แชร์

บทที่ 1041

ผู้เขียน: เมิ่งซานเชียน
นอกประตูจวนอ๋อง

เหลียงเทียนจื้อรีบร้อนลงจากหลังม้า และตรงดิ่งเข้าไปโดยไม่สนใจว่าสภาพตอนนี้จะย่ำแย่ขนาดไหน

พ่อบ้านในจวนอ๋องรู้ฐานะของเขาจึงไม่ได้ขวาง

“เสด็จอา! เสด็จอา!”

ยังไม่ทันเข้าไปถึงสวนด้านหลัง เหลียงเทียนจื้อก็เรียกเหลียงจ้านอิงด้วยความร้อนใจ

ก่อนหน้านี้เขาได้ข่าวจากสายเกี่ยวกับเรื่องของฟู่เส้าป่าย และเรื่องเกี่ยวกับการให้ร้ายเหลียงเทียนอี้

ทุกอย่างที่วางแผนเรียบร้อยในแต่เดิมกลับถูกเจ้าบัดซบฉินอวิ๋นฟานทำลายในวันเดียว ความพยายามทั้งหมดเสียเปล่า!

ไม่เพียงแต่ทำให้ฟู่เส้าป่ายที่เป็นขุนนางราชสำนักคนหนึ่งเข้าคุก ยังทำให้แผนที่เขาเตรียมเอาไว้ต้องได้รับผลกระทบด้วย

เช่นนั้นจึงทำให้เพลิงโทสะในใจเหลียงเทียนจื้อโหมไหม้ ยิ่งรู้สึกว่าร่างกายสั่นเทิ้มไม่หยุด

ในใจเกิดความรู้สึกกระวนกระวายจนทำให้เขาไม่สามารถนอนหลับอย่างเป็นสุขในจวนได้ ที่รีบมาแบบไม่หยุดพักหลังจากรู้ข่าวก็เพราะอยากรู้ว่าทางเสด็จอามีแผนการต่อไปหรือไม่

“เสด็จอา!”

ครั้นเหลียงเทียนปรี่เข้าสวนด้านหลังก็เจอเงาร่างของจื้อเหลียงจ้านอิงอยู่ใต้ต้นไม้ดังคาด

เขารีบเข้าไปหา

“เสด็จอา ได้ยินเรื่องที่แผนล่มแล้ว ใต้เท้าฟู่...”

“ไม่ต้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1042

    เหลียงเทียนจื้อเห็นสีหน้ายิ้มแย้มแต่ใจไม่ยิ้มของเหลียงจ้านอิงก็อดกลืนน้ำลายลงคอไม่ได้“เสด็จอา แขกพิเศษท่านนี้คือ...”เพิ่งกล่าวจบก็มีเงาร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาจากลานเรือนร่างกำยำแข็งแรง คลุมหนังสัตย์ตรงบ่า ดูกักขฬะเป็นพิเศษข้างหลังเขายังมีคนติดตามมาไม่น้อย แต่พวกเขาไม่ได้เข้าแต่ หากยืนเฝ้าอยู่ข้างนอกจากการแต่งตัว แวบแรกเหลียงเทียนจื้อยังไม่ทันสังเกต...แต่พออีกฝ่ายอ้าปากพูด ความสงสัยในใจก็ได้รับการยืนยันราวกับฟ้าผ่ากลางแจ้ง เขาเกือบโพล่งปากออกมาแล้ว“ท่านอ๋อง ไม่พบกันนาน ไม่พบกันนานเลยนะ!”อีกฝ่ายเพิ่งเอ่ยปากทักทาย น้ำเสียงแฝงกลิ่นอายป่าเถื่อนเข้มข้นกอปนกับองคาพยพหยาบกระด้างและหนวรเคราที่ไม่ได้รับการตกแต่งนั้นพอพิสูจน์ฐานะของบุคคลนี้ซยงหนู!ชื่อนี้ระเบิดออกมาจากหัวของเหลียงเทียนจื้อ นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม่กล้าขยับ ราวกับกลายเป็นหินไปแล้ว“ท่านแม่ทัพเหมิงเก๋อเอ่อร์ ไม่ได้พบกันนานเลยนะ ระยะนี้สบายดีหรือไม่”เหลียงจ้านอิงต้อนรับอย่างเป็นมิตรทั้งสองต่างโอภาปราศรัย ดูเหมือนสหายไม่ได้พบกันนานจริง ๆแต่สำหรับเหลียงเทียนจื้อ การพบหน้ากันระหว่างสองฝ่ายกลับให้ความรู้สึกแปลประห

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1043

    การเตือนอย่างกะทันหันทำให้ฉินอวิ๋นฟานประหลาดใจเล็กน้อยแต่เมื่อหันไปมองสีหน้าขึงขังของเซี่ยงเส้าเหยียนและอู่จ้านก็ตระหนักว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดาดังนั้นด้วยการคุ้มครองของเซี่ยงเส้าเหยียน ฉินอวิ๋นฟานสาวเท้าผ่านถนนใหญ่และเดินไปทางจุดบางตาคน“เดินตรงต่อไป ให้ข้าได้เจอกับพวกเขาสักหน่อย”เซี่ยงเส้าเหยียนเอ่ยเสียงหนัก มือขวาวางอยู่กับดาบพกตรงเองอย่างไม่รู้ตัวหากคนที่มาด้านหลังมีความเคลื่อนไหวอะไร เขาจะสามารถชักดาบออกมาคุ้มครองฉินอวิ๋นฟานได้ทันที“ได้...”ฉินอวิ๋นฟานไม่ถามมาก มองตรงไปข้างหน้ายามอยู่ในสถานที่ซึ่งมีคนพลุกพล่าน ต่อให้ละแวกนั้นมีอันตรายจริงก็ไม่ลงมือกับเขาง่าย ๆแต่การป้องกันอยู่เช่นนั้นกลับมิใช่ความคิดที่ดียามนี้ เซี่ยงเส้าเหยียนต้องการใช้โอกาสนี้จับตัวอันตรายที่ซ่อนเร้นอยู่ออกมาฟิ้ว...ภายใต้การคุ้มกันของอู่จ้าน ฉินอวิ๋นฟานสาวเท้าเดินตรงไปเรื่อย ๆ ส่วนเซี่ยงเส้าเหยียนที่อยู่ด้านข้างกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่ทราบในตอนนี้เอง จู่ ๆ ก็มีเสียงดังลั่นมาจากบนหลังคาเพล้ง ๆ ๆ...หลังจากเสียงกระเบื้องแตกสองสามแผ่นก็มีเงาร่างสายหนึ่งทะยานขึ้นบนอากาศ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1044

    “รัชทายาท ไม่พบกันนานเลยนะเจ้าคะ”รอยยิ้มประหนึ่งดอกกุหลาบทั้งงดงามและอันตรายนั้น ทำให้ฉินอวิ๋นฟานขนลุกโดยที่ไม่หนาวอู่จ้านและเซี่ยงเส้าเหยียนนิ่งไปเล็กน้อยเหมือนกัน พวกเขายังจำฮัวอวี่ถงได้ชัดเจนแม่นางโอบอ้อมอารีและงดงามในโรงแรมวันนั้น กลับกลายเป็นคนชุดดำ คิดทำร้ายฉินอวิ๋นฟานครั้งแล้วครั้งเล่า!“องครักษ์อู่ ระแวดระวังโดยรอบ ไม่รู้ว่าพวกเขาจะวางกับดักอะไรอีกหรือไม่”เซี่ยงเส้าเหยียนขมวดคิ้วและเอ่ยเสียงหนัก“รับทราบ” อู่จ้านกำกระบี่ยาวในมือแน่น อยู่ข้างกายฉินอวิ๋นฟาน สายตาสอดส่องรอบ ๆ อย่างกลัวจะมีภัยแฝงที่เขามองไม่เห็น“วางใจเถอะเจ้าค่ะ วันนี้มีแต่ข้าน้อยที่มาจับตาดูเท่านั้น ไม่มีคนอื่น”ฮัวอวี่ถงยิ้มขม ปลดผ้าคลุมศีรษะสีดำลงหลังจากสลัดความดำมืดบนตัว ที่ปรากฏคือความงามประดุจบุปผาตูมรอวันเบ่งบานทว่าดวงหน้านั้นกลับซีดขาวเช่นนี้บางทีอาจเพราะบาดเจ็บจากพลังฝ่ามือเมื่อครู่ของเซี่ยงเส้าเหยียน ฮัวอวี่ถงในตอนนี้ยังมีคราบเลือดติดอยู่ตรงมุมปากเล็กน้อย“เงียบนะ!”เซี่ยงเส้าเหยียนเอ่ยเสียงแข็ง มิได้ลงมือยั้งไมตรีเพราะอีกฝ่ายคือหญิงสาว เขาเดินฉับไปข้างหน้าและวางดาบอยู่บนลำคอของฮัวอวี

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1045

    “อาเซี่ยงเจ็ด ปล่อยนางเถอะ”คำพูดของฉินอวิ๋นฟานทำให้ทุกคนในที่นั้นตะลึงเซี่ยงเส้าเหยียนมองไปทางฉินอวิ๋นฟานด้วยความงุนงงก่อนจะเอ่ยปากถาม “รัชทายาท ไม่ได้เด็ดขาดนะ...จะเก็บนางผู้นี้ไม่ได้เด็ดขาด!”นี่คือคนของศัตรู ทั้งยังซุ่มจับตามอง คือระเบิดตั้งเวลาลูกหนึ่งจะเก็บเอาไว้ได้อย่างไร!ทว่าฉินอวิ๋นฟานท่าทีแน่วแน่“อาเจ็ดเซี่ยง...”ครั้นได้ยินน้ำเสียงของฉินอวิ๋นฟานไม่เหมือนพูดเล่น เซี่ยงเส้าเหยียนจึงเคลื่อนดาบใหญ่ออกจากลำคอของฮัวอวี่ถงอย่างคับแค้น“เพราะอะไร?”ฮัวอวี่ถงอึ้งไปอย่างเห็นได้ชัด ไม่นึกว่าตัวเองจะพ้นเคราะห์นี้ไปได้ ซ้ำยังรอดพ้นจากเงื้อมมือของฉินอวิ๋นฟานอีก“สำหรับข้า ความเป็นความตายของเจ้าไร้ซึ่งความหมาย ข้าเก็บเจ้าไว้ก็มิใช่ว่าเจ้าจะติดค้างน้ำใจข้า” ฉินอวิ๋นฟานพูดด้วยสายตาลุ่มลึก “เจ้ากลับไปบอกเหลียงชินอ๋อง เรื่องนี้ข้าฉินอวิ๋นฟานจะไม่รามือแต่เพียงเท่านี้...”“ในเมื่อเขาอยากลงมือ เช่นนั้นก็มาอย่างเปิดเผย ข้ารออยู่ทุกเมื่อ!”ถ้อยคำเชื่อมั่นและน่าเกรงขามเช่นนี้ทำให้ฮัวอวี่ถงเหลือเชื่อบนโลกใบนี้กลับมีคน ‘โง่’ เช่นนี้อยู่?กลับมีคนปล่อยศัตรู แถมยังกล้าส่งสารท้ารบกับผู

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1046

    รอยยิ้มนั้นทำให้คำพูดที่ติดอยู่ตรงคอของอู่จ้านไม่อาจออกจากปากได้อีกเขาเห็นฉินอวิ๋นฟานพลิกสถานการณ์จากการจนมุมได้หลายต่อหลายครั้งแล้วและในช่วงเวลาสำคัญเหล่านั้น ฉินอวิ๋นฟานมักประดับยิ้มแห่งความมั่นใจนั้นอยู่บนใบหน้าร่ำไปทำให้คนอุ่นใจ และเต็มไปด้วยความศรัทธาแห่งชัยชนะ“สรุปแล้ววันนี้ก็กลับกันก่อนเถอะ ข้าต้องวางแผนให้ดี”ฉินอวิ๋นฟานลูบคางพลางจ้องทิศทางที่ฮัวอวี่ถงจากไปเขาอดคิดในหัวไม่ได้คำพูดที่ฮัวอวี่ถงพูดก่อนจากไปนั้นหมายความว่าอย่างไรกันแน่?กำลังเตือนเขาหรือ?ยังไม่ทันเริ่มก็บอกว่าเขาแพ้แล้ว? แถมยังถึงขั้นที่ต้องเจอกับวิกฤต?เรื่องนี้คลุมเครือและเต็มไปด้วยปริศนามากขึ้นแล้วอันตรายที่ซุ่มซ่อนอยู่ราวกับกำลังกางเขี้ยวเล็บไม่หยุด รอรุกฆาตเขาแต่...ยิ่งในช่วงเวลานี้ หัวใจของฉินอวิ๋นฟานก็ยิ่งโครมครามความอยากรู้และความอยากเอาชนะอันรุนแรงทำให้เขาตั้งตารอกับเรื่องนี้มากกว่าเดิม“ดูท่าจะมีตัวแปรเพิ่มเข้ามาในแผนการมากขึ้น”แต่ก็น่าสนุกขึ้นทุกทีเดิมยังนึกว่าเป็นแผนการเอาชนะที่ใช้กับการต่อสู้ระหว่างเสด็จน้าใหญ่กับเสด็จน้าสามเท่านั้น ยามนี้วังวนนี้กลับลามมาถึงข้างตัวเขา

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1047

    เช้าวันต่อมาแสงอาทิตย์เฉิดฉายเข้าท้องพระโรงเหลืองทองอร่าม สาดส่องทั่วผืนแผ่นดินในท้องพระโรงขึงขัง ขุนนางบุ๋นบู๊ต่างหันไปกระซุบกระซิบกัน เหมือนกำลังสนใจกับข่าวลือที่เกิดขึ้นในระยะนี้เช่นกัน เรื่องของฟู่เส้าป่ายก็แพร่ในราชสำนักเช้านี้ด้วย...อย่างไรฟู่เส้าป่ายก็เป็นคนของเหลียงชินอ๋อง พวกเขาจึงไม่กล้าพูดอะไรมาก ได้แต่ถกเรื่องที่ฉินอวิ๋นฟาน“ได้ยินว่ารัชทายาทต้าเฉียนมาถึงต้าเหลียงแล้ว ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า?”“ไม่กระมัง รัชทายาทต้าเฉียนจะมาต้าเหลียงทำไม?”“ไม่เห็นต้องคิดเลย ก็ต้องมาหาฮ่องเต้ต้าเหลียงนะสิ อย่างไรรัชทายาทต้าเฉียนก็...”เสียงของพวกเขาเบาลงเรื่อย ๆ ราวกับกำลังพูดถึงเรื่องอ่อนไหว“แค่ก ๆ!”ท่ามกลางฝูงชนก็ไม่รู้ว่าใครไอขึ้นมา เมื่อทักคนเงยหน้าก็เห็นเหลียงเทียนอี้มาถึงข้างเก้าอี้มังกรแล้วเนื่องจากฮ่องเต้ต้าเหลียงประชวร ไม่ได้ดำเนินการประชุมเช้ามานานระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้นเหลียงเทียนอี้จึงเป็นตัวแทนแทบทุกครั้งแน่นอน ในฐานะที่เป็นรัชทายาทผู้ว่าราชการแผ่นดิน นี่ก็คือเรื่องที่เหลียงเทียนอี้สมควรทำอยู่แล้ววันนี้เช่นวันปกติ ขุนนางท้องที่ทั้งหลายรายงานสถานการณ์เรื่องจำพ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1048

    ราวกับคำพูดง่าย ๆ ไม่กี่คำก็สามารถสลายบรรยากาศตึงเครียดในแต่เดิมได้นี่กลับทำให้เหลียงเทียนอี้แอบโล่งอกระยะนี้เกิดเรื่องมากมายเหลือเกินแม้คดีของเฉินเหมี่ยนจะจบลงไปแล้ว ทว่าในใจของเขายังพอรู้ว่าคนก่อเรื่องอยู่ข้างหลังคือใครกันแน่เพียงแต่ฟู่เส้าป่ายไม่ได้ซัดทอด และเหลียงจ้านอิงก็ไม่ออกมายอมรับด้วยตัวเอง ดังนั้นจึงจบคดีไปทั้งอย่างนั้นแต่...ศูนย์กลางของเรื่องทั้งหมดยังพัวพันกับเรื่องหนึ่งบวกกับการปรากฏตัวของฉินอวิ๋นฟาน หากฝ่ายเหลียงจ้านอิงคิดจะทำอะไร เขาไม่กล้ารับประกันเลยจริง ๆ ว่าตัวเองจะสามารถรับได้หรือไม่เวลานี้ได้แต่พยายามประวิงเวลาอย่างสุดความสามารถ...ทว่าที่เหลียงเทียนอี้ไม่รู้คือ แผนร้ายที่ใหญ่ยิ่งกว่ากำลังก่อตัวอยู่ข้างหลังแล้ว หนามแหลมจ่อประชิดเขาทีละน้อย......ตลอดช่วงเช้า ฉินอวิ๋นฟานขลุกอยู่แต่ในห้อง ไม่ออกไปข้างนอกแม้อู่จ้านและเซี่ยงเส้าเหยียนจะเข้ามาถาม แต่เขาก็ไม่ปริปากเพียงเพราะเขามักรู้สึกว่าเรื่องราวแปร่ง ๆหลายวันหลังจากฟู่เส้าป่ายได้รับโทษ ช่วงนี้จะสงบเกินไปแล้ว ไร้ลมไร้คลื่น...แต่ก็ในเวลานี้นี่เอง เขาจำเป็นต้องรอบคอบมากกว่าเดิมจึงจะดี จะประมาทไ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1049

    เสียงเอ็ดอึง อารมณ์กระวนกระวายทุกคนมีสีหน้าที่แทบจะเหมือนกัน...ตั้งแต่เหลียงจ้านอิงบอกเรื่องของซยงหนู ท้องพระโรงก็ตกอยู่ในความเงียบงันในช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่มีใครกล้าส่งเสียง ต่างมองเหลียงเทียนอี้ด้วยสายตาประหลาดทุกคนกำลังรอให้เหลียงเทียนอี้ดำเนินการครู่หนึ่งแล้ว เหลียงเทียนอี้จึงเอ่ยปากช้า ๆ “เสด็จอา แม่ทัพใหญ่ของซยงหนูผู้นี้มาต้าเหลียงเราด้วยธุระอันใดหรือ?”เขาไม่ได้เอ่ยปากถามว่าเหตุใดเหลียงจ้านอิงจึงมีความสัมพันธ์กับซยงหนูอย่างรู้สถานการณ์มาก...ราวกับเป็นหัวข้อสนทนาต้องห้ามอย่างไรอย่างนั้น ทันทีที่กล่าวออกมา จะต้องเกิดผลลัพธ์ที่ยุ่งยากกว่าเดิม“เหอะ ๆ จะว่าไปข้าก็รู้สึกน่าสนใจ”เหลียงจ้านอิงกล่าวอย่างเป็นธรรมชาติ “ช่วงก่อนบุตรชายคนโตของแม่ทัพเหมิงเก๋อเอ่อร์แห่งซยงหนูสมรสกับหญิงสาวผู้เลอโฉมท่านหนึ่ง...”“ได้ยินว่าองค์หญิงก็เคยอยู่ที่ต้าเหลียงระยะหนึ่งเหมือนกัน ดังนั้นเหมิงเก๋อเอ่อร์จึงคิดจะใช้โอกาสนี้มาชื่นชมประเพณีท้องถิ่นของต้าเหลียงสักหน่อย พร้อมพาคู่บ่าวสาวที่เพิ่งสมรสได้ไม่นานกลับมาดูทางนี้ด้วย”“ดังนั้นพวกเขาจึงจะใช้โอกาสนี้เข้าวังเยี่ยมเสด็จพี่”ที่เหลียงจ้านอิงกล

บทล่าสุด

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1062

    ในที่สุดเหมิงฉาก็รับไม่ไหว ร้องตะโกนคำที่แทบจะเป็นความอัปยศนั้นการแข่งขันทางบู๊นี้ก็ปิดฉากลงท่ามกลางความตกตะลึงพรึงเพริดของทุกคน...เรื่องหักเหจากการคาดหมายของทุกคนเหลียงจ้านอิงและเหลียงเทียนจื้อต่างคิดไม่ถึงว่าเหลียงเทียนอี้จะล้วงปืนสั้นออกมาพลิกสถานการณ์ในการแข่งขันด้านบู๊นี้กระทั่งว่าเหลียงเทียนจื้อไม่มีโอกาสจะได้ออกโรงเลย...เช่นละครอย่างไรอย่างนั้น เนื่องจากเหมิงฉากลัวสุดขีดจึงยกมือยอมแพ้ดังนั้นเหลียงเทียนอี้จึงคว้าชัยชนะการแข่งขันรอบนี้ได้อย่างง่ายดายโดยไม่เปลืองแรงภาพมหัศจรรย์เกิดให้แบบไม่มีการเปลี่ยนแปลงลุ้นระทึกและไม่มีเลือดร้อนพลุ่งพล่านที่ใครคาดหวัง!ถึงขั้นว่าลวงตามากแต่ผลลัพธ์เป็นของจริงแท้แน่นอน เหลียงเทียนอี้ชนะแล้ว......“ดูท่าครั้งนี้ฟานเอ๋อร์จะช่วยข้าได้มากอีกแล้ว”เหลียงเทียนอี้กลับมาถึงด้านในก็คืนปืนสั้นให้ฉินอวิ๋นฟานและพรูลมหนัก ๆ“เหอะ ๆ เสด็จน้าชมเกินไปแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของท่านทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับข้าสักหน่อย”ฉินอวิ๋นฟานยักไหล่ มิได้กล่าวอะไรอีกถ้าจะบอกว่าเขาทำอะไรเพื่อเหลียงเทียนอี้ นั่นก็แค่บอกเขาว่าความจริงการแข่งขันนี้สามาร

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1061

    การกระทำของเหลียงเทียนอี้ทำให้ทุกคนในนั้นตกตะลึงแม้แต่เหลียงจ้านอิงที่อยู่บนปะรำก็ยังหยุดการดื่มน้ำชาไม่ได้ มองไปด้วยสีหน้าประหลาดใจ“เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?”เหลียงเทียนจื้อมองเหลียงเทียนอี้ที่ปราศจากเครื่องป้องกันใด ๆ ด้านข้าง ใบหน้าแปลกใจนี่คือการแข่งขันบู๊นะ คือสถานที่ตีรันฟันแทง ถ้าไม่ระวังอาจต้องคมศาสตราได้จริง ๆ ศีรษะย้ายที่อยู่ หากไม่ใช่เพราะมั่นใจกับฝีมือของตัวเองมาก กอปรกับวางแผนร่วมกับทางซยงหนูดีแล้วเขาคงต้องสวมชุดเกราะหนักมารับมือกับการแข่งขันด้านบู๊วันนี้เหมือนกันทว่าการกระทำเช่นนี้ของเหลียงเทียนอี้ต่างจากการรนหาที่ตายอย่างไร?ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแปลก เหลียงเทียนจื้อหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย...ทั้งที่เขาควรดีใจกับเวลานี้ ถ้าเหลียงเทียนอี้เกิดอุบัติเหตุในการแข่งขันรอบนี้ เช่นนั้นบัลลังก์ต้องเป็นของเขาแน่แล้วแต่ใจกับกระวนกระวาย อย่างไรก็ไม่เป็นสุข“หรือว่าเขาแอบวางแผนอะไร?”ทันใดนั้นเหมิงฉาเริ่มบุกโจมตีก่อนแล้วร่างสูงใหญ่นั้นหวดขวานใหญ่หนักร้อยชั่งพลางเข้าใกล้เหลียงเทียนอี้อย่างต่อเนื่องภายใต้แสงสุริยา คมมีดนั้นน่ากลัวเช่นนี้ ราวกับแค่ถากเถือเบา ๆ ก็เฉือนศีรษ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1060

    “ข้าเอง!”ทันใดนั้นเหลียงเทียนอี้ก็ก้าวออกมาช้า ๆโง่อย่างที่คิด...เหลียงเทียนจื้อยืนยิ้มเยาะอยู่ในใจข้างหลังเขารู้นิสัยของพี่ชายดี และรู้ว่าเหลียงเทียนอี้เป็นคนดื้อรั้นมากเมื่อเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ก็มักจะดาหน้าออกไปทันทีแม้เผชิญหน้ากับพันขุนศึกหมื่นอาชาก็ยังปราศจากความกลัวเกรง พลีตนจนตัวตาย...แต่พฤติกรรมวู่วามเช่นนี้ กลัวแต่ต้องจบอย่างอนาถในท้ายที่สุด“ฮ่า ๆ ๆ รัชทายาทกล้าหาญดังคาด!” เหมิงฉาหัวเราะเสียงดัง “ปกติยังนึกว่าท่านเป็นแต่สะบัดพู่กันขีดเขียน วันนี้ข้าอยากลองดูสิว่าฝีมือดาบกระบี่ของท่านจะล้ำลึกหรือไม่?”เพิ่งกล่าวจบ เหมิงฉาก็กวัดแกว่งขวานใหญ่พลางเดินประชิดไปทางเหลียงเทียนอี้ทีละก้าวรูปร่างใหญ่นั้น ร่างกายแข็งแรงนั้น แค่ยืนอยู่ก็สร้างแรงกดดันที่มองไม่เห็นแล้วทำให้หลาย ๆ คนเห็นแล้วอดเกิดใจกลัวอย่างหนึ่งขึ้นมาไม่ได้“อุ๊ย ท่านพี่จะเอาชนะสัตว์ประหลาดตัวนี้ยังไง?”เหลียงจื่อฝูที่อยู่บนปะรำหน้าทุกข์ร้อน สองมือบีบผ้าเช็ดหน้าแน่น สีหน้าซีดไปเล็กน้อยนางจ้องเหลียงเทียนอี้กลางลานฝึกซ้อม“ท่านพี่ไม่มีความสามารถด้านนี้เท่าไร ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหมิงฉา!”ผู้เป็นน้องสาว

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1059

    เหลียงเทียนอี้ขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าราบเรียบ มองอารมณ์ไม่ออกแต่ในใจเขารู้ดี การต่อสู้ครั้งนี้ได้เปิดฉากอย่างเป็นทางการตั้งแต่เหมิงฉาเริ่มพูดแล้วนี่คือการหยามหน้า คือการหยามเหยียดอย่างชัดเจนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย“เป็นยังไง? องค์ชายสาม?”เหมิงฉาเมินเหลียงเทียนอี้ที่อยู่อีกทางหนึ่ง แล้วใช้สายตาท้าทายมองไปทางเหลียงเทียนจื้อ ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น “ได้ยินว่าฝีมือการใช้ดาบกระบี่ขององค์ชายสามค่อนข้างร้ายกาจ วันนี้ข้าขอท้าทายสักหน่อยเถิด”“มิเป็นไร” เหลียงเทียนจื้อฉีกยิ้ม ใบหน้าเปื้อนไปด้วยความกระหยิ่มใจจากนั้นก็ชักกระบี่ล้ำค่าคู่กายออกมาจากตรงเอวช้า ๆการต่อสู้ครั้งนี้ คือของเขาเท่านั้น!และเป็นเขาได้เท่านั้น!เขาต้องการให้ทุกคนรู้ว่าเขาเหลียงเทียนจื้อต่างหากที่เป็นผู้ชนะในท้ายที่สุดคนนั้น คือคนที่สามารถเอาชนะซยงหนูได้อย่างแท้จริง!......“ดูท่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามแผนนะ”เหลียงจ้านอิงดื่มน้ำชาสบายใจเฉิบอยู่บนปะรำมองผลสะท้อนกลับอย่างอบอุ่นของเหล่าผู้ชม จิตใจยิ่งฮึกเหิมตื่นเต้นไม่พูดไม่ได้เลย ถ้อยคำนั้นของเหมิงฉาทำให้เกิดผลดีเยี่ยม สามารถชักจูงอารมณ์ของทุกคนได้ในพริบตาเขาเช

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1058

    ตกลงไว้แต่แรกว่าเป็นการแข่งขันรูปแบบปิด และไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร นอกจากราชวงศ์จะมิมีผู้ใดล่วงรู้ทว่าตอนนี้กลับแข่งขันในลานกว้างต่อหน้าธารกำนัล?หากท่านพี่แพ้มิต้องเป็นที่หัวเราะไปทั่วหรือ?“นี่ก็คือผลลัพธ์ที่ทางเหลียงชินอ๋องต้องการกระมัง?”ฉินอวิ๋นฟานนั่งลงด้านข้าง ยิ้มพูดอย่างเฉยชา “ในฐานะที่เป็นละครฉายซ้ำของวันนี้ พวกเขาแค่ต้องการให้ทุกคนได้เห็นความประดักประเดิดของเสด็จน้าเท่านั้น”แต่แพ้จากการต่อสู้เช่นนั้นผลลัพธ์ต้องเทข้างแน่โอรสสวรรค์ของต้าเหลียงที่กล่าวขานกลับแพ้ให้กับคนป่าเถื่อน ทั้งความสามารถยังมิสู้องค์ชายสามเหลียงเทียนจื้อขอเพียงมีการพูดประเภทนี้ต่อไป ไม่นานอัตราการสนับสนุนเหลียงเทียนจื้อก็จะพุ่งสูงลูกไม้พรรค์นี้ช่างโหดเหี้ยมนัก“น่ารังเกียจจริง ๆ...” คิ้วงามเหลียงจื่อฝูย่นยู่เล็กน้อย อดกระตุกมุมปากไม่ได้ “ไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะใช้วิธีการต่ำช้าเช่นนี้”“เมื่อวานท่านพี่ชนะการแข่งขันด้านบุ๋นกับซยงหนูในท้องพระโรง พวกเขาไม่เห็นจะพูดกันเลย เลวทรามจริง ๆ!”ฉินอวิ๋นฟานหัวเราะอย่างไม่ออกความเห็นเขากลับไม่ใส่ใจว่าเมื่อวานจะชนะหรือแพ้ วันนี้ต่างหากที่เป็นส่วนสำค

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1057

    สำหรับเหลียงเทียนอี้ การแข่งขันในวันนี้ค่อนข้างน่าตกใจแต่ยังดีที่สุดท้ายเขาสามารถคลี่คลายได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้พวกซยงหนูหน้าบึ้งตึง โจมตีจนพวกเขารับมือไม่ทันดูท่าปกติว่างเว้นจากการงานอ่านหนังสือให้มากจะมีประโยชน์...หลังประชุมเช้า เหลียงเทียนอี้ก็อดรนทนไม่ไหวบอกข่าวดีกับฉินอวิ๋นฟาน อยากแบ่งปันความสุขและความเปรมปรีดิ์ของตนแต่พอได้ยินฉินอวิ๋นฟานตอบกลับ เขาจึงตระหนักว่าเรื่องราวไม่ได้เรียบง่ายธรรมดาอย่างที่เขาคิดอย่างนั้น“การแข่งขันทางบู๊ในวันพรุ่งนี้จึงจะเป็นส่วนสำคัญอย่างแท้จริง”คำพูดราบเรียบประโยคหนึ่งของฉินอวิ๋นฟานทำให้ความยินดีปรีดาของเหลียงเทียนอี้ในแต่เดิมสูญสิ้น สีหน้าอึมครึมมากขึ้นเรื่อย ๆ“ข้าย่อมรู้ดี...แต่ปกติ คนที่จะชนะในการแข่งขันทางบู๊คงจะเป็นน้องสาม”เกี่ยวกับจุดนี้แทบไม่มีอะไรให้ลุ้นเพราะเหลียงเทียนจื้อร่ำเรียนกับเหลียงจ้านอิงแต่เล็ก อีกทั้งยังเคยเข้าสนามรบฟาดฟันกับศัตรู ด้านประสบการณ์การรบ จึงมีความคล่องมากกว่าเป็นธรรมดาเช่นนี้ หากคิดจะชิงคะแนนหนึ่งมาจากมือของเหลียงเทียนจื้อ คาดว่าต้องยากเป็นพิเศษเมื่อเห็นเหลียงเทียนอี้มีท่าทางปราศจากใจฮึดสู้ ฉินอวิ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1056

    “พันทุบหมื่นเจาะจึงได้แผ่นดิน ไฟโหมเผาไหม้เป็นอาจิณ ร่างแหลกกายเหลวมิหวั่น คงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ในโลกา”ฝุ่นหินหนึ่งบททำให้หลิ่วเหวินเซี่ยมั่นใจมากขึ้นไม่น้อยครั้งนี้เขาไม่ออมมืออีก ทั้งยังท่องออกมาจนจบ ไม่เปิดโอกาสใด ๆ ให้กับเหลียงเทียนอี้เช่นเดียวกัน เขาทำนอกเหนือแผนเดิม ไม่คิดสนใจความรู้สึกของเหลียงเทียนจื้ออีก“นี่ นี่มันกลอนอะไร?”เหลียงเทียนจื้อที่อยู่ด้านหลังเหงื่อตก ในหัวถึงขั้นว่าไม่มีความทรงจำอะไรเกี่ยวกับกลอนบทนี้แน่นอน ด้วยความทึ่มทื่อของเขาจะต่อกลอนได้อย่างไร ได้แต่เกาหลังศีรษะยิก ๆทว่าเหลียงเทียนอี้ยังใจเย็นเหมือนเดิม เพียงครู่เดียวก็ตอบ“หวงคะนึงความทุกข์เข็ญในการสอบ บัดนี้ไฟสงครามสงบผ่านพ้นสี่ปี”“บ้างเมืองไหวเอนดังกิ่งหลิว ใครเล่ามิใช่ผิวน้ำฝนซัดสาด”“หวงข่งทานปราชัยพรั่นพรึงถึงวันนี้ หลิงติงหยางอ้างว้างถอนหายใจ”“นับแต่โบราณใครบ้างมิดับสูญ เหลือใจรักชาติในพงศาวดาร”ครั้นกล่าวออกมาก็ได้รีบเสียงปรบมือดังสนั่นขุนนางบุ๋นบู๊ที่ชมละครฉากเด็ดในแต่เดิม ยามนี้ยอมสยบกับความสามารถทางวรรณกรรมของเหลียงเทียนอี้แล้วไม่ว่าจะเป็นกลอนในสมัยใด เหลียงเทียนอี้ก็เหมือน

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1055

    ชั่วขณะ ท้องพระโรงเงียบกริบ สายตาของทุกคนรวมศูนย์อยู่กับตัวของเหลียงเทียนอี้แทบทั้งหมดในดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความยินดีหลังจากหลิ่วเหวินเซี่ยร่ายกลอนท่อนแรกออกมา เหลียงเทียนอี้กลับสามารถตอบสนองทันควันพร้อมต่อท่อนหลังความเร็วเช่นนี้เรียกว่าเร็วยิ่ง!“อวิ๋นเฉ่าสาทรฤดูมีเขียวแห่งวสันต์ของกวีราชวงศ์ซ่ง คือยอดบทกวีโดยแท้!”เหลียงเทียนอี้พยักหน้าอย่างสง่างาม ใบหน้าประดับรอยยิ้มมั่นใจงานนี้ทำให้เหลียงเทียนจื้อที่อยู่ข้างล่างหน้าตึงฉับพลันเหลียงจ้านอิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยิ่งหนักกว่า สายตาที่มองมาราวกับมีไฟพุ่งออกมาได้“บ้าเอ๊ย...ถูกชิงตัดหน้าไปก่อน!”เหลียงเทียนจื้อกัดฟันกรอด ในใจกรุ่นโกรธไม่หยุดทั้งที่เขาทำการบ้านมาล่วงหน้า ไม่ว่าหลิ่วเหวินเซี่ยจะท่องกลอนบทใดเขาก็เตรียมเอาไว้หมดแล้วแต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขากลับเร็วสู้เหลียงเทียนอี้ไม่ได้!และไม่รู้ว่าตัวเองโง่เขลาหรือเหลียงเทียนอี้เก่งจริงกันแน่!“รัชทายาททรงภูมิแท้ ข้าน้อยเลื่อมใส!”หลิ่วเหวินเซี่ยพยักหน้าด้วยสีหน้าคงเดิมทว่าในใจกลับไม่พอใจเล็กน้อยแล้วคิดไม่ถึงว่าเหลียงเทียนอี้ผู้นี้จะมีฝีมือ เขาจงใจเลือกบทกวี

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1054

    การกระทำเช่นนี้คือการแสดงความยโสหยิ่งผยองของซยงหนูอย่างมิต้องสงสัย“เหมิงฉา คารวะรัชทายาท”“หลิ่วเหวินเซี่ย คารวะรัชทายาท”คนอื่น ๆ ก็ทักทายตามด้วยเหมือนกัน เมื่อนั้นเหลียงเทียนอี้จึงรู้ฐานะของพวกเขาดูแล้วหนึ่งคนในนั้นก็คือบุตรชายของเหมิงเก๋อเอ่อร์ หรือก็คือคนที่มาท้าทายเขาในครั้งนี้อย่างที่เหลียงจ้านอิงบอก การมาครั้งนี้ของเหมิงเก๋อเอ่อร์ก็เพื่อหยั่งเชิงเขาโดยอ้างเหตุผลเยี่ยมเยือนฮ่องเต้ต้าเหลียง ดังนั้นเรื่องที่เริ่มสนทนาในท้องพระโรงจึงเกี่ยวกับสุขภาพของฮ่องเต้ต้าเหลียงแทบจะทั้งหมดทว่าทุกคนในที่นั้นต่างรู้ดี จุดประสงค์ของผู้นิยมสุรามิได้อยู่ที่สุรานี่อย่างไร ครั้นเปลี่ยนเรื่อง เหมิงเก๋อเอ่อร์ก็กล่าวถึงการแข่งขันเลย“ได้ยินว่ารัชทายาทและองค์ชายสามเก่งทั้งบุ๋นแล้วบู๊มานาน คืออัจฉริยะของต้าเหลียง การมาเยือนต้าเหลียงครั้งนี้ นอกจากจะเยี่ยมฮ่องเต้ต้าเหลียงสหายเก่าท่านนี้ ก็อยากให้บุตรชายได้ประมือกับรัชทายาทและองค์ชายสักหน่อย”เหมิงเก๋อเอ่อร์สีหน้าขึงขัง ในที่สุดก็เข้าประเด็นชั่วขณะ ทุกคนในท้องพระโรงหัวใจจะหลุดออกมาอยู่แล้ว ต่างสังเกตสีหน้าเหลียงเทียนอี้อย่างแนบเนียนทว่าเ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status