ภูริวัฒน์พาภรรยาสาวมาที่ร้านอาหารฝรั่งเศสสุดหรู ทั้งคู่เพิ่งสั่งอาหารเสร็จ น้ำตาลสังเกตเห็นว่าภูริวัฒน์มองไปที่มือถือของตัวเป็นรอบที่สามแล้ว และสีหน้าเขาดูกังวลแต่เขาไม่ยอมพูดอะไร
“มีอะไรรึเปล่าคะพี่ภู”
“เปล่าหรอก”
“พี่ภูคะ” น้ำตาลยิ้มให้ เพื่อบอกว่าเธอไม่เป็นไร จะบอกว่าเธอชินเหรอ ที่เวลาของเขาไม่เคยเป็นของเธอ
“ตาลพี่ขอโทษ พี่ขอไปโทรศัพท์แป๊บเดียว เดี๋ยวพี่มา” สีหน้าเขาแสดงความรู้สึกผิดอย่างชัดเจน
“ค่ะ” น้ำตาลตอบพร้อมยกไวน์ขึ้นจิบ ทำตัวให้เป็นธรรมชาติ
“เดี๋ยวพี่มานะ” เขาบอกอีกครั้งแล้วจึงลุกขึ้นยืน เดินผ่านโต๊ะอื่น ๆ ออกไปที่ระเบียงหน้าร้านในระยะที่น้ำตาลสามารถมองเห็นเขาได้
น้ำตาลรู้สึกแปลก ๆ ที่มาออกเดตกับชายหนุ่มในครั้งนี้ นั่นอาจเป็นเพราะให้คำนิยามกับความสัมพันธ์ตอนนี้ไม่ได้ เธอไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ดีหรือร้าย เป็นเหตุว่าทำไมเธอถึงลังเลตอนที่เขาชวน
น้ำตาลมองกาแฟสีดำเข้มที่กำลังไหลลงแก้ว กลิ่นหอมเข้มของกาแฟชั้นดีตลบอบอวลทั่วห้องครัว เครื่องชงกาแฟที่บ้านของภูริวัฒน์ดีมาก และเธอชอบมากวันนี้ตอนเธอตื่นก็พบว่าที่นอนด้านข้างว่างเปล่าแล้ว แต่เขาทิ้งโน้ตไว้ว่าเขาจะรีบกลับ เมื่อคืนกว่าที่เธอกับเขาจะกลับถึงบ้านก็เกือบห้าทุ่ม เนื่องจากการทำคลอดใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าปกติ แต่โชคดีที่สุดท้ายแล้วทั้งแม่และเด็กปลอดภัย เธอรู้ว่าเขารู้สึกผิดต่อเธอ เขาอยากเอาใจเธอแต่ก็ไม่สามารถทิ้งหน้าที่ไปได้ แต่เธอบอกให้เขาสบายใจว่าไม่เป็นไร เธอไม่ได้โกรธเขาจริง ๆ แต่เธอกำลังใช้เวลาทบทวนตัวเอง“ทำไรอยู่เหรอตาล” เสียงทุ้มดังขึ้นด้านหลังทำให้น้ำตาลหันไปมองภูริทัตกำลังยืนพิงโต๊ะกินข้าว เขาสวมกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดสีดำ“กำลังซักผ้าอยู่” เธอแกล้งยวนก่อนที่จะถามดี ๆ “นายจะเอากาแฟมั้ย”“อืม ขอแก้วนึง”น้ำตาลยิ้มให้เพื่อน รินกาแฟใส่ถ้วยแล้วเดินมานั่งลงข้างเขา ซึ่งยังหน้า
ส่วนภูริวัฒน์ก็พาตัวเองมานั่งข้างภรรยาสาว หยิบถุงกระดาษสีน้ำตาลขึ้นมา เปิดออกเป็นกุหลาบขาวหนึ่งช่อ ยื่นส่งให้“นี่สำหรับตาล” เขาพูดเสียงนุ่มน้ำตายิ้มกว้างพร้อมยื่นมือออกไปรับ เขารู้ว่าเธอชอบกุหลาบขาว “ขอบคุณนะคะ”ชายหนุ่มยิ้มมุมปากเล็ก ๆ ขณะมองมาที่เธอ“ถ้าจะหวานกันแบบนี้ต้องจูบโชว์กันหน่อย” ภูริทัตเอ่ยแทรกน้ำตาลย่นจมูกใส่เพื่อน เขาไม่รู้ว่าเธอกับพี่ชายเขายังไม่เคยจูบกันเลยสักครั้งตั้งแต่เจอกัน“ตาลเพิ่งชงกาแฟเสร็จ พี่ภูจะรับสักแก้วมั้ยคะ” เธอถามเมื่อชายหนุ่มนั่งลงเพื่อกินมื้อเช้า“ครับ”น้ำตาลลุกขึ้นไปรินกาแฟมาให้เขาถ้วยหนึ่ง รู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังทำหน้าที่ของภรรยา“ขอบคุณครับตาล” เสียงทุ้มบอก“วันนี้ผมนัดไปปาร์ตี้กับเพื่อน” ภูริทัตเกริ่นขณะกำลังรับประทานอาหาร “พี่ภู
ภูริวัฒน์ขับรถมาถึงโรงพยาบาล พอจอดรถเสร็จก็รีบเดินอ้อมมาเปิดประตูอีกข้าง น้ำตาลมองมือใหญ่ที่ยื่นออกมาตรงหน้า ตัดสินใจรักษาน้ำใจเขาด้วยการวางมือตัวเองลงไป แต่พอออกจากรถแล้วเขากลับไม่ยอมปล่อยมือ แถมยังประสานนิ้วกับนิ้วเธออีก การกระทำของเขาดูเป็นธรรมชาติมากราวกับว่าเขาทำมันเป็นปกติทุกวัน น้ำตาลรู้สึกหัวใจพองฟู อดยิ้มไม่ได้เลยหันหน้าไปทางอื่นไม่ให้เขาเห็น“โห ที่นี่เปลี่ยนไปเยอะเลยค่ะพี่ภู” เธอหยุดมองด้านหน้าอาคารที่ทาสีขาวใหม่ทั้งหลัง และยังมีส่วนต่อเติมเพิ่มอีกทำให้ดูใหญ่โตกว่าเดิม“เพิ่งรีโนเวทไปเมื่อปีที่แล้วน่ะ” ภูริวัฒน์บอกขณะเดินจูงมือเธอเข้าไปด้านใน“ดูสวยและทันสมัยมากค่ะ”“สวัสดีค่ะ” พนักงานต้อนรับสาวเอ่ยเมื่อมีคนเดินเข้ามา แต่พอเห็นว่าเป็นใครก็ยิ้มให้ “อ้าว คุณหมอภู” จากนั้นก็เลื่อนสายตามองหญิงสาวที่ยืนข้างคุณหมอหนุ่มด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่ปิดไม่มิด“สวัสดีครับคุณโบว์ วันนี้มีอะไรมั้ย” ภูริวัฒน์ทัก
“ตาลเป็นภรรยาพี่”เขาย้ำด้วยน้ำเสียงที่แสดงความเป็นเจ้าของเต็มที่ เบียดกายเข้าหาร่างบาง ค่อย ๆ โน้มหน้าลงมาจนกระทั่งริมฝีปากสัมผัสกัน น้ำตาลหลับตา ยกมือคล้องคอเขา รู้สึกเหมือนพลุนับร้อยกำลังพุ่งทะยานกระจายแต่งแต้มทั่วท้องฟ้ายามค่ำคืน เหมือนครั้งแรกที่จูบกับเขาวินาทีนั้นน้ำตาลรู้ตัวแล้วว่าไม่เคยต้องการใครมากขนาดนี้มาก่อน มันนานเหลือเกินที่ไม่ได้รับสัมผัสวิเศษจากผู้ชายคนนี้ เธออยากรู้สึกถึงสัมผัสจากเขาไปทั่วเรือนร่าง เธอลืมไปได้อย่างไรว่าความรู้สึกที่ได้อยู่ในวงแขนคู่นี้มันดีแค่ไหนจูบเริ่มลึกซึ้งขึ้น ภูริวัฒน์สอดลิ้นเข้ามาหาความหวานในปาก น้ำตาลส่งเรียวลิ้นไปเกี่ยวกระหวัด แลกเปลี่ยนจูบกันไปมา ราวกับว่าทั้งคู่กำลังจูบชดเชยช่วงเวลาที่สูญเสียไป…ก๊อก ๆ ๆเสียงเคาะประตูดังขัดจังหวะ สองร่างจึงรีบผละออกจากกัน แล้วประตูก็ถูกผลักเข้ามาโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตน้ำตาลยืดตัวขึ้น แต่ร่างสูงยังประคองเ
เมื่ออยู่ว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำน้ำตาลจึงเดินไปเลือกหนังสือที่ชั้นหนังสือมาอ่าน ส่วนใหญ่เป็นพวกตำราแพทย์ ดิกชันนารี แล้วก็นิตยสารฟุตบอล ภูริวัฒน์เป็นแฟนฟุตบอลตัวยง สมัยคบกับเขาทำให้เธอชอบดูบอลตามไปด้วยเธอเลือกหยิบออกมาเล่มหนึ่ง พอเปิดไปก็มีกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ร่วงลงมา เธอจึงก้มลงเก็บขึ้นมาดู ทำให้เห็นว่ามันไม่ใช่แค่เศษกระดาษ เพราะมันคือรูปถ่ายของเธอกับภูริวัฒน์ตั้งแต่สมัยที่เริ่มคบกัน เป็นรูปเซลฟี่แก้มชนแก้มและยิ้มกว้างจนตาหยี รูปนี้ ถ้าเธอจำไม่ผิด…น้ำตาลรีบพลิกดูด้านหลัง ถึงกับยิ้มออกมาเมื่อเห็นข้อความที่เขียนด้วยลายมือน่ารัก ตาลรักพี่ภู แถมยังวาดหัวใจต่อจากชื่อเขาอีก ตอนนั้นเขาและเธอยังเด็กมาก ไม่ได้คิดถึงว่าอนาคตของทั้งคู่จะเป็นอย่างไร มีเพียงแค่ความรักอย่างเดียวล้วน ๆเสียงประตูถูกเปิดเข้ามา น้ำตาลนึกว่าเป็นภูริวัฒน์จึงหันไปมอง ปรากฏว่าไม่ใช่ แต่เป็นธรรมิกาแทน“ขอโทษค่ะ” คุณหมอสาวสีหน้าละอายเล็กน้อย “ภูพูดถูก ฉันควรเลิกนิสัยที่เปิดประตูเ
ชายหนุ่มนั่งลง เปิดแล็ปท็อป และพิมพ์อะไรบางอย่างลงไป ส่วนน้ำตาลเดินไปนั่งรอที่โซฟา ส่งข้อความไปหาน้องสาว และได้รับข้อความตอบกลับว่าเธออยู่ที่สนามแบดมินตัน กำลังดูภูริทัตตีแบดกับเพื่อน ๆ คิดในใจว่ายังดีกว่าที่ภูริทัตพาไปที่อื่นเช่นพวกปาร์ตี้กับบรรดาเพื่อนเสือสิงห์กระทิงแรดทั้งหลายของเพื่อนหนุ่ม เธอจ้องมองภูริวัฒน์ครู่หนึ่ง เขากำลังคร่ำเคร่งกับงานตรงหน้า ทว่าจู่ ๆ ประโยคที่ธรรมิกาพูดก็สะท้อนเข้ามาในหัวฉันเป็นห่วงเขายอมรับเลยว่าหึง ผู้หญิงคนนั้นพูดเหมือนกับว่าภูริวัฒน์เป็นของหล่อน เหมือนว่าหล่อนเป็นภรรยาของเขา ไม่ใช่เธอ ชั่วแวบหนึ่ง น้ำตาลไม่สนใจว่าเธอเป็นคนทิ้งชายหนุ่มไปหรือไม่ ถึงอย่างไรเขาก็ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของเธอ คนที่มีสิทธิ์ในตัวเขาคือเธอ ไม่ใช่ธรรมิกาโดยไม่ทันคิด เธอลุกขึ้นยืน เดินตรงไปหาชายหนุ่มและหยุดยืนหลังโต๊ะทำงาน วางมือลงบนบ่ากว้าง ก่อนที่เขาจะทันได้ตั้งตัว เธอถลกกระโปรงตัวเองขึ้นแล้วขึ้นคร่อมตักเขา“ต
หลังจากที่ปรึกษาหารือกัน วันนี้พวกเขาตัดสินใจพาน้ำหวานมาเที่ยวทะเลก่อนจะกลับ โดยเลือกที่จะมาพัทยาเพราะอยู่ไม่ไกล ภูริวัฒน์กำลังมองภรรยาตัวเองไม่วางตา เธอสวยและเซ็กซี่มาก เขารู้สึกว่าตัวเองโชคดี และยืดอกอย่างเต็มภาคภูมิที่เป็นสามีของ‘สาวฮอต’ ที่คนบนชายหาดเรียกขาน แต่พอได้ยินพวกผู้ชายที่นั่งข้าง ๆ พูดถึงเธอเขาก็ชักยัวะเหมือนกันน้ำตาลกำลังเล่นวอลเลย์บอลอยู่ เธอดูสวย โดดเด่น สดใส และเซ็กซี่ ในชุดบิกินี่สีชมพูที่สวมทับด้วยกางเกงขาสั้นและเสื้อซีทรูสีขาว ขณะที่นั่งมองเธอก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้เป็นเจ้าของเธอ แต่เมื่อคิดว่าเธอกำลังจะจากเขาไปอีกก็รู้สึกโกรธ สันกรามเขาขบกันแน่น ทั้งโกรธและเสียใจ โกรธตัวเองที่ไม่ได้ทำอะไรเพื่อรั้งเธอไว้ได้เลย เขาไม่อยากเสียเธอไปอีกแล้ว และจะต้องลงมือทำอะไรสักอย่างวันนี้เป็นวันศุกร์ และเธอกำลังจะกลับในวันอาทิตย์ เขาได้หยุดงานตลอดทั้งสัปดาห์ไว้แล้ว นับว่าเป็นครั้งแรกในรอบสี่ปีเลยก็ว่าได้ที่เขาหยุดงานยาว ๆ ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าภรรยาเขากับเวลาที่เหลืออยู่อีกแล้ว เขา
น้ำตาลมองตัวเองในกระจกขณะกำลังหวีผม ผิวของเธอแดงก่ำเพราะลืมทาครีมกันแดดทำให้ผิวไหม้ แต่ก็ไม่เป็นอะไร เธอไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก เดี๋ยวก็ค่อย ๆ ดีขึ้นเอง เธอสูดหายใจเข้าลึกเรียกความกล้าของตัวเอง มั่นใจว่าหลังจากที่เปิดประตูออกไปจะต้องเผชิญหน้ากับความจริงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกต่อไป เพราะเธอกับภูริวัฒน์ต่างคนต่างยื้อที่จะพูดคุยกันจริง ๆ จัง ๆ มานานแล้ว และตอนนี้ก็เป็นเวลาที่ดีที่สุดเธอเปิดประตูห้องน้ำออกไป ไฟในห้องนอนยังคงสว่างอยู่ ทีวีถูกเปิดทิ้งไว้แต่ปิดเสียงไว้ ภูริวัฒน์นั่งอยู่ที่ขอบเตียง ยังอยู่ในเสื้อผ้าชุดเดิม ใบหน้าเคร่งเครียดผิดกับก่อนหน้าลิบลับ น้ำตาลเอะใจ สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น“พี่ภู” เธอเดินเข้าไปหาเขาเขาเงยหน้าขึ้น น้ำตาลผงะ เพราะนัยน์ตาเขาเต็มไปด้วยโทสะ“ชานนท์เป็นใคร” เขาถามเสียงเข้มน้ำตาลตัวเยียบเย็นโดยฉับพลัน หน้าเธอซีดเผือด นิ่งไปสักพักก่อนจะหาเสียงตัวเองเจอ “ขอโทษค่ะ”ร่าง
สองปีต่อมาภูริวัฒน์นอนตะแคงข้าง มองผู้หญิงสองคนที่เขารักที่สุดในโลก คนหนึ่งคือภรรยาที่กำลังนอนคว่ำหน้าหมดแรง เนื่องจากเหนื่อยจากการเลี้ยงลูก และอีกหนึ่ง แน่นอนว่าเป็นนางฟ้าตัวน้อยของเขา น้องดาหวัน ซึ่งกำลังหลับปุ๋ยอยู่ระหว่างพ่อและแม่ ในมือกอดขวดนมไว้หลวม ๆ เขาอดใจไม่ไหวยื่นนิ้วออกไปเกลี่ยแพขนตางอนหนาของเจ้าตุ๊กตาตัวน้อย ไม่ได้อยากทำให้ตื่น แต่ทนต่อความน่ารักไม่ไหวจริง ๆไม่มีคำไหนมาบรรยายความรักของเขาที่มีต่อเธอได้เลย ตอนนี้ชีวิตเขากำลังอยู่ในช่วงเวลาอิ่มเอมอย่างที่สุด มีทั้งภรรยาที่รัก และลูกสาวที่น่ารัก นอกจากนี้ แม่เขาก็เปิดใจรับน้ำตาลมากขึ้น หลังจากเกิดเรื่องราวในคืนนั้น แม่กับน้ำตาลแม้จะไม่ได้สนิทกันมากแต่ก็ไม่ได้ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้แบบเมื่อก่อน เขารู้สึกขอบคุณแม่ที่ยอมละทิฐิตัวเองลงไปได้บ้างไม่กี่นาทีถัดมา น้ำตาลรู้สึกตัวตื่นขึ้น เธอหยีตาก่อนที่จะค่อย ๆ ลืมตา“พี่ภูตื่นแล้วเหรอคะ” ถามพร้อมบิดขี้เกียจ
อายุครรภ์ของน้ำตาลล่วงเข้าสู่สัปดาห์ที่ยี่สิบสอง หน้าท้องของเธอตอนนี้นูนขึ้นมาจนสามารถเห็นได้ชัดขึ้นแล้ว และสิ่งที่น่ายินดีคือเธอรู้เพศของลูกแล้ว เธอกับภูริวัฒน์กำลังจะมีลูกสาว ตอนนี้เธอรับรู้การเคลื่อนไหวของแกบ่อยขึ้น น้ำตาลจำได้ว่าครั้งแรกเธอกลัวมาก เธอรู้สึกแปลก ๆ เหมือนมีอะไรขยับในท้อง ด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าลูกจะเป็นอันตรายจึงตื่นตระหนก“พี่ภูคะ!” เธอตะโกนเรียกสามีเสียงดังภูริวัฒน์รีบมาหาเธอทันทีโดยที่พันผ้าขนหนูไว้รอบเอวเท่านั้น ผมมีน้ำหยดติ๋ง ๆ หน้าตาเขาตื่นตกใจ “เกิดอะไรขึ้นตาล”“ตาลไม่รู้”เธอมองหน้าเขา แล้วยกมือวางที่หน้าท้อง “ตาลรู้สึกแปลก ๆ ข้างใน”สามีหนุ่มนั่งลงหน้าภรรยา เขาวางมือลงบนหน้าท้องเธอ ทั้งคู่เฝ้ารอจนกระทั่งความรู้สึกแบบเมื่อครู่เกิดขึ้นอีกครั้ง“พี่ภู” น้ำตาลบอกให้เขารู้รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลา
คุณหมอขยับเครื่องมือไปตามหน้าท้องของน้ำตาลเพื่อหาจังหวะการเต้นของหัวใจของทารกในท้อง เธอรู้สึกตื่นเต้นและกังวลไปหมด รู้ว่าไม่มีอะไรต้องกังวลมากแต่ก็อดไม่ได้ ส่วนภูริวัฒน์ยืนอยู่ด้านข้าง จับมือเธอไว้ขณะที่สายตาจับจ้องที่หน้าจอสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่ในที่สุดก็ปรากฏภาพทารกที่กำลังเจริญเติบโตในครรภ์ ซึ่งหมอบอกว่าอายุประมาณเก้าสัปดาห์ น้ำตาลแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่เมื่อได้เห็นภาพเจ้าตัวเล็กครั้งแรก ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงเหลือเชื่อสำหรับเธอมาก เมื่อคุณหมอขยับเครื่องมือ ก็เกิดเสียงดังตุบ ๆ ๆ คุณหมอสาวยิ้มให้“นี่เสียงหัวใจค่ะ” เธอบอกภูริวัฒน์มองหน้าภรรยาพร้อมกับบีบมือ ต่างคนต่างเข้าใจความรู้สึกที่เกิดขึ้นในขณะนี้ดี มันตื่นเต้นตื้นตันเกินกว่าจะสามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ พอตรวจเสร็จคุณหมอสั่งปรินต์รูปอัลตราซาวด์เจ้าตัวเล็กให้ จากนั้นพยาบาลก็นำมาให้พร้อมกับทำความสะอาดหน้าท้องคนไข้ เสร็จแล้วภูริวัฒน์ก็ช่วยพยุงภรรยาขึ้นจากเตียง“ทั้งแม่และเด็กแข็งแรงดีค่ะ” คุณหมอบอก
น้ำตาลยืนเอามือยันกับผนัง ชะโงกหน้าเหนือชักโครกและรอ แต่ไม่มีอะไรสักอย่าง เธอเป็นแบบนี้มาได้สักพักแล้ว รู้สึกอยากอาเจียน เธอเลยรีบมาที่ห้องน้ำ แต่พอมาถึง โก่งคออาเจียนกลับมีแต่น้ำลายเหนียว ๆ ทำเอาเธอเหนื่อยและเพลียมาก เธออยากให้อาการนี้หายไปสักที สุดท้ายเธอตัดสินใจนั่งลงที่พื้น รู้ว่าถ้ากลับไปนอนพัก อย่างไรเดี๋ยวก็ต้องกลับมาอีก แต่เมื่อนั่งรอไปได้สักพัก ไม่มีทีท่าว่าจะอาเจียนต่อจึงลุกกลับไปนอน แต่เสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงดังขึ้น เธอนึกแปลกใจเพราะว่าตอนนี้ใกล้จะตีสี่เข้าไปแล้ว ใครจะโทรมาเวลานี้ เธอควานมือไปหยิบมือถือขึ้นมาดู หัวใจเธอเต้นแรงทันทีเมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ เพียงแค่เห็นก็รู้สึกอบอุ่นใจ อาจเป็นเพราะช่วงนี้เธอมีอารมณ์อ่อนไหวมากเป็นพิเศษ“พี่ภู”“ตาล พี่ปลุกตาลรึเปล่า” รู้ว่าเวลานี้เป็นเวลานอนแต่ทนคิดถึงไม่ไหว ทั้งยังตื่นเต้นที่กำลังจะได้เจอ“เปล่าค่ะ” เธอตอบเสียงเหนื่อยจนคนฟังจับได้“ตาลไม่ได้นอนอยู่เหรอ เป็น
สองสัปดาห์ผ่านไปที่น้ำตาลภรรยาสุดรักกลับไปหลังจากที่เธอมาหาเขาพร้อมกับข่าวดี ภูริวัฒน์ยังคิดว่าตัวเองฝันไปที่กำลังจะมีลูก เขารู้สึกถึงช่วงเวลาสุดพิเศษ มีความสุข ยิ้มได้ทั้งวัน จนคนรอบข้างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เขายังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใคร แต่แน่นอนว่าเขาจะต้องบอกน้องชายกับแม่เร็ว ๆ นี้ตอนนี้เขากำลังคิดถึงเรื่องสำคัญบางอย่าง เขากับน้ำตาลอยู่ไกลกันคนละจังหวัด เขาเป็นห่วงเธอกับลูก อยากเจอ อยากไปหา ไปดูแล เพราะเธออยู่ในช่วงที่อารมณ์อ่อนไหวและต้องการการดูแลอย่างระมัดระวังที่สุด ผลสอบชิงทุนของน้ำหวานประกาศแล้ว สรุปว่าเธอได้รับทุนสมใจ จึงต้องเตรียมตัวเพื่อที่จะจัดการเอกสารต่าง ๆ เพื่อที่จะได้เดินทางไปเรียนที่ออสเตรเลียในอีกสี่เดือน เขาไม่อยากให้น้ำตาลอยู่ตัวคนเดียวในช่วงเวลานี้ เพราะเธอยืนกรานว่าจะไม่ย้ายมาอยู่กับเขาก่อนที่น้องจะเดินทาง“พี่ภูไม่ต้องมาหรอกค่ะ ตาลอยู่ได้” เสียงภรรยาตอบกลับเมื่อเขาบอกว่าจะไปอยู่กับเธอ“พี่อยากไปอยู่ใกล้ ๆ ตาลกับลูก”“แ
อาการดีใจของคนที่กำลังจะเป็นพ่อทำให้น้ำตาลน้ำตารื้น เธอรักเขา รักผู้ชายคนนี้ ผลลัพธ์ต่างจากที่เธอคาดเอาไว้มาก“ค่ะ เรากำลังจะเป็นพ่อแม่คน” น้ำตาลหัวเราะกับท่าทางดีใจเกินเหตุของเขาภูริวัฒน์ลุกขึ้นยืน ยกมือขึ้นเสยผมแล้วเดินกลับไปกลับมา“พี่จะทำยังไงดีตาล พี่ไม่ยากแยกจากตาลเลย ให้พี่กลับไปพร้อมกับตาลได้มั้ย…”“เดี๋ยวก่อนค่ะพี่ภู” น้ำตาลรีบขัด “ใจเย็นแล้วนั่งลงก่อนค่ะ พี่เดินไปเดินมาแบบนี้ตาลเวียนหัวนะ”เขาหันกลับมาแล้วคุกเข่าตรงหน้าเธอ ใบหน้าหล่อเหลายิ้มกว้าง“ตาลไม่รู้หรอกว่าพี่ดีใจขนาดไหน ตาลทำให้พี่เป็นผู้ชายที่กำลังมีความสุขที่สุดในโลกรู้มั้ย พี่อยากให้ตาลรู้จริง ๆ ว่าตอนนี้พี่รู้สึกยังไง” น้ำเสียงชายหนุ่มตื่นเต้นดีใจพูดย้ำไปย้ำมาน้ำตาลยิ้ม ยื่นมือออกไปแนบแก้มเขา “ตาลรู้ค่ะ ตาลดีใจที่ข่าวนี้ทำให้พี่มีความสุข”“ตาล พี่รักตาล”เขา
สุดท้ายน้ำตาลก็ผล็อยหลับในห้องทำงานของภูริวัฒน์จนได้ การนั่งหลับทำให้เธอเมื่อยตัวและปวดคอ แต่ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นหลังจากได้หลับสักงีบ การตั้งครรภ์ทำให้เธอเหนื่อยง่ายและอ่อนเพลียกว่าปกติ หวังว่าจะไม่เป็นแบบนี้จนกระทั่งคลอดหรอกนะ เธอลุกขึ้น เดินไปหยุดที่ริมหน้าต่าง สักพักประตูห้องก็ถูกผลักเข้ามา เธอหันไปมอง ปรากฏว่าไม่ใช่คนที่เธอคิด หญิงสาวร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อกาวน์สีขาวกำลังเดินเข้ามา ทำไมเวลาที่เธออยู่ที่นี้ถึงต้องเจอหล่อนแบบนี้ทุกครั้งเธอไม่ได้กินหญ้านะที่ดูไม่ออกว่าคุณหมอสาวคิดอะไรกับสามีตัวเองอยู่ คงลุ้นให้เธอกับเขาเลิกกันแล้วตัวเองจะเข้ามาเสียบละสิ“ตาล ได้ยินว่าเธออยู่ที่นี่ เป็นไงบ้างล่ะ” คุณหมอสาวทัก“สวัสดีค่ะ ตาลสบายดี แล้วคุณล่ะคะ” น้ำตาลถามกลับตามมารยาท“ก็ดี แต่วันนี้ยุ่งทั้งวัน แต่ก็ใกล้จะเสร็จแล้ว”“อ้อค่ะ ตาลเห็นแล้วค่ะ”น้ำตาลไม่ได้เกลียดธรรมิกา เพราะหล่อนไม่เคยทำอะไรไ
ญาติของภูริวัฒน์นิสัยดีทุกคน และก็สนิทกัน ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาจะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับภูริวัฒน์ที่จู่ ๆ ภรรยาก็หายไป“เอ่อ ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะ…” เขารีบบอกเมื่อเห็นน้ำตาลเงียบ“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันกับพี่ภูมีเรื่องที่ไม่เข้าใจกัน แต่เรากำลังแก้ปัญหากันอยู่” น้ำตาลบอกอย่างตรงไปตรงมา“ผมดีใจด้วยนะครับ อ้อ คุณน่าจะมาที่บ้านเราในช่วงสงกรานต์นี้นะครับ พี่ทัตมาทุกปี ส่วนพี่ภู รายนั้นถ้าไม่ติดงานก็นาน ๆ มาที”“ค่ะ” น้ำตาลยิ้มให้ เธอไม่คิดปฏิเสธเพราะเห็นความจริงใจของคนเชิญ“ตอบตกลงแล้วห้ามเบี้ยวนะครับ ผมจะไปประกาศในไลน์กลุ่มครอบครัว”น้ำตาลหัวเราะ ขณะเดียวกันภูริวัฒน์ก็เดินออกจากห้องตรวจมาพอดี เขาหยุดคุยกับนางพยาบาลก่อนที่จะสังเกตเห็นเธอ การได้ประสานสายตากับชายหนุ่มเพียงเสี้ยววินาทีกลับทำให้น้ำตาลรู้สึกประหม่าแต่ก็ยิ้มบาง ๆ ให้ สีหน้าของเขาดูประหลาดใจไม่น้อย เขายิ้มกว้างให้เธอแล้วรีบเดินตรงมา
หลังออกจากร้านอาหารที่นัดกับแม่สามีไว้ น้ำตาลเดินมาตามถนนเรื่อย ๆ เธอไม่ได้รู้สึกหิวมากแม้ว่าจะใกล้เที่ยงแล้วเพราะเธอกินแซนด์วิชมาแล้วขณะอยู่บนเครื่องบิน เธอเดินผ่านร้านก๋วยเตี๋ยวเลยตัดสินใจแวะ ตลอดทางยังคิดถึงบทสนทนาระหว่างเธอกับแม่สามีที่หล่อนบอกว่าลูกชายหล่อนต้องเลือกหล่อนอยู่แล้ว ทั้งยังบอกว่าคนที่เหมาะสมกับภูริวัฒน์คือธรรมิกา ยังคงเป็นเช่นเดิมอยู่อย่างนั้นสินะ ถึงจะบอกว่าไม่ใส่ใจ แต่มันก็ยากที่จะไม่ให้คำพูดหล่อนทำร้ายเธอ เมื่อก่อนเธอพยายามขบคิดว่าเธอไปทำอะไรไว้หล่อนถึงเกลียดเธอได้ขนาดนี้ แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าไม่ใช่เป็นเพราะเธอ แต่เป็นเพราะฝ่ายนั้นต่างหากขณะที่กำลังกินมื้อกลางวันอยู่ น้ำตาลก็คิดจะโทรหาภูริวัฒน์เพื่อบอกว่าเธออยู่ไหน ประมาณว่าเธอจะเซอร์ไพรส์เขา แต่ก็อีกนั่นแหละ เธอกับเขาไม่ได้พูดกันมาเป็นอาทิตย์แล้ว บางทีมันอาจไม่ใช่เซอร์ไพรส์ก็ได้ แล้วเรื่องเซอร์ไพรส์หนหลังของทั้งคู่ก็จบลงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และคนที่ผิดเต็ม ๆ เลยคือเธอที่โมโหใส่เขาน้ำตาลถอนใจ หยิบโทรศัพท์มือถือ เปิดรายชื่อผู้ติดต่