ดวงตาที่หลับลงเมื่อครู่ลืมขึ้น ดวงตากรอกไปมาเหมือนมองหาแต่ฝ้าขาวบดบังการมองเห็น ภาวนาปิดปากกลั้นสะอื้นด้วยความสงสารมารดา คุณเพทายเดินไปใกล้ๆ แล้วจับมือผอมๆ ของเพื่อนรักในอดีตขึ้นมาแล้วก้มลงพูดใกล้ๆ
“ฉันรู้ความจริงหมดแล้วภา ฉันขอโทษที่ทำร้ายเธอฉันมันโง่เองที่ให้ความโกรธความงี่เง่าของฉันมันทำร้ายเธอกับลูก ยกโทษให้กับความโง่เขลาของฉันนะภา”
“ดีใจจัง.. ขอบคุณ.. ฉันไม่เคยโกรธเธอเลย”
นางอาภายิ้มทั้งน้ำตา เสียงแหบพร่าเบาแสนเบาแต่คุณเพทายกับภาวนาก็ได้ยิน
“ขอบคุณที่เธอทำเพื่อฉัน อโหสิให้ฉันนะภา”
นางอาภาหายใจหอบขาดห้วงแต่ก็พยักหน้าช้าๆ ให้ ใบหน้าเปื้อนน้ำตานั้นเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม สิ่งที่ค้างคาในใจมาตลอดกว่าสามสิบปีมันได้มลายหายไปในบัดดล และความกังวลใดๆ ในใจก็ไม่มีติดค้างแล้ว ภาวนาได้ในสิ่งที่ปรารถนาซึ่งคนเป็นแม่ย่อมรู้ดีว่าลูกของตนจะสามารถดูแลตัวเองได้
“ฝากพราวด้วยนะ พราวแม่รักพราวนะลูก”
“พราวก็รักแม่ค่ะ แม่หลับให้สบายนะคะ
ตอนที่46.คุณเพทายนั่งลงข้างๆ ลูกชายที่ขยับตัวนั่งแต่แผ่นหลังกว้างกลับคู่ลงข้อศอกทั้งสองข้างชันบนเข่า ท่าทางตอนนี้ของแพทริกไม่เหลือคราบนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่เก่งฉกาจทั้งเรื่องงานและเรื่องรักเลยแม้แต่น้อย มีเพียงชายหนุ่มขี้เมามอซอเท่านั้น..“คุณแม่มีอะไรหรือครับ”“แม่มีความจริงจะบอก..” แล้วคุณเพทายก็ตัดสินใจพูดในสิ่งที่นางเองก็ยังไม่กล้าที่จะพูดกับหญิงสาวคนนั้น คนที่ทำให้นางกับลูกชายต้องมานั่งทุกข์เพราะทิฐิในใจ เพราะตั้งแต่สิ้นสุดงานศพของนางอาภา ภาวนาก็หายหน้าไปไม่แม้แต่จะติดต่อกลับมาและไม่มาขอความช่วยเหลือใดๆ จากพวกตนเลย ภาวนาทำเหมือนว่าได้ตายจากไปอีกคน ซึ่งคุณเพทายเองก็ยังคงรู้สึกประดักประเดิด คิดอยู่ว่าจะขอโทษภาวนาที่เคยทำอะไรๆ ที่ไม่ดีด้วย แต่ดูเหมือนหญิงสาวจะไม่ยอมรับและเมินเฉยต่อการปรากฏตัวของนาง เย็นชา.. นั่นคือสิ่งที่นางได้รับจากภาวนา ซึ่งนับว่าภาวนาเป็นคนที่จิตใจเข้มแข็งและหยิ่งทระนงมากทีเดียว...“พราวท้องหรือครับ ท้องกับใคร..” เป็นคำถามที่โง่ที่สุดเท่าที่แพทริกถามออกมา และค
ตอนที่47.“ก็ผู้หญิงคนนั้นไง ภาวนา คือเมียผมและเธอก็กำลังอุ้มท้องลูกของผมด้วย แต่บังเอิญเรามีเรื่องไม่เข้าใจกันนิดหน่อยเธอเลยโกรธผม” น้ำเสียงแสนมั่นใจและรอยยิ้มกว้างของเขาทำให้คนที่ใจเย็นและเก็บอารมณ์ได้ดีเช่นภาวนาถึงกับสติแตกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน“คนบ้า ฉันไม่ได้เป็นเมียใคร ไม่ได้อุ้มท้องลูกคุณและไม่ได้มีเรื่องค้างคาใจอะไรกับคุณด้วย”“จริงเหรอ.. พราวจะให้พี่บอกใครๆ ทั้งบางนี้เลยมั้ยล่ะว่าเราเป็นอะไรกัน” แพทริกรุกเข้าไปอีกขั้น“คุณมันก็พวกกินในที่ลับขับในที่แจ้ง ทุเรศที่สุด ออกไปจากร้านของฉันจะดีกว่า ฉันไม่อยากซวยแต่เช้า พี่เอกคะ รบกวนไล่พวกก่อกวนออกจากร้านด้วยนะคะ” พูดจบก็สะบัดหน้าเดินหนีไปหลังร้าน เป็นเอกหันมายิ้มเยาะแล้วผายมือไปที่ประตูเป็นการบอกว่าให้แพทริกออกไป“ผมจะง้อเมีย คุณจะขัดขวางพรากพ่อแม่ลูกเขาเหรอ”“โอ๊ย.. อยากหัวเราะ นี่คุณแพทริกคุณคงลืมอะไรไปนะครับ คุณไม่ได้แต่งงานกับพราว และคุณก็ไม่เคยให้เกียรติพราวในฐานะนี้มาก่อน พวกค
ตอนที่1.หญิงสาววัยยี่สิบสองปีนั่งพับเพียบอยู่กับพื้นด้วยท่าทางสงบนิ่ง ใบหน้าสะอาดสะอ้านประดับด้วยดวงตากลมโตหวานปนโศกอันเป็นจุดเด่นบนดวงหน้าแสนธรรมดาของเธอ จมูกโด่งเล็กเหมาะเจาะรับกับ ริมฝีปากอิ่มเต็มระเรื่อตามวัยสาวนั้นดูแห้งผากไร้สีสันทำให้ใบหน้าของเธอยิ่งดูเศร้าสร้อยและเย็นชืดเหมือนคนไร้ชีวิตวิญญาณ ร่างบอบบางสูงไม่ถึงร้อยหกสิบเซนติเมตรสวมเสื้อผ้าสีทึบทึมยิ่งทำให้ดูบอบบางหม่นหมองลงไปอีกราวกับว่าเธอคือศูนย์รวมของความเย็นชาและความโศกเศร้าทั้งมวลบนโลกนี้กระนั้น ศีรษะทุยสวยซอยผมสั้นเข้ารูปหน้าเรียวเล็กยิ่งทำให้เธอดูตัวเล็กราวเด็กหนุ่มแรกรุ่นมากกว่าหญิงสาวโตเต็มวัย“หวังว่าเธอคงไม่ปฏิเสธความหวังดีของฉันนะ อาภา”หญิงวัยห้าสิบสี่ใบหน้าสะสวยสมวัยแต่ดูเย็นชาและแข็งกระด้างนามว่า เพทาย พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่มีแววแห่ง ความหวังดี เช่นที่พูดเลยแม้แต่น้อย แต่ผู้ซึ่งนอนอยู่บนเตียงเก่าทรุดโทรมก็ยิ้มให้บางๆ“จ้ะ ขอบใจนะเพชรที่เมตตาฉันกับลูก”“แน่นอนล่ะ เพราะเราเป็นเพื่อนรักกันนี่นะ” อีกฝ่ายยิ้มเย็นเหมือนเย้ยหยันเสียมากกว่าจะรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ“ยังไงฝากยายพราวด้วยนะ แกเป็นเด็กดีมาก ยายพราวคือสมบั
ตอนที่2.“ผมไม่แต่ง..”“ทางเลือกของลูกมีแค่ทางเดียวคือแต่งงาน ไม่อย่างนั้นทุกอย่างที่ควรจะเป็นของลูกจะเป็นของผู้หญิงคนนั้น และอีกอย่าง งานแต่งงานจะมีขึ้นมะรืนนี้” พูดจบคุณเพทายก็เดินออกไปจากห้องทำงานของลูกชายที่ยืนอึ้งกับน้ำเสียงเยียบเย็นของมารดาเมื่อประตูปิดลงแพทริกก็ทิ้งตัวลงกับเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่อย่างสุดแสนเซ็งจากที่ไม่อยากแต่งงานก็กลายเป็นอยากเอาชนะและอยากเห็นหน้าผู้หญิงที่มารดาของเขาจะยกสมบัติมหาศาลให้เจ้าหล่อน ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร มีอะไรดีถึงขนาดที่คนเข้มงวดและค่อนข้างจะ เยอะ อย่างมารดาของเขาอยากได้มาเป็นสะใภ้“อยากจะรู้นักเธอเป็นใครมาจากไหน หึ คิดจะจับฉันไม่ง่ายหรอก...” ว่าแล้วชายหนุ่มก็โทรศัพท์หาลูกน้องคนสนิททันที“คาเมล ทำงานด่วนให้หน่อยฉันต้องการข้อมูลทั้งหมดในเย็นนี้”แล้วแพทริกก็บอกรายละเอียดคร่าวๆ ให้กับ คาเมล คนสนิทวัยยี่สิบเก้าซึ่งเป็นเสมือนน้องชายและมือขวาที่เก่งฉกาจแล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่ภาวนาไม่อยากจะก้าวขาออกจากบ้านแม้แต่ก้าวเดียว ทั้งที่เธอคิดมาตลอดเวลาที่จะออกไปจากบ้านหลังนี้ บ้านที่ไม่มีความสุขยามที่บิดาเมากลับมาพร้อมด้วยการโวยวายอาละวาดและทุบตีเธอกับมารดาจนเธ
ตอนที่3..“เชิญขึ้นรถครับ..” เสียงห้าวเข้มของชายหน้าตาขึงขังดังขึ้นทำให้ภาวนาสะดุ้งกะพริบตาปริบๆ มองเขางงๆ ชายคนนั้นจึงย้ำกับเธออีกครั้ง“ผมเป็นคนของคุณเพทายมารับคุณไปที่บ้านครับ”“อ้อ ค่ะๆ สวัสดีค่ะ” ภาวนาไหว้เขาอย่างงดงามจนทำให้คนที่ทำหน้าที่ขับรถมารับ เจ้าสาว ของเจ้านายถึงกับรับไหว้ไม่ทัน ภาวนายืนเก้ๆ กังๆ อยู่ข้างรถคันหรูที่เธอไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสนั่ง ตอนเธอเด็กๆ บิดาเคยมีรถยนต์แต่ไม่ได้หรูหราใหญ่โตแบบนี้ ธง เห็นท่าทางเงอะๆ งะๆ เหมือนไม่มั่นใจของเธอจึงรีบมาเปิดประตูให้“ขอบคุณมากนะคะ” หญิงสาวไหว้ขอบคุณเขาอีกครั้งแล้วเข้าไปนั่งในรถแอร์เย็นฉ่ำ“ของคุณผู้หญิงมีอะไรอีกมั้ยครับผมจะเก็บใส่หลังรถให้”ธงมองหญิงสาวในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนสีซีดรองเท้าคัทชูกลางเก่ากลางใหม่กับกระเป๋าใบเล็กใบเดียวอย่างไม่แน่ใจ“ไม่ค่ะ พราวมีแค่นี้” ใจจริงภาวนาอยากจะบอกว่าเธอไม่มีสมบัติอะไรเลยนอกจากเสื้อผ้าไม่กี่ชุดและเงินไม่กี่ร้อย“ครับ” ธงรับคำแล้วกลับไปนั่งประจำที่คนขับอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่กำลังจะไปเป็นเจ้าสาวมหาเศรษฐีอย่างคุณแพทริกจะไม่มีอะไรเลย หรือบางทีเจ้าหล่อนอาจจะไปหากอบโกยเอาข้างหน้าเห
ตอนที่4.“มาเถอะค่ะ พี่สุ่นจะพาไปที่ห้องคุณแพท มีของอะไรอีกมั้ยคะ”ภาวนาส่ายหน้าช้าๆ ยี่สุ่นถอนหายใจอีกครั้งแล้วยิ้มให้อย่างจริงใจก่อนจะลุกขึ้นพาสมาชิกใหม่ หรือจะเรียกให้ถูกก็คือ ทาส คนใหม่ของบ้านไปยังห้องของเจ้านายหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจ ขี้โวยวาย เข้มงวด และทรงเสน่ห์มากที่สุด..ภาวนาเดินไปยังเรือนเล็กในสวนตามที่คุณเพทายบอกไว้ด้วยความรู้สึกหนักอึ้งเธอรู้ดีว่าสิ่งที่กำลังเผชิญนั้นคืออะไร และก็ได้แต่ภาวนาว่าให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี เธอมีชีวิตใหม่แล้ว มีคนปกป้องให้พ้นจากคนชั่ว มีที่ซุกหัวนอน มีข้าวให้กินสามมื้อ และมารดาได้รับการรักษาที่ดี คิดบวกสิคิดบวก หญิงสาวเฝ้าบอกตัวเองเช่นนั้น แม้จะไม่มั่นใจเลยว่าจะคิดบวกได้อีกนานแค่ไหน ซึ่งท่าทางของภาวนานั้นคุณเพทายเฝ้าสังเกตตั้งแต่หญิงสาวเดินเข้ามาแล้ว“เอาล่ะ มารับรู้สิ่งที่เธอจะต้องทำในบ้านนี้เสียทีนะภาวนา”คุณเพทายเอกเขนกอิงหมอนใบสวยด้วยท่าทางสบายๆ ปากพูดแต่สายตาจับจ้องอยู่ที่หนังสือในมือ ภาวนานั่งลงกับพื้นอย่างสงบเสงี่ยมจนเมื่อผู้สูงวัยกว่าเหลืบตามองเธอลอดแว่นก่อนที่นางจะลุกนั่งตัวตรงบรรยากาศในเรือนรับรองโล่งโปร่งสบายตาด้วยเป็
ตอนที่5.พอใส่ปุ๋ยต้นไม้ให้กับ แม่สามี แล้วภาวนาก็ต้องรีบล้างไม้ล้างมือเดินไปยังห้องครัวด้วยความรีบร้อน ทำให้ชนกับหญิงสาวแต่งตัวสวยปราดเปรียวคนหนึ่งจนตัวเธอเองกระเด็นล้มไม่เป็นท่าอยู่กับพื้นหญ้า“ว้าย เดินยังไงกันยะไม่ดูรึไงว่าฉันเดินอยู่ตรงนี้”หญิงสาวคนนั้นหันมาเท้าสะเอวยืนค้ำหัวเธอน้ำเสียงเกรี้ยวกราด ใบหน้าที่แต่งมาอย่างดีบิดเบ้จนน่าขันแต่ภาวนาไม่มีอารมณ์ขัน“คุณต่างหากที่เดินไม่ดูคนที่นี่บ้านคนนะคะไม่ใช่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ภาวนาลุกขึ้นปัดเศษดินออกจากตัวแล้วจะเดินผ่านไป หากหญิงสาวคนนั้นไม่เรียกจิกเธอไว้เสียก่อน“หยุดนะนังขี้ข้า ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้เลยนะยะ”“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมฉันต้องขอโทษด้วย หากจะขอโทษเราก็ต้องขอโทษซึ่งกันและกัน” ภาวนาไม่ยอมแพ้ แม้ภายนอกเธอจะดูเงียบๆ หงอๆ แต่เธอก็ไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครรังแกได้ง่ายๆ หากเธอจะยอมเธอก็ยอมให้กับแค่บางคนและบางครั้งเท่านั้น“แต่แกเป็นขี้ข้าแกต้องขอโทษฉัน ฉันเป็นเมียเจ้าของบ้านนี้นะรู้เอาไว้ด้วย”คำพูดนี้ทำให้ภาวนายิ้มบางๆ กอดอกมองหญิงสาวที่แต่งตัวได้ไร้รสนิยมใจความคิดของตน เพราะนอกจากจะไม่สวยแล้วยังเหมือนว่าเจ้าหล่อนเอาเศษผ้าขาดๆ มาพั
ตอนที่6.ภาวนายังคงติดใจในคำพูดของผักหวานอยู่ไม่น้อย เกี่ยวกับเรื่องการ แก้แค้น ของคุณเพทาย ส่วนป้าอร่อยนึกขันคนไม่รู้ตัวว่าตัวเองสวย“อย่าไปสนใจมันเลยค่ะ มันก็เพ้อเจ้อไปเรื่อย คุณพราวทำอาหารเป็นไหมคะ มาช่วยป้าทางนี้ดีกว่า” ป้าอร่อยตัดบททำให้ภาวนาจำต้องเดินไปหานาง“พราวทำอาหารเป็นค่ะและชอบทำมาก พราวอยากเป็นเชฟในโรงแรมหรือร้านอาหารใหญ่ๆ ค่ะ” หญิงสาวยิ้มกว้างเมื่อได้พูดถึงความฝันของตนเองและวางเรื่องที่ผักหวานพูดไปชั่วคราว“ดีเลยค่ะ วันนี้เราจะทำอะไรกันดีคะ มีปลากะพง ผักบุ้ง กะทิแล้วก็ผักอีกสองสามอย่าง”“คุณเพทายชอบกินอะไรคะ”“คุณท่านชอบอาหารไทยๆ โดยเฉพาะเมนูปลาค่ะ อาหารที่ไม่มีกะทิ แต่คุณแพทชอบแกงกะทิแต่ไม่ชอบกินหวานและในบ้านไม่มีใครกินเนื้อวัวหรือสัตว์ใหญ่ค่ะ” พี่กระจิบบอก“อ้อ.. ค่ะ” ภาวนารับรู้แล้วหันไปคุยกับป้าอร่อยเรื่องอาหารอย่างถูกคอหลังจากที่ทำอาหารเย็นเสร็จแล้วก็เป็นเวลาสิบเจ็ดนาฬิกาเศษๆ ภาวนารู้สึกเหนียวตัวและอยากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะวันนี้ตั้งแต่มาถึงเธอก็ได้ทำงานตลอดทั้งวันจนเหงื่อท่วมตัวแต่เธอไม่รู้จะบอกใคร หรือทำอย่างไรในเมื่อสิ่งที่ค้างคาใจอยู่นั้นมันทำให้เธอนั่งหงอ
ตอนที่47.“ก็ผู้หญิงคนนั้นไง ภาวนา คือเมียผมและเธอก็กำลังอุ้มท้องลูกของผมด้วย แต่บังเอิญเรามีเรื่องไม่เข้าใจกันนิดหน่อยเธอเลยโกรธผม” น้ำเสียงแสนมั่นใจและรอยยิ้มกว้างของเขาทำให้คนที่ใจเย็นและเก็บอารมณ์ได้ดีเช่นภาวนาถึงกับสติแตกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน“คนบ้า ฉันไม่ได้เป็นเมียใคร ไม่ได้อุ้มท้องลูกคุณและไม่ได้มีเรื่องค้างคาใจอะไรกับคุณด้วย”“จริงเหรอ.. พราวจะให้พี่บอกใครๆ ทั้งบางนี้เลยมั้ยล่ะว่าเราเป็นอะไรกัน” แพทริกรุกเข้าไปอีกขั้น“คุณมันก็พวกกินในที่ลับขับในที่แจ้ง ทุเรศที่สุด ออกไปจากร้านของฉันจะดีกว่า ฉันไม่อยากซวยแต่เช้า พี่เอกคะ รบกวนไล่พวกก่อกวนออกจากร้านด้วยนะคะ” พูดจบก็สะบัดหน้าเดินหนีไปหลังร้าน เป็นเอกหันมายิ้มเยาะแล้วผายมือไปที่ประตูเป็นการบอกว่าให้แพทริกออกไป“ผมจะง้อเมีย คุณจะขัดขวางพรากพ่อแม่ลูกเขาเหรอ”“โอ๊ย.. อยากหัวเราะ นี่คุณแพทริกคุณคงลืมอะไรไปนะครับ คุณไม่ได้แต่งงานกับพราว และคุณก็ไม่เคยให้เกียรติพราวในฐานะนี้มาก่อน พวกค
ตอนที่46.คุณเพทายนั่งลงข้างๆ ลูกชายที่ขยับตัวนั่งแต่แผ่นหลังกว้างกลับคู่ลงข้อศอกทั้งสองข้างชันบนเข่า ท่าทางตอนนี้ของแพทริกไม่เหลือคราบนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่เก่งฉกาจทั้งเรื่องงานและเรื่องรักเลยแม้แต่น้อย มีเพียงชายหนุ่มขี้เมามอซอเท่านั้น..“คุณแม่มีอะไรหรือครับ”“แม่มีความจริงจะบอก..” แล้วคุณเพทายก็ตัดสินใจพูดในสิ่งที่นางเองก็ยังไม่กล้าที่จะพูดกับหญิงสาวคนนั้น คนที่ทำให้นางกับลูกชายต้องมานั่งทุกข์เพราะทิฐิในใจ เพราะตั้งแต่สิ้นสุดงานศพของนางอาภา ภาวนาก็หายหน้าไปไม่แม้แต่จะติดต่อกลับมาและไม่มาขอความช่วยเหลือใดๆ จากพวกตนเลย ภาวนาทำเหมือนว่าได้ตายจากไปอีกคน ซึ่งคุณเพทายเองก็ยังคงรู้สึกประดักประเดิด คิดอยู่ว่าจะขอโทษภาวนาที่เคยทำอะไรๆ ที่ไม่ดีด้วย แต่ดูเหมือนหญิงสาวจะไม่ยอมรับและเมินเฉยต่อการปรากฏตัวของนาง เย็นชา.. นั่นคือสิ่งที่นางได้รับจากภาวนา ซึ่งนับว่าภาวนาเป็นคนที่จิตใจเข้มแข็งและหยิ่งทระนงมากทีเดียว...“พราวท้องหรือครับ ท้องกับใคร..” เป็นคำถามที่โง่ที่สุดเท่าที่แพทริกถามออกมา และค
ตอนที่45.ดวงตาที่หลับลงเมื่อครู่ลืมขึ้น ดวงตากรอกไปมาเหมือนมองหาแต่ฝ้าขาวบดบังการมองเห็น ภาวนาปิดปากกลั้นสะอื้นด้วยความสงสารมารดา คุณเพทายเดินไปใกล้ๆ แล้วจับมือผอมๆ ของเพื่อนรักในอดีตขึ้นมาแล้วก้มลงพูดใกล้ๆ“ฉันรู้ความจริงหมดแล้วภา ฉันขอโทษที่ทำร้ายเธอฉันมันโง่เองที่ให้ความโกรธความงี่เง่าของฉันมันทำร้ายเธอกับลูก ยกโทษให้กับความโง่เขลาของฉันนะภา”“ดีใจจัง.. ขอบคุณ.. ฉันไม่เคยโกรธเธอเลย”นางอาภายิ้มทั้งน้ำตา เสียงแหบพร่าเบาแสนเบาแต่คุณเพทายกับภาวนาก็ได้ยิน“ขอบคุณที่เธอทำเพื่อฉัน อโหสิให้ฉันนะภา”นางอาภาหายใจหอบขาดห้วงแต่ก็พยักหน้าช้าๆ ให้ ใบหน้าเปื้อนน้ำตานั้นเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม สิ่งที่ค้างคาในใจมาตลอดกว่าสามสิบปีมันได้มลายหายไปในบัดดล และความกังวลใดๆ ในใจก็ไม่มีติดค้างแล้ว ภาวนาได้ในสิ่งที่ปรารถนาซึ่งคนเป็นแม่ย่อมรู้ดีว่าลูกของตนจะสามารถดูแลตัวเองได้“ฝากพราวด้วยนะ พราวแม่รักพราวนะลูก”“พราวก็รักแม่ค่ะ แม่หลับให้สบายนะคะ
ตอนที่44.“ต่อไปนี้ก็จะถึงคราวที่เราต้องเปิดร้านจริงๆ แล้วสินะ” ภาวนายิ้มกับความฝันที่จะมีร้านขนมของตัวเองซึ่งเธอกับเป็นเอกร่วมหุ้นกันและร้านก็สร้างเสร็จแล้ว แค่รอฤกษ์เปิดบริการเท่านั้นเอง“ยินดีด้วยนะภาวนา” เสียงคุ้นหูดังขึ้นทำให้ภาวนาที่กำลังยืนคุยกับทีมงานหันขวับไปมองแล้วตาโตอย่างไม่อยากเชื่อสายตาว่าแพทริกมายืนอยู่ตรงหน้าในขณะเดียวกันเป็นเอกก็รับโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“คุณมาทำไมคะ” เมื่อไม่รู้จะพูดอะไรเธอก็จึงถามออกไปแบบนั้นทำให้ชายหนุ่มหน้าหงิกไปเลยทีเดียว“ผัวจะมาหาเมียนี่ต้องมีคำว่ามาทำไมด้วยเหรอ”“พูดให้มันดีๆ นะคะ”ภาวนาหน้าแดงก่ำเมื่อเสียงของเขาไม่เบาเลยทำให้หลายๆ คนหันมามองเธออย่างอยากรู้อยากเห็น แต่ก่อนที่ภาวนากับแพทริกจะได้ตอบโต้กันเป็นเอกก็เข้ามากระซิบอะไรบางอย่างกับเธอ“งั้นเราไปกันเถอะค่ะเดี๋ยวไม่ทัน”หญิงสาวหน้าตาเป็นกังวลแล้วรีบเก็บข้าวของใส่กล่อง เป็นเอกหันไปสั
ตอนที่43.“ฉันทำผิดกับเพื่อนรักของฉันเหลือเกิน.. และที่สำคัญฉันก็ทำผิดกับคนบริสุทธิ์อีกสองคน..” แล้วคุณเพทายก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ยี่สุ่นฟังซึ่งยี่สุ่นเองก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาเพราะสงสารในชะตากรรมของสองแม่ลูกที่ได้พบเจอ“มันไม่ใช่ความผิดของคุณท่านนะคะ ผู้ชายคนนั้นต่างหากที่ผิด สุ่นว่าป่านนี้คงตายไปแล้วล่ะค่ะ”“ยี่สุ่นแล้วหลานของฉันล่ะ”“เรื่องนี้สุ่นไม่กล้าที่จะพูดอะไรหรอกค่ะ คุณท่านต้องติดสินใจเอง หากว่าคุณท่านอยากจะชดเชยให้กับพวกเขาคุณท่านก็ควรบอกความจริงและยกเลิกสัญญานั้นเสีย”“ฉัน.. ขี้ขลาดเหลือเกินยี่สุ่น”“นี่ก็ดึกแล้วคุณท่านพักผ่อนเถอะค่ะ อย่างไรเสีย คุณพราวก็ยังอยู่กับเรา..”ยี่สุ่นยิ้มบางๆ ให้ผู้เป็นนายก่อนจะดูแลความเรียบร้อยในห้องแล้วกลับไป แต่คุณเพทายยังคงคิดไม่ตกกับเรื่องที่เกิดขึ้นคุณเพทายเฝ้ามองอาการของภาวนาอย่างพิจารณา
ตอนที่42.“ขอบคุณนะคะ” ภาวนาเดินเข้ามาหยุดมองมารดาของตนแล้วรู้สึกใจหายกว่าทุกวัน เธอรู้ดีว่าเวลาของมารดานั้นน้อยลงทุกที“แม่คะพราวมาเยี่ยมนะคะ”หญิงสาวนั่งลงข้างเตียงแล้วเรียกมารดาเบาๆ ดวงตาโศกซึ้งมองร่างที่นอนแบบอยู่บนเตียงด้วยความหดหู่ รู้ดีว่าอีกไม่นานมารดาก็จะจากไป แม้จะทำใจไว้แล้ว แต่ก็อดที่จะขอบตาร้อนผ่าวไม่ได้เมื่อคิดถึงวันที่ตนต้องอยู่คนเดียวจริงๆ“แม่คะ.. พราวอยากบอกข่าวดีแม่จังค่ะ และพราวอยากจะบอกแม่ว่าพราวขอบคุณแม่ในทุกๆ สิ่งที่แม่เสียสละเพื่อพราว อีกไม่นานพราวก็คงหมดภาระหน้าที่ทดแทนบุญคุณแทนแม่กับคนพวกนั้นแล้ว พราวดีใจนะคะที่อย่างน้อยๆ พราวก็ทำในสิ่งที่แม่ไม่สามารถทำได้สำเร็จ แม่คะพราวจะเข้มแข็ง แม่ไม่ต้องห่วงพราวนะคะว่าพราวจะอยู่ตัวคนเดียว พราวมีเพื่อนแล้วค่ะ พราวมีพี่เอก และพราวกำลังจะมีลูก มีหลานให้แม่”ภาวนายิ้มบางๆ แล้วลูบหน้าท้องที่ยังแบนราบของตนอย่างมีความสุขในขณะที่คนซึ่งแอบฟังอยู่นั้นรู้สึกตกใจจนต้องยกมือขึ้นปิดปากกั้นเสียงอุทานไว้ในลำคอ หัวใจของคุณ
ตอนที่41.“พราว พราวจริงๆ ด้วย พี่มองอยู่นานนึกว่าใคร” เสียงนุ่มของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นทั้งสองสาวจึงเงยหน้ามอง“พี่เอก มาได้ยังไงคะเนี่ย” ภาวนายิ้มกว้างดีใจที่เจอเป็นเอก“พอดีพี่มาซื้อของไปเตรียมงานน่ะ ว่าแต่พราวเถอะมายังไง แล้วนี่ โอ้โห.. สวยจัง” เป็นเอกยิ้มกว้างเมื่อเห็นหญิงสาวสวยสดใสเปล่งปลั่งผิดหูผิดตา“อุ๊ย ลืมแนะนำไปค่ะ นี่พี่เมนี่ พี่เมนี่คะ พี่เอกค่ะ พี่เอกเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของพราวเลยค่ะ” เป็นเอกหันไปมองหญิงสาวสวยที่นั่งดอกอกเชิดหน้าอย่างไว้ตัวข้างๆ ภาวนา“คุณนั่นเอง”“อ้าวรู้จักกันเหรอคะ”“ไม่..” หนุ่มสาวพูดขึ้นพร้อมกันแล้วก็ต่างมองหน้ากันอย่างขุ่นเคือง ภาวนามองทั้งสองสลับกันไปมา“เราไปกันเถอะน้องพราว” เมทินีตัดบทแล้วลุกขึ้นดึงมือภาวนาจะเดินออกจากร้านไป แต่เป็นเอกขัดขึ้นเสยก่อน“คุณติดค่าข้าวผมนะคุณหมอ” เมทินีชะงักแล้วหันมามอ
ตอนที่40.ลิซ่านั่งลงข้างๆ ภาวนาแต่ท่าทางของหญิงสาวสมัยใหม่ที่ชอบเที่ยวเตร่อย่างลิซ่านั้นดูขัดตา ขาดๆ เกินๆ และดูหยิบโหย่งจนคุณเพทายนึกดีใจที่แพทริกไม่ได้คิดจริงจังกับลิซ่า แม้ลิซ่าจะสวยและร่ำรวยพอสมควรแต่นิสัยใจคอไม่เอาการเอางานทำให้คุณเพทายไม่อาจจะรับได้ นางอยากได้ลูกสะใภ้ที่เก่งงานบ้านงานเรือนมีใจคอหนักแน่นและหนักเอาเบาสู้ ไม่ใช่จะแต่งตัวสวยไปวันๆ อย่างลิซ่า แล้วใจของคุณเพทายก็กระตุกหันไปมองภาวนาอย่างพินิจพิเคราะห์ หัวใจของนางไหววูบด้วยความรู้สึกประหลาดและยอมรับกับตัวเองว่า ภาวนาคือคนที่ใช่ในคุณสมบัติที่นางต้องการ แต่เพราะภาวนาเป็นลูกสาวของอาภานั้นคือข้อจำกัดอันร้ายแรงที่ไม่อาจจะยอมรับได้นางไม่เคยรังเกียจหากแพทริกจะรักชอบพอกับหญิงสาวต่างฐานะหรือเป็นเพียงลูกสาวคนทำงานหาเช้ากินค่ำ หากผู้หญิงคนนั้นเป็นคนดีและรักแพทริกจริงๆ นางก็พร้อมจะอ้าแขนรับเข้ามาร่วมใช้นามสกุล คุณเพทายถอนหายใจเบาๆ แล้วบอกให้ลิซ่าลองร้อยมาลัยกรดูบ้าง“ลิซ่าไม่ชอบงานพวกนี้เลยค่ะ รู้สึกเหมือนร้อยมาลัยขายตามสี่แยกไฟแดงเลยนะคะ”“การร้อยมาลัย
ตอนที่39.“อื้มม..” หญิงสาวครางเบาๆ เมื่อลิ้นร้อนร้ายกาจกำลังร่ายมนต์สวาทจนเธอหลงเพริดไปกับเขา ความคิดที่ว่าจะไม่ยอมและจะขัดขืนหายไปตั้งแต่เขาจูบเธอ แม้จะบอกตัวเองว่าอย่าหลงไปกับสิ่งที่เขาปรนเปรอ แต่สุดท้ายภาวนาก็พ่ายแพ้ให้กับคนแก่ประสบการณ์ แพทริก ครางออกมาอย่างถูกใจเมื่อหญิงสาวตอบสนองจุมพิตเร่าร้อนอย่างน่ารัก“อื้มมม พราวจ๋า น่ารักที่สุดเลย ที่รัก...”ชายหนุ่มครางออกมาอย่างถูกใจจูบซับแก้มนวลเรื่อยลงมาที่ลำคอระหงต่ำลงมาตามรอยแยกของสาบเสื้อนอนแบบเชิ้ตแขนสั้น มือหนาปลดกระดุมไปทีละเม็ดๆ จนสาบเสื้อแยกออกจากกันเผยปทุมถันอวบอิ่มซึ่งถูกซ่อนอยู่ภายใต้บราแบบเต็มตัวที่เธอมักชอบสวมใส่ แต่แพทริกไม่คิดจะให้มันมาขัดขวางเพลิงพิศวาสที่กำลังลุกไหม้ของเขาได้ ไม่นานเขาก็กำจัดมันให้พ้นทางเรือนร่างอรชรที่มีทรวงอกอวบอิ่มล้นมือก็ปรากกฎอยู่ตรงหน้าหญิงสาวหลบตาคมพรายพราวด้วยความปรารถนายกแขนโอบรอบตัวเองไว้อย่างขัดเขิน แต่ไม่นานแขนเล็กก็ถูกปัดให้พ้นทางด้วยลิ้นร้อนที่จูบไซ้ไล้เลียอย่างเร่าร้อนจนเธอต้องคลายแขนออกแล้วโอบรัดร่างแกร