“เฮ้ย มีผู้หญิงด้วยว่ะ” เสียงชายฉกรรจ์คนหนึ่งดังขึ้น เมื่อเขาเห็นเนยและแพรอยู่กับเด็กชายคนนั้น“โอ้โห สวยซะด้วย” ชายอีกคนที่ตามมาภายหลังแลบลิ้นเลียริมฝีปากด้วยท่าทางหยาบโลนแพรรีบดึงเด็กชายคนนั้นมาอยู่ด้านหลังของตนเองทันที ในขณะที่เนยยืนบังทั้งสองคนไว้“สาวสวย ใจกล้าไม่เบานะเนี่ย” ชายคนที่สามปรากฎตัวขึ้น ก่อนจะเดินแทรกระหว่างกลางชายสองคนนั้น“ลูกพี่ เอาไงดี?” ชายคนแรกถาม“เด็กเป็นสินค้า ก็ต้องเอาไปสิวะ ถามได้ ส่วนสาวสวยคนนี้...” คนที่ถูกเรียกว่า ‘ลูกพี่’ หรี่ตาเล็กน้อย ก่อนจะชี้ไปที่เนย พลางพูดว่า“กูเอา!”เนยยืนกอดอกมองชายตรงหน้าด้วยสายตาเรียบนิ่ง ขณะที่แพรที่อยู่ด้านหลังค่อยๆ ดันเด็กชายไปชิดกำแพงเพื่อป้องกันอันตราย“คิดว่าฉันกลัวรึไง?” เนยยิ้มเยาะมุมปาก พลางยักคิ้วมองหน้าด้วยสายตาท้าทาย“หึหึ ใจกล้าดีนี่” ชายที่ถูกเรียกว่าลูกพี่แสยะยิ้ม ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้เนยด้วยท่าทางคุกคาม“ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าบนเตียงเธอจะใจกล้าแบบนี้มั้ย?” ลูกพี่แสยะยิ้ม ก่อนจะพุ่งเข้าใส่เนยด้วยท่าทีดุดันเนยหลบได้อย่างฉิวเฉียด เธอหมุนตัวอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะสวนหมัดหนักเข้าไปที่ลำตัวของเขาเต็มแรง ทำให้ชายค
หลังจากที่ทุกคนวิ่งหนีออกจากซอกตึกและหายใจหอบด้วยความเหนื่อย เนยและเบียร์ช่วยกันประคองเด็กชายที่ยังคงตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว พวกเขาตรงไปยังป้อมตำรวจซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณนั้นภายในป้อมตำรวจ เจ้าหน้าที่รีบเข้ามาให้ความช่วยเหลือเมื่อเห็นสภาพของเด็กชายและรับฟังคำอธิบายจากเนยและเบียร์“เด็กคนนี้ถูกกลุ่มคนร้ายลักพาตัวค่ะ พวกเราช่วยเขาไว้ทัน” เนยบอกเจ้าหน้าที่ ขณะที่แพรช่วยปลอบเด็กชายไม่ให้ตกใจกลัวไปมากกว่านี้“ขอบคุณพวกคุณมากนะครับ” เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวอย่างจริงใจ พร้อมทั้งสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากเบียร์และเนระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่ติดต่อครอบครัวเด็กชาย เด็กเริ่มมีท่าทีสงบลงหลังจากแพรและเนช่วยพูดปลอบใจเขา เบียร์ยืนกอดอกมองเด็กชายอย่างสงสาร แต่ก็ไม่วายเหลือบตามองเนยเป็นระยะ เพื่อให้มั่นใจว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่นานนัก หญิงวัยกลางคนในชุดลำลองก็รีบวิ่งเข้ามาในป้อมตำรวจ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวล เมื่อเห็นลูกชายของตัวเองปลอดภัยก็น้ำตาคลอ“แม่!” เด็กชายร้องเรียกด้วยเสียงสะอื้น ก่อนจะวิ่งเข้าไปกอดเธอแน่นภาพนั้นทำให้ทุกคนยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ“ขอบคุณพวกคุณมากนะ
เมื่อถึงช่วงเวลานับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ ฮิโร่พาวาเลนไทน์มายังจุดชมวิวริมแม่น้ำปิง ท่ามกลางบรรยากาศคึกคักของฝูงชนที่มารวมตัวกันรอชมพลุ ทั้งสองยืนเคียงข้างกันโดยไม่มีคำพูดใดๆเสียงพลุดังสนั่นหวั่นไหว แสงสีหลากหลายระเบิดกระจายบนฟากฟ้า เหล่าฝูงชนต่างส่งเสียงเชียร์และปรบมืออย่างตื่นเต้น บรรยากาศริมแม่น้ำปิงในค่ำคืนส่งท้ายปีเก่าคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่ต่างมาร่วมเฉลิมฉลอง เสียงเพลงบรรเลงเบาๆ คลอเคลียกับสายลมหนาวที่พัดผ่านมาเสียงพลุระลอกใหม่ดังขึ้น แสงไฟระยับระยับพาดผ่านใบหน้าของฮิโร่ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเขาดูเคร่งขรึมและเต็มไปด้วยความคิด วาเลนไทน์อดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปเกาะแขนเขาเบาๆฮิโร่เหลือบตามองเธอเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน เขาเพียงปล่อยให้เธอเกาะแขนไว้โดยไม่ขัดขืน“สวยจัง…” วาเลนไทน์พึมพำเบาๆ ดวงตาทอประกายจากแสงพลุที่ระเบิดเต็มท้องฟ้า“ปีหน้าคงเป็นปีที่ยุ่งเหยิงอีกปี” ฮิโร่พูดเสียงเรียบ ขณะมองพลุอย่างนิ่งสงบ“แต่ฉันว่ามันก็อาจจะไม่แย่...ถ้าฉันมีนายอยู่ด้วย” วาเลนไทน์เอ่ย พร้อมส่งยิ้มบางๆ ให้เขาฮิโร่ไม่ได้ตอบ แต่สายตาที่เขามองเธอฉายแววบางอย่างที่แม้แต่ตัวเขาเองก็อาจไม่ทันสังเกต พ
ในค่ำคืนก่อนวันปีใหม่ เนย เบียร์ เน และแพร เดินทางไปยังงานเฉลิมฉลองที่ลานกลางแจ้งของสแควร์เซ็นทรัลพาร์ค จุดจัดงานปีใหม่ที่เต็มไปด้วยแสงสีและบรรยากาศคึกคักของผู้คนหลากหลาย กลิ่นอาหารหอมฟุ้งลอยมากับสายลมหนาว เสียงเพลงที่บรรเลงจากวงดนตรีสดสร้างความสนุกสนานตลอดงานทั้งสี่คนเดินชมงานกันอย่างเพลิดเพลิน ซุ้มร้านค้าพื้นเมืองและอาหารหลากหลายเรียงรายท่ามกลางแสงไฟประดับสวยงาม แต่ละคนต่างเลือกซื้อของกินที่ชื่นชอบเบียร์หยุดที่ซุ้มขายของหวานที่มีขนมครกสีรุ้ง ซึ่งทำจากแป้งธรรมชาติและสีที่ได้จากผลไม้และดอกไม้ ขนมครกแต่ละถ้วยถูกจัดแต่งน่ารัก เนยยิ้มกว้างเมื่อเห็น เบียร์หยิบกล่องขนมครกมาให้เธอโดยไม่พูดอะไร“นายรู้ว่าฉันอยากลองใช่มั้ย?” เนยถามพลางหัวเราะ“แค่เธอยิ้มก็คุ้มแล้ว” เบียร์ตอบพร้อมยักไหล่ ก่อนที่เนยจะหัวเราะคิกคักแล้วหยิบขนมครกขึ้นชิมทั้งคู่เดินไปอีกหน่อยก่อนหยุดที่ซุ้มขายน้ำ“เอาโกโก้ร้อนสองแก้วครับ” เบียร์สั่ง แล้วส่งแก้วหนึ่งให้เนย“หนาวแบบนี้ต้องมีโกโก้จริงๆ” เนยพูดพลางยกแก้วขึ้นจิบ แก้มแดงระเรื่อจากอากาศเย็นและบรรยากาศที่อบอุ่นระหว่างทั้งสองเนกับแพรหยุดที่ซุ้มขายอาหารพื้นเมืองอย่างหมูป
ภายในล็อบบี้ของโรงแรมแกรนด์ออเรียนทอล พาเลซ วินเซนต์ยืนรออยู่ด้วยท่าทางสุขุม ร่างสูงในชุดสูททักซิโด้สีดำเข้ารูปที่ตัดเย็บอย่างประณีต เสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตา และเนคไทผ้าไหมสีดำเรียบหรูช่วยเสริมลุคอันภูมิฐาน เขายืนอยู่ใต้แชนเดอเลียร์ที่ส่องแสงระยิบระยับ ราวกับเป็นจุดดึงดูดสายตาของแขกที่เดินผ่านไปมาเสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นหินอ่อนเบาๆ ดึงสายตาของเขาไปที่ประตูทางเข้า และวินเซนต์ก็แทบหยุดหายใจเมื่อเห็นเนยเดินเข้ามาเธอสวมชุดราตรีสีแดงสดแหวกสูงด้านข้าง เผยเรียวขาสวยอย่างเย้ายวน เรือนร่างที่พอดีกับชุดทำให้ทุกสัดส่วนของเธอดูโดดเด่น ด้านบนของชุดเป็นแบบเปิดไหล่เน้นช่วงคอระหงและไหล่เนียนขาว ผ้าซาตินที่พริ้วไหวเมื่อเธอเคลื่อนไหวส่งให้เธอดูหรูหราและเย้ายวนในเวลาเดียวกัน ผมยาวสลวยของเธอถูกจัดทรงให้รวบต่ำอย่างเรียบง่ายแต่ดูสง่างาม เผยใบหน้าสวยที่แต่งแต้มอย่างประณีต ต่างหูเพชรระยิบระยับขยับไปมาตามจังหวะก้าวเดินสายตาของวินเซนต์จับจ้องเธอราวกับหลุดเข้าไปในภวังค์ เขาสูดลมหายใจลึกก่อนปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติ“มาถึงนานแล้วเหรอคะ?” เนยเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มหวานเมื่อมาถึงตัวเขา“ไม่นานครับ แต่ตอนนี้ผมเร
ภายในห้องประชุมใหญ่ของบริษัท อากาศเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและเสียงซุบซิบเบาๆ ของพนักงานที่ทยอยเข้ามานั่งเรียงแถวตามโต๊ะประชุมหรู วินซ์ในชุดสูทสีกรมท่าคัตติ้งเนี้ยบก้าวเข้ามาด้วยท่าทีสุขุม เขาหยุดยืนที่หัวโต๊ะ ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลกวาดมองพนักงานที่เงียบเสียงลงทันทีเมื่อเขาปรากฏตัว“ขอบคุณทุกคนที่สละเวลามาประชุมด่วนในวันนี้” วินซ์เริ่มต้นด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจที่สะท้อนชัดในห้องประชุมกว้างใหญ่“เพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ที่ดี ปีนี้ผมเลยจัดให้มีการเดินทางไปเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ของเราที่มอสโก”เสียงฮือฮาเบาๆ ดังขึ้นในหมู่พนักงาน หลายคนเริ่มตั้งตารอฟังรายชื่ออย่างใจจดใจจ่อ วินซ์ส่งยิ้มเล็กน้อยก่อนจะหยิบแฟ้มรายชื่อขึ้นมาเปิด พลางกล่าวต่อ“ตามที่เราคัดเลือกพนักงานในแต่ละแผนก ทั้งการตลาด ฝ่ายขาย และฝ่ายประสานงาน เพื่อเป็นตัวแทนบริษัทเดินทางไปมอสโกในครั้งนี้ รายชื่อทั้งหมดมี 15 คน...”เขาเริ่มประกาศรายชื่อทีละคน เสียงปรบมือแสดงความยินดีดังเป็นระยะเมื่อมีชื่อพนักงานในห้องประชุมติดอยู่ในรายชื่อ และเมื่อถึงชื่อของอมลวัทน์ วินซ์เหลือบตามองไปยังเนยแวบหนึ่ง ก่อนจะประกาศรายชื่ออื่นถัดไป“ขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่
อีกสองสัปดาห์ก่อนวันที่เนยต้องเดินทางไปมอสโกตามกำหนด ทีมของเคน เนย เบียร์ ฮิโร่ และเอมิ ต่างเข้าสู่การฝึกซ้อมร่วมกับทีมของเอฟบีไออย่างเข้มข้นการฝึกซ้อมครั้งนี้ต่างจากการฝึกปกติ เนื่องจากเป็นการฝึกเฉพาะเจาะจง เพื่อให้ทุกคนเข้าใจบทบาทและแผนการบุกถล่มฐานของแบล็ควอล์คอย่างชัดเจนที่สุด ทุกขั้นตอนถูกจำลองสถานการณ์อย่างละเอียดเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นฮิโร่ เอมิ และเบียร์ ต่างได้รับคำสั่งเฉพาะสำหรับบทบาทของตนเอง เบียร์ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเจาะระบบและควบคุมการรักษาความปลอดภัยในแบบเรียลไทม์ ขณะที่ฮิโร่และเอมิ ถูกฝึกฝนเพื่อการโจมตีและตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นความร่วมมือระหว่างทีมของเคนและเอฟบีไอทำให้การฝึกครั้งนี้เต็มไปด้วยความกดดัน แต่ทุกคนต่างรู้ดีว่าความสำเร็จของแผนการนี้ ขึ้นอยู่กับความพร้อมและความแม่นยำของพวกเขาโดยสมบูรณ์ไม่นานนัก ก็ถึงวันที่ต้องเดินทางไปมอสโก เนยยืนสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองหน้ากระจก เธอสวมเสื้อเบลเซอร์สีดำเข้ารูปพอดีตัว เพิ่มความสง่างามด้วยกางเกงขายาวสีเดียวกันที่ตัดเย็บอย่างดี ใต้เบลเซอร์เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ให้ลุคมืออาชีพ ริมฝีปากเคลื
หลังจากคำกล่าวต้อนรับ ไมเคิลมอบหมายให้ผู้จัดการแต่ละแผนกพาทุกคนแยกย้ายไปเยี่ยมชมส่วนต่างๆ ของบริษัทฝ่ายเทคโนโลยี: พนักงานได้รับการนำเสนอเกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ๆ ของระบบบัตรเครดิตและแพลตฟอร์มการเงินดิจิทัล โดยมีการสาธิตเกี่ยวกับเทคโนโลยีป้องกันการฉ้อโกงที่ล้ำสมัยฝ่ายการตลาด: ทีมงานแผนกนี้นำเสนอแผนการขยายตลาดไปยังทวีปเอเชีย รวมถึงการแชร์กรณีศึกษาการทำแคมเปญที่ประสบความสำเร็จในยุโรปฝ่ายการเงิน: มีการบรรยายเกี่ยวกับระบบจัดการบัญชีของบริษัทที่ช่วยให้การบริหารเงินทุนในหลายประเทศทำได้อย่างไร้รอยต่อเนยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มที่เยี่ยมชมฝ่ายการตลาด ซึ่งเธอสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้บริหารระดับกลางหลายคนได้ด้วยคำถามที่เฉียบคมและการวิเคราะห์ที่เป็นเหตุเป็นผลขณะที่กำลังเดินชมส่วนต่างๆ เธอสัมผัสได้ถึงสายตาของไมเคิลที่ยังคงเฝ้ามองอยู่ไกลๆ ทำให้เธอต้องเพิ่มความระมัดระวังในทุกการกระทำ พร้อมกับใช้โอกาสนี้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับอาคารสำนักงานใหญ่เผื่อสำหรับแผนปฏิบัติการที่กำลังจะมาถึงหลังจากกิจกรรมดูงานในช่วงเช้าสิ้นสุดลง เนยเดินไปยังมุมรับประทานของว่างในห้องจัดเลี้ยง เธอเลือกขนมปังครัวซองต์ชิ้นเล็กกับ
แสงแดดอ่อนๆ ยามเย็นสาดส่องผ่านม่านโปร่งเข้าสู่ห้องนอนอันเงียบสงบ เนยค่อยๆ ลืมตาขึ้น ความเมื่อยล้าจากค่ำคืนอันเร่าร้อนยังคงสะสมอยู่ในทุกอณูของร่างกาย เบียร์จัดเธอหนักจนถึงเช้า ทำให้เธอรู้สึกเหมือนพลังถูกสูบออกไปจนแทบหมดสิ้น เธอพยายามยันตัวลุกขึ้นนั่ง แต่ความปวดหน่วงในท้องน้อยทำให้ต้องนิ่วหน้าด้วยความทรมานเล็กน้อย“อือ...บ้าจริง” เนยพึมพำเบาๆ พลางลูบท้องเพื่อบรรเทาความปวด เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้อง แต่ไม่เห็นเบียร์อยู่ในห้องแล้ว มีเพียงความเงียบและกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเขาที่ยังหลงเหลือบนหมอนข้างๆ ทำให้เธอย่นคิ้วเล็กน้อย“ไปไหนนะ?” เธอเอ่ยพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะหยิบเสื้อคลุมมาปกปิดร่องรอยรักที่กระจายอยู่ตามผิวกาย เนยเดินโซเซไปยังห้องน้ำ หวังว่าจะพบเบียร์ที่นั่น แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่าขณะที่เธอขมวดคิ้วครุ่นคิดว่าชายคนรักหายไปไหน สายตาก็เหลือบไปเห็นกล่องสีดำใบเล็กวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง ริบบิ้นสีทองที่ผูกอย่างประณีตสะดุดตาเธอ“กล่องอะไรน่ะ?” เธอพูดกับตัวเองพลางเดินเข้าไปหยิบขึ้นมาดูภายในกล่องมีการ์ดใบหนึ่งวางอยู่ เมื่อเธอเปิดออกก็พบตัวอักษรที่ดูเหมือนรหัสมอร์สเรียงรายเต็มการ์ด เนยยืนมองการ์ด
เมื่อเวลาค่ำมาถึง พนักงานของเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน มัลดีฟส์ ก็มาจัดเตรียมดินเนอร์สุดหรูบนระเบียงกลางแจ้งของวิลล่า แสงเทียนในโคมแก้วที่จัดวางไว้รอบโต๊ะส่องแสงอ่อนโยน ท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติกที่มีเพียงแสงดาวและเสียงคลื่นทะเลเป็นฉากหลังบนโต๊ะดินเนอร์ถูกจัดวางอย่างประณีตด้วยผ้าปูโต๊ะสีขาวสะอาดตา พร้อมช่อดอกไม้เล็กๆ ในแจกันแก้วใส อาหารค่ำที่จัดเตรียมมาเป็นเมนูพิเศษจากเชฟของโรงแรมเริ่มจาก ซุปล็อบสเตอร์บิสค์ ที่เสิร์ฟมาในชามเซรามิกขอบทอง กลิ่นหอมของสมุนไพรและเครื่องเทศลอยมากระทบจมูก ตามด้วยจานหลักเป็น สเต็กปลากะพงย่างราดซอสเนยมะนาว เสิร์ฟคู่กับผักย่างและมันบดเนื้อเนียนละเอียดและไฮไลต์ของค่ำคืนนี้คือ ของหวานเค้กมูสมะพร้าว เสิร์ฟในเปลือกมะพร้าวขัดเงา ตกแต่งด้วยซอสมะม่วงราดอย่างละเมียดละไม ความหวานของมูสมะพร้าวเข้ากันดีกับรสเปรี้ยวสดชื่นของมะม่วง เป็นเมนูที่ทั้งตาและลิ้นต้องหลงรักเบียร์นั่งจิบไวน์ขาวที่เสิร์ฟเคียงกับอาหาร ขณะที่มองเนยที่กำลังตักซุปขึ้นมาชิม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรักและหลงใหล เนยที่สวมชุดเดรสผ้าชีฟองสีฟ้าอ่อนซึ่งพริ้วไหวตามลมทะเล ดูราวกับนางฟ้าท่ามกลางแสงเทียน“รสชาติเป็นไงบ
ฮิโร่และวาเลนไทน์ยืนเคียงข้างกันอย่างเงียบสงบที่จุดชมวิวริมแม่น้ำปิง แสงไฟจากริมฝั่งสะท้อนลงบนสายน้ำที่ไหลเอื่อย สายตาของทั้งคู่เหม่อมองออกไปไกลราวกับกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องราวมากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต“ไม่มีแบล็ควอล์คอีกแล้ว...” ฮิโร่พูดขึ้น ทำลายความเงียบที่รายล้อมแววตาของวาเลนไทน์สะท้อนไหววูบเล็กน้อย แต่ไม่นานนักเธอก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“พังไปแบบนั้นก็ดีแล้ว”ฮิโร่หันมามองเธอด้วยความแปลกใจเล็กน้อยในคำพูดนั้น“หืม?”วาเลนไทน์ยังคงเหม่อมองสายน้ำไหล คล้ายกำลังดิ่งลึกลงไปในห้วงอดีตของตัวเอง ก่อนจะเอ่ยออกมาช้าๆ“ชีวิตฉัน...ถูกไมค์ช่วยเอาไว้ก็จริง แต่เขาก็เป็นคนที่ทำลายมันลงเหมือนกัน...” เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ดวงตาคู่งามสะท้อนแสงไฟริมน้ำ“เพราะงั้น...การที่มันพังไปแบบนั้น...ถือว่าดีแล้ว”วาเลนไทน์หันกลับมาสบตากับฮิโร่ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความซับซ้อน ทั้งความเศร้าและความโล่งใจที่ผสมปนเปกันฮิโร่จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของวาเลนไทน์ คิ้วหนาขมวดเล็กน้อยเหมือนกำลังไตร่ตรอง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“แล้วเธอคิดจะทำอะไรต่อไปล่ะ”วาเลนไทน์นิ่งไปครู่หนึ่ง ราวกับคำถามนั้นกระทบใจเธออ
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่เนยเดินทางกลับจากมอสโก ข่าวใหญ่ก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งโทรทัศน์และเว็บไซต์ข่าวออนไลน์ทุกสำนัก รายงานเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ยูนิโอนิค คาร์ด กรุ๊ป ขณะเดินทางเยี่ยมชมสาขาในรัสเซียข่าวระบุว่าเกิดอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกท่ามกลางภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมดสี่ราย ได้แก่ นักบินประจำลำ ไมเคิล เวสท์ ผู้บริหารสูงสุดของยูนิโอนิค กรุ๊ป วินเซนต์ เกรย์ รองประธานฝ่ายบริหาร และเซเลสเท ลาโนว่า ผู้ช่วยส่วนตัวของวินเซนต์ข่าวนี้สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลกธุรกิจ การสูญเสียบุคคลสำคัญระดับนี้ไม่เพียงกระทบต่อบริษัท ยูนิโอนิค คาร์ด กรุ๊ป เท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงความมั่นคงของอุตสาหกรรมการเงินระดับโลกอีกด้วย“หมอนั่น ทำให้ข่าวออกมาแบบนี้เหรอเนี่ย” เบียร์พูดขึ้น ขณะเลื่อนดูข่าวบนหน้าจอแท็บเล็ต ร่างสูงนั่งเอนตัวสบายๆ บนโซฟาภายในคอนโด โดยมีเนยนั่งอยู่บนตักของเขา“ก็ไม่แปลกนี่ อีตาสูทดำถนัดทำเรื่องแบบนี้อยู่แล้วนี่นา” เนยหัวเราะเบาๆ ขณะมองภาพข่าวที่แสดงอยู่บนหน้าจอ“แล้วแบบนี้บริษัทเธอจะทำยังไงต่อล่ะ?” เบียร์เลิกคิ้วถามพลางโอบเอวเธอไว
ทันใดนั้น ก็มีเสียงที่ดัดแปลงด้วยเอไอดังออกมาจากโทรศัพท์ของเนยที่เปิดสปีกเกอร์โฟน ราวกับเป็นเงาที่มองไม่เห็นของเกมนี้“แน่ใจเหรอ?” เสียงนั้นแทรกขึ้นมาท่ามกลางความเงียบไมเคิลขมวดคิ้วแน่น สายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธและสงสัยจับจ้องไปยังโทรศัพท์ในมือของเนย“นายคิดว่า แบล็ควอล์คไม่สามารถถูกทำลายได้จริงเหรอ?” เสียงนั้นยังคงดังออกมาราวกับเยาะเย้ย“แกเป็นใคร!!” ไมเคิลตะโกนลั่น เส้นเลือดบนขมับเต้นตุบ“ไม่สำคัญหรอก” เสียงนั้นหัวเราะเบาๆ ราวกับเพลิดเพลินกับความโกรธของไมเคิล“ฉันจะมอบของขวัญให้นายเอง ของขวัญแห่งความพินาศที่ชื่อว่า ‘แบล็คเฮเซล’ ”คำพูดนั้นเหมือนน้ำมันที่ราดลงบนเปลวไฟ ไมเคิลกำหมัดแน่นด้วยความโกรธจัด สายตาเขาเต็มไปด้วยคำถามและความเคียดแค้น“เขาว่างั้นล่ะ”เนยยกยิ้มบางพลางเดินเข้าไปหาไมเคิลที่ยังคงยืนตัวแข็งด้วยความโกรธ เธอเอื้อมมือดึงตัวเขาขึ้นจากพื้น ก่อนกดตัวเขานั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ใกล้กับจอมอนิเตอร์ไมเคิลมองจอมอนิเตอร์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ ภาพข้อมูลบริษัท การฟอกเงิน การขนส่งของผิดกฎหมาย และฐานย่อยที่เป็นความลับระดับสูงสุด กำลังถูกเปิดเผยต่อหน้าต่อตาเขา“นี่มัน...”
ภายในห้องนอนที่เต็มไปด้วยบรรยากาศเร่าร้อน เอมิกับไมเคิลยังคงจมอยู่ในความสุขที่เขาและเธอสร้างขึ้นร่วมกัน ไฟในดวงตาของไมเคิลเต็มไปด้วยความหลงใหล ในขณะที่เอมิกลับมีประกายร้ายกาจแฝงอยู่ในแววตาทันใดนั้น เอมิก็ชะงักเล็กน้อย สัญชาตญาณของเธอเตือนว่าเหตุการณ์กำลังเปลี่ยนไป ความเคลื่อนไหวจากภายนอกกำลังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นที่มุมปากของเธอ“อะไรหรือ?” ไมเคิลถามพลางมองเธอด้วยสายตาสงสัย เมื่อเห็นเธอนิ่งไปชั่วครู่เอมิหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอียงหน้ามองเขา รอยยิ้มร้ายกาจของเธอฉายชัด“ดูท่า ความสนุกของเราจะหมดลงแค่นี้แล้วล่ะ” เธอเอ่ยเสียงเย้ายวน แต่เต็มไปด้วยความหมายลึกลับไมเคิลเลิกคิ้ว ดวงตาสีฟ้าของเขาหรี่ลงอย่างจับสังเกต ขณะเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติจากด้านนอก เสียงฝีเท้าและแรงระเบิดเล็กน้อยที่ดังมาจากระยะไกลส่งสัญญาณบางอย่างที่เขาไม่อาจมองข้ามไมเคิลลุกพรวดขึ้นจากเตียงทันที เขาเร่งสวมกางเกงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะก้าวตรงไปยังโต๊ะทำงานข้างห้องพร้อมกดปุ่มลับที่ซ่อนอยู่ ไม่นานนัก มอนิเตอร์หลายสิบจอก็ปรากฏภาพตรงหน้า เขามองภาพสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรอบฐานด้วยสีหน้าเคร่งเครียดภาพการพ่ายแพ้ของล
ภายใต้ความมืดของยามค่ำคืน ฮิโร่และเนยเคลื่อนตัวอย่างเงียบงัน ฝ่าหมอกควันที่ลอยตลบจากระเบิดควันที่ฮิโร่ปาออกไปตามทางเป็นระยะ เพื่อบดบังการเคลื่อนไหว ทั้งคู่ใช้ทางเดินด้านหน้าของอาคารหลัก บุกเข้าไปโดยไร้เสียงฮิโร่เคลื่อนตัวอย่างคล่องแคล่ว ดาบคาตานะในมือของเขาวาววับเมื่อสะท้อนแสงไฟสลัว เขาพุ่งตัวเข้าใกล้ศัตรูคนแรกที่ยืนเฝ้าทางเข้า ดาบในมือฟาดออกด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ เสียงเฉือนเบา ๆ ดังขึ้นก่อนที่ร่างของสมุนจะล้มลงโดยไร้เสียงโวยวาย ฮิโร่ใช้เท้าขยับร่างศัตรูเข้าข้างกำแพง ซ่อนร่างไว้ก่อนส่งสัญญาณให้เนยเดินตามเนยตามติดเขาไปอย่างว่องไว ดวงตาคมกริบของเธอจ้องจับทิศทางศัตรูคนถัดไปที่ยืนอยู่บริเวณมุมตึก เธอพุ่งตัวไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว มีดสั้นในมือปักเข้าที่ต้นคอของศัตรูจากด้านหลัง ร่างของเขาทรุดลงอย่างเงียบงัน ก่อนที่เธอจะวางร่างลงกับพื้นอย่างเบามือทั้งคู่เคลื่อนไหวราวกับเงา ไร้เสียง ไร้การสะดุดเมื่อเจอกับกลุ่มศัตรูที่อยู่เป็นทีมเล็ก ๆ ฮิโร่ใช้สัญญาณมือสั่งให้เนยหยุดรอ ก่อนที่เขาจะพุ่งตัวออกไปในพริบตา ดาบของเขาสะบัดฟาดในจังหวะเดียวล้มศัตรูสองคนที่ยืนหันหลังให้ ส่วนคนที่สามที่หันมาเห็นเหตุ
“ใจเย็นสิคะ...” เนยพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ดวงตาพราวระยับ พร้อมยกมือบางขึ้นแตะที่ริมฝีปากของวินซ์ที่กำลังจะโน้มลงมา“หืม...นี่ผมใจเย็นสุดละ” วินซ์ตอบเสียงแหบพร่า แววตาเปี่ยมไปด้วยแรงปรารถนาเขาใช้มือจับข้อมือของเธอเบาๆ ก่อนจะดึงมือเรียวเล็กออกจากริมฝีปากของเขา และกดริมฝีปากร้อนลงบนริมฝีปากบางของเธอทันทีจูบของเขาไม่รีบร้อน แต่เต็มไปด้วยแรงดึงดูดที่เธอไม่อาจหลีกหนีได้ วินซ์สอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปากของเธอ ตักตวงรสหวานที่เขาต้องการมาตลอดเนยขืนตัวเล็กน้อย แต่ไม่นานนักก็ปล่อยตัวไปตามอารมณ์ มือบางที่เคยพยายามผลักไส เปลี่ยนมาจับที่บ่าของเขาเบาๆ ขณะที่ลมหายใจของทั้งคู่เริ่มประสานกันวินซ์จรดริมฝีปากร้อนลงบนซอกคอขาวเนียนของเนย ไล้เบาๆ ด้วยความนุ่มนวลก่อนจะเลื่อนต่ำลงมาช้าๆ จนถึงเนินอก เผยให้เห็นความปรารถนาที่เขาเก็บซ่อนไว้ในแววตา ขณะที่มือของเขาลูบไล้ไปตามร่างกายของเธออย่างเชื่องช้า“คุณสวยมาก...” วินซ์พึมพำเสียงเบา ดวงตาสีฟ้าเข้มทอดมองใบหน้าของเนย แต่แล้วเขาก็กระพริบตาถี่ๆ เมื่อรู้สึกเหมือนโลกเริ่มหมุน และภาพเบื้องหน้าพร่าเลือนไป“คุณอมลวัทน์...ทำไมผม...” วินซ์พูดแผ่ว ราวกับพยายามรวบรวม
ขณะเดียวกัน วินซ์พาเนยนั่งรถลีมูซีนกลับมายังโรงแรมท่ามกลางแสงไฟยามค่ำคืนของมอสโก บรรยากาศภายนอกเต็มไปด้วยความเงียบสงบ แต่ภายในรถกลับอึมครึมไปด้วยความเงียบระหว่างพวกเขา จนกระทั่งรถจอดสนิทที่หน้าโรงแรม วินซ์เปิดประตูรถให้เธอ“ขอบคุณค่ะ” เนยยิ้มขณะก้าวลงจากรถ“ผมจะเดินไปส่งคุณที่ห้อง” วินซ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่แววตาคู่นั้นกลับเต็มไปด้วยความลึกซึ้งเนยเลิกคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่ได้ตอบอะไร เพียงพยักหน้าเบาๆ แล้วเดินนำเข้าไปในตัวโรงแรมเมื่อถึงหน้าห้องพักของเธอ วินซ์กลับเอ่ยขึ้นอีกครั้ง พร้อมรอยยิ้มที่ดูเหมือนตั้งใจมากกว่าครั้งก่อน“ถ้าจะให้ดี ผมขอเข้าไปดื่มกาแฟสักแก้วได้มั้ย? พอดีมีงานที่ต้องคุยกับคุณนิดหน่อย...ตอนที่คุณหายไป”เนยหลุดหัวเราะเบาๆ กับข้ออ้างที่ฟังดูน่าเอ็นดู รอยยิ้มของเธอเจือความรู้ทันอย่างชัดเจน เธอมองหน้าเขานิ่งๆ อยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยตอบ“แค่กาแฟแก้วเดียวนะคะ”วินซ์ยิ้มมุมปากราวกับได้สิ่งที่ต้องการ เขาก้าวตามเธอเข้าไปในห้องพัก ห้องที่ตกแต่งอย่างหรูหราด้วยโทนสีทองและน้ำตาลอ่อน พร้อมวิวเมืองมอสโกยามค่ำคืนที่มองเห็นได้จากกระจกบานใหญ่เนยเดินตรงไปที่มุมครัวเล็กๆ ในห้อง หยิบเ