เช้าวันรุ่งขึ้น รินรดากับกนกอรเดินทางมายังสำนักงานเขตตามที่นัดหมาย โดยเจตต์อาสาขับรถมาให้ รินรดาเหม่อมองออกไปนอกรถ ก่อนที่เธอจะสะดุ้งเมื่อเสียงของกนกอรดังขึ้น ทันทีที่รถจอดสนิท
“พี่เจตต์ ไม่ต้องเข้าไปหรอกค่ะ รอพวกเราอยู่ในรถดีกว่า แค่นี้อรจัดการได้”
“จะดีเหรอครับ”
“ดีค่ะ”
“งั้นถ้าเสร็จเรื่องแล้ว พี่จะพาน้อง ๆ ไปเลี้ยงฉลองกันดีไหมครับ”
“ระรินก็อยากไปนะคะพี่ แต่ว่าระรินห่วงลูกน่ะค่ะ ระรินอยากรีบกลับไปดูลูกมากกว่า”
“โธ่แก ไม่เห็นจะยากเลย เราก็ไปหาซื้อของกินอร่อย ๆ แล้วก็หอบไปกินกันกับหนูน้ำฟ้ายังไงล่ะดีไหม”
“ฉันกลับคิดว่าพรุ่งนี้น้ำฟ้าก็จะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ทำไมไม่รอให้ลูกออกมาก่อน แล้วเราค่อยไปทำหม
“หมายความว่ายังไง อย่าเพิ่งเซ็น นี่จะตุกติกเหรอ” สรวิชญ์เสียงเข้มอย่างไม่สบอารมณ์ “พี่ต้นคะ ฉันไม่ได้คิดจะตุกติกอะไรหรอก แต่เพื่อนฉันจะเซ็นได้ยังไง ในเมื่อเงินสิบล้านบาทที่ตกลงกันยังไม่เข้าบัญชีแม้แต่บาทเดียว” “งก หน้าเลือด” เสียงแหวของกวินนาถสวนกลับด้วยความขัดใจ “ไม่ได้หรอกค่ะ ฉันต้องรักษาผลประโยชน์ของเพื่อน ถ้าเกิดเพื่อนฉันเซ็นไปแล้ว คุณเกิดตุกติกไม่โอนเงินให้ เพื่อนฉันก็ชวดเงินสิบล้านสิคะ ใครจะไปรู้ คำพูดคนบิดพลิ้วได้ตลอดแหละค่ะ เพราะฉะนั้น ระรินจะยังไม่ยอมเซ็นจนกว่าเงินจะเข้าบัญชีสิบล้าน” “นี่ฉันไม่เบี้ยวหรอก เซ็น ๆ ให้เรียบร้อย เดี๋ยวฉันจัดการโอนเงินให้ทีหลัง” “ไม่ได้ค่ะ...ยื่นหมูยื่นแมว เงินต้องโอนเข้าบัญชีก่อน ระรินถึ
“มึงจะไปไหนไอ้เจตต์”สรวิชญ์อาศัยจังหวะที่เจตต์ไม่ทันระวังตัว เขากระชากไหล่เจตต์หันกลับมา ก่อนที่ตัวเองจะซัดกำปั้นไปที่ใบหน้าของเจตต์ในเวลาต่อมาบริเวณหน้าเขตก็กลายเป็นสมรภูมิชกต่อยของสองอดีตเพื่อนรัก โดยมีรินรดากับกวินนาถคอยช่วยห้ามปราม ก่อนที่จะมีผู้คนมากมายกรูกันมาดูแล้วจับทั้งสองแยกจากกันและขู่ว่าจะแจ้งตำรวจ ทำให้สรวิชญ์และเจตต์ต้องแยกย้าย“อีระริน ในเมื่อมึงมีชู้ มึงเอาเงินสิบล้านของกูคืนมา”สรวิชญ์ยังไม่วายชี้หน้าด่ารินรดาด้วยความแค้นเคือง โดยมีกวินนาถคอยรั้งร่างสูงสุดแรง“ฉันไม่คืน เพราะเงินสิบล้านนี่แลกกับใบหย่า ในเมื่อตอนนี้ เราหย่ากันแล้ว คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาหึงหวงหรืออ้างความเป็นเจ้าของอีก ตอนคุณมีเมียใหม่ ฉันยังไม่ยุ่งเรื่องของคุณเลย เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ ถ้าฉันจะคบใคร คุณก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่งเรื่องของฉัน ไปค่ะพี่เจตต์ เรากลับกันเถอะค่ะ”รินรดาช่วยประคองเจตต์ลุกขึ้น ก่อนจะพาเดินไปที่รถ มีกนกอรเดินตามทั้งสองไปติด ๆ สรวิชญ์ได้แต่มองตามด้วยความคับแค้นใจที่เสียรู้จนต้องเสียเงินให้อีกฝ่าย แทนที่เงินจะเข้ากระเป๋าเขา&nbs
หลังจากไปส่งกนกอรที่สถาบันและพารินรดากลับบ้านแล้ว เจตต์จึงกลับไปยังบ้านของตน ชายหนุ่มยืนมองใบหน้าที่ฟกช้ำอยู่หน้ากระจกแต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ทำอะไรไปมากกว่านี้ ทันใดนั้นเสียงออดหน้าประตูก็ดังขึ้น พอเขาเดินออกมาก็เห็นรินรดากำลังยืนอยู่หน้ารั้วในมือถือกล่องปฐมพยาบาล แต่ยังไม่ทันจะถามอะไรอีก อีกฝ่ายก็เป็นคนชิงพูดขึ้นเสียก่อน “ระรินมาทำแผลให้พี่เจตต์ค่ะ” “ขอบคุณมากครับ แต่น้องระรินไม่เห็นต้องลำบากเลย” “ไม่ลำบากอะไรเลยค่ะ ถ้าระรินไม่ทำแผลให้พี่เจตต์คงจะรู้สึกผิดแย่” “งั้นเข้ามาในบ้านก่อนสิครับ” เจตต์พาหญิงสาวเดินเข้ามาในรั้วบ้านผ่านสวนที่เขายังทำไม่เสร็จ“พี่เจตต์กำลังทำสวนใหม่เหรอคะ”“อ๋อ ค
“ขอโทษด้วยนะคะคุณแม่ ต่อไปนี้หนูคงไม่ได้ไปดูแลคุณพ่อคุณแม่อีกแล้ว เพราะตอนนี้หนูกับพี่ต้น เราหย่ากันเรียบร้อยแล้วค่ะ” รินรดาถือสายโทรศัพท์ฟังอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะวางลงดวงตาที่สดใสเมื่อครู่ สลดลงพร้อมกับน้ำตาคลอที่เจ้าตัวพยายามสะกดกลั้นไม่ให้ไหลออกมา “มีอะไรเหรอครับน้องระริน แม่ไอ้ต้นทำไมเหรอครับ” “ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่ต้น ระรินแค่สงสารพ่อแม่ของพี่ต้นน่ะค่ะ เมื่อก่อนเวลาท่านป่วยหรือไม่สบาย ระรินก็เป็นคนคอยดูแลพาไปหาหมอ ท่านไม่รู้เลยว่าระรินกับพี่ต้นหย่ากัน และทางนั้นก็มีคนใหม่ไปแล้ว ไม่รู้ต่อไปจะเป็นยังไงบ้างนะคะ” “พี่เข้าใจครับ แต่พี่ว่ารอเวลาผ่านไปสักพัก ทุกอย่างก็คงจะเข้าที่ พี่อยากให้ระรินปล่อยวาง เราไม่สามารถช่วยได้ทุกคน ตอนนี้ไอ้ต้นมันมีคนใหม่แล้ว ต่อไปก็ควรเป็นหน้าที่มันที่ต้องดูแลพ่อแม่ตัวเอง เราไม่เกี่ยวแล้วล่ะครับ”&
“ไม่หรอกค่ะคุณพ่อ พี่ต้นรักลูกจริง ๆ ขนาดเงินที่ลูกออกเป็นค่าหย่าให้ พี่ต้นยังจะผ่อนจ่ายเลยค่ะ”“เงินค่าหย่า! เงินอะไร” หทัยรัตน์ถามเสียงสูง “แล้วเงินค่าหย่ามันเกี่ยวอะไรกับลูก ทำไมลูกต้องเป็นคนออก”“อันที่จริงก็ไม่ได้เกี่ยวหรอกค่ะ แต่ทางผู้หญิงเรียกเงินสิบล้าน แลกกับการไม่ฟ้องร้อง แถมยังขู่ด้วยว่าถ้าไม่อยากให้เรื่องเป็นเมียน้อยรู้ไปถึงหูนักข่าว ให้จ่ายเงินมาสิบล้าน ไม่อย่างนั้นก็เจอกันที่ศาล”“ลูกก็เลยออกเงินแทนมันงั้นเหรอ”“ก็พี่ต้นเขามีเงินไม่พอนี่คะ หนูก็เลยออกเงินให้ก่อน แต่พี่ต้นก็สัญญานะคะว่าจะทยอยใช้คืนให้”“ทยอยคืน...เงินตั้งสิบล้าน อีกกี่ปีกี่ชาติจะคืนครบ ลูกหนอลูก โตแต่ตัวจริง ๆ แล้วนี่ได้ทำเอกสารสัญญาการกู้ยืมไว้หรือเปล่า”“ทำไมต้องทำด้วยล่ะคะคุณพ่อ เราสองคนรักกันยังไงก็จะแต่งงานกัน เงินแค่นี้...หาเดี๋ยวเดียวก็ได้แล้ว”“แล้วเราเอาเงินสิบล้านมาจากไหน ถ้าพ่อเดาไม่ผิด เงินของลูกน่าจะมีไม่ถึงสิบล้านด้วยซ้ำ”“มีไม่ถึงหรอกค่ะ แต่ยี่หวาเอาเงินของบริษัทโอนไปก่อน” คำตอบของกวินนาถ ทำให้เดชาโกรธจัดจนควันออกหู“อะไรนะ! ท
หลังจากรินรดาจัดการเก็บข้าวของต่าง ๆ ของสรวิชญ์เรียบร้อยแล้ว เธอก็นำไปบริจาค ส่วนอันไหนที่บริจาคไม่ได้เธอก็ทิ้งลงถังขยะ ก่อนที่น้ำฟ้าจะออกจากโรงพยาบาลในคืนหนึ่งหลังจากน้ำฟ้าออกจากโรงพยาบาล รินรดา พรพรรณ กนกอร และเจตต์ ช่วยกันจัดเตรียมปาร์ตี้หมูกระทะไว้ที่ลานบ้านของรินรดา โดยมีเจตต์เป็นเจ้ามือเลี้ยงทุกคน กอไผ่ลูกชายของกนกอร ในวัยห้าขวบ กำลังนั่งเล่นของเล่นกับน้ำฟ้าหัวเราะคิกคักกันอย่างสนุกสนาน ขณะที่พวกผู้ใหญ่ก็ช่วยกันตระเตรียมอาหารสำหรับมื้อเย็น โดยมีเพลงบรรเลงคลอเบา ๆ สร้างสีสันในยามค่ำคืน “นี่อร แล้วทำไมพี่แดนไม่มาด้วยล่ะ”รินรดาถามขึ้นขณะที่กำลังช่วยกันเตรียมของกิน ขณะที่สายตาของเธอก็คอยมองเด็ก ๆ “พี่แดนกำลังยุ่งน่ะสิ ช่วงนี้มีคดีใหญ่เข้า เห็นกำลังนั่งอ่านเอกสารเป็นปึก เลยฝากขอโทษทุกคนด้วย แล้วก็ฝากนี่มาให้ทุกคน
สามเดือนผ่านไป สรวิชญ์หางานใหม่ได้เป็นพนักงานตำแหน่งเล็ก ๆ ในบริษัทแห่งหนึ่ง รายได้ที่เคยมีก็ลดลงมากว่าครึ่ง ขณะที่ยี่หวาพยายามสมัครงานเท่าไหร่ก็ไม่ถูกใจ เพราะแต่ละที่ให้เงินเดือนเธอน้อยกว่าที่เธอจะยอมรับได้“ยี่หวา ยังไม่ได้งานอีกเหรอ”สรวิชญ์ถามในเย็นวันหนึ่งหลังจากเขากลับมาจากที่ทำงานด้วยความเหนื่อยอ่อน เมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังนั่งกินขนม และดูหนังอย่างเพลิดเพลิน ขณะที่ภายในห้องสกปรกรกรุงรัง เสื้อผ้าถูกถอดทิ้งวางกระจัดกระจาย ถังขยะเต็มถังมีแมลงวันบินว่อน แม้แต่ในอ่างล้างจานก็มีจานใช้แล้วกองพะเนินไว้เต็มอ่าง เรียกได้ว่าอีกฝ่ายไม่คิดจะหยิบจับอะไรเลยสักอย่าง ทำให้สรวิชญ์สายหน้าด้วยความระอา‘นี่กูหาเมีย หรือหาภาระมาเพิ่มกันแน่วะ’เขาคิดด้วยความกลัดกลุ้มทำไมทุกอย่างไม่เป็นเหมือนที่หวังไว้ แทนที่จะเข้ามาช่วยทำให้เขาสบายขึ้น ตอนนี้อีกฝ่ายกลับมาถ่วงชีวิตเขาให้ลำบากกว่าเดิมเสียอีก“ไม่มีงานอะไรถูกใจเลยค่ะพี่ต้น บริษัทใหญ่เสียเปล่าแต่งกชะมัด เงินเดือนก็ให้น้อย แต่จะให้ทำงานเยอะ ๆ นี่มันเอาเปรียบกันชัด ๆ”“แต่พี่ว่าที่รักลองเลือ
สรวิชญ์ปาธนบัตรใบละร้อยบาทสองใบไปที่ใบหน้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ตัวเองจะรีบผลุนผลันเดินออกไปจากห้อง โดยมีเสียงกรีดร้องของกวินนาถดังตามหลังมาด้วยความไม่พอใจเขาไม่คิดเลยว่าการได้มาใช้ชีวิตอยู่กับกวินนาถจริง ๆ แทนที่ความรักจะสดใส กลับกลายเป็นความทุกข์ยิ่งกว่าเก่า อนาคตที่หวังว่าจะได้เป็นเขยเศรษฐีสุขสบายอยู่บนกองเงินกองทอง ดูท่าจะไม่มีวันเกิดขึ้น ชั่วขณะหนึ่งเขาก็นึกถึงใบหน้าหวานของเมียเก่าขึ้นมา ความรู้สึกผิดจู่โจมเข้ามาในหัวใจ แต่เขาก็ไม่หน้าด้านพอจะกลับไปหา ชายหนุ่มทำได้เพียงกอดพวงมาลัยรถร่ำไห้ระบายความทุกข์ออกมาสรวิชญ์ขับรถไปเรื่อย ๆ จนไปจอดอยู่หน้าบ้านของรินรดา ในเวลาสี่ทุ่มกว่า เขาเห็นไฟในบ้านมืดสนิทก็พอรู้ว่าอีกฝ่ายพาลูกเข้านอนเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มได้แต่เฝ้ามองบ้านหลังเดิมที่เขาเคยอยู่กับรินรดาและลูกด้วยความคิดถึงเรื่องราวแต่หนหลังชั่วระยะเวลาไม่นาน เขาเห็นไฟในห้องทำงานของเธอเปิดขึ้น ก่อนจะเห็นเงาร่างของรินรดาเดินมาที่โต๊ะทำงานของตัวเอง และนั่งลงทำงานเหมือนเช่นทุกครั้ง“ระริน...พี่ขอโทษ”สรวิชญ์ทำได้แต่มองจากในรถบนถนนหน้าบ้าน โดยที่เขาไม่ก
“สั่นเหรอครับ พี่ไม่เห็นรู้สึกเลยแฮะ” “นี่ไงคะ มือพี่เจตต์สั่นจริง ๆ ด้วย”หญิงสาวจับมือเขาไว้พลางชูขึ้นทำให้อีกฝ่ายมองมือเจ้ากรรมที่ดันสั่นระริกด้วยความประหม่าใบหน้าแดงก่ำ “พี่ว่า พี่คงเขินน้องระรินมากกว่าน่ะครับ” “เขินระรินเนี่ยนะคะ” “น้องระรินแต่งตัวสวยแบบนี้ จะไม่ให้พี่ตื่นเต้นได้ยังไงกันครับ อีกอย่างน้องระรินรู้ตัวไหมครับ วันนี้พอน้องระรินยิ้มให้พี่ทีไร หัวใจของพี่ก็สั่นไหวเหมือนจะควบคุมไม่อยู่ทุกที” “พี่เจตต์...”ยังไม่ทันที่รินรดาจะทันได้พูดสิ่งใด ประตูลิฟต์ก็เปิดออก ก่อนจะมีป้ายบอกทางไปยังชั้นดาดฟ้าของโรงแรม ทันทีที่รินรดามองขึ้นไปด้านบน เธอเ
“แหม! พูดมาตั้งนาน หรือว่า...น้าอ้อยมีหนุ่มมาจีบเหรอคะ ถึงได้พูดเรื่องเนื้อคู่แบบนี้”รินรดาหัวเราะคิกคักชอบใจ ทำให้อีกฝ่ายบ่นอุบ “โอ๊ย! ทำมาเป็นพูด ชาตินี้น้าไม่เอาผัวเด็ดขาด แค่เห็นชีวิตของพี่ปราง และชีวิตของระริน น้าก็เข็ดขยาดแทนแล้ว กลัวตัวเองจะเลือกผัวผิดไปเจอผู้ชายเฮงซวยเข้าน่ะสิ แต่จะว่าไปเจตต์คงจะเป็นเนื้อคู่ของระรินล่ะมั้ง ดูสิ ขนาดแคล้วคลาดจากกันไปแล้ว ก็มีเหตุให้วนกลับมาอยู่บ้านติดกัน จนมาคบกันแบบนี้ และเขาก็บังเอิญเข้ามาช่วงที่ระรินเดือดร้อนทุกครั้งเลยสิ ถ้าแบบนี้ไม่ใช้เนื้อคู่ แล้วจะเรียกว่าอะไรล่ะ” “หวังว่าจะไม่ใช่คู่เวรคู่กรรมอีกนะคะ”“โอ๊ย อย่างเจตต์นี่ไม่ใช่คู่เวรคู่กรรมหรอก น่าจะเป็นคู่สร้างคู่สมหรือคู่แท้มากกว่าล่ะมั้ง”สองสาวพูดคุยหัวเราะกันสนุกนาน จนพรพรรณเหมือนนึกบางอย่างขึ้นมาได้ เธอจึงเอ่ยขึ้น“เออ...น้าลืมเล่าให้เราฟัง วันก่อนน้าได้รับข่าวพ่อของเราจากเพื่
หลังจากที่เดินทางมาถึงจังหวัดกระบี่ เจตต์ก็พาทุกคนไปเช็กอินที่โรงแรมซึ่งได้จองไว้ โดยเขาได้จองหนึ่งห้องเตียงคู่ พร้อมเตียงเสริมให้รินรดา พรพรรณและน้ำฟ้าพักอยู่ด้วยกัน ส่วนตัวเองพักอยู่อีกห้องข้าง ๆเขาพาทั้งสามคนไปทำบุญที่วัดในจังหวัดกระบี่ เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับสรวิชญ์ หลังจากทำบุญเรียบร้อยแล้ว น้ำฟ้าจับมือรินรดาสลับกับจับมือของเจตต์แล้วหัวเราะคิกคัก ก่อนที่เขาจะพาทุกคนขึ้นรถตู้และพาไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารริมชายหาดซึ่งเขาจองไว้ก่อนหน้าบรรยากาศบนโต๊ะอาหารอบอวลไปด้วยความสุขและความสนุกสนานครื้นเครง เสียงหยอกล้อหัวร่อต่อกระซิกท่ามกลางคนที่รักทำให้ความทุกข์ในใจของรินรดาค่อย ๆ จางหายไป ก่อนที่เจตต์จะพาทั้งสามคนไปเดินเล่นที่ชายหาดเจตต์วิ่งเล่นหยอกล้อกับน้ำฟ้า เด็กน้อยหัวเราะคิกคักชอบอกชอบใจก่อนที่เจตต์จะให้หนูน้อยขึ้นขี่คอพาวิ่งไปตามชายหาด และจบลงที่พากันเล่นก่อปราสาททราย โดยมีรินรดากับพรพรรณนั่งเฝ้ามองดูคนทั้งสองด้วยความสุขและอิ่มเอมใจ“ระริน เจตต์เป็นคนดีมากเลยนะ เข้ากับยัยหนูของเราได้ดี ผู้ชายแบบนี้หายากนะที่จะยอมรับเร
ทางด้านรินรดา หลังจากสรวิชญ์จากไปแล้ว เจตต์ก็เก็บกวาดขยะที่เกลื่อนถนนไว้ในถังขยะตามเดิม พอหันมาเห็นรินรดากำลังยืนพิงรถของตัวเองเหนื่อยหอบ มือของเธอยังถือสายยางที่น้ำยังคงไหลรินไม่ขาดสาย เขาก็พอเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายได้ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวพลางเอื้อมมื้อไปจับสายยางก่อนจะไปปิดน้ำและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย“ระรินต้องรีบไปประชุมค่ะ”“น้องระรินจะไปประชุมในสภาพแบบนี้เหรอครับ”“คือ...”“เดี๋ยวพี่โทรบอกน้องอรให้นะครับ น้องอรน่าจะเข้าใจ พี่ว่าน้องระรินเข้าไปนั่งพักในบ้านก่อนดีกว่าครับ”เจตต์ใช้เวลาไม่นานโทรบอกกนกอร ก่อนจะพารินรดาเข้าไปนั่งพักในบ้านของเธอ“แล้วนี่น้าอ้อยไม่อยู่เหรอครับ”“เห็นเมื่อเช้าน้าอ้อยบอกว่าจะไปทำธุระที่ห้างน่ะค่ะ น้ำฟ้าก็ไปโรงเรียน โชคดีแล้วล่ะค่ะ จะได้ไม่ต้องมาเจอพี่ต้น ระรินอยากให้ลูกจำพ่อในแบบที่ดี ไม่ใช่แบบที่เราเห็นเมื่อกี้นี้เลยค่ะพี่เจตต์”“พี่เข้าใจครับ”เจตต์มองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาลึกซึ้ง ภายนอกเธอดูเข้มแข็งเสมอ หากเขากลับรู้สึกว่า ภายในจิตใจกลับอ่อนแอจนเขาอย
“เงินแค่นี้ กูไม่พอใช้หรอก มึงได้เงินไปตั้งสิบล้าน มึงเอามาแบ่งกูเดี๋ยวนี้ กูจะเอาส่วนแบ่งจากเงินนั่น”“ไม่มี ถึงมีกูก็ไม่ให้”สรวิชญ์ถลาเข้ามากระชากกระเป๋าถือในมือของเธอ ขณะที่อีกฝ่ายพยายามยื้อยุดฉุดกระชากไม่ยอมแพ้ ก่อนที่กระเป๋าจะหลุดจากมือกระเด็นไปอีกทาง สรวิชญ์รีบพุ่งตัวไปยังกระเป๋าของรินรดา แต่ยังไม่ทันที่เขาจะถึง ร่างสูงของสรวิชญ์ก็ถูกถีบโดยแรงก่อนจะกระเด็นกลิ้งไปบนพื้นถนน และเจตต์ก็ก้มเก็บกระเป๋าส่งคืนให้กับรินรดา“น้องระรินเป็นยังไงบ้างครับ”เจตต์รีบเข้ามาโอบประคองร่างบางที่กำลังสั่นเทาด้วยความตกใจปนโกรธจัด“ระรินไม่เป็นไรค่ะพี่เจตต์ นั่นพี่ต้นค่ะ”เจตต์หันไปมองร่างสกปรกที่พยายามประคองตัวเองลุกขึ้นมายืนอย่างทุลักทุเล เขาเพ่งมองอย่างไม่เชื่อสายตาเพราะสรวิชญ์ในตอนนี้ไม่หลงเหลือภาพความหล่อสมัยเป็นเดือนมหาลัยเหมือนในอดีตเลยสักนิด“นี่มึงจริง ๆ เหรอวะไอ้ต้น”“เออ เป็นกูแล้วยังไง มึงคงจะนึกสมเพชกูมากสินะที่มาเจอกูในสภาพแบบนี้”“ตอนแรกกูรู้ข่าวมึงกูก็ยังนึกสงสาร แต่พอเห็นมึงมาทำแบบนี้กับน้องระริน กูบอกตรง ๆ กูสงสารมึงไม
เที่ยงวันหนึ่งขณะที่รินรดารีบกลับมาที่บ้านเพราะลืมเอกสารสำคัญสำหรับงานประชุมในช่วงบ่าย จังหวะที่ขับรถมาถึงบ้าน เธอก็พลันเห็นผู้ชายคนหนึ่งแต่งตัวมอซอกำลังเกาะรั้วบ้านของเธอมองลอดเข้าไปด้านในรินรดาเพ่งมองเขาด้วยความแปลกใจปนหวาดระแวง ก่อนจะลงรถไปถาม“คุณมาหาใครเหรอคะ” เสียงทักของเธอทำให้เขาชะงักหันมาพร้อมกับถลาเข้ามาใกล้ ทำให้หญิงสาวรีบถอยกรูดด้วยความตกใจ“ระริน นี่พี่เอง พี่ต้นไง ระรินจำพี่ไม่ได้เหรอ”ใบหน้ามอมแมม ผมเผ้ารกรุงรัง กลิ่นตัวโชยหึ่งเหมือนคนไม่ได้อาบน้ำมาหลายวัน ทำให้รินรดาต้องเขม่นมองด้วยความแปลกใจ“นี่พี่ต้นจริง ๆ เหรอคะ”“ใช่ นี่พี่เอง”เขาใช้มือปัดผมบังหน้าออกก่อนจะส่งยิ้มหวานให้ หากสำหรับรินรดา หญิงสาวใช้เวลาพักใหญ่จึงแน่ใจว่าคนตรงหน้าเป็นสรวิชญ์ รอยยิ้มของเขาในตอนนี้ดูแสยะยิ้มมากกว่าจะหวานพิมพ์ใจเหมือนเมื่อก่อน เธอรีบถอยห่างด้วยความตกใจเพราะไม่คิดฝันว่าจะเจอเขาอีกในสภาพเช่นนี้“พี่ต้น...มาทำไมคะ”“พี่มาขอโทษหนู ระริน...พี่คิดถึงหนูมาก พี่ผิดไปแล้วให้อภัยพี่เถอะนะ พี่ขอโทษจริง ๆ อีนังนั่นม
เย็นวันรุ่งขึ้นหลังจากที่เจตต์ไปรับน้ำฟ้าที่โรงเรียนเสร็จแล้ว เขาก็ไปรับรินรดาตามที่นัดหมาย ก่อนจะพาสองแม่ลูกไปเที่ยวที่ห้างสรรพสินค้าเด็กน้อยจูงมือคนทั้งสองไปยังโซนของเล่นตามที่ตัวเองชอบโดยมีเจตต์คอยดูแลไม่ห่าง ก่อนจะเหนื่อยหอบไปนั่งกินไอศกรีมเจ้าโปรดที่หนูน้อยชอบเป็นพิเศษ เขาสั่งไอศกรีมสามถ้วยตามที่แต่ละคนต้องการระหว่างที่กำลังรอไอศกรีมมาเสิร์ฟ รินรดาก็ขอตัวไปห้องน้ำ โดยฝากน้ำฟ้าไว้กับเจตต์หลังจากที่รินรดาทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำเสร็จ เธอเห็นผู้หญิงคนหนึ่งใบหน้าคุ้นตาสวมแว่นสีดำ อันใหญ่ แต่พอเธอขยับจะเดินออกจากห้องน้ำ เสียงแผ่วเบาก็ดังมาจากด้านหลัง“คุณระรินใช่ไหมคะ” เสียงเรียกทำให้รินรดาชะงักก่อนจะหันมามองอีกฝ่ายด้วยความแปลกใจ“คุณคือ...”รินรดาพยายามเพ่งมองใบหน้าซูบหมองคล้ำแต่พยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก จนอีกฝ่ายต้องแนะนำตัว“ฉันยี่หวาเองค่ะ ฉันคงเปลี่ยนไปมากจนคุณจำไม่ได้สินะคะ”พออีกฝ่ายถอดแว่นกันแดดออก รินรดาถึงกับชะงักไปอึดใจ“นี
หนึ่งปีผ่านไป รินรดาใช้เงินสิบล้านที่ได้มาจากการหย่ากับสรวิชญ์ ส่วนหนึ่งจ่ายค่าบ้านและรถจนหมดหนี้สิน แล้วยังเหลือเงินจำนวนหนึ่ง เธอแบ่งเงินออกเป็นสามส่วน ส่วนหนึ่งสำหรับค่าเล่าเรียนของน้ำฟ้าในอนาคต อีกส่วนหนึ่งสำหรับร่วมลงทุนในสถาบันกนกรดา และอีกก้อนหนึ่งสำหรับเงินเก็บสำรองไว้เผื่อฉุกเฉินหญิงสาวตั้งใจทำงานเพื่อลูก โดยมีน้าสาวคอยอยู่ช่วยดูแลน้ำฟ้าอีกแรง ขณะที่เจตต์คอยช่วยเป็นกำลังใจ และเข้ามาร่วมหุ้นลงทุนกิจการสอนพิเศษจนสามารถขยายสาขาออกไปตามต่างจังหวัดได้เป็นผลสำเร็จตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาความรักของเจตต์และรินรดางอกงามขึ้นเรื่อย ๆ เต็มไปด้วยความเข้าใจและความผูกพันระหว่างกัน แม้แต่ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายก็ยอมรับในความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่เสียงออดหน้าประตูรั้วดังขึ้นในคืนหนึ่ง ก่อนที่พรพรรณจะไปเปิดประตู ทันทีที่เธอเห็นเจตต์ เธอขยับจะทักขึ้นด้วยความดีใจ หากอีกฝ่ายกลับทำมือจุ๊ปากแล้วพูดกระซิบขึ้น“น้าอ้อยอย่าเพิ่งเรียกครับ ผมอยากเซอร์ไพรส์”พรพรรณอมยิ้มพยักหน้าก่อนจะปิดประตูรั้ว เมื่อชายหนุ่มหอบของพะรุงพะรังเดินเข้ามาใน
สรวิชญ์ปาธนบัตรใบละร้อยบาทสองใบไปที่ใบหน้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ตัวเองจะรีบผลุนผลันเดินออกไปจากห้อง โดยมีเสียงกรีดร้องของกวินนาถดังตามหลังมาด้วยความไม่พอใจเขาไม่คิดเลยว่าการได้มาใช้ชีวิตอยู่กับกวินนาถจริง ๆ แทนที่ความรักจะสดใส กลับกลายเป็นความทุกข์ยิ่งกว่าเก่า อนาคตที่หวังว่าจะได้เป็นเขยเศรษฐีสุขสบายอยู่บนกองเงินกองทอง ดูท่าจะไม่มีวันเกิดขึ้น ชั่วขณะหนึ่งเขาก็นึกถึงใบหน้าหวานของเมียเก่าขึ้นมา ความรู้สึกผิดจู่โจมเข้ามาในหัวใจ แต่เขาก็ไม่หน้าด้านพอจะกลับไปหา ชายหนุ่มทำได้เพียงกอดพวงมาลัยรถร่ำไห้ระบายความทุกข์ออกมาสรวิชญ์ขับรถไปเรื่อย ๆ จนไปจอดอยู่หน้าบ้านของรินรดา ในเวลาสี่ทุ่มกว่า เขาเห็นไฟในบ้านมืดสนิทก็พอรู้ว่าอีกฝ่ายพาลูกเข้านอนเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มได้แต่เฝ้ามองบ้านหลังเดิมที่เขาเคยอยู่กับรินรดาและลูกด้วยความคิดถึงเรื่องราวแต่หนหลังชั่วระยะเวลาไม่นาน เขาเห็นไฟในห้องทำงานของเธอเปิดขึ้น ก่อนจะเห็นเงาร่างของรินรดาเดินมาที่โต๊ะทำงานของตัวเอง และนั่งลงทำงานเหมือนเช่นทุกครั้ง“ระริน...พี่ขอโทษ”สรวิชญ์ทำได้แต่มองจากในรถบนถนนหน้าบ้าน โดยที่เขาไม่ก