“ไม่ ไม่ ไม่ใช่ขอรับ ข้าน้อยหรือจะกล้า”เหลียงชิงรีบตอบ “เป็นข้าน้อยที่ก่อนหน้านี้ตัดสินใจผิดไปจึงทำให้เกิดผลลัพธ์ในเวลานี้ ขอเพียงรัชทายาทต้าเฉียนมอบโอกาสความร่วมมือนี้ให้กับเรา ข้าน้อยต้องหวงแหนแน่นอน จะไม่คิดเป็นอื่นอีกขอรับ!”“ความผิดบางอย่าง เมื่อทำแล้วก็คือไม่มีโอกาสหันหลังอีก!”เหลียงจื่อฝูเอ่ยถามเสียงเย็น “เพื่อคลายความโกรธหลานชายของข้า เพื่อให้ได้เกลือละเอียดของต้าเฉียน เหลียงชิง ครั้งนี้ได้แต่เสียสละเจ้าแล้ว”เหลียงจื่อฝูผู้งดงามประหนึ่งเซียนสวรรค์เห็นชวนให้ประทับใจคน บุรุษยลหนึ่งครามิอาจห้ามใจ ไม่นึกว่าจะจะเป็นคนจิตใจอสรพิษร้ายโหดเหี้ยมอำมหิตเช่นนี้“ฮะ?! องค์ องค์หญิงสิบสาม ท่านจะฆ่าข้าไม่ได้นะ ไม่ได้ ข้าคือเสาหลักของสมาคมการค้าต้าเหลียงนะ!”ครั้นเหลียงชิงได้ยินว่าเหลียงจื่อฝูจะสังหารตน ตกใจจนหมดแรงอ่อนยวบกองอยู่กับพื้นฉับพลัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ให้เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึง เพราะการตัดสินใจเดียวถึงกับเอาชีวิตของเขา?“เกิดใหม่ชาติหน้าก็เดินระวังหน่อย ดูให้ดีว่าใครต่างหากที่เป็นนายของเจ้า!”เหลียงจื่อฝูแววตาเย็นยะเยียบถึงขีดสุด ราวกับมือสังหารหญิงผู้เย็นชา ปร
“บ้าเอ๊ย บัดซบ...”ในจวนเจ้าเมืองหานกู่ ครั้งได้ฟังการรายงานของซือหม่าหนานพ่อลูก หลัวเทียนเป้าเพลิงโทสะพวยพุ่ง แหงนหน้าแผดเสียงคำรามกับฟ้า แผนการรัดกุมเช่นนี้กลับถูกฉินอวิ๋นฟานทำลายได้โดยง่าย?แต่เรื่องที่ทำให้เขากระอักเลือดยิ่งกว่าคือ จู่ ๆ ฉินอวิ๋นฟานก็ดันทำเกลือละเอียดขึ้นมา นี่มันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ทำให้พันธมิตรทางการค้าของต้าเยียนเขาพังพินาศในพริบตา เพิ่งเริ่มขึ้นสังเวียนก็แพ้ไม่เป็นท่าเยียนอวี่เฉินอีกทางขมวดคิ้วมุ่น นางนึกว่าตัวเองเก่งกล้าสามารถสติปัญญาเหนือคนแล้ว เพื่อทดสอบความสามารถกับฉินอวิ๋นฟาน เพื่อให้ได้ตัวฉินอวิ๋นฟาน นางคิดอยู่นานกว่าจะได้แผนการสมบูรณ์แบบ จากนั้นที่คุมเมืองจัวด้วยตัวเอง ก็เพราะอยากดูสิว่าฉินอวิ๋นฟานจะทำอย่างไรได้แต่การกระทำสายฟ้าแลบของฉินอวิ๋นฟานทำให้นางทึ่งอีกครั้ง ทำให้นางคิดจนหัวร้างข้างแตกอย่างไรก็คิดไม่ถึง ฉินอวิ๋นฟานกลับปฏิรูปก้อนเกลือ เกินคาด!หากเอ่ยในมุมขององค์หญิงต้าเยียน ยิ่งฉินอวิ๋นฟานโดดเด่น ยิ่งเรืองอำนาจ นางก็ยิ่งมีอันตราย การมีศัตรูเช่นเขาคือเสี้ยนหนามในอกหนำซ้ำด้วยฝีมือและปฏิภาณของฉินอวิ๋นฟาน เกรงว่านางจะดำเนินตามแผนยาก ทั้งยัง
“ถูกต้อง ความหมายของข้าก็คือเร่งดำเนินแผนสองให้เร็วที่สุด กำจัดอิทธิพลพวกฉินอวิ๋นฟานโดยด่วน ยึดอำนาจควบคุมเมืองอู่โจวกลับมาให้เร็ว”หลัวเทียนเป้าเอ่ย“จะดำเนินแผนสองเร็วเช่นนี้เลยหรือ?”เยียนอวี่เฉินพูดอย่างประดักประเดิดเล็กน้อย“เร็วหรือ?”หลัวเทียนเป้าถามอย่างงุนงง “นี่เพิ่งจะกี่วันเมืองอู่โจวก็ตกอยู่ในมือของฉินอวิ๋นฟานโดยสมบูรณ์แล้ว ขืนรอต่อไปจะเป็นผลเสียอย่างใหญ่หลวงกับเรา ถึงเวลาต่อให้ได้เมืองอู่โจวกลับมาอีกครั้งก็เกรงจะคุมยาก”“เอ่อ ให้ข้าคิดดูอีกสักหน่อยเถอะ!”เยียนอวี่เฉินคิ้วมัดปมแน่น ในใจขัดขืนอย่างหนัก ทันทีที่ดำเนินแผนสองจะต้องเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงแน่ นางห่วงความปลอดภัยของฉินอวิ๋นฟานมาก อย่างไรเสียก็เป็นแผนการที่นางควบคุม นางทำใจไม่ได้เลยทว่าตอนนี้เอง เซี่ยมู่ไป๋เข้าใจความคิดของเยียนอวี่เฉินอย่างถ่องแท้แล้ว เขาส่ายหน้าพูดด้วยใบหน้าอมทุกข์ “องค์หญิงสาม ทุกอย่างต้องเห็นส่วนรวมเป็นสำคัญ ฉินอวิ๋นฟานผู้นี้คือมารร้ายตัวฉกาจ เก็บเขาไว้จะกลายเป็นภัยไม่สิ้นสุด”“อีกสามเดือน ต่อให้ฉินอวิ๋นฟานไปสู่ขอที่ต้าเยียนจริง เราก็รับรองไม่ได้มิใช่หรือว่าเขาจะทำตามแผนของท่านทั้งหม
“องค์ชายใหญ่ หนนี้พวกเราลำบากแล้ว”ในจวนองค์ชายใหญ่ หวังจื้อกล่าวด้วยใบหน้ากังวล“นั่นสิ องค์ชายใหญ่ เรื่องเกลือหลวงครั้งนี้ถูกเราทำเละแล้ว เบื้องบนต้องพิโรธหนักมากแน่”บรรดาคนสนิทขององค์ชายใหญ่ก็มีสีหน้ากังวลเหมือนกัน ต่างพูดสมทบองค์ชายใหญ่นั่งอยู่บนตำแหน่งหลัก ใบหน้าอึมครึมจนน่ากลัว การแก้ปัญหาจากต้นตอของฉินอวิ๋นฟานทำให้เขาไม่ทันตั้งตัว กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทีแรกนึกว่าจำกัดเกลือหลวงจะทำให้พันธมิตรของสมาคมการค้าต้าเยียนกดฉินอวิ๋นฟานลงได้ ไม่นึกว่านอกจากจะโค่นฉินอวิ๋นฟานไม่ได้ ยังเสียสิทธิในการควบคุมเกลือหลวงอีก คราวนี้เป็นเรื่องใหญ่แล้วจริง ๆฉินอวิ๋นคังพูดด้วยสีหน้าบูดบึ้ง “ท่านกุนซือ เรื่องนี้ท่านมีความเห็นว่ายังไง?”หวังจื้อได้แต่ส่ายหน้าพูดด้วยความจนใจ “สุดท้ายกลายเป็นพวกเราตกหลุมพราง ที่ก้อนเกลือสีเหลืองขาดตลาดช่วงหนึ่ง เป็นไปได้มากว่าจะเป็นฝีมือของฉินอวิ๋นฟาน จงใจหลอกล่อให้พวกเราติดกับ”“นี่ นี่เป็นไปไม่ได้กระมัง? สามเดือนมานี้ก้อนเกลือสีเหลืองขาดแคลนจริงอยู่ แต่เป็นไปไม่ได้ว่าฉินอวิ๋นฟานจะใช้เวลาสามเดือนเต็ม ๆ ในการวางแผนเพื่อให้เราติดกับ? เช่นนั้นถ้าเราไม่ติดกับ เขาม
หวังจื้อหัวเราะแห้ง “ถ้าท่านเป็นคนที่อยู่นอกเกม ท่านจะทำยังไง? จะกินเกลือละเอียดที่ดีกว่าพร้อมกดคู่ต่อสู้ตัวฉกาจลง หรือจะกินก้อนเกลือสีขาวต่อ สนับสนุนคู่ต่อสู้ของท่านอย่างเต็มกำลัง?”“วิธีการของฉินอวิ๋นฟานน่ากลัวยิ่งนัก แต่ขั้วอิทธิพลของเขายังไม่ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างจริง ๆ หากจะกล่าวในมุมของการชิงบัลลังก์ ท่านกับองค์ชายรองยังคงมีอิทธิพลมากที่สุด ดังนั้นจากสถานการณ์ในปัจจุบัน พวกท่านสองคนต่างหากจึงจะเป็นศัตรูตัวฉกาจ”เมื่อหวังจื้อวิเคราะห์ หัวใจฉินอวิ๋นคังพลันตกสู่ก้นเหว ใบหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวังถ้านี่คือหลุมพรางที่ฉินอวิ๋นฟานจัดวางเอาไว้เมื่อสามเดือนก่อน เช่นนั้นคนผู้นี้จะน่ากลัวยิ่งนัก วางแผนเงียบเชียบไม่ทำให้คนสังเกตรู้ ใช้รูปแบบต้มกบด้วยน้ำอุ่น รอให้เขาติดเบ็ด ค่อยโต้ตอบอย่างรุนแรงในตอนท้ายสุดกว่าพวกเขาจะรู้ตัว ทุกอย่างก็สายไปหมดแล้ว และความจริงก็คือเช่นนี้ ทันทีที่ตระกูลเริ่นสูญเสียอำนาจในการควบคุมเกลือหลวง อิทธิพลของเขาจะต้องถูกบั่นทอนอย่างหนัก เรียกได้ว่าไม่เป็นผลดีต่อการชิงบัลลังก์อย่างยิ่ง“สิบกว่าปีมานี้เจ้าเจ็ดซ่อนตัวเก่งจริงนะ ไม่นึกว่าเขาจะมีฝีมือและแผนการร้ายกา
“ได้ขอรับ”ฉินอวิ๋นคังตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว หวังจื้อจึงไม่พูดอะไรมากอีก หมุนตัวเดินออกจากห้องไปเสีย แต่ในตอนที่เขาเดินถึงประตู จู่ ๆ ก็หยุดฝีเท้าลง หันไปมองทางห้องโถงใหญ่พลางส่ายหน้าพึมพำ “ต้าเฉียน เกรงจะลุกเป็นไฟแล้ว”เป็นเวลาเดียวกัน ข่าวของเมืองอู่โจวไม่เพียงแต่ส่งไปถึงต้าเฉียน ยังส่งไปถึงแคว้นต่าง ๆ ทั่วโลกด้วย ฉินอวิ๋นฟานกลายเป็นบุรุษที่สายตาของคนทั่วโลกกำลังจับตามองจวนตระกูลเริ่นน้องห้า เรื่องที่ข้ากำชับเจ้าเมื่อก่อนหน้านี้ สุดท้ายเจ้าก็ห้ามใจไม่อยู่ ข้าผิดหวังกับเจ้าจริง ๆ!บนตำแหน่งหลักของตระกูลเริ่น หลังจากท่านผู้เฒ่าเริ่นทราบข่าวเมืองอู่โจวก็เรียกเปิดประชุมตระกูลทันที ผู้นำระดับสูงทั้งหลายของตระกูลเริ่นต่างกลับตระกูลเริ่นโดยด่วนท่านผู้เฒ่าเริ่นผิดหวังกับการลงมือลับ ๆ ของน้องห้าเริ่นจื้อคุนอย่างมาก เนื่องจากการแก้แค้นส่วนตัวจึงทำให้ตระกูลเริ่นสูญเสียอำนาจเด็ดขาดด้านเกลือหลวงไปโดยสมบูรณ์“พี่ใหญ่ ข้า ข้าก็ไม่รู้ว่ามันจะเลยเถิดไปถึงขั้นนี้นี่”ยามนี้ ความสิ้นหวังแผ่ซ่านไปทั่วใบหน้าของเริ่นจื้อคุน ขุนนางใหญ่ระดับสองผู้สูงส่งของต้าเฉียน ผู้บังคับการเกลือหลวงกำลังคุกเข่าอย
“ท่านผู้เฒ่า เกิดเรื่องอะไรถึงกับเรียกพวกเรากลับมาหารือเร่งด่วนเช่นนี้?”ยามนี้ท่านผู้เฒ่าเหอท่าทางกระปรี้กระเปร่า ทั้งคนมีพลังเต็มเปี่ยม สองมือกุมไม้เท้ายืนอยู่หน้าตำแหน่งหลัก เขาตอบคำถามด้วยเสียงทรงพลังกังวาน “เกิดเรื่องอะไร? เกิดเรื่องจริง ๆ นั่นแหละ แต่มันเป็นเรื่องดียิ่ง!”“เรื่องดี?”ครั้นผู้นำตระกูลระดับสูงได้ยินต่างมีใบหน้าสับสน เรื่องดีที่ทำให้ท่านผู้เฒ่าเบิกบานเช่นนี้ได้ จะต้องเป็นเรื่องดียิ่งใหญ่ของตระกูลแน่“ฮ่า ๆ ๆ ก็องค์ชายใหญ่โง่เง่าเต่าตุ่นกับท่านห้าตระกูลเริ่นเริ่นจื้อคุนนั่นดันทำเรื่องเหลวไหลสิ้นดีนะสิ พวกเขากลับจำกัดการส่งเกลือไปเมืองจัว คราวนี้ดีเลย บีบจนฉินอวิ๋นฟานเข้าตาจนกระทั่งทำเกลือละเอียดขึ้นมา”ท่านผู้เฒ่าเหอหัวเราะอย่างปลอดโปร่ง“เกลือละเอียด? นั่นมันอะไร? หรือว่ายังจะดีกว่าก้อนเกลือสีขาวอีกหรือ?”ผู้นำระดับสูงของตระกูลเหอต่างถามด้วยความสงสัย“ไม่ใช่แค่ดีนะสิ! มันคือฟ้ากับเหว!”ท่านผู้เฒ่าเหอเอ่ย “เกลือละเอียดที่ฉินอวิ๋นฟานทำขึ้นครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็นเกลือบริโภครูปแบบใหม่ ด้านทักษะการแปรรูป เรียกได้ว่าคุณภาพก้าวกระโดด อีกอย่าง จะต้องเปลี่ยนแปลงเกล
ครั้นผู้นำระดับสูงของตระกูลเหอได้ฟังพลันเลือดร้อนพลุ่งพล่าน ถ้าสามารถตัดอำนาจของตระกูลเริ่นด้วยเรื่องนี้ได้ เช่นนั้นโอกาสขึ้นครองราชย์ขององค์ชายรองมิเพิ่มขึ้นมากหรือ?โบราณกล่าว หนึ่งคนได้รับไก่สุนัขขึ้นสวรรค์ มันก็คือหลักการนี้นั่นแหละ หากองค์ชายรองสามารถขึ้นครองราชย์ได้ พวกเขาก็จะกลายเป็นขุนนางผู้มีผลงานยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์ต้าเฉียน จะต้องได้รับเกียรติยศและอภิสิทธิ์สูงสุดแน่ ทั้งมันยังจะสืบไปชั่วลูกชั่วหลาน“ท่านผู้นำตระกูล เป็นพวกเราที่ตื้นเขิน ถ้าองค์ชายใหญ่ถูกบั่นทอนอิทธิพล องค์ชายรองก็จะเข้าใกล้บัลลังก์นั้นมากขึ้น”ผู้นำระดับสูงคนหนึ่งของตระกูลเริ่นพูดด้วยความตื่นเต้น“ถูกต้อง อีกอย่าง พวกเราจะได้ประโยชน์จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายเกลือหลวงของฉินอวิ๋นฟานด้วย นี่มิใช่ได้ทั้งขึ้นทั้งล่องหรือ?”ท่านผู้เฒ่าเหอเอ่ยเสียงหนัก “ดังนั้น พวกเจ้าจงฟังข้าให้ดี ที่ข้าเรียกพวกเจ้ากลับมาก็เพื่อให้พวกเจ้าไปเดินเรื่องนี้อย่างเต็มกำลัง ทุกตระกูลจะต้องเปลี่ยนก้อนเกลือสีขาวให้เป็นเกลือละเอียดทั้งหมด!”“ระหว่างการดำเนินงาน พวกเจ้าจะต้องทำตามนโยบายเกลือหลวงรูปแบบใหม่ของฉินอวิ๋นฟานทั้งหมด! รักษาท่าทีดี
“เอ่อ... แต่เพียงแต่ข้าที่กังวลเช่นนี้ เกรงว่าทุกคนก็คงมีความกังวลนี้เหมือนกันกระมัง? อย่างไรเสีย ของอย่างบัญชีก็สามารถปลอมแปลงได้”เห็นฉินอวิ๋นฟานพูดตามตรง ฉินอวิ๋นฮุยจึงไม่อ้ำอึ้งอีก การยกเรื่องไม่ดีมาพูดแต่แรกมิใช่เรื่องน่าอายอันใด เพราะมันเกี่ยวพันถึงผลประโยชน์ของพวกเขา เขาไม่อยากถูกฉินอวิ๋นฟานหลอก!“ฮ่า ๆ ๆ...”ฉินอวิ๋นฟานลั่นเสียงหัวเราะทันที “พี่รองทำงานรอบคอบดังคาด น้องเจ็ดเลื่อมใส แต่ท่านคิดมากไปแล้ว ถ้าต้องดูแลเมืองการค้าสามเมือง คนของข้าไม่มีทางพอ ถ้าพวกท่านไม่ส่งคนมาช่วยงาน ข้าคงทำเรื่องนี้ไม่สำเร็จ”“อ้อ? น้องเจ็ดพูดจริงรึ?!”เมื่อนั้นหัวใจที่ตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ของฉินอวิ๋นฮุยจึงสงบลง หากเขาสามารถให้คนเข้าร่วมอยู่ในเมืองการค้าทั้งสามเมืองได้ เช่นนั้นเขาจะวางใจได้แล้ว เพราะจะรับประกันผลประโยชน์ของเขาได้ทั้งหมด!“พี่ใหญ่ พี่รอง พวกท่านวางใจได้เลย ระหว่างพวกเราพี่น้องแม้เป็นคู่ต่อสู้กัน แต่ต่อหน้าผลประโยชน์ของบ้านเมือง พวกเราต้องรวมใจเป็นหนึ่ง มีเพียงเช่นนี้ต้าเฉียนเราจึงจะเฟื่องฟูได้นิรันดร์”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงหนัก “ดังนั้นในเรื่องการค้า เครือเหิงไท่จะรับผิดชอบกิจการหลักท
ฉินอวิ๋นฟานกล่าวอย่างจริงจัง “ต่อให้ใครกล้ามีความคิดส่วนตัวก็เปล่าประโยชน์ เพราะพวกเราต้องร่วมกันทำงาน หากไม่อยากเสียเมืองไป ไม่อยากตาย ทหารทุกคนจะต้องให้ความร่วมมือ เป็นหนึ่งเดียวสู้กับภายนอก”“ดี ดีมาก ความคิดนี้ไม่เลว!”เมื่อฉินอวิ๋นฟานกล่าวออกมา ไท่ซั่งหวงรู้อยู่แล้วว่าฉินอวิ๋นฟานต้องทุ่มเทเพื่อแผนการนี้ มิเช่นนั้นจะไม่มีทางคิดแผนการสมบูรณ์แบบเช่นนี้ออกมาได้“อื่ม ไม่เลว!”ฉินอวิ๋นฮุยไม่ได้ดีใจกับแผนการสมบูรณ์แบบไร้ที่ติของฉินอวิ๋นฟาน เพราะแม้เช่นนี้จะเป็นเรื่องดีต่อบ้านเมืองจริง หากไร้ประโยชน์อันใดต่อพวกเขา ในทางกลับกัน พวกเขายังจะกลายเป็นคนที่ถูกฉินอวิ๋นฟานใช้งานอีกด้วยพวกเขาส่งทหารรักษาเมือง ฉินอวิ๋นฟานกอบโกยกำไรอย่างบ้าคลั่ง คิดแล้วฉินอวิ๋นฮุยก็อยากตบหน้าตัวเองสักฉาด ลักไก่ไม่สำเร็จเสียข้าวอีกหนึ่งกำมือโดยแท้!ทว่าไท่ซั่งหวงแสดงท่าทีชัดเจนแล้ว เขายังจะทำอะไรได้อีก?ฉินอวิ๋นฟานรู้ความคิดของพวกเขาดี อีกอย่าง ถ้าครองผลงานเองในเวลานี้จะเป็นการเลือกที่ไม่ฉลาดเอามาก ๆ ฉินอวิ๋นฟานไม่ทำเรื่องเบาปัญญาเช่นนี้หรอก!โบราณกล่าว ตบหน้าฉาดหนึ่งต้องให้พุทราหวานหนึ่งลูก อีกฝ่ายส่งทหารม
ขณะนี้ ทั่วทั้งท้องพระโรงเงียบกริบ ถ้อยคำชวนให้คนมีจิตใจฮึกเหิมของฉินอวิ๋นฟานวนเวียนอยู่ในหัวของ แม้ไท่ซั่งหวงเองก็ยังตกตะลึงพรึงเพริดกับคำพูดนี้ของฉินอวิ๋นฟาน!รัชทายาทวัยสิบแปดสิบเก้าคนหนึ่ง ช่างเป็นชายชาตินักรบเลือดร้อนไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน หากคนเช่นนี้เป็นจักรพรรดิ ไยต้องกลัวอนาคตต้าเฉียนจะไม่ศิวิไลซ์?“เกี่ยวกับการสร้างเมืองการค้าสี่แห่งในสี่ทิศของต้าเฉียน ทุกคนคัดค้านอย่างหนัก ข้าเข้าใจความรู้สึกของทุกคนมาก แต่ในเมื่อจะทำเรื่องนี้ ข้าก็ต้องยอมรับเสียงและความเห็นที่แตกต่าง ทุกคนว่ามาเถอะ”ฉินอวิ๋นฟานไม่รีบร้อน มีแต่ต้องทำให้ทำคนยอมรับเรื่องนี้จากใจจริง เขาจึงจะยึดสิทธิ์ความเป็นผู้นำได้ มิเช่นนั้นต่อให้ใช้กำลังผลักดันเรื่องนี้ คนเหล่านี้ต้องเล่นตุกติกลับหลังเขาแน่ เช่นนี้มีแต่จะทำให้รำคาญดังนั้นฉินอวิ๋นฟานเตรียมตัวกับการคัดค้านและความคิดของทุกคนแต่แรกแล้ว ต้องการแค่โอกาสประจวบเหมาะหนึ่ง เพราะคนที่ป่วยเป็นโรคอิจฉาตาร้อนมีมากเหลือเกิน มีแต่ต้องคิดหาทางหยดยาดวงตาให้พวกเขาสักหน่อย จึงจะขจัดต้นตอของปัญหาได้ “นี่...”ผู้คนมากมายแน่นขนัดพูดไม่ออกสักคำ เพราะต่างมีความกังวลอยู่ในใจ ฉ
นาทีนี้ถังเจิ้นไห่ถูกโจมตีทำร้ายทางจิตใจอย่างหนัก ฉินอวิ๋นฟานปากคอเราะรายน่ากลัวจริง ๆ การโจมตีของเขารวดเร็วนัก เขาต้านทานไม่ไหวเลยเขาจนปัญญากับการโจมตีของฉินอวิ๋นฟานแล้ว ได้แต่ใช้สถานะข่มขู่ฉินอวิ๋นฟาน หวังว่าฉินอวิ๋นฟานจะหยุดโจมตีเขาน่าเสียดาย แต่ไหนมาฉินอวิ๋นฟานก็ไม่ใช่คนใจบุญสุนทานอะไร และไม่เคยเป็นพวกยอมเสียเปรียบ หากมีคนโจมตีเขา ฉินอวิ๋นฟานจะไม่ใจอ่อนเด็ดขาด!ต้องถล่มอีกฝ่ายจนแพ้ราบคาบ นี่สิจึงจะเป็นเป้าหมายความเป็นคนของเขา และถังเจิ้นไห่ก็แตะเขตต้องห้ามของเขาพอดี ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉินอวิ๋นฟานย่อมไม่ไว้หน้าเขา!ครั้นพวกฉินอวิ๋นฮุยเห็นสภาพการณ์เช่นนี้ก็พากันมอบสายตาเห็นใจให้ถังเจิ้นไห่ พวกเขาเคยได้รับการสั่งสอนด้วยหมัดหนักจากฉินอวิ๋นฟานมานานแล้ว ในสถานการณ์ที่ไม่มีความมั่นใจเต็มร้อย หากหาเรื่องฉินอวิ๋นฟานก็เท่ากับรนหาที่ตาย!ไท่ซั่งหวงและจางเต้าหลินฉายรอยยิ้มพึงพอใจ แม้ถ้อยคำของฉินอวิ๋นฟานจะหยาบคายไม่รื่นหูไปบ้าง แต่สะใจยิ่งนัก! นักวางแผนร้ายเฒ่าเจ้าเล่ห์คนหนึ่ง ถูกฉินอวิ๋นฟานฟาดกลับจนต้องสงสัยในชีวิต เด็ดสะระตี่แท้!“เกินไป? ตอนนี้ท่านรู้ว่าเกินไป? ตอนที่ท่านสาดน้ำคลำใส่
“ท่าน...”ถูกฉินอวิ๋นฟานด่าว่าหน้าด้าน ถังเจิ้นไห่โกรธจนหน้าเขียว แทบอยากสับฉินอวิ๋นฟานเป็นหมื่น ๆ ชิ้น เขาจำต้องยอมรับว่าฉินอวิ๋นฟานร้ายจริง ๆ! ในสภาวการณ์เช่นนี้ เขากลับไม่กลัวแม้แต่น้อย?“ท่านเทิ่นอะไร ท่านมันหน้าด้านเหม็นโฉ่ อายุอานามห้าสิบกว่าแล้ว มีแต่ความชั่วร้ายอยู่เต็มอก น่ารังเกียจโดยแท้!”ฉินอวิ๋นฟานไม่ไว้หน้าถังเจิ้นไห่สักนิด เอ่ยต่อ “เมื่อวานข้าเพิ่งเดินทางกลับมาจากเมืองอู่โจว ท่านรู้ได้ยังไงว่าข้าไม่คิดกระจายการเพาะปลูกทั่วแคว้น? ท่านให้โอกาสข้าพูดแล้วหรือยัง?!”“อีกอย่าง ปริมาณเมล็ดพันธุ์ที่ข้ามอบให้ทุกแคว้นมีจำกัด ใครกล้าไม่เคารพต้าเฉียน? ข้าคือบิดรมารดาปากท้องของพวกเขา ใครกล้าหือ?!”“แม้นมีแคว้นใดไม่เป็นเด็กดี ข้าจะระงับการส่งมอบเมล็ดพันธุ์ให้พวกเขาทันที ข้าจะดูสิว่าไอ้ไม่ดูตาม้าตาเรือหน้าไหนกล้าท้าทายขอบเขตต่ำสุดของข้า?!”ครั้นกล่าวออกมา ทุกคนต่างมองหน้ากัน ไม่มีผู้ใดกล้าพูด หากเทียบกับการเคลือบแคลงสงสัยเมื่อครู่ การพูดเช่นนี้ของฉินอวิ๋นฟานยิ่งสามารถทำให้เขายืนอย่างมั่นคงมากขึ้นฉินอวิ๋นฟานคลี่คลายประการแรกของความผิดร้ายแรงสามประการได้แล้ว ถังเจิ้นไห่หน้าตึงจนน
“ได้!”ถังเจิ้นไห่พูดหน้าขรึม “ประการที่สองของความผิดร้ายแรงสามประการ รัชทายาทร่วมกันสร้างถนนกับแคว้นต่าง ๆ เรื่องนี้อึกทึกครึกโครมไปทั่ว ทันทีที่สร้างถนนที่กว้างยิ่งขึ้น การคมนาคมจะสะดวก คืออยากให้แคว้นรอบข้างรุกรานต้าเฉียนเราสะดวกยิ่งขึ้นหรือ? การกระทำเช่นนี้มิใช่แผนการล่มชาติแล้วมันคืออะไร?!”ซี้ด...เมื่อทุกคนได้ฟังต่างสูดลมเย็นเข้าปาก เกิดความสงสัยอย่างหนักกับจุดประสงค์ของฉินอวิ๋นฟาน ด้านหนึ่งมอบธัญพืช ด้านหนึ่งสร้างถนนกับทุกแคว้น จุดประสงค์จะชัดเจนเกินไปแล้วกระมัง?“ต่อ ประการที่สามเล่า!”ฉินอวิ๋นฟานยิ้มเรียบ เขาก็อยากดูสิว่าถังเจิ้นไห่จะไปไกลขนาดไหน ช่างเป็นคนที่มีขอบเขตความรู้ความเข้าใจและวิสัยทัศน์โดยแท้ การกำหนดอนาคตของบ้านเมือง เป็นเช่นนี้ดังคาดหากให้พวกเฮ่อชินอ๋องเรืองอำนาจจริง ต้าเฉียนมิต้องจบเห่หรือ? ให้สวะพวกนี้ดูแลบ้านเมือง บ้านเมืองนั้นยังจะมีความหวังอะไร?พวกเขานอกจากจะมีความชั่วร้ายอยู่เต็มอก มีความคิดดำมืดอยู่เต็มสมอง ยังจะทำอันใดได้อีก?“หึ!”ถังเจิ้นไห่แค่นเสียงแล้วจึงเอ่ย “ประการที่สาม รัชทายาทร่วมมือกับแคว้นต่าง ๆ กีดกันต้าเยียน สังหารบุตรชายคนที่สี่ข
“อ้อ? ความผิดร้ายแรงสามประการของฟานเอ๋อร์? ไหนลองว่ามาดูสิ!”ไท่ซั่งหวงตั้งสมาธิ นึกสนใจขึ้นมาทันที อย่างลับ ๆ เขาให้ความสนใจกับพฤติกรรมของฟานเอ๋อร์มาก ไม่เคยได้ยินความผิดร้ายแรงสามประการอันใด เขาก็อยากดูสิว่าถังเจิ้นไห่จะพูดอะไรความผิดร้ายแรงสามประการเสมือนระเบิดลูกใหญ่ ทำให้สีหน้าทุกคนเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกขึ้นมา ยามนี้สายตาของทุกคนในที่นั้นต่างรวมศูนย์อยู่ที่ตัวของถังเจิ้นไห่“ประการแรกของความผิดร้ายแรงสามประการ ได้ยินว่ารัชทายาททำเมล็ดพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ขึ้นมา สามารถให้ผลผลิตสูงมาก เดิมนี่คือโอกาสดีที่สุดที่ต้าเฉียนเราจะแจ้งเกิด คิดไม่ถึงว่ารัชทายาทกลับมอบเมล็ดพันธุ์ผลผลิตสูงให้กับแคว้นต่าง ๆ รอบข้าง ช่วยให้พวกเขามั่งคั่งมากขึ้น”ถังเจิ้นไห่กล่าวเสียงหนัก “ขอถามทุกท่านในที่นี้ พฤติกรรมเช่นนี้ของรัชทายาทคือกำลังช่วยเหลือศัตรูน่ากลัวของเราหรือไม่? พฤติกรรมเช่นนี้ของเขา คือการขายชาติหรือไม่?!”ตูม...ครั้นถังเจิ้นไห่กล่าวถ้อยคำนี้ออกมา บรรดาขุนนางต่างอึกทึกครึกโครม คนทั้งโลกต่างรู้เรื่องที่เมืองจัวเก็บเกี่ยวอุดมสมบูรณ์แทบทุกคน และเรื่องที่ฉินอวิ๋นฟานลงนามสัญญากับแคว้นต่าง ๆ ก็รู
“อื่ม! ดี!”ไท่ซั่งหวงเอ่ยเสียงหนัก “เช่นนั้นข้าขอประกาศอย่างเป็นทางการ แต่งตั้งหวังอันสือเป็นหัวหน้าสำนักศึกษาหลวง เจี่ยงฝานฝานเป็นรองหัวหน้า การรับตำแหน่งนี้มีผลอย่างเป็นทางการ หัวหน้าขันทีเฉา ร่างราชโองการเดี๋ยวนี้ ประกาศต่อใต้หล้า!”เมื่อเรื่องราวสิ้นสุดลง ใจที่กระวนกระวายของฉินอวิ๋นฟานก็สงบ เขามองจางเต้าหลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง!ทว่าคนอื่น ๆ กลับมีความรู้สึกที่แปลกออกไป หลังจากหวังอันสือได้ขึ้นตำแหน่ง ทำให้พวกเขาตระหนักว่าสถานการณ์ในราชสำนักกำลังหลุดจากการควบคุมอย่างช้า ๆ ฉินอวิ๋นฟานกำลังจะครองราชสำนัก“เอาละ เรื่องสำนักศึกษาหลวงก็สิ้นสุดแล้ว แต่จะละเลยผลงานการไปเมืองอู่โจวของฟานเอ๋อร์ครั้งนี้ไม่ได้”ไท่ซั่งหวงกล่าวเสียงเข้ม “ฟานเอ๋อร์ไม่เพียงแต่ทำคำสัญญาเมื่อครึ่งปีก่อนสำเร็จ ยิ่งทำให้เศรษฐกิจต้าเฉียนเราพุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว ท้องพระคลังเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อย ๆ พสกนิกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างช้า ๆ ทุกคนต่างเห็นความยอดเยี่ยมของฟานเอ๋อร์”“ฟานเอ๋อร์ ว่ามาเถอะ เจ้าอยากได้อะไรเป็นรางวัล? ขอเพียงสมเหตุสมผล ข้าจะให้เจ้าดังปรารถนา!”ฉินอวิ๋นฟานรู้สึกดีใจมากที่
“...”‘ไม่ว่าจะเป็นใคร คนผู้นั้นก็รู้อยู่แก่ใจดี’ ประโยคเดียวของฉินอวิ๋นฟานทำให้ถังเจิ้นไห่สยบ แม่งเอ๊ย เขาก็ต้องรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว หากเขามีความจำเป็นพูดออกมาไม่ได้!การเล่นเกมเลี่ยงบาลีของฉินอวิ๋นฟานทำให้แนวป้องกันของถังเจิ้นไห่พังทลายลงโดยสิ้นเชิง เหล่าขุนนางต่างกัดฟันกรอด กลับทำอะไรไม่ได้ ฉินอวิ๋นฟานเฉกเช่นปลาหนีชิวลื่นไหลตัวหนึ่ง ทำอะไรเขาไม่ได้เลย!จางเต้าหลินที่อยู่ด้านข้างตกตะลึงกับการกระทำนี้ของฉินอวิ๋นฟาน เขาเคยเห็นคนหน้าด้าน กลับไม่เคยเห็นผู้ใดหน้าหนาไร้ยางอายเช่นฉินอวิ๋นฟานมาก่อน หน้าไม่อายที่สุด!คนคนหนึ่งปั่นหัวเหล่าขุนนางใหญ่เป็นว่าเล่น โมโหโทโสจนร่ำไห้หาพ่อร้องหาแม่ กลับจนปัญญา ดูสีหน้าเขียวปัดของถังเจิ้นไห่ จางเต้าหลินกลั้นหัวเราะอย่างหนัก กลั้นจนภายในจะบอบช้ำแล้ว“เอาละ ๆ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสักหน่อย พอแค่นี้เถอะ!”ไท่ซั่งหวงเห็นว่าพอประมาณแล้ว จึงตัดสินเรื่องนี้ในที่สุด ได้แต่บอกว่าฟานเอ๋อร์ใช้ไหวพริบและผลลัพธ์ก็คือว่าเป็นที่น่าพอใจ“จางไท่เว่ย ในเมื่อมีสามตัวเลือก และทุกคนก็แสดงจุดยืนของตัวเองแล้ว ท่านมีความเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร?”ไท่ซั่งหวงไม่ได้ยอมรับคว