Share

บทที่ 899

Author: ไห่ตงชิง
แม้แต่ซานเป่าเองยังรู้สึกว่า ท่าทีขององค์รัชทายาทในวันนี้ค่อนข้างกดดันและคุกคามเกินไป

แต่พระสงฆ์ผู้เฒ่าหลังจากที่แสดงความโกรธไปชั่วครู่ กลับสงบนิ่งราวกับไม่รู้สึกอะไรอีก เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม “องค์ชายทรงเป็นผู้ที่ผู้คนคาดหวังและยอมรับโดยทั่ว พุทธศาสนาเพียงขอทางรอด ไม่ได้หวังเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอำนาจทางโลก ขอให้องค์ชายทรงเมตตา”

ดวงตาของหลี่เฉินหรี่ลงเล็กน้อย

แม้ว่าเขาจะไม่มีความชอบต่อศาสนาใดๆ แต่เขาไม่เคยปฏิเสธที่จะใช้ประโยชน์จากทุกอย่างที่สามารถนำมาสนับสนุนการปกครองของเขาได้

ยิ่งไปกว่านั้น จ้าวเสวียนจียังไม่ได้ถูกกำจัด บรรดาอ๋องต่างแคว้นยังคงจับตาดูอยู่ และการควบคุมจักรวรรดิต้าฉินของเขายังไม่ถึงจุดที่สามารถวางใจได้ การสนับสนุนจากพุทธศาสนาอาจเป็นกองกำลังลับที่ช่วยพลิกสถานการณ์ได้

และถึงอย่างไร เขาก็ไม่คิดที่จะผลักพวกพระไปเข้ากับฝ่ายศัตรู

"ที่นี่ไม่เหมาะที่จะพูดเรื่องนี้"

หลี่เฉินหันไปสั่งซานเป่า "จัดหาที่ที่เงียบสงบสักแห่ง"

ซานเป่ารับคำสั่งและรีบไปดำเนินการ

สำหรับซานเป่าแล้ว การหาที่เงียบสงบใกล้ๆ ไม่ใช่เรื่องยาก

เพียงเวลาไม่กี่อึดใจ เขาก็กลับมาพร้อมสถานที่เรียบร้อย

เขาเลื
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
CS
การจัดฟอรั่มธรรมะ นี่ถึงกับมอง…นิยายแปลจีน แน่นะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 900

    หลี่เฉินยกถ้วยชาขึ้นจิบอีกครั้ง ก่อนจะวางลงและพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “กฎหมายข้อนี้ แม้จะมีถ้อยคำเพียงไม่กี่ร้อยคำ แต่ก็เหมือนกับคาถาที่รัดคอไว้แน่น พุทธและเต๋าต่างไม่สามารถกลับไปสู่ยุคเฟื่องฟูเช่นราชวงศ์ก่อนหน้านี้ได้ ท่านอาจารย์ที่มาในวันนี้ ก็เพื่อขอให้ข้าเปิดทางให้พวกเจ้าใช่หรือไม่?”พระสงฆ์ตอบตรงไปตรงมา“ใช่”หลี่เฉินยิ้มบาง “ข้าชอบความตรงไปตรงมาของท่าน แต่ท่านคิดว่าข้าจะยอมเปลี่ยนกฎที่บรรพชนตั้งไว้เพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำหรือ?”“จะบอกให้รู้ไว้ ข้าคิดว่ากฎหมายข้อนี้เป็นกฎหมายที่ยอดเยี่ยม เป็นผลงานชิ้นเอกที่สะท้อนถึงความเฉลียวฉลาดและวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของบรรพชน มันช่วยป้องกันปัญหานับไม่ถ้วนที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง และท่านอยากให้ข้าทำลายมันง่ายๆ อย่างนั้นหรือ?”พระสงฆ์ยังคงสงบนิ่งและพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “บรรพชนของพวกเราก็พยายามทำให้พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองเช่นกัน แต่ตลอดกว่า 360 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จ นั่นแสดงให้เห็นถึงความยากลำบากของมัน”“องค์ชายเป็นผู้มีปัญญา ย่อมไม่อาจถูกหลอกลวงหรือถูกชักจูง ข้าจึงไม่คิดจะใช้เล่ห์กลกับท่าน ข้ามาเพียงเพื่อขอร้อง ให้ท่านช่วยเปิ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 901

    หลี่เฉินวางถ้วยชาลง มองพระเฒ่าฝั่งตรงข้ามพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ผู้ที่บ่อนทำลายบ้านเมือง ไม่เคยเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นได้ในวันสองวัน หรือแม้กระทั่งในรุ่นเดียว บางครั้งจุดเริ่มต้นของเรื่องนั้นอาจมาจากความตั้งใจที่ดี แต่เมื่อเป็นการปกครองโดยมนุษย์ ความผิดพลาดในแนวคิดของผู้สืบทอดย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้”“ปฐมจักรพรรดิแห่งราชวงศ์นี้ ได้ทรงบัญญัติกฎหมายเพื่อควบคุมศาสนาทั่วหล้า ในฐานะทายาทรุ่นหลัง ย่อมไม่มีทางเปลี่ยนแปลงแนวทางนี้ได้โดยง่าย”พระเฒ่าขมวดคิ้วเล็กน้อยเขาสัมผัสได้ถึงความยากลำบากของสิ่งที่ตนกำลังจะทำ จากท่าทีของหลี่เฉินแต่เมื่อคิดถึงความเสื่อมถอยของพุทธศาสนาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พระเฒ่าก็มีบางคำที่ต้องเอ่ย และบางสิ่งที่ต้องลงมือทำเขาถอนหายใจเบาๆ ก่อนกล่าวว่า “องค์ชาย ในเมื่อท่านยอมเปิดโอกาสพูดคุยกับอาตมา แสดงว่ายังมีทางอื่นอีก”หลี่เฉินหัวเราะเบาๆ ก่อนกล่าวว่า “แน่นอนว่าย่อมมีทาง”“ข้าขอถามท่านอาจารย์ว่า ที่ท่านว่ามานั้นเกี่ยวข้องกับเส้าหลินฝ่ายใต้หรือเส้าหลินฝ่ายเหนือ?”พุทธศาสนาในจักรวรรดิต้าฉิน โดยมีเส้าหลินเป็นศูนย์กลาง แต่เส้าหลินนั้นแยกออกเป็นสองฝ่าย คือเส้

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 902

    "นอกจากนี้ หากชายหญิงผู้มีศรัทธาแรงกล้าประสงค์จะบวช ทางการก็จะไม่ขัดขวาง""และสุดท้าย เส้าหลินสามารถเป็นตัวแทนราชสำนักในการควบคุมบรรดาสำนักในยุทธภพได้"ทันทีที่คำพูดสุดท้ายหลุดจากปาก สีหน้าของเจี้ยว่างที่ดูสงบไม่สะทกสะท้านมาตลอดก็พลันเปลี่ยนไป เขาเงยหน้ามองหลี่เฉินทันทีการตอบสนองของเจี้ยว่างนั้น หลี่เฉินล้วนคาดการณ์ไว้แล้ว เขาไม่กังวลเลยว่าเจี้ยว่างจะไม่สนใจข้อเสนอการได้เป็นผู้นำในยุทธภพเป็นสิ่งที่บรรดาสำนักใหญ่ต่างใฝ่ฝันและแย่งชิงกันมาหลายร้อยปีแม้เส้าหลินจะเป็นสำนักที่มีบารมีสูงส่งในหมู่สำนักต่างๆ แต่หากประกาศตัวเองว่าเป็นอันดับหนึ่งในยุทธภพ คงถูกบรรดาสำนักอื่นๆ รุมประณามสำนักในยุทธภพล้วนมีประวัติยาวนานเป็นร้อยปี ไม่มีใครยอมรับว่าเส้าหลินเหนือกว่าตนแต่หากราชสำนักมอบตำแหน่งที่มีการรับรองอย่างเป็นทางการให้เส้าหลินในการควบคุมยุทธภพ แม้จะถูกหัวเราะเยาะ แต่ก็คงเป็นเพียงพวกที่อิจฉาเท่านั้นยิ่งไปกว่านั้น สำหรับเส้าหลิน การมีตำแหน่งอย่างเป็นทางการจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรับศิษย์และผู้ศรัทธาใหม่ๆการสืบทอดและการบำรุงศาสนจักร เป็นสิ่งที่เส้าหลินต้องการมากที่สุดในตอนนี้ดังนั้น ข้อ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1

    จักรวรรดิต้าฉิน ห้องบรรทมในตำหนักบูรพาขององค์รัชทายาท“ฝ่าบาท หม่อมฉันมีไฝที่หน้าอก ท่านอยากดูไหม?”หลี่เฉินลืมตาโพลงขึ้นมา และหอบหายใจอย่างหนักราวกับปลาขาดน้ำ เขาจ้องมองเสาแกะสลักลายมังกรรอบๆ ด้วยความประหลาดใจ การตกแต่งห้องแบบโบราณและวิจิตรตระการตา บวกกับมีสาวงามที่น่าทึ่งนั่งอยู่ข้างเตียง เขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆวิญญาณของฉัน ทะลุมิติมาเหรอ!?“ฝ่าบาท ท่านทรงเป็นอะไรไป?”ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ เขาสวยกว่าดาราหญิงทุกคนในชาติก่อนของเขากำลังส่งเสียงเรียก ทำให้ความคิดของหลี่เฉินกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ฉับพลันความทรงจำก็หลั่งไหลเข้ามาในจิตใจของหลี่เฉิน ทำให้เขาเปล่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดหลังหายใจเข้าอย่างหนัก หลี่เฉินก็เข้าใจขึ้นมาชาตินี้ เขาไม่ใช่มนุษย์เงินเดือนที่ถือว่าทำงานหามรุ่งหามค่ำเป็นพรอีกต่อไป แต่เป็นรัชทายาทแห่งจักรวรรดิต้าฉิน ว่าที่ฮ่องเต้ ทายาทที่ถูกต้องตามกฎหมายเพียงคนเดียวในจักรวรรดิต้าฉินอันยิ่งใหญ่!ชาตินี้ เขาไม่ใช่ผู้ชายจนๆ อีกต่อไป แต่เป็นผู้มีอำนาจและสถานะ ควบคุมอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในใต้หล้าไว้ในมือ!“ฉัน...ข้าอยากเห็น แน่นอนอยากเห็นสิ”หลี่เฉิ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 2

    เฉินจื้อกัดฟันด้วยความโกรธ ร่างกายของเขาสั่นเทิ้มไปทั่วร่าง มือที่จับบนด้ามดาบเกร็งแน่นจนเส้นเอ็นปูด เผยให้เห็นถึงความโกรธสุดขีด“ไม่กล้า? ไม่กล้าก็ไสหัวไป! ถอยไปด้านหลังให้ข้าห้าก้าว ลงไปจากขั้นบันได ถ้ากล้าเหยียบขั้นบันไดขึ้นมาหนึ่งก้าว สังหารไร้ปรานี!”หลี่เฉินมองสีหน้าอึมครึมของเฉินจื้อ ที่ค่อยๆ ถอยหลังไปอย่างช้าๆ ด้วยความอับอาย เมื่อถอยลงจากขั้นบันไดขั้นสุดท้ายจึงหยุด หลี่เฉินหัวเราะเสียงเย็น ก่อนจะหันหัวเดินเข้าไปด้านในเมื่อจ้องมองไปที่แผ่นหลังของหลี่เฉิน ความเกลียดชังที่พลุ่งพล่านอยู่ในอกของเฉินจื้อก็แทบจะทำให้เขาคลุ้มคลั่ง“หลี่เฉิน เจ้ารอข้าก่อนเถอะ เมื่อแผนการของฮองเฮากับใต้เท้าราชเลขาธิการบรรลุผล ข้าจะทำให้เจ้าตายไร้ที่ฝัง!”เมื่อกลับเข้ามาด้านใน หลี่เฉินก็เห็นฮองเฮาจ้าวชิงหลานกำลังปลอบใจจ้าวหรุ่ยที่กำลังร้องไห้อยู่อ้อมแขนของนางอย่างระมัดระวัง แม้ว่าจ้าวชิงหลานจะไม่เคยถูกแตะต้อง แต่เมื่อเห็นท่าทางของจ้าวหรุ่ยตอนนี้ และยังรอยเลือดบนแท่นบรรทมจึงพอจะทราบว่าเกิดอะไรขึ้นในฐานะผู้หญิงด้วยกัน นางย่อมเข้าใจหัวอกผู้หญิงด้วยกัน“องค์รัชทายาท ท่านบังอาจไปแล้วนะ!”เมื่อเห็นห

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 3

    เสียงร้องแผ่วเบานี้กระตุ้นความตื่นตัวของเฉินจื้อที่อยู่ข้างนอกทันที“ฮองเฮาทรงเกิดอะไรขึ้นพ่ะย่ะค่ะ?”จ้าวชิงหลานมองหลี่เฉินที่มองนางด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจ นางแอบกัดฟันด้วยความเกลียดชัง และนำความไม่พอใจทั้งหมดไประบายใส่เฉินจื้อ“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า ไม่ต้องถามมาก”เมื่อเฉินจื้อถูกตำหนิ เขาก็ยิ่งรู้สึกอับอายมากยิ่งขึ้นเมื่อไม่มีที่ระบายความโกรธ เขาจึงหันกลับมาด่าขันทีที่กำลังขับรถม้า “ขับรถม้าให้ดีๆ หน่อย หากทำให้ฮองเฮาตกใจอีกครั้ง ข้าจะแล่เนื้อเจ้าซะ!”ภายในเกี้ยวหงส์ ตู้นั้นสั่นเล็กน้อย ราวกับกรงสัตว์ก็ไม่ปาน ทำให้จ้าวชิงหลานนึกอยากจะหนีก็หนีไม่ได้จ้าวชิงหลานนั่งบนต้นขาของหลี่เฉิน ราวกับนั่งอยู่บนเข็มก็ไม่ปานนางคิดจะลุกขึ้น แต่ทุกครั้งที่ทำตามความตั้งใจ หลี่เฉินก็จะดึงนางกลับมา และบังคับให้นั่งลงอย่างแน่วแน่“เจ้า เจ้าไม่กลัวข้าจะสังหารเจ้ารึ!?”เมื่อมองไปที่ปากแดงฟันขาวนั่น จ้าวชิงหลานก็แอบกัดฟันแน่น หลี่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่า “ฮองเฮายอมแพ้หรือไม่?”ในขณะที่พูดก็ฉวยโอกาสที่จ้าวชิงหลานไม่ทันสังเกต ใช้มือใหญ่ของเขาคลำไปตามระหว่างเอวและหน้าท้อง ท้องน้อยที่แบนราบ เ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 4

    หัวใจของหลี่เฉินหนักอึ้ง เขารู้ว่า ฮ่องเต้กำลังทดสอบตัวเองผลงานของเจ้าของร่างเดิมนั้นไม่ค่อยดีนัก จนถึงขั้นที่ว่าแม้แต่วินาทีสุดท้ายของฮ่องเต้ พระองค์ก็ยังไม่กล้าที่จะมอบภาระของประเทศไว้บนบ่าของเขาตอนนี้อาจกล่าวได้ว่า การกระทำของเขานั้นจะเป็นตัวกำหนดชะตากรรมของเขาในท้ายที่สุด“ความยากในการบริหารแผ่นดิน เกิดจากปัญหาภายในและภายนอก”หลี่เฉินผสมผสานความทรงจำจากเจ้าของร่างเดิม เข้ากับความรู้ทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการขึ้นและลงของราชวงศ์ที่เขาอ่านก่อนทะลุมิติมา จากนั้นก็กล่าวว่า “ปัญหาจากภายนอก มาจากพวกคนเถื่อน เฉวี่ยนหรง หนู่เจิน ซยงหนู นอกจากนี้ยังมีพิษร้ายที่เหลือรอดจากอดีตราชวงศ์หยวน ซึ่งต้องการทำลายต้าฉินของพวกเรา”“ปัญหาจากภายใน มาจากการแบ่งแยกของอ๋องศักดินา ซึ่งก็คือพระบรมวงศานุวงศ์ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นท่านอ๋องหรือโหว พวกเขามีอำนาจเก็บภาษีในดินแดนศักดินา และมีอำนาจทางการทหาร มันเป็นเพียงสถานที่นอกกฎหมาย เป็นเขตปกครองตนเอง นับว่าเป็นปัญหาที่ร้ายแรงจริงๆ ”“ยังมีเจ้าหน้าที่ทุจริตออกอาละวาดในท้องถิ่น พวกขุนนางใหญ่จัดตั้งกลุ่มเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว พวกเขาต่อสู้เพื่ออำนาจและ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 5

    หลี่เฉินยิ้มอย่างมีความสุขไม่มีใครในใต้หล้านี้ไม่กลัวอำนาจและวิธีการสังหารของหน่วยบูรพา มีเพียงราชวงศ์เท่านั้นที่จะไม่กลัว เพราะอำนาจของพวกเขามาจากฮ่องเต้ และพวกเขา ก็ยังเป็นสุนัขรับใช้ที่ภักดีที่สุดในเงื้อมมือของฮ่องเต้อีกด้วยในฐานะกวางกงของหน่วยบูรพาที่เหล่าขุนนางบุ๋นบู๊ต่างต้องการสังหาร เขาคงเป็นคนแรกที่เต็มใจเข้ามาพึ่งพาตัวเองกองกำลังนี้จะช่วยเขาได้มากอย่างแน่นอน“ดีมาก”หลี่เฉินโยนดาบในมือไปตรงหน้าขันทีซานเป่าแล้วพูดว่า “เสด็จพ่อเคยมอบดาบให้กับเจ้า แต่ตอนนี้ดาบเล่มนั้นขึ้นสนิมไปแล้ว ดังนั้นตอนนี้ ข้าจะให้ดาบเล่มนี้แก่เจ้า เจ้าต้องการมันไหม?”ขันทีซานเป่าคุกเข่าอย่างนอบน้อม แล้วหยิบดาบบนพื้นขึ้นมา จับมันไว้แน่นแล้วกล่าวว่า “เมื่อฝ่าบาทมอบราชโองการให้แก่บ่าว ทรงเคยตรัสว่า ต่อไปนี้ บ่าวจะเป็นดาบในมือของพระองค์”เมื่อมองดูประตูวังสุทธาสวรรค์ที่ปิดอยู่ ดูเหมือนว่าฮ่องเต้บนแท่นนอนที่ยืนหยัดหายใจอยู่ จะได้เตรียมการเอาไว้แล้ว“ในบรรดาองค์ชายทั้งหลาย องค์ชายเก้าเป็นบุตรคนสุดท้อง เมื่อหลายปีก่อน ฮองเฮาทรงขอเสด็จพ่อรับเลี้ยงดูองค์ชายเก้า และเชิญหัวหน้าสภาขุนนางมาสั่งสอนเป็นการส่วน

Latest chapter

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 902

    "นอกจากนี้ หากชายหญิงผู้มีศรัทธาแรงกล้าประสงค์จะบวช ทางการก็จะไม่ขัดขวาง""และสุดท้าย เส้าหลินสามารถเป็นตัวแทนราชสำนักในการควบคุมบรรดาสำนักในยุทธภพได้"ทันทีที่คำพูดสุดท้ายหลุดจากปาก สีหน้าของเจี้ยว่างที่ดูสงบไม่สะทกสะท้านมาตลอดก็พลันเปลี่ยนไป เขาเงยหน้ามองหลี่เฉินทันทีการตอบสนองของเจี้ยว่างนั้น หลี่เฉินล้วนคาดการณ์ไว้แล้ว เขาไม่กังวลเลยว่าเจี้ยว่างจะไม่สนใจข้อเสนอการได้เป็นผู้นำในยุทธภพเป็นสิ่งที่บรรดาสำนักใหญ่ต่างใฝ่ฝันและแย่งชิงกันมาหลายร้อยปีแม้เส้าหลินจะเป็นสำนักที่มีบารมีสูงส่งในหมู่สำนักต่างๆ แต่หากประกาศตัวเองว่าเป็นอันดับหนึ่งในยุทธภพ คงถูกบรรดาสำนักอื่นๆ รุมประณามสำนักในยุทธภพล้วนมีประวัติยาวนานเป็นร้อยปี ไม่มีใครยอมรับว่าเส้าหลินเหนือกว่าตนแต่หากราชสำนักมอบตำแหน่งที่มีการรับรองอย่างเป็นทางการให้เส้าหลินในการควบคุมยุทธภพ แม้จะถูกหัวเราะเยาะ แต่ก็คงเป็นเพียงพวกที่อิจฉาเท่านั้นยิ่งไปกว่านั้น สำหรับเส้าหลิน การมีตำแหน่งอย่างเป็นทางการจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรับศิษย์และผู้ศรัทธาใหม่ๆการสืบทอดและการบำรุงศาสนจักร เป็นสิ่งที่เส้าหลินต้องการมากที่สุดในตอนนี้ดังนั้น ข้อ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 901

    หลี่เฉินวางถ้วยชาลง มองพระเฒ่าฝั่งตรงข้ามพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ผู้ที่บ่อนทำลายบ้านเมือง ไม่เคยเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นได้ในวันสองวัน หรือแม้กระทั่งในรุ่นเดียว บางครั้งจุดเริ่มต้นของเรื่องนั้นอาจมาจากความตั้งใจที่ดี แต่เมื่อเป็นการปกครองโดยมนุษย์ ความผิดพลาดในแนวคิดของผู้สืบทอดย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้”“ปฐมจักรพรรดิแห่งราชวงศ์นี้ ได้ทรงบัญญัติกฎหมายเพื่อควบคุมศาสนาทั่วหล้า ในฐานะทายาทรุ่นหลัง ย่อมไม่มีทางเปลี่ยนแปลงแนวทางนี้ได้โดยง่าย”พระเฒ่าขมวดคิ้วเล็กน้อยเขาสัมผัสได้ถึงความยากลำบากของสิ่งที่ตนกำลังจะทำ จากท่าทีของหลี่เฉินแต่เมื่อคิดถึงความเสื่อมถอยของพุทธศาสนาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พระเฒ่าก็มีบางคำที่ต้องเอ่ย และบางสิ่งที่ต้องลงมือทำเขาถอนหายใจเบาๆ ก่อนกล่าวว่า “องค์ชาย ในเมื่อท่านยอมเปิดโอกาสพูดคุยกับอาตมา แสดงว่ายังมีทางอื่นอีก”หลี่เฉินหัวเราะเบาๆ ก่อนกล่าวว่า “แน่นอนว่าย่อมมีทาง”“ข้าขอถามท่านอาจารย์ว่า ที่ท่านว่ามานั้นเกี่ยวข้องกับเส้าหลินฝ่ายใต้หรือเส้าหลินฝ่ายเหนือ?”พุทธศาสนาในจักรวรรดิต้าฉิน โดยมีเส้าหลินเป็นศูนย์กลาง แต่เส้าหลินนั้นแยกออกเป็นสองฝ่าย คือเส้

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 900

    หลี่เฉินยกถ้วยชาขึ้นจิบอีกครั้ง ก่อนจะวางลงและพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “กฎหมายข้อนี้ แม้จะมีถ้อยคำเพียงไม่กี่ร้อยคำ แต่ก็เหมือนกับคาถาที่รัดคอไว้แน่น พุทธและเต๋าต่างไม่สามารถกลับไปสู่ยุคเฟื่องฟูเช่นราชวงศ์ก่อนหน้านี้ได้ ท่านอาจารย์ที่มาในวันนี้ ก็เพื่อขอให้ข้าเปิดทางให้พวกเจ้าใช่หรือไม่?”พระสงฆ์ตอบตรงไปตรงมา“ใช่”หลี่เฉินยิ้มบาง “ข้าชอบความตรงไปตรงมาของท่าน แต่ท่านคิดว่าข้าจะยอมเปลี่ยนกฎที่บรรพชนตั้งไว้เพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำหรือ?”“จะบอกให้รู้ไว้ ข้าคิดว่ากฎหมายข้อนี้เป็นกฎหมายที่ยอดเยี่ยม เป็นผลงานชิ้นเอกที่สะท้อนถึงความเฉลียวฉลาดและวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของบรรพชน มันช่วยป้องกันปัญหานับไม่ถ้วนที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง และท่านอยากให้ข้าทำลายมันง่ายๆ อย่างนั้นหรือ?”พระสงฆ์ยังคงสงบนิ่งและพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “บรรพชนของพวกเราก็พยายามทำให้พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองเช่นกัน แต่ตลอดกว่า 360 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จ นั่นแสดงให้เห็นถึงความยากลำบากของมัน”“องค์ชายเป็นผู้มีปัญญา ย่อมไม่อาจถูกหลอกลวงหรือถูกชักจูง ข้าจึงไม่คิดจะใช้เล่ห์กลกับท่าน ข้ามาเพียงเพื่อขอร้อง ให้ท่านช่วยเปิ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 899

    แม้แต่ซานเป่าเองยังรู้สึกว่า ท่าทีขององค์รัชทายาทในวันนี้ค่อนข้างกดดันและคุกคามเกินไปแต่พระสงฆ์ผู้เฒ่าหลังจากที่แสดงความโกรธไปชั่วครู่ กลับสงบนิ่งราวกับไม่รู้สึกอะไรอีก เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม “องค์ชายทรงเป็นผู้ที่ผู้คนคาดหวังและยอมรับโดยทั่ว พุทธศาสนาเพียงขอทางรอด ไม่ได้หวังเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอำนาจทางโลก ขอให้องค์ชายทรงเมตตา”ดวงตาของหลี่เฉินหรี่ลงเล็กน้อยแม้ว่าเขาจะไม่มีความชอบต่อศาสนาใดๆ แต่เขาไม่เคยปฏิเสธที่จะใช้ประโยชน์จากทุกอย่างที่สามารถนำมาสนับสนุนการปกครองของเขาได้ยิ่งไปกว่านั้น จ้าวเสวียนจียังไม่ได้ถูกกำจัด บรรดาอ๋องต่างแคว้นยังคงจับตาดูอยู่ และการควบคุมจักรวรรดิต้าฉินของเขายังไม่ถึงจุดที่สามารถวางใจได้ การสนับสนุนจากพุทธศาสนาอาจเป็นกองกำลังลับที่ช่วยพลิกสถานการณ์ได้และถึงอย่างไร เขาก็ไม่คิดที่จะผลักพวกพระไปเข้ากับฝ่ายศัตรู"ที่นี่ไม่เหมาะที่จะพูดเรื่องนี้"หลี่เฉินหันไปสั่งซานเป่า "จัดหาที่ที่เงียบสงบสักแห่ง"ซานเป่ารับคำสั่งและรีบไปดำเนินการสำหรับซานเป่าแล้ว การหาที่เงียบสงบใกล้ๆ ไม่ใช่เรื่องยากเพียงเวลาไม่กี่อึดใจ เขาก็กลับมาพร้อมสถานที่เรียบร้อยเขาเลื

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 898

    "ช่างเป็นคำพูดที่ดี”หลี่เฉินหัวเราะเย็นชา "เช่นนั้นก็ลองดูกันสักตั้ง""ซานเป่า"เพียงแค่ได้ยินคำสั่งจากหลี่เฉิน ร่างกายของซานเป่าก็รู้สึกตึงเครียดขึ้นมาคำพูดเดินทางมาถึงจุดที่ไม่อาจถอยหลังกลับได้อีกแล้ว และหลี่เฉินก็แสดงเจตนาชัดเจนว่า เขาต้องการให้พระสงฆ์ตรงหน้าได้ลิ้มรสพลังของอำนาจจักรวรรดิถูกต้อง หลี่เฉินตั้งใจจะให้พระเฒ่าผู้นี้ได้ลิ้มรสชาติของอำนาจกษัตริย์ภายใต้ระบอบศักดินาว่าเป็นเช่นไรด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมานับพันปี หลี่เฉินรู้ดีว่าการจัดการศาสนาในทุกรูปแบบนั้นต้องใช้ความระมัดระวังไม่ว่าจะเป็นพุทธศาสนาหรือลัทธิเต๋า ซึ่งเป็นสองศาสนาหลักของแผ่นดินจีน หรือแม้แต่พวกตูลูหรือพระลามะในท้องถิ่น ที่แม้จะเป็นศาสนาสาขาเล็กๆ ก็ยังสามารถระดมศิษยานุศิษย์มาสร้างแนวคิดแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ที่แฝงความคิดกบฏปลอมๆ ได้ดังนั้น หากไม่จำเป็นจริงๆ หลี่เฉินก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับสองศาสนาใหญ่เหล่านี้เพราะเหตุใดเล่า? ก็เพราะพวกนี้รับมือยากยิ่งส่วนลัทธิอย่างสำนักบัวขาว ซึ่งเป็นศาสนาเทียมและความเชื่อปลอมๆ นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่แยกออกไปแต่พระสงฆ์ตรงหน้ากลับเป็นฝ่ายเข้าหาเขาเอง และหลี่เฉินก็

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 897

    “ถอยไป ข้าจะคุยกับเขาเอง” หลี่เฉินโบกมือให้ซานเป่าถอยออกไปซานเป่ายังคงระวังตัวสูงสุด เขาจ้องมองพระสงฆ์ผู้มีท่าทางสงบนิ่งและเปี่ยมไปด้วยความเมตตาตรงหน้า แต่ภายในใจกลับรู้สึกกังวล “แต่องค์ชาย…”“ตอนนี้ถ้าเขาต้องการฆ่าข้า เจ้าจะหยุดเขาได้หรือ?”คำถามของหลี่เฉินทำให้ซานเป่าเงียบไประดับครึ่งเซียนบนดิน กับเซียนบนดินเต็มขั้น คือคนละชั้นโดยสิ้นเชิง พลังของพระสงฆ์ตรงหน้าเหมือนอยู่ระหว่างการมีตัวตนและไม่มีตัวตน ซานเป่ารู้ดีว่าเขาไม่สามารถจับตำแหน่งที่แน่ชัดของอีกฝ่ายได้เลยจากสัญชาตญาณ ซานเป่ารู้ว่าหากพระสงฆ์ลงมือเต็มกำลัง ในระยะนี้ ไม่เพียงแต่เขาจะไม่สามารถปกป้ององค์ชายได้ แม้แต่ชีวิตของเขาเองก็อาจจะรักษาไว้ไม่ได้ภายในเวลาเพียงสามลมหายใจ คนทั้งหมดในบริเวณนี้อาจถูกสังหารจนหมดสิ้นแม้มันจะน่ากลัว แต่ก็เป็นความจริงสุดท้าย ซานเป่าจึงกัดฟันแน่นและถอยออกไปอย่างไม่เต็มใจหลี่เฉินกอดอกมองดูพระสงฆ์ผู้มีเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง แต่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายเหนือโลก แล้วพูดอย่างสบายๆ ว่า “มีเรื่องอะไร?”พระสงฆ์ยกมือประนมและก้มตัวเล็กน้อย “อมิตาภพุทธ ท่านผู้มีบุญ…”“อย่าเรียกข้าว่าผู้มีบุญเลย”หลี่เฉิ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 896

    หลี่เฉินมองดูท่าทีเฉยเมยของซานเป่าและไม่ได้คาดหวังอะไรไปมากกว่านั้นบางทีอาจเพราะนิสัยที่มั่นคงเช่นนี้ ซานเป่าจึงยังคงอยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงทุกวันนี้ในวันนี้ หลี่เฉินต้องการได้ยินความจริงใจจากซานเป่า แต่ถ้าหากซานเป่าพูดความจริงออกมาจริงๆ วันข้างหน้าหลี่เฉินอาจจะไม่พอใจและสูญเสียความไว้วางใจก็เป็นได้จิตใจของกษัตริย์นั้นยากจะหยั่งถึง แม้แต่ตัวหลี่เฉินเองบางครั้งก็ไม่แน่ใจว่าตนคิดอะไรอยู่ แล้วคนอื่นจะเข้าใจได้อย่างไรวันนี้เขาอยากให้ซานเป่าพูดอะไรออกมาสักอย่าง แต่วันพรุ่งนี้เมื่อย้อนคิด เขาอาจรู้สึกไม่ดีแม้แต่หลี่เฉินเองยังเหนื่อนแทนซานเป่าดังนั้นในแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ถือว่าดีแล้วความสัมพันธ์ระหว่างกษัตริย์กับขุนนางต้องแยกแยะให้ชัดเจน ไม่เช่นนั้นทุกอย่างจะยุ่งเหยิงระหว่างเดินอยู่ในฝูงชน หลี่เฉินพูดขึ้น “การเก็บกวนจือเหวยไว้เพื่อเล่นงานจ้าวเสวียนจีไม่ใช่แผนที่ดี เพราะเขาฉลาดเกินไป”“วันนี้เราสามารถจับตัวกวนจือเหวยได้เพราะจ้าวเสวียนจีไม่รู้ว่าเรามีข้อมูลเกี่ยวกับที่ซ่อนกองกำลังของเขามากเพียงใด ประกอบกับสถานการณ์ที่เร่งรีบทำให้เขาพลาด แต่เมื่อทุกอย่างสงบลง เขาจะต้องรู้ตัวว่าส

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 895

    เมื่อได้ยินคำสารภาพของกวนจือเหวย ภรรยาของเขาก็ถึงกับตกใจจนกรีดร้องนางรีบคุกเข่าลงข้างสามีและก้มกราบหลี่เฉินพร้อมทั้งขอร้องอ้อนวอนด้วยน้ำตานองหน้าเมื่อเห็นความผิดปกติของพ่อแม่ ทำให้กวนซานเยว่ที่อยู่ข้างหลี่เฉินละทิ้งขาหมูในมือ แล้วร้องไห้ออกมาเสียงดังท่ามกลางเสียงกราบไหว้ เสียงร้องขอชีวิต และเสียงร้องไห้ของเด็ก ทำให้บรรยากาศยิ่งวุ่นวายขึ้นมาซานเป่าส่งเสียงฮึมด้วยพลังภายใน เสียงดังลั่นนั้นทำให้ความวุ่นวายทั้งหมดยุติลงในทันที“เงียบ!”เขาตำหนิด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “จะร้องไห้ฟูมฟายต่อหน้าองค์ชายเช่นนี้มันไม่เหมาะสม!”จากนั้นซานเป่าหันไปถามกวนจือเหวยด้วยน้ำเสียงดุดัน “เจ้าให้ข้อมูลอะไรแก่จ้าวเสวียนจีไปบ้าง?”กวนจือเหวยตัวสั่นและพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ไม่มากนักพ่ะย่ะค่ะ จ้าวเสวียนจีไม่ค่อยขอข้อมูลจากกระหม่อม ยิ่งเมื่อกระหม่อมเข้าไปในตำหนักบูรพา เขาก็ยิ่งระมัดระวังขึ้น เขาหวังให้กระหม่อมเข้าไปใกล้ชิดองค์ชายให้ได้มากที่สุด เพื่อใช้ประโยชน์สูงสุด”ซานเป่าพยักหน้า สีหน้าค่อยดีขึ้นเล็กน้อยจากนั้นเขาหันไปมองหลี่เฉินเรื่องที่ควรถามก็ถามแล้ว ตอนนี้รอการตัดสินใจของหลี่เฉินหลี่เฉ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 894

    ลมหายใจของกวนจือเหวยถี่กระชั้น หัวใจเต้นรัวแม้ว่าเมืองหลวงในยามค่ำคืนจะมีอากาศเย็นสบายแต่เหงื่อเย็นกลับไหลลงมาจากหน้าผากของกวนจือเหวย เขากลืนน้ำลายฝืดๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “องค์ชายหมายความว่าอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ? กระหม่อมจงรักภักดีเสมอมา”“ใต้เท้ากวน”ซานเป่าที่เฝ้าอยู่ด้านหลังหลี่เฉิน ในที่สุดก็ปริปากเขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “ถึงขั้นนี้แล้ว ยังจะปฏิเสธอีกหรือ? องค์ชายเสด็จมาด้วยตัวเอง นั่นคือการให้โอกาสเจ้าเลือกจบเรื่องอย่างมีเกียรติ การที่องค์ชายพูดถึงเวลาที่เจ้าอยู่ในความดูแลของเขานั้น ก็เพื่อบอกให้เจ้ารู้ว่ายังมีความเมตตาต่อเจ้าอยู่ อย่าทำลายความเมตตานี้เสียเปล่า”ร่างกายของกวนจือเหวยสั่นระริก ใบหน้าตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัดเขาไม่ได้พูดอะไรไม่รู้ว่าเพราะไม่กล้าพูด หรือไม่รู้จะพูดอะไรดีซานเป่าเห็นหลี่เฉินยังไม่เอ่ยปาก จึงพูดต่อว่า “ใต้เท้ากวนยังจำภารกิจปราบปรามที่ได้รับมอบหมายได้หรือไม่?”“จำได้สิ”กวนจือเหวยฝืนยิ้มและตอบ “ข้าทำภารกิจสำเร็จลุล่วงด้วยดี”“เพราะมัน ดีเกินไปนั่นแหละ”ซานเป่าหัวเราะเย็นชา “ไม่ใช่แค่เจ้า แต่ทั้งสวีฉังชิงและเจิ้งเป่าหรงก็ได

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status