“อิน อิน” ปัณณธรตระกองกอดร่างเล็กของภรรยา แก้เชือกที่พันธนาการมือและเท้าเล็กไว้ รอยแดงช้ำจากการเสียดสีของเชือกแข็งๆทำให้เขาโกรธแค้นขึ้นไปอีก มือหนาลูบใบหน้านวลปัดเส้นผมที่ปกใบหน้าหญิงสาวออกอย่างเบามือ
“พาคุณอินไปโรงพยาบาลเถอะครับคุณปัณ” ปัณณธรพยักหน้ารับอุ้มร่างภรรยาออกจากห้อง สีหน้าแววตาเป็นห่วงคนในอ้อมแขนยิ่งนัก ถ้าอินนัดดาเป็นอะไรไปเขาจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย
“อิน อินฟื้นแล้ว” เปลือกตาของอินนัดดาค่อยๆลืมขึ้น สิ่งแรกที่เธอเห็นคือใบหน้าของสามี ปัณณธรมองมาที่เธอด้วยความดีใจ หญิงสาวร้องไห้โฮออกมาทันทีเมื่อเห็นเขาอยู่ใกล้ๆ วงแขนแกร่งโอบกอดคนที่ลุกขึ้นนั่งแล้วโอบร่างหนาของตัวเองไว้แน่น
“พี่ปัณ หนูกลัว หนูกลัวฮือๆๆ” ปัณณธรกอดร่างบางไว้แน่น ให้เธอร้องไห้อยู่กับอกตัวเอง น้ำอุ่นๆซึมผ่านเสื้อเชิ้ตเนื้อดีจนแผ่นอกเขาสัมผัสถึงความอุ่นของหยาดน้ำตาได้
“ไม่เป็นไรนะคนดี ไม่เป็นไร พี่อยู่กับอินตรงนี้”
“ลูก...ลูกของเรา เขาไม่เป็นไรใช่ไหมคะพี่ปัณ ฮึกๆๆ” อินนัดดาสะอื้นหนักกว่าเดิม เมื่อถามถึงลูกที่ก่อเกิดอยู่ในร่างกายของตน นัยน์ตาฉ่ำน้ำแหงนเงยมองหน้าสามี ก
“ก็ดีเหมือนกันครับ ผมจะได้คุยกับอินด้วย ขอบคุณมากนะครับคุณปัณ”“ไม่เป็นไรครับ”“หนุ่มๆทานข้าวกันเถอะค่ะ” ปานรักส่งเสียงมาก่อนที่จะเดินเข้ามาในห้องรับแขก ก้องภพยิ้มเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย และแอบคิดถึงอยู่ตลอดตั้งแต่กลับจากบ้านณปาย“อุ๊ย! พี่ก้อง สวัสดีค่ะ มานานหรือยังคะ พอดีเลยไปทานข้าวด้วยกันค่ะ” ปานรักก้าวเข้าหาแล้วดึงแขนของก้องภพอย่างสนิทสนม ชายหนุ่มมองหน้าคนที่มีอายุมากกว่าทั้งสองอย่างเกรงใจ“ไปทานข้าวด้วยกันครับคุณก้อง” อานนท์เอ่ยชวนพร้อมกับรอยยิ้ม ปัณณธรพยักหน้าสำทับอีกที ก้องภพจึงเดินตามแรงดึงของหญิงสาวไปยังห้องรับประทานอาหารบรรยากาศการรับประทานอาหารค่ำอบอวลไปด้วยความสุข ว่าที่คุณพ่อพะเน้าพะนอภรรยาอย่างออกหน้าออกตา ทั้งตักอาหารให้ป้อนข้าว เช็ดปาก จนคนเป็นน้องอดที่แซวไม่ได้“แหม...หวานกันไม่เกรงใจคนโสดเลยนะคะ นี่ถ้าปานมาอยู่ด้วย สงสัยตาจะร้อนจนไหม้เลยมั้งเนี่ย”“หยุดเลยยายปาน คนเขารักกันเนอะอิน” อินนัดดายิ้มให้สามี ใบหน้านวลแดงปลั่งด้วยความอาย ช่วงนี้ปัณณธรขยันหวานกับเธอเสียจริงเสียงเพลงสากลซึ่งเป็นสียงเรียกเข้าของโทร
ปัณณธรส่ายหน้ายิ้มๆ หลังจากที่ต้นตะวันรีบวางสายไปเพราะเสียงโอ้กอ้ากของมุทิตา เพื่อนรักบ่นอุบว่าคงต้องย้ายเข้ามาทำงานที่กรุงเทพ เพราะพ่อตากำลังเจรจาขอซื้อหุ้นจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เพื่อให้เขาเข้าไปเป็นหนึ่งในผู้บริหาร ประมาณว่าไม่อยากให้ลูกสาวไปอยู่ไกลสายตา และเพื่อวางอนาคตไว้ให้หลานที่จะเกิดในอนาคต โดยที่พ่อตายังไม่รู้ว่าหลานน่ะมาอยู่ในท้องลูกสาวแล้ว คนเป็นลูกเขยที่อยากได้ลูกสาวเขามาดูแล จำต้องก้มหน้ารับคำอย่างเลี่ยงไม่ได้ เอาไว้ลูกๆโตกันก่อน เขาจะพามุทิตากลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดเพื่อทำตามอุดมการณ์เดิมแน่นอนพิธีฉลองสมรสระหว่างนายแพทย์หนุ่มกับลูกสาวผู้ถือหุ้นคนสำคัญในเครือปัณณธรกรุ๊ป ได้รับความสนใจจากนักข่าวและมีผู้มาร่วมงานเป็นสักขีพยานจำนวนมาก พิธีถูกจัดอย่างใหญ่โตและอลังการภายในโรงแรงหรูตามความประสงค์ของบิดาฝ่ายเจ้าสาว เจ้าบ่าวเอาใจใส่ดูแลเจ้าสาวจนบรรดาสาวๆที่มาร่วมงานต่างแอบอิจฉา“เหนื่อยไหมครับม่อน” ต้นตะวันเหลือบมองใบหน้าเจ้าสาวอย่างเป็นห่วง มุทิตาแพ้ท้องอย่างหนักมาหลายสัปดาห์แล้ว แต่แปลกที่พอมาถึงวันงาน หญิงสาวกลับไม่มีอาการใ
“ม่อน...” เสียงทุ้มแหบพร่า ใช้มือเลื่อนไปวางทาบมือบางทั้งสองที่กอบกุมความแข็งแกร่งของตัวเองอยู่“หายงอนเถอะนะคะ ม่อนรักพี่หมอนะ” ปากเล็กจูบพรมไปทั่วแผ่นหลังและกัดเบาๆสร้างกระแสความซ่านสยิวไปทั้งร่างใหญ่ ผิวเนื้อแน่นเรียบกระตุกตอบรับทุกสัมผัสจากปากเล็ก อกอวบที่เสียดสีแนบชิดอยู่ทำให้คนขี้งอนต้องครางฮึ่มในลำคอ“ยังไม่หายงอนเหรอคะ” มือเล็กเพิ่มแรงบีบและขยับเร็วขึ้น จนเสียงครางของคนตัวโตดังกระหึ่ม ความแข็งขึงที่ถูกกอบกุมไว้ด้วยสองมือน้อยกระตุกตอบรับสัมผัส มุทิตาผ่อนแรงที่มือ แล้วเบี่ยงตัวมายืนด้านหน้า เงยหน้าสบตาสามีอย่างท้าทาย มือเล็กยังกอบกุมความเป็นชายไว้ในมือมั่น ก่อนจะค่อยย่อตัวลงนั่งคุกเข่า คุณหมอหนุ่มเซอร์ไพรส์ยิ่งกว่าเซอร์ไพรส์ หัวใจเต้นแรงกว่าครั้งไหนที่เคยมีสัมพันธ์กัน เขารู้ว่าภรรยากำลังจะทำอะไร ดวงตาคมเข้มหรี่มองลิ้นสีชมพูที่แลบออกมาเลียริมฝีปากสีเรื่อ แล้วเม้มแน่นราวกับว่ากำลังชั่งใจกับสิ่งที่จะทำ มือใหญ่กดท้ายทอยของหญิงสาวเบาๆ กระตุ้นให้เธอรู้ว่า หากไม่ทำอะไรสักอย่าง เขาอาจจะแดดิ้นลงไปนอนเกลือกกลิ้งแน่ มุทิตาเหลือบตาขึ้นมองสบตาสามี ขณะที่ส่งปลายลิ้นออก
“โอ๋ๆ แม่มาแล้วครับน้องโปรด” อินนัดดาก้มลงไปอุ้มลูกชายตัวจ้ำม่ำมากอดแนบอก แล้วพามามานั่งที่เตียงใหญ่ หญิงสาวแยกสาบเสื้อที่ถูกพ่อของลูกแกะกระดุมออกทุกเม็ดก่อนหน้านี้ออก ป้อนนมจากอกใส่ปากลูกน้อยที่อ้ารออยู่ เมื่อเจ้าหนูน้อยได้รับน้ำนมสำหรับประทังชีวิตจากอกของมารดา เสียงร้องไห้ก็เงียบหาย ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น คุณพ่อตัวโตมองดูอกอวบที่เคยเป็นของตัวเองแต่เพียงผู้เดียวมาก่อน แต่ตอนนี้ถูกลูกชายแย่งพื้นที่ครอบครอง แถมยังถือครองบ่อยกว่าเขาเสียอีก ตาปรอยๆของสามีทำให้อินนัดดาถลึงตาใส่ หญิงสาวเพิ่งจะได้นอนหลับพักผ่อนไปไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่กล่อมลูกชายหลับไปก่อนแล้ว แต่ก็ถูกสามีปลุกขึ้นมาเรียกร้องให้ทำหน้าที่ภรรยา เธอยินดีที่จะทำให้เขามีความสุข แต่ทั้งนี้มีเงื่อนไขว่า หากลูกงอแงร้องไห้ เขาจะต้องหยุดทุกอย่าง“อิน...ไม่สงสารพี่บ้างเหรอ ช่วงนี้เราไม่ค่อยได้รักกันเลยนะ” อินนัดดาค้อนวงเล็กให้สามี ไม่ค่อยได้รักซะที่ไหน เขาจัดการเธอทุกครั้งที่มีโอกาส เขาหน้าไม่อายแม้กระทั่งจะอุ้มลูกไปฝากป้านิ่มไว้แล้วบอกว่ามีธุระกับเธอสองต่อสอง ผู้สูงวัยก็พอจะรู้ความต้องการของเขา รับหนูน้อยไปอุ้มดูแลให้ด้ว
“อินจ๋า ขยับหน่อยสิ รัดแน่นอย่างนี้พี่จะทนไม่ไหวแล้ว” อินนัดดาพ่นลมออกจากปากเบาๆ หญิงสาวเริ่มควบขับสามีเริ่มจากจังหวะช้าเนิบนาบ มือหนาของปัณณธรจิกลงบนที่นอนแน่น สะโพกสอบแอ่นรับทุกจังหวะที่ภรรยากดกระแทกลงมา“อื้อ! พี่ปัณขา” อินนัดดาเริ่มควบส่ายสะบัดสะโพกเร็วขึ้น ความเสียดเสียวก่อตัวขึ้นอยู่กลางร่าง ยิ่งบดเบียดแนบชิด ยิ่งซ่านกระสัน เร่งโหมสะโพกเข้าหาเพื่อไขว่คว้าความสุขที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม จนคนที่ถูกควบขี่อยู่ก็เข้าใกล้เส้นชัยแล้วเหมือนกัน มือหนาจึงเลื่อนมากอบกุมสะโพกมนบังคับจังหวะเอาแต่ใจ อินนัดนาจึงตีสุดแรง พร้อมกับเสียงตวาดว่าสามี“พี่ปัณ อยู่เฉยๆ” คนอยู่ด้านบนโหมแรงทั้งหมดที่มีกดสะโพกลงเต็มแรงแล้วยกขึ้นรวดเร็ว เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังแข่งกับเสียงครวญครางของสองร่าง“พี่ปัณ พี่ปัณ หนูไม่ไหวแล้วค่ะ” อินนัดดาบอกเสียงกระเส่า“พร้อมกันนะครับอิน พี่รักอิน พี่รักอิน” ปัณณณธรแอ่นสะโพกค้างรอรับการกดกระแทกจากคนบนร่าง มือหนาจิกที่นอนแน่น สายตาจับจ้องใบหน้างามของภรรยาที่ส่ายสะบัดเริงร่าอยู่บนตัวเขา สะโพกสวยเร่งรัวอีกไม่กี่ครั้งสองร่างก็ระเบิดพร่าง ไขว่คว้าดาว
“พี่ปัณขี้โกง อื๊อ!” ปากเล็กถูกประกบจูบดูดดื่ม ขาเรียวถูกท่อนขาแกร่งแทรกลงตรงกลาง ไม่จำเป็นต้องอุ่นเครื่องใดๆ เพราะร่องรักของภรรยาชุ่มฉ่ำรอเขาอยู่แล้ว ปัณณธรกดแทรกลึกในคราเดียว สะโพกสอบโหมแรงอย่างเอาแต่ใจ ทั้งลูบไล้เคล้นคลึงไปทั่วร่างเนียนนุ่ม อินนัดดาบิดเร่าไปกับสัมผัสร้อนแรงของสามี อยากจะท้วงเหลือเกินว่าสองเดือนที่ผ่านมาเขาน่าจะทะลุเป้าแล้วนะ ถ้านับรวมบทรักด่วนที่เขาจัดอยู่บ่อยๆ แม้ในช่วงเวลาเร่งรีบเขาก็สามารถส่งเธอไปยังวิมานแสนหวานได้ และนำพาตัวเองตามไปติดๆทุกครั้ง แต่ก็เอาเถอะ...เธอยอม ยอมทุกอย่างที่ปัณณธรต้องการ เพราะถึงแม้เขาจะเรียกร้องเอาแต่ใจ แต่ทุกครั้งทุกสัมผัสหวามไหวจากสามี เธอเองก็รู้สึกชอบ และเริ่มจะหลงใหลจนถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้วการเริ่มต้นระหว่างปัณณธรกับเธออาจจะไม่งดงาม ออกจะโหดร้ายด้วยซ้ำ แต่ด้วยความผูกพันและรู้จักการให้อภัย จากไฟแค้นที่พร้อมจะแผดเผาหัวใจให้มอดไหม้ กลับหลอมรวมหัวใจเธอกับเขาให้เป็นหนึ่งเดียวได้ นับจากนี้ไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หัวใจสองดวงที่กลายเป็นหนึ่งเดียวกันนี้จะคงมั่นต่อกันตลอดไป“คุณหนูโปรดขาระวังค่า” เสี
“น้องปานจะกลับบ้านณปายเลยจริงๆเหรอครับ” ก้องภพได้มีโอกาสคุยกันสองต่อสองกับหญิงสาว หลังจากอาหารมือค่ำจบลง สองหนุ่มสาวเดินลงจากเรือนมานั่งคุยกันที่ศาลาริมน้ำ“ก็คงกลับเลยค่ะพี่ก้อง ปานไปอยู่กระบี่ตั้งเกือบสามเดือนแล้ว คุณพ่อคุณแม่ท่านเป็นห่วง” ปานรักยิ้มให้กับคนที่นั่งอยู่เก้าอี้ยาวตรงข้ามกับตน“ไม่เห็นต้องเป็นห่วงอะไรเลย พี่ดูแลน้องปานได้” ก้องภพจ้องหน้าหญิงสาวนิ่ง เขาอกจะแตกตายอยู่แล้ว รอมาตั้งเกือบสามปี จนหญิงสาวเรียนจบ แล้วไปฝึกงานที่โรงแรมของพ่อเลี้ยงที่ยกให้เขาดูแลบริหารกิจการทั้งหมดแล้ว นี่ปานรักไม่เห็นใจเขาบ้างเลยเหรอ“เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย พี่ก้องจะมาดูแลปานได้ยังไง” แก้มนวลแดงเรื่อ ก้มหน้าซ่อนความอาย“โธ่ น้องปาน พี่รักน้องปานนะครับ แล้วก็รอมานานแล้วด้วย ไม่รู้ล่ะ ถ้าปานจะไปเปิดรีสอร์ตที่ปายจริงๆ พี่ก็จะตามไปอยู่ด้วย” ปานรักเงยหน้ามองผู้ชายที่เคยมาดนิ่ง แล้วอยู่ดีๆจะงอแงเอาแต่ใจกับเธอ“แล้วโรงแรมพี่ก้องล่ะคะ ใครจะดูแลให้”“ก็...ให้คุณแม่กลับมาดูแลเหมือนเดิม” เขาตอบแบบไม่ต้องคิดเลย“บ้า...คุณแม่พี่ก้องอายุเยอะแล้
“ที่จริงบ้านสวนมึงก็มีนะ วันหลังเชิญไปพักที่บ้านตัวเองเลย” ปัณณธรยังไม่วายจิกกัดเพื่อต่อ จึงโดนภรรยาตีที่แขนเบาๆ“พี่ปัณพอแล้วค่ะ คุยกันดีๆไม่เป็นหรือไง”“ใช่ค่ะ เจอกันทีไรก็อย่างนี้ตลอด ทีหลังม่อนจะไม่มาด้วยแล้ว” ต้นตะวันกอดร่างภรรยาแน่นขึ้น โยกตัวช้าๆราวกับจะปลอบใจ“โอ๋ๆ ไม่กัดกันแล้วครับ อย่างอนนะที่รัก” มุทิตาถอนหายใจกับท่าทางเอาใจของสามี เขาไม่เคยอายที่จะสาดความหวานใส่เธอ แต่คนโดนปฏิบัตินี่สิ อายจนไม่รู้จะอายยังไงแล้วหนุ่มสาวสองคู่นั่งคุยกันเรื่อยๆ จนก้องภพและปานรักขึ้นมาสมทบ หนุ่มสาวคู่ใหม่ที่ร่วมโต๊ะ ดูกระอักกระอ่วนใจที่ต้องมานั่งมอง ภาพคู่สามีภรรยาสวีตกันแบบไม่เกรงใจฟ้าดิน อินนัดดากับมุทิตาเกรงใจและหน้าไม่หนาพอเท่าสามี จึงพากันขอตัวเลี่ยงไปดูลูกที่นอนหลับอยู่ในห้อง ก้องภพและปานรักนั่งร่วมโต๊ะอยู่ครู่เดียวก็พากันขอตัวแยกย้ายไปนอน“ไม่น่าเชื่อว่ะ” ต้นตะวันยกแก้วน้ำสีอำพันขึ้นจิบแล้ววางลงที่โต๊ะ“อะไรไม่น่าเชื่อ”“อ้าว...ก็มึงกับอินไง กูเห็นขึ้นต้นแค้นแทบตาย แต่มาลงท้ายว่ารักหมดใจเนี่ย” ปัณณธรหัวเราะชอบใจกับคำพูดของเพื่อน
“อืม...พี่ก้อง พี่ก้อง” ปานรักเงยหน้าครวญครางเรียกชื่อสามีแผ่วเบา ด้วยความซ่านเสียวไปทั้งร่าง ริมฝีปากหยักได้รูป ดูดกลืนยอดอกที่อยู่ตรงหน้าอย่างตะกรุมตะกราม มือใหญ่ขยับสะโพกมนให้เข้ากับจังหวะที่ตนเองแอ่นสะโพกสอดเสยขึ้น จนเมื่อปานรักเริ่มเรียนรู้ที่จะรุกรับอย่างคนหัวไว ก้องภพจึงเคลื่อนมือขึ้นบีบเคล้นอกอวบนุ่มหยุ่นมือ จับฐานอกอวบบีบป้อนเข้าปากตัวเองดูดกลืนขบเม้มอย่างเอาแต่ใจ ลิ้นร้อนไล้วนตวัดรอบเม็ดทับทิมสีหวาน รวบดูดรุนแรง ใบหน้าหล่อเหลากดแนบไปกับอกอวบ ซุกไซ้อย่างหลงใหล“อื้อ...พี่ก้อง” ปานรักโหมสะโพกแรงตามอารมณ์หวามที่ทะยานจนใกล้ถึงปลายทาง หญิงสาวครางแว่วหวาน สลับการการเรียกชื่อสามี ใบหน้างามส่ายสะบัดจนผมยาวสยายเต็มหลัง ก้องภพละมือจากอกอวบ รวบเอวคอดไว้แน่น ขณะที่ทั้งเขาและภรรยาขยับโยกในจังหวะรุกรับรุนแรง ชายหนุ่มซุกใบหน้าลงคลุกเคล้ากับอกอวบดีดเด้งตรงหน้า สูดดมและขบเม้มเบาๆ เพิ่มความเสียวปลาบให้ร่างเล็กจนต้องครวญครางซ้ำ บทเพลงรักบรรเลงไปตามท่วงทำนองร้อนเร่า ต่างเติมเต็มให้กันและกันด้วยไฟปรารถนา“ปานน่ารักที่สุด ที่รักของพี่...อา” ก้องภพเกร็งสะโพกรับการโห
“ไม่เหนื่อยสักนิดครับ แต่คิดถึงเมียแทบขาดใจ” แก้มสาวแดงเรื่อท่ามกลางแสงไฟสลัวภายในห้อง ปานรักจึงพลิกกายนอนตะแคงหันหลังให้ หนีแววตาคมปลาบที่จ้องมองไม่วางตานั้น ก้องภพเอนตัวลงสอดกายลงใต้ผ้าห่มอุ่นผืนเดียวกับภรรยา เขาวาดวงแขนไปโอบกอดร่างเล็กที่นอนหันหลังให้“น้องปานบอกว่าจะตามใจพี่ทุกอย่าง” ปฏิบัติการทวงสัญญาขาหื่นเริ่มขึ้น พูดจบก็เป่าลมร้อนใส่หูเล็ก พร้อมทั้งขบเม้มเบาๆสร้างความปั่นป่วนให้คนที่นอนใจเต้นแรงอยู่อย่างห้ามไม่ได้ ปานรักหดคอเล็กน้อย“ใครสัญญาอะไรหรือคะ ปานไม่เห็นรู้เรื่อง” หญิงสาวอมยิ้มขณะที่ตอบกลับมา“หืมมม...จำไม่ได้จริงๆเหรอ” ก้องภพพลิกกายขึ้นทาบทับภรรยา สบตายตาถามเอาคำตอบ“จำไม่ได้ค่ะ” ปานรักเบี่ยงหน้าหนีไม่กล้าสบสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา กายสาววูบวาบ แก้มนวลร้อนผ่าว“แน่ใจเหรอว่าจำไม่ได้” ขาแกร่งบดเบียดขาเรียวจนแยกกว้าง ก้องภพแทรกตัวเองไปอยู่ระหว่างขาเรียวนั้น บดเบียดความแข็งขึงกับกลางร่างสาว ในนาทีนั้นเองที่ปานรักเพิ่งสังเกตว่าสามีของเธออยู่ในสภาพเปลือยกาย เขาถอดกางเกงออกตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย หญิงสาวทุบบ่ากว้างเบาๆ หันมาสบสาย
เมื่อถึงฤกษ์ส่งตัวเข้าหอ บิดามารดาและญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็พากันกล่าวคำอวยพร และคำอวยพรที่เจ้าสาวต้องหน้าแดงแล้วหน้าแดงอีก เห็นจะหนีไม่พ้น ขอให้มีลูกเร็วๆ และขอให้มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองนั่นแหละ“พ่อฝากน้องด้วยนะก้อง พ่อเชื่อว่าป้องจะดูแลปานแทนพวกเราได้ ขอบใจมากที่ช่วยทำให้ครอบครัวของเรากลับมามีความสุขอีกครั้ง” อานนท์ตบบ่าลูกเขยที่นั่งคู่กับลูกสาวอยู่บนพื้นห้องเบาๆ“ผมสัญญาว่าจะดูแลน้องปานด้วยชีวิตของผมครับ” ก้องภพสบตาผู้สูงวัยกว่าด้วยแววตาแน่วแน่“หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะลูก” ปรางทิพย์เอ่ยสำทับ คู่บ่าวสาวก้มลงกราบผู้สูงวัยทั้งสองที่ออกจากห้องหอทีหลังสุด ถึงแม้จะเคยอวยพรเคยกล่าวคำฝากฝังลูกสาวมาแล้วในพิธีการครั้งแรก แต่คนเป็นพ่อแม่ก็ยังอยากย้ำอีกครั้ง ด้วยความที่ลูกสาวเจอะเจอเรื่องราวร้ายแรงมา จนแทบไม่ยอมรับรู้เรื่องราวอะไรรอบกาย แต่เพราะผู้ชายใจดีตรงหน้าเฝ้าถนอมและดูแลกันมาจนปานรักหายขาดจากอาการป่วย อานนท์และปรางทิพย์จึงไม่ลังเลสักนิดที่จะยกลูกสาวให้ชายหนุ่มดูแลสองหนุ่มสาวนั่งสบตากันบนพื้นห้องสวีตชั้นสูงสุดของโรงแรม ซึ่งถูกจัดแต่งเป็นห้องหอ อบอ
ก้องภพจับมือนุ่มของภรรยาเดินกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน ปานรักยิ้มเขินเมื่อถูกเอ่ยแซวจากญาติสนิท แก้มสาวแดงเรื่อแววตาเขินอายสบสายตาสามีเป็นระยะ เขาและเธอเข้าพิธีแต่งงานและจดทะเบียนสมรสกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากวันที่ก้องภพคุกเข่าขอแต่งงานเพียงสองเดือนเท่านั้น พิธีแต่งงานแบบไทยที่เรียบง่ายถูกจัดขึ้นที่บ้านณปาย ตามความประสงค์ของบิดาและมารดาของฝ่ายเจ้าสาว หากแต่มารดาของเจ้าบ่าวอยากจัดพิธีฉลองสมรสที่โรงแรมของตนด้วย สามีภรรยาป้ายแดงจึงต้องทำตามความประสงค์ของมารดาอย่างเลี่ยงไม่ได้“เหนื่อยไหมครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างห่วงใย เจ้าสาวยิ้มหวานส่ายหน้าแทนคำตอบ“คุณแม่เตรียมห้องสวีตไว้ให้ใช้เป็นห้องหอ เมื่อไหร่จะถึงเวลาส่งตัวเข้าหอสักทีนะ” นิ้วเรียวเล็กบิดเบาๆที่เอวของคนถามหาเวลาเข้าหอ สีหน้าเจ็บเกินจริงของเขาช่างหน้าหมั่นไส้นัก“ใจร้าย ทำร้ายร่างกายสามี” ก้องภพโอดเบาๆ“จะมาพูดถึงเวลาเข้าหออะไรตอนนี้ งานเพิ่งเริ่มเองนะคะ”“ก็พี่อยากเข้าหอกับน้องปานแล้วนี่”“บ้า ไม่ใช่เข้าหอครั้งแรกสักหน่อย” แก้มสาวแดงเรื่ออุบอิบเถียงสามี“จะครั้งไหนพี
“พี่รักม่อน พี่รักม่อน” ต้นตะวันถอดถอนกายออกแล้วพลิกร่างภรรยากลับมากอดไว้แน่น บอกรักขณะที่ริมฝีปากทั้งสองอยู่ชิดกัน มุทิตาโอบรอบลำคอหนา ก้มหน้าหนีริมฝีปากช่างจูบเอาแต่ใจนั้น หญิงสาวซุกหน้ากับอกกว้าง รอยยิ้มเปื้อนเต็มดวงหน้าหวาน“ม่อนก็รักพี่หมอค่ะ” มุทิตาบอกรักสามีเสียงหวานคืนนั้นที่เธอตกเป็นของเขา มันไม่ใช่การพลาดพลั้ง แต่มันคือพรหมลิขิตต่างหาก พรหมลิขิตที่ชักนำให้สองหัวใจผูกพัน จนกลายเป็นความรักที่สวยงาม“หลับหรือยังครับที่รัก” ปัณณธรเอนตัวลงนอนเคียงข้างภรรยา แล้วกระซิบถาม อินนัดดาพลิกตัวกลับมายิ้มให้สามี“หลับแล้วค่ะ” นิ้วเรียวดีดหน้าผากมนเบาๆ แต่กระนั้นก็เรียกเสียงโอดโอยจากคนโดนกระทำได้“โอ๊ย! พี่ปัณอ่ะ หนูเจ็บนะ” ปัณณธรยิ้มแล้วจูบหน้าผากมนแผ่วเบา“ก็อินกวนนี่นา” วงแขนแกร่งกอดร่างเล็กแน่น อินนัดดาดิ้นรน เพราะเธอสัมผัสได้ว่าสามีกำลังจะทำมิดีร้ายกับตัวเอง“ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวน้องโปรดตื่น” ปัณณธรหัวเราะเบาๆ“นิดเดียวนะ พี่ใจจะขาด” ชายหนุ่มผละจากร่างนุ่มนิ่ม ลงไปยืนข้างเตียง แล้วดึงผ้าห่มลงไปปูที่พื้นหน้าตาเฉย“พี่ปัณ!” อิ
“ที่จริงบ้านสวนมึงก็มีนะ วันหลังเชิญไปพักที่บ้านตัวเองเลย” ปัณณธรยังไม่วายจิกกัดเพื่อต่อ จึงโดนภรรยาตีที่แขนเบาๆ“พี่ปัณพอแล้วค่ะ คุยกันดีๆไม่เป็นหรือไง”“ใช่ค่ะ เจอกันทีไรก็อย่างนี้ตลอด ทีหลังม่อนจะไม่มาด้วยแล้ว” ต้นตะวันกอดร่างภรรยาแน่นขึ้น โยกตัวช้าๆราวกับจะปลอบใจ“โอ๋ๆ ไม่กัดกันแล้วครับ อย่างอนนะที่รัก” มุทิตาถอนหายใจกับท่าทางเอาใจของสามี เขาไม่เคยอายที่จะสาดความหวานใส่เธอ แต่คนโดนปฏิบัตินี่สิ อายจนไม่รู้จะอายยังไงแล้วหนุ่มสาวสองคู่นั่งคุยกันเรื่อยๆ จนก้องภพและปานรักขึ้นมาสมทบ หนุ่มสาวคู่ใหม่ที่ร่วมโต๊ะ ดูกระอักกระอ่วนใจที่ต้องมานั่งมอง ภาพคู่สามีภรรยาสวีตกันแบบไม่เกรงใจฟ้าดิน อินนัดดากับมุทิตาเกรงใจและหน้าไม่หนาพอเท่าสามี จึงพากันขอตัวเลี่ยงไปดูลูกที่นอนหลับอยู่ในห้อง ก้องภพและปานรักนั่งร่วมโต๊ะอยู่ครู่เดียวก็พากันขอตัวแยกย้ายไปนอน“ไม่น่าเชื่อว่ะ” ต้นตะวันยกแก้วน้ำสีอำพันขึ้นจิบแล้ววางลงที่โต๊ะ“อะไรไม่น่าเชื่อ”“อ้าว...ก็มึงกับอินไง กูเห็นขึ้นต้นแค้นแทบตาย แต่มาลงท้ายว่ารักหมดใจเนี่ย” ปัณณธรหัวเราะชอบใจกับคำพูดของเพื่อน
“น้องปานจะกลับบ้านณปายเลยจริงๆเหรอครับ” ก้องภพได้มีโอกาสคุยกันสองต่อสองกับหญิงสาว หลังจากอาหารมือค่ำจบลง สองหนุ่มสาวเดินลงจากเรือนมานั่งคุยกันที่ศาลาริมน้ำ“ก็คงกลับเลยค่ะพี่ก้อง ปานไปอยู่กระบี่ตั้งเกือบสามเดือนแล้ว คุณพ่อคุณแม่ท่านเป็นห่วง” ปานรักยิ้มให้กับคนที่นั่งอยู่เก้าอี้ยาวตรงข้ามกับตน“ไม่เห็นต้องเป็นห่วงอะไรเลย พี่ดูแลน้องปานได้” ก้องภพจ้องหน้าหญิงสาวนิ่ง เขาอกจะแตกตายอยู่แล้ว รอมาตั้งเกือบสามปี จนหญิงสาวเรียนจบ แล้วไปฝึกงานที่โรงแรมของพ่อเลี้ยงที่ยกให้เขาดูแลบริหารกิจการทั้งหมดแล้ว นี่ปานรักไม่เห็นใจเขาบ้างเลยเหรอ“เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย พี่ก้องจะมาดูแลปานได้ยังไง” แก้มนวลแดงเรื่อ ก้มหน้าซ่อนความอาย“โธ่ น้องปาน พี่รักน้องปานนะครับ แล้วก็รอมานานแล้วด้วย ไม่รู้ล่ะ ถ้าปานจะไปเปิดรีสอร์ตที่ปายจริงๆ พี่ก็จะตามไปอยู่ด้วย” ปานรักเงยหน้ามองผู้ชายที่เคยมาดนิ่ง แล้วอยู่ดีๆจะงอแงเอาแต่ใจกับเธอ“แล้วโรงแรมพี่ก้องล่ะคะ ใครจะดูแลให้”“ก็...ให้คุณแม่กลับมาดูแลเหมือนเดิม” เขาตอบแบบไม่ต้องคิดเลย“บ้า...คุณแม่พี่ก้องอายุเยอะแล้
“พี่ปัณขี้โกง อื๊อ!” ปากเล็กถูกประกบจูบดูดดื่ม ขาเรียวถูกท่อนขาแกร่งแทรกลงตรงกลาง ไม่จำเป็นต้องอุ่นเครื่องใดๆ เพราะร่องรักของภรรยาชุ่มฉ่ำรอเขาอยู่แล้ว ปัณณธรกดแทรกลึกในคราเดียว สะโพกสอบโหมแรงอย่างเอาแต่ใจ ทั้งลูบไล้เคล้นคลึงไปทั่วร่างเนียนนุ่ม อินนัดดาบิดเร่าไปกับสัมผัสร้อนแรงของสามี อยากจะท้วงเหลือเกินว่าสองเดือนที่ผ่านมาเขาน่าจะทะลุเป้าแล้วนะ ถ้านับรวมบทรักด่วนที่เขาจัดอยู่บ่อยๆ แม้ในช่วงเวลาเร่งรีบเขาก็สามารถส่งเธอไปยังวิมานแสนหวานได้ และนำพาตัวเองตามไปติดๆทุกครั้ง แต่ก็เอาเถอะ...เธอยอม ยอมทุกอย่างที่ปัณณธรต้องการ เพราะถึงแม้เขาจะเรียกร้องเอาแต่ใจ แต่ทุกครั้งทุกสัมผัสหวามไหวจากสามี เธอเองก็รู้สึกชอบ และเริ่มจะหลงใหลจนถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้วการเริ่มต้นระหว่างปัณณธรกับเธออาจจะไม่งดงาม ออกจะโหดร้ายด้วยซ้ำ แต่ด้วยความผูกพันและรู้จักการให้อภัย จากไฟแค้นที่พร้อมจะแผดเผาหัวใจให้มอดไหม้ กลับหลอมรวมหัวใจเธอกับเขาให้เป็นหนึ่งเดียวได้ นับจากนี้ไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หัวใจสองดวงที่กลายเป็นหนึ่งเดียวกันนี้จะคงมั่นต่อกันตลอดไป“คุณหนูโปรดขาระวังค่า” เสี
“อินจ๋า ขยับหน่อยสิ รัดแน่นอย่างนี้พี่จะทนไม่ไหวแล้ว” อินนัดดาพ่นลมออกจากปากเบาๆ หญิงสาวเริ่มควบขับสามีเริ่มจากจังหวะช้าเนิบนาบ มือหนาของปัณณธรจิกลงบนที่นอนแน่น สะโพกสอบแอ่นรับทุกจังหวะที่ภรรยากดกระแทกลงมา“อื้อ! พี่ปัณขา” อินนัดดาเริ่มควบส่ายสะบัดสะโพกเร็วขึ้น ความเสียดเสียวก่อตัวขึ้นอยู่กลางร่าง ยิ่งบดเบียดแนบชิด ยิ่งซ่านกระสัน เร่งโหมสะโพกเข้าหาเพื่อไขว่คว้าความสุขที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม จนคนที่ถูกควบขี่อยู่ก็เข้าใกล้เส้นชัยแล้วเหมือนกัน มือหนาจึงเลื่อนมากอบกุมสะโพกมนบังคับจังหวะเอาแต่ใจ อินนัดนาจึงตีสุดแรง พร้อมกับเสียงตวาดว่าสามี“พี่ปัณ อยู่เฉยๆ” คนอยู่ด้านบนโหมแรงทั้งหมดที่มีกดสะโพกลงเต็มแรงแล้วยกขึ้นรวดเร็ว เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังแข่งกับเสียงครวญครางของสองร่าง“พี่ปัณ พี่ปัณ หนูไม่ไหวแล้วค่ะ” อินนัดดาบอกเสียงกระเส่า“พร้อมกันนะครับอิน พี่รักอิน พี่รักอิน” ปัณณณธรแอ่นสะโพกค้างรอรับการกดกระแทกจากคนบนร่าง มือหนาจิกที่นอนแน่น สายตาจับจ้องใบหน้างามของภรรยาที่ส่ายสะบัดเริงร่าอยู่บนตัวเขา สะโพกสวยเร่งรัวอีกไม่กี่ครั้งสองร่างก็ระเบิดพร่าง ไขว่คว้าดาว