สองสายตาสอดประสานกันหนึ่งยินดีหนึ่งว่างเปล่า...สงกรานต์และจันทร์ฉายยืนเผชิญหน้ากัน ต่างคนต่างมองไม่มีใครหลบสายตาใคร สงกรานต์มองสบตาหญิงสาวด้วยสายตาลึกซึ้ง แววตาของเขามันผสมปนเปกันไปหมด ทั้งห่วงหาอาทร ทั้งรักใคร่และคิดถึง ส่วนจันทร์ฉายเธอมองเขาด้วยแววตาราบเรียบว่างเปล่าก่อนจะเปลี่ยนเป็นแปลกใจสุดท้ายก็กลับมาราบเรียบตามเดิมแววตาของจันทร์ฉายที่มองมานั้นทำให้ชายหนุ่มรู้สึกใจกระตุก เขารู้สึกขมปร่า ก่อนจะสลัดความรู้สึกนั้นทิ้งแล้วยิ้มให้เธออย่างดีใจ “ฉาย...กลับมาแล้วเหรอครับ พี่รอฉายตั้งนาน” สงกรานต์เอ่ยปากถามหญิงสาวด้วยรอยยิ้มกว้าง ก่อนที่เขาจะหุบยิ้มลงเมื่อได้ยินเสียงใครอีกคนดังขึ้นขัดการสนทนาระหว่างเขาและจันทร์ฉาย“ฉาย... งั้นวีกลับก่อนนะไว้เจอกัน”สงกรานต์มองคนพูดด้วยความไม่พอใจ ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไรเสียงของหญิงสาวก็ดังขึ้นพร้อมกับยิ้มให้ผู้ชายคนนี้อีกด้วย! “ขอบคุณมากนะวี กลับดี ๆ นะ เจอกันจ้า”หญิงสาวหันไปตอบเพื่อนสนิทด้วยรอยยิ้มเจิดจรัส สงกรานต์ที่มองอยู่ก็ยิ่งรู้สึกไม่ชอบและไม่พอใจว่ากันว่าเมื่อความรู้สึกและความคิดตรงกันร่างกายก็จะเกิดปฏิกิริยาอัตโนมัติ ดังนั้นร่างใหญ่ของเข
“เย็นนี้ผมขอทำอาหารให้ฉายทานได้ไหมครับ” หลังจากที่ถอนสายตามาจากตัวบ้านแล้วชายหนุ่มก็เอ่ยปากขออนุญาตเจ้าของบ้านทันที แน่นอนว่าท่านทั้งสองอนุญาต ดังนั้นชายหนุ่มจึงรีบคิดถึงอาหารที่หญิงสาวชื่นชอบตกเย็นชายหนุ่มก็เริ่มลงมือเข้าครัวทำอาหารที่หญิงสาวชื่นชอบและแน่นอนว่าเขาคำนึงถึงลูกที่อยู่ในท้องของเธอด้วยชายหนุ่มยืนทำอาหารโดยมีคุณยายเป็นคนชี้แนะและกำกับอีกที ไม่นานอาหารที่ชายหนุ่มปรุงก็เสร็จเรียบร้อยหน้าตาน่ารับประทานรสชาติคุณยายบอกว่าผ่าน แต่คนที่เขาอยากได้ยินคำชมหรือความคิดเห็นอย่างจันทร์ฉายไม่รู้จะว่ายังไง “ผมเอาเป็ดปักกิ่งมาอุ่นเลยนะครับ”“ได้ ตาสงอุ่นเลย เดี๋ยวยายไปตามตามารอที่ห้องครัวแล้วเดี๋ยวยายมาช่วยยกหม้อข้าวและจานออกไป”“ไม่ต้องครับ คุณยายนั่งรอที่โต๊ะทานข้าวได้เลย เดี๋ยวผมยกไปเองครับ” ชายหนุ่มพูดในขณะที่มือก็ตักอาหารที่เพิ่งทำเสร็จใส่ถ้วย รวมถึงตักอาหารที่อุ่นเสร็จเรียบร้อยจัดใส่จาน จากนั้นก็เริ่มยกทุกอย่างไปวางไว้ที่โต๊ะ“น่าทานเชียวนะตาสง แล้วเป็ดปักกิ่งของโปรดตาล่ะ”คุณตาที่มาถึงโต๊ะเห็นอาหารมากมายแล้วก็อดเอ่ยชมชายหนุ่มไม่ได้ สงกรานต์ที่ได้รับคำชมก็หลุดยิ้มก่อนจะตอบกลับไป
“สง เย็นมากแล้วก็นอนที่นี่แหละนะ” เสียงคุณตาของจันทร์ฉายเอ่ยบอกสงกรานต์ หลังจากที่เห็นว่าตอนนี้เย็นมากแล้ว แน่นอนว่าชายหนุ่มยิ้มรับอย่างอารมณ์ดี เพราะนี่ก็ตรงกับความต้องการของเขาเช่นกัน“ครับ ขอบคุณครับ”สงกรานต์ตอบรับพลางหันหน้าไปแย้มยิ้มกว้างให้กับคุณตาคุณยายจนจันทร์ฉายรู้สึกหมั่นไส้สงกรานต์ปรายสายตามามองแม่ของลูกด้วยแววตาระยับ จันทร์ฉายที่นั่งมองเขาอยู่ก่อนแล้วเมื่อเห็นแววตาเจ้าเล่ห์และสุขสมมองมาก็ชักสีหน้าใส่ ก่อนจะเดินหนีขึ้นห้องของเธอไป“ไม่ต้องมองตามด้วยสายตาละห้อยหรอก ง้อหลานยายให้ได้ก่อนแล้วจะให้ไปนอนที่ห้องฉายนะพ่อสงนะ ตอนนี้ก็นอนห้องเก่าที่เคยนอนไปก่อนก็แล้วกัน” คุณยายเอ่ยอย่างรู้เท่าทันสงกรานต์หันมายิ้มแห้งให้พร้อมกับก้มหน้าหลบสายตาของทั้งสอง เนื่องจากรู้สึกกระดากอายที่ทั้งสองรู้ทันความคิดตัวเอง แล้วจึงลุกขึ้นเก็บถ้วยจานไปล้างที่ห้องครัวสองตายายมองตามหลังชายหนุ่มก่อนจะหลุดขำออกมาพร้อมกันด้วยความเอ็นดู“ไปยาย ไปหาดูข่าวดูละครกันดีกว่า” คุณตาเอ่ยชวนภรรยาคู่ชีวิตที่อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า ก่อนที่ท่านทั้งสองจะเดินออกจากห้องทานข้าวไปด้านสงกรานต์ที่หลบหนีเข้ามาล้างจานในห้องครั
ด้านจันทร์ฉายหลังจากที่กลับเข้ามาในห้องนอนแล้ว เจ้าตัวก็ก้มหน้าเอามือลูบหน้าท้องนูน มุมปากยกยิ้มอย่างมีความสุข หันหลังไปมองบานประตูที่ปิดลงด้วยมือตัวเองอีกครั้งก็อดที่จะหลุดหัวเราะไม่ได้ ก่อนที่เธอจะพูดกับลูกน้อยในท้องว่า“แม่ขอเอาคืนพ่อหน่อยนะลูก ไว้แม่พอใจเมื่อไหร่ ค่อยดีกับพ่อกันเนอะ”บางคนอาจสงสัยและไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงไม่โกรธเขาอย่างที่ควร นั่นก็เพราะว่าหญิงสาวรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของสงกรานต์กับอรอุมา หรือแม้แต่ครั้งนั้นที่เขาหายไปทิ้งให้เธอรออยู่ที่บ้านของเขาโดยที่ไม่ยอมติดต่อมาจนเธอเป็นกังวล ไหนจะความรู้สึกต่าง ๆ ของเขาอีกแน่นอนคนแรกที่บอกเรื่องราวพวกนี้กับเธอคือคุณโกเมศและคุณสารภี คุณพ่อคุณแม่ของเขานั่นเอง คราแรกจันทร์ฉายก็ไม่ได้เชื่ออย่างเต็มร้อยนัก เพราะด้วยความที่ไปเจอเขานั่งทานข้าวและพูดคุยกันอย่างกะหนุงกะหนิงกับอรอุมา ภาพที่เห็นนั้นยากนักที่จะเชื่อ ในที่สุดจึงได้ตัดสินใจกลับบ้านเกิดซึ่งแน่นอนว่าพวกท่านทั้งสองไม่ยินยอม จนเธอต้องเสนอข้อตกลงด้วยการที่รับปากว่าจะโทรติดต่อกับพวกท่านไม่หายไปไหนขณะเดียวกันพวกท่านก็ต้องช่วยปิดบังว่าเธออยู่ที่ไหนจา
“ฉายครับมานั่งนี่สิครับ พี่ทำอาหารที่ฉายชอบด้วยนะวันนี้” วันนี้สงกรานต์ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าเพื่อเข้าครัวทำอาหารที่จันทร์ฉายชื่นชอบ โดยมีคุณยายของจันทร์ฉายคอยช่วยแนะนำดูแลเช่นเดิมจันทร์ฉายมองอาหารสองสามอย่างที่วางอยู่โต๊ะด้วยสายตาวาววับ ท้องของหญิงสาวเริ่มประท้วงแสดงอาการโดยการร้องออกมา สงกรานต์หลุดรอยยิ้มขำ จันทร์ฉายไม่ได้สนใจว่าเขาจะรู้สึกยังไง เธอเดินไปที่เก้าอี้ตัวเดิมก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาทานอาหารด้วยความอร่อยสงกรานต์มองภาพที่หญิงสาวทานอาหารฝีมือเขาด้วยรอยยิ้ม สีหน้าที่แสดงออกถึงความพอใจในรสชาติอาหารนั้นช่างน่ารักและทำให้เขามีความสุขเหลือเกิน เธอคงไม่รู้สินะว่าไอ้อาการที่ตักข้าวเข้าปากไปเคี้ยวไปยิ้มไปของเธอทำให้ผู้ชายอย่างเขามีความสุขมากแค่ไหนสงกรานต์ทานข้าวเงียบ ๆ ตักอาหารใส่จานของเธอบ้างในบางจังหวะ เพราะถ้าตอแยมากไปเกรงว่าแม่ของลูกจะโกรธมากกว่าพอใจ ครึ่งชั่วโมงผ่านไปมื้อเช้าแสนอร่อยก็จบลง“ตาสง รอบนี้จะอยู่นานแค่ไหนล่ะ” คุณยายของจันทร์ฉายเป็นคนเอ่ยถาม หลังจากที่เห็นชายหนุ่มออกมาจากห้องครัวแล้ว“จนกว่าจันทร์ฉายจะยอมดีกับผมนั่นแหละครับ” พูดจบก็มองไปยังจุดที่จันทร์ฉายนั่งอยู่ไปด
“มาแล้วเหรอวี”“อื้อ ไปกันเลยไหม”“ไปสิ”“ไปไหน!” สงกรานต์ที่มองจันทร์ฉายเดินเข้าไปหาผู้ชายคนอื่นก็มองด้วยความไม่พอใจ หากแต่ชายหนุ่มรู้ตัวเองดีว่าตอนนี้เขาจะทำอะไรมากไม่ได้ ครั้นพอได้ยินว่าทั้งคู่จะออกไปข้างนอกด้วยกันก็อดที่จะเอ่ยปากถามขึ้นมาไม่ได้จันทร์ฉายตวัดดวงตากลมโตของเธอมองจ้องสงกรานต์ด้วยสายตาที่แม้แต่เขาก็มองไม่ออก ว่าเธอมองเขาด้วยสายตาแบบไหน รู้แต่ว่าสายตาจันทร์ฉายที่มีให้เขาในขณะนี้มันไม่ดีเอาซะเลย“ไปเถอะวี อย่าสนใจเสียงนกเสียงกาเลย”สงกรานต์อ้าปากค้าง ไม่คิดว่าจันทร์ฉายจะพูดแบบนี้กับตัวเอง นอกจากไม่ตอบคำถามเขาแล้วยังจะเดินหนีเขาอีกด้วยสองขาของสงกรานต์รีบขยับตามหลังหญิงสาวก่อนจะคว้าข้อมือเธอมากำไว้หลวม ๆ ในขณะเดียวกันก็มองวีรภาพด้วยสายตากดดันไปด้วย“อย่ามามองวีด้วยสายตาแบบนั้นนะ” คำพูดของหญิงสาวทำร้ายความรู้สึกเขาอย่างจังจันทร์ฉายกำลังปกป้องผู้ชายคนอื่น สายตาตัดพ้อถูกส่งไปให้ร่างเล็ก แต่สิ่งที่ได้กลับมาแทนที่เธอจะสงสารกลับกลายเป็นสายตาความไม่พอใจแทน ทั้งยังดูเหมือนว่าจะไม่พอใจมากด้วย“ปล่อย”“ไม่”“บอกให้ปล่อยไง”“ไม่! พี่ไม่มีวันยอมให้ฉายไปกับมัน”“อย่าเรียกวีว่ามันนะ!”
หลายวันผ่านไป สงกรานต์สงบเสงี่ยมเจียมตัวมากขึ้น มากจนจันทร์ฉายแปลกใจ เพราะนี่มันไม่ใช่วิถีของเขาเลย แต่เธอก็ไม่ได้แสดงท่าทีสนใจเขามากนักหญิงสาวยังคงใช้ชีวิตตามปกติ เช้าทานข้าว สายก็ไปกินลมชมวิวกับเพื่อนสนิทอย่างวีรภาพ ครั้นพอเห็นหน้าของสงกรานต์เธอก็จะยิ่งแสดงความสนิทสนมกับวีรภาพมากขึ้น จนเขาหลบหน้าไปนั่นแหละ ถึงได้ทำตัวปกติ อย่างวันนี้ก็เช่นกัน“คุณสงอยู่ทานด้วยกันไหมครับ”“ไม่ต้องชวนหรอกน่าวี พี่สงทานเรียบร้อยแล้ว ลองชิมนี่ดูสิอร่อยนะ”ไม่พูดเปล่า มือบางของจันทร์ฉายก็ตักอาหารที่ตนชื่นชอบใส่จานให้วีรภาพด้วยวีรภาพมองหน้าจันทร์ฉายด้วยสายตาดุ ก่อนจะผินหน้าไปมองสงกรานต์ที่ยังยืนอยู่ข้างโต๊ะมองพวกตนอยู่ เขาส่งยิ้มแห้งให้ชายหนุ่มตรงหน้าเมื่อเห็นสายตาตัดพ้อและเศร้าสร้อยมองไปยังเพื่อนของตัวเอง ปากของวีรภาพกำลังอ้าเพื่อที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาก็ไม่มีโอกาสได้พูดเมื่อสงกรานต์ได้หันหลังเดินจากไปแล้ว ดังนั้นจึงได้หันกลับมาส่งสายตากดดันไปให้เพื่อนสนิทตัวเองแทน“อะไร” จันทร์ฉายถามพลางทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้จนชายหนุ่มหมั่นไส้“ถ้าคุณสงเขาไม่ง้อแล้วขับรถกลับกรุงเทพอย่ามาร้องไห้ให้เห็นนะ”“พูดอะไรน่ะ
‘มาตั้งแต่เห็นน้ำตาพี่ไหลอาบแก้มนั่นแหละค่ะ’ คำตอบของจันทร์ฉายทำให้สงกรานต์นิ่งอึ้งไป อับอายแล้ว อับอายเหลือเกินเวลานี้สงกรานต์รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นเด็กผู้ชายที่ร้องไห้งอแงแล้วเจอแม่จับได้ อุตส่าห์ตั้งใจหลบภาพบาดตาบาดใจมานั่งปลดปล่อยความรู้สึกปวดหนึบแค่คนเดียว ดันเจอคนที่เขาไม่อยากให้เธอรู้ว่าตัวเขาเองร้องไห้เพราะเธอมากที่สุดอีกแล้วทีนี้เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน!แล้วดูสายตาที่มองมานั่นอีก สายตาที่มีแววหยอกเย้าและล้อเลียนนั่นคืออะไร! นี่เธอคงไม่คิดว่าเขาอ่อนแอใช่หรือไม่เฮ้อ! ไม่เป็นไรเห็นแล้วก็ไม่เป็นไร ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เขาจะบอกความรู้สึกตัวเองให้เธอได้ฟังตอนนี้แหละ“ว่าไงคะ ถามไม่ตอบ ไม่อยากคุยกับฉายแล้วเหรอคะ”จันทร์ฉายเอ่ยถามพร้อมขมวดคิ้วเป็นปม ชายหนุ่มส่ายหน้าก่อนจะรีบตอบไปว่า ‘ไม่ใช่’ เพราะกลัวว่าเธอจะเข้าใจผิด“แล้วทำไมไม่ยอมตอบ... อายเหรอคะ”ไม่พูดเปล่า จันทร์ฉายยื่นหน้าเข้ามาหาชายหนุ่มแล้วมองสบสายตาคมดุที่ยังมีริ้วหยดน้ำตาคลออยู่ในหน่วยตาด้วย มุมปากของหญิงสาวยกขึ้นจนทำให้สงกรานต์รู้สึกมันเขี้ยว ขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกเก้อกระดากเช่นกัน ที่คนที่เขาอยากปกป้องมาเห็นน้ำตาของต
2 วันต่อมาในที่สุดวันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง หลังจากที่จันทร์ฉายนอนโรงพยาบาลได้สองวัน หญิงสาวก็ได้รับสัญญาณว่าตัวเองจะคลอดแล้ว น้ำคร่ำหญิงสาวแตกออกเยอะมาก สงกรานต์ก็รีบกดกริ่งเรียกพยาบาล พร้อมทั้งขอเข้าไปในห้องคลอดกับคนรักด้วย หลังจากได้รับอนุญาตเขาก็โทรบอกครอบครัวเขาและเธอก่อนจะรีบไปเปลี่ยนชุด และเข้าไปอยู่ข้าง ๆ จับมือเธออย่างรวดเร็ว“โอ๊ย เจ็บ ฟู่วว!” จันทร์ฉายพูดขึ้นยามเมื่อถูกพาเข้ามาในห้องคลอดแล้ว เธอหันไปสบสายตากับคนรัก แล้วก็พบสายตาแห่งความรักความอบอุ่นมองสบมา“คุณแม่สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วเบ่งออกมาเลยนะคะ” เสียงคุณหมอที่เป็นคนทำคลอดเอ่ยบอก“อื้ออออออ!”เสียงเบ่งหายใจดังออกมาจากลำคอของจันทร์ฉาย เธอหอบจนตัวโยน“ฉายครับเบ่งอีกนะครับ เราจะได้เจอหน้าลูกแล้วสู้ ๆ นะครับ” สงกรานต์รีบเอ่ยบอก มือก็จับมือไว้แน่น“คุณแม่ไม่ต้องกลั้นเสียงตอนเบ่งไว้นะคะ สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วเบ่งออกมาปลดปล่อยเสียงได้เต็มที่ มันจะทำให้คลอดง่ายขึ้นนะคะ” คุณหมอนำคลอดเอ่ยบอก มือก็สาละวนอยู่ที่ช่องคลอดของหญิงสาว“เอานะครับ พร้อมนะฉาย หนึ่ง สอง สาม”“กรี๊ดดดด!” เธอเบ่งคลอดพร้อมคิดออกมา เหงื่อกาฬไหลพราก ด
หลายเดือนผ่านไปในที่สุดอายุครรภ์ของจันทร์ฉายก็ครบเก้าเดือนแล้ว ตอนนี้ท้องของจันทร์ฉายนูนออกมามาก แม้จะไม่ใหญ่เท่าท้องคนอื่น แต่ก็ใหญ่มากแล้วสำหรับท้องแรกหรือที่เรียกว่าท้องสาวตั้งแต่ท้องของเธอมีขนาดใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม สงกรานต์ก็แทบจะไม่ห่างกายหญิงสาวอีกเลย เขาหอบงานมาทำที่บ้านถ้าไม่มีธุระสำคัญหรือด่วนจริง ๆ เขาจะไม่ยอมทิ้งเธอไปไหนชายหนุ่มทำหน้าที่สามีได้ดีมาก ๆ และเขาก็ดูแลเธอดีมากเช่นกัน ว่ากันว่าคนท้องมักปวดเมื่อยตามร่างกายโดยเฉพาะเท้าและหลัง ชายหนุ่มก็ไปเรียนนวดกับคุณหมอ เขาได้คำแนะนำมามาก แล้วก็เอาความรู้ที่ตัวเองได้เรียนมาปรนนิบัติให้กับหญิงสาวคนรักจันทร์ฉายรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก ๆ ที่มีชายหนุ่มอยู่เคียงข้างกาย การมีคนดูแลและเอาใจใส่ตัวเองมากขนาดนี้ แน่นอนว่าย่อมต้องมีความสุข และจะมีความสุขมากขึ้นไปอีกเมื่อคนคนนั้นเป็นคนที่เธอรักและรักเธอแต่ก็ว่าเถอะนะ การมีคนดูแลและใส่ใจมันก็ดี แต่ว่าก็ต้องตั้งอยู่ในความพอดีด้วย ไม่ใช่ว่าห้ามไปซะหมดเหมือนกับสงกรานต์ ที่ไม่ยอมให้เธอทำอะไรเลย จนบางครั้งก็ทำให้เธอรู้สึกเบื่อไปเหมือนกัน เหมือนตอนนี้“ฉาย จะไปไหนก็บอกพี่สิครับ พี่จะได้พาไป เดินไ
ตกเย็นจันทร์ฉายก็อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย เมื่อเห็นว่าหกโมงเย็นแล้วยังไม่มีทีท่าว่ารถของสามีตีทะเบียนจะเข้ามา ก็อดรู้สึกเป็นห่วงไม่ได้ หญิงสาวออกมานั่งรอเขาที่ศาลาหน้าบ้าน ชะเง้อคอมองไปทางประตูรั้วบ่อยครั้ง“แปลกจริงวันนี้ตาสงกลับช้า”“นั่นน่ะสิคะคุณแม่ ทุกทีห้าโมงเย็นก็ถึงบ้านแล้วนี่นา” เธอตอบด้วยความกระวนกระวายใจ จนคุณสารภียิ้มขำ“หนูฉายไม่ต้องเป็นห่วง แม่คิดว่าคงไม่เป็นไรหรอกน่าจะเร่งทำงาน เพราะเหมือนแม่ได้ข่าวว่างานเยอะมาก!”“หึ! สมน้ำหน้า เวลาบอกให้ไปทำงานก็ไม่ฟังเอาแต่จะอยู่ดูแลฉาย”“ตาสงเขาก็คงเป็นห่วงนั่นแหละ”“ฉายรู้ค่ะ แต่ว่าก็ควรทำหน้าที่ตัวเองไม่ให้ขาดตกบกพร่องสิคะ ที่สำคัญฉายอยู่บ้านกับคุณพ่อคุณแม่นะคะ เด็กในบ้านรวมถึงคนรถก็มี เขาห่วงฉายมากเกินไปค่ะ” แม้คำพูดจะเหมือนต่อว่าแต่น้ำเสียงนั้นกลับเต็มไปด้วยความรักคุณสารภีมองลูกสะใภ้ด้วยความเอ็นดู ก่อนที่ท่านจะชวนเธอเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อไม่ให้หญิงสาวกังวลเรื่องของลูกชายท่านเกินไปนัก ไม่นานรถหรูคุ้นตาก็แล่นเข้ามาในรั้วบ้านก่อนจะขับเข้าไปจอดที่โรงจอดรถจันทร์ฉายมองสภาพหมดเรี่ยวแรงของสงกรานต์ด้วยสายตาสงสาร เธอเข้าไปถามไถ่ชายหนุ่มด้ว
“นี่มันอะไรครับ”“ก็งานของคุณสงไงคะ”“ผมรู้ว่ามันเป็นงาน แต่ทำไมถึงเยอะแบบนี้ ตอนผมอยู่บ้านคุณก็หอบเอางานมากมายไปให้ผมทำอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ“ค่ะ... แต่งานที่ดิฉันเอาไปให้คุณสงที่บ้านนั้น ส่วนใหญ่เป็นงานสำคัญที่ต้องรีบดำเนินการซึ่งไม่อาจรอได้ค่ะ ส่วนงานที่อยู่บนโต๊ะคุณสงทั้งหมดในตอนนี้ล้วนเป็นรายละเอียดงานยิบย่อยที่สามารถรอได้ ดิฉันจึงไม่ได้นำไปให้คุณสงทำที่บ้าน ดังนั้นมันจึงมากมายอย่างที่คุณสงเห็น”“แต่งานพวกนี้มันก็ไม่ได้ยากมากมายอะไรนะคะ เพราะดิฉันจัดการข้อมูลเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว รอแค่คุณสงตรวจสอบและเซ็นชื่ออนุมัติก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ความจริงมันเยอะกว่านี้อีกนะคะ แต่ดิฉันเข้าใจว่าคุณสงรีบกลับไปหาน้องฉาย ดังนั้นวันนี้จึงมีเท่านี้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยเริ่มกองใหม่ค่ะ”สงกรานต์ที่ได้ฟังคำตอบจากเลขาส่วนตัวก็อ้าปากค้าง พลางก้มมองเอกสารที่อยู่ตรงหน้า‘กองเบ้อเริ่มขนาดนี้ก็ว่าเยอะแล้ว นี่ยังบอกว่ายังไม่หมดและมีรออยู่อีกเหรอ ตาย ๆ ๆ งานเยอะขนาดนี้จะกลับบ้านเร็วได้ยังไงเล่า!’ชายหนุ่มได้แต่บ่นภายในใจคนเดียว แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าของเขาก็แสดงความรู้สึกออกมาจนเมธ
“พี่ไม่อยากไปเลยฉาย ให้พี่อยู่กับฉายหนึ่งวันนะ” สงกรานต์มีท่าทีไม่อยากไปทำงาน พร้อมทั้งขอร้องหยุดอยู่บ้านกับเธออีกหนึ่งวัน“ไม่ได้ค่ะ พี่สงเกเรไม่ยอมไปทำงานหลายวันแล้วนะคะ”“ขอวันนี้อีกแค่วันเดียวนะ นะครับ”“ไม่ได้ค่ะ ฉายไม่ยอมเด็ดขาด ถ้าวันนี้พี่สงไม่ไปทำงานก็นอนนอกห้องไปเลย” หญิงสาวยื่นคำขาดจนชายหนุ่มหน้าเสียสงกรานต์รู้สึกไม่ยินยอม เขาอยากอยู่กับจันทร์ฉาย อยากดูแลเธอ แล้วทำไมเธอไม่เข้าใจเขาบ้างนะ ชายหนุ่มขบคิดหาทางออกให้ตัวเอง ก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์“ถ้าพี่ไปทำงานแล้วใครจะดูแลฉายล่ะครับ ดูสิตอนนี้ฉายท้องโตแล้วนะ เดินเหินก็ยาก พี่ว่าให้พี่อยู่ดูแลฉายดีกว่า”“ไม่! ถ้าพูดไม่ฟังล่ะก็นอนนอกห้องไปเลย”พูดจบหญิงสาวก็สะบัดตัวหนีจากอ้อมกอดของเขาพร้อมทั้งเดินออกไปนอกห้องอย่างรวดเร็วสงกรานต์มองตามร่างภรรยาตีทะเบียนที่เขาทั้งรักและหลงเธอด้วยสายตาตัดพ้อ แถมยังบืนปากขัดใจที่ไม่สามารถทำตามความต้องการของตัวเองได้จันทร์ฉายน่าจะเข้าใจเขาสักนิด ว่าที่เขาต้องการอยู่กับเธอก็เพราะว่ารักและเป็นห่วงเธอกับลูกในท้องทั้งนั้น ตอนนี้ตัวเธอเองก็ท้องโตมากแล้ว แม้ว่าจะไม่ได้เดินอุ้ยอ้ายอย่างคุณแม่คนอื่น ๆ เพราะ
‘ตกลงครับ เลื่อนไปก่อนได้ รอจนกว่าเจ้าตัวเล็กจะคลอดและอายุครบสามปีเดินได้คล่อง เราค่อยแต่งงานกัน แต่ว่า... ฉายต้องจดทะเบียนสมรสกับพี่นะครับ หากไม่ตกลงข้อเสนอของฉายก็ถือว่าเป็นโมฆะ’‘ฉายกับพี่ต้องจดทะเบียนสมรสกัน หากฉายไม่ตกลง งานแต่งงานจะถูกจัดขึ้นทันที’ประโยคนี้คือคำพูดของสงกรานต์ที่ได้พูดไว้ในวันที่ครอบครัวของเขามาทำการสู่ขอเธอวันนั้นหลังจากที่ได้ฟังเธอก็ได้แต่ยิ้มค้างไว้จนได้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่เจือความเอ็นดูจากผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย เมื่อไม่อาจปฏิเสธอะไรได้เธอจึงได้ตอบตกลงเขาไป ซึ่งหลังจากนั้นเจ็ดวันให้หลัง เธอและเขาต้องมาอยู่ที่นี่ในวันนี้ ณ ที่ว่าการอำเภอหลังจากที่สงกรานต์ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรสกับจันทร์ฉายแล้ว ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ก็กำลังรอเจ้าหน้าที่บันทึกและตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ อยู่อย่างสงบระหว่างรอสงกรานต์ก็เอาแต่สนใจและกุมมือจันทร์ฉายไว้ไม่ปล่อยเช่นกัน จวบจนกระทั่งเจ้าหน้าที่เรียกชื่อพวกเขาเพื่อสอบถามข้อมูล ชายหนุ่มถึงได้หันไปให้ความสนใจกับเจ้าหน้าที่ทะเบียน“ไม่ทราบว่าพวกคุณแต่งงานกันวันไหนครับ”“ยังไม่แต่งครับ”คำตอบของชายหนุ่มทำให้เจ้าหน้าที่ชะงักเล็กน้อยแต่ก็
2 ชั่วโมงต่อมา บรรยากาศภายในบ้านของจันทร์ฉายเต็มไปด้วยความชื่นมื่น รอยยิ้มและเสียงหัวเราะสอดประสานกันขึ้นคนนั้นทีคนนี้ที และคนที่มีความสุขที่สุขจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากสงกรานต์ที่ตอนนี้นั่งยิ้มจนมุมปากแทบจะฉีกถึงรูหูในขณะที่ผู้หลักผู้ใหญ่ต่างวัยทั้งสี่คนกำลังพูดคุยทำข้อตกลงและเสนอสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับชายหญิงทั้งสอง สงกรานต์ก็เอาแต่นั่งกุมมือของหญิงสาวไว้ไม่ยอมปล่อย บางครั้งเขาก็ร่วมเสนอด้วย ส่วนจันทร์ฉายแม้ว่าเธอจะรู้สึกหมั่นไส้ชายหนุ่มที่ดีใจจนออกนอกหน้าทว่าเธอก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรเขา เพราะตอนนี้เธอก็กำลังดีใจและมีความสุขเช่นกัน“หนูฉาย หนูคิดว่ายังไง พร้อมแต่งกับลูกชายแม่หรือยัง”ใช่แล้ว ที่ครอบครัวของชายหนุ่มมาวันนี้นั่นก็เพราะมาทำธุระสำคัญอย่างการ ‘สู่ขอ’ หญิงสาวจากผู้ปกครองของเธอนั่นเอง ทั้งยังขอโทษขอโพยเรื่องที่ลูกชายของพวกท่านทำหญิงสาวท้องก่อนเวลาอันสมควรด้วย“ว่าไงจ๊ะ”“แต่งเลยครับแม่ ไม่ต้องรอแล้ว ผมพร้อมมาก”สงกรานต์พูดแทรกทันที ตอนนี้เขาไม่อยากรออะไรอีกแล้ว เขาอยากแต่งงานกับเธอและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขเสียที“เอ๊! ตาสงนี่ยังไง แม่ถามน้องนะไม่ได้ถามแก เงียบไปเ
และแล้วแผนการที่วางไว้ในค่ำคืนที่ผ่านมาที่ชายหนุ่มคิดจะไปนอนกอดหญิงสาวในห้องของเธอก็ไม่สำเร็จ สุดท้ายเขายังต้องนอนคนเดียว เพราะหญิงสาวอ้างว่าเกรงใจตากับยาย!ด้วยเหตุนี้วันนี้เขาถึงได้อารมณ์ไม่ดีนักสงกรานต์ตื่นนอนด้วยความไม่เต็มใจ ท่วงท่าของเขาเต็มไปด้วยความอืดอาดยืดยาด วันนี้เขาแทบไม่อยากจะลุกจากที่นอนเลยด้วยซ้ำ เมื่อคืนนอกจากจะไม่ได้นอนกอดแม่ของลูกแล้ว เขายังต้องมานอนเหงาคนเดียวอีก บรรยากาศยามค่ำคืนก็ยังพร้อมใจให้เขารู้สึกเหงามากขึ้นไปอีกขั้น หากถามว่าบรรยากาศแบบไหนก็ต้องบอกว่า จู่ ๆ ฝนก็ตก ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ฤดูกาลของมัน อารมณ์เหงาเศร้าใจเคล้าบรรยากาศฝนตกช่างเข้ากันจริง ๆ ดังนั้นกว่าจะหลับก็ดึกมากแล้ววันนี้พอถูกหญิงสาวเข้ามาปลุกเขาจึงได้เล่นตัวกับเธอ เพราะยังงอนที่เธอไม่ให้นอนด้วยเมื่อคืนอยู่นั่นเอง“พี่สงอย่ามางอนนะคะ ตื่นได้แล้ว!” จันทร์ฉายพูดออกมาพลางข่มกลั้นอารมณ์ไว้ เธอรู้ดีว่าเขาเป็นอะไรสิ่งที่สงกรานต์เป็นตอนนี้เรียกว่า อาการเรียกร้องความสนใจจะไม่ให้เธอมั่นใจได้ยังไงก็ลักษณะท่าทางที่เขาเป็นอยู่ คือลักษณะท่าทางของคนที่พยายามเรียกร้องความสนใจชัด ๆ“โตแล้วนะคะไม่ใช่เด็ก อย่ามา
“ทำไมไม่มาหาเราเลย หายไปหลายวัยเลยนะ”จันทร์ฉายพูดอย่างแง่งอน เพราะตั้งแต่วันที่วีรภาพพูดให้เธอได้คิดและแนะนำให้เธอพูดคุยกับสงกรานต์ด้วยเหตุผล เจ้าตัวก็หายหน้าหายตาไปเลยวีรภาพยกยิ้มบางก่อนตอบออกไปว่า “ก็ที่หายไปเพราะว่าต้องรีบไปจัดการเอกสารต่าง ๆ ที่จะใช้เดินทางน่ะ”“เดินทาง... นี่วีจะไปต่างประเทศแล้วเหรอ ?”“ใช่ เห็นทีเราคงไม่ได้มาร่วมงานแต่งของฉายแล้วแหละ” วีรภาพพูดอย่างรู้สึกผิด จันทร์ฉายเห็นดังนั้นก็รีบปลอบ“ไม่เป็นไร เราไม่ว่าอะไรหรอก อีกอย่างเราไม่คิดแต่งงานเร็ว ๆ นี้”“อ้าว ทำไมล่ะ” วีรภาพถามอย่างไม่เข้าใจ ในเมื่ออะไรหลาย ๆ อย่างก็ลงตัวแล้ว ก็สมควรแต่งงานไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงไม่แต่งล่ะ คิดกี่ครั้งก็ไม่เข้าใจจริง ๆ“เรามีเหตุผลนะ” จันทร์ฉายไม่ตอบ เธอเพียงส่งยิ้มซุกซนให้เพื่อนสนิทเท่านั้น“แล้วที่มาหาเรานี่คือจะมาบอกแค่นี้”“ใช่แล้วล่ะ อาทิตย์หน้าเราก็ต้องเดินทางแล้ว เห็นว่าจะมีการสัมมนาอะไรสักอย่างนี่แหละ เราเลยต้องไปเร็วกว่ากำหนดเดิม”วีรภาพอธิบาย จันทร์ฉายกำลังจะเปิดปากถาม สงกรานต์ก็เข้ามาขัดซะก่อน“น้ำส้มและคุกกี้ได้แล้วครับ ฉาย... เมื่อกี้เหมือนคุณยายจะเรียกหาฉายนะ ฉายไปหา