"กอดหนึ่งหน่อย"เสียงหวานออดอ้อนเบาหวิวร้องขอให้ชายตรงหน้ามอบความอบอุ่นให้ ราเชนทร์โอบรัดร่างแน่งน้อยซุกใบหน้าขยับเสาะหาตำแหน่งอันคุ้นเคยลงกลางอกอวบจากนั้นใช้ริมฝีปากกับฟันแหลมแกะกระดุมเสื้อตัวน้อยของน้ำหนึ่งจนหลุดความพลิ้วไหวของร่างกายแอ่นไปมาอยู่บนหน้าตักแกร่ง ความบดเบียดส่ายร่อนก้นกลมเป็นผลทำให้บุรุษเพศแข็งตัวขึ้น ภายใต้กางเกงสแลคมันมีลำท่อนใหญ่นูนดุนดันใต้ก้นของน้ำหนึ่ง ยิ่งทำให้คนบนตักบดมันลงบนท่อนเอ็นอันแข็งขืนเป็นการกระตุ้นอารมณ์อีกฝ่ายให้ทวีคูณเสื้อเชิ้ตถูกปลดด้วยฝีปากอันร้ายกาจ ทั้งเนื้อผิวนวลโอบอาบไปด้วยกลิ่นตัวหอม ราเชนทร์กดปลายจมูกสูดดมมันอย่างหื่นกระหาย จากนั้นสอดมือไปทางด้านหลังดีดตะขอบราเซียของน้ำหนึ่งหลุดยวบก่อนจะเก็บมามันมาสูดดมต่อหน้าเจ้าของมัน"หอม" เขาเอ่ยปากชมและสบตามองหยาดเยิ้ม รอยยิ้มกลิ่นอันตรายยกขึ้นสุดหยั่งไว้รางๆ"หนึ่งหอมทั้งตัวเลยนะ" ร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่นเข้าไปแนบชิดและหัวเราะแผ่วเบา แอ่นหน้าอกที่ไร้บราเซียห่อหุ้มเหลือเพียงเชิ้ตตัวสวยที่ยังเกาะไหล่ให้ราเชนทร์อ้าปากครอบงับความหวานอันคุ้นเคยของเต้าอวบอิ่มที่ปะทะใบหน้าถูกบดบี้จนล้นออกข้าง ลิ้นร้อนรัวตวัดยอดป
จากนั้นยกเท้าสองเข้าใช้หัวเข่าค้ำยันกับขอบเบาะที่เหลือเป็นการประคองตัว แก่นกายตั้งเด่พร้อมตอดหงึกไปมารออีกฝ่ายกดสะโพกมากลืนกืน มวลความอบอุ่นแทรกผ่านใจกลางความเป็นสาวเข้ามาทีละน้อยได้จนสุด คางมนถูกกดให้สบตาแล้วป้อนจูบในจังหวะที่น้ำหนึ่งกำลังส่ายร่อนสะโพกความอบอุ่นซาบซ่านซัดเข้ามาในช่องท้อง แก่นกายที่ใหญ่เกินมาตรฐานทำคนตัวบางนิ่วหน้ากัดริมฝีปากครางในลำคอกระทั่งราเชนร์ใช้สองมือประคองบั้นท้ายกลมแล้วเป็นฝ่ายเด้งสวนขึ้นมา"อ๊ะ อ๊าส์" ตัวสั่นคลอนกระเพื่อมไหวทั้งร่าง ยอดปทุมถันที่ชี้ตรงหน้าถูกลิ้นอุ่นต้อนงับดูดดื่มทับทิมสีสดเป็นผลให้อีกฝ่ายเสียวซ่านอย่างหนักร้องหวีดสุดเสียงตามการเคลื่อนของแก่นกายเข้าออกรัวเร็วจนดังสวบสาบ"เฮีย อ๊าส์!!""ซี้ดส์" ครวญครางปลุกอารมณ์กันทั้งสองฝ่าย จากนั้นน้ำหนึ่งจัดท่าทางตัวเองด้วยการใช้เท้ายันกับเบาะในท่านั่งย่อควบขย่มอย่างผู้ถือไพ่เหนือกว่า เอวคอดส่ายร่อนบดท่อนกายไม่พักกระเพื่อมตัวขึ้นลงมีเสียงลามกดังขึ้นระงมตับๆ ตับๆ!!"อะอ๊าส์" คำรามออกราวกับเป็นเจ้าป่า ในขณะที่ลากฝ่ามือขย้ำเต้านมอวบมองใบหน้าหวานที่แดงซ่านอีกทั้งน้ำตาคลอหน่วยจากความเสียว"ร้องไห้ทำไม""นะหน
รถคันหรูมุ่งตรงหน้าเข้ากรุงเทพมหานครหลังจากจอดพักกันข้างริมชายหาดทั้งคืน ตลอดเส้นทางราเชนทร์ขับรถด้วยมือเดียวเพราะอีกข้างเขากุมมือคนอายุน้อยกว่ามาตลอดทาง แม้เหตุการณ์สืบเนื่องมาจากเมื่อคืนจะยังไม่มีใครเอ่ยปากว่าทั้งคู่แล้วคิดอะไรต่อกันทว่าการกระทำมันก็ทำให้เข้าใจได้ว่าทั้งราเชนทร์และน้ำหนึ่งต่างมีความรู้สึกตรงกันอย่างมากจนกระทั่งดวงตาคู่คมสังเกตเห็นรถคันด้านหลังที่ขับตามห่างๆ มาหลายสิบกิโลเมตร หากเป็นถนนทางหลวงราเชนทร์จะไม่แปลกใจทว่ามันเป็นเพียงเส้นทางซอกซอยที่เขาขับลัดเลาะเพื่อจะอยู่กับผู้หญิงตรงหน้าในบรรยากาศที่สำราญใจให้นานที่สุด แต่เหมือนความสุขนั้นมันจะชะงักลงเมื่อราเชนทร์เพ่งสายตาเห็นว่าในรถคันดังกล่าวมีชายสวมชุดดำแว่นดำและคลุมใบหน้าเพื่อปกปิดอำพรางทั้งรถที่ขับเคลื่อนไม่มีแผ่นปลายทะเบียน อดคิดไม่ได้ว่ามันคงไม่ใช่เพียงรถยนต์ของเพื่อนร่วมเส้นทาง“มีอะไรหรือเปล่า”น้ำหนึ่งถามขึ้นครั้นคนอายุมากกว่าเหยียบคันเร่งของเครื่องยนต์เร็วขึ้นทั้งที่เป็นเส้นทางคับแคบอีกทั้งเป็นชุมชนแออัดไม่ควรแก่การจะทำความเร็วมากเช่นนี้ ก่อนจะหันหลังกลับไปมองเห็นรถคันดังกล่าวไล่ตามมาอย่างกระชั้นชิดน้ำหนึ่งม
คนตัวเล็กเดินไปหยิบแก้วนม ยกมันขึ้นมาจิบทั้งเหล่ดวงตามองคนอายุมากกว่า ในขณะที่ราเชนทร์กลับเดินสำรวจห้องนอนของน้ำหนึ่งดูว่ามีอะไรผิดปกติไปหรือไม่"เฮียทำอะไร""สำรวจ""ระแวงอะไร ระแวงหนึ่งหรือเปล่า" ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ จ้องตากับน้ำหนึ่งซึ่งมีท่าทางระแวดระวังดุจเสือดาวตื่นภัย ดวงหน้าน้อยๆ ของน้ำหนึ่งไม่เหมือนวันแรกที่เขาเจอ เด็กผู้หญิงเฟี้ยวฟ้าวจนอยากตบกะโหลก ตอนนี้ทิ้งคราบนั้นเหลือเพียงน้ำหนึ่งผู้หญิงตัวเล็กหน้าหดเหลือไม่กี่นิ้ว"ถ้าเฮียระแวง ไม่พาหนึ่งมาด้วยตั้งแต่แรก"หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบอย่างแรงกะทันหัน เดาทิศทางของคนตรงหน้าไม่ออกว่ามันคืออะไร ได้แต่เม้มปากแน่นในมือยังกุมแก้วนมแน่นดวงตาสั่นระริกดูสับสนไปหมด เมื่อเห็นคนตัวน้อยมีอาการลนลานราเชนทร์ขยับตัวเข้ามาใกล้หยิบแก้วในมือของอีกฝ่ายวางลงโต๊ะ จากนั้นดันตัวน้ำหนึ่งพิงเข้ากับผนังห้องนอน แขนแกร่งยกยันเข้าผนัง อีกข้างจับปลายคางน้ำหนึ่งเชิดแหงนขึ้น ลมหายใจร้อนเป่ารดบนดวงหน้าน้อย ทว่าน้ำหนึ่งกลับเลือกจะตวัดดวงตาสีน้ำตาลลงต่ำ เธอไม่กล้ามองหน้าราเชนทร์เอาเสียดื้อๆ"หนึ่งกำลังกลัวเฮียใช่ไหม"ประโยคคำถามนั้นทำคนฟังหายใจแรงขึ้น เธอกำลั
รีบขึ้นไปนั่งบนเบาะหลัง จากนั้นแท็กซี่โดยสารเคลื่อนตัวออกไปตามเส้นทางที่น้ำหนึ่งต้องการ โกดังแห่งนี้อยู่ไกลพอสมควร การจราจรไม่ได้ติดขัดทว่าใช้เวลามากกว่าครึ่งชั่วโมงกว่าจะเดินมาถึง ทางเข้าเปลี่ยวอย่างที่ลุงบอกจริงๆ ทั้งมืดและปกคลุมด้วยต้นไม้จนแทบจะมองไม่เห็นถนนเพราะเป็นโกดังที่ไม่ได้ใช้งานทั้งมีคดีสะเทือนขวัญหลายคดีเป็นผลไม่ค่อยมีใครมาใช้ถนนเส้นนี้แม้มันจะเป็นทางลัดเชื่อมไปยังเส้นทางหลัก“ลุงไม่ขับเข้าไปนะ มันเสี่ยง”“ไม่เป็นไรค่ะ”น้ำหนึ่งควักเงินจ่ายค่าโดยสาร จากนั้นลงจากรถมองไปด้านหน้าที่รกทึบพอสมควร สูดหายใจแรงๆ เข้าปอดเป็นการรวบรวมความกล้าจากนั้นสวมแมสและหมวกที่ถือมาด้วยปิดบังใบหน้าตัวเอง ระงับความกลัวที่มันจะเกิดขึ้นจากนั้นเดินตรงไปด้วยความเร็วสลับกับการวิ่งให้เร็วที่สุดกระทั่งมองเห็นไฟดวงเล็กๆ ที่สว่างอยู่ด้านหน้าเป็นโกดังเก่าที่มีซากเหล็กและสังกะสีขึ้นสนิม ร่างเล็กค่อยๆ เดินเลาะย่องไปเรื่อยๆ ได้ยินเสียงสนทนาของกลุ่มคนด้านในพยายามเอียงหูฟังก็ยังไม่ชัดเจน ตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้และหลบอยู่หลังตู้คอนเทนเนอร์เก่ามองไปเห็นราเชนทร์ที่กำลังยืนสูบบุหรี่อย่างสบายใจ มืออีกข้างสวมถุงมือสี
น้ำหนึ่งสะท้านขึ้นน้อยๆ ราเชนทร์พลันขมวดคิ้วเข้มนึกสงสัย จับสังเกตได้ว่าเธอกำลังกลัวอะไรบางอย่าง ทว่าไม่นึกว่าเธอจะแอบตามไปเจอเรื่องที่เกิดขึ้น กระนั้นก็ยังไม่สนใจนอกจากอารมณ์กระสันของตนที่กำลังปะทุ พรมจูบร่างน้อยๆ อย่างแผ่วเบา ลูบสะโพกอวบอัดอันไร้กางเกงชั้นใน ก้มใบหน้าป้อนจูบให้คนอายุน้อยอีกครั้ง แล้วดุนดันลิ้นร้อนจนสามารถมุดเข้าไปในช่องปากของน้ำหนึ่งได้ แม้คนตัวบางจะพยายามเม้มเอาไว้แน่นก็ไม่สามารถต้านเรียวลิ้นที่แข็งแกร่งเพราะความไม่ยินยอมตั้งแต่แรกเกิดอาการสำลักน้ำลาย จนอีกฝ่ายตั้งถอนเรียวปากให้คนตัวน้อยได้หายใจ ดวงตารัตติกาลมองดวงหน้าน้อยๆ ที่ขึ้นสีแดงซ่านจากการไอพลางลูบเช็ดน้ำลายที่เลอะรอบเรียวปาก ฉงนและสงสัยอยู่ไม่น้อยกับอาการผิดแปลกแฮ่ก!“เป็นอะไร”เขายังเอ่ยคำถามเดิมๆ รู้สึกได้ว่าน้ำหนึ่งไม่ให้ความร่วมมือเลยสักนิดกับค่ำคืนพิศวาสในครั้งนี้ ลูบดวงหน้าเห่อร้อนอย่างละเมียดละไมแล้วกดจูบหน้าผากไปหนึ่งหวังว่าคนตัวเล็กจะคลายกังวลกับอะไรบางอย่างขึ้น“ปะเปล่า หนึ่งแค่ง่วง เฮียเล่นมาปลุกกลางดึกแบบนี้ หนึ่งตั้งตัวไม่ทัน”เสียงอ้อยอิ่งเอ่ยขึ้นทั้งสั่นเครือ พยายามเบี่ยงประเด็นไม่ให้ราเชนทร
น้ำหนึ่งทรุดตัวลงกองกับพื้น น้ำตานอง เธอกำลังอยู่กับคนมือเปื้อนเลือด คนที่ฆ่าคนตายโดยไม่สะทกสะท้านผิดกับเธอแค่ตบยุงยังคิดแล้วคิดอีก“อย่ากลัว ขอร้องอย่ากลัว”“ฮึก---”“เฮียมีเหตุผล ไม่ได้อยากฆ่าใครทิ้งแบบนั้น”น้ำหนึ่งทรุดตัวลงกับพื้นทั้งหยาดน้ำตา นั่งสะอื้นตัวสั่นเทิ้มด้วยความกลัวอย่างสุดขีด กระทั่งเขาคว้ามือบางเข้ามากุมกระชับแน่น มองร่างน้อยๆ อย่างสงสาร เขาไม่ได้อยากปิดบังแต่ก็ไม่อยากให้รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ อยากให้น้ำหนึ่งใช้ชีวิตอยู่ด้วยความสบายใจมากกว่าการมานั่งระแวงกัน“เฮียเป็นใคร?”เป็นคำถามที่เธอพยายามค้นหามาตลอดหลายเดือนที่อยู่ที่นี่ แต่มันก็ไม่ได้คำตอบเลยสักครั้ง ใบหน้าอันน่ามันเขี้ยวเต็มไปด้วยความระแวง เธอจะใช้ชีวิตกับฆาตกรคนนี้ต่อไปได้ยังไง“พวกมันทำเฮียก่อน”ราเชนทร์เอ่ยขึ้น ครั้นได้ยินจากเสียงสะอื้นๆ ก็ลดทอนลง มองใบหน้าเคร่งเครียดของคนอายุมากกว่าทั้งดวงตาแดงก่ำเมื่อเห็นคนของตนตกใจจนเสียสติ“….”“เฮียไม่ได้เป็นโจร ไม่ได้เป็นผู้ร้าย เฮียก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องการความยุติธรรมให้น้อง ให้เตี่ยและให้หม่าม้า”“….” คนอายุน้อยยังมองหน้าราเชนทร์อยู่แบบนั้น นึกสงสัยว่าคนตรงห
ดวงหน้าน้อยแดงซ่านขึ้นสี ยามอีกฝ่ายเอาแต่รังแกย้ำๆ อย่างสาแก่ใจ พลันคนมองกระตุกยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะยกมือลูบเช็ดน้ำลายที่อาบคางให้คนอายุน้อย ราเชนทร์ซุกไซร้ซอกคอขาว สูดดมกลิ่นหอมบนกายพลางขบเม้มเบาๆ ทว่าก็เกิดรอยแดงเป็นหลักฐาน พรมจูบลดระดับลงมาเรื่อยๆ ดูดยอดปทุมถันเม็ดสวยทั้งบีบเคล้าจนเนื้อนมไหล่ออกตามง่ามนิ้ว พลางสลับดูดซ้ายขวาราวกับเป็นทารกเสียอย่างนั้น ความรู้สึกเย็นวาบทั่วเรือนกายตรงข้ามกับอุณหภูมิลิ้นร้อนที่กำลังจะโลมเลียบริเวณยอดอก จากนั้นปลายลิ้นร้อนลากต่ำลงมาเรื่อยๆ ถึงหน้าท้องแบนราบ ราเชนทร์แลบเลียรูสะดือสวยแล้วยกเรียวของน้ำหนึ่งพาดบ่าหนึ่งข้าง“ฮะเฮีย!”“ทุกอย่างในตัวหนึ่งเป็นของเฮีย ขอให้เฮียได้ทำให้หนึ่งมีความสุข”ใช้ปลายนิ้วมือคลึงบริเวณกลีบนั้น ทำน้ำหนึ่งสะดุ้งเพราะเสียดสีถูกจุดเสียว มองดวงตารัตติกาลที่ตวัดขึ้นสูงประสานทั้งคลี่ยิ้มเบาๆ ส่งมาให้ ก่อนจะสะดุ้งหนักขึ้นอีกครั้งเมื่ออีกฝ่ายสอดนิ้วขนาดใหญ่เข้ามาพร้อมกันทั้งสองนิ้วโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว“อ่ะ”น้ำหนึ่งครางเสียงเบาพลางกัดปาก โยกส่ายสะโพกเล็กน้อยรับกับท่อนนิ้วที่กำลังขยับเข้าออก ทั้งกระตุ้นอณูความอยากของผู้มองได้อย่าง
หัวใจเธอเต้นแรง พวงแก้มแดงก่ำหนักกว่าเดิมและร้อนผ่าวจนเขินอายทั้งที่อยู่ด้วยกันมานาน น้ำหนึ่งเดินมาอีกมุมของห้องเพื่อหลบสายตา จัดการถอดชุดบนกายออกเพื่อจะเข้าห้องอาบชำระร่างกายแล้วออกมานอน ซิปด้านหลังพยายามจะรูดลงอย่างเงอะงะ ทว่าราเชนทร์รีบเข้ามาช่วยในทันที“จะอาบน้ำเหรอ”“อืม...เหนียวตัว”เสียงซิปรูดรั้งลง โชว์แผ่นหลังขาวเนียนแก่สายตาคนมอง จากนั้นลมร้อนจากปลายจมูกปะทะลง ทำเธอสะดุ้งตัวเมื่อริมฝีปากคนด้านหลังจุมประทับลง“ที่จริงก็ยังไม่เหนียวเลยนะ”น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยกระซิบแล้วรั้งทั้งชุดลงจนเธอตัวเปลือย มองหน้าอกอวบเต่งตึงจนเกิดเส้นเลือดบนบริเวณเนื้อนมนั้น หน้าท้องมีพุงน้อยๆ โผล่ขึ้นไม่ต่างจากคนเพิ่งกินข้าว ส่วนด้านล่างนั้นเกลี้ยงเกลาน่ารักราวกับเด็กน้อยเพราะเธอไปเลเซอร์มา“ไม่เหนียวก็จะอาบ”กำลังจะเดินหนีก็ถูกโอบกอดเอาไว้ ราเชนทร์จูบลงต้นคอและไซ้เบาๆ ทำขนอ่อนบนร่างชูชันขึ้น“หนึ่ง”“ไม่เอานะเฮีย วันนี้เหนื่อยทั้งวันเลย”“เฮียมีความสุขมาก”“….”“ในที่สุดเราก็เป็นสามีภรรยากันโดยสมบูรณ์”“ค่ะ – หนึ่งจะเป็นภรรยาที่ดีของเฮียนะ”ราเชนทร์ต้องการแสดงความรักด้วยการกอดเท่านั้น กระชับร่างขาวลงจม
สองอาทิตย์ต่อมากำหนดงานแต่งที่วางแผนกันไว้ตอนนี้ล่วงเลยมาแล้ว ครั้นเกิดเหตุการณ์อันตรายจนได้รับบาดเจ็บกันทั้งสอง แผลที่เกิดจากการโดนยิงเริ่มหาย ส่วนแขนของน้ำหนึ่งที่หักก็ดีขึ้นตามลำดับ แต่เพราะความไม่เคยเจ็บตัวทำให้เธอระแวงในการใช้แขนเพราะกลัวว่ามันจะเกิดขึ้นอีกรอบ“ฤกษ์แต่งงาน – เราค่อยหากันใหม่”“หนึ่งไม่อยากได้ฤกษ์แล้ว”เธอตอบเขา พลางหยิบผลไม้รสเปรี้ยวเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย เปิดหนังสือจากร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังที่ส่งมาให้เลือกทุกสามเดือน ทว่าน้ำหนึ่งไม่ชอบเสื้อผ้าแฟชั่นพวกนี้เท่าไหร่“ไม่มีฤกษ์ ก็ไม่ได้แต่งน่ะสิ”“เอาที่สะดวกดีกว่า”“….”“เราอยู่ด้วยกันมานาน ใครๆ รู้ว่าเป็นผัวเมียกัน ไม่ต้องทำอะไรที่เป็นพิธีรีตองแล้วก็ได้ แค่ได้อยู่กับเฮียในทุกๆ วันนั่นแหละคือความสุขของหนึ่ง”ไม่ได้คิดว่าจะต้องมีงานมงคลเกิดขึ้น ทุกอย่างมาจากความต้องการของราเชนทร์เพราะอยากให้เกียรติ แต่พอผ่านพ้นเรื่องราวต่างๆ กันมาได้ ทำให้เธอรู้ว่าการได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทุกวินาทีนั้นมีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใดรอยยิ้มประดับบนใบหน้าหล่อเหลา มองเมียรักนั่งไขว่ห้างเปิดหนังสือในอิริยาบถที่สบายตา เธอสบายใจขึ้นในการใช้ชีวิตจ
น้ำหนึ่งตาเบิกโพลง ราเชนทร์กำลังมีความต้องการทั้งที่สภาพร่างกายแต่ละคนก็เจ็บมากพอสมควร“หนึ่งแขนหัก เฮียโดยยิงตรงท้องและต้นแขน ขย่มไม่ได้หรอกนะ”ประโยคอ้อยอิ่งทั้งเขินอายปฏิเสธทางอ้อม ครั้นรู้ว่าชายหนุ่มต้องการอะไร ที่เป็นอยู่มันไม่ได้เอื้ออำนวยแก่การร่วมรักเลยสักนิด“คxยเฮียไม่หักนี่”“ไม่เอา”“อยากเลีย”“เลียอะไร”ถามกลับอย่างไร้เดียงสา อันที่จริงน้ำหนึ่งรู้อยู่แล้วว่าชายหนุ่มหมายถึงอะไร ราเชนทร์ขยับกายลงจากโซฟาแล้วนั่งย่อ จากนั้นคล้องเรียวขาเล็กลากมายังฝั่งที่ตนนั่ง เขารั้งกางเกงผู้ป่วยของเธอลง แล้วยกเท้ายันชันเข่าขึ้น“ขอเลียหน่อยนะครับ”“โรงพยาบาลนะ”“ไม่มีใครเข้ามา เฮียสั่งไว้แล้วห้ามรบกวน”“บ้า”คำพูดที่เอ่ยออกเหมือนจะปฏิเสธ ทว่าก็รู้สึกไม่ต่าง พลันมือหนาจับเรียวขาแหกออกกว้าง มองเนินกุหลาบอวบอูมที่ไม่มีชุดชั้นในห่อเอาไว้ เขาสอดมือใต้ร่มผ้า เลื่อนสูงขึ้นกำเข้าเต้านมสวยบีบมันเบาๆ แล้วใช้มืออีกข้างบดขยี้เม็ดคลิตอริสที่โผล่ขึ้นมาจากรอยแยกเล็กน้อย น้ำหนึ่งสะดุ้งตัวแต่ยังไม่มีเสียงครางเล็ดออกมาเพราะเธอกัดปากแน่นเอาไว้ กลัวว่าจะเผลอร้องจนเจ้าหน้าที่และลูกน้องที่ยืนเฝ้าลอบได้ยินและสงสั
ร่างหนาอยู่บนเตียง จะไม่ตกใจหากราเชนทร์นอนแบบคนปกติ ทว่าตอนนี้มีผ้าสีขาวคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้า ยืนนิ่งตัวแข็งทื่อกับสิ่งที่เห็น ลมหายใจแรงขึ้นและหยาดน้ำตาร่วงหล่นอาบใบหน้าที่ไร้การแต่งทันทีราเชนทร์ตายแล้ว...“ฮึ่ก”ฝ่าเท้าเปลือยเปล่าขยับไปทีละน้อยให้ใกล้เตียงแต้ม ยกมือปิดปากตัวเองไม่ให้เสียงเล็ดลอดครั้นไม่อยากให้คนตายนั้นได้ห่วง ทว่าความเสียใจที่เกิดแบบไม่ทันได้เตรียมเกินกว่าจะอดทน พลันปล่อยโฮร้องไห้อย่างหนัก ซบตัวลงกอดร่างหนานั้นอย่างไม่กลัว ทั้งที่ปกติเป็นคนกลัวผี“หนึ่งขอโทษ – ฮือ ขอโทษที่ช่วยเฮียไม่ได้”สะอึกสะอื้นพร้อมกับเอ่ยโทษตัวเองเสียงสั่น เพราะผู้หญิงตัวคนเดียวก็ทำได้เพียงเท่านี้ น้ำสีใสจากเบ้าตาไหลเปียกผ้าสีขาว ทั้งน้ำมูกที่ไหลออกจากรูจมูกยามร้องไห้แบบเอาเป็นเอาตาย“ขอโทษที่ปกป้องเฮียไม่ได้”“หนึ่ง”“ฮือ!! ขอโทษ”“หนึ่ง”เจ้าของชื่อชะงักในทันที เสียงทุ้มต่ำเอ่ยเรียกเธอกลางวันแสกๆ ราเชนทร์กลายเป็นผีมาหลอกเธอได้แล้วเหรอเนี่ย“ไม่กลัว เฮียจะเป็นผี หนึ่งก็ไม่กลัว”“จะตายจริงๆ เพราะโดนเมียทับแผลนี่แหละ”เหยียดตัวยืนขึ้น จากนั้นดึงผ้าที่ห่อขึ้นคลุมศีรษะ ราเชนทร์ลืมตาแล้วกะพริบถี่
กำลังคนด้านนอกของราเชนทร์กระจายออกไปโดยรอบ สำรวจทางหนีทีไล่ในยามต้องเข้าชิงตัวเขาออกมา“เฮียตุลย์ จะเอายังไงก็เอาเถอะ เรานั่งกันแบบนี้นานแล้ว”“ใจร้อนแบบมึงก็มีแต่พาเฮียเชนทร์ไปตาย – มองไม่เห็นคนของไอ้เสี่ยเหรอ เดินเข้าเดินกันเป็นขบวน”จริงอย่างที่เขาพูด ไม่นึกว่าคนของชลัมพลจะขนมาเยอะขนาดนี้ ต้องรอจังหวะในการเก็บทีละคน กระทั่งมีชายฉกรรจ์เป็นลูกน้องฝั่งศัตรูออกมาปลดทุกข์เบา ตุลย์ที่หมอบต่ำในพงหญ้า ลุกขึ้นช้าๆ พร้อมกันกับน้องคนสนิทอย่างปืน จากนั้นเข้าทางด้านหลัง ใช้มือปิดปากคนฝั่งตรงข้ามพร้อมกับใช้มีดเฉือนเข้าลำคออย่างเหี้ยมโหด ไม่ได้เป็นคนจิตใจอำมหิตโดยสันดาน แต่สถานการณ์ที่ต้องเอาตัวรอดและช่วยเหลือเจ้านายผู้มีพระคุณจำเป็นต้องทำ หากมันไม่ตายราเชนทร์ก็ต้องตายน้ำหนึ่งที่ยังเกาะกิ่งไม้ดูลาดเลา ยามส่องกล้องทางไกลเห็นภาพที่เกิดขึ้นเมื่อชายฉกรรจ์นอนชักดิ้นชักงอจนหมดลมหายใจ พลันหัวใจเต้นรัวและหวาดกลัวไม่น้อยครั้นเห็นคนตายต่อหน้า ทว่าพยายามตบสติตัวเอง เข้าใจว่าเป็นการป้องกันตัวและเข้าช่วยเหลือ ไม่มีใครอยากเป็นฆาตกร“โอเคไหมหนู”ลุงที่รออยู่ด้านเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง เพราะได้ยินเสียงลมหายใจของน้
เพียะ!!ฝ่ามือหนาฟาดลงใบหน้าราเชนทร์จนหมุนไปตามแรงกระทบ แรงผู้ชายที่ง้างมือตบครั้งเดียวทำมุมปากเขาแตก เลือดไหลเพียงเล็กน้อยทว่ามีรอยแดงขึ้นกลางหน้าปรากฏเด่นชัด เล็บจิกลงกับพื้นคอนกรีต กลืนน้ำลายยามที่คับแค้นใจ อยากจะลุกตอบโต้ด้วยการเตะเสยปลายคางก็ต้องอดกลั้นเอาไว้อย่างที่สุดครั้นตอนนี้ตัวเองกำลังเป็นรอง เป็นครั้งแรกที่เขาอดทนได้มากขนาดนี้ อดเพื่อรอเวลาเป่ากบาลไอ้สารเลวที่มันกำลังคิดว่าตัวเองอยู่เหนือคนอื่น“ไงมึง ลุกขึ้นมาสิ ลุกขึ้นมา”“อ๊า—”ชลัมพลกำเข้าเส้นผมอีกฝ่ายแน่น จากนั้นกระชากจนใบหน้าแหงนขึ้นสูง ราเชนทร์เอียงสายตาโกรธแค้นมองคนเลวที่ยังทำชั่วลอยหน้าลอยตาหนักแผ่นดินไม่เลิก พลันสีหน้าของมันบ่งบอกว่าสะใจมาก เมื่อตอนนี้เขาตกเป็นรองทุกอย่างจะบีบก็ตาย จะคายก็ตาย...“กูจะส่งมึงตามพ่อมึงไป ส่วนแม่มึง...แค่ดึงสายออกซิเจนออกไปก็หมดลมหายใจทันที ถึงตอนนั้นพวกมึงคงไปรอกันที่ทางช้างเผือ""....""ครอบครัวคงจะสมบูรณ์ มีความสุขแล้วสินะไอ้ลูกหมา"แสยะยิ้มร้ายกาจแล้วตบหน้าชายหนุ่มเบาๆ พูดอย่างเย้ยหยันแล้วแผดเสียงหัวเราะอย่างผู้ชนะ ก่อนนจะจับหน้าผากของราเชนทร์กระแทกลงพื้นดังปักไปหลายทีและหัวแตกใ
23:00ร่างเล็กเดินกลับเข้าบ้านทั้งดวงตาแดงก่ำ วันนี้ทุกอย่างดูเงียบผิดปกติ น้ำหนึ่งที่ยืนอยู่กลางบ้านรู้สึกใจหวิวกับสถานการณ์ที่ดูแปลกประหลาดไปเสียหมด จากที่มีลูกน้องราเชนทร์เดินสวนกันไปมา แม่บ้านเสิร์ฟของว่างกันจนดึกดื่น ทว่าวันนี้กลับไม่มีใครเดินสวนสนามอย่างเช่นวันก่อนๆ“คุณหนึ่ง”เป็นเสียงของปืนที่เปิดประตูออกมาจากห้องเก็บของ กล่าวทักและมองเธอด้วยสีหน้าไม่สู้ดี เธอยืนนิ่งมองลูกน้องของรเชนทร์เช่นกัน ทว่าตัวเองนั้นคล้ายคนหมดเรี่ยวแรงเข้าไปทุกที“เฮียเชนทร์ยังไม่กลับเหรอ”“ยังครับ คงอีกหลายวัน”“….”คำตอบนั้นทำน้ำหนึ่งฉงนงง ทำไมต้องหลายวัน เธอไม่เข้าใจ พลางขมวดคิ้วแล้วมองไปยังใบหน้ามีพิรุธของเฮียปืน“เฮียมีงานด่วนที่ต่างประเทศครับ”เธอเผยสีหน้าแสดงความไม่พอใจชัดเจน หากเป็นเรื่องงานเธอคงไม่ห้ามหรือก้าวก่าย แต่จะไปไหนทำไมไม่บอกเธอด้วยปากของตัวเอง“แบบนี้ก็ได้เหรอ อยากไปก็ไม่บอกกันสักคำ”“เฮียฝากบอกให้คุณหนึ่งจัดการเรื่องงานแต่งต่อได้เลย เฮียไปถึงคงจะยุ่งมาก ไม่มีเวลาช่วยดู”“ยุ่งมากถึงขั้นไม่รับสายหนึ่งไหม”“คงจะเป็นแบบนั้น”ปืนเสริมคำตอบออกมา ทำคนฟังไม่พอใจหนักมากขึ้น ต่อให้ยุ่งมากแค่ไ
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาการเตรียมตัวไม่ใช่แค่มีชุดแล้วจบ น้ำหนึ่งถูกประโคมด้วยการทำทรีตเมนต์ โปรแกรมความสวยความงามของว่าที่เจ้าสาว แม้จะปฏิเสธไปแล้วว่าไม่อยากทำก็ขัดความต้องการของราเชนทร์ไม่ได้เขาอยากให้เมียสวยในวันสำคัญ....“เฮียไม่ไปกับหนึ่งเหรอ”“ต้องไปทำงาน วันนี้มีคุยเจรจากับคุณอเนก”ลูกค้าทางธุรกิจคนใหม่ที่เพิ่งมีโอกาสได้เจอกัน ครั้นทางนั้นกำลังหานายทุนโปรโมตสินค้าหลังจากลองรับข้อเสนอจากเจ้าอื่น แต่ทว่ารู้สึกว่ามันโดนเอาเปรียบมากเกินไป จึงตัดสินใจอยากขอคุยกับราเชนทร์เป็นการส่วนตัวอีกครั้ง“งั้นเฮียมารับหนึ่งนะ – แล้วไปดูหนังด้วยกัน”“ครับ”วันนี้น้ำหนึ่งมีท่าทางงอแงผิดปกติ อยากอยู่ใกล้ชายคนรักตลอดเวลา เธอรู้สึกใจหวิวอย่างบอกไม่ถูกตั้งแต่ตื่นนอน แต่เพราะอีกฝ่ายต้องทำงานและตนต้องไปทำสวยก็ทำได้เพียงแสดงใบหน้างอง้ำก็เท่านั้น“หนึ่งรักเฮียนะ"“รู้แล้ว”"จะรอดูหนัง รีบคุยรีบมา”"อืม..."เขายกมือขยี้ผมคนอายุน้อยและจูบลงหน้าผากหนักๆ สองทีอย่างชื่นใจ ก่อนจะลุกหยิบสูทสีดำแล้วเดินนำหน้าตุลย์ขึ้นรถ มีลูกน้องตามประกบไปอีกสองคน ในส่วนของน้ำหนึ่งมีปืน ลูกน้องมือดีอีกคนขับรถไปส่งและดูแลความปลอดภัยให
ไม่นานนักคนตัวบางก็เดินกลับมายังจุดเดิม ทว่าตรงหน้ากลับปิดไฟมืดไปเสียดื้อๆ ทำน้ำหนึ่งขมวดคิ้วงงทำอะไรไม่ถูก มันมืดจนมองด้านหน้าไม่เห็น“เฮีย!!”“….”“เฮียเชนทร์!! --- เล่นอะไร”“…..” มีเพียงความเงียบที่เกิดขึ้น น้ำหนึ่งหมุนตัวกวาดสายตามองหารอบๆ ทว่าก็ไม่มีใคร มันสงัดจนน่ากลัวขึ้นมากะทันหัน“เล่นอะไรกัน หนึ่งไม่สนุกนะ”“….” จากที่มืดบริเวณโซนกินข้าว คราวนี้ทุกอย่างถูกดับลงโดยฉับพลัน หัวใจดวงน้อยเต้นตึกตักความกลัวเกิดขึ้นไปต่างๆ นานา หรือราเชนทร์จะโดนใครลอบทำร้าย แต่มันก็เพียงสิบนาทีที่เธอเดินหายเข้าห้องน้ำ ทั้งไม่มีเสียงอะไรดังให้ได้ยินยืนท่ามกลางความมืด หมุนตัวไปทางไหนก็ดำสนิทราวกับคนตาบอด กระบอกตาเริ่มร้อนผ่าวมันเกิดอะไรขึ้นทำไมราเชนทร์หายไป ทำไมทุกคนหายไปหมด เกิดอะไรขึ้น หรือว่าอันตรายมาเยือน เป็นคำถามไม่มีมีคำตอบนอกจากความมืดมิดและลมที่เริ่มพัดแรงขึ้น พลันน้ำตาก็ไหลอาบแก้มยามตะโกนหาราเชนทร์ครั้งสุดท้ายสุดเสียง ทว่าก็มีเพียงเสียงของตัวเองสะท้อนกลับมา“ฮึ่ก”ทรุดฮวบลงกับพื้นหญ้า กุมหน้าร้องไห้ยามนึกอะไรไม่ออกทำอะไรไม่เป็น สะอื้นตัวสั่นอยู่คนเดียว กระทั่งเห็นไฟรางๆ ด้านหน้าสว่างขึ้นพ