ดาวฤกษ์เดินกุมมือราตรีดาวมาเรื่อยๆ กระทั่งถึงศาลาทว่าหมอหนุ่มกลับยังไม่ปล่อยมืออีกฝ่ายแต่อย่างใด สัมผัสจากเขาแม้จะเพียงเล็กน้อยแต่มันกลับทำให้หัวใจของราตรีดาวเต้นแรงและรัว มือไม้เริ่มเย็นเพราะความประหม่าและเพราะกลัวเขาจะจับได้จึงค่อยๆ ดึงมือตัวเองกลับ
แม้จะอยากยื้อไว้แต่สุดท้ายดาวฤกษ์ก็ต้องปล่อยราตรีดาวให้เป็นอิสระ หมอหนุ่มนั่งดื่มน้ำดับกระหายเพราะตั้งแต่เช้ามีงานให้เขาทำจนแทบไม่มีเวลาได้พัก เพราะเหตุนั้นเขาจึงกลับไปกินมื้อเที่ยงที่บ้านไม่ได้ ระหว่างนั้นราตรีดาวก็แกะปิ่นโตออกมาวางให้เขา“แกงอันนี้คนในหมู่บ้านเอามาให้ค่ะ ส่วนผัดผักตรีทำเอง”“น่ากินทั้งนั้นเลย” จากที่พอจะทนหิวไหวแต่เมื่อเห็นอาหารท้องของดาวฤกษ์ก็เริ่มส่งเสียงประท้วง“รีบกินข้าวเถอะค่ะเลยเวลามาชั่วโมงกว่าแล้ว เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”“ครับ” ดาวฤกษ์เอ่ยบอก ปกติเขาไม่ใช่พวกอ่อนไหวหรือโหยหาการดูแลจากคนอื่น แต่พอราตรีดาวเข้ามาดูแลแม้จะไม่กี่วันเขากลับชอบความรู้สึกดีอย่างในตอนนี้ไปเสียแล้ว อาหารง่ายๆ แต่ทว่ากลับถูกปากจนเขากินหมดทุกอย่าง ก่อนจะตบท้ายด้วยผลไม้เมื่อครบเวลาที่ตั้งไว้ในใจราตรีดาวก็คว้าร่มมาถือไว้ในมือ แต่จังหวะที่เธอกำลังจะเดินออกไปจากบ้านนั้น สายตาก็มองเห็นดาวฤกษ์เดินฝ่าสายฝนที่ซาลงไปบ้างแล้วตรงหน้าบ้านเข้า เมื่อเห็นแบบนั้นราตรีดาวจึงรีบเดินกางร่มเข้าไปหาเขาทันที“ทำไมถึงเดินกลับละคะ รถไปไหน”“จอดเสียอยู่กลางทางครับ ประจวบกับฝนตกเลยไม่มีรถผ่านไปผ่านมาที่พอจะขอให้ช่วยได้ พี่เลย…” ดาวฤกษ์ยังยิ้มออก ยิ่งเห็นว่าราตรีดาวยังปลอดภัยแบบนี้เขาก็รู้สึกว่าหายเหนื่อย คุ้มแล้วที่รีบเดินกลับมาบ้าน“พี่เลยเดินกลับมาบ้านเหรอคะ”“ครับ เป็นห่วงตรีเลยอยากกลับมาบ้านเร็วๆ” คำตอบของดาวฤกษ์ทำเอาราตรีดาวใจสั่นไปหมด เธอน้ำตาเอ่อเมื่อรู้ว่าเขาเป็นห่วงถึงขนาดนี้ ในขณะที่ ดาวฤกษ์เองก็ซึ้งใจเพราะเมื่อครู่ทันทีที่ราตรีดาวเห็นเขาเธอก็เดินตรงเข้ามาหาแล้วกางร่มให้ในขณะที่ตัวเองยืนเปียกไปครึ่งตัวดาวฤกษ์ก้าวเข้าไปยืนให้ใกล้กับเธอมากขึ้นอีกนิด ตอนนี้สิ่งที่คั่นพ
ลิ้นร้อนชื้นอันช่ำชองของหมอหนุ่มตวัดหยอกเย้ากับปลายลิ้นเล็กๆ ไม่ประสาของราตรีดาวและเป็นแบบนี้อย่างเนิ่นนานในขณะที่ฝ่ามือของเขาหยุดอยู่ตรงหน้าอกที่เพียงแค่ไล้ปลายนิ้วผ่านตรงเนินเนื้อที่อวบอูมล้นบราเซียออกมาก็ทำให้ราตรีดาวสะดุ้งจนแทบทรงตัวไม่อยู่เสียแล้วดาวฤกษ์พยายามบอกตัวเองให้ทำทุกอย่างในจังหวะช้าเข้าไว้ ค่อยๆ สัมผัสร่างกายของราตรีดาวด้วยความปราณีต ไม่ต้องรีบร้อนจนทำให้หญิงสาวในอ้อมกอดเกิดความกลัว แต่ยิ่งช้ามากเท่าไหร่ราตรีดาวก็ยิ่งโหยหาสัมผัสจากเขามากขึ้น บางจังหวะอารมณ์มันก็พาไปจนทำให้เธอร้อนแรงซึ่งดาวฤกษ์ก็ชอบไม่น้อยแต่พอรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นราตรีดาวก็ชะงักไปเล็กน้อยจนดาวฤกษ์สังเกตได้“กลัวหรือเปล่า”“ค่ะ” ราตรีดาวเอ่ยรับอย่างตรงไปตรงมา แม้จะผ่านครั้งแรกกันมาแล้วแต่อย่างที่บอกว่าเธอจำเหตุการณ์หรือความรู้สึกในคืนนั้นไม่ได้จริงๆ“น่ากลัวอยู่หรอก เพราะนี่คือเซ็กซ์ครั้งแรกของเรา”“เอ้ อะไรนะคะ” คนฟังหน้าตาตื่นนั่นพลอยทำให้ดาวฤกษ์แปลกใจตามไปด้วย เพราะเขาคิดว่าราตรีดาวจะรู้เรื่องนั้นแล้วเสียอีก
“พอแล้วที่รัก พอก่อน” เสียงแหบพร่าของดาวฤกษ์เอ่ยบอกแต่แทนที่ราตรีดาวจะหยุดเธอกลับเร่งจังหวะมือและนั่นจึงถูกชายหนุ่มลงโทษด้วยการจงใจให้ความเป็นชายเสียดสีกับกุหลาบงามที่ฉ่ำชื้นของเธอไปมา สะโพกสอบขยับเข้าและออกในขณะที่ร่างกายเปลือยเปล่าของราตรีดาวก็บิดส่ายไปมาด้วยความปรารถนาอันร้อนแรงที่ไม่อาจต้านทานได้ดาวฤกษ์โน้มตัวไปแล้วใช้ปากกลืนกินหน้าอกคู่สวยของเธออย่างหิวกระหาย ในขณะที่สะโพกก็ยังคงเคลื่อนไหวต่อเนื่องแม้จะเสียดสีอยู่แค่ภายนอกแต่ทว่ามันก็ทำให้ทั้งสองเสียวซ่านเหลือเกินและไม่นานกำแพงความอดทนของดาวฤกษ์ทลายลงจังหวะรุกอย่างแท้จริงจึงเริ่มขึ้น หมอหนุ่มค่อยๆ ส่งความแกร่งของบุรุษเข้าไปสู่ความอ่อนนุ่มอย่างช้าๆ ไม่รุนแรงหรือรีบร้อนจนกลายเป็นการเอาแต่ใจตัวเอง เขาอยากให้ราตรีดาวมีความสุขและสนุกไปกับเซ็กซ์ที่กำลังเกิดขึ้นมากกว่ายัดเยียดทุกอย่างให้เธอแต่เพียงแค่ถูกรุกล้ำเล็กน้อย ราตรีดาวก็นิ่วหน้าบ่งบอกความเจ็บปวด เธอบีบต้นแขนเขนชายหนุ่มสุดแรงเพื่อระบายความรู้สึกร่างกายเกร็งและต่อต้านอย่างอัตโนมัติ นั่นทำให้ดาวฤกษ์รู้ได้ทันที
ก่อนจะสลัดความคิดที่อยากจะหนีกลับบ้านเสียตอนนี้ออกไปจากหัว แต่ยิ่งอยากสลัดความโหยหาก็ยิ่งมากขึ้น กระทั่งเสียงของผู้ใหญ่บ้านที่อาสาไปดูรถของเขาที่จอดไว้ก่อนทางเข้าหมู่บ้านตั้งแต่เมื่อคืนจะดังขึ้น“แบตเสื่อมนะครับคุณหมอ แต่ผมให้ลูกชายไปซื้อแบตในเมืองมาเปลี่ยนให้แล้ว”“นี่เงินค่าแบตเตอรี่แล้วก็ค่าแรงครับ” เอ่ยจบ ดาวฤกษ์ก็ยื่นเงินจำนวนหนึ่งให้ผู้ใหญ่บ้าน“เอาแต่ค่าแบตเตอรี่ก็พอครับ”“ไม่ได้ครับ ต้องรับไปทั้งหมด ถ้าไม่รับแล้วผู้ใหญ่เกิดปวดหัวขึ้นมาผมไม่รักษาให้นะ”“งั้นผมรับก็ได้ครับ” พอถูกขู่มาแบบนั้นผู้ใหญ่บ้านก็จำต้องรับเงินจากดาวฤกษ์ทันทีก่อนจะยกมือไหว้พร้อมเอ่ยขอบคุณซึ่งทางหมอหนุ่มเองก็รีบไหว้กลับไปเช่นกัน“ผมเองก็ขอบคุณผู้ใหญ่กับลูกชายเหมือนกันที่อาสาไปดูรถให้ เพราะเรื่องรถผมก็แทบไม่มีความรู้เหมือนกัน”“คุณหมอเป็นหมอนี่ครับ เก่งเรื่องรักษาคนก็พอแล้ว เรื่องอื่น
“อดทนหน่อยนะครับตรี” ราตรีดาวพยักหน้ารับก่อนจะขบเม้มริมฝีปากของตัวเอง คิ้วสวยได้รูปที่ไม่เคยเขียนหรือกันคิ้วขมวดเข้าหากันเพราะความเจ็บปวดที่ยังคงเล่นงาน ไหนจะอ่อนแรงเพราะเลือดที่ออกเยอะกว่าปกติอีกด้วยดาวฤกษ์โทรศัพท์ไปหาหมออดุลย์เพื่อขอลากะทันหันโดยให้เหตุผลไปว่าเพราะอะไร ซึ่งปลายสายก็ไม่ได้คัดค้านและสนับสนุนให้ดาวฤกษ์ทำในสิ่งที่ควรทำเพราะสำหรับหมอแล้วนอกจากคนไข้คนในครอบครัวก็สำคัญไม่แพ้กันวันรุ่งขึ้นดาวฤกษ์จึงพาราตรีดาวเข้ากรุงเทพฯ ทันที ขณะขับรถอยู่นั้นก็คอยถามอาการเธอเสมอกระทั่งมาถึงโรงพยาบาลราตรีดาวก็ถูกนำตัวเข้าห้องตรวจร่างกายโดยละเอียดอย่างเร่งด่วน ในขณะที่ดาวฤกษ์เดินกระสับกระส่ายไปมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดกระทั่งประตูห้องตรวจของนายแพทย์คนหนึ่งเปิดออก“เข้ามาสิ” ประโยคที่เอ่ยทักนั้นดูคุ้นเคยเพราะทั้งคู่เป็นเพื่อนกันนั่นเอง“ตรีเป็นยังไงบ้างไอ้หมอ” ดาวฤกษ์เอ่ยถามเพื่อนสนิทที่เป็นหมอแผนกสูตินรีเวชขึ้นทันทีด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงความกังวลใจ&ld
ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับดาวฤกษ์นั้นยังสบสนจับต้นชนปลายแทบไม่ได้ แต่สิ่งเดียวที่เธอรู้คือเวลาทุกๆ นาทีที่เธอได้อยู่กับเขานั้นมันมีความสุขมาก เธอไม่เคยคิดถึงอนาคตอันไกลลิบลิ่วแต่มักจะคิดแค่วันนี้กับวันพรุ่งนี้และทำมันให้ดีที่สุดภาพครอบครัวที่ไม่เคยวาดฝันมาก่อนจู่ๆ ก็ผุดขึ้นมาในหัวของราตรีดาว ภาพขณะที่เธอกับเขาช่วยกันสร้างครอบครัวไปด้วยกัน ภาพของลูกๆ ที่แสนน่ารักน่าชัง ภาพของรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่แว่วเข้ามาอย่างแจ่มแจ้ง สามีและพ่อของลูกเธอต้องคือดาวฤกษ์คนเดียวเท่านั้น“ตรี…ตรีอยากมีค่ะ แต่ที่ลังเลเพราะกำลังตกใจทั้งเรื่องโรคที่ตรวจเจอ ทั้งวิธีการรักษาและเรื่องความสัมพันธ์ของเราสองคน”“เรื่องหลังมันอาจตอบยากเพราะเราต่างก็ไม่รู้ใช่ไหมว่าจุดเริ่มต้นมันเกิดจากตรงไหน”“ค่ะ”“ถึงแม้ความสัมพันธ์ของเรามันอาจไม่เหมือนคู่อื่น แต่ทำไมต้องไปเหมือนในเมื่อนี่คือตัวเรา แค่เรา…รู้สึกดีให้กันก็พอแล้ว ใช่ไหม”“ค่ะ” ราตรีดาวพ
“ตรีไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะได้แต่งงาน รวมถึงไม่เคยคิดมาก่อนว่าต้องใส่ชุดแต่งงานสวยๆ ชุดนี้ไปหาแม่ที่โรงพยาบาล” เธอสะอื้นไปพูดไปเพราะไม่คิดว่าตัวเองนั้นจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์อย่างตอนนี้ ในขณะที่ ดาวฤกษ์ก็ดึงตัวเข้ามากอด รับรู้ความเจ็บปวดและความเครียดของเธอได้“พี่รู้ว่าตรีรู้สึกยังไง แต่เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกันนะครับ” อ้อมกอดและคำปลอบโยนจากเขาทำให้ ราตรีดาวกลับมาเข้มแข็งได้อีกครั้ง เธอสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ เพื่อรวบรวมความกล้าและกลับมาทำทุกอย่างเพื่อแม่ทั้งสองมาที่โรงพยาบาลด้วยชุดเจ้าสาวและเจ้าบ่าวที่สวยหล่อเหมาะสมกันเป็นอย่างมาก โดยข้างๆ ทั้งคู่คือกรองแก้วและหมอปราณที่รู้เรื่องจากดาวฤกษ์จึงรีบเคลียร์งานแล้วมาเป็นสักขีพยาน ห้องพักฟื้นถูกจัดตกแต่งให้เป็นงานแต่งงานเล็กๆโฉมฉายที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงคนไข้ส่งยิ้มให้ลูกสาวและลูกเขย รอยยิ้มนี้มาพร้อมกับน้ำตาของความยินดีอย่างเหลือล้นยิ่งได้เห็นราตรีดาวอยู่ในชุดเจ้าสาวสวยๆ แบบนี้ด้วยแล้วหัวใจคนเป็นแม่ก็พองโตไปหมด&
หลังเสร็จสิ้นงานเผาศพของโฉมฉาย ราตรีดาวก็นำอัฐิบางส่วนของแม่ไปลอยอังคาร จากนั้นก็กลับมาเก็บข้าวของส่วนตัวที่บ้านอีกเล็กน้อย ซึ่งจังหวะที่เธอกลับออกไปนั้นก็สวนทางกับผู้เป็นลุงที่เวลานี้ถลุงเงินที่ได้ไปจนหมดตัวในบ่อนและหวังกลับมาขูดรีดเอากับหลานสาวหรือไม่ก็ขนสมบัติไปขาย แต่พอไม่เจอใครหรือหยิบฉวยอะไรไปขายต่อได้อย่างที่ใจหวังก็หงุดหงิดจนอาละวาดไปทั่ว“มาแล้วหรือครับลูกหนี้ที่รัก” เสียงเจ้าหน้าคนหนึ่งดังขึ้นจากหน้าบ้านทำให้คมสันหน้าถอดสีทันที ไม่คิดว่าคนของบ่อนจะตามตัวเขาเจอได้เร็วขนาดนี้“กูกำลังมาหาเงินใช้นายมึงอยู่นี่ไง”“แล้วไหนล่ะเงิน”“ยังไม่มี แต่ขอเวลากูหน่อย รับรองกูจะเอาเงินมาคืนได้แน่”“ขอเวลาเหรอ ได้สิ งั้นเราไปขอกันเป็นการส่วนตัวหน่อยดีไหม สักในเรือกลางทะเลเป็นไง เคว้งคว้างดีออกแถมถ้าโชคร้ายถูกฆ่าโยนลงทะเลก็ไม่มีใครหาศพเจอ” คำขู่ที่ได้ยินทำให้คมสันสั่นไปทั้งตัว เพราะเมื่อก่อนเคยได้ยินมาบ้างเรื่องการเบี้ยวหนี้แล้วถูกจับได้ว่าช
ทันทีที่เข้ามาในห้องนอนได้ ดาวฤกษ์ที่อารมณ์ปรารถนาลุกโชนไปแล้วก็ผลักราตรีดาวเบาๆ เพื่อให้เธอลงนอนราบกับเตียงขนาดหกฟุต ริมฝีปากร้อนชื้นทำหน้าที่เล้าโลมภรรยาสาวจนเธออ่อนระทวยก่อนจะวกขึ้นไปจูบปากอิ่มอย่างเร่าร้อนพร้อมกันนั้นต่างฝ่ายก็ต่างจัดการถอดเสื้อผ้าของตัวเองกระทั่งเปลือยเปล่า เซ็กซ์จานด่วนที่แข่งกับเวลาว่าเมื่อไหร่ลูกจะตื่นช่างตื่นเต้นเหลือเกินยิ่งตื่นเต้นสารอะดรีนาลีนในร่างกายก็ยิ่งหลั่งออกมาส่งผลให้ยิ่งโหยหา ดาวฤกษ์ถอนจูบออกก่อนจะพรมจูบหนักๆ ลงไปจนทั่วตัวของราตรีดาวโดยเฉพาะบริเวณหน้าอกทั้งสองข้างที่อวบอิ่มเต็มมือ “พี่รักตรีนะ รักมากเหลือเกินที่รักของพี่…อืม” ท้ายเสียงของดาวฤกษ์นั่นครางกระเส่าด้วยไฟราคะยิ่งเขาจงใจบดเบียดสะโพกเข้าหาราตรีดาวเพื่อให้แกนกายเสียดสีกับกลีบกุหลาบของเธอด้วยแล้วก็ยิ่งเสียวซ่าน ก่อนจะค่อยๆ กดสิ่งนั้นเข้าสู่ภายในตัวของภรรยา ราตรีดาวสะดุ้งเฮือกก่อนจะครางกระเส่าในเวลาต่อมา ใบหน้าสวยเหยเกดูทรมานเพราะจังหวะถาโถมเข้าหาเธอของดาวฤกษ์นั้นหนักหน่วงจนยากจะต้านทานไหว แม้จะอยู่กินกันมาจนมีลูกเป
ทันทีที่รู้ข่าวดาวฤกษ์ก็ตรงดิ่งไปหาเธอที่โรงพยาบาลทันที ซึ่งขณะนั้นราตรีดาวกำลังจะนอนรอคลอดอยู่ในห้อง ซึ่งเขาสามารถเข้าไปอยู่กับเธอได้“มดลูกเปิดได้แปดเซ็นแล้วครับตรี อดทนหน่อยนะ” ราตรีดาวพยักหน้ารับก่อนที่ความเจ็บเพราะมดลูกบีบตัวจะเล่นงานจนนิ่วหน้าเธอนอนรอเวลาเพื่อให้มดลูกเปิดแบบนี้มานานหลายชั่วโมงแล้วในขณะที่ดาวฤกษ์ก็พยายามชวนเธอคุยเพื่อให้เธอลืมความเจ็บ กระทั่งหมอเข้ามาตรวจปากมดลูกเธออีกครั้ง ซึ่งประโยคหลังจากนั้นคือหมอให้เธอเตรียมตัวสำหรับการให้กำเนิดทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ราตรีดาวเบ่งตามจังหวะที่คุณหมอบอกอยู่ราวๆ สิบนาทีโดยขณะนั้นดาวฤกษ์กุมมือเธออยู่ตลอดเวลา ความเจ็บมันมีมากมายเหลือเกินแต่เหนืออีกอื่นใดคือราตรีดาวอยากเห็นหน้าลูกเธอออกแรงเบ่งเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เสียงร้องจากเด็กตัวทารกตัวน้อยที่เวลานี้ยังมีสายสะดือยังติดอยู่กับรกของผู้เป็นแม่ดังจ้าขึ้นทันทีเมื่อพยาบาลผู้ช่วยเช็ดคราบเลือดเสร็จก็วางทารกลงบนหน้าอกของผู้เป็นแม่เพื่อให้ทั้งคู่ได้สัมผัสความอบอุ่นของกันและกัน ราตรีด
“มีคำสั่งให้พี่ย้ายกลับเข้ากรุงเทพฯ เดือนหน้า” โดยก่อนเดินทางกลับจะมีหมอมาประจำการแทนเขา ส่วนอาจารย์แพทย์ท่านได้เกษียณอายุอย่างเป็นทางการไปนานแล้ว“พี่ฤกษ์ตัดสินใจว่ายังไงคะ”“พี่ยังสองจิตสองใจ แต่ก็มีอีกข้อเสนอหนึ่งที่พี่อยากตอบรับคือทางโรงพยาบาลจะให้ทุนพี่ไปเรียนต่อเฉพาะทางที่ต่างประเทศโดยสามารถพาครอบครัวไปด้วยได้”“ไม่ว่าพี่ฤกษ์จะตัดสินใจแบบไหน ตรีก็จะอยู่ข้างๆ เสมอค่ะ” เอ่ยจบราตรีดาวก็กระชับอ้อมกอดที่มีคนรักให้แน่นขึ้นเพราะรู้ว่านี่คือการตัดสินใจที่ยากที่สุดของ ดาวฤกษ์ หมอหนุ่มนอนครุ่นคิดเรื่องนี้มาตลอดทั้งคืนกระทั่งได้คำตอบเวลาปีกว่าๆ ที่ทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่นี่ทำให้เกิดความผูกพัน ทั้งกับเรื่องงานและผู้คนรอบข้างที่น่ารักกับพวกเขาอย่างเสมอต้นเสมอปลาย แม้แรกๆ ที่มาจะเกิดอาการหวาดหวั่นไปบ้างแต่หลังจากนั้นความรู้สึกที่ว่าก็หายไปยิ่งได้อยู่ด้วยกันทั้งดาวฤกษ์และราตรีดาวก็ยิ่งรักกันมากขึ้น ทั้งคู่ต่างคอยช่วยเหลืออี
“ผมรู้เรื่องจากคุณแม่แล้ว เสียใจด้วยนะครับ”“ขอบคุณค่ะ” ราตรีดาวเอ่ยขอบคุณ ซึ่งจังหวะนั้นดาวฤกษ์ก็กลับมาบ้านพักพอดี ทันทีที่เห็นน้องชายทั้งคู่ก็สวมกอดกันอย่างคิดถึงนั่นเพราะไม่ได้เจอหน้ากันมาหลายปีแล้ว“กลับมาอยู่ไทยถาวรเลยไหม” ดาวฤกษ์เอ่ยถามน้องชายขึ้น“ไม่ครับ ตั้งใจกลับมาเยี่ยมแม่เฉยๆ”“คราวนี้จะอยู่นานแค่ไหน”“อืม…หนึ่งหรือไม่ก็สองเดือน” นั่นคือเวลาที่ดาวเหนือประมาณไว้คร่าวๆ แต่ถ้ามีอะไรผิดแผนเขาก็พร้อมจะขยับเวลาให้เร็วขึ้นหรือยืดออกไปได้เสมอ“แล้วมาถึงนี่ทำไมไม่บอกกันก่อนล่วงหน้า”“เบื่อๆ นะ ไม่ได้ตั้งใจจะมา รู้ตัวอีกทีก็อยู่เมืองกาญแล้ว เลยตัดสินใจแวะมาหาพี่สักหน่อย” ดาวเหนือแค่ต้องการขับรถเล่นเท่านั้นเองแต่พอรู้ตัวก็โผล่มาอยู่กาญจนบุรีแล้ว“เบื่ออะไรหรือถูกคุณแม่นัดดูตัวให้”“ใช่ ถามจริงพี่ฤกษ์รอดจนเจอ
หลังเสร็จสิ้นงานเผาศพของโฉมฉาย ราตรีดาวก็นำอัฐิบางส่วนของแม่ไปลอยอังคาร จากนั้นก็กลับมาเก็บข้าวของส่วนตัวที่บ้านอีกเล็กน้อย ซึ่งจังหวะที่เธอกลับออกไปนั้นก็สวนทางกับผู้เป็นลุงที่เวลานี้ถลุงเงินที่ได้ไปจนหมดตัวในบ่อนและหวังกลับมาขูดรีดเอากับหลานสาวหรือไม่ก็ขนสมบัติไปขาย แต่พอไม่เจอใครหรือหยิบฉวยอะไรไปขายต่อได้อย่างที่ใจหวังก็หงุดหงิดจนอาละวาดไปทั่ว“มาแล้วหรือครับลูกหนี้ที่รัก” เสียงเจ้าหน้าคนหนึ่งดังขึ้นจากหน้าบ้านทำให้คมสันหน้าถอดสีทันที ไม่คิดว่าคนของบ่อนจะตามตัวเขาเจอได้เร็วขนาดนี้“กูกำลังมาหาเงินใช้นายมึงอยู่นี่ไง”“แล้วไหนล่ะเงิน”“ยังไม่มี แต่ขอเวลากูหน่อย รับรองกูจะเอาเงินมาคืนได้แน่”“ขอเวลาเหรอ ได้สิ งั้นเราไปขอกันเป็นการส่วนตัวหน่อยดีไหม สักในเรือกลางทะเลเป็นไง เคว้งคว้างดีออกแถมถ้าโชคร้ายถูกฆ่าโยนลงทะเลก็ไม่มีใครหาศพเจอ” คำขู่ที่ได้ยินทำให้คมสันสั่นไปทั้งตัว เพราะเมื่อก่อนเคยได้ยินมาบ้างเรื่องการเบี้ยวหนี้แล้วถูกจับได้ว่าช
“ตรีไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะได้แต่งงาน รวมถึงไม่เคยคิดมาก่อนว่าต้องใส่ชุดแต่งงานสวยๆ ชุดนี้ไปหาแม่ที่โรงพยาบาล” เธอสะอื้นไปพูดไปเพราะไม่คิดว่าตัวเองนั้นจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์อย่างตอนนี้ ในขณะที่ ดาวฤกษ์ก็ดึงตัวเข้ามากอด รับรู้ความเจ็บปวดและความเครียดของเธอได้“พี่รู้ว่าตรีรู้สึกยังไง แต่เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกันนะครับ” อ้อมกอดและคำปลอบโยนจากเขาทำให้ ราตรีดาวกลับมาเข้มแข็งได้อีกครั้ง เธอสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ เพื่อรวบรวมความกล้าและกลับมาทำทุกอย่างเพื่อแม่ทั้งสองมาที่โรงพยาบาลด้วยชุดเจ้าสาวและเจ้าบ่าวที่สวยหล่อเหมาะสมกันเป็นอย่างมาก โดยข้างๆ ทั้งคู่คือกรองแก้วและหมอปราณที่รู้เรื่องจากดาวฤกษ์จึงรีบเคลียร์งานแล้วมาเป็นสักขีพยาน ห้องพักฟื้นถูกจัดตกแต่งให้เป็นงานแต่งงานเล็กๆโฉมฉายที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงคนไข้ส่งยิ้มให้ลูกสาวและลูกเขย รอยยิ้มนี้มาพร้อมกับน้ำตาของความยินดีอย่างเหลือล้นยิ่งได้เห็นราตรีดาวอยู่ในชุดเจ้าสาวสวยๆ แบบนี้ด้วยแล้วหัวใจคนเป็นแม่ก็พองโตไปหมด&
ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับดาวฤกษ์นั้นยังสบสนจับต้นชนปลายแทบไม่ได้ แต่สิ่งเดียวที่เธอรู้คือเวลาทุกๆ นาทีที่เธอได้อยู่กับเขานั้นมันมีความสุขมาก เธอไม่เคยคิดถึงอนาคตอันไกลลิบลิ่วแต่มักจะคิดแค่วันนี้กับวันพรุ่งนี้และทำมันให้ดีที่สุดภาพครอบครัวที่ไม่เคยวาดฝันมาก่อนจู่ๆ ก็ผุดขึ้นมาในหัวของราตรีดาว ภาพขณะที่เธอกับเขาช่วยกันสร้างครอบครัวไปด้วยกัน ภาพของลูกๆ ที่แสนน่ารักน่าชัง ภาพของรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่แว่วเข้ามาอย่างแจ่มแจ้ง สามีและพ่อของลูกเธอต้องคือดาวฤกษ์คนเดียวเท่านั้น“ตรี…ตรีอยากมีค่ะ แต่ที่ลังเลเพราะกำลังตกใจทั้งเรื่องโรคที่ตรวจเจอ ทั้งวิธีการรักษาและเรื่องความสัมพันธ์ของเราสองคน”“เรื่องหลังมันอาจตอบยากเพราะเราต่างก็ไม่รู้ใช่ไหมว่าจุดเริ่มต้นมันเกิดจากตรงไหน”“ค่ะ”“ถึงแม้ความสัมพันธ์ของเรามันอาจไม่เหมือนคู่อื่น แต่ทำไมต้องไปเหมือนในเมื่อนี่คือตัวเรา แค่เรา…รู้สึกดีให้กันก็พอแล้ว ใช่ไหม”“ค่ะ” ราตรีดาวพ
“อดทนหน่อยนะครับตรี” ราตรีดาวพยักหน้ารับก่อนจะขบเม้มริมฝีปากของตัวเอง คิ้วสวยได้รูปที่ไม่เคยเขียนหรือกันคิ้วขมวดเข้าหากันเพราะความเจ็บปวดที่ยังคงเล่นงาน ไหนจะอ่อนแรงเพราะเลือดที่ออกเยอะกว่าปกติอีกด้วยดาวฤกษ์โทรศัพท์ไปหาหมออดุลย์เพื่อขอลากะทันหันโดยให้เหตุผลไปว่าเพราะอะไร ซึ่งปลายสายก็ไม่ได้คัดค้านและสนับสนุนให้ดาวฤกษ์ทำในสิ่งที่ควรทำเพราะสำหรับหมอแล้วนอกจากคนไข้คนในครอบครัวก็สำคัญไม่แพ้กันวันรุ่งขึ้นดาวฤกษ์จึงพาราตรีดาวเข้ากรุงเทพฯ ทันที ขณะขับรถอยู่นั้นก็คอยถามอาการเธอเสมอกระทั่งมาถึงโรงพยาบาลราตรีดาวก็ถูกนำตัวเข้าห้องตรวจร่างกายโดยละเอียดอย่างเร่งด่วน ในขณะที่ดาวฤกษ์เดินกระสับกระส่ายไปมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดกระทั่งประตูห้องตรวจของนายแพทย์คนหนึ่งเปิดออก“เข้ามาสิ” ประโยคที่เอ่ยทักนั้นดูคุ้นเคยเพราะทั้งคู่เป็นเพื่อนกันนั่นเอง“ตรีเป็นยังไงบ้างไอ้หมอ” ดาวฤกษ์เอ่ยถามเพื่อนสนิทที่เป็นหมอแผนกสูตินรีเวชขึ้นทันทีด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงความกังวลใจ&ld
ก่อนจะสลัดความคิดที่อยากจะหนีกลับบ้านเสียตอนนี้ออกไปจากหัว แต่ยิ่งอยากสลัดความโหยหาก็ยิ่งมากขึ้น กระทั่งเสียงของผู้ใหญ่บ้านที่อาสาไปดูรถของเขาที่จอดไว้ก่อนทางเข้าหมู่บ้านตั้งแต่เมื่อคืนจะดังขึ้น“แบตเสื่อมนะครับคุณหมอ แต่ผมให้ลูกชายไปซื้อแบตในเมืองมาเปลี่ยนให้แล้ว”“นี่เงินค่าแบตเตอรี่แล้วก็ค่าแรงครับ” เอ่ยจบ ดาวฤกษ์ก็ยื่นเงินจำนวนหนึ่งให้ผู้ใหญ่บ้าน“เอาแต่ค่าแบตเตอรี่ก็พอครับ”“ไม่ได้ครับ ต้องรับไปทั้งหมด ถ้าไม่รับแล้วผู้ใหญ่เกิดปวดหัวขึ้นมาผมไม่รักษาให้นะ”“งั้นผมรับก็ได้ครับ” พอถูกขู่มาแบบนั้นผู้ใหญ่บ้านก็จำต้องรับเงินจากดาวฤกษ์ทันทีก่อนจะยกมือไหว้พร้อมเอ่ยขอบคุณซึ่งทางหมอหนุ่มเองก็รีบไหว้กลับไปเช่นกัน“ผมเองก็ขอบคุณผู้ใหญ่กับลูกชายเหมือนกันที่อาสาไปดูรถให้ เพราะเรื่องรถผมก็แทบไม่มีความรู้เหมือนกัน”“คุณหมอเป็นหมอนี่ครับ เก่งเรื่องรักษาคนก็พอแล้ว เรื่องอื่น