เช้าวันต่อมา…บริษัท KA07:30น.เอริ ฐิติมน….พรึบ“กาแฟค่ะ….^_^”“ขอบคุณนะคะ….พี่เอริ^_^”“จ้า….^_^”ฉันยิ้มให้กับน้องที่อยู่แผนกฝ่ายต้อนรับหน้าเคาน์เตอร์ที่ฉันมักจะซื้อกาแฟมาฝากเธอและพนักงานคนอื่นๆอยู่เป็นประจำ วันนี้ก็เช่นกัน เมื่อฉันแจกจ่ายกาแฟหลายสิบแก้วที่ฉันซื้อมาจากคาเฟ่ให้พนักงานเรียบร้อยแล้ว ก็เดินตรงดิ่งไปที่ลิฟต์เพื่อจะขึ้นไปยังชั้นที่ฉันทำงานอยู่ทันทีติ๋งฉันกดลิฟต์และรอสักพักประตูลิฟต์ก็ถูกเปิดออกโดยภายในตัวลิฟต์ไม่มีคนอยู่ ฉันเดินก้าวขาเข้าไปในตัวลิฟต์โดยไม่ได้รับร้อนอะไรและกำลังจะกดประตูลิฟต์ให้ปิดลงเพราะไม่มีใครมายืนรอลิฟต์เพื่อจะไปพร้อมกับฉัน ตึกๆๆๆๆ“รอด้วยค่ะ^_^”เสียงรองเท้าส้นสูงดังกระทบพื้นกระเบื้องดังขึ้นพร้อมๆกับเสียงหวานใสของใครคนหนึ่งที่ฟังดูคุ้นหูเอ่ยดังมาแต่ไกลพร้อมกับนิ้วเรียวยาวที่ยื่นมาจับประตูลิฟต์ที่กำลังจะปิดตัวลงให้อ้าออกและเปิดรับให้เธอที่อยู่ด้านนอกของตัวลิฟต์ได้เข้ามาภายด้านในกับฉัน ทันทีที่ฉันสบตาเข้ากับผู้หญิงตรงหน้าก็ทำให้ฉันตกใจทันที เพราะไม่คิดว่าเธอจะมาที่นี้“คุณนามิ…?”“ใช่ค่ะ…นามิเอง^_^”เธอยิ้มหวานให้ฉันรอยยิ้มและน้ำเสียงของเธอดูเป็นมิตร
“ก็พี่เอริเป็นคนน่ารัก….แบบนี้นี่เองพี่ขุนศึกถึงได้ดูสนิทสนมกับพี่เอริมากๆยังไงล่ะค่ะ…”“มากจนทำให้ฉันรู้สึกไม่ชอบและคิดไม่ดีกับพี่เอริ…”น้ำเสียงของเธอฟังดูว่าเธอรู้สึกผิดพรึบนามิว่าพลางยื่นมือมาจับมือฉันไปกุมไว้บนตักเธอ แววตาของเธอดูอ่อนโยนและจริงใจ“ฉันขอโทษนะคะ…สำหรับทุกเรื่องที่ผ่านมา….ทั้งวาจาที่ฉันเคยล่วงเกินพี่และการกระทำของฉันที่ทำไม่ดีต่อพี่เอริ….เพราะนามิเข้าใจพี่เอริผิดว่าพี่เอริจะมาแย่งพี่ขุนศึกไปจากนามิ….”นามิว่าพลางทำสายตาที่บ่งบอกว่าเธอรู้สึกผิดไปตามที่เธอพูดจริงๆ ฉันก็มองหน้าเธอความรู้สึกที่เคยโกรธเธอและมองเธอไม่ดีกลับแปรเปลี่ยนมาเอ็นดูและชื่นชอบเธอแทน“ฉันขอโทษจริงๆค่ะ…”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ….ดิฉันเข้าใจ…”ฉันยิ้มพลางบอกเธอและใช้มืออีกข้างไปกุมมือเธอและออกแรงบีบๆเบาๆเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าฉันไม่ได้โกรธอะไรเธอแล้ว ที่เธอทำไปเพราะเธอคิดว่าฉันกับขุนศึกมีอะไรเกินเลยมากกว่าเจ้านายและเลขาเธอคงจะหึงหวงเขาตามธรรมชาติแหละ“ขอบคุณนะคะ…..^_^”“ค่ะ….”“นามิต้องขอบคุณพี่ขุนนะคะเนี่ย…^_^”“คะ?”ฉันขมวดคิ้วมองใบหน้าสวยของนามิอย่างสงสัยกับคำพูดของเธอ เธอก็ยิ้มกว้างให้ฉันแววตาของเธอเ
13:00น. ห้างสรรพสินค้าในเครือ บริษัทKA ชั้น5 ร้านขายยา….. เอริ ฐิติมน….. “ซื้อยาคุมค่ะ….”ฉันเอ่ยบอกเภสัชกรประจำหน้าเคาน์เตอร์ร้านขายยาในห้างสรรพสินค้าของห้างKAไป เพราะวันนี้ฉันมีนัดตรวจงานและตรวจยอดขายกับผู้จัดการสาขาห้างแห่งนี้น่ะ และก็ถือโอกาสเยี่ยมชมการตลาดของห้างที่นี้ไปในตัวเลยด้วย ซึ่งปกติฉันไม่เคยมาที่สาขานี้ เพราะที่นี้เป็นส่วนดูแลของคุณจอมพล “ค่ะ….คุณคนไข้..ยินดีรับเป็นยาคุมกำเนิดแบบไหนดีคะ^_^”พนักงานร้านที่ฉันคาดว่าน่าจะเป็นเภสัชกรเอ่ยยิ้มแย้มถามฉันอย่างต้อนรับลูกค้าดีมาก ฉันก็ส่งยิ้มให้เธอ “เอ่อออ”ฉันอ้ำๆอึ้งๆเพราะไม่รู้จะรับแบบไหน เพราะตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยซื้อยาคุมกินเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าฉันไม่กินมีหวังฉันท้องโตแน่ “งั้น….เดี๋ยวดิฉันแนะนำให้นะคะ…^_^”เภสัชกรหน้าเคาน์เตอร์คงเห็นว่าฉันทำหน้าเอ๋อเหรอไม่รู้เรื่องราวจึงอาสาแนะนำให้ฉัน “อ้อได้ค่ะ…ขอบคุณนะคะ^_^”ฉันยิ้มแหยๆให้เธอพลางเอ่ยบอกเธอไป “ด้วยความยินดีค่ะ^_^”เธอยิ้มให้ฉันก่อนจะหันไปหยิบยาที่อยู่ในตู้กระจกด้านหลังของเธอและหันกลับมาหาฉันพร้อมกับกล่องยาสามกล่อง “แบบนี้…เป็นแบบยาคุมกำเนิดฉุกเฉินค่ะ…สำหรับหนึ่งเม็ด…และส
พรึบฉันก้มหัวให้กับคณะกรรมการที่ประจำสาขานี้สี่ท่านและผู้จัดการอีกหนึ่งท่านและคุณจอมพลอย่างเกรงใจที่ฉันเสียมารยาทขอลุกไปกลางคันแบบนี้ในห้องประชุม“ขอโทษนะคะ…ที่ไปนาน…”ฉันที่นั่งที่นั่งข้างๆคุณจอมพลที่จับจ้องมองฉันตลอดระยะเวลาที่ฉันเดินเข้ามาภายในห้องประชุมขนาดกลางแห่งนี้ก็เอ่ยกระซิบบอกคุณจอมพลไป“ไม่เป็นไรครับ…^_^”คุณจอมพลตอบฉันกลับมาและยิ้มกว้างให้ฉัน ฉันก็ยิ้มแหยๆให้เขาก่อนจะหันไปให้ความสนใจการอภิปายของผู้จัดการสาขาต่อพลางจดบันทึกข้อมูลลงในไอแพดเครื่องหรูของฉันเราประชุมต่อกันไปอีกสักพักใหญ่ การประชุมและการอภิปายก็จบลง “ขอบคุณทุกๆคนมากครับ…ที่ให้เกียรติและเสียสละเวลามาอภิปายในวันนี้….”คุณจอมพลลุกขึ้นยืนและเอ่ยบอกคณะกรรมการและผู้จัดการสาขานี้ด้วยน้ำเสียงและสายตาอ่อนโยนอย่างขอบคุณจากใจจริง ฉันก็ยิ้มกริ่มที่คุณจอมพลเอาใจใส่พนักงานทุกคนแบบนี้ “พวกเราสิครับ….ที่ต้องขอบคุณคุณจอมพลที่เสียสละเวลามาเยี่ยมชมพวกเราในทุกๆเดือนแบบนี้^_^”“มันเป็นหน้าที่ของผมครับ…และผมจะขอโอกาสนี้แนะนำเลขาคนใหม่ของผมให้ทุกๆท่านได้รู้จักนะครับ….”คุณจอมพลว่าพลางหันมายิ้มละมุนให้ฉันก่อนจะยักคิ้วให้ฉันข้างหนึ่งเพื่
ชั้นที่6หน้าโรงหนังห้างสรรพสินค้าในเครือบริษัท KA15:30น.เอริ ฐิติมน……“อืมมมมมมม?”เสียงอืมยาวๆของผู้ชายหน้าหล่อผิวขาวรูปร่่างสูงโปร่งที่อยู่ในชุดสูทสีดำเต็มยศกำลังยืนเอานิ้วชี้จิ้มที่ปลายคางพลางทำหน้าคิดหนักกับการเลือกดูระหว่างหนังรักกับหนังบู๊ระห่ำแนวฆ่ากันเลือดนอง ซึ่งหนังทั้งสองแนวนี้ไม่ใช่แนวฉันเลยสักนิด“ดูเรื่องไหนดีนะ….เอริว่ายังไงครับ?”คุณจอมพลหันมาเอ่ยถามฉันที่ยืนมองผู้คนรอบๆโรงหนังอยู่ เพราะเวลานี้เป็นเวลาบ่าย ผู้คนจะเริ่มมาทยอยดูรอบของหนังที่ตนชอบและก็จะไปซื้อตั๋วเสร็จแล้วก็ไปนั่งรอหรือไปเดินเล่นเพื่อรอเวลาหนังฉายในแต่ละรอบ“เอ่อ….แล้วแต่คุณจอมพลเลยค่ะ….”ฉันตอบคุณจอมพลไป เขาก็ทำหน้างออย่างไม่พอใจฉันขึ้นมาทันที“พี่บังคับเอริให้มารึเปล่า?”เขาถามฉันเสียงอ่อน ฉันจะตอบยังไงดีล่ะ ก็ในเมื่อเขานั้นแหละที่ลากฉันมาน่ะ“เอ่อออ”ฉันกำลังอ้ำๆอึ้งๆจะตอบคุณจอมพลไปแต่บทสนทนาของฉันกับคุณจอมพลก็ต้องถูกขัดลงจากพนักงานที่ดูแลพื้นที่ควบคุมของโรงฉายหนังประจำห้างที่อยู่ชั้นหกชั้นบนสุดของห้างสรรพสินค้าหรูหราแห่งนี้ที่มีทั้งหมดหกชั้นไม่รวมชั้นดาดฟ้าของห้าง“สวัสดีครับ….ท่านรองประธาน^_^”คุณจอมพล
“ละแล้ว….ท่านประธานจะรับเป็นห้องสะส่วนตัวไหมครับ?”“คนอย่างฉันไม่นั่งรวมกับคนอื่น!”“และไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร!!”เสียงเข้มที่ฟังดูดุดันทำให้พนักงานชายที่ยืนเอามือกุมกันไว้ด้านหน้าถึงกับสะดุ้งสุดตัวด้วยความหวาดกลัวขุนศึก แต่คำพูดของเขาทำให้ฉันรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาและหันไปมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง เพราะถ้าคนอื่นฟังก็คงจะคิดว่าขุนศึกหมายถึงการไม่ดูหนังรวมกับคนอื่นแต่สำหรับฉันมันไม่ใช่!ขวับฉันมองขุนศึกอย่างไม่วางตาเขาเองก็จับจ้องฉันกลับด้วยแววตาดุดันและไม่พอใจเช่นกัน“พี่ขุนคะ….”เสียงหวานใสของผู้หญิงหน้าตาดีที่สวมชุดนักศึกษาตัวเล็กรัดติ้วของเธอและสัดส่วนที่อวบอั๋นของเธอทำให้ฉันรู้ทันทีว่าเธอคงจะเป็นคู่ขาคนล่าสุดของขุนศึก เพราะว่าเขาชอบผู้หญิงตัวเล็กหน้าตาเหมือนตุ๊กตาผิวขาวและที่สำคัญหน้าอกหน้าใจต้องใหญ่โตแบบเธอคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันข้างๆเขาที่ตอนนี้เธอเอาแขนเล็กคล้องแขนของขุนศึกอยู่ด้วยท่าทางออดอ้อนของเธอ งานการไม่ทำ ที่แท้ก็มามั่วหญิงอยู่นี่ อนาคตของบริษัทKAจะเป็นยังไงต่อไปถ้าไม่มีฉันกับคุณจอมพลอยู่น่ะแต่เอ๊ะ?ขุนศึกไปดูงานกับนามิอีกห้างหนึ่งไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเขามาอยู่นี่ได้อ่ะ?“ค
คฤหาสน์ ชัชชัยวรรณ20:30น.เอริ ฐิติมน…..พรึบ“ขอโทษป้าบัวด้วยนะครับ…ที่มารบกวน”เสียงเศร้าเล็กน้อยและรู้สึกผิดของคุณจอมพลเอ่ยบอกป้าบัวไปในขณะที่ท่านกำลังนั่งมองเราสองคนกินข้าวฝีมือป้าบัวอยู่ด้วยสายตาอิ่มเอมใจ“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ…ป้าเต็มใจอยู่แล้ว^_^”ป้าบัวเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มแย้มแจ่มใสให้คุณจอมพลอย่างใจดี ฉันก็ยิ้มให้ป้าบัวและหันมายิ้มให้คุณจอมพลที่กำลังเคี้ยวอาหารในปากของเขาอย่างเอร็ดอร่อย โดยที่เราสองคนมัวแต่ช่วยกันเลือกซื้อของมาทำอาหารกินและซื้อของที่จำเป็นที่ต้องใช้ใส่บ้านใหม่ของฉัน เลยทำให้เรามาหาป้าบัวมืดค่ำแบบนี้ และไหนจะต้องวานให้ป้าบัวมาทำอาหารให้เราสองคนทานอีก เพราะฉันทำอาหารไม่เป็นจ้า สายเรียนและสายทำงานอย่างฉันไม่เคยเข้าครัวจับกระทะและตะหลิวเลยนอกจากนำอาหารที่ซื้อค้างคืนมาอุ่นและเอาเข้าเตาไมโครเวฟเอาน่ะ“ครับ^_^”“ป้าขอบคุณอีกครั้งนะคะ….สำหรับของฝากและขอบคุณที่นึกถึงคนแก่ๆอย่างป้า^_^”“ไม่เป็นไรหรอกครับ…ผมเต็มใจ….ผมนับถือป้าบัวเป็นญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งเลยนะครับ^_^”“อย่าเลยค่ะ….ป้าไม่อาจเอื้อมได้ขนาดนั้น”ป้าบัวว่าพลางทำสีหน้าสลดลง ท่านคงจะเกรงใจที่คุณจอมพลพูดและคิดแบบที่เขาพูด
ฉันมองไปที่มือหนาของคุณจอมพลทันทีที่เขายื่นมือมาจับมือฉันที่วางอยู่บนโต๊ะอาหารอย่างไวจนฉันตั้งตัวไม่ทัน“อย่าผลักไสพี่….”น้ำเสียงเชิงขอร้องและอ้อนวอนพร้อมกับสายตาที่สั่นไหวของคุณจอมพลทำให้ฉันดึงมือของฉันออกมาจากเขาไม่ได้จริงๆ“เพราะพี่…ไม่เคยคิดที่จะเล่นๆกับเธอ…”คุณจอมพลว่าพลางยื่นมืออีกข้างที่ว่างของเขาขึ้นมาหาโครงแก้มของฉันอย่างช้าๆพรึบ“มองตาพี่สิ….ว่าพี่คิดยังไงกับเธอ…”คุณจอมพลเอ่ยเสียงนุ่มทุ้มในขณะที่ฝ่ามือหนานุ่มและอบอุ่นของเขาสัมผัสโดนแก้มนวลของฉันแล้ว ฉันมองตาของคุณจอมพลนิ่งไม่ไหวติ่ง มันไม่มีความรู้สึกตื่นเต้นและใจเต้นแรงเหมือนตอนที่ฉันอยู่ใกล้และสบตากับขุนศึกเลยสักนิด สักนิดเดียวก็ไม่มีพรึบ“จุ๊ฟ….”คุณจอมพลขยับใบหน้าหล่อของเขาเข้ามาหาใบหน้าของฉันอย่างช้าๆ ฉันไม่ได้ขยับหนีเขา ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไมจนฉันรับรู้ได้ถึงริมฝีปากหนานุ่มของเขาที่ค่อยๆบรรจงแตะลงมาบนริมฝีปากของฉันอย่างอ่อนโยนและเริ่มเน้นย้ำในการกดแนบชิดริมฝีปากของฉันให้ถี่ขึ้นเพื่อเร่งเร้าให้ฉันจูบตอบเขา พรึบโพล๊ะ“ไอ้สัสจอม!!!”ร่างของคุณจอมพลโดนขุนศึกกระชากออกไปจากร่างของฉันอย่างรุนแรงจนคุณจอมพลที่ตั้งตัวไม่ทันถูกแ
"ยังมีอีกคน"แก้มหวานว่าพร้อมกับตบมือขึ้นสามครั้ง ฉันก็เงยหน้าไปมองเธอและก็มีผู้ชายผมเผ้ารกรุงรังหัวฟูสวมใส่เสื้อผ้าขาดๆเนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบอะไรไม่รู้สีดำฟันของมันดำทุกซี่ หน้าตาเป็นขี้กลากขี้เกลื้อนมันกำลังเดินมาหาฉันด้วยท่าทางที่เหมือนคนไม่เต็มเต็งอย่าบอกนะว่าเป็นคนสติไม่ดีเป็นคนบ้า"ผัวแกก็มีคนบ้าด้วย..ลูกแกต้องเกิดมาเป็นบ้าแน่เลยฮ่าๆๆๆๆๆ"แก้มหวานเอ่ยออกมาพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างสะใจฉันก็กำหมัดแน่นด้วยความคับแค้นใจ และโกรธเธอคนนี้คนที่ฉันไม่เคยคิดที่จะโกรธ แต่ครั้งนี้ฉันโกรธเธอและจะไม่มีวันให้อภัยเธอเด็ดขากเพราะเธอคิดไม่ดีกับลูกของฉัน ฉันไม่ยอม!!!!!"เจ๊ให้พวกผมก่อน.....ผมไม่อยากใช้ของต่อจากไอ้บ้านี้!!"ชายคนหนึ่งที่จับขาฉันยึดไว้หันไปบอกแก้มหวาน"ได้....ไอ้บ้าแกออกมาก่อน!!"แก้มหวานรับคำชายชุดดำก่อนจะหันไปเอ่ยบอกคนบ้า คนบ้าก็เหมือนจะพูดรู้เรื่องและมันก็หยุดอยู่กับที่"ให้พวกกูก่อน....เสร็จแล้วค่อยคิวมึง"ชายคนที่ถือเข็มฉีดยาเอ่ยขึ้น ตอนนี้มันนำยาไปไว้ในเข็มแล้วและมันก็ดันก้นสปริงออกมานิดหน่อยทำให้ตัวยาที่อยู่ด้านบนพุ่งออกมาเล็กน้อยก่อนที่มันจะเดินมาหาฉันพร้อมกับทำส
"เปล่าหรอก......ที่ผู้ชายเขาไม่เลือกเธอมันเป็นเพราะนิสัยของเธอมากกว่าล่ะแก้มหวาน""นิสัยของเธอ.....ลองมองย้อนดูกลับไปว่าอะไรที่เราสองคนไม่เหมือนกัน""นี่แกจะบอกว่านิสัยแกดีกว่าฉันเหรอ?"แก้มหวานกดเสียงต่ำจ้องฉันด้วยแววตาแข็งกร้าวกว่าเดิม เธอพร้อมที่จะประทุอารมณ์ใส่ฉันได้ทุกเมื่อ"ไม่ใช่.....ฉันแค่อยากจะบอกว่าบางทีทัศนคติหรือความชอบความคิดเห็นสองผู้ชายสองคนนั้นไม่ตรงกับเธอ""แต่มาตรงกับฉันมากกว่า"ฉันเอ่ยออกไปอย่างในความคิดฉันจริงๆแต่ดูเหมือนคำพูดของฉันจะทำให้แก้มหวานไม่พอใจฉันเพิ่มขึ้นไปอีกดูจากการจับเส้นผมของฉันดึงก็รู้ได้เพราะว่าเธอดึงมันแรงขึ้นจนฉันรู้สึกเจ็บจี๊ดไปที่ศีรษะนาทีนี้ฉันไม่ควรจะยั่วโมโหแก้มหวาน เพื่อความปลอดภัยของตัวฉันเองและลูกในท้องของฉัน"หึ.....เข้าข้างตัวเองจริงๆนะ.....ถ้าแกไม่ให้ท่าเควินเขาก็ไม่มีวันสนใจแกหรอก""เขาเชื่อฟังฉันและเอาใจฉันมาตลอดแต่พอมีเเกเข้ามายุ่มย่ามในชีวิตของเขา.....เขาก็เปลี่ยนไป""เขาทำตัวห่างเหินกับฉันไม่เหมือนเมื่อก่อน.....เควินชีวิตของเขาไม่เคยได้รู้จักผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษ....เขาเลยไม่รู้ว่าผู้หญิงน่ะมันตอแหล!!!""เหมือนเธอไงเอริ.....ทำตัวใ
ฉันก็มองจ้องเธอเขม่น แววตาสั่นไหวอย่างไม่ไว้ใจเธอ"แกมีผัวอยู่แล้วและยังจะมายุ่งกับผัวคนอื่นอีกทำไม!!"แก้มหวานตะโกนใส่หน้าฉันสีหน้าและแววตาของเธอที่จ้องมองมาที่ฉันเเปรเปลี่ยนไปเป็นแข็งกร้าวและไม่พอใจและเธอก็เอื้อมมือมาจับผมของฉันพร้อมกับออกแรงกระชากจนหน้าฉันหงายไปข้าง"โอ้ย!""เธอพูดเรื่องอะไรแก้มหวาน.....ฉันไม่เคยไปยุ่งกับสามีของใคร"ฉันเอ่ยบอกแก้มหวานไปพร้อมกับน้ำตาแอบเล็ดไปด้วยเพราะฉันรู้สีกเจ็บที่หนังศีรษะมาก เพราะแก้มหวานเธอดึงผมฉันแรงมากแรงเหมือนอยากจะดึงมันให้ขาดออกไปจากหนังศีรษะฉันฉันก็ใช้มือของตัวเองมั้งสองข้างมาจับมือของแก้มหวานที่จับผมฉันไว้ให้เธอปล่อยผมฉันแต่เธอก็ยิ่งกำมันและออกแรงดึงมันให้แรงขึ้นแรงขึ้นและแรงขึ้น"ยังจะมาตีหน้าซื่ออีกเหรอแกนี่มันมารยาสาไถยจริงๆ""ไม่เข้าใจว่าพวกผู้ชายชอบผู้หญิงแบบแกลงไปได้ยังไง"แก้มหวานเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงและแววตาดูถูกฉัน ฉันก็จ้องมองเธอด้วยความงุนงงว่าเธอพูดถึงใครกันและใครกันที่ฉันไปแย่งสามีเขามาเท่าที่ฉันจำได้ ฉันไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนไหนเลยนะ ไม่ว่าจะที่ทำงานหรือที่ไหน"แกแย่งผู้ชายที่ฉันรักไปทั้งสองคน......""และก็เป็นแกที่ท
"ไอ้จอม?"ผมหันไปทันทีที่ได้ยินเสียงที่ผมโคตรจะไม่อยากได้ยิน แต่ก็ต้องได้ยินเพราะพี่ชายต่างแม่ของผมกำลังยืนมองหน้าผมอยู่ด้วยสีหน้าแปลกใจ หน้าตามันโคตรกวนตีน ยิ่งเห็นหน้ามันยิ่งหงุดหงิด ยิ่งหงุดหงิดก็ยิ่งเกลียดมัน "มึงมาทำไม?"ผมถามมันไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบอย่างชัดเจนว่าผมไม่อยากเจอมัน "กูมาหาเอริ..."มันตอบผมมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆเช่นกันแต่หน้าตาโคตรกวนประสาท ผมเกลียดชี้หน้ามันชิบหาย เพราะมันพ่อถึงไม่เคยรักผม "แล้วมึงมาทำอะไรที่นี่หรือว่า....มึงอยู่กับริเหรอ?"มันถามผมมาพลางชี้มาที่ผมด้วยหน้าตาเหมือนหมาสงสัย "เอ่อกูกับริกำลังมีลูกด้วยกัน.....แค่นี้มึงก็ควรจะรู้ได้แล้วนะว่าเลิกยุ่งกับเมียกูสักที"ผมอ่ยบอกไอ้จอมไปเสียงเเข็ง มันก็มองมาที่ผมด้วยสายตาตกใจแต่แวบหนึ่งผมก็เห็นเหมือนสายตาเป็นประกายในดวงตาคู่สวยของมันแต่ผมไม่มั่นใจเพราะเห็นแค่กระพริบตาเดียวเท่านั้น ที่ผมพูดกันท่าแบบนี่ทั้งที่ผมเองก็รู้ตัวดีว่าผมไม่มีสิทธิ์แต่ผมไม่อยากให้เอริคบกับไอ้จอม เพราะไอ้จอมมันก็เจ้าชู้ไม่ต่างจากผม มันน่ะ......เปลี่ยนผู้หญิงบ่อยยิ่งกว่าผมเสียอีก ผมไม่อยากให้ริต้องกลับไปเจ็บแบบที่เคยเจ็บมาอีกแล้ว.....ผ
เธอก็บอกว่าจะไม่แก้แค้นอะไรผมอีกแล้ว แต่ขอสู้คดีให้ถึงที่สุด ถ้าผมแพ้ ผมก็ต้องยอมรับชะตากรรม เธอบอกว่าถือเสียว่าผมชดใช้กรรมให้เธอ ผมก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะผมมั่นใจว่าผมจะไม่แพ้คดีนี้แน่ ผมรีบเดินออกมาจากห้องและเดินไปยังห้องฝั่งตรงข้ามที่เป็นห้องของเควิน ที่ผมเองก็เพิ่งจะรู้ว่าคอนโดนี้เควินเป็นเจ้าของ โดยมันให้เอริอยู่ห้องมันฟรีๆดูก็รู้ว่ามันชอบเอริ และจ้องจะเคลมเธอและที่ผมรู้ไปกว่านั่นอีกคือเควินเป็นลูกชายของผู้ชายที่แก้มหวานแต่งงานด้วยออดดดดดดดดดดดดผมกดออดห้องของเควินอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีใครมาเปิดประตูให้ผมสักที สงสัยมันจะไม่อยู่จริงๆหรือมันจะออกไปกับเอริ"ขอให้แน่ใจหน่อยจะได้หมดห่วง"ผมพูดออกมาอย่างยอมรับชะตากรรมถ้าเอริจะชอบผู้ชายคนนี้ผมก็คงจะไม่มีสิทธิ์ไปขัดขวางอะไรเธอ เพราะผมกับเธอมีหน้าที่เป็นพ่อแม่ของลูกเท่านั้น ส่วนสถานะอย่างอื่นเราก็เป็นเพื่อนกันผมเดินเข้าลิฟต์ไปยังชั้นล่างและเดินมุ่งตรงไปยังเคาน์เตอร์ของประชาสัมพันธ์ที่มีไว้ต้อนรับลูกค้าและดูแลคนที่อยู่ในคอนโคนี้"ผมขอเบอร์คุณเควินหน่อยได้ไหมครับ""พอดีผมมีเรื่องจะคุยกับเขาน่ะครับ"ผมเอ่ยบอกพนักงานผู้หญิงที่ทำหน้าที่ประ
คอนโดเควินห้องของเอริ19:00น.ขุนศึก ขุนณรงค์...."ริไปไหนเหรอครับป้าบัว....มืดแล้วยังไม่เห็นกลับมาเลย?"ผมเอ่ยถามป้าบัวไปในขณะที่ท่านกำลังเก็บจานข้าวที่ผมเพิ่งกินเสร็จอยู่ที่จริงผมนั่งชะเง้อคอมองเอริมาตั้งแต่ที่เห็นเธอแต่งตัวออกไปตั้งแต่ตอนห้าโมงเย็นแล้ว กะว่าเธอไปแค่แปปเดียวก็คงจะกลับเพราะไม่เห็นเธอบอกผมว่าเธอจะไปไหน"เห็นว่าออกไปหาเพื่อนนะคะ....คุณขุนศึกมีอะไรหรือเปล่าคะ?""อ้อเปล่าครับ.....ผมเห็นว่ามันเริ่มมืดแล้ว....."ผมเอ่ยบอกป้าบัวไปอย่างเป็นห่วงสีหน้าเป็นกังวลขึ้นมาเพราะเอริเป็นผู้หญิงและกำลังท้องอยู่ด้วยไม่น่าจะออกไปข้างนอกคนเดียวแบบนี้นะหรือว่าเธอจะออกไปหาเพลงขวัญ"ลองโทรหาดูไหมคะ.....""เดี๋ยวผมโทรเองครับป้า....ขอบคุณมากนะครับ""โอเคค่ะงั้นป้าขอตัวไปดูคุณหญิงก่อนนะคะ""ครับป้า.....เดี๋ยวผมรอริสักพักก็จะเข้าไปดูคุณแม่นะครับ""ค่ะ.....เดี๋ยวป้านอนเฝ้าคุณหญิงเองค่ะ....คุณขุนศึกไปนอนพักผ่อนเถอะค่ะ""ครับ....ขอบคุณมากนะครับ"ผมเอ่ยบอกป้าบัวไปอย่างซาบซึ้งใจที่ท่านดีกับผมและคุณแม่ของผมจากใจจริงท่านไม่คิดที่จะทอดทิ้งผมและคุณแม่......ในความโชคร้ายของผมก็ถือว่ายังมีโชคดีอยู่บ้างที
"กะจะเผาทั้งเป็นแม่ของขุนศึกเลยนะ""เธอร้ายกาจมากมากจนฉันอยากรู้ว่าแก้มหวานแค้นอะไรขุนศึกมากมายขนาดที่จะฆ่าจะแกงกันได้"นามิเอ่ยออกมาอย่างไม่เข้าใจและอยากรู้มากๆ"ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราทั้งสามคนในเมื่อก่อนมันจะเป็นต้นเรื่องที่ทำให้แก้มหวานแค้นฉันขนาดนี้ไหม"ฉันเอ่ยออกไปเสียงแผ่วเบามันถึงเวลาแล้ว ที่ฉันจะต้องไปเผชิญหน้าและถามแก้มหวานตรงๆว่าสิ่งที่เธอทำงไปในตอนนี้ เพราะอยากจะเอาคืนขุนศึกที่เขาทำกับเธอตอนที่เธอเรียนอยู่มหาลัยใช่ไหมเพราะสิ่งที่ขุนศึกไม่ตั้งใจในคราวนั้นแต่กลับทำให้คนที่ถูกกระทำเครียดแค้นเอาเป็นเอาตายขนาดนี้"ฉันขอตัวก่อน"ฉันเอ่ยขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูงนามิก็ลุกขึ้นพรวดพราดตามฉันมาทันทีด้วยความตื่นตกใจ"เธอจะไปไหนไม่เอาหลักฐานแล้วหรือไง""ไม่แล้วล่ะ....ฉันไม่ต้องการมันแล้ว"ฉันเอ่ยบอกนามิไปก่อนจะหยิบกระเป๋าเงินและจำ้อ้าวเดินออกมาจากร้านอาหารนี้อย่างไวตอลดทางเดินฉันหยิบโทรศัพท์ไอโฟนเครื่องแพงของตัวเองขึ้นมากดดูบันทึกรายการบันทึกเสียงฉึก"โอ้ย!!"ฉันร้องออกมาด้วยความตกใจและความเจ็บปวดที่แล่นแวบเข้ามาที่ก้านคอของฉันฉันจึงรีบเอามือไปคลำดูก็พ
"ฉันเลยเตรียมของมาให้เธอได้พิสูจน์....ว่าฉันไม่โกงเธออย่างแน่นอน"ฉันก็มองหน้านามิอย่างจ้องเขม็งและสงสัยในสิ่งที่เธอพูด เธอเตรียมอะไรมาให้ฉันพิสูจน์"ในรถฉันมีโน้ตบุ๊กอยู่....เธอจะไปดูมันกับฉันไหมล่ะ?"นามิเอ่ยถามฉันมา ฉันก็จ้องเธออย่างไม่วางใจ"ฉันเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆจะไปทำอะไรเธอได้.....?"เธอก็เอ่ยออกมาเสียงใสอย่างรู้ทันความคิดของฉัน"ในนั้นมีหลักฐานทั้งหมดจริงๆใช่ไหม?"ฉันเอ่ยถามนามิไป เธอก็ยกยิ้มที่มุมปากขึ้นอย่างคนที่เหนือกว่าก่อนจะพยักหน้าเป็นคำตอบให้ฉัน"หลักฐานที่แก้มหวานโกงบริษัทของคุณหญิงนฤมิตรจนทำให้ทั้งคุณหญิงและขุนศึกต้องถูกกล่าวหาว่าเป็นคนคดโกง""ใช่...."นามิตอบมาเสียงดังฟังชัด ฉันก็ทำหน้านิ่งเฉยและเอ่ยถามเธอต่อไป"แก้มหวานเป็นคนอยู่เบื้องหลังแผนการทั้งหมด......ทั้งเรื่องที่โยนความผิดว่าคุณหญิงนฤมิตรฟอกเงินที่ผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน""เป็นคนต้นคิดการเทรดเงิน....โดยใช้การเทรดเงินเป็นเบื้องหน้าให้คุณหญิงนฤมิตรตายใจและให้คุณหญิงเปิดบัญชีเป็นชื่อของท่านเพียงคนเดียวและนำเงินที่ฟอกมาทั้งหมดโอนใส่ไปในบัญชีของคุณหญิง"นามิเอ่ยออกมา ฉันก็จ้องมองหน้าเธอด้วยท่าทางนิ่งเฉย ฉันต้องทำ
"เธอเป็นใคร"ฉันเอ่ยถามปลายสายที่เป็นเสียงผู้หญิงออกไปน้ำเสียงของปลายสายฟังดูคุ้นหูฉันมาก (นามิเอง....) "นามิ....เธอมีอะไรกับฉัน" (ฉันมีเรื่องเกี่ยวกับขุนศึกอยากปรึกษาเธอ) "เรื่องอะไร?" (หลักฐานทั้งหมดเกี่ยวกับคดีที่ขุนศึกเจออยู่ในตอนนี้.....ถ้าได้หลักฐานอันนี้ไปเขาพ้นคดีแน่) "แล้วเธอไปเอามาจากไหน?"ฉันเอ่ยถามนามิไป ในใจฉันสงสัยและไม่เข้าใจเธอว่าเธอจะช่วยขุนศึกทำไม ในเมื่อก่อนหน้านี้เรื่องของสองคนนี้จบกันไม่ดีเท่าไหร่ อาจจะมองหน้ากันไม่ติดถึงขั้นเกลียดขี้หน้ากันเลยก็ได้ (ฉันโดนนังแก้มหวานหักหลัง....มันเป็นคนต้นเรื่องทั้งหมด) (ฉันพูดจริงๆเอริ....ตอนนี้ฉันกับแม่กำลังเดือดร้อน....ฉันขอขายหลักฐานของขุนศึกให้เธอในราคาสิบล้านก็ได้) (ฉันกับแม่จะใช้เงินก้อนนี้เป็นก้อนหลบหนีนังแก้มหวาน) (มันราวีชีวิตของฉันกับแม่ไม่เลิกนะเอรินะ) (นังแก้มหวานมันสั่งให้ฉันเข้าไปตีสนิทก้บขุนศึกมันอยู่เบื้องหลังทุกอย่างทั้งเรื่องที่คุณหญิงโดนฟ้องว่าฟอกเงิน....การเทรดหุ้นที่ไม่เอาเงินไปเทรดแต่เอาไปใช้เอง....ตลาดหุ้นที่ผิดกฏหมาย) (นังแก้มหวานมันเป็นคนวางแผน....ฉันมีคลิปวิดีโอในการคุยของฉันกับมันในตอนที่มัน