Share

บทที่ 989

Author: เมิ่งซานเชียน
“โมโหชะมัด!”

เมื่อเข้าเมืองและพ้นจากสายตาที่ชวนให้คนไม่สบอารมณ์บนกำแพงเมืองเหล่านั้นแล้ว อู่จ้านจึงจะพูด

เขาโกรธจนหน้าแดงก่ำ สีหน้าบิดเบี้ยวจนเหมือนลิงบาบูนตัวหนึ่ง

“อาจ้านไม่ต้องโมโหไปหรอก” ฉินอวิ๋นฟานหัวเราะอย่างเห็นต่าง จูงม้าเหมือนกับคนอื่น ๆ เดินอ้อยอิ่งอยู่บนถนนในกลางเมือง

“ข้าก็แค่รู้สึกไม่เป็นธรรมกับเจ้า!”

อู่จ้านปากบ่นอุบ เห็นชัดว่าไม่พอใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ เขาพูดอย่างคับอกคับใจ “ถึงกับเมินเสี่ยวฟาน ยังพูดจาส่อเสียด ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำแท้ ๆ!”

ฉินอวิ๋นฟานยิ้มพูดอย่างไม่ยอมรับหรือปฏิเสธ “ที่นี่ไม่ใช่ต้าเฉียน เรื่องบางเรื่องพวกเราไม่รู้และแทรกแซงไม่ได้ด้วย”

กับที่ระแวดระวังคนนอกไม่เชื่อง่าย ๆ จุดนี้ เขากลับไม่รู้สึกว่าเป็นการล่วงเกิน

มิสู้บอกว่าหากอยู่ที่แผ่นดินต้าเฉียน ถ้าจู่ ๆ ก็มีคนแปลกหน้าอ้างว่าตัวเองคือรัชทายาทแคว้นหนึ่ง เขาก็เชื่อในทันทียากเหมือนกัน

เพราะเขามีชื่อเสียงดังกระฉ่อนทั่วโลกขึ้นได้เพราะอู่เหลียงเย่และเกลือละเอียด

แต่จะว่ากันตามจริง เขาไม่เคยออกจากต้าเฉียนมาก่อน ไม่เคยเปิดตัวต่างบ้านต่างเมือง ดังนั้นจึงทำให้ไม่สามารถเชื่อได้ในทันที ตามหลักเหตุผ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 990

    ถึงพวกเขาจะไม่สนใจโคลงกลอน แต่ฉินอวิ๋นฟานสนใจนี่!นี่อย่างไร เริ่มเมินสายตาเคียดแค้นของเหลียงจื่อฝูที่อยู่ด้านข้างแล้ว เอาแต่เดินดุ่ม ๆ ไปข้างหน้า“เสด็จน้าสิบสาม ถ้าท่านหิวแล้วก็ไปกินเองก่อนเลย ข้าจะไปดูสักหน่อย!”ฉินอวิ๋นฟานพูดทิ้งท้ายแล้วหายเข้าไปท่ามกลางทะเลคนทันที......“ผลไม้เคลือบน้ำตาลจ้า!”“ขนมอบ ขนมอบออกจากเตาใหม่ ๆ!”เสียงร้องแรกแหกกระเชอขายของดังวนเวียนอยู่ข้างหูกลิ่นหอมที่โชยมาเตะจมูกกับโคมไฟสวยสดงดงามระยิบระยับนั้นไม่ดึงดูดสายตาของฉินอวิ๋นฟานสักนิด ความหงุดหงิดที่หน้าประตูเมืองเมื่อครู่มลายหายไปนานแล้วเขาจมดิ่งอยู่กับบรรยากาศ มิอาจถอนตัว“นายท่าน มาดูหน่อยไหมขอรับ? นี่คือน้ำตาลปั้นที่ร้านเราถนัดที่สุดเลยนะ!”พ่อค้าแผงลอยเห็นฉินอวิ๋นฟานสวมใส่เสื้อผ้าชั้นดี แค่ดูก็รู้ว่ามาจากตระกูลใหญ่ จึงนำเสนอสินค้าของตัวเองน้ำตาลปั้นทำมือที่วางอยู่บนโต๊ะราวกับมีชีวิต สดใสน่าประทับใจเหมือนสตรีที่กำลังร่ายรำพลิ้วไหวอยู่บนเวทีฉินอวิ๋นฟานต้านทานน้ำใจของเถ้าแก่ไม่ได้จึงซื้อติดมืออันหนึ่งเขากินไปพลาง ก็เดินออกห่างหน้าแผงลอยต่าง ๆ ไปพลางมีคนกำลังหยุดยืนอยู่หน้าโคมปริศนา คิ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 991

    ยังเป็นครั้งแรกที่เหลียงจื่อฝูได้เห็นฉินอวิ๋นฟานมีอารมณ์ครึ้มอกครึ้มใจเช่นนี้เดินเตร่ไปตามแผงลอยต่าง ๆ ไม่หยุด เหมือนกลับถึงบ้านตัวเองอย่างไรอย่างนั้นอู่จ้านกับเซี่ยงเส้าเหยียนตามติดอยู่ข้างหลังก็รู้สึกจนใจเล็กน้อยเหมือนกันพวกเขารู้ดีว่าถ้าฉินอวิ๋นฟานได้เจอกันงานฉลองอะไรเทือกนี้จะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน“ช้าหน่อย ช้าหน่อย...”ฉินอวิ๋นฟานจับมือเหลียงจื่อฝูเอาไว้แน่น ประเดี๋ยวก็หยุดตรงแผงลอยอาหารว่าง ประเดี๋ยวก็หยุดอยู่ใต้แท่นสูง ทำนางเหนื่อยจะแย่แต่เปรียบเทียบกัน นางกลับอารมณ์ดีเป็นพิเศษ รู้สึกว่าตัวเองถูกจูงเหมือนกลัวว่าจะเดินหลงภายใต้การนำเช่นนี้ของฉินอวิ๋นฟาน เหลียงจื่อฝูได้เดินเที่ยวรอบตลาดกลางคืนรอบหนึ่ง กระทั่งเหนื่อยหมดแรงเดินไม่ไหวแล้วจริง ๆ จึงหยุดพักในโรงเตี๊ยมละแวกนั้น......ตำหนักบรรทมต้าเฉียนเฉาเจิ้งฉุนกำลังชงชาให้ไท่ซั่งหวง กลิ่นหอมลอดออกมาจากปากถ้วย คลุ้งอยู่ในตำหนักบรรทมกว้าง“ไท่ซั่งหวง มีรายงานมาว่ารัชทายาทถึงต้าเหลียงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”เฉาเจิ้งฉุนกล่าวด้วยสีหน้าราบเรียบไท่ซั่งหวงนั่งพิงเก้าอี้มังกร ละเมียดรสชาอย่างผ่อนคลาย ครู่หนึ่งจึงยกเปลือกตาขึ้นช้า ๆ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 992

    “แหะ ๆ” ฉินอวิ๋นฟานเกาศีรษะรู้สึกผิดเล็กน้อย “เมื่อวานข้าตื่นเต้นเกินไปจริง ๆ”“ฮึ!” เหลียงจื่อฝูทำปากจู๋แล้วเบือนหน้าใส่ ตามด้วยแค่นเสียงฮึหวาน ๆ“ถ้าเสด็จน้าสิบสามเดินไม่ไหวจริง ๆ เช่นนั้นข้าก็แบกท่านไปได้นี่”เหลียงจื่อฝูได้ยินแล้วก็เลิกคิ้ว ก่อนจะส่งยิ้มชั่วร้ายมา “เจ้าพูดเองนะ วันนี้เจ้าต้องแบกข้าทั้งวัน!”สบโอกาสแกล้งเจ้าเด็กนี่สักทีแม้ยังห่วงว่าแผลตรงท้องของฉินอวิ๋นฟานจะกลับมากำเริบอยู่บ้าง แต่ตอนนี้นางคำนึงถึงอะไรมากไม่ได้แล้วต้องระบายความแค้นเมื่อคืนออกมาให้หมดจึงจะถูก!“ต้องแบกจนกว่าข้าจะพอใจนะ” เหลียงจื่อฝูเชิดหน้าเล็ก ๆ อย่างหยิ่งผยอง รอให้ฉินอวิ๋นฟานหันหลังให้แต่คิดไม่ถึงว่าฉินอวิ๋นฟานจะฉีกยิ้มพูดออกมาว่า“มันก็แน่อยู่แล้ว...ประเดี๋ยวข้าจะรับผิดชอบแบกเสด็จน้าสิบสามไปถึงวังหลวงเลย ถึงเวลาขุนนางต้าเหลียงจะได้เห็นว่าข้ากับเสด็จน้าสิบสามใกล้ชิดกันเพียงไร”เมื่อได้ยินอย่างนี้ เหลียงจื่อฝูหน้าแดงซ่านในทันทีนางไม่ได้คิดมากอย่างนั้นนี่ถ้าให้คนในวันเห็นว่าพวกเขาใกล้ชิดกันขนาดนี้มิต้องยุ่งหรือ!ชั่วขณะ ความคิดก็ถูกปัดตกไปอย่างไร้หัวใจเหลียงจื่อฝูได้แต่หยิบไหล่ของ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 993

    “อ้อ อย่างนั้นหรือ? ฉินอวิ๋นฟานถึงต้าเหลียงแล้ว?”ในเรือนพักอันเงียบสงบ ฉินอ้าวกำลังยืนอยู่ใต้ต้นหลิวจัดการกับกระถางต้นไม้อยู่ ใบหน้าของเขาอึมครึม ซ่อนอันตรายและความชั่วร้ายที่มิอาจให้ผู้ใดล่วงรู้เบื้องหลังของเขา เหอเหวินเย่าตึงเครียดเล็กน้อย สำรวมกิริยาเมื่อได้ยินถ้อยคำของฉินอ้าว เหอเหวินเย่าจึงพยักหน้าตอบ “สายมารายงาน ข้อมูลเป็นความจริงขอรับ”เมื่อได้ยินว่าฉินอวิ๋นฟานถึงต้าเหลียงอย่างราบรื่น เหอเหวินเย่าก็รีบมาแจ้งฉินอ้าวทันทีโดยมิได้หยุดพักแน่นอน เขารู้ดีว่าเฮ่อชินอ๋องผู้เก่งกาจได้ข่าวจากช่องทางอื่นก่อนแล้ว...แต่เขาก็ยังทำเช่นนี้ ด้านหนึ่งเพราะจะได้เข้าหาฉินอ้าว ประเมินความมั่นใจและท่าทีของอีกฝ่ายสักหน่อยอีกด้านหนึ่งก็เพื่อมาหยิ่งเชิงว่าเวลานี้ฉินอ้าวยังมีแผนอะไรที่เขาไม่รู้อีก“เจ้าว่าฉินอวิ๋นฟานนี้ดวงแข็งแค่ไหน?”ฉินอ้าวหมุนตัวกลับมา บีบดอกไม้สีม่วงช่อหนึ่งในมือแล้วพูด “รอดตายได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ขนาดข้าเองยังต้องนับถือดวงของเขาเลย”เห็นฉินอ้าวยังมีสีหน้าคงเดิม ท่าทางใจเย็นเช่นวันวานทำให้เหอเหวินเย่าหนังศีรษะหนึบชาแต่มิได้โกรธ ในทางกลับกัน นี่ได้พิสูจน์ข้อสันนิษฐ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 994

    แต่ถ้าบอกว่าไม่ตื่นเต้น นั่นคือความเท็จทั้งหมด!เพียงแต่ความตื่นเต้นนี้มิได้มาจากความกดดันในการพบฮ่องเต้ต้าเหลียง หากอีกประเดี๋ยวจะได้พบกับเสด็จตาผู้มิเคยเห็นหน้ามาก่อน!หรือก็คือบิดาของมารดาผู้ให้กำเนิดเขา!เมื่อสายเลือดจะได้เจอกัน แล้วจะรักษาอาการใจเย็นได้อย่างไร“วางใจเถอะ เสด็จพ่อพระอารมณ์ดีขึ้นมาแล้ว เจ้าไม่ต้องเกร็งไป ทำใจสบาย ๆ ก็พอ”คล้ายมองเห็นความคิดในใจของฉินอวิ๋นฟาน เหลียงจื่อฝูจึงเอ่ยเสียงอ่อนโยนนาทีนี้นางเปลี่ยนเป็นองค์หญิงแคว้นใหญ่ผู้เห็นแก่ส่วนรวม ใจกว้าง อ่อนโยนและสง่างามอีกครั้ง ราวกับความขี้เล่นเมื่อก่อนนี้หน้าเป็นการเสแสร้งด้วยการนำของเสี่ยวชุนจื่อ ไม่นานฉินอวิ๋นฟานก็ถึงนอกห้องบรรทมแล้ว“ฝ่าบาท รัชทายาทต้าเฉียนมาถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”เสี่ยวชุนจื่อเคาะประตูเบา ๆ ก่อนจะรายงานหลังจากได้รับการอนุญาตจากคนข้างในแล้ว จึงเปิดประตูออกอย่างระมัดระวังรอจนฉินอวิ๋นฟานและเหลียงจื่อฝูเข้าไปในห้องแล้วจึงปิดและรออยู่ด้านข้างอย่างสงบ......ในห้องไม่จัดว่าสว่าง มีเพียงตะเกียงน้ำมันสองดวงและแสงรำไรเข้ามาทั้งที่อยู่ในช่วงกลางวัน ทว่าประตูต่างห้องกลับปิดสนิท เห็นได้ชัดว่า

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 995

    ในห้องบรรทมที่อบอุ่นเต็มไปด้วยความละมุนละไมกลิ่นกำยานที่ช่วยให้อยากนอนกำลังทำงานของมันไม่หยุดส่วนทั้งสามที่นั่งอยู่ในห้องก็กำลังมีบรรยากาศที่ค่อนข้างปรองดอง“คิดไม่ถึงเลย ฟานเอ๋อร์จะเป็นผู้ใหญ่สุขุมเช่นนี้ โตแล้วจริง ๆ”ตั้งแต่นั่งลง สายตาของฮ่องเต้ต้าเหลียงก็ไม่เคยละออกจากตัวฉินอวิ๋นฟานเลยคล้ายกำลังมองสิ่งประหลาดอันศักดิ์สิทธิ์ที่มิอาจล่วงเกิน ดวงตาเร่าร้อน ในใจยิ่งพองโตตั้งแต่ก่อนหน้านี้เขาก็ได้ยินเรื่องเล่ามาตลอด ต่างบอกว่าหลานชายของเขาคนนั้นบกพร่องทางสติปัญญาแต่กำเนิด ถูกทิ้งขว้างไม่เหลียวแลทว่าที่เห็นในเวลานี้ เฉกเช่นเรื่องเล่าระยะหลัง ฉินอวิ๋นฟานมีชีวิตชีวา มีท่วงทำนองแห่งจักรพรรดิแค่นั่งอยู่ตรงนั้นก็มีความน่าเกรงขามที่มิอาจมองข้ามอย่างหนึ่งแล้ว“เสด็จตา พระพลานามัยเป็นอย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ?”ฉินอวิ๋นฟานนั่งสง่า ถามด้วยความเคารพกับฮ่องเต้ต้าเหลียง แต่ให้ปกติเขาปล่อยเนื้อปล่อยตัวอย่างไร นาทีนี้ยังต้องมีมารยาทบ้าง“มีใจแล้ว ๆ ข้าได้เห็นฟานเอ๋อร์ในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ถือว่าสมปรารถนาของข้าแล้ว”ฮ่องเต้ต้าเหลียงยิ้มด้วยความปลาบปลื้ม แต่ที่มีมากกว่าคือความพอใจเหล

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 996

    “เฮ้อ...”เมื่อฉินอวิ๋นฟานจึงโล่งอกพูดตามความจริง การได้พบกับญาติทางสายเลือดมิได้ตื่นเต้นอย่างที่คิด ยิ่งไม่รู้สึกเหมือนการได้พบหน้าหลังจากห่างมานานมันเป็นเพียงแต่ความราบเรียบ...ราบเรียบอย่างผิดปกติแม้แต่บทสนทนาระหว่างฮ่องเต้ต้าเหลียงยังทำให้เขารู้สึกเบื่อหน่ายเล็กน้อย“เจ้าเป็นอะไรไป ขมวดคิ้วมุ่นเชียว”ขณะกำลังคิด นิ้วมือเรียวยาวหนึ่งก็จิ้มมาที่หว่างคิ้วของฉินอวิ๋นฟาน“เปล่า...”ฉินอวิ๋นฟานผินหน้าหนี ทำลายความใกล้ชิดที่คล้ายมีแต่ก็คล้ายไม่มีของเหลียงจื่อฝู“นี่ ๆ ๆ ฟานเอ๋อร์ เจ้าจะไปไหนน่ะ?”เห็นฉินอวิ๋นฟานหมุนตัวจะไป เหลียงจื่อฝูจึงรีบดึงมุมกระโปรงแล้วตามหลัง “เดี๋ยวก็ถึงเวลาอาหารค่ำแล้วนะ ข้าจะแนะนำท่านพี่ให้เจ้ารู้จัก นั่นคือเสด็จน้าของเจ้าเลยนะ”เสด็จน้า?‘ท่านพี่’ จากปากของเหลียงจื่อฝูคงจะเป็นเหลียงเทียนอี้แล้วฉินอวิ๋นฟานย่อมเคยได้ยินรัชทายาทผู้ว่าราชการแผ่นดินของต้าเหลียงมาบ้าง...แต่นอกจากนั้นกลับไม่รู้อะไรเลยคนผู้นี้หน้าตาเป็นอย่างไร อุปนิสัยเป็นเช่นไร เขากลับไม่มีความสนใจสักนิด“เจ้าอย่าเดินเร็วนักสิ”ฉินอวิ๋นฟานสาวเท้าไปข้างหน้า คิดจะทิ้งช่วงเสียงน่าหนวกห

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 997

    ตึก ๆ ๆ ...เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากหลังใบหูดังขึ้น ฉินอวิ๋นฟานก็ย่นหัวคิ้วด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อยก็ยังตามมาอยู่ดี!“ท่านพี่!”เหลียงจื่อฝูวิ่งเบาเร็วมาแทรกระหว่างพวกเขาสองคน“ฟานเอ๋อร์ ท่านนี้ก็คือคนที่เมื่อกี้ข้าจะแนะนำให้เจ้า รัชทายาทผู้ว่าราชการแผ่นดินต้าเหลียง เสด็จน้าของเจ้า เหลียงเทียนอี้!”เหลียงจื่อฝูแนะนำอย่างภูมิใจฉินอวิ๋นฟานประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ยังพยักหน้าด้วยความเคารพพร้อมแนะนำฐานะตัวเองด้วยประการละฉะนี้ รัชทายาททั้งสองท่านก็รู้จักกันและกันเช่นนี้ แม้จะเป็นครั้งแรก กลับมีสายใยเลือดข้นกว่าน้ำ“ฟานเอ๋อร์เองหรือ”สายตาของเหลียงเทียนอี้ตกอยู่บนตัวของฉินอวิ๋นฟาน กวาดสายตามองคร่าว ๆ แล้วประหลาดใจเล็กน้อย ตามด้วยหันกลับมาและพูดด้วยความแปลกใจ “ดูท่าที่ร่ำลือจะไม่ผิด ฟานเอ๋อร์ท่วงทำนองไม่ธรรมดา ดูเป็นคนมีความสามารถจริง ๆ”ในคำพูดปราศจากความหมายแฝง คือความสัตย์จริงเช่นนี้เมื่อได้รับคำชม ฉินอวิ๋นฟานกลับไม่รู้สึกเคอะเขิน เพียงยิ้มตอบราบเรียบ “เสด็จน้าชมเกินไปแล้ว ข้าได้รับคำเชิญจากเสด็จน้าสิบสามให้มาเยี่ยวเสด็จตาโดยเฉพาะ”“ฟานเอ๋อร์มีใจแล้ว”เหลียงเทียนอี้

Latest chapter

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1062

    ในที่สุดเหมิงฉาก็รับไม่ไหว ร้องตะโกนคำที่แทบจะเป็นความอัปยศนั้นการแข่งขันทางบู๊นี้ก็ปิดฉากลงท่ามกลางความตกตะลึงพรึงเพริดของทุกคน...เรื่องหักเหจากการคาดหมายของทุกคนเหลียงจ้านอิงและเหลียงเทียนจื้อต่างคิดไม่ถึงว่าเหลียงเทียนอี้จะล้วงปืนสั้นออกมาพลิกสถานการณ์ในการแข่งขันด้านบู๊นี้กระทั่งว่าเหลียงเทียนจื้อไม่มีโอกาสจะได้ออกโรงเลย...เช่นละครอย่างไรอย่างนั้น เนื่องจากเหมิงฉากลัวสุดขีดจึงยกมือยอมแพ้ดังนั้นเหลียงเทียนอี้จึงคว้าชัยชนะการแข่งขันรอบนี้ได้อย่างง่ายดายโดยไม่เปลืองแรงภาพมหัศจรรย์เกิดให้แบบไม่มีการเปลี่ยนแปลงลุ้นระทึกและไม่มีเลือดร้อนพลุ่งพล่านที่ใครคาดหวัง!ถึงขั้นว่าลวงตามากแต่ผลลัพธ์เป็นของจริงแท้แน่นอน เหลียงเทียนอี้ชนะแล้ว......“ดูท่าครั้งนี้ฟานเอ๋อร์จะช่วยข้าได้มากอีกแล้ว”เหลียงเทียนอี้กลับมาถึงด้านในก็คืนปืนสั้นให้ฉินอวิ๋นฟานและพรูลมหนัก ๆ“เหอะ ๆ เสด็จน้าชมเกินไปแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของท่านทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับข้าสักหน่อย”ฉินอวิ๋นฟานยักไหล่ มิได้กล่าวอะไรอีกถ้าจะบอกว่าเขาทำอะไรเพื่อเหลียงเทียนอี้ นั่นก็แค่บอกเขาว่าความจริงการแข่งขันนี้สามาร

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1061

    การกระทำของเหลียงเทียนอี้ทำให้ทุกคนในนั้นตกตะลึงแม้แต่เหลียงจ้านอิงที่อยู่บนปะรำก็ยังหยุดการดื่มน้ำชาไม่ได้ มองไปด้วยสีหน้าประหลาดใจ“เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?”เหลียงเทียนจื้อมองเหลียงเทียนอี้ที่ปราศจากเครื่องป้องกันใด ๆ ด้านข้าง ใบหน้าแปลกใจนี่คือการแข่งขันบู๊นะ คือสถานที่ตีรันฟันแทง ถ้าไม่ระวังอาจต้องคมศาสตราได้จริง ๆ ศีรษะย้ายที่อยู่ หากไม่ใช่เพราะมั่นใจกับฝีมือของตัวเองมาก กอปรกับวางแผนร่วมกับทางซยงหนูดีแล้วเขาคงต้องสวมชุดเกราะหนักมารับมือกับการแข่งขันด้านบู๊วันนี้เหมือนกันทว่าการกระทำเช่นนี้ของเหลียงเทียนอี้ต่างจากการรนหาที่ตายอย่างไร?ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแปลก เหลียงเทียนจื้อหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย...ทั้งที่เขาควรดีใจกับเวลานี้ ถ้าเหลียงเทียนอี้เกิดอุบัติเหตุในการแข่งขันรอบนี้ เช่นนั้นบัลลังก์ต้องเป็นของเขาแน่แล้วแต่ใจกับกระวนกระวาย อย่างไรก็ไม่เป็นสุข“หรือว่าเขาแอบวางแผนอะไร?”ทันใดนั้นเหมิงฉาเริ่มบุกโจมตีก่อนแล้วร่างสูงใหญ่นั้นหวดขวานใหญ่หนักร้อยชั่งพลางเข้าใกล้เหลียงเทียนอี้อย่างต่อเนื่องภายใต้แสงสุริยา คมมีดนั้นน่ากลัวเช่นนี้ ราวกับแค่ถากเถือเบา ๆ ก็เฉือนศีรษ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1060

    “ข้าเอง!”ทันใดนั้นเหลียงเทียนอี้ก็ก้าวออกมาช้า ๆโง่อย่างที่คิด...เหลียงเทียนจื้อยืนยิ้มเยาะอยู่ในใจข้างหลังเขารู้นิสัยของพี่ชายดี และรู้ว่าเหลียงเทียนอี้เป็นคนดื้อรั้นมากเมื่อเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ก็มักจะดาหน้าออกไปทันทีแม้เผชิญหน้ากับพันขุนศึกหมื่นอาชาก็ยังปราศจากความกลัวเกรง พลีตนจนตัวตาย...แต่พฤติกรรมวู่วามเช่นนี้ กลัวแต่ต้องจบอย่างอนาถในท้ายที่สุด“ฮ่า ๆ ๆ รัชทายาทกล้าหาญดังคาด!” เหมิงฉาหัวเราะเสียงดัง “ปกติยังนึกว่าท่านเป็นแต่สะบัดพู่กันขีดเขียน วันนี้ข้าอยากลองดูสิว่าฝีมือดาบกระบี่ของท่านจะล้ำลึกหรือไม่?”เพิ่งกล่าวจบ เหมิงฉาก็กวัดแกว่งขวานใหญ่พลางเดินประชิดไปทางเหลียงเทียนอี้ทีละก้าวรูปร่างใหญ่นั้น ร่างกายแข็งแรงนั้น แค่ยืนอยู่ก็สร้างแรงกดดันที่มองไม่เห็นแล้วทำให้หลาย ๆ คนเห็นแล้วอดเกิดใจกลัวอย่างหนึ่งขึ้นมาไม่ได้“อุ๊ย ท่านพี่จะเอาชนะสัตว์ประหลาดตัวนี้ยังไง?”เหลียงจื่อฝูที่อยู่บนปะรำหน้าทุกข์ร้อน สองมือบีบผ้าเช็ดหน้าแน่น สีหน้าซีดไปเล็กน้อยนางจ้องเหลียงเทียนอี้กลางลานฝึกซ้อม“ท่านพี่ไม่มีความสามารถด้านนี้เท่าไร ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหมิงฉา!”ผู้เป็นน้องสาว

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1059

    เหลียงเทียนอี้ขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าราบเรียบ มองอารมณ์ไม่ออกแต่ในใจเขารู้ดี การต่อสู้ครั้งนี้ได้เปิดฉากอย่างเป็นทางการตั้งแต่เหมิงฉาเริ่มพูดแล้วนี่คือการหยามหน้า คือการหยามเหยียดอย่างชัดเจนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย“เป็นยังไง? องค์ชายสาม?”เหมิงฉาเมินเหลียงเทียนอี้ที่อยู่อีกทางหนึ่ง แล้วใช้สายตาท้าทายมองไปทางเหลียงเทียนจื้อ ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น “ได้ยินว่าฝีมือการใช้ดาบกระบี่ขององค์ชายสามค่อนข้างร้ายกาจ วันนี้ข้าขอท้าทายสักหน่อยเถิด”“มิเป็นไร” เหลียงเทียนจื้อฉีกยิ้ม ใบหน้าเปื้อนไปด้วยความกระหยิ่มใจจากนั้นก็ชักกระบี่ล้ำค่าคู่กายออกมาจากตรงเอวช้า ๆการต่อสู้ครั้งนี้ คือของเขาเท่านั้น!และเป็นเขาได้เท่านั้น!เขาต้องการให้ทุกคนรู้ว่าเขาเหลียงเทียนจื้อต่างหากที่เป็นผู้ชนะในท้ายที่สุดคนนั้น คือคนที่สามารถเอาชนะซยงหนูได้อย่างแท้จริง!......“ดูท่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามแผนนะ”เหลียงจ้านอิงดื่มน้ำชาสบายใจเฉิบอยู่บนปะรำมองผลสะท้อนกลับอย่างอบอุ่นของเหล่าผู้ชม จิตใจยิ่งฮึกเหิมตื่นเต้นไม่พูดไม่ได้เลย ถ้อยคำนั้นของเหมิงฉาทำให้เกิดผลดีเยี่ยม สามารถชักจูงอารมณ์ของทุกคนได้ในพริบตาเขาเช

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1058

    ตกลงไว้แต่แรกว่าเป็นการแข่งขันรูปแบบปิด และไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร นอกจากราชวงศ์จะมิมีผู้ใดล่วงรู้ทว่าตอนนี้กลับแข่งขันในลานกว้างต่อหน้าธารกำนัล?หากท่านพี่แพ้มิต้องเป็นที่หัวเราะไปทั่วหรือ?“นี่ก็คือผลลัพธ์ที่ทางเหลียงชินอ๋องต้องการกระมัง?”ฉินอวิ๋นฟานนั่งลงด้านข้าง ยิ้มพูดอย่างเฉยชา “ในฐานะที่เป็นละครฉายซ้ำของวันนี้ พวกเขาแค่ต้องการให้ทุกคนได้เห็นความประดักประเดิดของเสด็จน้าเท่านั้น”แต่แพ้จากการต่อสู้เช่นนั้นผลลัพธ์ต้องเทข้างแน่โอรสสวรรค์ของต้าเหลียงที่กล่าวขานกลับแพ้ให้กับคนป่าเถื่อน ทั้งความสามารถยังมิสู้องค์ชายสามเหลียงเทียนจื้อขอเพียงมีการพูดประเภทนี้ต่อไป ไม่นานอัตราการสนับสนุนเหลียงเทียนจื้อก็จะพุ่งสูงลูกไม้พรรค์นี้ช่างโหดเหี้ยมนัก“น่ารังเกียจจริง ๆ...” คิ้วงามเหลียงจื่อฝูย่นยู่เล็กน้อย อดกระตุกมุมปากไม่ได้ “ไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะใช้วิธีการต่ำช้าเช่นนี้”“เมื่อวานท่านพี่ชนะการแข่งขันด้านบุ๋นกับซยงหนูในท้องพระโรง พวกเขาไม่เห็นจะพูดกันเลย เลวทรามจริง ๆ!”ฉินอวิ๋นฟานหัวเราะอย่างไม่ออกความเห็นเขากลับไม่ใส่ใจว่าเมื่อวานจะชนะหรือแพ้ วันนี้ต่างหากที่เป็นส่วนสำค

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1057

    สำหรับเหลียงเทียนอี้ การแข่งขันในวันนี้ค่อนข้างน่าตกใจแต่ยังดีที่สุดท้ายเขาสามารถคลี่คลายได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้พวกซยงหนูหน้าบึ้งตึง โจมตีจนพวกเขารับมือไม่ทันดูท่าปกติว่างเว้นจากการงานอ่านหนังสือให้มากจะมีประโยชน์...หลังประชุมเช้า เหลียงเทียนอี้ก็อดรนทนไม่ไหวบอกข่าวดีกับฉินอวิ๋นฟาน อยากแบ่งปันความสุขและความเปรมปรีดิ์ของตนแต่พอได้ยินฉินอวิ๋นฟานตอบกลับ เขาจึงตระหนักว่าเรื่องราวไม่ได้เรียบง่ายธรรมดาอย่างที่เขาคิดอย่างนั้น“การแข่งขันทางบู๊ในวันพรุ่งนี้จึงจะเป็นส่วนสำคัญอย่างแท้จริง”คำพูดราบเรียบประโยคหนึ่งของฉินอวิ๋นฟานทำให้ความยินดีปรีดาของเหลียงเทียนอี้ในแต่เดิมสูญสิ้น สีหน้าอึมครึมมากขึ้นเรื่อย ๆ“ข้าย่อมรู้ดี...แต่ปกติ คนที่จะชนะในการแข่งขันทางบู๊คงจะเป็นน้องสาม”เกี่ยวกับจุดนี้แทบไม่มีอะไรให้ลุ้นเพราะเหลียงเทียนจื้อร่ำเรียนกับเหลียงจ้านอิงแต่เล็ก อีกทั้งยังเคยเข้าสนามรบฟาดฟันกับศัตรู ด้านประสบการณ์การรบ จึงมีความคล่องมากกว่าเป็นธรรมดาเช่นนี้ หากคิดจะชิงคะแนนหนึ่งมาจากมือของเหลียงเทียนจื้อ คาดว่าต้องยากเป็นพิเศษเมื่อเห็นเหลียงเทียนอี้มีท่าทางปราศจากใจฮึดสู้ ฉินอวิ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1056

    “พันทุบหมื่นเจาะจึงได้แผ่นดิน ไฟโหมเผาไหม้เป็นอาจิณ ร่างแหลกกายเหลวมิหวั่น คงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ในโลกา”ฝุ่นหินหนึ่งบททำให้หลิ่วเหวินเซี่ยมั่นใจมากขึ้นไม่น้อยครั้งนี้เขาไม่ออมมืออีก ทั้งยังท่องออกมาจนจบ ไม่เปิดโอกาสใด ๆ ให้กับเหลียงเทียนอี้เช่นเดียวกัน เขาทำนอกเหนือแผนเดิม ไม่คิดสนใจความรู้สึกของเหลียงเทียนจื้ออีก“นี่ นี่มันกลอนอะไร?”เหลียงเทียนจื้อที่อยู่ด้านหลังเหงื่อตก ในหัวถึงขั้นว่าไม่มีความทรงจำอะไรเกี่ยวกับกลอนบทนี้แน่นอน ด้วยความทึ่มทื่อของเขาจะต่อกลอนได้อย่างไร ได้แต่เกาหลังศีรษะยิก ๆทว่าเหลียงเทียนอี้ยังใจเย็นเหมือนเดิม เพียงครู่เดียวก็ตอบ“หวงคะนึงความทุกข์เข็ญในการสอบ บัดนี้ไฟสงครามสงบผ่านพ้นสี่ปี”“บ้างเมืองไหวเอนดังกิ่งหลิว ใครเล่ามิใช่ผิวน้ำฝนซัดสาด”“หวงข่งทานปราชัยพรั่นพรึงถึงวันนี้ หลิงติงหยางอ้างว้างถอนหายใจ”“นับแต่โบราณใครบ้างมิดับสูญ เหลือใจรักชาติในพงศาวดาร”ครั้นกล่าวออกมาก็ได้รีบเสียงปรบมือดังสนั่นขุนนางบุ๋นบู๊ที่ชมละครฉากเด็ดในแต่เดิม ยามนี้ยอมสยบกับความสามารถทางวรรณกรรมของเหลียงเทียนอี้แล้วไม่ว่าจะเป็นกลอนในสมัยใด เหลียงเทียนอี้ก็เหมือน

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1055

    ชั่วขณะ ท้องพระโรงเงียบกริบ สายตาของทุกคนรวมศูนย์อยู่กับตัวของเหลียงเทียนอี้แทบทั้งหมดในดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความยินดีหลังจากหลิ่วเหวินเซี่ยร่ายกลอนท่อนแรกออกมา เหลียงเทียนอี้กลับสามารถตอบสนองทันควันพร้อมต่อท่อนหลังความเร็วเช่นนี้เรียกว่าเร็วยิ่ง!“อวิ๋นเฉ่าสาทรฤดูมีเขียวแห่งวสันต์ของกวีราชวงศ์ซ่ง คือยอดบทกวีโดยแท้!”เหลียงเทียนอี้พยักหน้าอย่างสง่างาม ใบหน้าประดับรอยยิ้มมั่นใจงานนี้ทำให้เหลียงเทียนจื้อที่อยู่ข้างล่างหน้าตึงฉับพลันเหลียงจ้านอิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยิ่งหนักกว่า สายตาที่มองมาราวกับมีไฟพุ่งออกมาได้“บ้าเอ๊ย...ถูกชิงตัดหน้าไปก่อน!”เหลียงเทียนจื้อกัดฟันกรอด ในใจกรุ่นโกรธไม่หยุดทั้งที่เขาทำการบ้านมาล่วงหน้า ไม่ว่าหลิ่วเหวินเซี่ยจะท่องกลอนบทใดเขาก็เตรียมเอาไว้หมดแล้วแต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขากลับเร็วสู้เหลียงเทียนอี้ไม่ได้!และไม่รู้ว่าตัวเองโง่เขลาหรือเหลียงเทียนอี้เก่งจริงกันแน่!“รัชทายาททรงภูมิแท้ ข้าน้อยเลื่อมใส!”หลิ่วเหวินเซี่ยพยักหน้าด้วยสีหน้าคงเดิมทว่าในใจกลับไม่พอใจเล็กน้อยแล้วคิดไม่ถึงว่าเหลียงเทียนอี้ผู้นี้จะมีฝีมือ เขาจงใจเลือกบทกวี

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1054

    การกระทำเช่นนี้คือการแสดงความยโสหยิ่งผยองของซยงหนูอย่างมิต้องสงสัย“เหมิงฉา คารวะรัชทายาท”“หลิ่วเหวินเซี่ย คารวะรัชทายาท”คนอื่น ๆ ก็ทักทายตามด้วยเหมือนกัน เมื่อนั้นเหลียงเทียนอี้จึงรู้ฐานะของพวกเขาดูแล้วหนึ่งคนในนั้นก็คือบุตรชายของเหมิงเก๋อเอ่อร์ หรือก็คือคนที่มาท้าทายเขาในครั้งนี้อย่างที่เหลียงจ้านอิงบอก การมาครั้งนี้ของเหมิงเก๋อเอ่อร์ก็เพื่อหยั่งเชิงเขาโดยอ้างเหตุผลเยี่ยมเยือนฮ่องเต้ต้าเหลียง ดังนั้นเรื่องที่เริ่มสนทนาในท้องพระโรงจึงเกี่ยวกับสุขภาพของฮ่องเต้ต้าเหลียงแทบจะทั้งหมดทว่าทุกคนในที่นั้นต่างรู้ดี จุดประสงค์ของผู้นิยมสุรามิได้อยู่ที่สุรานี่อย่างไร ครั้นเปลี่ยนเรื่อง เหมิงเก๋อเอ่อร์ก็กล่าวถึงการแข่งขันเลย“ได้ยินว่ารัชทายาทและองค์ชายสามเก่งทั้งบุ๋นแล้วบู๊มานาน คืออัจฉริยะของต้าเหลียง การมาเยือนต้าเหลียงครั้งนี้ นอกจากจะเยี่ยมฮ่องเต้ต้าเหลียงสหายเก่าท่านนี้ ก็อยากให้บุตรชายได้ประมือกับรัชทายาทและองค์ชายสักหน่อย”เหมิงเก๋อเอ่อร์สีหน้าขึงขัง ในที่สุดก็เข้าประเด็นชั่วขณะ ทุกคนในท้องพระโรงหัวใจจะหลุดออกมาอยู่แล้ว ต่างสังเกตสีหน้าเหลียงเทียนอี้อย่างแนบเนียนทว่าเ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status