต์กระซิบข้างหูหญิงสาวอย่างเสียอารมณ์
“ฉันจะเป็นอะไร จะทำอะไรก็เรื่องของฉัน อย่ามายุ่ง” หญิงสาวสะบัดเสียงใส่
“ก็ดี....แล้วจะได้เห็นดีกัน” คิมหันต์ขู่
ในระหว่างงานแต่ง เข็มทิศเดินเข้ามาในงานอย่างเศร้าสร้อย ภาพหญิงสาวคนรักกำลังจะแต่งงานกับชายอื่นยิ่งทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจ ทำไมสวรรค์ต้องพรากหญิงสาวคนรักไปจากเขาด้วย ทำไมเขาไม่สามารถปกป้องหญิงสาวที่เขารักยิ่งได้ด้วยเล่า
ทันทีที่กุลนารีเห็นเข็มทิศ เธอรีบเดินเข้าไปหาเขาก่อนจะโผกอดชายหนุ่มทันที น้ำตาไหลรินออกมาอย่างไม่อาจกลั้น ภาพดังกล่าวทำให้แขกเหรื่อถึงกับงุนงง
คิมหันต์เห็นเข้ายิ่งบาดตาบาดใจ ชายหนุ่มปรับสีหน้าก่อนจะเดินเร่งฝีเท้าเข้าหาคนทั้งสอง แขกมากมายในงานต่างจับตามองภาพที่ไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนัก ยิ่งทำให้เขาต้องสุขุมมากยิ่งขึ้น ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้คงขึ้นข่าวซุบซิบใหญ่โต
คิมหันต์เอื้อมมือไปจับไหล่บางทั้งสองก่อนจะดึงกลับเข้าหาตัวเขา
“สวัสดีครับ ดีใจที่คุณมาร่วมแสดงความยินดีกับเราทั้งคู่ จริงไหมที่รัก” คิมหันต์กดเสียงกระซิบหญิงสาวให้รักษาหน้าเขาไว้
เข็มทิศจ้องมองอย่างแค้นเคืองจนตาแทบจะถลนออกมาจากเบ้า กุลนารีส่งสายตาขอร้องแฟนหนุ่ม เธอไม่อยากให้มีเรื่องเกิดขึ้น
“ที่รัก แขกผู้ใหญ่รออยู่ด้านใน เราควรรีบเข้างานกันได้แล้ว เชิญตามสบายนะครับ” คิมหันต์ตัดบทคนทั้งคู่ ก่อนจะบีบต้นแขนหญิงสาวเบา ๆ ให้เดินตามเขาไปในงาน
“งามหน้าดีนะ ถึงขั้นชวนชายชู้เขามาในงานแต่งผม” คิมหันต์กระซิบข้างหูหญิงสาว ฟันกัดกันแน่นอย่างโกรธแค้นยิ่งนัก
กุลนารีได้แต่สะบัดหน้าหนีอย่างรู้สึกรังเกียจเจ้าบ่าวของตนเหลือเกิน
“คอยดูเถอะ กุลนารี สิ่งที่เธอทำ ผมจะเอาคืนให้คุณจำจนตาย” คิมหันต์คิดในใจ
ตอนที่ 7 ได้เพียงกายหลังงานเลี้ยงแต่งงานเสร็จสิ้น กุลนารีถูกพามายังห้องสวีทสุดหรูชั้นบนสุดของโรงแรม หญิงสาวเดินไปมาอย่างกระวนกระวายใจ อีกเพียงไม่นานคิมหันต์คงกลับมาเป็นแน่ เมื่อหญิงสาวลองแง้มประตูออก เธอพบว่ามีบอร์ดี้การ์ดร่างใหญ่สองนายคอยเฝ้าน่าห้องอยู่ “ต้องการรับอะไรครับ คุณผู้หญิง” ชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยถาม กุลนารีปิดประตูใส่หน้าเสียงดังปัง นี่ชีวิตของเธอกำลังจะกลายเป็นนักโทษแล้วหรือนี่ ไม่นานนัก ประตูก็เปิดออก คิมหันต์เข้าห้องมาด้วยสภาพกรึ่มเมานิดหน่อย “ทูนหัวของผัว รอผัวไม่ไหวเลยเหรอ” ชายหนุ่มเดินโซเซเข้ามาหาหญิงสาวอย่างอารมณ์ดี “ออกไปนะ...ไป...ฉันเกลียดคุณ ได้ยินไหม ฉันเกลียดคุณ ต่อให้คุณทำอะไรฉัน ชาตินี้คุณก็ได้แค่ตัวของฉันเท่านั้นแหละ ฉันรักเข็มทิศ ได้ยินรึยัง ฉันรักเข็มทิศ” กุลนารีตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ความกลัวเข้าครอบงำหญิงสาว ดุจดั่งกวางน้อยที่ต้องเผชิญหน้ากับราชสีห์ คิมหันต์ที่ได้ยินคำพูดบาดใจ อารมณ์เขาแปรเปลี่ยนไปทันที ชายหนุ่มกระโจนเข้ามากระชากตัวหญิงสาวเข้าปะทะอ้อมอกใหญ่ “โอ๊ย.
ตอนที่ 8 ร่างกายทรยศ เสียงประตูปิดดังโครม ทำให้กุลนารีสะดุ้งไหว คิมหันต์คงออกจากห้องนอนไปแล้ว แต่เธอหาได้สนใจไม่ หญิงสาวน้ำตาไหลพราก กุลนารีเกลียดคิมหันต์มากพอ ๆ กับเกลียดตัวเอง ร่างกายที่ทรยศเธอกลับโอนอ่อนไปตามแรงรักที่ชายหนุ่มปรนเปรอให้ เธอขยะแขยงร่างนี้เสียเหลือเกิน หญิงสาวค่อย ๆ พยุงตัวลุกขึ้น ร่องหลืบกลางกายเจ็บจี๊ดขึ้นมา รอยเลือดที่เปื้อนเป็นด่างดวงบนเตียงนุ่ม เป็นหลักฐานว่าเธอไม่สะอาดบริสุทธิ์เหมือนเช่นเดิมแล้ว หญิงสาวค่อย ๆ พยุงร่างเข้าไปในห้องอาบน้ำ น้ำที่ไหลจากฝักบัวเย็นเฉียบ แต่ไม่หนาวยะเยือกเท่ากับในหัวใจของเธอในตอนนี้ น้ำที่ไหลตั้งแต่ศีรษะราดรดลงมาทั่วตัว แต่ไม่อาจชะล้างคราบคาวมลทินที่ชายหนุ่มหยิบยื่นให้เธอได้ หญิงสาวใช้นิ้วเรียวถูไถไปทั่วตัวอย่างแรง หวังให้ร่องรอยรักหายออกไปตามสายน้ำ น้ำตายังคงรินไหลออกมา จนร่างบางสั่นสะท้าน เธอฟุบหน้าลงข้างกำแพงห้อง เนื้อตัวสั่นคลอนไปตามแรงสะอื้นไห้ จนสักพักที่หญิงสาวจึงออกมาจากห้อง เปลี่ยนชุดนอนยาวคลุมเข่า ก่อนจะหยัดกายลงบนเตียงนุ่ม และหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าและอ่อน
ตอนที่ 9 ดื้อรั้นคิมหันต์ตื่นขึ้นมาในตอนสาย เขาหยัดกายขึ้นมองดูหญิงสาวข้างกาย ใบหน้าจิ้มลิ้ม หมดจด ริมฝีปากบางน่าจูบ จมูกเชิดรั้นที่ดูพยศเยอะเอาการ แต่เวลานี้ช่างดูไร้พิษสง น่าเอ็นดูอย่างยิ่ง เขายิ้มน้อยออกมาอย่างใจชุ่มชื้น หญิงสาวที่เขาฝันหามานานหลายปี ตอนนี้เขาครอบครองเธอได้สำเร็จแล้ว แม้ว่าเธอจะมอบเพียงร่างกายให้เขาก็ตาม แต่คนอย่างเขา จะต้องได้ทั้งตัวและหัวใจของหญิงสาวมาครองให้ได้ ชายหนุ่มก้มลงสูดดมความหอมจากแก้มนวล เลื่อนไล้ไปยังริมฝีปากบาง ความตั้งใจแรกเขาเพียงต้องการจุมพิตหญิงสาวเท่านั้น แต่เมื่อได้สัมผัส เขากลับเปลี่ยนใจรุกล้ำเข้าไปในโพรงปาก ลิ้นหนาเลียไล้หยอกล้อลิ้นบางอย่างหลงใหล “อือออ...อืมมม...” เสียงครางประท้วงดังออกจากหญิงสาวที่เริ่มรู้สึกตัวตื่น เธอพยายามหยัดกายชายหนุ่มออกไป ไฟรักที่ชายหนุ่มถาโถมใส่เธอเมื่อคืนยังทำให้เธอเหนื่อยและอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก เวลานี้เธอหมดแรงต่อต้าน หมดแรงประท้วง หมดแรงร่วมรักกับเขาแล้ว เธอต้องการเพียงการพักผ่อนเท่านั้น คิมหันต์ใช้มือทั้งสองจับข้อมือของหญิงสาวยกขึ้นเหนือหัวก่อนจะจูบเรียกร้องอีกครั้ง ร่า
ตอนที่ 10 เกลียดชังกุลนารีย้ายมาอยู่คฤหาสน์ของคิมหันต์ นอกจากตอนกลางคืนที่ชายหนุ่มคอยปรนเปรอบทรักเร่าร้อนให้ หากแต่กลางวันชายหนุ่มกลับให้คนคอยติดตามหญิงสาวตลอดเวลา ยิ่งนานวันเธอยิ่งเหมือนติดอยู่ในคุก คอยเป็นนางบำเรอให้เขาสุขสมในทุกค่ำคืน แม้ว่าเธอเองต้องยอมรับว่าบทรักที่เขามอบให้ทำให้เธอแทบจะกระอักความสุขที่ท่วมท้น หากแต่ใจหญิงสาวกลับเฝ้าคิดถึงและเป็นห่วงเข็มทิศชายคนรัก ตั้งแต่งานแต่งเธอก็ไม่เคยได้เจอกับเขาอีกเลย กับคิมหันต์เองนั้น แม้ว่าบทรักจะเข้าขากันเป็นอย่างดี แต่เมื่อกลับสู่โลกแห่งความจริง เธอก็ยังคงตั้งแง่และคอยหลบเลี่ยงเขาตลอดเวลา ในขณะที่ชายหนุ่มเองก็หัวเสียทุกครั้งกับปฏิกิริยาที่หญิงสาวมีให้ ยิ่งหญิงสาวทำตัวเหินห่าง มองเขายิ่งกว่ากิ้งกือ ไส้เดือน เขายิ่งหงุดหงิด หุนหันออกไปในตอนกลางวันและกลับมาหลับนอนกับเธอในตอนกลางคืน วันแล้ววันเล่าที่ผ่านไป ยิ่งทำให้หญิงสาวทุกข์ทน หน้าตาหมองคล้ำ ทั้งสองใช้ชีวิตเหมือนสงครามเย็น กลางวันเย็นชาเมินเฉยใส่กัน กลางคืนกลับมาร่วมรักเร่าร้อนรุนแรง นั่นยิ่งทำให้หญิงสาวรู้สึกห่อเหี่ยวลงทุกวัน ๆ “ต้องการอะไรคร
ตอนที่ 11 ข้อเสนอ กุลนารีหันกลับมา พร้อมเดินมาเผชิญหน้ากับคิมหันต์“คุณจะมาไม้ไหนกับฉันอีก” หญิงสาวถามใส่ ใบหน้าเชิดขึ้นอย่างหยิ่งยโสชายหนุ่มยิ้มมุมปาก ก่อนจะลอยหน้าบอกเงื่อนไขที่เขาต้องการ“ข้อแรก คุณต้องเรียกผมว่าพี่คิม และตัวเองว่าแอ้...ข้อสอง ห้ามไปเจอกับชายชู้เป็นอันขาด” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “คุณ...” “ยังก่อน ข้อสุดท้าย คุณต้องให้รางวัลผม ตามที่ผมต้องการ...ตอนนี้” ชายหนุ่มแย้งขึ้นก่อนจะลากเสียงยียวน พร้อมยื่นหน้าเข้าหาหญิงสาว ลมหายใจร้อนเป่ารถใบหน้ากันและกัน สายตาบ่งบอกความต้องการที่ปิดไม่มิด “แต่...ที่นี่...เนี่ยนะ” หญิงสาวหันรีหันขวาง เธอไม่น่าตกหลุมพรางชายหนุ่มเลย นึกไว้แล้วว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างเขาต้องไม่ธรรมดาแน่ “ถ้าคุณไม่ตกลง ผมก็ไม่ตกลง” ชายหนุ่มยังคงลอยหน้ากวนหญิงสาวต่อไป “ว่าไง” เขายังคงเน้นย้ำ น้ำเสียงเริ่มอ่อนลง อย่างรอคำตอบ หญิงสาวถอยร่นออกห่างชายหนุ่มทันที อย่างชั่งใจ “ถ้าฉันไม่ตกลง” หญิงสาวกล่าวเสียงสั่น “งั้นคุณก็ต้องทนเป็นนักโทษผม
ตอนที่ 12 กุลนารีที่รัก ด้านเข็มทิศนั้น ในคืนงานแต่งของกุลนารี หลังจากที่เขาโดนคิมหันต์พรากหญิงคนรักไปจากอ้อมกอด บอร์ดี้การ์ดหลายคนต่างกรูเข้ามาล็อกตัวเขาก่อนจะโยนออกนอกงานเลี้ยง แม้เขาจะพยายามขัดขืนมากเท่าไหร่ แต่เขาตัวคนเดียวก็ไม่สามารถสู้กับแรงคนหมู่มากได้ ชายหนุ่มเดินโซซัดโซเซอย่างหมดแรงทั้งกายและใจ ร่างเหมือนคนไร้วิญญาณ เดินไปอย่างเลื่อนลอย ชายหนุ่มตรงเข้าไปยังบาร์ของโรงแรม เขานั่งหน้าเคาน์เตอร์ก่อนจะสั่งเหล้ากลมใหญ่ บริกรรินเหล้าลงบนแก้วเจียระไนอย่างดี หากแต่ชายหนุ่มหาได้สนใจไม่ เขากระดกเหล้าเข้าปากรวดเดียวจนหมด สุราร้อนไหลผ่านไปตามลำคอเลื่อนไหลลงสู่หน้าท้องหากแต่ความร้อนของเหล้าก็ไม่อาจสู้ความร้อนในใจที่สุมทรวงได้ไม่ คืนนี้หญิงสาวที่รักจะกลายเป็นของคนอื่นไปเสียแล้ว และเขาคงต้องสูญเสียเธอไปตลอดกาล ยิ่งคิด เข็มทิศก็ยิ่งแค้นใจนัก เขายกขวดเหล้ารินลงแก้ว ก่อนจะกระดกเข้าปากอีกหลายต่อหลายครั้ง แพรวพราย สาวไฮโซสุดเปรี้ยว ลูกพี่ลูกน้องของคิมหันต์เดินเข้ามายังบาร์ดังกล่าว เธอเดินตรงไปยังกลุ่มเพื่อนที่รอปาร์ตี้อยู่ รูปร่างสูงโปร่งเยี
ตอนที่ 13 ฉันก็คือฉัน แพรวพราวตื่นขึ้นมาในตอนเช้า หญิงสาวเอี้ยวตัวมองหน้าชายหนุ่มที่ตอนนี้เธอยังไม่รู้จักชื่อเขาเลย นอกจากชื่อหญิงสาวในจินตนาการที่เขาเอาแต่พร่ำเพ้อหา หญิงสาวถอนหายใจ ก่อนจะลุกขึ้นอาบน้ำชำระร่างกาย เสียงน้ำไหลดัง ทำให้ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกตัวตื่น เขาหยัดกายขึ้นมองไปโดยรอบ เสื้อผ้ากระจัดกระจายเต็มพื้นห้อง ภาพฝันที่เขาร่วมรักกับหญิงสาวที่รักผุดขึ้นมาในหัว ชายหนุ่มสะบัดหน้าไปมา น้ำเมาที่เขาดื่มไปเยอะทำให้เขาปวดหัวอย่างรุนแรง นี่เขาทำอะไรลงไป แล้วเมื่อคืนเขาหลับนอนกับใครกันแน่ ชายหนุ่มงุนงงสงสัย แพรวพราวเดินออกมาจากห้องน้ำ ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่พันรอบกายหญิงสาว ขมวดเป็นปมหลวม ๆ “ตื่นแล้วเหรอคุณ” หญิงสาวกล่าวทักทายชายหนุ่ม มือน้อยจับผ้าขนหนูผืนเล็กลูบสะบัดเช็ดผมที่เปียกปอน “คุณเป็นใคร” เข็มทิศถามอย่างแปลกใจ ภาพในหัวเขาดับตั้งแต่ถูกลากออกมานอกบาร์ ยกเว้นบทรักลาง ๆ ที่ติดตรึงในหัวคล้ายกับความฝัน ชายหนุ่มขยับตัวจะลุกออกจากเตียง แต่สภาพเปลือยเปล่าทำให้เขาต้องนั่งแช่อยู่อย่างนั้น มือใหญ่ดึงผ้าห่มหนาขึ้นปิดส่วนล่าง
ตอนที่ 14 แผนการใหม่ เข็มทิศตื่นขึ้นมาในตอนเย็นของวัน เขาหันมองไปโดยรอบ หากแต่ไร้ซึ่งเงาหญิงสาวในห้องนอน เขาค่อยหยัดกาย ๆ ลุกขึ้น ก่อนจะจัดการตัวเองอย่างเร่งรีบ เขานึกอยากเขกหัวตนเองที่เผลอไผลไปมีอะไรกับหญิงอื่นหลายครั้งหลายครา แม้ว่าจะพยายามปลอบใจตนเองว่าหญิงสาวคนดังกล่าวเป็นคนยั่วยวนตน และตนเองก็หาใช่พระอิฐพระปูนที่จะทานทนเสน่ห์ยั่วยวนของเธอ หากแต่ความรู้สึกผิดที่มีต่อกุลนารี ทำให้เขาถึงขั้นถอนใจหายดังเฮือก เขาจะไม่ยอมให้มีเหตุการณ์บ้า ๆ แบบนี้เกิดขึ้นอีกเป็นแน่ ชายหนุ่มไม่ต้องการให้เขาและคนรักต้องมีเรื่องยุ่งยากมากไปกว่าอุปสรรคที่มีอยู่ปัจจุบันอีกแล้ว กลิ่นหอมของอาหารลอยอบอวลไปทั่วห้อง เรียกน้ำย่อยชายหนุ่มออกมาจนท้องร้องประท้วงเสียงดัง ความหิวทำให้เขาเดินตรงไปยังโต๊ะอาหาร “มาทานอะไรก่อนสิ คงหิวน่าดูเลย” แพรวพราวเรียกเขาในขณะเริ่มจัดวางจานลงบนโต๊ะ ภาพหญิงสาวสูงโปร่งคลุมตัวด้วยชุดอาบน้ำหลวม ๆ ทว่าใบหน้ากลับถูกแต่งแต้มสีสันจนดูเฉี่ยวคม เซ็กซี่ ผิดกับกุลนารีที่มักจะแต่งหน้าอ่อน ๆ เผยให้เห็นผิวนวลใส ดูอ่อนโยน ไร้เดียงสา
ตอนที่ 36 ดีใจที่มีเธอหลังจากงานแต่งงานของแพรวพราวและเข็มทิศเสร็จสิ้น คิมหันต์และกุลนารีก็กลับมาถึงห้องพักของพวกเขา ห้องพักที่จัดไว้สวยงามและเรียบร้อย มีแสงไฟอ่อน ๆ ที่ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นและผ่อนคลาย ผ้าม่านสีครีมปิดลงครึ่งหนึ่ง ทิ้งให้แสงจันทร์ส่องเข้ามาอย่างนุ่มนวลคิมหันต์นั่งลงบนเตียงพร้อมดึงกุลนารีมานั่งข้าง ๆ เขา สายตาของเขาเต็มไปด้วยความรักและความห่วงใย "แอ้...แอ้เสียใจไหมที่คนข้าง ๆ แอ้เป็นพี่" เขาถามออกมาอย่างนึกหวั่นใจ น้ำเสียงที่อ่อนโยนปนด้วยความประหม่าที่ยังคงติดอยู่ในใจของเขากุลนารีหันมองหน้าคิมหันต์อย่างอ่อนโยนก่อนจะยิ้มและส่ายหน้าไปมา "แอ้ไม่เสียใจค่ะ" สายตาของหญิงสาวที่ดูจริงจังและหนักแน่น ทำเอาคิมหันต์ถึงกับยิ้มกว้างออกมากับคำตอบที่ได้รับ"งั้นแปลว่าดีใจใช่ไหม" คิมหันต์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าของกุลนารี ก่อนจะจ้องมองหน้าของหญิงสาวด้วยสายตากรุ้มกริ่มและความออดอ้อนกุลนารียิ้มอย่างนึกขำ "แน่นอน แอ้ต้องดีใจสิคะ" หญิงสาวพูดพร้อมยกมือบางลูบไล้ไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มอย่างหลงใหล สายตาหญิงสาวจ้องมองชายหนุ่มด้วยแววตาที่หวานซึ้ง กุลนารีอยากให้คิมหันต์รับรู้ถึงความรู้สึกที่เธอ
ตอนที่ 35 รักลงตัวบรรยากาศในวันแต่งงานของแพรวพราวและเข็มทิศอบอวลไปด้วยรอยยิ้มและความสุข สวนสวยกลางแจ้งที่จัดงานเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสันและไฟประดับระยิบระยับ แขกเหรื่อที่มาร่วมงานต่างยิ้มแย้มและแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว แพรวพราวในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ เดินเคียงข้างเข็มทิศผู้สวมชุดสูทสีเทาเข้ม ทั้งคู่ต่างมองหน้ากันไปมาด้วยความรักลึกซึ้ง มือใหญ่ของเข็มทิศกอบกุมมือบางไว้ไม่หยุดเมื่อเข็มทิศและแพรวพราวเดินเข้ามาในพิธีแต่งงาน เข็มทิศกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงานด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลและมั่นคง "ผมขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมแสดงความยินดีกับเราในวันนี้ ผมเคยทำผิดพลาดจนเกือบจะต้องเสียแพรวไปจากชีวิตของผม วันนี้ผมได้หัวใจของผมคืนมาแล้ว ผมสัญญาว่าจะรักและดูแลพราวอย่างดีที่สุด จะทำให้เธอมีความสุขในทุกๆ วันครับ"คำพูดของเข็มทิศทำให้แขกทั้งหลายต่างปรบมือและส่งเสียงแสดงความยินดี แพรวพราวยิ้มอย่างเขินอาย รอยยิ้มกว้างใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความสุขฉายออกมาอย่างชัดเจน หญิงสาวกอดแขนของเข็มทิศแน่น ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยความรักและความซาบซึ้งคิมหันต์กับกุลนารีที่มาร่วมงานในชุดสูทสีดำที่ตัดเย็บอย่างประณีต ดูหล่อเหล
ตอนที่ 34 ข่าวดี ในช่วงบ่ายวันหนึ่ง แพรวพราวและเข็มทิศขับรถมุ่งหน้าไปยังบ้านของคิมหันต์ เมื่อมาถึงบ้านของชายหนุ่ม ทั้งสองคนก้าวลงจากรถและเดินเข้าไปในบ้าน บรรยากาศยามบ่ายที่บ้านของคิมหันต์และกุลนารีเต็มไปด้วยความเงียบสงบ เมื่อมาถึงคิมหันต์และกุลนารีนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น คิมหันต์เงยหน้าขึ้นมองทั้งสองคนที่เข้ามาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย “ทำไมวันนี้ถึงมาที่นี่ได้เล่า” คิมหันต์ทักทายแพรวพราว พร้อมปรายตามองเข็มทิศที่ยืนอยู่ด้านข้างอย่างไม่สบอารมณ์แพรวพราวทำเป็นไม่สนใจสีหน้าของคิมหันต์ หญิงสาวจูงมือเข็มทิศมานั่งด้านข้างคนทั้งสอง ก่อนจะยิ้มกว้างให้กับคิมหันต์และกุลนารี “พี่คิม คุณแอ้ พราวมีเรื่องสำคัญจะบอกค่ะ” คิมหันต์เลิกคิ้วมองน้องสาวด้วยความสงสัย “พราวมีเรื่องอะไรเหรอ” แพรวพราวสูดหายใจลึกๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคง “พี่คิมคะ พราวกับเข็มทิศตัดสินใจจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้ค่ะ” คำพูดนี้ทำให้ทุกคนในห้องเงียบลงไปชั่วขณะ กุลนารีมีสีหน้ายิ้มแย้ม เธอรู้สึกตื่นเต้นและดีใจกับข่าวที่ได้รับ หญิงสาวรีบแสดงความยินดีกับทั้งสอง
ตอนที่ 33 เรื่องของเราคิมหันต์และกุลนารีกลับออกมาจากห้องของแพรวพราว ความเงียบสงบในคอนโดตัดกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในใจของคิมหันต์ เมื่อถึงพวกเขาถึงที่รถ คิมหันต์เองที่ยังคงรู้สึกหงุดหงิดใจอยู่ไม่หาย เขายืนอยู่ข้างรถ เอามือเท้าสะเอว พลางมองไปรอบๆ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจกุลนารีมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง “พี่คิม คิดอะไรอยู่คะ”คิมหันต์หันมามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิด “พี่ไม่ชอบหน้าไอ้เข็มทิศเอาเสียเลย เชอะ...จะให้พี่ยอมรับงั้นเหรอ เข็มทิศทำให้พราวเกือบต้องตาย แล้วจะให้พี่วางใจง่ายๆ ได้ยังไง”กุลนารีมองค้อนคิมหันต์ ก่อนจะพูดประชดออกมา “พี่คิม อันที่จริงจะโทษเข็มทิศฝ่ายเดียวก็ไม่ถูกนะ เพราะจริง ๆ แล้วเรื่องทั้งหมดก็เริ่มมาจากพี่คิมไม่ใช่เหรอ”คิมหันต์ได้ยินถึงกับสะอึกไปทันที ชายหนุ่มมองหญิงสาวตาละห้อย ก่อนจะรีบโอบร่างบางเข้าหา “แอ้กำลังโทษพี่เหรอ” เสียงออดอ้อนทำเอากุลนารีถึงกับอ่อนใจ หญิงสาวได้แต่เบนหน้าหนี “แล้วแอ้พูดผิดตรงไหนกัน” เสียงหญิงสาวยังคงกล่าวออกมาด้วยความงอน ชายหนุ่มถึงกับไปไม่เป็น รีบแก้ตัว “เพราะพี่รักแอ้หรอกนะ ถ้าพี่ไม่ทำอย่างนั้น วันน
ตอนที่ 32 เผชิญหน้าในเช้าวันต่อมา แสงแดดยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องของแพรวพราว บรรยากาศอบอุ่นและสงบ เข็มทิศลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเบิกบาน ชายหนุ่มหันมองหน้าหญิงสาวในอ้อมกอด เขาเผลอยิ้มขึ้นมาในทันใด มือหน้าลูบไล้เส้นผมที่ปรกลงบนใบหน้าอย่างรู้สึกเอ็นดู เขาเหม่อมองใบหน้านวลเนิ่นนานอย่างรู้สึกโล่งใจ บัดนี้เขารับรู้ความรู้สึกที่ตนมีต่อหญิงสาวถึงความเสน่หาอย่างแท้จริงทันใดนั้นเสียงกริ่งประตูดังขึ้นทำให้เข็มทิศชะงักมือลง แพรวพราวยังคงงัวเงียด้วยความอ่อนเพลียอยู่อย่างนั้น ชายหนุ่มได้แต่นึกเอ็นดู เขาค่อย ๆ ขยับตัวลงจากเตียงอย่างเงียบ ๆ เพื่อไม่ให้รบกวนหญิงสาวตรงหน้า เข็มทิศที่ยังสวมเสื้อผ้าไม่เรียบร้อยเดินมาเปิดประตู ทันทีที่เห็นแขกมาเยือนเขาก็ได้แต่ชะงักงันลงไปคิมหันต์ที่ถือข้าวของมาอย่างพะรุงพะรังนิ่งอึ้งไป เขาเกือบโยนข้าวของดังกล่าวแล้วกระโจนเข้าใส่ชายหนุ่มตรงหน้า คิมหันต์มองเข็มทิศด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ “นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”เข็มทิศมองคิมหันต์อย่างไม่เกรงกลัว “ผมค้างที่นี่” คำตอบของเขาทำเอาคิมหันต์ถึงกับบันดาลโทสะ ชายหนุ่มโยนของลงกับพื้นพร้อมปรี่เข้าหาเข็มทิศ “
ตอนที่ 31 ตามง้อเข็มทิศยังคงมาหาแพรวพราวที่โรงพยาบาลทุกวัน ชายหนุ่มรู้สึกถึงความเจ็บปวดในใจทุกครั้งที่เห็นแพรวพราวที่นอนอยู่บนเตียง ใบหน้าของเธอดูสดใสขึ้นแม้จะยังซีดเซียวอยู่ แต่แพรวพราวก็ยังคงปากแข็งไม่ยอมคืนดีด้วย ทุกครั้งที่เข็มทิศเอ่ยปากขอโทษและพยายามอธิบายความรู้สึกของตัวเอง แพรวพราวก็เพียงแค่เบือนหน้าหนีและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เข็มทิศ คุณกลับไปเถอะ ฉันไม่ต้องการเห็นหน้าคุณอีกแล้ว” แพรวพราวพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและแววตาแสดงถึงความงอนง้อคิมหันต์ยืนอยู่ข้างๆ เตียงผู้ป่วย เอาแต่มองเข็มทิศด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหมั่นไส้ “คุณควรจะเลิกมาที่นี่ได้แล้ว แพรวพราวต้องการคนที่ดีกว่าคุณ”เข็มทิศถอนหายใจหนัก ความรู้สึกท้อแท้เข้ามาท่วมท้นในใจเขา แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ “ผมรู้ว่าผมทำผิดพลาดมาก แต่ผมอยากให้พราวให้โอกาสผมอีกครั้ง”คิมหันต์ส่ายหน้าอย่างไม่พอใจ “โอกาส คุณเคยมีโอกาสแล้วแต่คุณก็ทำมันพัง คุณคิดว่าคุณสมควรได้รับโอกาสอีกครั้งหรือ”ในขณะที่สถานการณ์ดูเหมือนจะไม่ดีขึ้นเลย กุลนารีมองค้อนคิมหันต์อย่างไม่พอใจ หญิงสาวกระทุ้งแขนเข้าที่เอวชายหนุ่มอย่างแรง คิมหันต์ได้แต่มองกุลนารีตาละห้อย พร
ตอนที่ 30 ตามหาหัวใจ ในขณะเดียวกัน กุลนารีและคิมหันต์เดินกลับมาที่ห้องพักผู้ป่วยของแพรวพราว กุลนารีมองหญิงสาวที่นอนบนเตียงด้วยความสงสารและเห็นใจ เธอรับรู้ถึงความรู้สึกที่เจ็บปวดที่แพรวพราวต้องเผชิญและหวังว่าเธอจะกลับมามีชีวิตที่มีความสุขได้อีกครั้ง คิมหันต์ที่ยืนอยู่ข้างๆ กุลนารี เขามองดูน้องสาวด้วยความเห็นใจ ชายหนุ่มรู้สึกผิดที่เขามีส่วนทำให้แพรวพราวต้องเผชิญกับเรื่องร้ายๆ เช่นนี้“คุณพราว คุณพักผ่อนเสียก่อนเถอะ แอ้เชื่อว่าเข็มทิศต้องคิดได้ในเร็ว ๆ นี้แน่” กุลนารีปลอบใจแพรวพราวที่ยังคงนอนหันหลังให้กับพวกเขา"พราว พี่ไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างนี้ พี่ขอโทษ" คิมหันต์พูดเสียงเบา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “พราวอยากอยู่คนเดียว พี่คิมพาคุณแอ้กลับไปก่อนเถอะ” เสียงแผ่วเบาที่ส่งผ่านมา สะท้อนความรู้สึกว่างเปล่าและเลื่อนลอยของแพรวพราว คิมหันต์และกุลนารีต่างมองหน้ากันและกัน ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินไปลูบศีรษะของแพรวพราวอีกครั้งอย่างปลอบโยน “งั้นพรุ่งนี้พวกเราจะมาใหม่ พราวอย่าได้คิดมากอีก พักผ่อนให้เยอะ ๆ นะ” แพรวพราวยังคงนิ่งเงียบไม่ได้ตอบสิ่งใดออกมา
ตอนที่ 29 ร่องรอยของความเจ็บปวดเข็มทิศยังคงนั่งนิ่งอยู่ในรถด้วยความรู้สึกสับสน ชายหนุ่มหายใจเข้าลึก ๆ พยายามสงบสติอารมณ์และทำใจให้สงบ แต่หัวใจที่เต้นรัวและความรู้สึกสับสนที่ไม่สามารถควบคุมได้กลับทำให้เขารู้สึกอึดอัดมากขึ้นเรื่อย ๆ ในหัวของเขามีภาพของกุลนารีและแพรวพราวสลับกันไปมา ชายหนุ่มไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองมากนัก เขารักกุลนารีอย่างเต็มหัวใจ แต่เมื่อได้รู้ว่าแพรวพราวอยู่โรงพยาบาล หัวใจเขาก็เหมือนถูกเข็มนับร้อยทิ่มแทงจนเขารู้สึกเจ็บปวดอย่างยากจะบรรยายเข็มทิศตัดสินใจเผชิญหน้ากับสิ่งที่เขาทำลงไป ชายหนุ่มตัดสินใจขับรถตรงไปยังโรงพยาบาล แม้จะยังไม่แน่ชัดในความรู้สึกของตัวเองก็ตาม เขาขับรถผ่านถนนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่กลับรู้สึกเหมือนทุกสิ่งรอบตัวกลายเป็นภาพเบลอ เสียงเพลงที่เคยทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายกลับทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด เข็มทิศปิดเพลงลงและตั้งใจขับรถไปยังจุดหมายเดียวคือโรงพยาบาลเมื่อมาถึงโรงพยาบาล เข็มทิศจอดรถและเดินเข้าไปในอาคารด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง หัวใจของเขาเต้นแรงและมือของเขาสั่นเล็กน้อยเมื่อเปิดประตูห้องผู้ป่วย ภาพที่ชายหนุ่มได้เห็นทำให้เขารู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบค
ตอนที่ 28 ตามทวงคืนคิมหันต์ที่กำลังร้อนใจอย่างถึงที่สุด เขาขับรถด้วยความเร็วตามเส้นทางที่ปรากฏในมือถือ “เข็มทิศ ฉันไม่เอานายไว้แน่” “แอ้ คุณอย่าเป็นอะไรนะ” ความคิดวนเวียนในหัวไม่หยุดยิ่งทำให้ชายหนุ่มแทบคลั่งจนจะเป็นบ้าขณะนั้นเอง เข็มทิศที่จอดรถอยู่ข้างทาง ชายหนุ่มมองกุลนารีด้วยหัวใจที่แตกสลาย เขาไม่เคยคิดว่าหญิงสาวจะเปลี่ยนใจจากเขาได้ แต่เมื่อเห็นท่าทางร้องไห้เจ็บปวดเช่นนี้ เขาก็ไม่อาจตัดใจทำร้ายเธอไปมากกว่านี้ ความเงียบงันบังเกิดในรถแคบ ๆ คงมีเพียงเสียงสะอื้นไห้ของกุลนารีที่ดังออกมาเป็นพัก ๆคิมหันต์ที่ขับรถตามมาถึง เขามองเห็นรถของเข็มทิศที่จอดอยู่ข้างถนน เขารีบลงจากรถและวิ่งเข้ามาหาพร้อมเปิดประตูแล้วดึงมือกุลนารีลงจากรถทันที"แอ้ คุณเป็นอย่างไรบ้าง" คิมหันต์พูดด้วยเสียงที่เป็นกังวล คราบน้ำตาที่เปอะเปื้อนใบหน้าทำเอาชายหนุ่มรู้สึกโกรธเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว “เข็มทิศ นายกล้ามานะ” คิมหันต์กล่าวด้วยเสียงขู่อาฆาตพร้อมจ้องมองเข็มทิศตาเขม็ง ถ้าไม่เป็นเพราะหญิงสาวในอ้อมกอด ชายหนุ่มคงจะเดินเข้าไปตะบันหน้าชายตรงหน้าเสียแล้วเข็มทิศหันมามองคิมหันต์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคืองแค้นเช่นกัน "ถ้าผ