หนึ่งครู่ให้หลัง เยียนจ้านเทียนจู่ ๆ ก็เอ่ยปาก “ส่งขุนนางทูตไปเจรจาดูท่าทีของฉินอวิ๋นฟานสักหน่อยก็ได้ พวกเจ้าไปจัดการกันเองเถอะ”นับจากต้าเยียนประกาศต่อใต้หล้า เยียนจ้านเทียนพบว่าภายในต้าเฉียนกลับไม่มีคลื่นลมอะไรนัก เงียบกริบอย่างผิดปกติ กลับเป็นโรงแรมห้าดาวรูปแบบโฉมใหม่ดำเนินไปอย่างร้อนแรงฉินอวิ๋นฟานไม่แสดงท่าทีใด ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ ทุ่มเทกับธุรกิจเพียงอย่างเดียว และเห็นชัดว่าเขากำลังเล่นงานต้าเยียน เพื่อให้แผนการราบรื่นยิ่งขึ้น การจะส่งขุนนางทูตไปเจรจาต่อหน้าจึงเป็นทางเลือกที่ไม่เลวอย่างหนึ่ง“พ่ะย่ะค่ะ!”ต้าเยียนปฏิบัติการเร็วยิ่ง ส่งขุนนางทูตจำนวนหนึ่งเดินทางไปเจรจาอย่างเป็นทางการที่ต้าเฉียนทันทีขณะเดียวกัน ในจวนขององค์ชายรอง ฉินอวิ๋นฮุย เหอเหวินเย่าและคนอื่น ๆ ต่างมีสีหน้าแตกต่างกันออกไป“องค์ชายรอง พวกเราเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับโรงแรมห้าดาวต้าเฉียนได้ทั้งหมดสามสิบแห่ง กิจการดังพลุแตก เรียกได้ว่าเทน้ำเทท่า ไม่ถึงหนึ่งปีพวกเราต้องมีทรัพย์สินเพิ่มเป็นเท่าตัวแน่ขอรับ”ในห้องโถงใหญ่ ชายอายุอานามประมาณสี่สิบชื่อเรียกว่าเหออวิ๋นเหว่ย ดวงหน้ายอแสงแห่งวสันตฤดู สามเดือนมานี้เขายุ่งงว
“ไม่รู้ว่าทำไม ช่วงนี้องค์ชายใหญ่ทำงานลึกลับมาก เห็นชัดว่ามีคนเก่งชี้แนะอยู่”เหอเหวินเย่าพูดอย่างกังวลใจเล็กน้อย “ถ้าเบื้องหลังเป็นคนขององค์ชายใหญ่จริง จะรับมือยากมาก และกลยุทธ์นี้ก็ล้ำลึกมากกว่าเราจริง”“เหอะ ยังไงพี่ใหญ่ก็เป็นคู่ต่อสู้ตัวฉกาจของเรา แถมยังมีตระกูลเริ่นสนับสนุนอีก ช่วงนี้เขานอกจากรู้จักเก็บอารมณ์ ยังจะลึกลับมากขึ้นทุกทีด้วย”ฉินอวิ๋นฮุยดูด้วยใบหน้าเหี้ยมเกรียม “น้องเจ็ดใกล้จะได้ดินแดนกลับคืนมาแล้ว ชื่อเสียงโด่งดัง ยิ่งเห็นพวกเขาได้ดี ใจข้าก็ยิ่งทรมาน ข้าต้องหาทางเติมไฟสักหน่อย ไม่อย่างนั้นชีวิตที่ราบเรียบจะจืดชืดเกินไป”พอเหอเหวินเย่าได้ยินก็ตื่นตัวขึ้นมาทันที แววตาลุ่มลึก “เจ้าคิดจะทำอย่างนี้จริงหรือ? เรื่องนี้ถ้าเริ่มจะส่งผลพวงกับส่วนรวมได้นะ”“น้าสาม พวกเราแค่กระพือไฟ ไม่ได้เข้าร่วม ให้พวกเขาสู้กันเองเฉย ๆ”ฉินอวิ๋นฮุยพูดด้วยใบหน้าย่ามใจเห็นดังนั้นเหอเหวินเย่าจึงไม่ได้พูดอะไรอีก เพราะนี่คือแผนร้าย และยังส่งผลกับส่วนรวม แต่ยังดีที่ถึงสถานการณ์จะหลุดจากการควบคุม พวกเขาก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมาก......“พ่อลูกเขยคนดีของข้า สี่เดือนมานี้พวกเราได้เงินกองเท่าภูเ
ยามนี้ฉินอวิ๋นฟานใบหน้างงงัน เขาไม่มีภาพจำอะไรกับชายหนุ่มตรงหน้า สำหรับ ‘คุณหนูใหญ่เกิดเรื่อง’ ที่เขาพูดยิ่งทำให้ฉินอวิ๋นฟานมึนหนักกว่าเดิม คิดในใจไปว่าคุณหนูบ้านเจ้าคือใคร? เหมือนว่าข้าไม่รู้จักนี่?เห็นฉินอวิ๋นฟานทำอะไรไม่ถูก แต่สถานการณ์วิกฤตมาก เสี่ยวจวี๋รีบอธิบาย “เขาเป็นศิษย์ของช่างใหญ่หลู่เจ้าค่ะ ดูเหมือนว่าหลู่เซียงหลิงจะเกิดเรื่องที่สำนักศึกษาหลวงแล้ว รัชทายาท ท่านรีบไปช่วยคนเถอะ!”“อะไรนะ?!”ฉินอวิ๋นฟานรู้ม่านตาหดเล็ก สมองดังวิ้ง ตอนนี้เขารู้แจ้งแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น มิน่าเสี่ยวจวี๋ถึงได้มากับคนผู้นี้ฉินอวิ๋นฟานสืบเท้าออกไปและถามขึ้นทันที “แล้วนายช่างหลู่หนีเล่า? เขารู้หรือเปล่า?”ชายหนุ่มพลันตอบ “ช่างใหญ่หลู่ไปที่สำนักศึกษาหลวงแล้วขอรับ แต่ดูเหมือนว่าเรื่องราวจะร้ายแรงมาก เพื่อช่วยคน ข้าน้อยจนหนทางจึงได้แต่มาขอร้องรัชทายาทนี่แหละขอรับ!”“บ้าเอ๊ย ใครกล้าแตะต้องหลู่เซียงหลิงแม้เพียงปลายก้อย ข้าจะเอาชีวิตมัน!”ครั้นได้ยินข่าวนี้ ฉินอวิ๋นฟานบันดาลโทสะเดี๋ยวนั้น ไฟโกรธลุกโชน หลู่หนีคือช่างประดิษฐ์ที่สำคัญมากของฉินอวิ๋นฟาน หากไม่มีความช่วยเหลือจากหลู่หนี เทคโนโลยีทั้งหลายของ
“อะไรนะ?! พวกเจ้า พวกเจ้ามันพวกคนเลว ถึงกับทำเรื่องต่ำทรามเช่นนี้ออกมาได้?!”ครั้นได้ยินว่าเป็นยาปลุกกำหนัดฉีอิน หลู่เซียงหลิงลนลานโดยสิ้นเชิงแล้ว นางรู้ฤทธิ์ยานี้ดี มันไม่มียาถอน อีกทั้งยังมีฤทธิ์มาก ตามเวลาที่ผ่านไป ฤทธิ์ยาจะรุนแรงมากขึ้นทุกที จนทำให้คนสูญเสียสติสัมปชัญญะในที่สุดหากมิได้ร่วมรักกับผู้ชายในสองชั่วยาม จะต้องตายเพราะเลือดลมพลุ่งพล่าน ให้หลู่เซียงหลิงคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึง เจ้าพวกบ้ากามพวกนี้ถึงกับไม่มีขอบเขต วางยานางในห้องเรียน?“หึ ๆ น้องเซียงหลิง เจ้าจะโทษพวกเราไม่ได้นะ จะโทษก็ต้องโทษที่เจ้างามนัก ชวนให้หลงใหลนัก พวกเราพี่น้องปรารถนาร่างกายเจ้านานแล้ว เสียดายที่เจ้าไม่รู้จักดีชอบโดยแท้”ตอนนี้เอง ชายอัปลักษณ์คนหนึ่ง ในดวงตาเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์พูดอย่างชั่วร้าย“พวกเจ้า พวกเจ้ามันคนสารเลว! ต่อให้ข้าหลู่เซียงหลิงต้องตายก็จะไม่ให้พวกเจ้ามาแปดเปื้อนมลทิน”หลู่เซียงหลิงยันร่างร้อนรุ่มและสติที่พร่าเลือนของตัวเอง ก่อนจะตะคอกออกไป “ต่อให้กลายเป็นผี ข้าก็จะไม่ปล่อยเดรัจฉานอย่างพวกเจ้า!”นับจากมาสำนักศึกษาหลวง หลู่เซียงหลิงขยันหมั่นเพียร ตรากตรำศึกษา ด้วยชื่อเสียงที่โด่
“ไม่ ไม่ ไม่นะ!”ถูกลบหลู่ต่อหน้าทุกคน หลู่เซียงหลิงแผดเสียงร้องสิ้นหวังเดี๋ยวนั้น แต่นางยิ่งร้อง พวกฉินยวนก็ยิ่งคึก ขณะนี้ฉินยวนเบิกตากว้างทั้งสองข้า ถูกเรือนร่างสมบูรณ์แบบตรงหน้าทำให้ตะลึงงัน สองมือสั่นระริก คว้าเสื้อผ้าส่วนที่เหลือของหลู่เซียงหลิง“พวกเจ้ามันเดรัจฉาน! หยุดนะ!”ตอนนี้เอง จู่ ๆ ก็มีเสียงตวาดดังมาจากนอกประตู ครั้นทุกคนหันหน้าไป เห็นเพียงใบหน้าหลู่หนีเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก สาวเท้าเร็วเข้ามาในห้อง จากนั้นก็คือมู่หรงจิ่นที่เดิมเร็วตามมาทีหลัง“เซียงหลิง!”เห็นใบหน้าลูกสาวตัวเองแดงก่ำ เสื้อผ้าหลุดลุ่ยนอนอยู่บนโต๊ะ หลู่หนีร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจและสิ้นหวัง เขาสาวเท้าเร็วไปทางหลู่เซียงหลิง“หยุดนะ!”ตอนนี้เอง ชายหน้าอัปลักษณ์นำลูกหลานตระกูลสูงศักดิ์สามคนขวางตรงหน้าหลู่หนี ไม่อนุญาตให้หลู่หนีเข้าใกล้หลู่เซียงหลิง“ท่านพ่อ...”เห็นบิดามาถึงทันกาล หลู่เซียงหลิงราวกับคว้าฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้าย ใช้แรงทั้งหมดที่มีตะโกนออกมา“พวกเจ้ามันพวกคนบัดซบ หลีกไปนะ!”หลู่หนีต้องการปกป้องลูกสาว เขาพุ่งตัวไปทางทั้งสี่คนด้วยโทสะไม่สิ้นสุด ทว่าทั้งสี่ร่างกายกำยำ ทั้งยังมีสองคนที
“หือ?”จู่ ๆ ก็มีคนขอร้อง ฉินยวนแววตาเย็นยะเยือก ไฟชั่วร้ายไร้นามมวลหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวใจฉับพลัน เขาหันหน้าไป จังหวะที่สายตาตกอยู่บนตัวของมู่หรงจิ่น ความงามล่มเมือง โฉมหน้าบริสุทธิ์ดุจเทพธิดาลงมาจุติก็มิปานของมู่หรงจิ่นสะท้อนเข้าสู่ม่านตา ทำให้หัวใจของเขารัดแน่นฉับพลัน“แล้วเจ้าเป็นใครอีก?”ฉินยวนที่คิดจะระเบิดโทสะในทีแรกสะกดอารมณ์เดี๋ยวนั้น ถามอย่างนึกสนุกมู่หรงจิ่นเปิดเผยฐานะของฉินอวิ๋นฟาน ทำให้อ๋องน้อยเกรงอยู่บ้าง นางรีบพูด “ข้าคือพระชายารัชทายาทมู่หรงจิ่น เมื่อครู่ได้ยินว่าลูกสาวของช่างใหญ่หลู่ถูกคนรังแกจึงรีบมา”“หา? นาง นางก็คือพระชายารัชทายาท?”“เห็นว่ารัชทายาทเป็นคนเด็ดขาดเต็มสิบส่วน ถ้าล่วงเกินเขา น่ากลัวว่าเราจะไม่มีจุดจบที่ดีนะ”“ก็นั่นนะสิ! คราวนี้เจอเข้ากับตอแล้ว จะทำยังไงดีเนี่ย?!”ทันทีที่มู่หรงจิ่นเปิดเผยฐานะ สามคนที่เหลือเริ่มหวั่นวิตกทันที ในฐานะที่เป็นคุณชายตระกูลสูงศักดิ์ของต้าเฉียน พวกเขาย่อมรู้เรื่องของฉินอวิ๋นฟานประมาณหนึ่งอยู่แล้ว นั่นมันคนสุดโหดคนหนึ่งเลยนะ!เมื่อชายหน้าอัปลักษณ์เห็นดังนี้ นัยน์ตากลิ้งกลอกก่อนจะเอ่ย “แม่ง พวกเจ้าอย่าปอดแหกกันได้ไหม? ร
ตามการพองโตของหัวใจแห่งความชั่วร้าย ฉินยวนเข้าสู่ภาวะคลั่งกับตัวเองโดยสมบูรณ์เขาเชิดมุมปากน้อย ๆ ยิ่งเหิมเกริมไม่กลัวเกรงต่อสิ่งใด เดินไปตรงหน้ามู่หรงจิ่นช้า ๆ แล้วชะโงกหน้าถึงข้าหูนางเบา ๆ ก่อนจะพูดด้วยใบหน้าย่ามใจ “เจ้าไปตอนนี้ยังทันนะ ทันทีที่พวกเราเริ่ม เจ้าคิดจะไปจะไม่มีโอกาสแล้ว”“พะ พะ พวกท่านจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะ!”มู่หรงจิ่นตกใจกับฉินยวนถอยหลังเนือง ๆ ใบหน้าแตกตื่น ยิ่งฉินยวนทำเช่นนี้ นางก็ยิ่งไปไม่ได้ นางจะดูหลู่เซียงหลิงถูกเดรัจฉานฝูงนี้ย่ำยีต่อหน้าต่อตาไม่ได้ ถ้านางไป นางต้องรู้สึกผิดไปทั้งชาติ และจะรู้สึกผิดต่อฉินอวิ๋นฟานด้วย!“อ้อ? เช่นนั้นเจ้าคิดจะร่วมด้วยสินะ?”ฉินยวนใบหน้าชั่วร้าย ยิ้มเจ้าเล่ห์พูดท้าทาย“พะ พวกท่านเดรัจฉานนี่ ช่างเป็นเหมือนปีศาจร้ายแท้ ๆ!”หลู่หนีเห็นดังนั้นจึงส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธ ขนาดมู่หรงจิ่นบอกฐานะก็ยังไม่ได้ผล เห็นชัดว่าคนพวกนี้ถึงขั้นไม่สนอะไรทั้งนั้นเขารีบพูด “พระชายารัชทายาท ท่านรีบไปเสียเถอะ รีบไป จะให้ท่านด่างพร้อยเพราะพวกเราพ่อลูกไม่ได้ ถ้ารัชทายาทรู้เข้า เขาต้องคลั่งแน่”นับจากติดตามฉินอวิ๋นฟาน หลู่หนีก็ค้นพบทิศทางของตัวเองชั
“ปัง!!!”หลู่หนีใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี หนึ่งหมัดชกไปที่ชายร่างกำยำตรงหน้า อีกฝ่ายเหยียดมุมปากเล็กน้อย ฉายรอยยิ้มจาง ๆ เขาไม่เพียงแต่ไม่หลบ กลับกันยังเปิดทรวงอกรับหมัดนี้เองอีกตามเสียงกระแทกทุ้มต่ำ ชายร่างกำยำผู้นั้นนอกจากจะไม่ล้ม ยังยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าหลู่หนี ไม่สะทกสะท้านอะไรทั้งนั้น หลู่หนีมองแววตาไม่ยี่หระของอีกฝ่าย หัวใจคือความสิ้นหวังทั้งหมด“ฮ่า ๆ ๆ ว่าที่ท่านพ่อตาของข้า วันนี้ท่านไม่ได้กินข้าวมาหรือยังไง อาศัยแรงแค่นี้ก็คิดจะทำร้ายข้า? ไร้เดียงสาไปหน่อยแล้ว!”รับกับหมัดไม่เจ็บไม่คันของหลู่หนี ชายร่างกำยำยิ่งเหิมเกริม แหงนหน้าหัวเราะกับฟ้าเสียงดัง“เป็นไปได้ยังไง?”แววตาของหลู่หนีสว่างมืดสลับสับเปลี่ยน เต็มไปด้วยความครั่นคร้าม แม้เขาจะเป็นคนธรรมดา แต่ก็ตีเหล็กหลอมโลหะมานานหลายปี มีกำลังมากกว่าคนทั่วไป ไม่นึกว่าหนึ่งหมัดกับชายตรงหน้าจะเหมือนสะกิด? “จบกัน จบกัน พี่อวิ๋นฟาน ท่านรีบมาเถอะ ขืนไม่มาอีกจะเกิดเรื่องใหญ่จริง ๆ แล้วนะ!”ทันทีที่เห็นภาพนี้ มู่หรงจิ่นความหวังเหลือศูนย์ ภาวนาในใจหวังว่าฉินอวิ๋นฟานจะมาถึงโดยเร็วไม่หยุด มิเช่นนั้นพวกนางคงไม่รอดแน่แล้ว“มีอะไรเป็นไปไ