“ดะได้ครับ…”ขุนศึกเอ่ยรับรู้เสียงกระตุกถึงแววตาของเขาจะอยากถามฉันแต่เขาก็กลับที่จะไม่ถามฉัน เขาหันกลับไปชงเหล้าให้ฉัน“ขอแบบเข้มๆ”ฉันบอกเขาไป เขาก็หันมามองหน้าฉันและพยักหน้ารับรู้พรึบ“ขอบคุณ…”ฉันบอกเขาไปพลางยื่นมือไปรับแก้วเหล้าที่ขุนศึกส่งมาให้ฉัน ฉันก็กระดกเข้าปากเลย“อึกๆๆๆๆๆ”“เบาๆก็ได้เอริ….เดี๋ยวก็สำลักหรอก”ขุนศึกเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง“อ๊าาาห์”ฉันร้องออกมาอย่างขมคอเพราะรอบนี้เหล้าเข้มตามที่ขอจริงๆพรึบ“ฉันมีเรื่องอยากคุยกับนาย…”ฉันวางแก้วเหล้าลงเพราะเริ่มสึกมึนๆแล้วและเอ่ยบอกขุนศึกไป ซึ่งรอบนี้เป็นรอบที่สี่แล้วสำหรับเหล้าที่ฉันขอให้ขุนศึกชงให้ฉัน“ไปกับฉันหน่อยได้ไหม?”“อ้อ…ได้สิ^_^”ขุนศึกว่าฉันจึงเม้มปากเป็นเส้นตรงและลุกขึ้นยืนทันทีโดยมีขุนศึกลุกขึ้นยืนบ้าง ฉันเซเล็กน้อยทำให้ขุนศึกรีบเข้ามาประคองร่างฉันไว้อย่างไวพรึบเราสบตากันในขณะที่ร่างของฉันอยู่ในอ้อมแขนแกร่งของเขาแล้ว พรึบ“เราไม่ได้ตั้งใจจะแต๊ะอั๋งเธอ…”ขุนศึกว่าเสียงแผ่วเบากลัวว่าฉันจะเข้าใจเขาผิด เขาประคองร่างฉันให้ทรงตัวยืนเอง“ฉันเข้าใจ…ขอบคุณนะ…”ฉันว่าพลางยิ้มให้เขา เขาก็ยิ้มให้ฉัน ก่อนจะเป็นเขาที่ผายมือเช
พรึบ“เอริ…”ขุนศึกเอ่ยเรียกฉันเสียงแผ่วเบาในขณะที่ร่างของฉันเข้าไปแนบชิดกับร่างกายของเขาของแล้ว“ฉันขอ…นายแค่…สี่แสน..”ฉันบอกเขาต่อพลางยื่นมือไปจับมือเขาให้มาวางแนบชิดไปกับหน้าอกของฉันที่มันกำลังตั้งชูชันท้าทายสายตาคู่คมของขุนศึกอยู่“สี่แสน?”ขุนศึกไม่ได้ดึงมือออกไปจากหน้าอกของฉัน แต่เขากลับเอ่ยถามฉันกลับมาด้วยน้ำเสียงและสีหน้าสงสัย ฉันก็มองหน้าเขาและขยับใบหน้าเข้าไปใกล้เขาให้มากขึ้นจนแนบชิดกับริมฝีปากของเขาแต่ฉันเลื่อนไปที่ใบหูของเขาแทนเพื่อจะกระซิบบอกเขา ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์เริ่มทำงานให้เลือดในร่างกายของฉันสูบฉีดขึ้นใจของฉันเต้นแรงรัวระส่ำระส่ายไม่เป็นจังหวะ“ใช่….แค่ความสัมพันธ์ในค่ำคืนนี้…แค่คืนเดียว….”ฉันเอ่ยกระซิบเสียงแผ่วเบาที่ข้างหูของขุนศึกไปพลางจับมือเขาให้บีบคลึงเต้าอวบของฉันที่ฝ่ามือเขายังจับของฉันไม่ทั่วถึงเลย“อ๊าาาาห์…เอริ…”ขุนศึกครางเสียงกระเส่าเมื่อฉันไล่ปลายจมูกไปตามซอกคอของเขาที่มีกลิ่นหอมชวนปลุกใจของฉัน“อื้ออออ….นายตกลงรึเปล่า?”ฉันอีกครั้งด้วยน้ำเสียงแหบพร่า“ระเราตกลง….แต่…”ขุนศึกว่าเสียงสั่นกระตุกพลางเว้นวรรคในการพูดทำให้ฉันผละใบหน้าออกมาจากซอกคอของเขาและมองหน้าเขา
“คำสัญญารึไง?”“เปล่าครับ….แต่เราจะทำมันจริงๆ”“และเธอไม่ต้องกังวลนะเรื่องค่าเทอม….เราจะเป็นคนจ่ายให้เธอเอง…”“ส่วนเรื่องงานที่เธอทำ….”“เธอไม่ต้องไปทำงานให้เหนื่อยแล้วนะ…”“เพราะถ้าเธอเป็นแฟนเราแล้ว….แฟนคนเดียว….เราเลี้ยงได้^_^”“หึๆๆ”ฉันหัวเราะแห้งๆออกมาก่อนจะจัดระเบียบเสื้อผ้าตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง โดยมีสายตาของขุนศึกจับจ้องมองอยู่ตลอดเวลา พอฉันหันไปมองเขา เขาก็ทำแววตาอบอุ่นให้ฉันพร้อมกับยิ้มละมุนให้ฉันอีกด้วย….ฉันหวังว่าการตัดสินใจในครั้งนี้ของฉัน คงจะไม่ผิดหรอกนะถ้าเกิดวันหนึ่งฉันไม่ได้หลงรักคาสโนว่าตัวพ่ออย่างขุนศึกเข้าอย่างจริงๆ….เพราะถ้าฉันรักเขา คงจะเป็นฉันที่ไม่มีความสุขและผู้ชายที่เอาใจเก่งแบบขุนศึกก็คงจะไม่อยากที่ฉันจะเผลอใจไปรักเขาเข้าอย่างจริงๆสักวันวันต่อมา มหาลัยEห้องพักอาจารย์พรึบ“ค่าเทอมที่หนูค้างไว้กับค่าเทอมของเทอมหน้าค่ะ…”ฉันยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้กับอาจารย์ฝ่ายการเงินที่มีหน้าที่ดูแลจัดการค่าเทอมของนักศึกษาทุกๆคน อาจารย์มองหน้าฉันสลับกับซองสีน้ำตาลอย่างไม่อยากเชื่อว่าฉันจะมีเงินมาจ่ายค่าเทอมได้ครบตามกำหนดที่ท่านวางไว้จริงๆ“ขอบคุณนะจ๊ะ…ที่จ่ายครบพร้อมกับขอ
8ปีต่อมา บริษัท KA ห้องทำงานท่านประธาน… เอริ ฐิติมน.... พรึบ "วันนี้มีนัดทานข้าวกับนักลงทุนรายใหญ่นะคะ.."ฉันเอ่ยขึ้นหลังจากที่วางเอกสารลงตรงหน้าของ เจ้านายของฉัน เขาก็เงยหน้าขึ้นมามองหน้าฉันด้วยใบหน้าที่อิดโรยเพราะเขานั่งทำงานตั้งแต่เช้าจนตอนนี้ก็จะสี่โมงเย็นแล้ว เขาก็ยังนั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อนไปไหน "เห้อ...." "เหนื่อยเหรอไง?"ฉันเอ่ยถามขุนศึกไปพลางยิ้มกริ่มให้เขาอย่างเอ็นดูกับท่าทางที่หงิกงอของเขา "เหนื่อยครับ...เหนื่อยมาก…วันๆนั่งอยู่แต่ตรงนี้ไม่ได้ลุกออกไปไหนเลย.." "ยิ้มอะไรครับ...เอริ.."ขุนศึกเอ่ยถามฉันพร้อมกับทำหน้ามุ่ย "ก็ยิ้มขำขุนไง..." "ขำขุน?"ขุนศึกว่าพลางชี้นิ้วไปที่ตัวเขาเองพลางทำสีหน้างงๆ "อืม..."ฉันพยายามกลั้นหัวเราะตอบเขาไป เขาก็มีสีหน้าบึ้งตึงใส่ฉันทันทีที่เห็นว่าฉันแอบหัวเราะกับท่าทางที่เป็นเด็กน้อยขี้อ้อนของเขา พรึบ "อะไรขุนศึก?"ฉันเอ่ยถามขุนศึกไปอย่างหวาดระแวงกับท่าทางที่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงที่พร้อมจะพุ่งตัวเข้ามาหาฉันของเขาและสายตาเจ้าเล่ห์นั่นอีก รอยยิ้มที่มุมปากแบบนี้ "หึๆแม่กวางตัวน้อย"ขุนศึกเอ่ยเสียงทุ้มพลางมองหน้าฉันและร่างกายของฉันด้วยสายต
พรึบและมีเหรอที่ขุนศึกคนเจ้าเล่ห์จะปล่อยให้ฉันเป็นอิสระ เขาประกบริมฝีปากของฉันทันทีและจัดการดูดดื่มริมฝีปากของฉันอย่างอ้อยอิ่งมือหนาของขุนศึกเริ่มซุนซนลูบไล้ไปตามสีข้างทั้งสองข้างของฉัน ฉันก็ใช่ย่อยจูบตอบเขาและยื่นมือไปลูบไล้เรือนร่างที่สุดแสนจะเพอร์เฟคของเขาผ่านเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางของเขาเช่นกัน"อื้อออ..."เสียงหวานของฉันครวญครางออกมาเมื่อขุนศึกได้ยื่นมือหนาของเขาไปหาความเป็นสาวของฉันที่อยู่ภายใต้กระโปรงสั้นๆของฉันเรียบร้อยแล้ว "อื้อ...ขุน...อ๊ะ...ตอนนี้ไม่ได้นะ..ขุนต้องกลับไปแต่งตัวอื้อออ.."ฉันพูดไปพลางครางเสียงกระเส่าด้วยความเสียวไปด้วยเมื่อโดนปลายนิ้วเรียวของขุนศึกลูบไล้ใจกลางความเป็นสาวของฉันผ่านจีสตริงตัวจิ๋วเพียงตัวเดียวที่ปกปิดความเป็นสาวของฉันอยู่ เพราะชุดกระโปรงที่ฉันใส่มันเป็นกระโปรงรัดรูปจะใส่กางเกงชั้นในแบบธรรมดาไม่ได้เพราะมันจะเกิดเป็นรอยนูนขึ้นมาจนเห็นได้ชัด"จริงเหรอ...แต่HEEของริ...มันพร้อมมากเลยนะ...คะ…คนดีของขุน…”ขุนศึกว่าเสียงแหบพร่ากระซิบที่ข้างหูของฉันพลางเป่าลมรดต้นคอของฉันทำให้ฉันสยิวและทำหน้าเหยเกด้วยความเสียวซ่านพรึบ"ขุน!"ฉันเรียกเขาเสียงแข็งเมื่อขุนศึกจั
19:00น.ภัตตาคารอาหารชื่อดังเอริ ฐิติมน….พรึบ"ขุน!!""อย่างี่เง่าได้ป่ะ!!"ฉันโวยใส่หน้าขุนศึกเสียงดังหลังจากที่ฉันลากเขาออกมาจากห้องอาหารของภัตตาคารหรูหราระดับห้าดาวแห่งนี้แล้วและก็สะบัดร่างเขาอย่างแรง เขาก็มองหน้าฉันด้วยแววตาสั่นไหวและน้อยใจไปในตัว"งี่เงาเหรอ?"ขุนศึกถามฉันเสียงแผ่วเบา"ขุนงี่เงาเหรอ..ริ?"เขาถามฉันย้ำอีกครั้งพลางมองหน้าฉันอย่างตัดพ้อ เพราะปกติฉันไม่เคยว่าเขางี่เง่าเลยสักครั้ง"ใช่...คุณรณชาติเขาเป็นหุ้นส่วนคนสำคัญของบริษัทเรานะ...ถ้าเกิดเขาไม่พอใจขึ้นมาแล้วขอถอนหุ้นออกไปจากบริษัทขุนจะว่ายังไง?"ฉันว่าเสียงดังเพื่อย้ำให้ขุนศึกรู้ว่าอย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงาน"ก็ให้มันถอนไปดิ!"ขุนศึกขึ้นเสียงดังใส่ฉันอย่างไม่พอใจพรึบ"ขุนศึก!""นี่ขุนคิดว่าเรื่องนี้เป็นแค่เรื่องเล่นๆเหรอ?""แต่ดูที่มันทำกับริดิ..."ขุนศึกแย้งฉันพลางชี้นิ้วกลับเข้าไปในห้องอาหารที่ฉันเพิ่งจะลากเขาออกมาเมื้อกี้นี้ด้วยท่าทางไม่พอ ฉันรู้ว่าคุณรณชาติคิดยังไงกับฉัน เขาเองก็เป็นนักธุรกิจที่ยังหนุ่มยังแน่นไฟแรงพอๆกับขุนศึกนี้แหละ"ขุนเป็นแฟนริน่ะเว้ย!!""เห็นแฟนคุยอี๋อ๋อกับผู้ชายคนอื่นต่อหน้าต่อตา..
“อาหารที่นี้อร่อย…ผมชอบมากเลยนะครับ^_^” “ค่ะ…”ฉันยิ้มบางๆรับคำไปตามมารยาทและเริ่มทานอาหารในจานของตัวเองอย่างเงียบๆจนสักพักขุนศึกก็เดินเข้ามา พรึบ “อ้าว…เชิญนั่งครับ…”คุณรณชาติผายมือให้ขุนศึกที่เขายืนคล้ำหัวฉันอยู่ให้เขานั่งลงข้างๆฉัน ฉันก็เงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเขาเรามองสบตากันแต่ฉันก็เป็นฉันที่หลบสายตาเขา “ขอบคุณครับ…”ขุนศึกเอ่ยขอบคุณคุณรณชาติไปอย่างเสียไม่ได้โดยเขานั่งที่เดิมนั่นคือข้างๆฉัน “ผมน่ะ…อิจฉาคุณขุนศึกจังเลยนะครับ…ที่มีเลขาที่ทั้งเก่งและสวยแบบคุณเอริอยู่ข้างๆ….” “ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ…ริยังต้องเรียนรู้งานอีกมาก…” “อืมครับ…แต่แค่นี้ก็เก่งแล้วนะครับ^_^” “ค่ะ….ขอบคุณค่ะ..”ฉันยิ้มรับคำชมจากคุณรณชาติแล้วฉันก็รับรู้ได้รังสีอำมหิตของคนที่นั่งอยู่ข้างๆฉัน พรึบ “เป็นอะไรรึเปล่าครับ…?”คุณรณชาติเอ่ยถามขุนศึกไปอย่างสงสัยกับกิริยาที่ขุนศึกทำบนโต๊ะอาหารเป็นครั้งที่สองนั่นคือการวางแก้วน้ำที่เขาดื่มแล้วกระแทกกับโต๊ะกระจกจนเกิดเสียงดังจนฉันและคุณรณชาติตกใจ “เปล่าครับ….พอดี…ผมแค่รู้สึกไม่ค่อยสบายนิดหน่อย…”ขุนศึกตอบคุณรณชาติไป คุณรณชาติก็พยักหน้าเข้าใจและหันมายิ้มบางๆให้ฉันแทน เราสามค
“มีอะไรใบข้าว?”ป้าบัวหันไปมองหน้าสาวรับใช้ที่ฉันรู้ได้เพราะว่าเธอสวมใส่ชุดยูนิฟอร์มของแม่บ้านหลังนี้ ที่เหมือนกันกับชุดของป้าบัว “คุณหญิงท่านให้มาบอกป้าบัวว่าให้ยกอาหารออกไปได้แล้วจ๊ะ…คุณขุนศึกมาแล้ว…”สาวใช้ใบข้าวเอ่ยบอกป้าบัวพลางหันมายิ้มและก้มศีรษะให้ฉันเพื่อทำการทักทายฉันก็ยิ้มให้เธอและก้มศีรษะตอบเธอไปเพื่อเป็นการทักทายเธอกลับเช่นกัน“อืมๆอยู่บนโต๊ะ…แกยกออกไปก่อนได้…เดี๋ยวที่เหลือฉันจะยกตามไปเอง…”ป้าบัวเอ่ยสั่งใบข้าวพลางชี้นิ้วไปบนโต๊ะตัวยาวและใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางห้องครัวหรูหรานี้ที่ใหญ่กว่าห้องนอนของฉันอีกนะพรึบใบข้าวเดินไปยกจานเต็มสองมือเธอ ฉันก็หันมามองหน้าป้าบัว“เดี๋ยวเอริยกไปให้เองค่ะ…ป้าบัวไม่ต้องยกหรอก^_^”ฉันบอกป้าบัวไป ท่านก็ยิ้มและพยักหน้ารับคำฉัน “^_^”ฉันก็ยิ้มบางๆให้ป้าบัวและเดินไปยกถาดอาหารที่เหลือซึ่งมีฝาครอบสแตนเลสปิดอาหารด้านในอยู่ ฉันเดินถือถาดอาหารออกมาโดยมีป้าบัวเดินตามแผ่นหลังของฉันมาติดๆเพื่อคอยไปยืนรับใช้คุณหญิงนฤมิตรพรึบพรึบ“วันนี้มีแต่อาหารที่คุณขุนศึกชอบทั้งนั้นเลยค่ะ^_^”ป้าบัวเอ่ยขึ้นอย่างเอาอกเอาใจขุนศึก “ขอบคุณครับ….ป้าบัว^_^”ขุนศึกตอบป้าบัวไปพล
"ผมเกลียดคุณเข้าใจไหม""ไม่จริงคุณไม่ได้เกลียดแก้มหวานคุณรักแก้มหวาน""ไม่งั้นคุณจะมาทำดีกับแก้มหวานทำไม""ที่ผมทำดีกับคุณเพราะผมติดใจในเซ็กส์ของคุณไง....คุณรู้ไหมว่าคุณเป็นผู้หญิงที่เร้าร้อนและร้อนแรงเรื่องบนเตียงมากแค่ไหน"เควินพูดพร้อมกับเดินตรงมาหาแก้มหวาน"ผมไม่เคยมีอะไรกับใครแล้วมีความสุขเท่าคุณ"เควินว่าพร้อมกับใช้ปลายนิ้วเรียวไล้เกี่ยไปตามแขนของแก้มหวานอย่างแผ่วเบา พร้อมกับมองแก้มหวานด้วยแววตาหวานเยิ้ม"ผมก็เลยเล่นตามน้ำคุณถึงแม้ในใจผมมันจะสนแค่ร่างกายคุณแต่นิสัยและสันดานของคุณผมรังเกียจมันเสียด้วยซ้ำ"เควินพูดไปพลางมองไปที่ร่างของแก้มหวานด้วยสายตาดูถูกและเหยียดหยาม"ผมก็นึกว่าคุณจะเล่นๆกับผมแต่ที่ไหนได้คุณคิดจริงจัง"เควินว่าพลางยิ้มหัวเราะออกมาอย่างเรื่องที่เป็นประเด็นสนทนาอยู่ในตอนนี้เป็นเรื่องตลก ทำให้แก้มหวานมองผู้ชายตรงหน้าอย่างไม่พอใจและน้อยใจไปในตัวเธอคิดว่าเขาจะสนใจและมีความรู้สึกดีๆให้เธอเสียอีก แต่ที่ไหนได้เขากลับไม่ได้มีใจให้เธอเลย "ไม่ต้องมองผมแบบนั้นหรอก.....ผมพูดความจริง""และต่อไปคุณก็ช่วยกรุณารู้จุดยืนของตัวเองด้วยนะ"เควินเอ่ยออกมาปิดท้ายแววตาที่เขามองเธอเวลาพูด
"ไม่ใช่ว่าริเป็นซิงเกิ้ลมัมไม่ได้แต่ริไม่อยากเป็นไม่อยากให้ลูกมีแค่ริที่ทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกันแต่อยากให้ลูกได้รับความรักจากพ่อแท้ๆของเขาและความเอาใจใส่จากพ่อของเขาจริงๆ" "คนที่ไม่เคยขาดพ่อขาดแม่ไม่มีวันเข้าใจหรอกไม่ว่าแม่จะดูแลดีแค่ไหนแต่มันก็ไม่เหมือนความรักที่มีทั้งพ่อและแม่อยู่ครบ" "ริหวังว่าขุนจะเข้าใจนะ....ขุนแค่ทำหน้าที่พ่อของลูกเท่านั้นพอ....." "ริ....." "หรือขุนอยากจะเลือกก็ได้นะระหว่างทำหน้าที่พ่อของลูกหรือจะไม่รับหน้าที่อะไรเลยก็ได้" "ก็ได้ขุนจะเอาแบบที่ริว่าก็ได้"ขุนศึกที่ได้ยินคำขาดจากฉัน เขาก็พูกเสียงเข้มแทรกขึ้นมาทันที "แต่ขุนจะทำให้ริเห็นว่าขุนพร้อมที่จะหยุดและมีแค่ริคนเดียวแล้วจริงๆ"ขุนศึกว่าพร้อมกับทำหน้ามั่นใจว่าเขาจะสามารถทำอย่างที่เขาพูดได้จริงๆ แต่เขาก็พูดแบบนี้ทุกครั้งที่ฉันจับเขาได้ว่าเขาแอบไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นและฉันก็ไว้ใจและเชื่อใจเขามาตลอดและเป็นยังไงล่ะ สุดท้าย ฉันก็เป็นอีโง่เหมือนเดิม เคยยอมเสียศักดิ์ศรีตัวเองแก้ผ้าให้ขุนศึกเอาเพื่อให้เขาเลิกไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น นั่นมันเป็นความคิดเด็กน้อยชะมัด "ทำให้ได้ก่อนค่อยมาว่ากันอีกที..
วันเดียวกัน23:30น.เอริ ฐิติมน......จึกๆๆ"ริ......""หื้ออออ"ฉันครางรับเสียงทุ้มที่เอ่ยเรียกฉันพร้อมกับแรงสะกิดที่ไหล่ฉันเบาๆฉันที่นั่งขดตัวหลับอยู่บนโซฟาภายในห้องโถงใหญ่ก็ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาดูเจ้าของเสียงที่ฉันเฝ้ารอเขาจนเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้"ขุน......กี่โมงแล้วเนี่ย?"ฉันขยี้ตาเพื่อไล่ความสะลึมสะลือความงัวเงียให้หายไปพร้อมกับเอ่ยถามขุนศึกไป"เที่ยงคืนกว่าแล้ว....ริมานอนทำไมตรงนี้?"ขุนศึกตอบฉัรพร้อมกับเอ่ยถามฉันกลับ ฉันที่หายจากอาการสะลึมสะลือแล้วแล้วก็ขยับตัวนั่งดีๆและหันไปมองหน้าขุนศึกที่เขานั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับฉันและนั่งข้างๆฉันด้วย"ริมารอขุนนั้นแหละ.....ทำไม่มาซะดึกเลย....หาไม่เจอเหรอ?""เปล่า.....พอดีขุนไปทำธุระมาน่ะ""อ้อ"ฉันพยักหน้าพลางร้องตอบขุนศึกไป แม้ในใจอยากจะถามเขาว่าธุระที่เขาว่าคืออะไร แต่สีหน้าและแววตาของขุนศึกเหมือนไม่อยากบอกให้ฉันรู้ว่าธุระที่เขาพูดถึงคืออะไรถ้าเขาไม่อยากบอก ฉันก็ไม่ควรที่จะถามต่อสินะ เพราะฐานะของฉันกับเขาไม่มีสิทธิ์ซักไซ้จนได้รู้เรื่องส่วนตัวของเขามากไปกว่านี้"ว่าแต่ริมารอขุน......มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่า"ขุนศึกถามฉันพร้อมกับจ้องมองฉั
จะปล่อยห้องว่างไวโดยไร้คนอยู่ก็เสียดาย ฉันก็เลยใจอ่อนและยอมมาอยู่ที่นี่ซึ่งฉันคิดว่ามันสะดวกสบายดี บ้านที่ฉันหาในเน็ตก็มองทรุดโทรมและค่าเช่าก็แพง อะไรที่ประหยัดได้ในตอนนี้ฉันก็ควรจะประหยัดและตอนนี้ฉันก็ท้องด้วย ฉันควรจะมีเงินสำรองไว้เลี้ยงลูกของฉันให้เขาอยู่อย่างสุขสบายให้เยอะๆดีกว่าฉันควรจะบอกเรื่องนี้กับขุนศึก......ว่าฉันท้องกับเขา....."ป้าบัวคะ""จ๊ะว่าไงจ๊ะเอริ?"ป้าบัวที่กำลังยกชามกะละมังที่เช็ดตัวคุณหญิงเพิ่งเสร็จหันมาขานรับฉันเงินก้อนใหญ่ฉันก็ให้ขุนศึกไปหมดแล้ว รถก็ขายทิ้ง บ้านก็มาไฟไหม้อีก ค่ารักษาพยาบาลคุณหญิงค่าใช้จ่ายรายเดือนก็สูง โดยเฉพาะค่ากายภาพบำบัดที่ฉันว่าจ้างให้นางพยาบาลที่เป็นคนทำกายภาพบำบัดและศึกษาด้านนี้มาโดยเฉพาะให้มาดูแลคุณหญิงทุกวันโดยทำกายภาพบำบัดให้คุณหญิงเดินได้อีกครั้งและฉันจะทำทุกวิถีทางให้ชีวิตของลูกฉันมีความสุขและสุขสบายที่สุดไม่ให้ลำบากและรู้สึกขาดแบบที่ชีวิตฉันเคยเป็นมา ฉันจะเลี้ยงเขาให้ดีที่สุดเท่าที่สุดของความสามารถของฉัน"ป้าบัวส่งโลเคชั่นให้ขุนหรือยังคะว่าเราอยู่ที่ไหนกัน?"ฉันเอ่ยถามป้าบัวไป ท่านก็ยิ้มบางๆให้ฉัน"ป้ากำลังจะไปส่งโลเคชั่นให้คุณข
"ไม่ว่าฉันจะให้แกทำอะไรแกก็ยอมใช่ไหม?"แก้มหวานเอ่ยถามผมด้วยแววตามีเลศนัยพร้อมยกยิ้มที่มุมปากขึ้น ผมก็จ้องมองเธอนิ่ง และผมก็อยากทำให้เรื่องทุกอย่างมันจบลง วันนี้คุณแม่ผมเกือบจะไม่รอด เพราะผมเป็นตัวต้นเหตุ วันนี้อาจจะโชคดี แต่มันก็คงตะไม่โชคดีทุกครั้งไป "ใช่" "ถ้าฉันให้แกไปตายล่ะ" "มันไม่มากไปเหรอ?"ผมถามเธอไปเสียงเข้ม เรื่องที่ผมและเพื่อนๆทำกับเธอ เธอก็ยังมีชีวิตอยู่และดีด้วยจนถึงทุกวันนี้ไม่ใช่เหรอ "หึ.....ฉันรู้ว่าแกคงไม่กล้าตายหรอก" "งั้น......ฉันขอแลกศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของแกก็ล่ะกันนะ" "ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของฉัน?" "กราบตีนฉันสิ.....แล้วฉันจะเลิกยุ่งกับแม่แกและก็เอริผู้หญิงที่แกบอกว่ารักนักรักหนาด้วย" "ไม่รู้ว่าแกรักเธอยังไงนะถึงได้นอกกายนอกใจเธอนอนกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ตลอดเวลา" "ถ้าฉันเป็นเอริฉันคงไม่เอาผู้ชายเลวๆที่ทำตัวเหมือนหมาตัวผู้ที่ต้องผสมพันธุ์ไปทั่วโดยไม่สนว่าใครเป็นใคร" "แบบแกหรอกนะขุนศึก" "แค่ฉันกราบตีนเธอ.....แค่นี้ก็พอแล้วใช่ไหม?"ผมไม่สนใจคำพูดที่ถากถางของแก้มหวานแต่เอ่ยถามในสิ่งที่จะเป็นตัวหยุดเรื่องนี้กับเธอไป เธอก็ทำหน้าบึ้งตึงนิดหน่อยก่อนจะแสยะยิ้มให้ผม
เมื่อมาถึงหน้าประตูห้องผมก็ยื่นมือไปกดออดเพื่อเรียกคนในห้องให้รู้ว่ามีคนมาขอพบเธอผมรออยู่ไม่นานและกดออดซ้ำไปแค่ครั้งเดียว ประตูห้องหรูบานตรงหน้าผมก็ค่อยๆถูกเปิดออกจากคนที่อยู่ด้านในของห้องนี้ผมก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองบุคคลที่เป็นคนมาเปิดประตูเธอเป็นผู้หญิงผอมสวยหุ่นดี เธออยู่ในชุดเดรสสั้นสายเดี่ยวสีแดงผมของเธอถูกดัดเป็นลอนใหญ่แล้วปล่อยสยายไปด้านหลังสีหน้าที่เธอจ้องมองมาที่ผมด้วยแววตาสงสัย และเพ่งมองพินิจพิจารณาอย่างสงสัยว่าผมคือใครผมจึงค่อยๆใช้มือดึงฮู้ดที่ปิดหน้าของผมอยู่ให้ออกเพื่อเผยใบหน้าของผมให้เธอคนนี้ได้เห็นอย่างชัดเจนขึ้นและในเมื่อใบหน้าของผมที่ไร้เสื้อฮู้ดปกผิดเปิดเผยแก่คนตรงหน้าเธอก็จ้องมองผมด้วยแววตาตกใจและแปลกใจ ผมก็จ้องมองเธอกลับไปด้วยแววตาเรียบเฉยเมื่อแปดปีก่อน เธอกับผมเราคงจะคุ้นตากันเพราะเราสองเคยมีอะไรกันและแอบเป็นแฟนกันมาก่อนทั้งๆที่ผมเองก็มีแฟนอยู่แล้วผมไม่ได้ตั้งใจจะหลอกเธอ แต่ผมคิดว่าผู้หญิงทั้งมหาลัยก็น่าจะรู้ดีว่าผมมีเจ้าของอยู่แล้ว แต่กลับผิดคาดที่เธอคนนี้ไม่รู้ เธอจึงปล่อยใจรักผมแต่ผมกลับไม่เคยรักเธอ ไม่ว่าเธอจะแสนดีและน่ารักแค่ไหน ผมก็ไม่เคยคิดที่จะรั
ช่วงเย็นวันเดียวกันคอนโด TYขุนศึก ขุนณรงค์......"ขอบคุณสำหรับข้อมูลตอนนี้ฉันอยู่ที่หน้าคอนโดที่แกบอกแล้ว""คอนโดTYชั้นที่สามสิบห้องสามสามสี่ห้าฉันจำได้ล่ะขอบใจแกมากฟิว"ผมเอ่ยบอกฟิวไปในขณะที่สายตาก็ทอดมองเงยหน้าไปยังชั้นบนสุดชั้นที่สามสิบของตึกสูงตระหง่านใจกลางเมืองตรงหน้าของผมในขณะนี้(แกคิดที่จะทำอะไร?)(ตอนนี้เขามีอิทธิพลมากกว่าแกเขาสามารถทำให้แกหายไปโดยไม่มีใครสงสัยได้เลยนะขนาดทำให้ชีวิตของแกพังเขาก็ยังทำได้)(ฉันว่าแกไม่สมควรที่จะประมาทผู้หญิงคนนี้)เสียงปลายสายของฟิวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงห่วงใย ผมจึงละใบหน้าจากตึกสูงตรงหน้าและเอ่ยคุยกับฟิวต่อ"ฉันรู้ขอบใจและขอโทษที่ทำให้ชีวิตของแกต้องมาติดร่างแหพลอยซวยไปกับฉันด้วย"ผมเอ่ยบอกหิวไปอย่างคนที่รู้สึกผิดที่ออกมาจากใจจริงไปของผม(แกไม่ได้ทำอะไรผิดถ้ามันจะผิดก็ผิดกันหมดนี่แหละ)(มันคงจะเป็นเพราะตอนนั้นพวกเรายังเด็กเลยไม่ได้คิดอะไรให้มากกว่านี้เลยทำเรื่องแบบนั้นลงไป)(ฉันไม่มีสิทธิ์โกรธแกหรือแก้มหวานเลยด้วยซ้ำ)"นั่นสิเนอะ....ฉันก็ไม่สมควรที่จะโกรธแก้มหวานด้วยเหมือนกัน"ผมเอ่ยออกมาอย่างคิดนึกตริตรองอย่างที่ฟิวว่าที่จริงถ้าตอนนั้นผมไม่คึกค
"ผมขอโทษครับ""คุณจะมาขอโทษฉันทำไมล่ะค่ะ....ฉันเองต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณสิถึงจะถูก""เดี๋ยวฉันจะโอนจ่ายค่ารักษาให้คุณทีหลังนะคะ....เพราะวันนี้ฉันไม่มรเงินติดตัวเลย"ฉันเอ่ยบอกคุณเควินไปตามความจริง เขาก็มีสีหน้าตกใจและสลดปะปนกันไป"อย่าโอนจ่ายค่ารักษาให้ผมเลยครับ...ขอให้ผมได้ดูแลคุณสักครั้ง""ในฐานะเพื่อนได้ไหมครับ"คุณเควินว่าต่อในเสียงและสีหน้าเชิงขอร้อง ฉันก็มองหน้าเขาอย่างคนคิดหนัก เขาขอช่วยในฐานะเพื่อนถ้าฉันปฏิเสธเพื่อนคนนี้ ก็ควจะเสียมารยาท"ก็ได้ค่ะ....แต่ริขอแค่ความช่วยเหลือจากคุณเควินแค่ครั้วนี้ครั้งเดียวนะคะ....ครั้งต่อไปไม่ต้องแล้วนะคะ....ริเกรงใจ"สิ้นคำพูดฉันคุณเควินก็มีสีหน้าดีใจขึ้นมา"ครับ....ขอบคุณนะครับที่ยอมรับความช่วยเหลือจากผมในครั้งนี้""มีอะไรหรือคะ?"ฉันเอ่ยถามคุณเควินต่อหลังจากที่เขาพูดจบประโยคเขาก็นิ่งไปและมองหน้สฉันอย่างคนอึดอัดใจเหมือนเขาอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่เขาก็เลือกที่จะไม่ยอมพูดมันออกมาฉันจึงเลือกที่จะเป็นฝ่ายถามเอง"ผมดูข่าวเกี่ยวกับไฟไหม้ที่บ้านของคุณและผมก็ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลว่าคุณเข้ามารับการรักษาที่นี่""ผมจึงรีบมา....และก็พบคุณแต่ทางโรงพยาบาลแจ
"แต่คงจะยาก.....เพราะเขามีหลักฐานขนาดนั้น" "และที่สำคัญเขาไม่รับฟังหรอกว่าแม่นายเองก็โดนหลอกเหมือนกัน" "เธอพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงเอริ?" "ก็อย่างที่บอกว่าตอนนี้.....นายกำลังโดนโจมตรีจากคนที่นายเรยไปทำลายชีวิตเขายังไงล่ะ" "นายเกือบทำให้แม่นายต้องมาตายเพราะความเจ้าชู้ของนาย.....ขุนศึก" "และคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยอย่างแม่นายต้องมาซวยต้องมาหมดตัวต้อยมาเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านสร้างมาก็เพราะนาย" "เพราะความเจ้าชู้ของนาย"ฉันพูดเสียงแข็งตะโกนใส่ขุนศึกไปเป็นชุดด้วยแววตาสั่นไหวน้ำตาเอ่อคลอ ขุนศึกก็ทำสีหน้ายอมรับความผิด สีหน้าของเขาซีดลงแววตาของเขาสั่นไหว "ขุนรู้ว่าทุกอย่างมันเป็นเพราะขุน....." "ที่มาทำให้แม่และก็ริเดือดร้อน" "ขุนจะจบเรื่องนี้เอง"ขุนศึกพูดเสียงเข้มแววตาจริงจังและวูบไหว "ผมฝากแม่ด้วยนะครับ" "เดี๋ยวผมมาได้ที่อยู่ใหม่ที่ไหนรบกวนป้าบัวโทรบอกผมด้วยนะครับ"ขุนศึกผละจากรถวีลแชร์เดินไปหยุดตรงหน้าของป้สบัวพร้อมกับเอ่ยบอกป้าบัว "ค่ะได้ค่ะว่าแต่คุณขุนศึกจะไปไหนคะ?"ป้าบัวรับคำขุนศึกและเอ่ยถามเขาต่อ ขุนศึกกฺ็หันกลับมามองหน้าฉัน ด้วยสายตานิ่งเฉย "ไปทำให้เรื่องทุกอย่างมันจบคร