ขุนศึก ขุนณรงค์........ผมยืนมองร่างบางของเอริที่เธอเดินออกไปจากห้องทำงานของผมได้สักพักแล้ว แต่ผมยังคงยืนสตั้นอยู่ท่าเดิมและที่เดิมอยู่แบบนั้นเหมือนร่างกายโดนสตัฟฟ์ไว้คำพูดและสีหน้าของเธอ ทำให้ผมเจ็บปวดหัวใจและเเวบหนึ่งผมก็เหมือนจะคิดอะไรออกมาได้กับคำพูดที่เธอบอกว่า เธอไม่มีทางแต่งงานกับผมแน่ถ้าผมยังไม่มีความคิดและความเชื่อมั่นในตัวเอง มันหมายความว่ายังไงกัน และที่เธอบอกแม่ผมว่า ผิดสัญญา ทั้งสองคนไปสัญญาอะไรกัน ที่ผมไม่รู้"ลูกคิดถูกแล้วที่กำจัดคนไม่ดีออกไปจากบริษัทของลูก.....ต่อจากนี้ไปแม่จะเข้ามาช่วยลูกบริหารบริษัทเองนะลูกรัก...."ฝ่ามืออบอุ่นของแม่ผมค่อยๆลูบไปตามแผ่นหลังของผมอย่างแผ่วเบาพร้อมกับคำพูดที่แสนอบอุ่นของท่าน ผมก็ละสายตาจากเบื้องหน้าและหันไปมองหน้าท่านแทน"ครับ......"ผมตอบท่านไปสั้นๆ แม่ผมก็คลี่ยิ้มบางๆให้ผมพร้อมกับพยักหน้ารับคำผมก่อนจะจับร่างผมให้ไปนั่งลงบนโซฟาตามเดิมและกลับมาพูดบทสนทนาที่เราทิ้งท้ายกันไว้ นั้นคือ หุ้นบริษัทของผมที่อยู่ในบริษัทAKห้าสิบเปอร์เซ็นในครั้งนี้ของผมใช่ครับ เราคุยกันเรื่องหุ้นในส่วนของผม ที่ท่านจะขอให้ผมโอนให้ท่านทั้งหมด ซึ่งท่านให้เหตุผลกับผม
และที่สำคัญ ที่ผมรู้มาอีกวันนี้ก็คือ บริษัทที่เป็นคู่แข่งของผมที่ทำกิจการเกี่ยวกับห้างเหมือนกัน ที่เราต่อสู้กันมาโดยตลอด บริษัทOPผู้บริหารใหญ่ของบริษัทคือไอ้จอมพล มันโกงเงินบริษัทผมจนมันไปเปิดบริษัทเป็นของตัวเองได้ผมจึงแค้นและเกลียดมันมากกว่าเดิม ผมจึงรวบรวมเอกสารเพื่อจะฟ้องร้องมันในศาลเอาให้มันหมดตัวจนไม่เหลืออะไรเลยแต่ที่ทำให้ผมเจ็บใจไปยิ่งกว่านั้นคือ คนที่ผมรักที่สุดรองจากแม่ของผมกลับหักหลังผมแทงข้างหลังผมซะจนไม่เหลือชิ้นดี อย่างเงียบเฉียบโดยที่ผมไม่รู้ตัวเลยสักนิดเธอเป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจมากเอริ.............01:30น.ผับEโซนVIPโต๊ะ5ขุนศึก ขุนณรงค์.........ฮึก"มึงเรียกกูมาฉลองอะไรวะไอ้ขุน?"เสียงห้วนอย่างสงสัยเอ่ยขึ้น ทำให้ผมละสายตาจากแก้วเหล้าเพียวๆไปมองหน้าไอ้ทีภพ เพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งของผม"ยังไม่ถึงปาตี้สละโสดไม่ใช่หรือไง?"มันถามผมต่ออย่างสงสัย ผมก็มองมันด้วยแววตาเรียบเฉยอย่างเย็นชา จนมันทำหน้างงๆก่อนจะยกแก้วเหล้าในมือมันกระดกขึ้นบ้าง"และมึงเป็นเหี้ยอะไรเนี่ยที่ไม่ยอมให้กูเอาสาวมานั่งด้วย?"ไอ้ทีเอ่ยออกมาอีกอย่างไม่พอใจ แต่ผมก็ทำเพียงแค่เงียบใส่มัน ก่อนจะยกขวดเหล้าขึ้นกระด
วันเดียวกัน19:30น.ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดข้างทางเอริ ฐิติมน........"พี่ขอโทษนะที่ทำให้เธอต้องเดือดร้อนไปด้วย"คุณจอมพลเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกผิดและคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ ฉันก็เงยหน้าจากจานอาหารมื้อเย็นที่เป็นก๋วยเตี๋ยวเป็ดเจ้าประจำฉันไปมองหน้าเขาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับฉัน"หยุดพูดขอโทษริได้แล้วค่ะพี่จอม.....มันไม่ใช่ความผิดของพี่จอมเลย"ฉันเอ่ยบอกคุณจอมพลไปตามความจริง และยิ้มบางๆให้เขาเพื่อให้เขาแน่ใจว่าฉันไม่ได้โกรธหรือโทษเขาเลยที่ฉันตกงานน่ะ"แต่บริษัทนั้นเธอรักและทุ่มเทกับมันมาก"คุณจอมพลยังคงเอ่ยต่อด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ฉันจึงวางช้อนกับตะเกียบลงและจ้องหน้าคุณจอมพลอย่างจริงจัง"มีคนไม่อยากให้ริอยู่ในนั้น.....ถึงต่อให้ริต้องดิ้นรนไปแค่ไหน .....สักวันริก็ต้องออกมาอยู่ดีล่ะค่ะ"ฉันพูดบอกคุณจอมพลไปอย่างจริงจัง เขาก็มองหน้าฉันด้วยสีหน้าเห็นใจฉัน ซึ่งพอฉันพูดประโยคนี้ไป ฉันคิดว่าคุณจอมพลรู้ดีว่าฉันหมายความว่ายังไง"เขาเป็นผู้หญิงใจร้าย.....ที่ไม่เคยมองเห็นใคร.....ไม่เคยนึกถึงใคร...นอกจากตัวเอง"คุณจอมพลเอ่ยออกมาแววตาเขาสั่นไหว ฉันจึงยื่นมือไปวางลงบนมือของคุณจอมพลอย่างเเผ่วเบา เขาก็มองหน้าฉั
"พี่คงจะบอกเธอในตอนนี้ไม่ได้ว่าเขาเป็นใคร.....แต่สักวันเธอจะต้องได้รู้แน่"คุณจอมพลพูดเสียงเข้มหน้าตาจริงจัง ฉันมองหน้าเขาและเงียบไป และกลับมาตั้งคำถามกับตัวเอง ว่าที่คุณจอมพลพูดมันคืออะไร เขาสร้างบริษัทที่เป็นน้องใหม่ของวงการธุรกิจห้างสรรพสินค้าขึ้นมาได้หลังจากบริษัทฉันแค่สองปี แต่กลับกลายมาเป็นคู่แข่งอันดับหนึ่งของบริษัทAKได้ โดยที่ฉันและคนอื่นๆก็ไม่รู้เช่นกันว่าใครคือเจ้าของบริษัท OPจนมาวันนี้ที่ฉันมาได้ยินจากปากของคุณจอมพลทำให้ฉันตกใจเป็นอย่างมากขุนศึกจะรู้เรื่องนี้ไหมนะ และเขาจะทำยังไงต่อไป หรือว่าเขารู้เรื่องนี้ เลยหาวิธีไล่คุณจอมพลออก"และหุ้นที่บริษัทSMผู้หญิงคนนั้นก็บีบบังคับจะยึดของพี่ไปหมดแล้นะ.....ตอนนี้พี่ไม่เหลือและไม่มีความเกี่ยวข้องกับสองแม่ลูกนั้นอีกแล้ว"คุณจอมพลเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แววตาของเขาสั่นไหวเล็กน้อยก่อนที่เขาจะก้มต่ำหลบสายตาสงสัยและจับผิดของฉันไป โดยการทำทีเป็นกินก๋วยเตี๋ยวเป็ดตรงหน้า ฉันก็ขมวดคิ้วงุนงงสงสัย แต่ก็ถามอะไรคุณจอมพลมากไม่ได้ เพราะดูจากสายตาของเขา เขาเองก็เสียใจอยู่พอสมควร ฉันเข้าใจดี การเป็นส่วนเกินในครอบครัว ถึงฉันจะไม่เคยมีครอบครัวแ
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา........11:30น.บริษัท เบสท์เวิลด์แอร์ไลน์.......ห้องสัมภาษณ์งาน......เอริ ฐิติมน........"ทางเราจะแจ้งผลประกาศในอีกสองวันข้างหน้านะคะ"เสียงหวานใสของพนักงานประชาสัมพันธ์เอ่ยขึ้น ฉันที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเธอก็ยิ้มให้เธอก่อนจะพยักหน้ารับรู้"ค่ะ....ขอบคุณมากค่ะ"ฉันเอ่ยขอบคุณเธอไปอย่างเป็นมิตร"ดิฉันเชื่อว่าคุณฐิติมนมีโอกาสที่จะได้ทำงานที่สายการบินของเรานะคะ......เพราะโปรไฟล์เลิศรวมถึงคุณฐิติมนที่พูดได้หลายภาษาแบบนี้แหละค่ะที่สายการบินเบสท์เวิลด์แอร์ไลน์ของเราต้องการ"พนักงานฝ่ายประชาสัมพันธ์เอ่ยออกมาด้วยสีหน้าชื่นชมฉันจากใจจริง ฉันก็ยิ้มแย้มให้เธอพร้อมกับก้มศีรษะให้เธอเล็กน้อยเพื่อน้อมรับคำชมของเธอ"ขอบคุณค่ะ.....ดิฉันก็หวังว่าจะได้ทำงานที่นี้เช่นกันค่ะ"ฉันเอ่ยบอกพนักงานไป ที่จริงในใจฉันก็เป็นกังวลนะ ฉันกลัวว่าชื่อของฉันจะถูกแบล็คลิสต์จนไม่สามารถที่จะหางานได้"ค่ะ....ขอให้โชคดีนะคะ""ค่ะ....ขอบคุณนะคะ ....ดิฉันต้องขอตัวก่อน"ฉันเอ่ยบอกพนักงานไป เธอก็ยิ้มกริ่มให้ฉัน ฉันก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและเดินออกมทจากห้องสัมภาษณ์งานของฉันในวันนี้ ฉันยื่นสมัครออนไลน์และรอแค่ไม่
ฉันเลยเผลอหลับตาและกอดคอของชายคนนั้นแน่น ที่ฉันรู้ว่าเขาเป็นผู้ชายเพราะรูปร่างที่หนาแน่นอย่างชายอกสามศอกยังไงล่ะ"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ.....ต้องขอโทษด้วยที่ผมไม่ทันได้ดูทาง"เสียงนุ่มเอ่ยออกมาอย่างสุภาพ ทำให้ฉันรู้สึกผิดเลยกับนิสัยสุภาพบุรุษของเขา ที่เอ่ยปากเป็นฝ่ายผิดเองทั้งๆที่คนที่ผิดคือฉันเอง ฉันเป็นฝ่ายเดินไม่ดูทางจนไปชนเข้ากับเขามากกว่าพรึบ"คุณเควิน?"ฉันลืมตาขึ้นมาก็ต้องตกใจเมื่อมองเห็นใบหน้าหล่อใสของหนุ่มลูกครึ่งที่เซ็ตผมหน้าของเขาไปไว้ด้านข้างใบหน้าหล่อใสไร้ที่ติ จมูกโด่งเป็นสันริมฝีปากสีชมพูระเรื่อในตาคมสวยคิ้วดกดำกำลังจ้องมองฉันอย่างไม่วางตาเช่นกัน"คุณเอริ?"คุณเควินเอ่ยออกมาอย่างตกใจและแปลกใจไม่แพ้ฉัน ฉันก็ยิ้มแหยๆให้เขาก่อนที่เราทั้งคู่จะรู้ตัวว่าเราสองคนเหมือนคนที่กำลังกอดกันอยู่ฉันจึงรีบปล่อยแขนที่โอบรอบคอของคุณเควินให้ออกมาแทบจะทันทีด้วยความตกใจปนเขินอาย ที่ฉันไปแต๊ะอั๋งเขา"ขอโทษครับ"คุณเควินเอ่ยขอโทษฉันมาอีกครั้งเมื่อเขาปล่อยร่างของฉันให้ยืนทรงตัวเองได้และเป็นอิสระจากอ้อมกอดเขาพร้อมกับโค้งศีรษะเล็กน้อยเพื่อทำการขอโทษฉัน"ริก็ต้องขอโทษคุณเควินเช่นกันค่ะที่กอดคอคุณเคว
ภัตตาคารหรูระดับห้าดาวชั้นอาหารวีไอพีโต๊ะ5"อร่อยไหมครับ?"เสียงทุ้มนุ่มสุภาพเอ่ยออกมาจากผู้ชายหน้าหล่อสไตล์ไทยลูกครึ่งอเมริกาเอ่ยขึ้น ฉันก็ละสายตาจากอาหารอิตาเลียนตรงหน้าขึ้นไปมองหน้าเขา ก่อนจะยิ้มแหยๆให้เขาไป ที่ฉันเอาแต่กินจนเสียมารยาทที่ไม่ได้คุยกับเขาเลย"อร่อยค่ะริซอตโตที่ร้านนี้อร่อยมากค่ะ"ฉันตอบคุณเควินไปตามความจริง เขาก็ยิ้มกริ่มออกมาก่อนจะยื่นมือมาตักลาซัญญาลงในจานของฉัน"ผมเชื่อครับว่าริซอตโตอร่อยจริงๆเพราะทำให้คุณเอริลืมผมไปเลย""แต่ผมอยากให้คุณเอริชิมลาซัญญาของที่นี่ด้วยครับ....ว่าก็อร่อยไม่แพ้ริซอตโตเหมือนกัน"คุณเควินว่าพร้อมกับยิ้มละมุนให้ฉัน ฉันก็ยิ้มบางๆพลางพยักรับคำเขาก่อนจะใช้ส้อมกับช้อนช่วยกันหั่นแล้วตักเนื้อลาซัญญาขึ้นมาใส่ปากเพื่อลิ้มลองชิมรสชาติตามที่คุณเควินว่า มันจะอร่อยจริงไหมและแววตาของฉันก็เป็นประกายเมื่อลิ้นรับรู้รสของลาซัญญาจานเด็ดจานนี้ ว่ามันอร่อยอย่างที่คุณเควินพูดจริงๆ"อร่อยใช่ไหมล่ะครับ""ใช่ค่ะอร่อยมาก.....^_^""อร่อยก็ทานเยอะๆนะครับ""ค่ะ"ฉันยิ้มแหยๆตอบคุณเควินไปและเริ่มลงมือทานอาหารอิตาเลียนขึ้นชื่อของร้านสองสามอย่างต่อไป โดยมีคุณเควินนั่งทานด้
"โอกาสหน้าเชิญอีกนะครับ"พนักงานเอ่ยลาเราทั้งคู่พร้อมกับก้มศีรษะให้เราทั้งคู่อย่างเคารพ ฉันก็ยิ้มให้กับเขาและก้มศีรษะให้เขากลับคืนไปก่อนที่เราสองคนจะพากันเดินออกมาจากห้องอาหารแห่งนั้น ที่ถูกสร้างอยู่ภายในภัตตาคารหรูหราแห่งนี้ ที่มีอยู่หลายชั้นทำเป็นร้านอาหารอย่างเดียวโดยแบ่งเป็นอาหารประเทศต่างๆและมีอาหารทุกอย่าง"คุณเควินขนาดไม่ค่อยได้อยู่ที่เมืองไทยแต่กลับรู้จักร้านอาหารอร่อยๆแบบนี้ด้วยหรือคะ?"ฉันเอ่ยถามคุณเควินไปในขณะที่เราสองคนเดินมาตามทางเดินแล้วเพื่อจะไปยังโรงจอดรถของภัตตาคารแห่งนี้ที่มีไว้ให้ลูกค้าได้มาจอด"ผมก็แค่ตามมาจากที่เขารีวิวในโซเชียลนะครับ""ผมไม่ค่อยได้มาเมืองไทยสักเท่าไหร่....จะมาก็แค่มาประชุมประชุมเสร็จก็บินกลับฝรั่งเศสเลย"คุณเควินว่าพร้อมกับหันมายิ้มหวานให้ฉัน ฉันก็ยิ้มกับไปให้เขา"ว่าแต่คุณเอริจะไปไหนต่อหรือเปล่าครับ?""อ้อริว่าจะไปดูคอนโดนะคะ""คุณเอริจะไปดูคอนโดหรือครับ?"คุณเควินเอ่ยถามฉันพร้อมกับหยุดชะงักฝีเท้าลงอย่างคนที่ตกใจ"ใช่ค่ะ....คุณเควินมีอะไรหรือเปล่าคะ?"ฉันเองก็ต้องหยุดเดินตามคุณเควินและหันไปมองหน้าเขาอย่างสงสัย"พอดีผมมีคอนโดอยู่นะครับ....ผมใช้เป็นที่
"ผมเกลียดคุณเข้าใจไหม""ไม่จริงคุณไม่ได้เกลียดแก้มหวานคุณรักแก้มหวาน""ไม่งั้นคุณจะมาทำดีกับแก้มหวานทำไม""ที่ผมทำดีกับคุณเพราะผมติดใจในเซ็กส์ของคุณไง....คุณรู้ไหมว่าคุณเป็นผู้หญิงที่เร้าร้อนและร้อนแรงเรื่องบนเตียงมากแค่ไหน"เควินพูดพร้อมกับเดินตรงมาหาแก้มหวาน"ผมไม่เคยมีอะไรกับใครแล้วมีความสุขเท่าคุณ"เควินว่าพร้อมกับใช้ปลายนิ้วเรียวไล้เกี่ยไปตามแขนของแก้มหวานอย่างแผ่วเบา พร้อมกับมองแก้มหวานด้วยแววตาหวานเยิ้ม"ผมก็เลยเล่นตามน้ำคุณถึงแม้ในใจผมมันจะสนแค่ร่างกายคุณแต่นิสัยและสันดานของคุณผมรังเกียจมันเสียด้วยซ้ำ"เควินพูดไปพลางมองไปที่ร่างของแก้มหวานด้วยสายตาดูถูกและเหยียดหยาม"ผมก็นึกว่าคุณจะเล่นๆกับผมแต่ที่ไหนได้คุณคิดจริงจัง"เควินว่าพลางยิ้มหัวเราะออกมาอย่างเรื่องที่เป็นประเด็นสนทนาอยู่ในตอนนี้เป็นเรื่องตลก ทำให้แก้มหวานมองผู้ชายตรงหน้าอย่างไม่พอใจและน้อยใจไปในตัวเธอคิดว่าเขาจะสนใจและมีความรู้สึกดีๆให้เธอเสียอีก แต่ที่ไหนได้เขากลับไม่ได้มีใจให้เธอเลย "ไม่ต้องมองผมแบบนั้นหรอก.....ผมพูดความจริง""และต่อไปคุณก็ช่วยกรุณารู้จุดยืนของตัวเองด้วยนะ"เควินเอ่ยออกมาปิดท้ายแววตาที่เขามองเธอเวลาพูด
"ไม่ใช่ว่าริเป็นซิงเกิ้ลมัมไม่ได้แต่ริไม่อยากเป็นไม่อยากให้ลูกมีแค่ริที่ทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกันแต่อยากให้ลูกได้รับความรักจากพ่อแท้ๆของเขาและความเอาใจใส่จากพ่อของเขาจริงๆ" "คนที่ไม่เคยขาดพ่อขาดแม่ไม่มีวันเข้าใจหรอกไม่ว่าแม่จะดูแลดีแค่ไหนแต่มันก็ไม่เหมือนความรักที่มีทั้งพ่อและแม่อยู่ครบ" "ริหวังว่าขุนจะเข้าใจนะ....ขุนแค่ทำหน้าที่พ่อของลูกเท่านั้นพอ....." "ริ....." "หรือขุนอยากจะเลือกก็ได้นะระหว่างทำหน้าที่พ่อของลูกหรือจะไม่รับหน้าที่อะไรเลยก็ได้" "ก็ได้ขุนจะเอาแบบที่ริว่าก็ได้"ขุนศึกที่ได้ยินคำขาดจากฉัน เขาก็พูกเสียงเข้มแทรกขึ้นมาทันที "แต่ขุนจะทำให้ริเห็นว่าขุนพร้อมที่จะหยุดและมีแค่ริคนเดียวแล้วจริงๆ"ขุนศึกว่าพร้อมกับทำหน้ามั่นใจว่าเขาจะสามารถทำอย่างที่เขาพูดได้จริงๆ แต่เขาก็พูดแบบนี้ทุกครั้งที่ฉันจับเขาได้ว่าเขาแอบไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นและฉันก็ไว้ใจและเชื่อใจเขามาตลอดและเป็นยังไงล่ะ สุดท้าย ฉันก็เป็นอีโง่เหมือนเดิม เคยยอมเสียศักดิ์ศรีตัวเองแก้ผ้าให้ขุนศึกเอาเพื่อให้เขาเลิกไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น นั่นมันเป็นความคิดเด็กน้อยชะมัด "ทำให้ได้ก่อนค่อยมาว่ากันอีกที..
วันเดียวกัน23:30น.เอริ ฐิติมน......จึกๆๆ"ริ......""หื้ออออ"ฉันครางรับเสียงทุ้มที่เอ่ยเรียกฉันพร้อมกับแรงสะกิดที่ไหล่ฉันเบาๆฉันที่นั่งขดตัวหลับอยู่บนโซฟาภายในห้องโถงใหญ่ก็ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาดูเจ้าของเสียงที่ฉันเฝ้ารอเขาจนเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้"ขุน......กี่โมงแล้วเนี่ย?"ฉันขยี้ตาเพื่อไล่ความสะลึมสะลือความงัวเงียให้หายไปพร้อมกับเอ่ยถามขุนศึกไป"เที่ยงคืนกว่าแล้ว....ริมานอนทำไมตรงนี้?"ขุนศึกตอบฉัรพร้อมกับเอ่ยถามฉันกลับ ฉันที่หายจากอาการสะลึมสะลือแล้วแล้วก็ขยับตัวนั่งดีๆและหันไปมองหน้าขุนศึกที่เขานั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับฉันและนั่งข้างๆฉันด้วย"ริมารอขุนนั้นแหละ.....ทำไม่มาซะดึกเลย....หาไม่เจอเหรอ?""เปล่า.....พอดีขุนไปทำธุระมาน่ะ""อ้อ"ฉันพยักหน้าพลางร้องตอบขุนศึกไป แม้ในใจอยากจะถามเขาว่าธุระที่เขาว่าคืออะไร แต่สีหน้าและแววตาของขุนศึกเหมือนไม่อยากบอกให้ฉันรู้ว่าธุระที่เขาพูดถึงคืออะไรถ้าเขาไม่อยากบอก ฉันก็ไม่ควรที่จะถามต่อสินะ เพราะฐานะของฉันกับเขาไม่มีสิทธิ์ซักไซ้จนได้รู้เรื่องส่วนตัวของเขามากไปกว่านี้"ว่าแต่ริมารอขุน......มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่า"ขุนศึกถามฉันพร้อมกับจ้องมองฉั
จะปล่อยห้องว่างไวโดยไร้คนอยู่ก็เสียดาย ฉันก็เลยใจอ่อนและยอมมาอยู่ที่นี่ซึ่งฉันคิดว่ามันสะดวกสบายดี บ้านที่ฉันหาในเน็ตก็มองทรุดโทรมและค่าเช่าก็แพง อะไรที่ประหยัดได้ในตอนนี้ฉันก็ควรจะประหยัดและตอนนี้ฉันก็ท้องด้วย ฉันควรจะมีเงินสำรองไว้เลี้ยงลูกของฉันให้เขาอยู่อย่างสุขสบายให้เยอะๆดีกว่าฉันควรจะบอกเรื่องนี้กับขุนศึก......ว่าฉันท้องกับเขา....."ป้าบัวคะ""จ๊ะว่าไงจ๊ะเอริ?"ป้าบัวที่กำลังยกชามกะละมังที่เช็ดตัวคุณหญิงเพิ่งเสร็จหันมาขานรับฉันเงินก้อนใหญ่ฉันก็ให้ขุนศึกไปหมดแล้ว รถก็ขายทิ้ง บ้านก็มาไฟไหม้อีก ค่ารักษาพยาบาลคุณหญิงค่าใช้จ่ายรายเดือนก็สูง โดยเฉพาะค่ากายภาพบำบัดที่ฉันว่าจ้างให้นางพยาบาลที่เป็นคนทำกายภาพบำบัดและศึกษาด้านนี้มาโดยเฉพาะให้มาดูแลคุณหญิงทุกวันโดยทำกายภาพบำบัดให้คุณหญิงเดินได้อีกครั้งและฉันจะทำทุกวิถีทางให้ชีวิตของลูกฉันมีความสุขและสุขสบายที่สุดไม่ให้ลำบากและรู้สึกขาดแบบที่ชีวิตฉันเคยเป็นมา ฉันจะเลี้ยงเขาให้ดีที่สุดเท่าที่สุดของความสามารถของฉัน"ป้าบัวส่งโลเคชั่นให้ขุนหรือยังคะว่าเราอยู่ที่ไหนกัน?"ฉันเอ่ยถามป้าบัวไป ท่านก็ยิ้มบางๆให้ฉัน"ป้ากำลังจะไปส่งโลเคชั่นให้คุณข
"ไม่ว่าฉันจะให้แกทำอะไรแกก็ยอมใช่ไหม?"แก้มหวานเอ่ยถามผมด้วยแววตามีเลศนัยพร้อมยกยิ้มที่มุมปากขึ้น ผมก็จ้องมองเธอนิ่ง และผมก็อยากทำให้เรื่องทุกอย่างมันจบลง วันนี้คุณแม่ผมเกือบจะไม่รอด เพราะผมเป็นตัวต้นเหตุ วันนี้อาจจะโชคดี แต่มันก็คงตะไม่โชคดีทุกครั้งไป "ใช่" "ถ้าฉันให้แกไปตายล่ะ" "มันไม่มากไปเหรอ?"ผมถามเธอไปเสียงเข้ม เรื่องที่ผมและเพื่อนๆทำกับเธอ เธอก็ยังมีชีวิตอยู่และดีด้วยจนถึงทุกวันนี้ไม่ใช่เหรอ "หึ.....ฉันรู้ว่าแกคงไม่กล้าตายหรอก" "งั้น......ฉันขอแลกศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของแกก็ล่ะกันนะ" "ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของฉัน?" "กราบตีนฉันสิ.....แล้วฉันจะเลิกยุ่งกับแม่แกและก็เอริผู้หญิงที่แกบอกว่ารักนักรักหนาด้วย" "ไม่รู้ว่าแกรักเธอยังไงนะถึงได้นอกกายนอกใจเธอนอนกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ตลอดเวลา" "ถ้าฉันเป็นเอริฉันคงไม่เอาผู้ชายเลวๆที่ทำตัวเหมือนหมาตัวผู้ที่ต้องผสมพันธุ์ไปทั่วโดยไม่สนว่าใครเป็นใคร" "แบบแกหรอกนะขุนศึก" "แค่ฉันกราบตีนเธอ.....แค่นี้ก็พอแล้วใช่ไหม?"ผมไม่สนใจคำพูดที่ถากถางของแก้มหวานแต่เอ่ยถามในสิ่งที่จะเป็นตัวหยุดเรื่องนี้กับเธอไป เธอก็ทำหน้าบึ้งตึงนิดหน่อยก่อนจะแสยะยิ้มให้ผม
เมื่อมาถึงหน้าประตูห้องผมก็ยื่นมือไปกดออดเพื่อเรียกคนในห้องให้รู้ว่ามีคนมาขอพบเธอผมรออยู่ไม่นานและกดออดซ้ำไปแค่ครั้งเดียว ประตูห้องหรูบานตรงหน้าผมก็ค่อยๆถูกเปิดออกจากคนที่อยู่ด้านในของห้องนี้ผมก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองบุคคลที่เป็นคนมาเปิดประตูเธอเป็นผู้หญิงผอมสวยหุ่นดี เธออยู่ในชุดเดรสสั้นสายเดี่ยวสีแดงผมของเธอถูกดัดเป็นลอนใหญ่แล้วปล่อยสยายไปด้านหลังสีหน้าที่เธอจ้องมองมาที่ผมด้วยแววตาสงสัย และเพ่งมองพินิจพิจารณาอย่างสงสัยว่าผมคือใครผมจึงค่อยๆใช้มือดึงฮู้ดที่ปิดหน้าของผมอยู่ให้ออกเพื่อเผยใบหน้าของผมให้เธอคนนี้ได้เห็นอย่างชัดเจนขึ้นและในเมื่อใบหน้าของผมที่ไร้เสื้อฮู้ดปกผิดเปิดเผยแก่คนตรงหน้าเธอก็จ้องมองผมด้วยแววตาตกใจและแปลกใจ ผมก็จ้องมองเธอกลับไปด้วยแววตาเรียบเฉยเมื่อแปดปีก่อน เธอกับผมเราคงจะคุ้นตากันเพราะเราสองเคยมีอะไรกันและแอบเป็นแฟนกันมาก่อนทั้งๆที่ผมเองก็มีแฟนอยู่แล้วผมไม่ได้ตั้งใจจะหลอกเธอ แต่ผมคิดว่าผู้หญิงทั้งมหาลัยก็น่าจะรู้ดีว่าผมมีเจ้าของอยู่แล้ว แต่กลับผิดคาดที่เธอคนนี้ไม่รู้ เธอจึงปล่อยใจรักผมแต่ผมกลับไม่เคยรักเธอ ไม่ว่าเธอจะแสนดีและน่ารักแค่ไหน ผมก็ไม่เคยคิดที่จะรั
ช่วงเย็นวันเดียวกันคอนโด TYขุนศึก ขุนณรงค์......"ขอบคุณสำหรับข้อมูลตอนนี้ฉันอยู่ที่หน้าคอนโดที่แกบอกแล้ว""คอนโดTYชั้นที่สามสิบห้องสามสามสี่ห้าฉันจำได้ล่ะขอบใจแกมากฟิว"ผมเอ่ยบอกฟิวไปในขณะที่สายตาก็ทอดมองเงยหน้าไปยังชั้นบนสุดชั้นที่สามสิบของตึกสูงตระหง่านใจกลางเมืองตรงหน้าของผมในขณะนี้(แกคิดที่จะทำอะไร?)(ตอนนี้เขามีอิทธิพลมากกว่าแกเขาสามารถทำให้แกหายไปโดยไม่มีใครสงสัยได้เลยนะขนาดทำให้ชีวิตของแกพังเขาก็ยังทำได้)(ฉันว่าแกไม่สมควรที่จะประมาทผู้หญิงคนนี้)เสียงปลายสายของฟิวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงห่วงใย ผมจึงละใบหน้าจากตึกสูงตรงหน้าและเอ่ยคุยกับฟิวต่อ"ฉันรู้ขอบใจและขอโทษที่ทำให้ชีวิตของแกต้องมาติดร่างแหพลอยซวยไปกับฉันด้วย"ผมเอ่ยบอกหิวไปอย่างคนที่รู้สึกผิดที่ออกมาจากใจจริงไปของผม(แกไม่ได้ทำอะไรผิดถ้ามันจะผิดก็ผิดกันหมดนี่แหละ)(มันคงจะเป็นเพราะตอนนั้นพวกเรายังเด็กเลยไม่ได้คิดอะไรให้มากกว่านี้เลยทำเรื่องแบบนั้นลงไป)(ฉันไม่มีสิทธิ์โกรธแกหรือแก้มหวานเลยด้วยซ้ำ)"นั่นสิเนอะ....ฉันก็ไม่สมควรที่จะโกรธแก้มหวานด้วยเหมือนกัน"ผมเอ่ยออกมาอย่างคิดนึกตริตรองอย่างที่ฟิวว่าที่จริงถ้าตอนนั้นผมไม่คึกค
"ผมขอโทษครับ""คุณจะมาขอโทษฉันทำไมล่ะค่ะ....ฉันเองต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณสิถึงจะถูก""เดี๋ยวฉันจะโอนจ่ายค่ารักษาให้คุณทีหลังนะคะ....เพราะวันนี้ฉันไม่มรเงินติดตัวเลย"ฉันเอ่ยบอกคุณเควินไปตามความจริง เขาก็มีสีหน้าตกใจและสลดปะปนกันไป"อย่าโอนจ่ายค่ารักษาให้ผมเลยครับ...ขอให้ผมได้ดูแลคุณสักครั้ง""ในฐานะเพื่อนได้ไหมครับ"คุณเควินว่าต่อในเสียงและสีหน้าเชิงขอร้อง ฉันก็มองหน้าเขาอย่างคนคิดหนัก เขาขอช่วยในฐานะเพื่อนถ้าฉันปฏิเสธเพื่อนคนนี้ ก็ควจะเสียมารยาท"ก็ได้ค่ะ....แต่ริขอแค่ความช่วยเหลือจากคุณเควินแค่ครั้วนี้ครั้งเดียวนะคะ....ครั้งต่อไปไม่ต้องแล้วนะคะ....ริเกรงใจ"สิ้นคำพูดฉันคุณเควินก็มีสีหน้าดีใจขึ้นมา"ครับ....ขอบคุณนะครับที่ยอมรับความช่วยเหลือจากผมในครั้งนี้""มีอะไรหรือคะ?"ฉันเอ่ยถามคุณเควินต่อหลังจากที่เขาพูดจบประโยคเขาก็นิ่งไปและมองหน้สฉันอย่างคนอึดอัดใจเหมือนเขาอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่เขาก็เลือกที่จะไม่ยอมพูดมันออกมาฉันจึงเลือกที่จะเป็นฝ่ายถามเอง"ผมดูข่าวเกี่ยวกับไฟไหม้ที่บ้านของคุณและผมก็ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลว่าคุณเข้ามารับการรักษาที่นี่""ผมจึงรีบมา....และก็พบคุณแต่ทางโรงพยาบาลแจ
"แต่คงจะยาก.....เพราะเขามีหลักฐานขนาดนั้น" "และที่สำคัญเขาไม่รับฟังหรอกว่าแม่นายเองก็โดนหลอกเหมือนกัน" "เธอพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงเอริ?" "ก็อย่างที่บอกว่าตอนนี้.....นายกำลังโดนโจมตรีจากคนที่นายเรยไปทำลายชีวิตเขายังไงล่ะ" "นายเกือบทำให้แม่นายต้องมาตายเพราะความเจ้าชู้ของนาย.....ขุนศึก" "และคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยอย่างแม่นายต้องมาซวยต้องมาหมดตัวต้อยมาเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านสร้างมาก็เพราะนาย" "เพราะความเจ้าชู้ของนาย"ฉันพูดเสียงแข็งตะโกนใส่ขุนศึกไปเป็นชุดด้วยแววตาสั่นไหวน้ำตาเอ่อคลอ ขุนศึกก็ทำสีหน้ายอมรับความผิด สีหน้าของเขาซีดลงแววตาของเขาสั่นไหว "ขุนรู้ว่าทุกอย่างมันเป็นเพราะขุน....." "ที่มาทำให้แม่และก็ริเดือดร้อน" "ขุนจะจบเรื่องนี้เอง"ขุนศึกพูดเสียงเข้มแววตาจริงจังและวูบไหว "ผมฝากแม่ด้วยนะครับ" "เดี๋ยวผมมาได้ที่อยู่ใหม่ที่ไหนรบกวนป้าบัวโทรบอกผมด้วยนะครับ"ขุนศึกผละจากรถวีลแชร์เดินไปหยุดตรงหน้าของป้สบัวพร้อมกับเอ่ยบอกป้าบัว "ค่ะได้ค่ะว่าแต่คุณขุนศึกจะไปไหนคะ?"ป้าบัวรับคำขุนศึกและเอ่ยถามเขาต่อ ขุนศึกกฺ็หันกลับมามองหน้าฉัน ด้วยสายตานิ่งเฉย "ไปทำให้เรื่องทุกอย่างมันจบคร