หลังจากไปส่งกนกอรที่สถาบันและพารินรดากลับบ้านแล้ว เจตต์จึงกลับไปยังบ้านของตน ชายหนุ่มยืนมองใบหน้าที่ฟกช้ำอยู่หน้ากระจก
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ทำอะไรไปมากกว่านี้ ทันใดนั้นเสียงออดหน้าประตูก็ดังขึ้น พอเขาเดินออกมาก็เห็นรินรดากำลังยืนอยู่หน้ารั้วในมือถือกล่องปฐมพยาบาล แต่ยังไม่ทันจะถามอะไรอีก อีกฝ่ายก็เป็นคนชิงพูดขึ้นเสียก่อน
“ระรินมาทำแผลให้พี่เจตต์ค่ะ”
“ขอบคุณมากครับ แต่น้องระรินไม่เห็นต้องลำบากเลย”
“ไม่ลำบากอะไรเลยค่ะ ถ้าระรินไม่ทำแผลให้พี่เจตต์คงจะรู้สึกผิดแย่”
“งั้นเข้ามาในบ้านก่อนสิครับ”
เจตต์พาหญิงสาวเดินเข้ามาในรั้วบ้านผ่านสวนที่เขายังทำไม่เสร็จ
“พี่เจตต์กำลังทำสวนใหม่เหรอคะ”
“อ๋อ ค
“ขอโทษด้วยนะคะคุณแม่ ต่อไปนี้หนูคงไม่ได้ไปดูแลคุณพ่อคุณแม่อีกแล้ว เพราะตอนนี้หนูกับพี่ต้น เราหย่ากันเรียบร้อยแล้วค่ะ” รินรดาถือสายโทรศัพท์ฟังอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะวางลงดวงตาที่สดใสเมื่อครู่ สลดลงพร้อมกับน้ำตาคลอที่เจ้าตัวพยายามสะกดกลั้นไม่ให้ไหลออกมา “มีอะไรเหรอครับน้องระริน แม่ไอ้ต้นทำไมเหรอครับ” “ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่ต้น ระรินแค่สงสารพ่อแม่ของพี่ต้นน่ะค่ะ เมื่อก่อนเวลาท่านป่วยหรือไม่สบาย ระรินก็เป็นคนคอยดูแลพาไปหาหมอ ท่านไม่รู้เลยว่าระรินกับพี่ต้นหย่ากัน และทางนั้นก็มีคนใหม่ไปแล้ว ไม่รู้ต่อไปจะเป็นยังไงบ้างนะคะ” “พี่เข้าใจครับ แต่พี่ว่ารอเวลาผ่านไปสักพัก ทุกอย่างก็คงจะเข้าที่ พี่อยากให้ระรินปล่อยวาง เราไม่สามารถช่วยได้ทุกคน ตอนนี้ไอ้ต้นมันมีคนใหม่แล้ว ต่อไปก็ควรเป็นหน้าที่มันที่ต้องดูแลพ่อแม่ตัวเอง เราไม่เกี่ยวแล้วล่ะครับ”&
“ไม่หรอกค่ะคุณพ่อ พี่ต้นรักลูกจริง ๆ ขนาดเงินที่ลูกออกเป็นค่าหย่าให้ พี่ต้นยังจะผ่อนจ่ายเลยค่ะ”“เงินค่าหย่า! เงินอะไร” หทัยรัตน์ถามเสียงสูง “แล้วเงินค่าหย่ามันเกี่ยวอะไรกับลูก ทำไมลูกต้องเป็นคนออก”“อันที่จริงก็ไม่ได้เกี่ยวหรอกค่ะ แต่ทางผู้หญิงเรียกเงินสิบล้าน แลกกับการไม่ฟ้องร้อง แถมยังขู่ด้วยว่าถ้าไม่อยากให้เรื่องเป็นเมียน้อยรู้ไปถึงหูนักข่าว ให้จ่ายเงินมาสิบล้าน ไม่อย่างนั้นก็เจอกันที่ศาล”“ลูกก็เลยออกเงินแทนมันงั้นเหรอ”“ก็พี่ต้นเขามีเงินไม่พอนี่คะ หนูก็เลยออกเงินให้ก่อน แต่พี่ต้นก็สัญญานะคะว่าจะทยอยใช้คืนให้”“ทยอยคืน...เงินตั้งสิบล้าน อีกกี่ปีกี่ชาติจะคืนครบ ลูกหนอลูก โตแต่ตัวจริง ๆ แล้วนี่ได้ทำเอกสารสัญญาการกู้ยืมไว้หรือเปล่า”“ทำไมต้องทำด้วยล่ะคะคุณพ่อ เราสองคนรักกันยังไงก็จะแต่งงานกัน เงินแค่นี้...หาเดี๋ยวเดียวก็ได้แล้ว”“แล้วเราเอาเงินสิบล้านมาจากไหน ถ้าพ่อเดาไม่ผิด เงินของลูกน่าจะมีไม่ถึงสิบล้านด้วยซ้ำ”“มีไม่ถึงหรอกค่ะ แต่ยี่หวาเอาเงินของบริษัทโอนไปก่อน” คำตอบของกวินนาถ ทำให้เดชาโกรธจัดจนควันออกหู“อะไรนะ! ท
หลังจากรินรดาจัดการเก็บข้าวของต่าง ๆ ของสรวิชญ์เรียบร้อยแล้ว เธอก็นำไปบริจาค ส่วนอันไหนที่บริจาคไม่ได้เธอก็ทิ้งลงถังขยะ ก่อนที่น้ำฟ้าจะออกจากโรงพยาบาลในคืนหนึ่งหลังจากน้ำฟ้าออกจากโรงพยาบาล รินรดา พรพรรณ กนกอร และเจตต์ ช่วยกันจัดเตรียมปาร์ตี้หมูกระทะไว้ที่ลานบ้านของรินรดา โดยมีเจตต์เป็นเจ้ามือเลี้ยงทุกคน กอไผ่ลูกชายของกนกอร ในวัยห้าขวบ กำลังนั่งเล่นของเล่นกับน้ำฟ้าหัวเราะคิกคักกันอย่างสนุกสนาน ขณะที่พวกผู้ใหญ่ก็ช่วยกันตระเตรียมอาหารสำหรับมื้อเย็น โดยมีเพลงบรรเลงคลอเบา ๆ สร้างสีสันในยามค่ำคืน “นี่อร แล้วทำไมพี่แดนไม่มาด้วยล่ะ”รินรดาถามขึ้นขณะที่กำลังช่วยกันเตรียมของกิน ขณะที่สายตาของเธอก็คอยมองเด็ก ๆ “พี่แดนกำลังยุ่งน่ะสิ ช่วงนี้มีคดีใหญ่เข้า เห็นกำลังนั่งอ่านเอกสารเป็นปึก เลยฝากขอโทษทุกคนด้วย แล้วก็ฝากนี่มาให้ทุกคน
สามเดือนผ่านไป สรวิชญ์หางานใหม่ได้เป็นพนักงานตำแหน่งเล็ก ๆ ในบริษัทแห่งหนึ่ง รายได้ที่เคยมีก็ลดลงมากว่าครึ่ง ขณะที่ยี่หวาพยายามสมัครงานเท่าไหร่ก็ไม่ถูกใจ เพราะแต่ละที่ให้เงินเดือนเธอน้อยกว่าที่เธอจะยอมรับได้“ยี่หวา ยังไม่ได้งานอีกเหรอ”สรวิชญ์ถามในเย็นวันหนึ่งหลังจากเขากลับมาจากที่ทำงานด้วยความเหนื่อยอ่อน เมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังนั่งกินขนม และดูหนังอย่างเพลิดเพลิน ขณะที่ภายในห้องสกปรกรกรุงรัง เสื้อผ้าถูกถอดทิ้งวางกระจัดกระจาย ถังขยะเต็มถังมีแมลงวันบินว่อน แม้แต่ในอ่างล้างจานก็มีจานใช้แล้วกองพะเนินไว้เต็มอ่าง เรียกได้ว่าอีกฝ่ายไม่คิดจะหยิบจับอะไรเลยสักอย่าง ทำให้สรวิชญ์สายหน้าด้วยความระอา‘นี่กูหาเมีย หรือหาภาระมาเพิ่มกันแน่วะ’เขาคิดด้วยความกลัดกลุ้มทำไมทุกอย่างไม่เป็นเหมือนที่หวังไว้ แทนที่จะเข้ามาช่วยทำให้เขาสบายขึ้น ตอนนี้อีกฝ่ายกลับมาถ่วงชีวิตเขาให้ลำบากกว่าเดิมเสียอีก“ไม่มีงานอะไรถูกใจเลยค่ะพี่ต้น บริษัทใหญ่เสียเปล่าแต่งกชะมัด เงินเดือนก็ให้น้อย แต่จะให้ทำงานเยอะ ๆ นี่มันเอาเปรียบกันชัด ๆ”“แต่พี่ว่าที่รักลองเลือ
“แม่ แม่จ๋า...” เด็กหญิงรินรดาในวัยแปดขวบ ส่งเสียงเจื้อยแจ้วบ่งบอกถึงอารมณ์ดีใจตั้งแต่หน้าประตูบ้าน ในมือมีใบแสดงผลการเรียนว่าเธอสอบได้ที่หนึ่งหลังจากใช้ความพยายามตั้งใจเรียนและขยันอ่านหนังสือตลอดเทอมที่ผ่านมา ทั้งที่ตัวเองต้องตื่นตั้งแต่ตีสองครึ่งเพื่อช่วยแม่ทำข้าวแกงไปขายที่ตลาดทุกเช้า ทว่าพอเดินเข้ามาในบ้านก็ต้องแปลกใจ วันนี้บ้านช่องเงียบเชียบผิดปกติไม่มีเสียงแม่ตะโกนด่าทอที่เธอทำเสียงดัง ทั้งหม้อ ถาด อุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งใช้ใส่ข้าวแกงไปขายที่ตลาดก็ยังคงวางระเกะระกะไม่ได้ถูกล้างทำความสะอาดอย่างที่ควรจะเป็น ผิดแผกไปจากทุกวันที่ผ่านมาแม้แต่ขวดเหล้าที่วางบนโต๊ะหน้าโทรทัศน์ก็ยังเหลือทิ้งไว้ครึ่งขวด ยิ่งทำให้รินรดารู้สึกผิดสังเกต เธอมองไปรอบกายด้วยความแปลกใจ ปกติขวดเหล้าเมื่อเปิดขวดแล้วแม่ของเธอจะดื่มหมดในเวลาไม่กี่อึดใจจนป่วยเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง แต่นี่กลับเหลือไว้อะไรบางอย่างทำให้เด็กหญิงเริ่มร้อนใจ เหลียวมองมองผู้เป็นแม่ ไม่แน่ว่าอีกฝ่ายอาจจะเมาแล้วนอนหลับอยู่ที่ไหนสักแห่งในบ้าน “แม่...” รินรดาพยายามร้องเรียกอีกครั้ง หากก็ไม่มีเสีย
งานศพของปรางทิพย์ถูกจัดขึ้นที่ศาลาวัดแห่งหนึ่งในตัวเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยมีดอกไม้ประดับพอให้เห็นเป็นพิธี แขกเหรื่อที่มางานก็เพียงไม่กี่คน ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนบ้านที่รู้จักมักคุ้นกันกับลูกค้าประจำของร้านข้าวแกงที่อุดหนุนกันจนสนิทสนมส่วนจักรกฤษณ์สามีของผู้ตายซึ่งควรจะเป็นเสาหลักในการจัดการงานศพให้ภรรยาก็เงียบหายไปเป็นอาทิตย์ตั้งแต่ก่อนที่ปรางทิพย์จะเสียชีวิต ไม่มีใครรู้ข่าวหรือติดต่อได้ ทำให้ภาระค่าใช้จ่ายทุกอย่างตกไปที่พรพรรณผู้เป็นน้องสาวที่รีบ ลางานกลับมาพิษณุโลกหลังจากรู้ข่าวร้ายของพี่สาวตัวเอง พรพรรณใช้เงินเก็บที่มีเพียงน้อยนิด รวมกับเงินของเพื่อนบ้านที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือจัดการงานศพด้วยความเวทนาผู้ตายกับลูกสาวตัวน้อยที่จู่ ๆ ต้องกลายมาเป็นเด็กกำพร้าแม่เช่นนี้หลังจากพระสวดอภิธรรมศพเสร็จเรียบร้อย เหลือเพียงแขกในงานไม่กี่คนที่ยังนั่งสนทนากันอยู่บนศาลาวัด รินรดาสวมชุดสีดำเก่า ๆ นั่งมองรูปถ่ายของมารดาที่กำลังส่งยิ้มให้อยู่หน้าโลงศพ แววตาของเด็กหญิงทั้งเศร้าสร้อยและแดงก่ำหลังจากผ่านการร้องไห้มาหลายต่อหลายครั้ง พรพรรณมองหลานสาวอย่างเวทนา ก่อนทรุดตัวลง นั่งข้าง ๆ หากยังไ
พ่อของจักรกฤษณ์เป็นคนจีนส่วนแม่เป็นคนไทย ทางครอบครัวคาดหวังให้เขามีลูกชายไว้สืบสกุล กอปรกับปรางทิพย์ไม่ใช่ผู้หญิงที่พ่อแม่ต้องการให้แต่งงานด้วย การที่เธอมีลูกชายคนแรกจึงเป็นทางเดียวที่จะทำให้ครอบครัวของเขายอมรับได้นอกจากนี้เคยมีหมอดูทำนายดวงปรางทิพย์ไว้ว่า หากเธอได้ลูกชายคนแรก ครอบครัวจะเจริญรุ่งเรืองถึงขั้นเป็นเศรษฐี แต่ถ้าหากเธอมีลูกสาวคนแรกจะนำพาให้ครอบครัวตกต่ำยากจนเข็ญใจ ทั้งสองจึงต้องการให้ลูกคนแรกเป็นผู้ชายเท่านั้นแต่แล้วความฝันก็พังครืน...เมื่อปรางทิพย์คลอดลูกออกมาเป็นผู้หญิง ทั้งที่เธออุ้มท้องลูกแฝด แต่คนที่มีชีวิตรอดกลับมีเพียงรินรดา ขณะที่ฝาแฝดเพศชายเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์สร้างความผิดหวังให้สองสามีภรรยามาก และดูเหมือนว่าคำทำนายของหมอดูก็จะมีเค้าความจริงขึ้นมา เพราะหลังจากที่รินรดาลืมตาดูโลก เธอก็ป่วยกระเสาะกระแสะ ทำให้พ่อแม่ต้องเสียเงินพาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลบ่อยครั้งแม้แต่ปรางทิพย์เอง หลังจากคลอดลูก เธอก็มีอาการป่วยจากภาวะหลังคลอด ทำให้เธอหงุดหงิดจนมีเรื่องทะเลาะกับสามี กอปรกับพ่อแม่ของจักรกฤษณ์เสียชีวิตลงหลังจากรินรดาคลอดได้ไม่นาน เงินทองที่เคยมีก็ร่อยหลอลงไปทุกว
“อ้อ...ชื่อเพ็ญเหรอ แหม...ชื่อก็เพราะ หน้าตาก็ดี แต่ทำไมไม่มีปัญญาหาผัวเองล่ะ ต้องมาแย่งผัวคนอื่นเขาแบบนี้ นี่...กูจะบอกให้เอาบุญนะ เมียน้อยยังไงก็เป็นเมียน้อยอยู่วันยังค่ำ ต่อให้เมียหลวงเขาตายไปแล้ว แต่มึงไม่มีวันลบคำว่าเมียน้อยออกไปจากชีวิตมึงได้หรอก มันจะกลายเป็นตราบาปว่ามึงไปแย่งผัวเขามา ส่วนลูกมึงก็เป็นแค่ลูกชู้ อย่ามาสำคัญตัวผิด”“อีอ้อย อีปากหมา เพ็ญอย่าไปฟังมันนะ สำหรับพี่เพ็ญไม่ใช่เมียน้อย เพ็ญคือผู้หญิงคนเดียวที่พี่รัก ส่วนอีปรางพี่ไม่เคยรักมันเลย”จักรกฤษณ์ออกหน้าปกป้องเมียใหม่อย่างไม่ลืมหูลืมตา ไม่สนกระทั่งว่าตนมางานศพของปรางทิพย์ “ถุย! พูดออกมาได้ ไม่เคยรักพี่กูเลย แต่ดันเอากันจนมีลูกกับพี่กูเนี่ยนะ ใครเชื่อก็โง่ตาย แต่กูขอถามมึงหน่อยเหอะ นี่ไอ้ไม้ มึงเป็นผู้ชายแบบไหน ถึงได้กล้าพาเมียน้อยกับลูกมาในงานศพเมียหลวงแบบนี้ อย่างน้อยพี่ปรางก็เคยเป็นเมียมึงนะ เมียที่อยู่กินกับมึงมาก่อนตั้งแต่มึงยังมีแต่ตัว เมียที่คอยช่วยมึงทำมาหากิน เมียที่ถูกต้องตามกฎหมาย ศพก็ยังไม่ได้เผาตั้งอยู่ทนโท่ กูว่าดีไม่ดีที่พี่ปรางฆ่าตัวตาย ก็เพราะมึงนี่แหละไอ้ไม้ เพราะมึงมีเมียน้อย พี่ปรางเสียใจเลยคิด
สามเดือนผ่านไป สรวิชญ์หางานใหม่ได้เป็นพนักงานตำแหน่งเล็ก ๆ ในบริษัทแห่งหนึ่ง รายได้ที่เคยมีก็ลดลงมากว่าครึ่ง ขณะที่ยี่หวาพยายามสมัครงานเท่าไหร่ก็ไม่ถูกใจ เพราะแต่ละที่ให้เงินเดือนเธอน้อยกว่าที่เธอจะยอมรับได้“ยี่หวา ยังไม่ได้งานอีกเหรอ”สรวิชญ์ถามในเย็นวันหนึ่งหลังจากเขากลับมาจากที่ทำงานด้วยความเหนื่อยอ่อน เมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังนั่งกินขนม และดูหนังอย่างเพลิดเพลิน ขณะที่ภายในห้องสกปรกรกรุงรัง เสื้อผ้าถูกถอดทิ้งวางกระจัดกระจาย ถังขยะเต็มถังมีแมลงวันบินว่อน แม้แต่ในอ่างล้างจานก็มีจานใช้แล้วกองพะเนินไว้เต็มอ่าง เรียกได้ว่าอีกฝ่ายไม่คิดจะหยิบจับอะไรเลยสักอย่าง ทำให้สรวิชญ์สายหน้าด้วยความระอา‘นี่กูหาเมีย หรือหาภาระมาเพิ่มกันแน่วะ’เขาคิดด้วยความกลัดกลุ้มทำไมทุกอย่างไม่เป็นเหมือนที่หวังไว้ แทนที่จะเข้ามาช่วยทำให้เขาสบายขึ้น ตอนนี้อีกฝ่ายกลับมาถ่วงชีวิตเขาให้ลำบากกว่าเดิมเสียอีก“ไม่มีงานอะไรถูกใจเลยค่ะพี่ต้น บริษัทใหญ่เสียเปล่าแต่งกชะมัด เงินเดือนก็ให้น้อย แต่จะให้ทำงานเยอะ ๆ นี่มันเอาเปรียบกันชัด ๆ”“แต่พี่ว่าที่รักลองเลือ
หลังจากรินรดาจัดการเก็บข้าวของต่าง ๆ ของสรวิชญ์เรียบร้อยแล้ว เธอก็นำไปบริจาค ส่วนอันไหนที่บริจาคไม่ได้เธอก็ทิ้งลงถังขยะ ก่อนที่น้ำฟ้าจะออกจากโรงพยาบาลในคืนหนึ่งหลังจากน้ำฟ้าออกจากโรงพยาบาล รินรดา พรพรรณ กนกอร และเจตต์ ช่วยกันจัดเตรียมปาร์ตี้หมูกระทะไว้ที่ลานบ้านของรินรดา โดยมีเจตต์เป็นเจ้ามือเลี้ยงทุกคน กอไผ่ลูกชายของกนกอร ในวัยห้าขวบ กำลังนั่งเล่นของเล่นกับน้ำฟ้าหัวเราะคิกคักกันอย่างสนุกสนาน ขณะที่พวกผู้ใหญ่ก็ช่วยกันตระเตรียมอาหารสำหรับมื้อเย็น โดยมีเพลงบรรเลงคลอเบา ๆ สร้างสีสันในยามค่ำคืน “นี่อร แล้วทำไมพี่แดนไม่มาด้วยล่ะ”รินรดาถามขึ้นขณะที่กำลังช่วยกันเตรียมของกิน ขณะที่สายตาของเธอก็คอยมองเด็ก ๆ “พี่แดนกำลังยุ่งน่ะสิ ช่วงนี้มีคดีใหญ่เข้า เห็นกำลังนั่งอ่านเอกสารเป็นปึก เลยฝากขอโทษทุกคนด้วย แล้วก็ฝากนี่มาให้ทุกคน
“ไม่หรอกค่ะคุณพ่อ พี่ต้นรักลูกจริง ๆ ขนาดเงินที่ลูกออกเป็นค่าหย่าให้ พี่ต้นยังจะผ่อนจ่ายเลยค่ะ”“เงินค่าหย่า! เงินอะไร” หทัยรัตน์ถามเสียงสูง “แล้วเงินค่าหย่ามันเกี่ยวอะไรกับลูก ทำไมลูกต้องเป็นคนออก”“อันที่จริงก็ไม่ได้เกี่ยวหรอกค่ะ แต่ทางผู้หญิงเรียกเงินสิบล้าน แลกกับการไม่ฟ้องร้อง แถมยังขู่ด้วยว่าถ้าไม่อยากให้เรื่องเป็นเมียน้อยรู้ไปถึงหูนักข่าว ให้จ่ายเงินมาสิบล้าน ไม่อย่างนั้นก็เจอกันที่ศาล”“ลูกก็เลยออกเงินแทนมันงั้นเหรอ”“ก็พี่ต้นเขามีเงินไม่พอนี่คะ หนูก็เลยออกเงินให้ก่อน แต่พี่ต้นก็สัญญานะคะว่าจะทยอยใช้คืนให้”“ทยอยคืน...เงินตั้งสิบล้าน อีกกี่ปีกี่ชาติจะคืนครบ ลูกหนอลูก โตแต่ตัวจริง ๆ แล้วนี่ได้ทำเอกสารสัญญาการกู้ยืมไว้หรือเปล่า”“ทำไมต้องทำด้วยล่ะคะคุณพ่อ เราสองคนรักกันยังไงก็จะแต่งงานกัน เงินแค่นี้...หาเดี๋ยวเดียวก็ได้แล้ว”“แล้วเราเอาเงินสิบล้านมาจากไหน ถ้าพ่อเดาไม่ผิด เงินของลูกน่าจะมีไม่ถึงสิบล้านด้วยซ้ำ”“มีไม่ถึงหรอกค่ะ แต่ยี่หวาเอาเงินของบริษัทโอนไปก่อน” คำตอบของกวินนาถ ทำให้เดชาโกรธจัดจนควันออกหู“อะไรนะ! ท
“ขอโทษด้วยนะคะคุณแม่ ต่อไปนี้หนูคงไม่ได้ไปดูแลคุณพ่อคุณแม่อีกแล้ว เพราะตอนนี้หนูกับพี่ต้น เราหย่ากันเรียบร้อยแล้วค่ะ” รินรดาถือสายโทรศัพท์ฟังอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะวางลงดวงตาที่สดใสเมื่อครู่ สลดลงพร้อมกับน้ำตาคลอที่เจ้าตัวพยายามสะกดกลั้นไม่ให้ไหลออกมา “มีอะไรเหรอครับน้องระริน แม่ไอ้ต้นทำไมเหรอครับ” “ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่ต้น ระรินแค่สงสารพ่อแม่ของพี่ต้นน่ะค่ะ เมื่อก่อนเวลาท่านป่วยหรือไม่สบาย ระรินก็เป็นคนคอยดูแลพาไปหาหมอ ท่านไม่รู้เลยว่าระรินกับพี่ต้นหย่ากัน และทางนั้นก็มีคนใหม่ไปแล้ว ไม่รู้ต่อไปจะเป็นยังไงบ้างนะคะ” “พี่เข้าใจครับ แต่พี่ว่ารอเวลาผ่านไปสักพัก ทุกอย่างก็คงจะเข้าที่ พี่อยากให้ระรินปล่อยวาง เราไม่สามารถช่วยได้ทุกคน ตอนนี้ไอ้ต้นมันมีคนใหม่แล้ว ต่อไปก็ควรเป็นหน้าที่มันที่ต้องดูแลพ่อแม่ตัวเอง เราไม่เกี่ยวแล้วล่ะครับ”&
หลังจากไปส่งกนกอรที่สถาบันและพารินรดากลับบ้านแล้ว เจตต์จึงกลับไปยังบ้านของตน ชายหนุ่มยืนมองใบหน้าที่ฟกช้ำอยู่หน้ากระจกแต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ทำอะไรไปมากกว่านี้ ทันใดนั้นเสียงออดหน้าประตูก็ดังขึ้น พอเขาเดินออกมาก็เห็นรินรดากำลังยืนอยู่หน้ารั้วในมือถือกล่องปฐมพยาบาล แต่ยังไม่ทันจะถามอะไรอีก อีกฝ่ายก็เป็นคนชิงพูดขึ้นเสียก่อน “ระรินมาทำแผลให้พี่เจตต์ค่ะ” “ขอบคุณมากครับ แต่น้องระรินไม่เห็นต้องลำบากเลย” “ไม่ลำบากอะไรเลยค่ะ ถ้าระรินไม่ทำแผลให้พี่เจตต์คงจะรู้สึกผิดแย่” “งั้นเข้ามาในบ้านก่อนสิครับ” เจตต์พาหญิงสาวเดินเข้ามาในรั้วบ้านผ่านสวนที่เขายังทำไม่เสร็จ“พี่เจตต์กำลังทำสวนใหม่เหรอคะ”“อ๋อ ค
“มึงจะไปไหนไอ้เจตต์”สรวิชญ์อาศัยจังหวะที่เจตต์ไม่ทันระวังตัว เขากระชากไหล่เจตต์หันกลับมา ก่อนที่ตัวเองจะซัดกำปั้นไปที่ใบหน้าของเจตต์ในเวลาต่อมาบริเวณหน้าเขตก็กลายเป็นสมรภูมิชกต่อยของสองอดีตเพื่อนรัก โดยมีรินรดากับกวินนาถคอยช่วยห้ามปราม ก่อนที่จะมีผู้คนมากมายกรูกันมาดูแล้วจับทั้งสองแยกจากกันและขู่ว่าจะแจ้งตำรวจ ทำให้สรวิชญ์และเจตต์ต้องแยกย้าย“อีระริน ในเมื่อมึงมีชู้ มึงเอาเงินสิบล้านของกูคืนมา”สรวิชญ์ยังไม่วายชี้หน้าด่ารินรดาด้วยความแค้นเคือง โดยมีกวินนาถคอยรั้งร่างสูงสุดแรง“ฉันไม่คืน เพราะเงินสิบล้านนี่แลกกับใบหย่า ในเมื่อตอนนี้ เราหย่ากันแล้ว คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาหึงหวงหรืออ้างความเป็นเจ้าของอีก ตอนคุณมีเมียใหม่ ฉันยังไม่ยุ่งเรื่องของคุณเลย เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ ถ้าฉันจะคบใคร คุณก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่งเรื่องของฉัน ไปค่ะพี่เจตต์ เรากลับกันเถอะค่ะ”รินรดาช่วยประคองเจตต์ลุกขึ้น ก่อนจะพาเดินไปที่รถ มีกนกอรเดินตามทั้งสองไปติด ๆ สรวิชญ์ได้แต่มองตามด้วยความคับแค้นใจที่เสียรู้จนต้องเสียเงินให้อีกฝ่าย แทนที่เงินจะเข้ากระเป๋าเขา&nbs
“หมายความว่ายังไง อย่าเพิ่งเซ็น นี่จะตุกติกเหรอ” สรวิชญ์เสียงเข้มอย่างไม่สบอารมณ์ “พี่ต้นคะ ฉันไม่ได้คิดจะตุกติกอะไรหรอก แต่เพื่อนฉันจะเซ็นได้ยังไง ในเมื่อเงินสิบล้านบาทที่ตกลงกันยังไม่เข้าบัญชีแม้แต่บาทเดียว” “งก หน้าเลือด” เสียงแหวของกวินนาถสวนกลับด้วยความขัดใจ “ไม่ได้หรอกค่ะ ฉันต้องรักษาผลประโยชน์ของเพื่อน ถ้าเกิดเพื่อนฉันเซ็นไปแล้ว คุณเกิดตุกติกไม่โอนเงินให้ เพื่อนฉันก็ชวดเงินสิบล้านสิคะ ใครจะไปรู้ คำพูดคนบิดพลิ้วได้ตลอดแหละค่ะ เพราะฉะนั้น ระรินจะยังไม่ยอมเซ็นจนกว่าเงินจะเข้าบัญชีสิบล้าน” “นี่ฉันไม่เบี้ยวหรอก เซ็น ๆ ให้เรียบร้อย เดี๋ยวฉันจัดการโอนเงินให้ทีหลัง” “ไม่ได้ค่ะ...ยื่นหมูยื่นแมว เงินต้องโอนเข้าบัญชีก่อน ระรินถึ
เช้าวันรุ่งขึ้น รินรดากับกนกอรเดินทางมายังสำนักงานเขตตามที่นัดหมาย โดยเจตต์อาสาขับรถมาให้ รินรดาเหม่อมองออกไปนอกรถ ก่อนที่เธอจะสะดุ้งเมื่อเสียงของกนกอรดังขึ้น ทันทีที่รถจอดสนิท “พี่เจตต์ ไม่ต้องเข้าไปหรอกค่ะ รอพวกเราอยู่ในรถดีกว่า แค่นี้อรจัดการได้” “จะดีเหรอครับ”“ดีค่ะ”“งั้นถ้าเสร็จเรื่องแล้ว พี่จะพาน้อง ๆ ไปเลี้ยงฉลองกันดีไหมครับ” “ระรินก็อยากไปนะคะพี่ แต่ว่าระรินห่วงลูกน่ะค่ะ ระรินอยากรีบกลับไปดูลูกมากกว่า” “โธ่แก ไม่เห็นจะยากเลย เราก็ไปหาซื้อของกินอร่อย ๆ แล้วก็หอบไปกินกันกับหนูน้ำฟ้ายังไงล่ะดีไหม” “ฉันกลับคิดว่าพรุ่งนี้น้ำฟ้าก็จะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ทำไมไม่รอให้ลูกออกมาก่อน แล้วเราค่อยไปทำหม
“เชิญนั่งค่ะพี่ต้น คุณยี่หวา นึกว่าจะเปลี่ยนใจไม่มาเสียแล้ว ว่าแต่จะสั่งอะไรตามสบายเลยนะคะ มื้อนี้เดี๋ยวอรเลี้ยงเอง” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณอร รีบคุยธุระให้เสร็จดีกว่า จะได้รีบไป ฉันไม่ได้มีเวลาว่างมากนักหรอกนะคะ” กวินนาถกระแทกเสียงก่อนจะนั่งลงอีกฝั่งเคียงข้างสรวิชญ์เขาไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่เขาต้องนั่งเผชิญหน้ากับรินรดาในฐานะเมียหลวง และกวินนาถในฐานะเมียน้อย หากเขาเลือกได้ เขาอยากจะเก็บทั้งสองคนไว้เหมือนที่ผ่านมา ต่างคนต่างอยู่ในโลกของเขาคนละใบ ซึ่งเขาก็มีความสุขกับโลกทั้งสองใบ แต่ตอนนี้เมื่อความลับมันไม่เป็นความลับอีกต่อไปแล้ว การที่เขาเลือกกวินนาถ แม้จะทำให้รินรดาเจ็บปวด แต่เขาก็จำเป็นต้องทำ เพื่อประโยชน์ของตัวเอง “ระริน พี่คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของเราสองคน คนอื่นไม่ควรมายุ่ง” สรวิชญ์พูดกระแทกใส่กนกอร ทำให้อีกฝ่ายสวนกลับอย่างไม่ลดละ&nb