อิงธารเดินตามร่างสูงไปถึงรถเก๋งคันใหญ่ คนขับรถซึ่งรออยู่แล้วเปิดประตูให้หล่อนก้าวขึ้นไปนั่งชิดติดกันกับวิคเตอร์ซึ่งหล่อนเห็นเขาอยู่ในท่าทีสบายๆ และพอรถเริ่มแล่นออกจากรั้วโรงเรียนชายหนุ่มจึงเอ่ยขึ้นเสียงเครียดไปจากเดิม
“ตอนนี้พี่สาวของคุณอยู่ที่ไหน?”
“คะ?...เอ้อ...ฉันไม่ทราบค่ะ”
“ผมถามว่าพี่สาวของคุณอยู่ที่ไหน!”
เสียงตะคอกที่ลั่นขึ้นในฉับพลันทำให้อิงธารตระหนกและไม่เพียงแต่เสียงของวิคเตอร์ดังขึ้นเท่านั้นแต่เขายังดึงข้อมือของหล่อนไปกุมไว้พร้อมทั้งบีบแรง ๆ จนหล่อนร้องออกมาว่า
“โอ๊ย! อะไรกัน นี่คุณจะทำอะไร”
“ก็ผมถามคุณดี ๆ ว่าพี่สาวของคุณอยู่ที่ไหนทำไมถึงไม่ยอมตอบผม”
“ถามดีๆ แบบไหนกันทำไมต้องตะเบ็งเสียงใส่ฉัน หรือว่า...หรือว่าคุณไม่ใช่เจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์แต่เป็นพวกหลอกผู้หญิงไปขายกันล่ะนี่...นี่ฉันไม่น่าหลวมตัวมากับคนแปลกหน้าอย่างคุณเลยจริง ๆ นะ ปล่อยฉัน!”
“ผมไม่ได้โกหกคุณ!”
เขายังไม่ยอมลดเสียงลงทำให้อิงธารเกิดความกลัวจนตัวสั่น วิคเตอร์เบียดตัวเข้าไปชิดและจับไหล่บางไว้พร้อมทั้งตะคอก
“ผมไม่เคยโกหกใครแต่พวกคุณต่างหากที่กำลังหาทางรวมหัวกันหลอกผม”
“บ้าแล้ว! คุณต้องเป็นบ้าแน่ ๆ นี่ฉันยังไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลยนะ คุณทำอย่างนี้ฉันจะตะโกนออกไปข้างนอกให้คนมาช่วย...คุณคนขับรถ...หยุดรถที...หยุดรถทีค่ะ!”
สิ้นเสียงตะโกนลั่นรถคั้นนั้นก็หยุดลงในฉับพลัน แต่...ที่ที่รถคั้นนั้นจอดนิ่งสนิทกลับเป็นซอยเปลี่ยวแม้อยู่ท่ามกลางชุมชน ใหญ่ อิงธารใช้จังหวะนั้นเอี้ยวตัวเพื่อเอื้อมมือเปิดล็อคประตูแต่โชคร้ายที่ทำอย่างไรมันก็เปิดไม่ออก
รถคันนี้มีระบบล็อคอัตโนมัติซึ่งต้องปลดล็อคจากพวงมาลัยคนขับเท่านั้น!!
“ไอ้บ้า! ปล่อยฉันนะ เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
หล่อนตะโกนลั่นอีกครั้งเสียงสั่นเครือและร้องไห้ออกมาด้วยความกลัว เพราะใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสงบมานาน ไม่เคยก่อเรื่องรำคาญหรือเดือดร้อนให้ครอบครัว พอเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันแบบนี้ก็ทำเอาหล่อนเหมือนคนเสียสติด้วยความตระหนกและกลัวลนลาน ยิ่งเห็นหน้าตาของวิคเตอร์ที่เปลี่ยนไปอย่างฉับพลันทันใดจากเมื่อครู่ หน้าตาหล่อเหลาที่เคยสงบและดูเหมือนจะอ่อนโยนด้วยซ้ำกลายเป็นถมึงทึงเครียดขึ้งนัยน์ตาขุ่นคลั่ก
“อยู่นิ่งๆ!” เขาบัญชาเหมือนตำรวจสั่งผู้ต้องหา “ผมบอกว่าให้คุณอยู่นิ่ง ๆ ยังไงล่ะอิงธาร!”
“ไม่!...ฉันอยากกลับ พาฉันไปส่งที่โรงเรียนเดี๋ยวนี้ ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต!”
“เรียกผมว่าไอ้โรคจิตอีกคำเดียวผมข่มขืนคุณบนเบาะหลังรถคันนี้แน่!”
“ว๊าย!”
หล่อนกรีดร้องหน้าตื่นเมื่อชายหนุ่มคว้าข้อมือไว้และดึงร่างเล็กเข้าไปชิดอกกว้างโดยไม่สนใจว่าคนขับรถจะได้ยินหรือรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่แต่ก็ดูเหมือนว่าคนหลังพวงมาลัยจะนิ่งเฉยและไม่สนใจเสียงถกเถียงที่ดังเบื้องหลังเขาแม้แต่น้อย อิงธารหน้าแดงจัดด้วยความตื่นกลัว และท้ายที่สุดหล่อนก็เริ่มสงบลงเพราะกลัวสายตาคมวับยิ่งกว่าใบมีดของชายหนุ่มที่จ้องหล่อนเหมือนอยากจะฉีกเนื้อออกเป็นหมื่น ๆ ชิ้น
“นิ่งแล้วฟังผม...ฟังเรื่องของพี่สาวคุณว่าเธอทำอะไรไว้กับผมบ้าง แต่บอกไว้ก่อนนะว่าถ้าผมเล่าจบแล้วจะยังไม่ปล่อยคุณกลับไปง่าย ๆ เพราะมันมีอะไรมากกว่านั้นที่คุณต้องรับรู้มากกว่ารับฟังเฉยๆ”
“ก็พูดไปสิ...ฉันฟังอยู่นี่ไง”
“คุณรู้ใช่ไหมว่าเอ็มม่าพี่สาวของคุณเป็นนายหน้าค้าที่ดิน”
“รู้...รู้สิ ทำไมฉันจะไม่รู้”
“เอ็มม่ากับผมเราสนิทกันมากเพราะทำงานด้วยกันมานาน หล่อนทำงานดีมาก คล่องแคล่วเรื่องซื้อขาย ผมอุตส่าไว้ใจให้หล่อนกำเงินไปซื้อที่ดินชายทะเลไว้แห่งหนึ่งแล้วรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น”
อิงธารส่ายหน้า “มะ...ไม่รู้ ฉันจะไปรู้เรื่องของพวกคุณได้ไง”
“ถ้าอย่างนั้นก็รู้ไว้สิว่าพี่สาวของคุณโกงผม!”
เขาลั่นเสียงดังและขับเข้าไปชิดร่างน้อย ดันจนหล่อนแทบไม่มีที่จะขยับตัว หน้าตาถมึงทึงของเขาโน้มต่ำลงมาใกล้จนได้ยินเสียงลมหายใจร้อนหอบหนัก
“เอ็มม่าเก็บโฉนดที่ดินเอาไว้ไม่ยอมส่งต่อมันให้ผม เธอหายตัวไป”
“ทำไมคุณไม่ตามหาพี่อรล่ะ คุณมีเงินก็จ้างนักสืบตามหาพี่สาวฉันสิ”
“ผมทำทุกอย่างแล้ว แต่พี่สาวของคุณไหวตัวทัน รู้หรือเปล่าว่าเธอไม่ใช่แค่เอาโฉนดที่ดินไปเฉย ๆ รับเงินจากผมไปซื้อที่ดินสิบล้านแต่ไปขายต่อให้คนอื่นห้าสิบล้าน แบบนี้คุณว่ามันแสบดีมั้ยล่ะ!”
“หา! ห้าสิบล้าน!”
หน้าสวยจัดตื่นตระหนกยิ่งกว่าเก่า อิงธารนิ่งไปและสับสนเกินบรรยาย
“นี่คุณพูดจริงหรือคะ ทะ...ทำไมเงินมันถึงได้มากมายขนาดนั้น”
“จะให้ผมไปถามใคร และที่พาคุณมาก็แค่อยากรู้ว่าตอนนี้พี่สาวของคุณอยู่ที่ไหน”“ฉันไม่รู้...ก็ไม่ได้พบพี่อรมาตั้งหลายเดือนแล้ว”“โกหก!” เขาเขย่าตัวหล่อนแรง ๆ “ผมไม่เชื่อหรอกนะว่าคุณจะพูดความจริงในเมื่อคุณสนิทกับพี่สาวของคุณยิ่งกว่าอะไร”“แล้วนี่คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันสนิทกับพี่อรมาก พี่น้องกันอาจจะไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกันก็ได้”“ก็พี่สาวคุณชอบพูดถึงน้องสาวตัวเองบ่อยๆ บอกผมว่าสนิทกับน้องสาวมาก”และยิ่งเมื่อได้พบหน้าวิคเตอร์ก็เกือบจะคิดว่าอิงธารกับอิงอรเป็นฝาแฝดกันด้วยซ้ำ เค้าโครงหน้าของอิงธารคล้ายกับอิงอรมากผิดกันก็แต่สายตาและท่าทางเหมือนสาวไม่เจนโลกของคุณครูคนสวย เขาเลิกรอยยิ้มเหี้ยม“บอกผมมาดี ๆ จะดีกว่าว่าพี่สาวของคุณอยู่ที่ไหน”“ก็บอกว่าไม่รู้ไง”“ผมไม่เชื่อ!”“บ้ารึไง คนไม่รู้จะบอกว่ารู้ได้ยังไง”“แกล้งทำเป็นหนิม ๆ แบบนี้อย่าคิดว่าผมไม่รุ้ทันผู้หญิงอย่างคุณ ทำตัวเป็นครูสอนเด็กแต่เบื้องหลังไม่รู้ทำอะไรเลวร้ายอย่างพี่สาวของคุณไว้บ้าง”“อย่ามาว่าฉันนะ อย่ามาดูถูกอาชีพของฉัน”“ดูถูกน่ะมันถูกแล้ว คนอย่างผมดูอะไรไม่เคยผิด”“ปล่อย!”ร่างเล็กออกแรงดิ้นสุดตัวแต่กลับถูกชายหนุ่มจับข้อมือแล้วกดไว้ข้างลำ
หล่อนร้องห้ามพร้อมน้ำตาไหลพรากทั้งที่วิคเตอร์ยังไม่ทันต่อโทรศัพท์ออกไปด้วยซ้ำ คราวนี้เขายิ้มเหยียดอย่างผู้ชนะ อิงธารอ่อยปวกเปียก มือที่กำหมัดคลายลงอย่างหมดทางสู้“ฉันไม่รู้หรอกว่าพี่สาวของฉันอยู่ที่ไหน คุณจะให้ฉันทำอะไรก็ได้นะ แต่อย่ายุ่งกับแม่ของฉัน ท่านแก่มากแล้ว”“ให้ทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ?”“ใช่...อะไรก็ได้”เสียงสั่นเครือและหน้าซีดขาวของอิงธารทำให้วิคเตอร์รู้สึกว่าหล่อนอาจพูดความจริงเรื่องที่ไม่รู้ว่าพี่สาวไปอยู่เสียที่ไหนในตอนนี้ แต่จะให้เขาสงสารแล้วปล่อยหล่อนไปคงทำไม่ได้แน่ เพราะอิงอรทำกับเขาไว้เจ็บแสบ เชิดทั้งเงินทั้งโฉนดที่ดินแถมหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยแบบนี้ ทางที่ดีเขาควรเก็บน้องสาวของหล่อนไว้เพื่อเป็นตัวประกันให้หล่อนกลับมาเพื่อชดใช้จะดีกว่าที่เขาไม่มีอะไรไว้ต่อรองเสียเลย“ถ้าอย่างนั้นผมก็ตัดสินใจที่จะไม่...กลับอเมริกาวันนี้ แต่จะอยู่กับคุณที่นี่จนกว่าพี่สาวของคุณจะกลับมา”“อยู่กับฉัน...คุณจะอยู่ได้ยังไง”“ผมจะไปอยู่ที่บ้านของคุณ คอยติดตามดูคุณทุกฝีก้าวและผมยิ่งกว่าแน่ใจว่าถึงวันนี้คุณจะไม่รู้ว่าพี่สาวของคุณอยู่ที่ไหน แต่วันหนึ่งเอ็มม่าจะต้องติดต่อกลับมาหาคุณแน่ ๆ และเมื่
อิงธารไม่ได้รู้สึกสบายขึ้นแม้แต่น้อย ตรงข้ามหล่อนยิ่งเครียดจัดเพราะไม่รู้ว่าจะตั้งรับกับปัญหาที่กำลังจะลุกลามใหญ่โตนี้อย่างไรดี หล่อนคิดไม่ตกเพราะที่จริงแล้วก็ไม่ได้พบอิงอรมานานหลายเดือน และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เจอพี่สาว เพราะถ้าหากวิคเตอร์จะไปอยู่ที่บ้านหล่อนจริง ๆ คงเป็นเรื่องหนักอึ้งพอดู แต่ปัญหาใหญ่ตอนนี้คือจะบอกกับแม่ของหล่อนเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ว่าอย่างไรดี“ลินดัน...ออกรถ...กลับไปที่โรงเรียนของเธอ”วิคเตอร์ออกคำสั่งโดยที่ไม่ยอมละสายตาคมวับไปจากใบหน้าหวานจัดของหญิงสาว รสละมุนเหมือนน้ำต้อยของดอกไม้ป่ายังฉ่ำอยู่บนปลายลิ้นของเขา ชายหนุ่มสลัดความนึกคิดนั้นพ้นจากหัวไม่ได้แต่หน้าตายังคงบึ้งตึงใส่อิงธารที่แววตาคู่นั้นฉายความหวั่นวิตกชัดเจน คนขับของวิคเตอร์พารถกลับไปยังโรงเรียนอีกครั้ง และเมื่อไปถึงอิงธารก็รีบเปิดประตูรถลงไป หล่อนคิดว่าจะจะได้หายคอหายใจแต่ที่ไหนได้วิคเตอร์กลับตามหล่อนลงไปและเดินตามจนถึงหน้าห้องพักครู หญิงสาวหันมาทำตาเขียวใส่และส่งเสียงลอดไรฟัน“นี่คุณ...จะตามฉันมาทำไม กลับไปก่อนเถอะค่ะ ฉันไม่หนีไปไหนหรอกนะ”“ผมจะรอจนกว่าคุณจะเสร็จหน้าที่ที่โรงเรียน”“ไม่ได้นะคะ”“ผัวจะ
“คุณครูขา...มีคนมาขอพบคุณครูค่ะ”เสียงแจ๋ว ๆ ที่ดังขึ้นทำให้อิงธาร คุณครูสาวร่างเล็กบอบบางซึ่งกำลังก้มหน้าตรวจการบ้านให้ลูกศิษย์ตัวเล็ก ๆ ชั้นประถมของหล่อนต้องเงยหน้าขึ้นและเห็นเด็กหญิงในชุดนักเรียนชั้นป.1 ยืนบิดตัวไปมาอยู่ที่ประตูด้วยความเก้อเขินและประหม่าเมื่อต้องเข้ามาในห้องพักครูอิงธารเลิกคิ้วพลางก้มลงดูนาฬิกาข้อมือก็เห็นว่าเป็นเวลาพักเที่ยงแต่หล่อนเป็นคนเดียวในห้องที่ไม่ได้ออกไปทานข้างข้างนอกเหมือนคนอื่นๆ“ใครเหรอจ๊ะ เขาบอกหรือเปล่าว่าชื่ออะไร?”“ม่ายค่ะ...แต่เขาตัวใหญ่มากเลยนะคะ ท่าทางเขาจะเป็นฝรั่งค่ะ”“หืมม์?...ฝรั่งมาขอพบครูเหรอคะ...”เสียงนั้นขาดหายไปในลำคอเมื่อหญิงสาวลุกขึ้นและต้องชะงักเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่งในชุดลำลองก้าวเข้ามาหยุดข้าง ๆ เด็กหญิงตัวเล็กก่อนจะกล่าวด้วยเสียงห้าวกังวานว่า“ขอบคุณมากนะหนู...นี่ขนม เป็นช็อคโกแล็ตขาว อร่อยมากด้วย”“ขอบคุณคะ”เด็กหญิงรับกล่องขนมด้วยรอยยิ้มตื่นเต้นก่อนจะรีบวิ่งออกไปทิ้งไว้แต่ชายหนุ่มร่างใหญ่ซึ่งคำนวณอายุน่าจะราวสามสิบปลาย ๆ ในขณะนั้นอิงธารก็ค่อย ๆ ก้าวออกมาจากโต๊ะทำงานและมองใบหน้าคมคร้ามของบุรุษซึ่งหล่อนไม่เคยเห็นหน้าหร