ยามเย็นของอีกวัน ที่หน้าบ้านใหญ่ของตระกูลไทระ ฮิโร่กำลังจะเข้าไปเพื่อรายงานเคนเกี่ยวกับข้อมูลที่สืบมาได้ แต่แล้วสายตาก็สะดุดกับร่างของเอมิที่ยืนกอดอกพิงกำแพงอยู่ข้างประตูเหมือนตั้งใจรอเขาโดยเฉพาะ“มาซะเย็นเลยนะ” เอมิถามขึ้นทันทีที่เห็นเขา แววตาไม่พอใจฉายชัดฮิโร่เลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนถามกลับเสียงเรียบ“เธอมาทำไม?”“ฉันก็อยากรู้ว่า ‘พี่ชาย’ ไปทำอะไรที่ไหนมาทั้งคืน” เอมิแค่นยิ้ม พลางขยับเข้าใกล้เขาฮิโร่ถอนหายใจด้วยท่าทางเหนื่อยหน่าย“ฉันไม่ยุ่งเรื่องของเธอ เธอก็ไม่ควรยุ่งเรื่องของฉันนะ” เขาพูดพลางเดินผ่านเอมิเข้าบ้านไป“เดี๋ยวสิ!” เอมิรีบตามติด พลางคว้าแขนเขา“นายนอนกับวาเลนไทน์เหรอ?” เอมิถามตรงประเด็นทันทีฮิโร่หยุดชั่วครู่ก่อนตอบเสียงเย็น“ถ้ามันทำให้ได้ข้อมูล ฉันก็ทำหมดล่ะ” ว่าแล้วก็เดินตรงไปยังห้องรับแขก ปล่อยให้เอมิมองตามด้วยความขัดใจ“ไง มาละเหรอ ได้ไรบ้าง?” เคนถามทันทีที่เห็นฮิโร่ ขณะกำลังดูข้อมูลจากมิสเตอร์พี“วาเลนไทน์กับอเล็กซ์มาที่นี่เพื่อฆ่าไอ้หมอนั่น และจับตัวยัยหนูไปส่งให้ไมเคิล” ฮิโร่สรุปสั้นๆ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟาด้วยท่าทางหงุดหงิด แม้สีหน้าจะยังคงนิ่งอยู่ก็ตาม“แล้
ภายในห้องวีไอพีที่ผับของเคน เนยนั่งจิบมาร์การิต้าทไวไลท์อย่างสบายอารมณ์ ค็อกเทลแก้วนี้มีเตกีล่าผสมลิเคียวร์เปรี้ยว น้ำมะนาวสด และน้ำแบล็กเคอร์แรนต์กับราสป์เบอร์รี่เข้มข้น ให้รสหวานอมเปรี้ยวลึกซึ้ง เครื่องดื่มเป็นสีแดงเข้มและม่วงสวยงาม ขอบแก้วแต่งด้วยเกลือผสมเบอร์รี่บด ตกแต่งด้วยราสป์เบอร์รี่สดและใบมินต์ รสชาติที่เข้มและสดชื่นเข้ากับบุคลิกของเนยที่ทั้งหวาน เซ็กซี่ และมั่นใจในตัวเองขณะเดียวกัน เบียร์กำลังปรึกษากับเคนเกี่ยวกับแผนการทำลายระบบไซเบอร์ทางการเงินของแบล็ควอล์ค เบียร์เสนอไอเดียสร้างไวรัสเฉพาะเพื่อโจมตีระบบการเงินโดยตรง ซึ่งดูเหมือนเคนจะเห็นด้วยกับแผนนี้ทันใดนั้น สายตาของเนยก็สะดุดเมื่อเห็นวาเลนไทน์เดินเข้ามาในผับ เธอมองตรงไปยังโต๊ะมุมมืดด้านในสุดที่วาเลนไทน์นั่งลงอย่างเงียบๆ“นั่นมัน…วาเลนไทน์นี่” เนยพึมพำเบาๆ พลางหรี่ตามองด้วยความสนใจ“ดูท่าจะมารอฮิโร่อีกล่ะสิ” เคนที่มายืนอยู่ข้างๆ พึมพำเบาๆ“หืม? มาบ่อยเหรอ เฮีย” เนยเอียงคอพลางเลิกคิ้วเป็นเชิงถามเคนหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะตอบคำถาม“ทุกคืนวันศุกร์น่ะ”เนยหรี่ตามองวาเลนไทน์อย่างครุ่นคิด ขณะใช้หลอดเขี่ยน้ำแข็งในแก้วเบาๆ“ว่าแ
ฮิโร่กำลังนั่งอ่านข่าวในมือถือรอเนยแต่งตัวอยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่นด้วยท่าทางสบายๆไม่นานนัก เนยก็เดินลงมาจากบนบ้านด้วยลุคน่ารักสดใส เธอสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวพับแขนขึ้นเล็กน้อย กระโปรงพลีทสั้นสีชมพูอ่อนที่เข้ากันดีกับผิวขาวเนียนของเธอ ผมที่ถูกรวบเป็นหางม้าด้านหลังทำให้เธอดูอ่อนเยาว์และสดใสยิ่งขึ้น รอยยิ้มหวานประดับบนใบหน้าทำให้เธอดูน่ารักจนยากจะละสายตาฮิโร่ที่นั่งรออยู่ถึงกับชะงักไปครู่หนึ่ง เขาพยายามปรับสีหน้าให้เรียบนิ่งอย่างรวดเร็ว แต่นัยน์ตาคมก็ยังหลุดจ้องมองเธออย่างลืมตัวอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพึมพำเสียงเบา“แต่งตัวแบบนี้...จะไปกินราเมงหรือจะไปให้คนอื่นกินกันแน่”เนยยิ้มซนเมื่อเห็นสายตาของเขา “เป็นไงคะ พอโอเคมั้ย?”“ตามใจเราเถอะ” ฮิโร่กลบเกลื่อนด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ดวงตากลับแฝงรอยยิ้มพอใจอยู่ลึกๆฮิโร่ขับรถพาเนยมาถึงร้าน ‘โคคุโระ ราเมง’ ซึ่งตั้งอยู่ในซอยเงียบสงบ หน้าตึกเป็นไม้สไตล์ญี่ปุ่นร่วมสมัย หน้าร้านมีป้ายไม้สลักชื่อร้านเป็นอักษรญี่ปุ่นตัวโต และประตูบานเลื่อนที่ให้บรรยากาศเรียบง่ายแต่ดึงดูดเมื่อก้าวเข้าไปในร้าน บรรยากาศภายในก็ตกแต่งด้วยโทนไม้สีเข้ม ให้ความรู้สึกอบอุ่นและ
เช้าวันรุ่งขึ้นเนยลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมอาการมึนหัวและแฮงค์เล็กน้อยจากการดื่มเหล้าบ๊วยเมื่อคืน เธอค่อย ๆ ยันตัวลุกนั่ง มือบางยกขึ้นนวดขมับอย่างเบา ๆ“โอย...ปวดหัวชะมัด” เธอบ่นพึมพำ แววตาใสกระพริบถี่ ๆ ไล่ความมึนงง ขณะพยายามเรียบเรียงความทรงจำของเมื่อคืน“เมื่อคืน...” เนยพึมพำ ก่อนจะสัมผัสเบา ๆ ที่ริมฝีปากตัวเอง แล้วก้มมองเสื้อผ้าที่ใส่อยู่“...นี่เรา...ฝันไปเหรอ?..” เธอยิ้มเจื่อนๆ เม้มปากเล็กน้อย เมื่อนึกถึงความรู้สึกที่เหมือนจริงกับรสสัมผัสที่อ่อนโยนของเบียร์ ทั้งที่ไม่ได้อยู่คอนโดของเขา“ฝันอะไรเนี่ย...” เธอบ่นกับตัวเองเบาๆ พร้อมกับสะบัดหัวไล่ความคิดแล้วลุกขึ้น เตรียมตัวอาบน้ำ เพราะเช้านี้เธอคิดว่าจะไปหาเบียร์ให้หายคิดถึงในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยเสียงเพลงและบรรยากาศครึกครื้น เนย เบียร์ เน และแพร มารวมตัวกันในห้องวีไอพีของผับเคน เนยยกแก้วขึ้นชนกับแพรและน้องชายอย่างอารมณ์ดี ขณะที่เบียร์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาข้างเนย ดูเหนื่อยล้าแต่โล่งใจอย่างเห็นได้ชัด เขาค่อยๆ เอนศีรษะพิงไหล่เธอเบาๆ“เหนื่อยมั้ย?” เนยหันไปถามเขายิ้มๆ“มากที่สุด ถ้าได้แก้เครียดคืนนี้คงดี” เบียร์ตอบพร้อมกระซิบเสียงพร่าใกล้หูเธอ
ในเช้าวันแรกของวันหยุดปีใหม่ เบียร์ไปรับเนย เนและแพร ที่บ้านของเนย เพื่อออกเดินทางไปยัง มิราจ เบย์ รีสอร์ท ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรีเบียร์ยืนพิงรถ สวมแว่นกันแดดและกอดอกมองเนยที่เดินออกมาพร้อมกับสัมภาระเต็มมือ“มา ฉันช่วยถือ” เบียร์เอ่ยพลางยื่นมือมารับกระเป๋าเนยยิ้มขอบคุณ ส่งกระเป๋าให้เขาพร้อมบอกติดตลกว่า“คิดว่าเราไปนอนค้างซักอาทิตย์นึงอะ”“ขาดชุดไร ค่อยซื้อที่โน่นก็ได้!” แพรหัวเราะล้อเลียน ขณะที่เนช่วยแพรยกกระเป๋าขึ้นท้ายรถ“เรียบร้อย!” แพรเช็กกระเป๋าพร้อมเสียงใส“ออกเดินทางกันเลย!”ทุกคนขึ้นประจำที่ของตัวเองในรถ เบียร์เป็นคนขับ มีเนยนั่งข้างๆ ส่วนเนกับแพรนั่งเบาะหลัง ขณะมุ่งหน้าสู่จังหวัดชลบุรี บรรยากาศภายในรถก็เต็มไปด้วยเสียงพูดคุย หยอกล้อ และเสียงเพลงที่เปิดคลอไปตามถนน ยิ่งใกล้ถึงทะเล พวกเขายิ่งรู้สึกตื่นเต้น ราวกับจะได้สัมผัสลมทะเลและความผ่อนคลายของทริปที่รอคอยมานานระหว่างเดินทางไปมิราจ เบย์ รีสอร์ท พวกเขาต่างแวะเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวริมทางที่เตรียมไว้เต็มที่ โดยเริ่มจากตลาดน้ำสี่ภาค พัทยาที่มีของฝากท้องถิ่นและอาหารหลากหลายชนิด เนยกับแพรสนุกกับการลองชิมขนมพื้นเมืองจนแพร
ในเช้าวันหยุดแรกของเทศกาลปีใหม่ อากาศโปร่งใส ฮิโร่ขับรถคันโปรด สีดำเข้ม เงาวับ ราวกับดึงดูดสายตา เคลื่อนตัวผ่านถนนเลียบภูเขา มุ่งหน้าขึ้นไปยังเชียงใหม่ เส้นทางทอดยาวเรียบผ่านขุนเขาและทิวทัศน์งดงามสองข้างทาง แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างรถ เพิ่มบรรยากาศความสงบในใจของเขา ฮิโร่เปิดเพลงบรรเลงเบาๆ ขณะควบคุมพวงมาลัยด้วยความมั่นคง มุ่งหน้าไปยังที่หมายอย่างไม่รีบเร่งในเวลาเดียวกัน วาเลนไทน์เลือกใช้การเดินทางโดยเครื่องบินไปลงที่สนามบินเชียงใหม่ เธอลงจากเครื่องด้วยท่าทีที่ดูคล่องแคล่ว เธอสวมชุดเดรสเรียบหรูสีเข้มที่เข้ากับบรรยากาศหนาวเย็นของภาคเหนือ ดวงตาสีควันบุหรี่จับจ้องรอบๆ ขณะที่เดินไปยังจุดรับสัมภาระทันทีที่มาถึงเชียงใหม่ วาเลนไทน์รู้สึกเหมือนภาระหนักที่เคยแบกมาค่อยๆ คลายลง ช่วงวันหยุดนี้เธอตั้งใจจะปล่อยวางทุกเรื่องเครียดและพักผ่อนอย่างเต็มที่ การตามหาชายหนุ่มปริศนาที่เธอเจอในค่ำคืนนั้นกลับมีแต่เรื่องวุ่นวาย และยังหาข้อมูลได้ไม่มากพอ เธอจึงตัดสินใจที่จะวางเรื่องนั้นไว้ก่อนและให้ตัวเองได้พักบ้างหลังจากเช็คเอาท์ออกจากสนามบิน รถที่เธอจองไว้ในแอปพลิเคชันก็มารออยู่ตรงจุดนัดพบ เ
“เฮ้ย มีผู้หญิงด้วยว่ะ” เสียงชายฉกรรจ์คนหนึ่งดังขึ้น เมื่อเขาเห็นเนยและแพรอยู่กับเด็กชายคนนั้น“โอ้โห สวยซะด้วย” ชายอีกคนที่ตามมาภายหลังแลบลิ้นเลียริมฝีปากด้วยท่าทางหยาบโลนแพรรีบดึงเด็กชายคนนั้นมาอยู่ด้านหลังของตนเองทันที ในขณะที่เนยยืนบังทั้งสองคนไว้“สาวสวย ใจกล้าไม่เบานะเนี่ย” ชายคนที่สามปรากฎตัวขึ้น ก่อนจะเดินแทรกระหว่างกลางชายสองคนนั้น“ลูกพี่ เอาไงดี?” ชายคนแรกถาม“เด็กเป็นสินค้า ก็ต้องเอาไปสิวะ ถามได้ ส่วนสาวสวยคนนี้...” คนที่ถูกเรียกว่า ‘ลูกพี่’ หรี่ตาเล็กน้อย ก่อนจะชี้ไปที่เนย พลางพูดว่า“กูเอา!”เนยยืนกอดอกมองชายตรงหน้าด้วยสายตาเรียบนิ่ง ขณะที่แพรที่อยู่ด้านหลังค่อยๆ ดันเด็กชายไปชิดกำแพงเพื่อป้องกันอันตราย“คิดว่าฉันกลัวรึไง?” เนยยิ้มเยาะมุมปาก พลางยักคิ้วมองหน้าด้วยสายตาท้าทาย“หึหึ ใจกล้าดีนี่” ชายที่ถูกเรียกว่าลูกพี่แสยะยิ้ม ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้เนยด้วยท่าทางคุกคาม“ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าบนเตียงเธอจะใจกล้าแบบนี้มั้ย?” ลูกพี่แสยะยิ้ม ก่อนจะพุ่งเข้าใส่เนยด้วยท่าทีดุดันเนยหลบได้อย่างฉิวเฉียด เธอหมุนตัวอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะสวนหมัดหนักเข้าไปที่ลำตัวของเขาเต็มแรง ทำให้ชายค
หลังจากที่ทุกคนวิ่งหนีออกจากซอกตึกและหายใจหอบด้วยความเหนื่อย เนยและเบียร์ช่วยกันประคองเด็กชายที่ยังคงตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว พวกเขาตรงไปยังป้อมตำรวจซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณนั้นภายในป้อมตำรวจ เจ้าหน้าที่รีบเข้ามาให้ความช่วยเหลือเมื่อเห็นสภาพของเด็กชายและรับฟังคำอธิบายจากเนยและเบียร์“เด็กคนนี้ถูกกลุ่มคนร้ายลักพาตัวค่ะ พวกเราช่วยเขาไว้ทัน” เนยบอกเจ้าหน้าที่ ขณะที่แพรช่วยปลอบเด็กชายไม่ให้ตกใจกลัวไปมากกว่านี้“ขอบคุณพวกคุณมากนะครับ” เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวอย่างจริงใจ พร้อมทั้งสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากเบียร์และเนระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่ติดต่อครอบครัวเด็กชาย เด็กเริ่มมีท่าทีสงบลงหลังจากแพรและเนช่วยพูดปลอบใจเขา เบียร์ยืนกอดอกมองเด็กชายอย่างสงสาร แต่ก็ไม่วายเหลือบตามองเนยเป็นระยะ เพื่อให้มั่นใจว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่นานนัก หญิงวัยกลางคนในชุดลำลองก็รีบวิ่งเข้ามาในป้อมตำรวจ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวล เมื่อเห็นลูกชายของตัวเองปลอดภัยก็น้ำตาคลอ“แม่!” เด็กชายร้องเรียกด้วยเสียงสะอื้น ก่อนจะวิ่งเข้าไปกอดเธอแน่นภาพนั้นทำให้ทุกคนยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ“ขอบคุณพวกคุณมากนะ
แสงแดดอ่อนๆ ยามเย็นสาดส่องผ่านม่านโปร่งเข้าสู่ห้องนอนอันเงียบสงบ เนยค่อยๆ ลืมตาขึ้น ความเมื่อยล้าจากค่ำคืนอันเร่าร้อนยังคงสะสมอยู่ในทุกอณูของร่างกาย เบียร์จัดเธอหนักจนถึงเช้า ทำให้เธอรู้สึกเหมือนพลังถูกสูบออกไปจนแทบหมดสิ้น เธอพยายามยันตัวลุกขึ้นนั่ง แต่ความปวดหน่วงในท้องน้อยทำให้ต้องนิ่วหน้าด้วยความทรมานเล็กน้อย“อือ...บ้าจริง” เนยพึมพำเบาๆ พลางลูบท้องเพื่อบรรเทาความปวด เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้อง แต่ไม่เห็นเบียร์อยู่ในห้องแล้ว มีเพียงความเงียบและกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเขาที่ยังหลงเหลือบนหมอนข้างๆ ทำให้เธอย่นคิ้วเล็กน้อย“ไปไหนนะ?” เธอเอ่ยพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะหยิบเสื้อคลุมมาปกปิดร่องรอยรักที่กระจายอยู่ตามผิวกาย เนยเดินโซเซไปยังห้องน้ำ หวังว่าจะพบเบียร์ที่นั่น แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่าขณะที่เธอขมวดคิ้วครุ่นคิดว่าชายคนรักหายไปไหน สายตาก็เหลือบไปเห็นกล่องสีดำใบเล็กวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง ริบบิ้นสีทองที่ผูกอย่างประณีตสะดุดตาเธอ“กล่องอะไรน่ะ?” เธอพูดกับตัวเองพลางเดินเข้าไปหยิบขึ้นมาดูภายในกล่องมีการ์ดใบหนึ่งวางอยู่ เมื่อเธอเปิดออกก็พบตัวอักษรที่ดูเหมือนรหัสมอร์สเรียงรายเต็มการ์ด เนยยืนมองการ์ด
เมื่อเวลาค่ำมาถึง พนักงานของเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน มัลดีฟส์ ก็มาจัดเตรียมดินเนอร์สุดหรูบนระเบียงกลางแจ้งของวิลล่า แสงเทียนในโคมแก้วที่จัดวางไว้รอบโต๊ะส่องแสงอ่อนโยน ท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติกที่มีเพียงแสงดาวและเสียงคลื่นทะเลเป็นฉากหลังบนโต๊ะดินเนอร์ถูกจัดวางอย่างประณีตด้วยผ้าปูโต๊ะสีขาวสะอาดตา พร้อมช่อดอกไม้เล็กๆ ในแจกันแก้วใส อาหารค่ำที่จัดเตรียมมาเป็นเมนูพิเศษจากเชฟของโรงแรมเริ่มจาก ซุปล็อบสเตอร์บิสค์ ที่เสิร์ฟมาในชามเซรามิกขอบทอง กลิ่นหอมของสมุนไพรและเครื่องเทศลอยมากระทบจมูก ตามด้วยจานหลักเป็น สเต็กปลากะพงย่างราดซอสเนยมะนาว เสิร์ฟคู่กับผักย่างและมันบดเนื้อเนียนละเอียดและไฮไลต์ของค่ำคืนนี้คือ ของหวานเค้กมูสมะพร้าว เสิร์ฟในเปลือกมะพร้าวขัดเงา ตกแต่งด้วยซอสมะม่วงราดอย่างละเมียดละไม ความหวานของมูสมะพร้าวเข้ากันดีกับรสเปรี้ยวสดชื่นของมะม่วง เป็นเมนูที่ทั้งตาและลิ้นต้องหลงรักเบียร์นั่งจิบไวน์ขาวที่เสิร์ฟเคียงกับอาหาร ขณะที่มองเนยที่กำลังตักซุปขึ้นมาชิม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรักและหลงใหล เนยที่สวมชุดเดรสผ้าชีฟองสีฟ้าอ่อนซึ่งพริ้วไหวตามลมทะเล ดูราวกับนางฟ้าท่ามกลางแสงเทียน“รสชาติเป็นไงบ
ฮิโร่และวาเลนไทน์ยืนเคียงข้างกันอย่างเงียบสงบที่จุดชมวิวริมแม่น้ำปิง แสงไฟจากริมฝั่งสะท้อนลงบนสายน้ำที่ไหลเอื่อย สายตาของทั้งคู่เหม่อมองออกไปไกลราวกับกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องราวมากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต“ไม่มีแบล็ควอล์คอีกแล้ว...” ฮิโร่พูดขึ้น ทำลายความเงียบที่รายล้อมแววตาของวาเลนไทน์สะท้อนไหววูบเล็กน้อย แต่ไม่นานนักเธอก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“พังไปแบบนั้นก็ดีแล้ว”ฮิโร่หันมามองเธอด้วยความแปลกใจเล็กน้อยในคำพูดนั้น“หืม?”วาเลนไทน์ยังคงเหม่อมองสายน้ำไหล คล้ายกำลังดิ่งลึกลงไปในห้วงอดีตของตัวเอง ก่อนจะเอ่ยออกมาช้าๆ“ชีวิตฉัน...ถูกไมค์ช่วยเอาไว้ก็จริง แต่เขาก็เป็นคนที่ทำลายมันลงเหมือนกัน...” เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ดวงตาคู่งามสะท้อนแสงไฟริมน้ำ“เพราะงั้น...การที่มันพังไปแบบนั้น...ถือว่าดีแล้ว”วาเลนไทน์หันกลับมาสบตากับฮิโร่ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความซับซ้อน ทั้งความเศร้าและความโล่งใจที่ผสมปนเปกันฮิโร่จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของวาเลนไทน์ คิ้วหนาขมวดเล็กน้อยเหมือนกำลังไตร่ตรอง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“แล้วเธอคิดจะทำอะไรต่อไปล่ะ”วาเลนไทน์นิ่งไปครู่หนึ่ง ราวกับคำถามนั้นกระทบใจเธออ
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่เนยเดินทางกลับจากมอสโก ข่าวใหญ่ก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งโทรทัศน์และเว็บไซต์ข่าวออนไลน์ทุกสำนัก รายงานเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ยูนิโอนิค คาร์ด กรุ๊ป ขณะเดินทางเยี่ยมชมสาขาในรัสเซียข่าวระบุว่าเกิดอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกท่ามกลางภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมดสี่ราย ได้แก่ นักบินประจำลำ ไมเคิล เวสท์ ผู้บริหารสูงสุดของยูนิโอนิค กรุ๊ป วินเซนต์ เกรย์ รองประธานฝ่ายบริหาร และเซเลสเท ลาโนว่า ผู้ช่วยส่วนตัวของวินเซนต์ข่าวนี้สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลกธุรกิจ การสูญเสียบุคคลสำคัญระดับนี้ไม่เพียงกระทบต่อบริษัท ยูนิโอนิค คาร์ด กรุ๊ป เท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงความมั่นคงของอุตสาหกรรมการเงินระดับโลกอีกด้วย“หมอนั่น ทำให้ข่าวออกมาแบบนี้เหรอเนี่ย” เบียร์พูดขึ้น ขณะเลื่อนดูข่าวบนหน้าจอแท็บเล็ต ร่างสูงนั่งเอนตัวสบายๆ บนโซฟาภายในคอนโด โดยมีเนยนั่งอยู่บนตักของเขา“ก็ไม่แปลกนี่ อีตาสูทดำถนัดทำเรื่องแบบนี้อยู่แล้วนี่นา” เนยหัวเราะเบาๆ ขณะมองภาพข่าวที่แสดงอยู่บนหน้าจอ“แล้วแบบนี้บริษัทเธอจะทำยังไงต่อล่ะ?” เบียร์เลิกคิ้วถามพลางโอบเอวเธอไว
ทันใดนั้น ก็มีเสียงที่ดัดแปลงด้วยเอไอดังออกมาจากโทรศัพท์ของเนยที่เปิดสปีกเกอร์โฟน ราวกับเป็นเงาที่มองไม่เห็นของเกมนี้“แน่ใจเหรอ?” เสียงนั้นแทรกขึ้นมาท่ามกลางความเงียบไมเคิลขมวดคิ้วแน่น สายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธและสงสัยจับจ้องไปยังโทรศัพท์ในมือของเนย“นายคิดว่า แบล็ควอล์คไม่สามารถถูกทำลายได้จริงเหรอ?” เสียงนั้นยังคงดังออกมาราวกับเยาะเย้ย“แกเป็นใคร!!” ไมเคิลตะโกนลั่น เส้นเลือดบนขมับเต้นตุบ“ไม่สำคัญหรอก” เสียงนั้นหัวเราะเบาๆ ราวกับเพลิดเพลินกับความโกรธของไมเคิล“ฉันจะมอบของขวัญให้นายเอง ของขวัญแห่งความพินาศที่ชื่อว่า ‘แบล็คเฮเซล’ ”คำพูดนั้นเหมือนน้ำมันที่ราดลงบนเปลวไฟ ไมเคิลกำหมัดแน่นด้วยความโกรธจัด สายตาเขาเต็มไปด้วยคำถามและความเคียดแค้น“เขาว่างั้นล่ะ”เนยยกยิ้มบางพลางเดินเข้าไปหาไมเคิลที่ยังคงยืนตัวแข็งด้วยความโกรธ เธอเอื้อมมือดึงตัวเขาขึ้นจากพื้น ก่อนกดตัวเขานั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ใกล้กับจอมอนิเตอร์ไมเคิลมองจอมอนิเตอร์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ ภาพข้อมูลบริษัท การฟอกเงิน การขนส่งของผิดกฎหมาย และฐานย่อยที่เป็นความลับระดับสูงสุด กำลังถูกเปิดเผยต่อหน้าต่อตาเขา“นี่มัน...”
ภายในห้องนอนที่เต็มไปด้วยบรรยากาศเร่าร้อน เอมิกับไมเคิลยังคงจมอยู่ในความสุขที่เขาและเธอสร้างขึ้นร่วมกัน ไฟในดวงตาของไมเคิลเต็มไปด้วยความหลงใหล ในขณะที่เอมิกลับมีประกายร้ายกาจแฝงอยู่ในแววตาทันใดนั้น เอมิก็ชะงักเล็กน้อย สัญชาตญาณของเธอเตือนว่าเหตุการณ์กำลังเปลี่ยนไป ความเคลื่อนไหวจากภายนอกกำลังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นที่มุมปากของเธอ“อะไรหรือ?” ไมเคิลถามพลางมองเธอด้วยสายตาสงสัย เมื่อเห็นเธอนิ่งไปชั่วครู่เอมิหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอียงหน้ามองเขา รอยยิ้มร้ายกาจของเธอฉายชัด“ดูท่า ความสนุกของเราจะหมดลงแค่นี้แล้วล่ะ” เธอเอ่ยเสียงเย้ายวน แต่เต็มไปด้วยความหมายลึกลับไมเคิลเลิกคิ้ว ดวงตาสีฟ้าของเขาหรี่ลงอย่างจับสังเกต ขณะเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติจากด้านนอก เสียงฝีเท้าและแรงระเบิดเล็กน้อยที่ดังมาจากระยะไกลส่งสัญญาณบางอย่างที่เขาไม่อาจมองข้ามไมเคิลลุกพรวดขึ้นจากเตียงทันที เขาเร่งสวมกางเกงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะก้าวตรงไปยังโต๊ะทำงานข้างห้องพร้อมกดปุ่มลับที่ซ่อนอยู่ ไม่นานนัก มอนิเตอร์หลายสิบจอก็ปรากฏภาพตรงหน้า เขามองภาพสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรอบฐานด้วยสีหน้าเคร่งเครียดภาพการพ่ายแพ้ของล
ภายใต้ความมืดของยามค่ำคืน ฮิโร่และเนยเคลื่อนตัวอย่างเงียบงัน ฝ่าหมอกควันที่ลอยตลบจากระเบิดควันที่ฮิโร่ปาออกไปตามทางเป็นระยะ เพื่อบดบังการเคลื่อนไหว ทั้งคู่ใช้ทางเดินด้านหน้าของอาคารหลัก บุกเข้าไปโดยไร้เสียงฮิโร่เคลื่อนตัวอย่างคล่องแคล่ว ดาบคาตานะในมือของเขาวาววับเมื่อสะท้อนแสงไฟสลัว เขาพุ่งตัวเข้าใกล้ศัตรูคนแรกที่ยืนเฝ้าทางเข้า ดาบในมือฟาดออกด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ เสียงเฉือนเบา ๆ ดังขึ้นก่อนที่ร่างของสมุนจะล้มลงโดยไร้เสียงโวยวาย ฮิโร่ใช้เท้าขยับร่างศัตรูเข้าข้างกำแพง ซ่อนร่างไว้ก่อนส่งสัญญาณให้เนยเดินตามเนยตามติดเขาไปอย่างว่องไว ดวงตาคมกริบของเธอจ้องจับทิศทางศัตรูคนถัดไปที่ยืนอยู่บริเวณมุมตึก เธอพุ่งตัวไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว มีดสั้นในมือปักเข้าที่ต้นคอของศัตรูจากด้านหลัง ร่างของเขาทรุดลงอย่างเงียบงัน ก่อนที่เธอจะวางร่างลงกับพื้นอย่างเบามือทั้งคู่เคลื่อนไหวราวกับเงา ไร้เสียง ไร้การสะดุดเมื่อเจอกับกลุ่มศัตรูที่อยู่เป็นทีมเล็ก ๆ ฮิโร่ใช้สัญญาณมือสั่งให้เนยหยุดรอ ก่อนที่เขาจะพุ่งตัวออกไปในพริบตา ดาบของเขาสะบัดฟาดในจังหวะเดียวล้มศัตรูสองคนที่ยืนหันหลังให้ ส่วนคนที่สามที่หันมาเห็นเหตุ
“ใจเย็นสิคะ...” เนยพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ดวงตาพราวระยับ พร้อมยกมือบางขึ้นแตะที่ริมฝีปากของวินซ์ที่กำลังจะโน้มลงมา“หืม...นี่ผมใจเย็นสุดละ” วินซ์ตอบเสียงแหบพร่า แววตาเปี่ยมไปด้วยแรงปรารถนาเขาใช้มือจับข้อมือของเธอเบาๆ ก่อนจะดึงมือเรียวเล็กออกจากริมฝีปากของเขา และกดริมฝีปากร้อนลงบนริมฝีปากบางของเธอทันทีจูบของเขาไม่รีบร้อน แต่เต็มไปด้วยแรงดึงดูดที่เธอไม่อาจหลีกหนีได้ วินซ์สอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปากของเธอ ตักตวงรสหวานที่เขาต้องการมาตลอดเนยขืนตัวเล็กน้อย แต่ไม่นานนักก็ปล่อยตัวไปตามอารมณ์ มือบางที่เคยพยายามผลักไส เปลี่ยนมาจับที่บ่าของเขาเบาๆ ขณะที่ลมหายใจของทั้งคู่เริ่มประสานกันวินซ์จรดริมฝีปากร้อนลงบนซอกคอขาวเนียนของเนย ไล้เบาๆ ด้วยความนุ่มนวลก่อนจะเลื่อนต่ำลงมาช้าๆ จนถึงเนินอก เผยให้เห็นความปรารถนาที่เขาเก็บซ่อนไว้ในแววตา ขณะที่มือของเขาลูบไล้ไปตามร่างกายของเธออย่างเชื่องช้า“คุณสวยมาก...” วินซ์พึมพำเสียงเบา ดวงตาสีฟ้าเข้มทอดมองใบหน้าของเนย แต่แล้วเขาก็กระพริบตาถี่ๆ เมื่อรู้สึกเหมือนโลกเริ่มหมุน และภาพเบื้องหน้าพร่าเลือนไป“คุณอมลวัทน์...ทำไมผม...” วินซ์พูดแผ่ว ราวกับพยายามรวบรวม
ขณะเดียวกัน วินซ์พาเนยนั่งรถลีมูซีนกลับมายังโรงแรมท่ามกลางแสงไฟยามค่ำคืนของมอสโก บรรยากาศภายนอกเต็มไปด้วยความเงียบสงบ แต่ภายในรถกลับอึมครึมไปด้วยความเงียบระหว่างพวกเขา จนกระทั่งรถจอดสนิทที่หน้าโรงแรม วินซ์เปิดประตูรถให้เธอ“ขอบคุณค่ะ” เนยยิ้มขณะก้าวลงจากรถ“ผมจะเดินไปส่งคุณที่ห้อง” วินซ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่แววตาคู่นั้นกลับเต็มไปด้วยความลึกซึ้งเนยเลิกคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่ได้ตอบอะไร เพียงพยักหน้าเบาๆ แล้วเดินนำเข้าไปในตัวโรงแรมเมื่อถึงหน้าห้องพักของเธอ วินซ์กลับเอ่ยขึ้นอีกครั้ง พร้อมรอยยิ้มที่ดูเหมือนตั้งใจมากกว่าครั้งก่อน“ถ้าจะให้ดี ผมขอเข้าไปดื่มกาแฟสักแก้วได้มั้ย? พอดีมีงานที่ต้องคุยกับคุณนิดหน่อย...ตอนที่คุณหายไป”เนยหลุดหัวเราะเบาๆ กับข้ออ้างที่ฟังดูน่าเอ็นดู รอยยิ้มของเธอเจือความรู้ทันอย่างชัดเจน เธอมองหน้าเขานิ่งๆ อยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยตอบ“แค่กาแฟแก้วเดียวนะคะ”วินซ์ยิ้มมุมปากราวกับได้สิ่งที่ต้องการ เขาก้าวตามเธอเข้าไปในห้องพัก ห้องที่ตกแต่งอย่างหรูหราด้วยโทนสีทองและน้ำตาลอ่อน พร้อมวิวเมืองมอสโกยามค่ำคืนที่มองเห็นได้จากกระจกบานใหญ่เนยเดินตรงไปที่มุมครัวเล็กๆ ในห้อง หยิบเ