กลับปัจจุบัน….ห้องน้ำโรมแรมหรูเอริ ฐิติมน….พรึบ“เธอ….สบายดีนะ…”ฉันเอ่ยถามแก้มหวานไปอย่างเป็นห่วงเธอจากใจจริง ฉันกับขุนศึกทำผิดกับเธอคนนี้ไว้มาก มากจนไม่น่าให้อภัย“หึ….ถามเพราะเป็นห่วง…หรือเพราะจะรอสมน้ำหน้าฉัน…”แก้มหวานกดเสียงต่ำถามฉันพร้อมกับแสยะยิ้มที่มุมปากขึ้นแววตาที่เธอมองมาที่ฉันมันเต็มไปด้วยโกรธเกลียดอย่างเปิดเผย“พี่เห็นเธอสบายดีแบบนี้…พี่ก็ดีใจแล้ว…”ฉันบอกแก้มหวานไปพร้อมกับยิ้มบางๆให้เธอ เพราะดูจากการแต่งตัวและเครื่องประดับบนตัวเธอก็พอจะทำให้ฉันรู้ได้ว่าชีวิตของเธอตอนนี้น่าจะอยู่สุขสบายขึ้น เพราะฉันไม่เคยได้ยินข่าวเธออีกเลยตั้งแต่ตอนที่คลิปลับของเธอถูกเผยแพร่สู่อินเตอร์เน็ต ว่าแต่คลิปนั้นมันเหมือนกับคลิปที่คุณหญิงนฤมิตรส่งให้ฉันดูเลยนะ แต่คลิปเมื่อเจ็ดปีก่อนไม่มีขุนศึกร่วมอยู่ในวงสวิงกิ้งด้วย“หึ….ฉันมาทวงของของฉันคืน….”แก้มหวานไม่ได้พูดบอกอะไรกับประโยคที่ฉันบอกเธอไปก่อนหน้านี้ แต่เธอกลับเอ่ยอีกประโยคขึ้นมาด้วยแววตาดุดันน้ำเสียงเข้มตึงของเธอทำให้ฉันรับรู้ได้ในถึงสิ่งที่เธอต้องการ ว่าเธอต้องการของของเธอคืนจริงๆ“พี่ไม่ได้เป็นเจ้าของ…เขาอีกแล้ว…”“หึ…นี่พี่เอริยังคิดว่าฉัน
“สงสัย…ข้อเท้าจะแพงนะคะ…”ฉันเอ่ยบอกหนุ่มหน้าตาตาคมนี้ไป จากที่เขาจะปล่อยร่างฉันให้เป็นอิสระกลับจับฉันไว้เหมือนเดิม“เดี๋ยวคุณไปนั่งตรงนั้นก่อนนะครับ…”เขาเอ่ยบอกฉันเสียงละมุนพลางมองไปยังที่นั่งตรงระเบียง“ได้ค่ะ…”ฉันตอบเขาไปและค่อยๆยอมทำตามเขาอย่างง่ายดายโดยการยอมตัวอ่อนและให้ความร่วมมือในการเดินไปตามทางอย่างช้าๆตามที่ผู้ชายคนนี้พยุงฉันให้เดินไปตามทางเพื่อจะเดินไปยังม้านั่งที่อยู่ติดกับระเบียงของชั้นพักนี้“ค่อยๆนะครับ…”เสียงสุภาพเอ่ยขึ้น ฉันจึงพยักหน้ารับรู้และค่อยๆเอนตัวลงนั่งบนที่นั่งตัวนิ่มที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้สำหรับผู้ที่อยากมานั่งพักผ่อนได้สูดอากาศได้นั่งรับลมชมวิวยามค่ำคืนของเมืองหลวงที่มีไฟประดับอยู่ทั่วเมืองกรุง“ขอบคุณค่ะ….”ฉันเอ่ยบอกเขาไป เขาก็ยิ้มให้ฉันก่อนจะนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าฉัน ฉันเบิกตาโตขึ้นอย่างตกใจกับการกระทำของคนคนนี้“คุณจะทำอะไรคะ?”ฉันเอ่ยถามเขาไปอย่างตกใจพร้อมกับจะขยับร่างกายหนีเขา แต่ก็โดนเขาคว้าข้อเท้าของฉันไว้ซะก่อน“ผมจะดูข้อเท้าให้คุณนะครับ….^_^”เขาว่าพร้อมคลี่ยิ้มบางๆให้ฉัน รอยยิ้มของเขาน่ารักจัง ริมฝีปากสีชมพูจมูกโด่งเป็นสันดวงตาสองชั้น หล่อมากค่ะ หล่อฟ้า
22:00น.บ้านเอริเอริ ฐิติมน….พรึบ“ขอบคุณนะคะ…ที่มาส่ง^_^”ฉันเอ่ยขอบคุณคุณจอมพลไปในขณะที่รถของเขาจอดเทียบหน้าบ้านของฉันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฉันก็ปลดสายเบลท์ทันที“เธอตั้งโปรแกรมรถของพี่ให้เข้าออกได้สะดวกเหรอ?”คุณจอมพลเอ่ยขึ้นพร้อมกับทำหน้าสงสัยที่รถของเขาเข้ามาในบ้านของฉันได้โดยที่ประตูเปิดออกเพราะมันจับสแกนป้ายทะเบียนและสีรถของคุณจอมพลตามที่ฉันตั้งระบบAIไว้“อ้อ…ใช่ค่ะ…มันใช้การอ่านป้ายทะเบียนรถและสีนะคะ^_^”ฉันบอกคุณจอมพลไปเพราะฉันเพิ่งจะตั้งเมื่อเช้านี่เอง“อืม….ทันสมัยดีเนอะ^_^”คุณจอมพลว่าพร้อมกับยิ้มบางๆให้ฉัน “ค่ะ….”ฉันก็ตอบเขาและยิ้มบางๆให้เขาเช่นกัน พร้อมกับจะเอื้อมมือไปเปิดประตูรถแต่ก็ต้องหยุดชะงักลงเพราะโดนคุณจอมพลคว้าข้อมือของฉันไว้ซะก่อนพรึบ“มีอะไรหรือเปล่าคะ?”ฉันจึงหันกลับมาหาคุณจอมพลและเอ่ยถามคุณจอมพลไปอย่างสงสัย“ไอ้ขุน….มันจะต้องหมั้นจริงๆเธอทำใจได้จริงๆเหรอ?”คุณจอมพลจ้องหน้าฉันเขม่นแววตาและน้ำเสียงของเขาดูจริงจังขึ้นมาแต่ในแววตาคู่นั้นกลับมีความห่วงใยและเห็นใจฉันฉายขึ้นมาด้วย “เธออยากให้พี่ช่วยอะไรไหม?”“พี่ช่วยเธอได้นะ…”“พี่จอมคะ….เรื่องของริกับขุน…มันไม่มีทางเ
“นั่นใครน่ะ…?”เสียงเข้มของคุณหญิงนฤมิตรเอ่ยขึ้นอย่างสงสัยที่เธอมองไปหันซ้ายหันขวาอย่างวิตกกังวลกับขุนณรงค์ก็ต้องเจอเข้ากับผู้หญิงในชุดเดรสสีดำยาวที่ชุดของเธอประดับไปด้วยเพชรเม็ดงามน้ำดีวาววับส่องประกายระยิบระยับพร้อมกับชุดเครื่องเพชรบนเรือนร่างที่สุดแสนจะเพอร์เฟคของเธอเธอเอามือเท้าเอวและกรีดยิ้มหวานให้นักข่าวได้ถ่ายรูปของเธอพรึบ“เศรษฐีนีน่ะ….สามีตายทิ้งมรดกไว้หลายพันล้านบาทเลยล่ะ…”คุณหญิงนวลปรางเอ่ยกระซิบบอกเพื่อนรักของเธอและทั้งสองก็ต่างพากันมองไปยังเศรษฐีนีคนนั้น“มองอายุอานามยังไม่เท่าไหร่เลยนะ…ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นหม้ายผัวตาย….”คุณหญิงนฤมิตรเอ่ยออกไปอย่างสงสัย“อายุยังไม่ถึงสามสิบ….แต่สามีเธอน่ะเป็นเจ้าสัวเจ้าของที่ดินทางภูเก็ตที่เธออยากได้มาสร้างบ้านจัดสรรและห้างสรรพสินค้าของตาขุนศึกน่ะ….”“ที่ดินร้อยล้านตรงนั้นอ่ะนะ…?”“ใช่….เดี๋ยวเธอมาแหละ…ฉันจะแนะนำเธอให้หล่อนได้รู้จัก…เธอจะได้ง่ายและสะดวกต่อการติดต่อซื้อขายไง…”“ได้ข่าวว่าเจ้าของไม่ขายไม่ใช่เหรอ?”“อืม…ใช่หล่อนไม่ขาย…ฉันส่งคนเข้าไปเจรจาหลายรอบแล้ว…”คุณหญิงนฤมิตรว่าอย่างหัวเสียนิดหน่อยที่เจ้าของที่ดินสวยแปลงนั้นไม่ยอมขายที่ให
บ้านเอริเอริ ฐิติมน….00:30น.“ริ”เสียงเเผ่วเบาของขุนศึกเอ่ยเรียกฉัน ฉันที่กำลังนอนหลับไปอย่างสุขสบายก็ต้องผุดลุกตื่นขึ้นมาอย่างหงุดหงิดใจ “มีอะไร?”ฉันตะโกนถามเขาที่อยู่ด้านนอกไปด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ ใช่ ตอนนี้ฉันนอนอยู่ในห้องนอนของฉัน และฉันก็ลงกลอนประตูห้องนอนของฉันพร้อมกับใช้โซ่ล็อคประตูอีกชั้นเพื่อกันไม่ให้เจ้าของเสียงเข้ามาหาฉันได้“เปิดประตูให้ขุนหน่อยได้ไหมคะ….”เสียงออดอ้อนของขุนศึกดังเล็ดลอดเข้ามา ฉันก็กลอกตามองบนอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะหันไปหยิบแอร์พอร์ตที่วางอยู่ข้างเตียงนอนของฉันมาเสียบเข้ารูหูทั้งสองข้างพร้อมกับกดเปิดเพลงให้มันดังกลบเสียงนกเสียงกาที่ร้องโหยหวนอยู่ด้านนอกห้องฉันพรึบ“หึ…ก็แค่เนี่ย….”ฉันหัวเราะในลำคออย่างคนสะใจก่อนจะทิ้งตัวลงนอนกลับไปบนที่นอนตามเดิมและหลับตาลงโดยที่หูของฉันเสียงดังไปด้วยเสียงเพลงทำให้กลบเสียงรบกวนด้านนอกได้เป็นอย่างดีฉันก็หลับตาลงและเข้าสู่ห้วงนิทราในไม่ช้า เพราะมันดึกมากแล้วและฉันก็ไม่สนใจด้วยว่าขุนศึกจะนอนที่ไหน เพราะบ้านหลังนี้มีหลายห้องนอน เขาอยากจะนอนหน้าห้องของฉันอันนี้ก็เป็นเรื่องของเขานะ ไม่เกี่ยวกับฉัน…เช้าวันต่อมา06.00น.พรึ
พรึบเขาวางจานข้าวสวยลงตรงหน้าของฉัน และวางอาหารอย่างสุดท้ายลงตรงกลางตรงหน้าของฉันอีกเช่นกัน ฉันก็มองตรงหน้าเขาที่ไม่มีจานข้าวอยู่เลย“ขุนไม่กินด้วยเหรอ?”“ไม่ครับ…ขุนทำให้ริทาน…ริทานเลยนะ^_^”ขุนศึกว่าพร้อมกับยิ้มแป้นกว้าง ฉันก็พยักหน้าเข้าใจก่อนจะหยิบช้อนกับส้อมขึ้นมาถือไว้และมองอาหารตรงหน้า ว่าจะเลือกกินอะไรก่อนดีแต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้เอื้อมมือไปหยิบช้อนกลางของอาหารเสียงทุ้มคุ้นหูก็ดังขึ้นมาซะก่อน“เอริครับ^_^”เสียงทุ้มหวานที่ฟังดูคุ้นหูของฉันเอ่ยขึ้นทำให้ฉันต้องหันไปหาเจ้าของเสียงนั้นทันที ก็พบกับผู้ชายหน้าดีรูปร่างสูงโปร่งผิวขาวที่อยู่ในชุดสูทเต็มยศกำลังเดินยิ้มร่าตรงเข้ามาหาฉันที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหาร“พี่จอม?”ฉันเอ่ยเรียกชื่อเจ้าของร่างที่สุดแสนจะเพอร์เฟคไปอย่างสงสัยว่าเขามาทำอะไรที่นี่พรึบ“ทำไมต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นด้วย?”คุณจอมพลเอ่ยถามฉันทันทีที่เขาเดินมาหยุดลงตรงหน้าของฉันแล้วฉันก็ทำสีหน้าอ้ำๆอึ้งๆไม่รู้จะพูดอะไร เพราะที่นั่งข้างๆฉันมีขุนศึกนั่งอยู่ ซึ่งเขานั่งหันหลังให้คุณจอมพลน่ะ ฉันก็มองหน้าขุนศึก ที่ตอนนี้เขากำลังมองหน้าฉันอยู่ ด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา แววตาของเขาสั่
“เธอ….ตัดสินใจถูกแล้วใช่ไหม…ที่จะทำแบบนี้?”เสียงเรียบๆเอ่ยขึ้นมาจากคุณจอมพลที่ทำหน้าที่ขับรถอยู่ ฉันที่นั่งเงียบมานานตั้งแต่รถของคุณจอมพลเคลื่อนตัวออกมาจากบ้านของฉันมาได้ครึ่งทางแล้ว ฉันก็ค่อยๆหันหน้าไปมองหน้าคุณจอมพลอย่างสงสัยในคำพูดของเขาที่เหมือนเขาจะเข้าใจในสิ่งที่ฉันประชดประชันขุนศึกอยู่ในตอนนี้โดยที่,ฟแ ใช้เขาเป็นเครื่องมือ“ริขอโทษนะคะ…”ฉันเอ่ยบอกคุณจอมพลไปด้วยสีหน้าที่เศร้าสลดลง แต่คุณจอมพลกลับหันมายิ้มกว้างให้ฉันก่อนจะยื่นมือมาขยี้ผมฉันเล่นอย่างเบามือความรู้สึกอบอุ่นแบบนี้มันคืออะไรกันนะ มันเป็นความรู้สึกที่อบอุ่นผิดแปลกไปจากขุนศึก แต่มันเหมือนฉันปลอดภัยทุกครั้งที่มีเขาคนนี้ยืนอยู่ข้างๆฉันบริษัท KA13:30น.โต๊ะทำงานเอริ เอริ ฐิติมน….พรึบ“พี่เอริ…ไม่พักทานข้าวเหรอคะ?”เสียงหวานใสเอ่ยถามฉันอย่างเป็นห่วง ทำให้ฉันต้องละสายตาจากเอกสารบัญชีรายรับและรายได้ของเดือนนี้ขึ้นไปมองหน้าเธอก็พบกับภาพเหตุการณ์เดจาวูซ้ำๆซากๆ นั่นคือนามิเดินคล้องแขนขุนศึกเธอยิ้มร่าตรงดิ่งมาที่โต๊ะของฉันพรึบฉันลุกขึ้นยืนตรงพร้อมกับโค้งตัวเล็กน้อยเพื่อทำการเคารพท่านประธานบริษัทและว่าที่ภรรยาประธานบริษัท
เขาก็มองหน้าตาแจ่มใส และดูแฮปปี้ดีหนิกับว่าที่เจ้าสาวของเขา“เราไปกันเถอะครับ….”เสียงเรียบๆของคุณจอมพลเอ่ยบอกฉันทำให้ฉันรู้สึกตัวว่าเผลอมองขุนศึกและนามิไปจนเขาทั้งคู่เดินลับหายไปจากตรงหน้าของฉันแล้ว“อ้อค่ะ…”ฉันหันมาพยักหน้าตอบคุณจอมพลไปอย่างล่อกแล่กๆก่อนจะเดินนำหน้าคุณจอมพลมาอย่างรวดเร็ว ปากก็เก่งว่าไม่เป็นไร แต่ทำไมในใจของฉัน มันถึงได้เจ็บปวดขนาดนี้ ทำไมฉันต้องรัก ขุนศึก ทำไมฉันต้องรักผู้ชายเห็นแก่ตัวแบบนั้นด้วย ทำไมกันนะ….15:30น.ภัตตาคารWหรูระดับห้าดาวเอริ ฐิติมน…“คุณจอมพลพาริมาที่นี่ทำไมคะ?”ฉันเอ่ยถามคุณจอมพลไปในขณะที่เราทั้งคู่กำลังนั่งอยู่ในภัตตาคารหรูหราระดับห้าดาวไหนเขาบอกว่า เราจะมาพบลูกค้ายังไงล่ะ?แต่ทำไม เขาสั่งแบบโต๊ะสองคนมา“ก็พาเธอมาทานข้าวไง…ยังไม่ได้ทานข้าวเที่ยงเลยไม่ใช่เหรอไง?”คุณจอมพลว่าพลางยิ้มกรุ้มกริ่มให้ฉัน ฉันก็ยิ้มแหยๆให้เขาไป“อยากทานอะไรสั่งได้เลยนะ….เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง^_^”“ค่ะ…”ฉันยิ้มรับคำคุณจอมพลก่อนจะลงก้มหน้ามองเมนูอาหารฝรั่งในมือของฉันอย่างนึกคิดว่าจะทานอะไรดี ซึ่งฉันเองก็หิวอยู่แล้วไม่ใช่ไม่หิว แต่ทำไงได้ในเมื่องานไม่เสร็จฉันก็มากินไม่ได้อยู่ด
"ผมเกลียดคุณเข้าใจไหม""ไม่จริงคุณไม่ได้เกลียดแก้มหวานคุณรักแก้มหวาน""ไม่งั้นคุณจะมาทำดีกับแก้มหวานทำไม""ที่ผมทำดีกับคุณเพราะผมติดใจในเซ็กส์ของคุณไง....คุณรู้ไหมว่าคุณเป็นผู้หญิงที่เร้าร้อนและร้อนแรงเรื่องบนเตียงมากแค่ไหน"เควินพูดพร้อมกับเดินตรงมาหาแก้มหวาน"ผมไม่เคยมีอะไรกับใครแล้วมีความสุขเท่าคุณ"เควินว่าพร้อมกับใช้ปลายนิ้วเรียวไล้เกี่ยไปตามแขนของแก้มหวานอย่างแผ่วเบา พร้อมกับมองแก้มหวานด้วยแววตาหวานเยิ้ม"ผมก็เลยเล่นตามน้ำคุณถึงแม้ในใจผมมันจะสนแค่ร่างกายคุณแต่นิสัยและสันดานของคุณผมรังเกียจมันเสียด้วยซ้ำ"เควินพูดไปพลางมองไปที่ร่างของแก้มหวานด้วยสายตาดูถูกและเหยียดหยาม"ผมก็นึกว่าคุณจะเล่นๆกับผมแต่ที่ไหนได้คุณคิดจริงจัง"เควินว่าพลางยิ้มหัวเราะออกมาอย่างเรื่องที่เป็นประเด็นสนทนาอยู่ในตอนนี้เป็นเรื่องตลก ทำให้แก้มหวานมองผู้ชายตรงหน้าอย่างไม่พอใจและน้อยใจไปในตัวเธอคิดว่าเขาจะสนใจและมีความรู้สึกดีๆให้เธอเสียอีก แต่ที่ไหนได้เขากลับไม่ได้มีใจให้เธอเลย "ไม่ต้องมองผมแบบนั้นหรอก.....ผมพูดความจริง""และต่อไปคุณก็ช่วยกรุณารู้จุดยืนของตัวเองด้วยนะ"เควินเอ่ยออกมาปิดท้ายแววตาที่เขามองเธอเวลาพูด
"ไม่ใช่ว่าริเป็นซิงเกิ้ลมัมไม่ได้แต่ริไม่อยากเป็นไม่อยากให้ลูกมีแค่ริที่ทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกันแต่อยากให้ลูกได้รับความรักจากพ่อแท้ๆของเขาและความเอาใจใส่จากพ่อของเขาจริงๆ" "คนที่ไม่เคยขาดพ่อขาดแม่ไม่มีวันเข้าใจหรอกไม่ว่าแม่จะดูแลดีแค่ไหนแต่มันก็ไม่เหมือนความรักที่มีทั้งพ่อและแม่อยู่ครบ" "ริหวังว่าขุนจะเข้าใจนะ....ขุนแค่ทำหน้าที่พ่อของลูกเท่านั้นพอ....." "ริ....." "หรือขุนอยากจะเลือกก็ได้นะระหว่างทำหน้าที่พ่อของลูกหรือจะไม่รับหน้าที่อะไรเลยก็ได้" "ก็ได้ขุนจะเอาแบบที่ริว่าก็ได้"ขุนศึกที่ได้ยินคำขาดจากฉัน เขาก็พูกเสียงเข้มแทรกขึ้นมาทันที "แต่ขุนจะทำให้ริเห็นว่าขุนพร้อมที่จะหยุดและมีแค่ริคนเดียวแล้วจริงๆ"ขุนศึกว่าพร้อมกับทำหน้ามั่นใจว่าเขาจะสามารถทำอย่างที่เขาพูดได้จริงๆ แต่เขาก็พูดแบบนี้ทุกครั้งที่ฉันจับเขาได้ว่าเขาแอบไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นและฉันก็ไว้ใจและเชื่อใจเขามาตลอดและเป็นยังไงล่ะ สุดท้าย ฉันก็เป็นอีโง่เหมือนเดิม เคยยอมเสียศักดิ์ศรีตัวเองแก้ผ้าให้ขุนศึกเอาเพื่อให้เขาเลิกไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น นั่นมันเป็นความคิดเด็กน้อยชะมัด "ทำให้ได้ก่อนค่อยมาว่ากันอีกที..
วันเดียวกัน23:30น.เอริ ฐิติมน......จึกๆๆ"ริ......""หื้ออออ"ฉันครางรับเสียงทุ้มที่เอ่ยเรียกฉันพร้อมกับแรงสะกิดที่ไหล่ฉันเบาๆฉันที่นั่งขดตัวหลับอยู่บนโซฟาภายในห้องโถงใหญ่ก็ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาดูเจ้าของเสียงที่ฉันเฝ้ารอเขาจนเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้"ขุน......กี่โมงแล้วเนี่ย?"ฉันขยี้ตาเพื่อไล่ความสะลึมสะลือความงัวเงียให้หายไปพร้อมกับเอ่ยถามขุนศึกไป"เที่ยงคืนกว่าแล้ว....ริมานอนทำไมตรงนี้?"ขุนศึกตอบฉัรพร้อมกับเอ่ยถามฉันกลับ ฉันที่หายจากอาการสะลึมสะลือแล้วแล้วก็ขยับตัวนั่งดีๆและหันไปมองหน้าขุนศึกที่เขานั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับฉันและนั่งข้างๆฉันด้วย"ริมารอขุนนั้นแหละ.....ทำไม่มาซะดึกเลย....หาไม่เจอเหรอ?""เปล่า.....พอดีขุนไปทำธุระมาน่ะ""อ้อ"ฉันพยักหน้าพลางร้องตอบขุนศึกไป แม้ในใจอยากจะถามเขาว่าธุระที่เขาว่าคืออะไร แต่สีหน้าและแววตาของขุนศึกเหมือนไม่อยากบอกให้ฉันรู้ว่าธุระที่เขาพูดถึงคืออะไรถ้าเขาไม่อยากบอก ฉันก็ไม่ควรที่จะถามต่อสินะ เพราะฐานะของฉันกับเขาไม่มีสิทธิ์ซักไซ้จนได้รู้เรื่องส่วนตัวของเขามากไปกว่านี้"ว่าแต่ริมารอขุน......มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่า"ขุนศึกถามฉันพร้อมกับจ้องมองฉั
จะปล่อยห้องว่างไวโดยไร้คนอยู่ก็เสียดาย ฉันก็เลยใจอ่อนและยอมมาอยู่ที่นี่ซึ่งฉันคิดว่ามันสะดวกสบายดี บ้านที่ฉันหาในเน็ตก็มองทรุดโทรมและค่าเช่าก็แพง อะไรที่ประหยัดได้ในตอนนี้ฉันก็ควรจะประหยัดและตอนนี้ฉันก็ท้องด้วย ฉันควรจะมีเงินสำรองไว้เลี้ยงลูกของฉันให้เขาอยู่อย่างสุขสบายให้เยอะๆดีกว่าฉันควรจะบอกเรื่องนี้กับขุนศึก......ว่าฉันท้องกับเขา....."ป้าบัวคะ""จ๊ะว่าไงจ๊ะเอริ?"ป้าบัวที่กำลังยกชามกะละมังที่เช็ดตัวคุณหญิงเพิ่งเสร็จหันมาขานรับฉันเงินก้อนใหญ่ฉันก็ให้ขุนศึกไปหมดแล้ว รถก็ขายทิ้ง บ้านก็มาไฟไหม้อีก ค่ารักษาพยาบาลคุณหญิงค่าใช้จ่ายรายเดือนก็สูง โดยเฉพาะค่ากายภาพบำบัดที่ฉันว่าจ้างให้นางพยาบาลที่เป็นคนทำกายภาพบำบัดและศึกษาด้านนี้มาโดยเฉพาะให้มาดูแลคุณหญิงทุกวันโดยทำกายภาพบำบัดให้คุณหญิงเดินได้อีกครั้งและฉันจะทำทุกวิถีทางให้ชีวิตของลูกฉันมีความสุขและสุขสบายที่สุดไม่ให้ลำบากและรู้สึกขาดแบบที่ชีวิตฉันเคยเป็นมา ฉันจะเลี้ยงเขาให้ดีที่สุดเท่าที่สุดของความสามารถของฉัน"ป้าบัวส่งโลเคชั่นให้ขุนหรือยังคะว่าเราอยู่ที่ไหนกัน?"ฉันเอ่ยถามป้าบัวไป ท่านก็ยิ้มบางๆให้ฉัน"ป้ากำลังจะไปส่งโลเคชั่นให้คุณข
"ไม่ว่าฉันจะให้แกทำอะไรแกก็ยอมใช่ไหม?"แก้มหวานเอ่ยถามผมด้วยแววตามีเลศนัยพร้อมยกยิ้มที่มุมปากขึ้น ผมก็จ้องมองเธอนิ่ง และผมก็อยากทำให้เรื่องทุกอย่างมันจบลง วันนี้คุณแม่ผมเกือบจะไม่รอด เพราะผมเป็นตัวต้นเหตุ วันนี้อาจจะโชคดี แต่มันก็คงตะไม่โชคดีทุกครั้งไป "ใช่" "ถ้าฉันให้แกไปตายล่ะ" "มันไม่มากไปเหรอ?"ผมถามเธอไปเสียงเข้ม เรื่องที่ผมและเพื่อนๆทำกับเธอ เธอก็ยังมีชีวิตอยู่และดีด้วยจนถึงทุกวันนี้ไม่ใช่เหรอ "หึ.....ฉันรู้ว่าแกคงไม่กล้าตายหรอก" "งั้น......ฉันขอแลกศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของแกก็ล่ะกันนะ" "ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของฉัน?" "กราบตีนฉันสิ.....แล้วฉันจะเลิกยุ่งกับแม่แกและก็เอริผู้หญิงที่แกบอกว่ารักนักรักหนาด้วย" "ไม่รู้ว่าแกรักเธอยังไงนะถึงได้นอกกายนอกใจเธอนอนกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ตลอดเวลา" "ถ้าฉันเป็นเอริฉันคงไม่เอาผู้ชายเลวๆที่ทำตัวเหมือนหมาตัวผู้ที่ต้องผสมพันธุ์ไปทั่วโดยไม่สนว่าใครเป็นใคร" "แบบแกหรอกนะขุนศึก" "แค่ฉันกราบตีนเธอ.....แค่นี้ก็พอแล้วใช่ไหม?"ผมไม่สนใจคำพูดที่ถากถางของแก้มหวานแต่เอ่ยถามในสิ่งที่จะเป็นตัวหยุดเรื่องนี้กับเธอไป เธอก็ทำหน้าบึ้งตึงนิดหน่อยก่อนจะแสยะยิ้มให้ผม
เมื่อมาถึงหน้าประตูห้องผมก็ยื่นมือไปกดออดเพื่อเรียกคนในห้องให้รู้ว่ามีคนมาขอพบเธอผมรออยู่ไม่นานและกดออดซ้ำไปแค่ครั้งเดียว ประตูห้องหรูบานตรงหน้าผมก็ค่อยๆถูกเปิดออกจากคนที่อยู่ด้านในของห้องนี้ผมก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองบุคคลที่เป็นคนมาเปิดประตูเธอเป็นผู้หญิงผอมสวยหุ่นดี เธออยู่ในชุดเดรสสั้นสายเดี่ยวสีแดงผมของเธอถูกดัดเป็นลอนใหญ่แล้วปล่อยสยายไปด้านหลังสีหน้าที่เธอจ้องมองมาที่ผมด้วยแววตาสงสัย และเพ่งมองพินิจพิจารณาอย่างสงสัยว่าผมคือใครผมจึงค่อยๆใช้มือดึงฮู้ดที่ปิดหน้าของผมอยู่ให้ออกเพื่อเผยใบหน้าของผมให้เธอคนนี้ได้เห็นอย่างชัดเจนขึ้นและในเมื่อใบหน้าของผมที่ไร้เสื้อฮู้ดปกผิดเปิดเผยแก่คนตรงหน้าเธอก็จ้องมองผมด้วยแววตาตกใจและแปลกใจ ผมก็จ้องมองเธอกลับไปด้วยแววตาเรียบเฉยเมื่อแปดปีก่อน เธอกับผมเราคงจะคุ้นตากันเพราะเราสองเคยมีอะไรกันและแอบเป็นแฟนกันมาก่อนทั้งๆที่ผมเองก็มีแฟนอยู่แล้วผมไม่ได้ตั้งใจจะหลอกเธอ แต่ผมคิดว่าผู้หญิงทั้งมหาลัยก็น่าจะรู้ดีว่าผมมีเจ้าของอยู่แล้ว แต่กลับผิดคาดที่เธอคนนี้ไม่รู้ เธอจึงปล่อยใจรักผมแต่ผมกลับไม่เคยรักเธอ ไม่ว่าเธอจะแสนดีและน่ารักแค่ไหน ผมก็ไม่เคยคิดที่จะรั
ช่วงเย็นวันเดียวกันคอนโด TYขุนศึก ขุนณรงค์......"ขอบคุณสำหรับข้อมูลตอนนี้ฉันอยู่ที่หน้าคอนโดที่แกบอกแล้ว""คอนโดTYชั้นที่สามสิบห้องสามสามสี่ห้าฉันจำได้ล่ะขอบใจแกมากฟิว"ผมเอ่ยบอกฟิวไปในขณะที่สายตาก็ทอดมองเงยหน้าไปยังชั้นบนสุดชั้นที่สามสิบของตึกสูงตระหง่านใจกลางเมืองตรงหน้าของผมในขณะนี้(แกคิดที่จะทำอะไร?)(ตอนนี้เขามีอิทธิพลมากกว่าแกเขาสามารถทำให้แกหายไปโดยไม่มีใครสงสัยได้เลยนะขนาดทำให้ชีวิตของแกพังเขาก็ยังทำได้)(ฉันว่าแกไม่สมควรที่จะประมาทผู้หญิงคนนี้)เสียงปลายสายของฟิวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงห่วงใย ผมจึงละใบหน้าจากตึกสูงตรงหน้าและเอ่ยคุยกับฟิวต่อ"ฉันรู้ขอบใจและขอโทษที่ทำให้ชีวิตของแกต้องมาติดร่างแหพลอยซวยไปกับฉันด้วย"ผมเอ่ยบอกหิวไปอย่างคนที่รู้สึกผิดที่ออกมาจากใจจริงไปของผม(แกไม่ได้ทำอะไรผิดถ้ามันจะผิดก็ผิดกันหมดนี่แหละ)(มันคงจะเป็นเพราะตอนนั้นพวกเรายังเด็กเลยไม่ได้คิดอะไรให้มากกว่านี้เลยทำเรื่องแบบนั้นลงไป)(ฉันไม่มีสิทธิ์โกรธแกหรือแก้มหวานเลยด้วยซ้ำ)"นั่นสิเนอะ....ฉันก็ไม่สมควรที่จะโกรธแก้มหวานด้วยเหมือนกัน"ผมเอ่ยออกมาอย่างคิดนึกตริตรองอย่างที่ฟิวว่าที่จริงถ้าตอนนั้นผมไม่คึกค
"ผมขอโทษครับ""คุณจะมาขอโทษฉันทำไมล่ะค่ะ....ฉันเองต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณสิถึงจะถูก""เดี๋ยวฉันจะโอนจ่ายค่ารักษาให้คุณทีหลังนะคะ....เพราะวันนี้ฉันไม่มรเงินติดตัวเลย"ฉันเอ่ยบอกคุณเควินไปตามความจริง เขาก็มีสีหน้าตกใจและสลดปะปนกันไป"อย่าโอนจ่ายค่ารักษาให้ผมเลยครับ...ขอให้ผมได้ดูแลคุณสักครั้ง""ในฐานะเพื่อนได้ไหมครับ"คุณเควินว่าต่อในเสียงและสีหน้าเชิงขอร้อง ฉันก็มองหน้าเขาอย่างคนคิดหนัก เขาขอช่วยในฐานะเพื่อนถ้าฉันปฏิเสธเพื่อนคนนี้ ก็ควจะเสียมารยาท"ก็ได้ค่ะ....แต่ริขอแค่ความช่วยเหลือจากคุณเควินแค่ครั้วนี้ครั้งเดียวนะคะ....ครั้งต่อไปไม่ต้องแล้วนะคะ....ริเกรงใจ"สิ้นคำพูดฉันคุณเควินก็มีสีหน้าดีใจขึ้นมา"ครับ....ขอบคุณนะครับที่ยอมรับความช่วยเหลือจากผมในครั้งนี้""มีอะไรหรือคะ?"ฉันเอ่ยถามคุณเควินต่อหลังจากที่เขาพูดจบประโยคเขาก็นิ่งไปและมองหน้สฉันอย่างคนอึดอัดใจเหมือนเขาอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่เขาก็เลือกที่จะไม่ยอมพูดมันออกมาฉันจึงเลือกที่จะเป็นฝ่ายถามเอง"ผมดูข่าวเกี่ยวกับไฟไหม้ที่บ้านของคุณและผมก็ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลว่าคุณเข้ามารับการรักษาที่นี่""ผมจึงรีบมา....และก็พบคุณแต่ทางโรงพยาบาลแจ
"แต่คงจะยาก.....เพราะเขามีหลักฐานขนาดนั้น" "และที่สำคัญเขาไม่รับฟังหรอกว่าแม่นายเองก็โดนหลอกเหมือนกัน" "เธอพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงเอริ?" "ก็อย่างที่บอกว่าตอนนี้.....นายกำลังโดนโจมตรีจากคนที่นายเรยไปทำลายชีวิตเขายังไงล่ะ" "นายเกือบทำให้แม่นายต้องมาตายเพราะความเจ้าชู้ของนาย.....ขุนศึก" "และคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยอย่างแม่นายต้องมาซวยต้องมาหมดตัวต้อยมาเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านสร้างมาก็เพราะนาย" "เพราะความเจ้าชู้ของนาย"ฉันพูดเสียงแข็งตะโกนใส่ขุนศึกไปเป็นชุดด้วยแววตาสั่นไหวน้ำตาเอ่อคลอ ขุนศึกก็ทำสีหน้ายอมรับความผิด สีหน้าของเขาซีดลงแววตาของเขาสั่นไหว "ขุนรู้ว่าทุกอย่างมันเป็นเพราะขุน....." "ที่มาทำให้แม่และก็ริเดือดร้อน" "ขุนจะจบเรื่องนี้เอง"ขุนศึกพูดเสียงเข้มแววตาจริงจังและวูบไหว "ผมฝากแม่ด้วยนะครับ" "เดี๋ยวผมมาได้ที่อยู่ใหม่ที่ไหนรบกวนป้าบัวโทรบอกผมด้วยนะครับ"ขุนศึกผละจากรถวีลแชร์เดินไปหยุดตรงหน้าของป้สบัวพร้อมกับเอ่ยบอกป้าบัว "ค่ะได้ค่ะว่าแต่คุณขุนศึกจะไปไหนคะ?"ป้าบัวรับคำขุนศึกและเอ่ยถามเขาต่อ ขุนศึกกฺ็หันกลับมามองหน้าฉัน ด้วยสายตานิ่งเฉย "ไปทำให้เรื่องทุกอย่างมันจบคร