แชร์

บทที่ 470

ผู้เขียน: เมิ่งซานเชียน
ตามการพองโตของหัวใจแห่งความชั่วร้าย ฉินยวนเข้าสู่ภาวะคลั่งกับตัวเองโดยสมบูรณ์

เขาเชิดมุมปากน้อย ๆ ยิ่งเหิมเกริมไม่กลัวเกรงต่อสิ่งใด เดินไปตรงหน้ามู่หรงจิ่นช้า ๆ แล้วชะโงกหน้าถึงข้าหูนางเบา ๆ ก่อนจะพูดด้วยใบหน้าย่ามใจ “เจ้าไปตอนนี้ยังทันนะ ทันทีที่พวกเราเริ่ม เจ้าคิดจะไปจะไม่มีโอกาสแล้ว”

“พะ พะ พวกท่านจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะ!”

มู่หรงจิ่นตกใจกับฉินยวนถอยหลังเนือง ๆ ใบหน้าแตกตื่น ยิ่งฉินยวนทำเช่นนี้ นางก็ยิ่งไปไม่ได้ นางจะดูหลู่เซียงหลิงถูกเดรัจฉานฝูงนี้ย่ำยีต่อหน้าต่อตาไม่ได้ ถ้านางไป นางต้องรู้สึกผิดไปทั้งชาติ และจะรู้สึกผิดต่อฉินอวิ๋นฟานด้วย!

“อ้อ? เช่นนั้นเจ้าคิดจะร่วมด้วยสินะ?”

ฉินยวนใบหน้าชั่วร้าย ยิ้มเจ้าเล่ห์พูดท้าทาย

“พะ พวกท่านเดรัจฉานนี่ ช่างเป็นเหมือนปีศาจร้ายแท้ ๆ!”

หลู่หนีเห็นดังนั้นจึงส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธ ขนาดมู่หรงจิ่นบอกฐานะก็ยังไม่ได้ผล เห็นชัดว่าคนพวกนี้ถึงขั้นไม่สนอะไรทั้งนั้น

เขารีบพูด “พระชายารัชทายาท ท่านรีบไปเสียเถอะ รีบไป จะให้ท่านด่างพร้อยเพราะพวกเราพ่อลูกไม่ได้ ถ้ารัชทายาทรู้เข้า เขาต้องคลั่งแน่”

นับจากติดตามฉินอวิ๋นฟาน หลู่หนีก็ค้นพบทิศทางของตัวเองชั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
P. CYLLJC
ส้้นจังวะตอนนี้
goodnovel comment avatar
ชัชฌนันท์ สีจันลา
ทำไมโฆษณาแทรกบ่อยจัง
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 471

    “ปัง!!!”หลู่หนีใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี หนึ่งหมัดชกไปที่ชายร่างกำยำตรงหน้า อีกฝ่ายเหยียดมุมปากเล็กน้อย ฉายรอยยิ้มจาง ๆ เขาไม่เพียงแต่ไม่หลบ กลับกันยังเปิดทรวงอกรับหมัดนี้เองอีกตามเสียงกระแทกทุ้มต่ำ ชายร่างกำยำผู้นั้นนอกจากจะไม่ล้ม ยังยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าหลู่หนี ไม่สะทกสะท้านอะไรทั้งนั้น หลู่หนีมองแววตาไม่ยี่หระของอีกฝ่าย หัวใจคือความสิ้นหวังทั้งหมด“ฮ่า ๆ ๆ ว่าที่ท่านพ่อตาของข้า วันนี้ท่านไม่ได้กินข้าวมาหรือยังไง อาศัยแรงแค่นี้ก็คิดจะทำร้ายข้า? ไร้เดียงสาไปหน่อยแล้ว!”รับกับหมัดไม่เจ็บไม่คันของหลู่หนี ชายร่างกำยำยิ่งเหิมเกริม แหงนหน้าหัวเราะกับฟ้าเสียงดัง“เป็นไปได้ยังไง?”แววตาของหลู่หนีสว่างมืดสลับสับเปลี่ยน เต็มไปด้วยความครั่นคร้าม แม้เขาจะเป็นคนธรรมดา แต่ก็ตีเหล็กหลอมโลหะมานานหลายปี มีกำลังมากกว่าคนทั่วไป ไม่นึกว่าหนึ่งหมัดกับชายตรงหน้าจะเหมือนสะกิด? “จบกัน จบกัน พี่อวิ๋นฟาน ท่านรีบมาเถอะ ขืนไม่มาอีกจะเกิดเรื่องใหญ่จริง ๆ แล้วนะ!”ทันทีที่เห็นภาพนี้ มู่หรงจิ่นความหวังเหลือศูนย์ ภาวนาในใจหวังว่าฉินอวิ๋นฟานจะมาถึงโดยเร็วไม่หยุด มิเช่นนั้นพวกนางคงไม่รอดแน่แล้ว“มีอะไรเป็นไปไ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 472

    “หยุดนะ หยุดกันให้หมด ข้าขอร้องละ...”เห็นบิดาถูกซ้อมอย่างทารุณเช่นนี้ หลู่เซียงหลิงร่ำไห้ดังดอกท้อต้องหยาดฝน พยายามส่งเสียงวิงวอน แต่พวกเฉาส่วงกลับไม่สนใจ ยิ่งหลู่เซียงหลิงส่งเสียงสิ้นหวังแค่ไหน พวกเขาก็ยิ่งฮึกเหิม ยิ่งลงมือหนักมากขึ้น!“พวก พวกเจ้าหยุดเดี๋ยวนี้นะ หยุด ทำเกินไปแล้วนะ พวกเจ้าทำเกินไปแล้วจริง ๆ!”มู่หรงจิ่นทนดูต่อไปไม่ได้อีก นางเปล่งเสียงด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมด ในตอนนี้เอง เฉาส่วงและคนอื่น ๆ จึงหยุดการกระทำ มองมู่หรงจิ่นด้วยใบหน้าครุ่นคิดภายใต้มือเท้าดิบเถื่อนของชายฉกรรจ์หลายคน เพียงชั่วเดี๋ยวเดียวหลู่หนีนอนลมหายใจรวยรินแน่นิ่งอยู่กับพื้น มีเลือดท่วมตัว สภาพอเนจอนาถถึงขีดสุด“เกินไป? ไม่เกินไปพวกเราจะทำรึ?”ฉินยวนเหยียดยิ้มตรงมุงปาก พูดอย่างมีความหมายโดยนัย “พี่สะใภ้ ยังไง? เจ้าก็คิดได้แล้วใช่ไหม? ถ้าคิดได้แล้ว พวกเราก็จะหยุด”“ฮ่า ๆ ๆ ๆ...”พวกเฉาส่วงทำหน้าเหมือนอันธพาล แสดงด้านที่เป็นจิ๊กโก๋ออกมาจนสิ้น ความเลวทรามรังแกชายย่ำยีหญิงทำให้คนคลื่นเหียน กลับจนใจที่ทำอะไรไม่ได้“รัชทายาทจะมาถึงแล้ว หยุดตอนนี้ยังทันนะ!”มู่หรงจิ่นหมดหนทางแล้วจริง ๆ ถ้าให้พวกเขาลงมือต่

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 473

    “ตอนนี้ไม่ใช่เวลาขอโทษขอโพย รัชทายาทน่าจะใกล้มาถึงแล้ว พวกเราอดทนกันอีกหน่อยนะ”ถึงมู่หรงจิ่นจะกระวนกระวายใจอย่างหนัก แต่ก็ยังกระซิบกำชับนางยังไม่ลืมพยายามใช้เสื้อผ้าที่ขาดวิ่นกำบังร่างขาวปานหิมะของหลู่เซียงหลิง จะได้ไม่เผยออกมาเยอะเกินไป อย่างไรเสีย ความบริสุทธิ์ของผู้หญิงยังสำคัญมาก“ข้า ข้ากลัวว่าตัวเองจะรอให้รัชทายาทมาถึงไม่ไหวแล้ว!”หลู่เซียงหลิงส่ายหน้า สีหน้าสิ้นหวัง ใช่ว่านางไม่อยากรอ หรือกลัวคนเลวทรามพวกนี้ก็ไม่ แต่นางไม่กล้าเอาชีวิตของบิดาไปเสี่ยง กลับกัน อย่างไรก็คือต้องตาย จะบริสุทธิ์ก็ดี จะแปดเปื้อนมลทินก็ช่าง อย่างน้อยก็ไม่ถึงกับทำให้บิดาและพระชายารัชทายาทต้องเดือดร้อนยามนี้ แววตาไร้ศูนย์ของหลู่เซียงหลิงเปลี่ยนเป็นแน่วแน่ขึ้นมา นางฝืนยันร่างอ่อนระทวย แล้วดึงเสื้อผ้าที่มู่หรงจิ่นเพิ่งคลุมให้ออกนางมองไปทางฉินยวนและเอ่ยขึ้น “ท่านอ๋องน้อย เมื่อครู่เป็นเซียงหลิงที่ไม่รู้ความเอง ข้ายอมพวกท่านแล้ว ท่านจะปล่อยพ่อข้ากับพระชายารัชทายาทไปได้หรือไม่? อย่างไรจุดประสงค์ของพวกท่านก็คือข้า พวกเขาคือผู้บริสุทธิ์”“แม่นางเซียงหลิง เจ้าบ้าไปแล้วเหรอ! อย่ายอมแพ้เด็ดขาดนะ!”ครั้นกล

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 474

    ชายหน้าอัปลักษณ์เห็นดังนั้นแล้วยิ่งคึก พุ่งตัวเข้าใส่ทันที คนอื่น ๆ ก็เริ่มด้วยเหมือนกัน ลูบไล้อย่างปราศจากความเกรงกลัว“พวก พวกเจ้า พวกเจ้ามันเดรัจฉาน! ปล่อยพวกนางนะ! ปล่อยพวกนาง! ข้าขอร้องละ!”หลู่หนีนอนหมดเรี่ยวแรงอยู่กับพื้น สองขาถูกตีจนหักแล้ว ไร้กำลังจะลุกขึ้นยืน เห็นลูกสาวและพระชายารัชทายาทถูกรังแก หลู่หนีสิ้นหวังเหลือคณา เขาอดกลั้นต่อความเจ็บแสนสาหัส คลานไปทางมู่หรงจิ่น ปากก็ขอร้องไม่หยุด“เฮอะ...”ฉินยวนมองหลู่หนีอย่างเย็นชา แสยะยิ้มอย่างดูแคลน “พี่น้องทั้งหลาย เอาเลยให้เต็มที่ไปเลย! เอาให้สดชื่น เอาให้สนุก!”“โอ้ว...”ครั้นได้รับการชี้สั่งของฉินยวน พวกเฉาส่วงก็กำเริบเสิบสานทันที ลงมือกับมู่หรงจิ่นและหลู่เซียงหลิงอย่างบ้าคลั่งมากขึ้น ฉีกทึ้งเสื้อผ้าของพวกนางไม่หยุด“ไสหัวไปนะ พวกเจ้าทำอย่างนี้กรรมต้องตามสนองแน่!”ยามนี้มู่หรงจิ่นกลัวสุดขีด แต่นางยังคงกอดหลู่เซียงหลิงเอาไว้ไม่ปล่อย กลัวว่าหลู่เซียงหลิงจะถูกคนชั่วช้าฝูงนี้ทำให้แปดเปื้อน แม้นางก็ถูกอีกฝ่ายรังแกเหมือนกัน แต่ขณะที่ถูกล่วงเกิน มู่หรงจิ่นยังพยายามขัดขืนอย่างสุดความสามารถ“กรรมตามสนอง? ฮ่า ๆ ๆ เจ้าเชื่อจริงหร

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 475

    “ข้าเอง ข้าเอง”เห็นหลู่เซียงหลิงอเนจอนาถเช่นนี้ หัวใจของฉินอวิ๋นฟานในตอนนี้เหมือนถูกมีดกรีด เขารีบกอดหลู่เซียงหลิงเข้าอ้อมอกและพูดปลอบ “ไม่เป็นแล้ว เซียงหลิง ฝันร้ายมันจบลงแล้วนะ ข้ารับรองว่าต้องให้คนชั่วพวกนี้รับกรรมอย่างสาสม!”ในวาจาที่นุ่มนวลของฉินอวิ๋นฟานมีไฟโทสะมหาศาลแอบแฝงอยู่มู่หรงจิ่น หลู่หนี หลู่เซียงหลิงล้วนเป็นคนสำคัญที่สุดของฉินอวิ๋นฟาน ยิ่งเป็นสิ่งต้องห้ามของฉินอวิ๋นฟาน ไม่มีผู้ใดสามารถท้าทายเส้นต่ำสุดอยู่บนหัวของเขาได้ ผู้ใดท้าทาย มันต้องตาย!นี่คือเมืองหลวงต้าเฉียน มิใช่อำเภอเล็ก ๆ ที่นกไม่ถ่ายมูล พฤติกรรมต่ำทรามเช่นนี้กลับเกิดกับฉินอวิ๋นฟานเป็นครั้งที่สอง? หนำซ้ำยังปรากฏอยู่ในสำนักศึกษาหลวงต้าเฉียนซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์แห่งการศึกษา?หากเรื่องเช่นนี้ยังทนได้ เช่นนี้ยังมีอะไรที่ทนไม่ได้อีก!หากกำแหงอีก มิใช่ว่าผู้ใดก็ขี่อยู่บนหัวรัชทายาทผู้ว่าราชการแผ่นดินต้าเฉียนแล้วอุจจาระใส่ได้หรือ?“รัช รัชทายาท ท่าน ท่านรับตัวข้าไว้เถอะ ข้าต้องการ ข้าต้องการอยู่กับท่าน!”เวลานี้ ด้วยฤทธิ์ยาปลุกกำหนัดฉีอิน หลู่เซียงหลิงเสียสติสัมปชัญญะไปทุกที เสียความมุ่งมั่

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 476

    และนี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นของเพลิงโทสะของฉินอวิ๋นฟานเท่านั้น ความสยองขวัญที่แท้จริงยังอยู่ข้างหลัง พวกเขาไม่ตระหนักเลยว่าตัวเองล่วงเกินตัวตนที่น่ากลัวขนาดไหนเพราะความโง่งมและกำแหงของพวกเขา ทำให้ชีวิตของพวกเขาเข้าสู่การนับถอยหลังอย่างเป็นทางการ หากพวกเขาไม่รู้ตัวเลย“ฉินอวิ๋นฟาน เจ้ารู้หรือเปล่าว่าข้าเป็นใคร? ริอ่าน...”ฉินยวนเพิ่งพูดไปได้ครึ่งเดียวก็ถูกฉินอวิ๋นฟานถีบหน้าอีกครั้ง ฉินอวิ๋นฟานไม่นึกอยากฟังว่าเขามีฐานะเช่นไร ยิ่งไม่อยากฟังคำพูดไร้สาระของเขาเห็นเพียงฉินอวิ๋นฟานราวกับเทพสังหารมาเยือน เขามองลงล่าง สายตาแห่งความตายนั้นไม่มีความรู้สึกสักนิด มีแต่การฆ่าฟันอย่างอำมหิตเท่านั้นจึงสามารถดับไฟโกรธไม่สิ้นสุดของเขา“ข้าไม่อยากรู้ว่าเจ้าคือใคร ข้าแค่รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าทำในวันนี้จะต้องตาย! นี่ก็พอแล้ว!”วาจาอย่างง่ายของฉินอวิ๋นฟานเต็มไปด้วยความเผด็จการ ไม่ปกปิดเจตนาสังหารที่แผ่ออกมาจากตัวเขาสักนิด ถ้าไม่ใช่ว่าเขามาทันเวลา หลู่เซียงหลิงกับมู่หรงจิ่นคงประสบเคราะห์ไปแล้วบัญชีนี้ต้องมีคนชดใช้ด้วยชีวิตจึงจะดี!มิเช่นนั้น มหาสงครามกับต้าเยียนกำลังจะเกิด หากมีคนกลั่นแกล้งเขาอย

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 477

    “ฉินอวิ๋นฟาน เจ้า เจ้ามันบ้าไปแล้วหรือยังไง? พ่อข้าคืออ๋องหนึ่งเดียวของต้าเฉียนฉินอ้าวเชียวนะ! ถ้าเจ้าตีข้าตาย เจ้าต้องเจอดีแน่ พ่อข้าต้องแก้แค้นให้ข้าแน่!”ใบหน้าของฉินยวนมีแต่ความตื่นตระหนก มองฉินอวิ๋นฟานที่เดินมาทางตนทีละก้าว ยามนี้ในที่สุดเขาได้กลิ่นของความตายแล้ว ถ้าฉินอวิ๋นฟานตีต่อไปอย่างนี้ เกรงว่าเขาคงไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ทอแสงในวันพรุ่งจริง ๆเขารีบข่มขู่ “พี่เจ็ด เรามีอะไรก็พูดกันดี ๆ อย่าเพิ่งตีเลย ตีต่อไปได้ตายจริงแน่”“อ้อ? ตอนนี้รู้จักขอร้องแล้ว?”ฉินอวิ๋นฟานยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย พูดด้วยสีหน้ากระแนะกระแหน “คาดว่าเมื่อกี้พวกนางน่าจะขอร้องเจ้าเหมือนกันสิ? แต่เจ้า! ทำยังไง? เคยละเว้นพวกนางไหม? เคยคิดถึงความกลัวและความรู้สึกของพวกเขาในตอนนั้นไหม?!”เผชิญกับการไต่ถามของฉินอวิ๋นฟาน ฉินยวนสีหน้ามืดสว่างสลับสับเปลี่ยน เขารีบอธิบาย “เป็นเพราะข้าลุ่มหลงมัวเมา เป็นข้าที่ทนการยุยงของคนอื่นไม่ได้ เป็นข้าที่ผิดต่อท่าน ข้าสำนึกแล้วจริง ๆ ท่านให้โอกาสข้าอีกสักครั้งนะ รับรอง ต่อไปข้าจะไม่กล้าอีกแล้ว”“พี่เจ็ด ถึงเรื่องนี้ข้าจะทำลงไปได้บัดซบมาก แต่พวกเราก็ไม่สำเร็จนี่ อย่างน้อยเรื่องมั

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 478

    “หยุดนะ หยุดกันให้หมด”ก็ขณะที่ฉินอวิ๋นฟานเตรียมจะลงมือต่อ จู่ ๆ ก็มีเสียงเร่งรีบดังมาจากนอกประตู ครั้นฉินอวิ๋นฟานและคนอื่น ๆ หันไปมอง เห็นเพียงชายสูงวัยเคราขาวและดูมีกำลังวังชาคนหนึ่งพาฝูงชายสูงวัยมาด้วยใบหน้าตื่นตระหนก“หือ? เจ้าคือใคร?”แม้ฉินอวิ๋นฟานจะไม่รู้ตำแหน่งของพวกเขา แต่จากการแต่งเนื้อแต่งตัวยังพอเดาออกว่าพวกเขาคือใคร พวกเขาน่าจะเป็นพวกคนตำแหน่งสูงในสำนักศึกษาหลวงนั่นแหละ เพียงแต่ฉินอวิ๋นฟานไม่รู้ชื่อเสียงเรียงนามรายละเอียดของพวกเขาเท่านั้น“เรียนรัชทายาท ข้าน้อยคือหัวหน้าสำนักศึกษาหลวงเซียวเทียนติ่งขอรับ”เซียวเทียนติ่งชายสูงวัยซึ่งเป็นผู้นำคุกเข่าลงตรงหน้าฉินอวิ๋นฟานทันที ก่อนจะรายงานสถานการณ์ “ข้าน้อยสมควรตาย ไม่ได้ดูแลสำนักศึกษาหลวงให้ดี ทำให้สำนักศึกษาหลวงเกิดเรื่องใหญ่โตเช่นนี้ รัชทายาทโปรดลงโทษด้วย”ฉินอวิ๋นฟานเลิกคิ้วเล็กน้อย “ได้ ข้ารู้แล้ว ในเมื่อเจ้าไม่มีธุระ ตอนนี้ก็ไสหัวออกไปได้แล้ว รอข้าจัดการเรื่องนี้เสร็จก่อนค่อยจัดการเจ้า!”ฉินอวิ๋นฟานไม่ไว้หน้าเซียวเทียนติ่งแม้แต่น้อย กระทั่งไม่สนใจมองเขาสักสายตา คนพรรค์นี้สามารถดำแรงตำแหน่งหัวหน้าสำนักศึกษาหลวงได้ เ

บทล่าสุด

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1062

    ในที่สุดเหมิงฉาก็รับไม่ไหว ร้องตะโกนคำที่แทบจะเป็นความอัปยศนั้นการแข่งขันทางบู๊นี้ก็ปิดฉากลงท่ามกลางความตกตะลึงพรึงเพริดของทุกคน...เรื่องหักเหจากการคาดหมายของทุกคนเหลียงจ้านอิงและเหลียงเทียนจื้อต่างคิดไม่ถึงว่าเหลียงเทียนอี้จะล้วงปืนสั้นออกมาพลิกสถานการณ์ในการแข่งขันด้านบู๊นี้กระทั่งว่าเหลียงเทียนจื้อไม่มีโอกาสจะได้ออกโรงเลย...เช่นละครอย่างไรอย่างนั้น เนื่องจากเหมิงฉากลัวสุดขีดจึงยกมือยอมแพ้ดังนั้นเหลียงเทียนอี้จึงคว้าชัยชนะการแข่งขันรอบนี้ได้อย่างง่ายดายโดยไม่เปลืองแรงภาพมหัศจรรย์เกิดให้แบบไม่มีการเปลี่ยนแปลงลุ้นระทึกและไม่มีเลือดร้อนพลุ่งพล่านที่ใครคาดหวัง!ถึงขั้นว่าลวงตามากแต่ผลลัพธ์เป็นของจริงแท้แน่นอน เหลียงเทียนอี้ชนะแล้ว......“ดูท่าครั้งนี้ฟานเอ๋อร์จะช่วยข้าได้มากอีกแล้ว”เหลียงเทียนอี้กลับมาถึงด้านในก็คืนปืนสั้นให้ฉินอวิ๋นฟานและพรูลมหนัก ๆ“เหอะ ๆ เสด็จน้าชมเกินไปแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของท่านทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับข้าสักหน่อย”ฉินอวิ๋นฟานยักไหล่ มิได้กล่าวอะไรอีกถ้าจะบอกว่าเขาทำอะไรเพื่อเหลียงเทียนอี้ นั่นก็แค่บอกเขาว่าความจริงการแข่งขันนี้สามาร

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1061

    การกระทำของเหลียงเทียนอี้ทำให้ทุกคนในนั้นตกตะลึงแม้แต่เหลียงจ้านอิงที่อยู่บนปะรำก็ยังหยุดการดื่มน้ำชาไม่ได้ มองไปด้วยสีหน้าประหลาดใจ“เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?”เหลียงเทียนจื้อมองเหลียงเทียนอี้ที่ปราศจากเครื่องป้องกันใด ๆ ด้านข้าง ใบหน้าแปลกใจนี่คือการแข่งขันบู๊นะ คือสถานที่ตีรันฟันแทง ถ้าไม่ระวังอาจต้องคมศาสตราได้จริง ๆ ศีรษะย้ายที่อยู่ หากไม่ใช่เพราะมั่นใจกับฝีมือของตัวเองมาก กอปรกับวางแผนร่วมกับทางซยงหนูดีแล้วเขาคงต้องสวมชุดเกราะหนักมารับมือกับการแข่งขันด้านบู๊วันนี้เหมือนกันทว่าการกระทำเช่นนี้ของเหลียงเทียนอี้ต่างจากการรนหาที่ตายอย่างไร?ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแปลก เหลียงเทียนจื้อหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย...ทั้งที่เขาควรดีใจกับเวลานี้ ถ้าเหลียงเทียนอี้เกิดอุบัติเหตุในการแข่งขันรอบนี้ เช่นนั้นบัลลังก์ต้องเป็นของเขาแน่แล้วแต่ใจกับกระวนกระวาย อย่างไรก็ไม่เป็นสุข“หรือว่าเขาแอบวางแผนอะไร?”ทันใดนั้นเหมิงฉาเริ่มบุกโจมตีก่อนแล้วร่างสูงใหญ่นั้นหวดขวานใหญ่หนักร้อยชั่งพลางเข้าใกล้เหลียงเทียนอี้อย่างต่อเนื่องภายใต้แสงสุริยา คมมีดนั้นน่ากลัวเช่นนี้ ราวกับแค่ถากเถือเบา ๆ ก็เฉือนศีรษ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1060

    “ข้าเอง!”ทันใดนั้นเหลียงเทียนอี้ก็ก้าวออกมาช้า ๆโง่อย่างที่คิด...เหลียงเทียนจื้อยืนยิ้มเยาะอยู่ในใจข้างหลังเขารู้นิสัยของพี่ชายดี และรู้ว่าเหลียงเทียนอี้เป็นคนดื้อรั้นมากเมื่อเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ก็มักจะดาหน้าออกไปทันทีแม้เผชิญหน้ากับพันขุนศึกหมื่นอาชาก็ยังปราศจากความกลัวเกรง พลีตนจนตัวตาย...แต่พฤติกรรมวู่วามเช่นนี้ กลัวแต่ต้องจบอย่างอนาถในท้ายที่สุด“ฮ่า ๆ ๆ รัชทายาทกล้าหาญดังคาด!” เหมิงฉาหัวเราะเสียงดัง “ปกติยังนึกว่าท่านเป็นแต่สะบัดพู่กันขีดเขียน วันนี้ข้าอยากลองดูสิว่าฝีมือดาบกระบี่ของท่านจะล้ำลึกหรือไม่?”เพิ่งกล่าวจบ เหมิงฉาก็กวัดแกว่งขวานใหญ่พลางเดินประชิดไปทางเหลียงเทียนอี้ทีละก้าวรูปร่างใหญ่นั้น ร่างกายแข็งแรงนั้น แค่ยืนอยู่ก็สร้างแรงกดดันที่มองไม่เห็นแล้วทำให้หลาย ๆ คนเห็นแล้วอดเกิดใจกลัวอย่างหนึ่งขึ้นมาไม่ได้“อุ๊ย ท่านพี่จะเอาชนะสัตว์ประหลาดตัวนี้ยังไง?”เหลียงจื่อฝูที่อยู่บนปะรำหน้าทุกข์ร้อน สองมือบีบผ้าเช็ดหน้าแน่น สีหน้าซีดไปเล็กน้อยนางจ้องเหลียงเทียนอี้กลางลานฝึกซ้อม“ท่านพี่ไม่มีความสามารถด้านนี้เท่าไร ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหมิงฉา!”ผู้เป็นน้องสาว

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1059

    เหลียงเทียนอี้ขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าราบเรียบ มองอารมณ์ไม่ออกแต่ในใจเขารู้ดี การต่อสู้ครั้งนี้ได้เปิดฉากอย่างเป็นทางการตั้งแต่เหมิงฉาเริ่มพูดแล้วนี่คือการหยามหน้า คือการหยามเหยียดอย่างชัดเจนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย“เป็นยังไง? องค์ชายสาม?”เหมิงฉาเมินเหลียงเทียนอี้ที่อยู่อีกทางหนึ่ง แล้วใช้สายตาท้าทายมองไปทางเหลียงเทียนจื้อ ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น “ได้ยินว่าฝีมือการใช้ดาบกระบี่ขององค์ชายสามค่อนข้างร้ายกาจ วันนี้ข้าขอท้าทายสักหน่อยเถิด”“มิเป็นไร” เหลียงเทียนจื้อฉีกยิ้ม ใบหน้าเปื้อนไปด้วยความกระหยิ่มใจจากนั้นก็ชักกระบี่ล้ำค่าคู่กายออกมาจากตรงเอวช้า ๆการต่อสู้ครั้งนี้ คือของเขาเท่านั้น!และเป็นเขาได้เท่านั้น!เขาต้องการให้ทุกคนรู้ว่าเขาเหลียงเทียนจื้อต่างหากที่เป็นผู้ชนะในท้ายที่สุดคนนั้น คือคนที่สามารถเอาชนะซยงหนูได้อย่างแท้จริง!......“ดูท่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามแผนนะ”เหลียงจ้านอิงดื่มน้ำชาสบายใจเฉิบอยู่บนปะรำมองผลสะท้อนกลับอย่างอบอุ่นของเหล่าผู้ชม จิตใจยิ่งฮึกเหิมตื่นเต้นไม่พูดไม่ได้เลย ถ้อยคำนั้นของเหมิงฉาทำให้เกิดผลดีเยี่ยม สามารถชักจูงอารมณ์ของทุกคนได้ในพริบตาเขาเช

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1058

    ตกลงไว้แต่แรกว่าเป็นการแข่งขันรูปแบบปิด และไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร นอกจากราชวงศ์จะมิมีผู้ใดล่วงรู้ทว่าตอนนี้กลับแข่งขันในลานกว้างต่อหน้าธารกำนัล?หากท่านพี่แพ้มิต้องเป็นที่หัวเราะไปทั่วหรือ?“นี่ก็คือผลลัพธ์ที่ทางเหลียงชินอ๋องต้องการกระมัง?”ฉินอวิ๋นฟานนั่งลงด้านข้าง ยิ้มพูดอย่างเฉยชา “ในฐานะที่เป็นละครฉายซ้ำของวันนี้ พวกเขาแค่ต้องการให้ทุกคนได้เห็นความประดักประเดิดของเสด็จน้าเท่านั้น”แต่แพ้จากการต่อสู้เช่นนั้นผลลัพธ์ต้องเทข้างแน่โอรสสวรรค์ของต้าเหลียงที่กล่าวขานกลับแพ้ให้กับคนป่าเถื่อน ทั้งความสามารถยังมิสู้องค์ชายสามเหลียงเทียนจื้อขอเพียงมีการพูดประเภทนี้ต่อไป ไม่นานอัตราการสนับสนุนเหลียงเทียนจื้อก็จะพุ่งสูงลูกไม้พรรค์นี้ช่างโหดเหี้ยมนัก“น่ารังเกียจจริง ๆ...” คิ้วงามเหลียงจื่อฝูย่นยู่เล็กน้อย อดกระตุกมุมปากไม่ได้ “ไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะใช้วิธีการต่ำช้าเช่นนี้”“เมื่อวานท่านพี่ชนะการแข่งขันด้านบุ๋นกับซยงหนูในท้องพระโรง พวกเขาไม่เห็นจะพูดกันเลย เลวทรามจริง ๆ!”ฉินอวิ๋นฟานหัวเราะอย่างไม่ออกความเห็นเขากลับไม่ใส่ใจว่าเมื่อวานจะชนะหรือแพ้ วันนี้ต่างหากที่เป็นส่วนสำค

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1057

    สำหรับเหลียงเทียนอี้ การแข่งขันในวันนี้ค่อนข้างน่าตกใจแต่ยังดีที่สุดท้ายเขาสามารถคลี่คลายได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้พวกซยงหนูหน้าบึ้งตึง โจมตีจนพวกเขารับมือไม่ทันดูท่าปกติว่างเว้นจากการงานอ่านหนังสือให้มากจะมีประโยชน์...หลังประชุมเช้า เหลียงเทียนอี้ก็อดรนทนไม่ไหวบอกข่าวดีกับฉินอวิ๋นฟาน อยากแบ่งปันความสุขและความเปรมปรีดิ์ของตนแต่พอได้ยินฉินอวิ๋นฟานตอบกลับ เขาจึงตระหนักว่าเรื่องราวไม่ได้เรียบง่ายธรรมดาอย่างที่เขาคิดอย่างนั้น“การแข่งขันทางบู๊ในวันพรุ่งนี้จึงจะเป็นส่วนสำคัญอย่างแท้จริง”คำพูดราบเรียบประโยคหนึ่งของฉินอวิ๋นฟานทำให้ความยินดีปรีดาของเหลียงเทียนอี้ในแต่เดิมสูญสิ้น สีหน้าอึมครึมมากขึ้นเรื่อย ๆ“ข้าย่อมรู้ดี...แต่ปกติ คนที่จะชนะในการแข่งขันทางบู๊คงจะเป็นน้องสาม”เกี่ยวกับจุดนี้แทบไม่มีอะไรให้ลุ้นเพราะเหลียงเทียนจื้อร่ำเรียนกับเหลียงจ้านอิงแต่เล็ก อีกทั้งยังเคยเข้าสนามรบฟาดฟันกับศัตรู ด้านประสบการณ์การรบ จึงมีความคล่องมากกว่าเป็นธรรมดาเช่นนี้ หากคิดจะชิงคะแนนหนึ่งมาจากมือของเหลียงเทียนจื้อ คาดว่าต้องยากเป็นพิเศษเมื่อเห็นเหลียงเทียนอี้มีท่าทางปราศจากใจฮึดสู้ ฉินอวิ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1056

    “พันทุบหมื่นเจาะจึงได้แผ่นดิน ไฟโหมเผาไหม้เป็นอาจิณ ร่างแหลกกายเหลวมิหวั่น คงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ในโลกา”ฝุ่นหินหนึ่งบททำให้หลิ่วเหวินเซี่ยมั่นใจมากขึ้นไม่น้อยครั้งนี้เขาไม่ออมมืออีก ทั้งยังท่องออกมาจนจบ ไม่เปิดโอกาสใด ๆ ให้กับเหลียงเทียนอี้เช่นเดียวกัน เขาทำนอกเหนือแผนเดิม ไม่คิดสนใจความรู้สึกของเหลียงเทียนจื้ออีก“นี่ นี่มันกลอนอะไร?”เหลียงเทียนจื้อที่อยู่ด้านหลังเหงื่อตก ในหัวถึงขั้นว่าไม่มีความทรงจำอะไรเกี่ยวกับกลอนบทนี้แน่นอน ด้วยความทึ่มทื่อของเขาจะต่อกลอนได้อย่างไร ได้แต่เกาหลังศีรษะยิก ๆทว่าเหลียงเทียนอี้ยังใจเย็นเหมือนเดิม เพียงครู่เดียวก็ตอบ“หวงคะนึงความทุกข์เข็ญในการสอบ บัดนี้ไฟสงครามสงบผ่านพ้นสี่ปี”“บ้างเมืองไหวเอนดังกิ่งหลิว ใครเล่ามิใช่ผิวน้ำฝนซัดสาด”“หวงข่งทานปราชัยพรั่นพรึงถึงวันนี้ หลิงติงหยางอ้างว้างถอนหายใจ”“นับแต่โบราณใครบ้างมิดับสูญ เหลือใจรักชาติในพงศาวดาร”ครั้นกล่าวออกมาก็ได้รีบเสียงปรบมือดังสนั่นขุนนางบุ๋นบู๊ที่ชมละครฉากเด็ดในแต่เดิม ยามนี้ยอมสยบกับความสามารถทางวรรณกรรมของเหลียงเทียนอี้แล้วไม่ว่าจะเป็นกลอนในสมัยใด เหลียงเทียนอี้ก็เหมือน

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1055

    ชั่วขณะ ท้องพระโรงเงียบกริบ สายตาของทุกคนรวมศูนย์อยู่กับตัวของเหลียงเทียนอี้แทบทั้งหมดในดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความยินดีหลังจากหลิ่วเหวินเซี่ยร่ายกลอนท่อนแรกออกมา เหลียงเทียนอี้กลับสามารถตอบสนองทันควันพร้อมต่อท่อนหลังความเร็วเช่นนี้เรียกว่าเร็วยิ่ง!“อวิ๋นเฉ่าสาทรฤดูมีเขียวแห่งวสันต์ของกวีราชวงศ์ซ่ง คือยอดบทกวีโดยแท้!”เหลียงเทียนอี้พยักหน้าอย่างสง่างาม ใบหน้าประดับรอยยิ้มมั่นใจงานนี้ทำให้เหลียงเทียนจื้อที่อยู่ข้างล่างหน้าตึงฉับพลันเหลียงจ้านอิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยิ่งหนักกว่า สายตาที่มองมาราวกับมีไฟพุ่งออกมาได้“บ้าเอ๊ย...ถูกชิงตัดหน้าไปก่อน!”เหลียงเทียนจื้อกัดฟันกรอด ในใจกรุ่นโกรธไม่หยุดทั้งที่เขาทำการบ้านมาล่วงหน้า ไม่ว่าหลิ่วเหวินเซี่ยจะท่องกลอนบทใดเขาก็เตรียมเอาไว้หมดแล้วแต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขากลับเร็วสู้เหลียงเทียนอี้ไม่ได้!และไม่รู้ว่าตัวเองโง่เขลาหรือเหลียงเทียนอี้เก่งจริงกันแน่!“รัชทายาททรงภูมิแท้ ข้าน้อยเลื่อมใส!”หลิ่วเหวินเซี่ยพยักหน้าด้วยสีหน้าคงเดิมทว่าในใจกลับไม่พอใจเล็กน้อยแล้วคิดไม่ถึงว่าเหลียงเทียนอี้ผู้นี้จะมีฝีมือ เขาจงใจเลือกบทกวี

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1054

    การกระทำเช่นนี้คือการแสดงความยโสหยิ่งผยองของซยงหนูอย่างมิต้องสงสัย“เหมิงฉา คารวะรัชทายาท”“หลิ่วเหวินเซี่ย คารวะรัชทายาท”คนอื่น ๆ ก็ทักทายตามด้วยเหมือนกัน เมื่อนั้นเหลียงเทียนอี้จึงรู้ฐานะของพวกเขาดูแล้วหนึ่งคนในนั้นก็คือบุตรชายของเหมิงเก๋อเอ่อร์ หรือก็คือคนที่มาท้าทายเขาในครั้งนี้อย่างที่เหลียงจ้านอิงบอก การมาครั้งนี้ของเหมิงเก๋อเอ่อร์ก็เพื่อหยั่งเชิงเขาโดยอ้างเหตุผลเยี่ยมเยือนฮ่องเต้ต้าเหลียง ดังนั้นเรื่องที่เริ่มสนทนาในท้องพระโรงจึงเกี่ยวกับสุขภาพของฮ่องเต้ต้าเหลียงแทบจะทั้งหมดทว่าทุกคนในที่นั้นต่างรู้ดี จุดประสงค์ของผู้นิยมสุรามิได้อยู่ที่สุรานี่อย่างไร ครั้นเปลี่ยนเรื่อง เหมิงเก๋อเอ่อร์ก็กล่าวถึงการแข่งขันเลย“ได้ยินว่ารัชทายาทและองค์ชายสามเก่งทั้งบุ๋นแล้วบู๊มานาน คืออัจฉริยะของต้าเหลียง การมาเยือนต้าเหลียงครั้งนี้ นอกจากจะเยี่ยมฮ่องเต้ต้าเหลียงสหายเก่าท่านนี้ ก็อยากให้บุตรชายได้ประมือกับรัชทายาทและองค์ชายสักหน่อย”เหมิงเก๋อเอ่อร์สีหน้าขึงขัง ในที่สุดก็เข้าประเด็นชั่วขณะ ทุกคนในท้องพระโรงหัวใจจะหลุดออกมาอยู่แล้ว ต่างสังเกตสีหน้าเหลียงเทียนอี้อย่างแนบเนียนทว่าเ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status