(เก็บ)รักซ่อน(เร้น)(เงินล้าน&ผักกาด)ตอนที่ 6ตุบ!“ผักเจ็บนะ” เมื่อเดินเข้ามาในบ้าน ลากฉันขึ้นมาบนห้องนอน แล้วเหวี่ยงฉันจนกระเด็นกระแทกกับขอบโต๊ะทันที“มึงจะทำอะไรหัดไว้หน้าพ่อแม่กูบ้าง จะหยามเกินไปแล้ว แรดนักร่านนักก็ไปเอากันที่อื่น แต่ไม่ใช่หน้าบ้านกู” เขาชี้หน้าด่าอย่างใจร้าย ทำไมต้องว่าฉันแรงขนาดนั้นด้วย มีหัวใจและความรู้สึกเหมือนกัน ฉันก็คนเหมือนกับเขา“ผักไม่ได้ทำแบบนั้น” ฉันร้องไห้ออกมาเพราะว่าคำพูดด่าทอ มันทำให้ฉันเสียใจ แค่ถูกเขากระทำเหยียบใจ ฉันก็เจ็บปวดรวดร้าวมากพออยู่แล้ว“มึงมันร่าน! กูเอาไปไม่นาน เสนอหน้าด้าน ๆ แรดอยากได้กับลูกน้องกูอีก...มึงอยากเอานักใช่ไหม!?”“อ๊ะ! ผักเจ็บ ไม่ใช่แบบนั้น พี่กำลังเข้าใจผิด”เขาเดินเข้ามากระชากผมของฉัน จนเงยหน้ามอง สองมือของฉันจับรั้งมือของเขาไว้ เพราะผมของฉันเหมือนมันจะหลุดออกจากหัวแววตาที่เขาจ้องมองมันดูน่ากลัว เขาโมโหร้ายใส่ฉัน ไม่คิดจะฟังในคำอธิบายของใคร ตอนนี้ฉันเจ็บทั้งกายและใจไปทุกพื้นที่ น้ำตาที่มีก็รินไหลออกมาอาบสองแก้ม ได้แต่จ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขาอย่างอ้อนวอน แต่ก็ไร้ความอาทรแต่อย่างใด“กูไม่ได้ตาบอดขนาดนั้น อยากได้กูจะสน
(เก็บ)รักซ่อน(เร้น)(เงินล้าน&ผักกาด)ตอนที่ 7“แกหลอกด่าฉันเหรอ!!”เธอเดินปรี่เข้ามาประชิด แล้วตอบโต้ฉันด้วยท่าทางที่ดูไม่พอใจ“ด่าตรงไหนเหรอคะ ผักยังไม่ได้ด่าสักคำเลยนะ มีค่ะมีคะทุกประโยคเลยนะคะ” ฉันด่าเหรอ ไม่นะฉันว่า ฉันพูดเพราะตลอดเลย“แก!!” เธอถลึงตาโตใส่ พร้อมกับง้างมือจะตบฉัน แต่พี่เงินล้านจับข้อมือของเธอไว้“แตะน้องกูแม้แต่นิดเดียว กูทำให้มึงดับได้ภายในสิบวินาที” พี่เงินล้านจ้องมองมาที่ฉัน ด้วยสายตานิ่งเฉย ปากของเขาพูดบอกเธอคนนั้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เสียงดังตกใจหมดเลยค่ะ” ฉันตีหน้าซื่อพูดออกไป มองพี่เงินล้านด้วยหางตา ก่อนจะเดินหนีออกมาด้วยความเจ็บที่ใจอีกเช่นเดิม แม้จะแอบรู้สึกดีที่เขาเหมือนปกป้องจากผู้หญิงของเขา แต่ก็ไม่ได้ทำเอาหัวใจของฉันชุ่มฉ่ำมากมายฉันเดินเข้ามาในตัวอาคาร เมื่อพ้นสายตาของทุกคน ความเข้มแข็งที่มีก่อนหน้ามันหดหาย ฉันเดินขึ้นบันไดด้วยขาที่อ่อนแรง ไม่รู้ฉันไปเอาความกล้าเหล่านั้นมาจากไหน ทั้งที่ไม่เคยจะใช้กับใคร ฉันมันอ่อนแอ ฉันมันก็แค่ผู้หญิงซื่อบื้อในสายตาของใครหลายคน แต่ตอนนี้ความรู้สึกที่ฝังลึกในใจ มันกำลังทำให้ฉันต้องเข้มแข็งและกล้าพอ“พี่ไม่เป็นไรนะ” ฉัน
(เก็บ)รักซ่อน(เร้น)(เงินล้าน&ผักกาด)ตอนที่ 8“มึงจะไปไหน?” พี่เงินล้านเดินมาจับแขนฉัน แล้วเอ่ยถามฉัน“......” ตอบไม่ถูกได้แต่มองหน้าเขาเหมือนคนเป็นบ้า แล้วก็เดินขึ้นบันไดต่อไป ปากพูดไม่ออกบอกไม่ถูก รู้แต่ว่าฉันกำลังสับสนกับสิ่งได้ยิน ไม่คิดจะเชื่อกับสิ่งที่รับรู้ในไม่กี่นาทีที่ผ่านมา“กูถามจะเดินไปไหน?” พี่เงินล้านยังคงดึงฉันไว้ จนต้องหยุดเดิน“จะไปนอน” ใช่แล้วล่ะ ตอนนี้ฉันคงต้องนอนพักผ่อนให้มาก ๆ พักก่อน ฉันต้องนอนพักก่อนร่างกายของฉันต้องการพักผ่อนที่สุด ฉันต้องพักสมองก่อน เพราะมันค่อนข้างจะตั้งรับอะไรไม่ทันเอาซะเลย“ประสาทแดกหัวมึงแล้วหรือไง”“ใช่ผักกำลังประสาทแดก อะไรก็ไม่รู้เมื่อกี้ งงไปหมด ผักต้องนอนพักผ่อน”ฉันสะบัดมือออกจนหลุดจากมือพี่เงินล้าน แล้วเดินขึ้นบันไดต่อไป เดินไปยังห้องรับรองที่เคยอยู่ประจำ มันมีโซฟาชุดใหญ่ มันเป็นที่นอนประจำของฉัน“เดี๋ยวกูพาไป”“ผักอยากนอนคนเดียว ปกติก็นอนคนเดียว”“แต่เดี๋ยวนี้มึงต้องนอนกับกู”“ทำไมต้องดุ”เขาเดินมาจับมือของฉันขึ้นไปชั้นบน แต่ตอนนี้คนอย่างฉันมันตั้งหลักไม่ทัน อยากอยู่คนเดียวคิดทบทวนเรื่องราว แต่เขาก็ดันตวาดเสียงขู่ จนฉันต้องหยุดเ
(เก็บ)รักซ่อน(เร้น)(เงินล้าน&ผักกาด)ตอนที่ 9สิบสี่วันผ่านไป ฉันและพี่เงินล้านเราอยู่ด้วยกันเหมือนคู่รัก จากที่เคยด่าฉันบ่อยครั้ง ตอนนี้ไม่ค่อยเป็นเหมือนก่อนแล้ว เวลาถอยหลังนับจากนี้ รอเพียงพ่อกับแม่กลับมาจากธุระที่ต่างประเทศ เพื่อเคลียร์เรื่องราวพวกนี้ให้จบ จากที่พวกท่านจะต้องไปสองเดือน ถูกเลื่อนเข้ามาและคงกลับอีกไม่กี่วัน เพราะเรื่องมันบานปลาย วุ่นวายให้พวกท่านต้องแก้ไข“พี่เงินล้านทำไมไม่ไปใส่เสื้อผ้าละคะ?” ฉันถามคนที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำ แล้วมานั่งยิ้มมองหน้าฉันตรงเตียงนอน“มึงรู้ตัวปะ ว่ากูกำลังอ่อยมึง” เขากลอกสายตามองเหมือนระอาฉัน แล้วจากนั้นก็พูดขึ้น“อะไรหรอคะ?” ก็คนมันไม่รู้ จะต้องให้ฉันตอบว่าไงอะ“บางครั้งมึงก็ซื่อบื้อไม่รู้เหี้ยอะไรเลยเนาะ บางทีมึงก็ด่าได้เจ็บแสบ และบางทีมึงก็ชอบทำให้กูปวดหัว” เขาขยับตัวนอนตะแคง มือค้ำหัวแล้วมองหน้า ก่อนจะพูดออกมายาวมาก“พี่ด่าผักทำไมคะ” ไม่รู้ทำไมต้องด่าฉันด้วย ฉันอุตส่าห์อยู่ของฉันดี ๆ แล้วนะ“ทีงี้เสือกรู้ว่ากูด่า” แล้วเขาก็ว่าขึ้น ก่อนจะทิ้งหัวลงนอนหนุนหมอน เขามานอนห้องของฉัน ไล่ยังไงก็ไม่ไป ไล่ทีไรสุดท้ายฉันเสียตัวให้เขาทุกที เอาฉั
(เก็บ)รักซ่อน(เร้น)(เงินล้าน&ผักกาด)ตอนที่ 10เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้นั่นแหละค่ะ ตอนนี้พวกเขานั่งดื่มนั่งกิน พูดคุยกันจนตอนนี้มันลามมาถึงสองทุ่มกว่าแล้ว ส่วนฉันได้แต่นั่งฟังพวกเขาพูดคุยกันตามประสาหนุ่ม ๆ พี่ปังนั้นนอนหลับไปแล้ว ไม่ได้สนใจเสียงที่ดังของเหล่าผู้ชายเลย หลับไปได้ยังไง เพราะฉันยังนอนไม่หลับ ได้แต่นั่งกินขนมดูซีรีย์เกาหลี แต่ก็ไม่รู้พี่แกหลับจริงหรือเปล่า แต่ก็คงหลับแหละ“กินเสร็จก็ขึ้นไปอาบน้ำนอน มานั่งทำหน้าแอ๊บแบ๊วอยู่ได้” ฉันแอ๊บแบ๊วตรงไหน แค่นั่งดูซีรีย์“ดุอีกละ”“ยังอีก” ขู่ฉันอีกละ ขู่เก่งจริง ๆ อยากด่าว่าเป็นงูพิษ แต่เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะโดนเขาทำโทษถึงเช้าอีก อยู่กับเขาฉันเสียเปรียบตลอดเลย“ผักไปนอนก่อนนะคะ สวัสดีค่ะพี่ศิลาพี่ด็อจพี่มิน ราตรีสวัสดิ์นะริวจิน” ต้องยอมไงคะ เพราะสายตาดุขู่ซะขนาดนั้น“กูรู้สึกหมั่นไส้ผู้หญิงแอ๊บแบ๊วเนี้ยกูแปลกไหมวะ” ฉันเดินถือถุงขนมผ่านหน้าพวกเขา เป็นเสียงพี่เงินล้านพูดขึ้น ว่าฉันอีกละ“ไม่แปลกหรอกค่ะ บางทีผู้หญิงด้วยกันก็หมั่นไส้ เหมือนปังตอนนี้ไงคะ😒” อ้าวไหนเห็นหลับ แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้พูดเสริมพี่เงินล้านแบบนั้น ฉันหยุดเดินแล้วหันไปมอง ปา
(เก็บ)รักซ่อน(เร้น)(เงินล้าน&ผักกาด)ตอนที่ 11“พอเถอะคุณผมเริ่มเหนื่อยพูดกับลูกชายคุณละ”“ก็ได้ค่ะ พอก็พอ”อะไรกันอะฉันงงไปหมดแล้ว พ่อกับแม่เหมือนมีอะไรบางอย่างที่ทำฉันงง เออ งงจริงนั่นแหละไม่เหมือนทำงงหรอก“อะไรกันคะแม่” เริ่มพูดได้แล้วฉัน จากก่อนหน้าที่เป็นใบ้อยู่นาน“ดูสิลูกสาวแม่ตาแดงหมดเลย” แม่เดินเข้ามาหา แล้วเช็ดน้ำตาให้ฉัน“เล่นแรงไปนะครับคุณแขไข” พี่เงินล้านพูดขึ้น นี่มันคงเป็นการแกล้งพวกฉันสินะ แม่เล่นแรงมาก เอาซะฉันใจหล่นออกไปนอกบ้านเลย“ก็แม่คิดถึงลูกชายนี่นา”“เหอะ”พี่เงินล้านกลอกสายตามองเพดาน แล้วแสยะยิ้มด้วยท่าทางที่เหมือนกับไม่เชื่อคำพูดของแม่ จากนั้นเขาก็ปล่อยมือฉันแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาตรงข้ามกับพ่อ“จากลูกสาวกลายมาเป็นลูกสะใภ้แม่ซะงั้น ไปนั่งกันเถอะ แม่ขอโทษนะผักกาดเล่นแรงไปหน่อย” แม่พูดและยิ้มให้ฉัน แค่เป็นการแกล้งเท่านั้น ฉันโล่งอกเลย...เดินตาแม่ไปนั่งตามที่ท่านบอก นั่งข้าง ๆ พี่เงินล้านนั่นแหละ ตอนนี้เขาเอนหลังนอนหลับตาพิงกับพนักโซฟา กางแขนพาดยาวทั้งสองข้าง ฉันไม่กล้าที่จะพิงกลัวโดนแขนเขา“แม่กับพ่อไม่ด่าแล้วใช่ไหมคะ?” ฉันถามย้ำ คืออยากมั่นใจว่าฉันสามารถรักและแ
(เก็บ)รักซ่อน(เร้น)(เงินล้าน&ผักกาด)ตอนที่ 12“พักนี้รู้สึกเพลีย ๆ ๆ อะ เหมือนร่างกายจะพัง” ก็สมควรไหมล่ะ เล่นกลางคืนไม่หลับไม่นอน กว่าจะนอนก็เช้า พอฉันบอกว่าไม่เอา เขาก็งอแง แล้วเอาเรื่องคำสั่งของพ่อแม่มาอ้าง“พี่ต้องพักบ้างค่ะ นอนให้ตรงเวลา ออกกำลังกายด้วย และที่สำคัญเราต้องดื่มน้ำวันละแปดแก้วนะคะ” พูดเหมือนห่วงใย แต่ในใจฉันสมน้ำหน้าก่อนแล้วค่ะ“กูก็กินแปดแก้วทุกวัน” กินอะไรไม่เห็นจะกินน้ำขนาดนั้น กะหลอกฉันล่ะสิ“ผักว่าไม่ใช่หรอกค่ะ ไม่เห็นพี่จะกินวันละแปดแก้วตรงไหนเลย” ฉันแย้งสิก็มันไม่จริงสักนิด“แปดแก้วสิ กูนั่งกินตรงโต๊ะหลังบ้าน เบียร์ห้าแก้วเหล้าสามแก้ว ครบวันละแปดแก้วพอดีไม่มีขาด” เขาตอบได้น่าตบมาก ยังมีหน้ามายิ้มกวนประสาทฉันอีก“มุกสองสลึงก็กล้าเล่น 😒” มองบนเลยค่ะเมื่อได้ยินคำตอบ“ฮ่าฮ่าฮ่า” ยังจะมีหน้ามาขำอีก ฉันไม่ถีบให้ก็บุญแล้วนะ เอ๊ะ! แล้วทำไมฉันต้องหัวร้อนง่ายด้วยล่ะ ปกติไม่ใช่นิสัยของฉันสักหน่อย แต่ช่างเถอะค่ะ เพราะอาจจะรอบเดือนใกล้มาเลยทำให้หงุดหงิดง่ายวันนี้พี่เงินล้านหยุดไม่ไปสนามแข่ง ปล่อยให้ดอร์เฝ้ารอก่อน เพราะเขาบอกช่วงนี้ไม่ค่อยอยากจะทำอะไร เขาบอกว่าเขาเหนื่
สามรักสามหัวใจ'เขา' เหมือนกับมังกรเล่ห์ร้าย หัวใจไม่คิดปักหลักกับใคร แต่ไฉนเลยถึงได้ศิโรราบแก่ 'พวกเธอ' ทั้งสองคนอย่างไม่อาจถอนตัว จนสามหัวใจได้ครองรักกันเป็นหนึ่งเดียวสามรักสามหัวใจตอนที่ 1(ริวจิน)สถานบันเทิงใจกลางเมือง22.15 น.((เอ้าชน))เสียงที่ดังท่ามกลางเสียงเพลงก็ไม่อะไรหรอกครับ คือวันนี้เพื่อนของผมนัดมาฉลอง ที่มันชนะแข่งรถแล้วได้เงินรางวัลมาค่อนข้างเยอะพอสมควร สนามที่พวกเราไปแข่งประจำก็สนามของลุงเงินล้านนั่นแหละ ผมแนะนำเพื่อนไปเองเพราะไม่อยากไปที่อื่น กลัวป๊ากับพ่อเป็นห่วง และถ้าไปสนามของลุงเงินล้านผมก็จะเจอพี่ผักกาดคนสวยด้วย นั่นแหละครับการเอาชนะแข่งขัน พวกมันเลยนัดผมมาเลี้ยงอย่างที่เห็นนี่แหละ“วันนี้พวกมึงเต็มที่เลยนะ ไม่เมาไม่เลิก”เป็นเสียงของไอ้เจ้ามือผู้ใจดี เอวดี หน้าตาก็ดี คือดีหมดครับ ยกเว้นสันดานครับ มันชื่อว่าเรียล เป็นเพื่อนกลุ่มผมที่เราเรียนด้วยกันมาแต่มัธยมปลาย ไม่รู้อะไรทำให้ได้มาอยู่กลุ่มเดียวกัน ทั้งที่แรก ๆ ผมกับมันแทบจะกัดหัวกันกินก็ว่าได้ แต่มันมีเหตุการณ์ที่มันช่วยผมไว้จากกลุ่มอันธพาลอีกโรงเรียน มันช่วยผมไม่ให้ถูกฟัน ตั้งแต่วันนั้นผมกับเรียลเลยกลายมา
สามรักสามหัวใจตอนที่ 16(ริวจิน)“ทำไมเงินในบัญชีหายไป 20,000” อีเมียคนที่หนึ่งของผมถาม ชำเลืองมองหางตา “เอาไปทำบุญเลี้ยงเด็กที่บ้านเด็กกำพร้า” ผมก้มหน้าตอบแบบขอทีไปที กดจิ้มเกมเล่นแบบไม่สบตา“แล้วทำไมไม่บอกแต่ทีแรก” อีเมียคนที่สองก็แทรกต่อ ตอนนี้เหมือนผมกำลังอยู่ท่ามกลางขุมนรกยังไงไม่รู้ สายตาเมียทั้งคู่จ้องมาที่ผมเป็นตาเดียวเลยครับ“บอกก็กลัวอะดิ” ผมตอบแบบหน้าด้าน ๆ ทั้งที่ก็แอบหวั่น ๆ อยู่ข้างใน คือเกรงใจเมียนะครับไม่ได้กลัวเลยสักนิด“เอาเงินไปเลี้ยงเด็กหมดแล้วตัวเองจะกินอะไร” เมียคนที่สองถามอีกครั้ง คนนี้ไม่อ่อนหวานกับผมสักนิด “เดือนนี้จะกินอะไร แชตไม่ให้ยืมนะบอกก่อนเลย” เมียคนที่หนึ่งของผมพูดขึ้นอีกครั้ง คนนี้พูดเสียงหวานหน่อย เธอเป็นคนเรียบร้อยน่ารักครับ“ก็กินเด็กสิ ไม่เห็นจะยุ่งยากอะไรเลย”((ไอ้ริว!!))ให้คำตอบเมียทั้งสองจบ จากนั้นก็วิ่งสิครับ จะอยู่ทำไมให้โดนทุบ...เพราะเด็กที่ผมหมายถึงพวกเธอสองคนเข้าใจดีวันนี้ผมไม่ได้ไปไหน เพราะเป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ ก็เลยนั่งกระดกเบียร์เย็น ๆ ให้เพลิดเพลินใจอยู่ในห้อง“ทำไมต้องกินมันทุกเย็นด้วยริว ไอ้เบียร์เนี้ยมันมีดีอะไร มันเปลืองรู้
สามรักสามหัวใจตอนที่ 15"ป๊าอยากมีเมียน้อย" ผมพูดขึ้น ตอนนี้นั่งเล่นและคุยกันอยู่ห้องกระจกที่ป๊าทำไว้สำหรับดูหนัง ร้องเพลงคาราโอเกะหรือสังสรรค์"เดี๋ยวก็ได้โดนสองเมียมึงทุบหรอก" แล้วป๊าก็ทำสีหน้าเหมือนหนักอกหนักใจ แล้วผมพูดผิดตรงไหน แค่บอกอยากมีเมียน้อยเองนะ"ทุบทำไมริวแค่อยากมีเมียน้อย" แล้วผมก็ถามย้ำ"แค่คิดป๊าก็เห็นอนาคตมึงละริว" แล้วป๊าก็ตอบผมพร้อมกับจ้องหน้า"ริวผิดอะไร แค่บอกว่าอยากมีเมียน้อย" จากนั้นผมก็เริ่มถกเถียง ตอนนี้สีหน้าของป๊าคือแบบว่ากำลังด่าผมอยู่แน่ ๆ จะด่าทำไมผมว่าก็ไม่ได้พูดอะไรผิดสักหน่อย"ยัง ยังไม่รู้สึกอีก ริอาจจะมีเมียน้อย แค่เมียสองคนตอนนี้เลี้ยงให้รอดก่อนไหมไอ้ลูกชาย" ป๊าก็เริ่มจะบานปลายไปกันใหญ่ แถมยังตบหัวผมแทบทิ่มกับโต๊ะอีก"ตบริวทำไมป๊า ก็ถึงบอกไงว่าอยากมีเมียน้อยเนี้ย ทำไมป๊าไม่เข้าใจริวเลย...แค่นี้ก็ไม่รู้เรื่อง ไปหาแชตกับดอลลี่ดีกว่า" พอแล้วครับพูดยังไงก็ไม่เข้าใจผมเลย เดินขึ้นบ้านไปหาแชตกับดอลลี่สบายหูกว่าเยอะ ดีไม่ดีได้ออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรงให้ตัวเองอีกต่างหาก"ไอ้ริวมันด่ากูโง่ทางอ้อมปะวะด็อจ" เสียงของป๊าดังตามหลัง"ไม่รู้สินะ😁" อันนี้เสียงพ
สามรักสามหัวใจตอนที่ 14“ลูกแบบริวนี่แหละ โคตรสีสันของชีวิต...เราขึ้นห้องกันดีกว่า ปล่อยป๊าไว้นี่แหละ” แล้วผมก็จับมือเมียทั้งสองขึ้นห้องกัน ส่วนป๊านั้นก็อีกเดี๋ยวคงขึ้นห้องไปหาพ่อละมั้งสองเดือนผ่านไป"มานี่สิทั้งสามคน" ป๊าเรียกเมื่อเห็นพวกผมเดินมาจากสวนหลังบ้าน พาสาว ๆ ไปเดินเล่นจะได้คุ้นเคยเวลามาอยู่ที่นี่ มองไปเห็นสีหน้าของพ่อที่ดูกังวล แม้กระทั่งป๊าก็ไม่ต่างกัน ผมเดาออกว่าพวกท่านคิดเรื่องอะไรอยู่ ก็คงไม่พ้นเรื่องของผมกับเมียทั้งสอง ที่ได้มาครองคู่ใช้ชีวิตกันแบบบังเอิญสามคนผัวเมีย แม้ว่ามันจะผ่านมาร่วมสองเดือนแล้ว แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้คลี่คลาย ทางบ้านของแชตกับดอลลี่ยังไม่รู้เรื่องราวของลูก มีเพียงป๊ากับพ่อเท่านั้นที่รับรู้ และตอนนี้เหมือนพวกผม จะต้องถูกเคลียร์เรื่องราวแล้วล่ะ จากท่าทางของป๊าที่เป็นตอนนี้มันบ่งบอก"มีอะไรเหรอคะป๊า" เป็นดอลลี่ที่ถามขึ้น สรรพนามเปลี่ยนไป เมื่อป๊ากับพ่อบอกให้เรียกตามผม เพราะยังไงก็ตัดสินใจอยู่ด้วยกันแล้ว"จะอยู่กันแบบนี้จริงเหรอ?" พ่อถามแทนครับ"อยู่ไม่ได้เหรอ?" ผมย้อนถามคืน ก็อยู่กันมาตั้งหลายเดือนแล้ว พ่อก็นะไม่น่าถาม"ไอ้ได้มันก็ได้ แต่แบบนี้มันมีใคร
สามรักสามหัวใจตอนที่ 13“ต้องมีฉันด้วย!”“เฮ้อ”ผมถึงกับถอนหายใจเลยครับ เมื่อดอลลี่เธอตะเบ็งเสียงแข็งข่มใส่ ยังไงก็ต้องไปแพ็คคู่ให้ได้ใช่ไหม?“เออ รับผิดชอบทั้งสองคนนั่นแหละ” ผมตบปากรับคำเสร็จ ก็เดินเข้าห้องน้ำเลยครับ แล้วจะบอกกับพ่อยังไงล่ะทีนี้ ลูกชายสุดหล่อแบบผม มีเมียทั้งทีได้มาแพ็คคู่ซะงั้น โคตรล้ำเลยครับเมื่อพวกเราเคลียร์อะไรกันลงตัว จากที่เหมือนจะยากแต่ก็ดันง่ายดาย แรก ๆ ผมโคตรจะวุ่นวายมาก ไม่กล้าที่จะบอกป๊ากับพ่อเรื่องที่ผมก่อขึ้น จนตอนนี้ทุกอย่างมันดีขึ้น ผมกับแชตและดอลลี่เหมือนเราสามคนจะเข้ากันได้ดี แชตก็ไปทำงานกับผมอยู่แล้ว ส่วนดอลลี่แน่นอนว่าเธอเป็นลูกค้าของบริษัท ไม่ได้ยากเลยกับการที่จะทำงานหรือว่าติดต่อกันตอนนี้ผมกับพวกเธอเราตกลงคบกันเป็นที่เรียบร้อย อยู่ด้วยกันมาเกือบเดือนแล้ว และวันนี้ผมคิดว่าคงต้องบอกให้ป๊ากับพ่อได้รับรู้ ไม่อยากจะอยู่แบบหลบซ่อนแล้วล่ะ เพราะยังไงสักวันป๊ากับพ่อก็ต้องรู้อยู่ดี วันนี้ตอนเย็นเลยตั้งใจว่าจะพาไปแนะนำกับที่บ้าน ซึ่งผมก็ได้คุยกับพวกเธอไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้นัดกันออกไปทำสวยอยู่ บางทีผมก็แอบคิดว่าพวกเธอจะไปแอบกินกันเองลับหลังผมไหม ซึ่งผมยอ
สามรักสามหัวใจตอนที่ 12“โอ๊ย!! โยนมาได้ หมาตัวไหนวะ” เสียงคนเมาทำเอาผมรีบดีดตัวลุกจากแชต แล้วยื่นมือให้เธอจับลุก“ดอลลี่เป็นไงบ้าง” แชตรีบวิ่งเข้าไปประคองดอลลี่ให้ลุกยืน ผมว่าแชตคงเอาดอลลี่ไม่ไหวหรอก เมาเละเทะซะขนาดนั้น งานนี้ต้องพระเอกมาแล้วล่ะ“มา ริวช่วยเพราะแชตคงพาดอลลี่กลับไม่ไหว ไปริวจะไปส่ง” ผมพูดอาสา“ดี!! ไปดวลกันที่ห้องเลยจะได้จบ ๆ ตัดสินกันไปเลย” คนเมาก็ยังพูดต่อ ชี้มั่วซั่วไปหมดหลงทิศทาง จนผมกับแชตต้องถอนหายใจแรงอย่างระอา“ขอบใจนะริว”“ได้เสมอแหละ ริวทำเพราะแชตหรอกนะ ไม่ใช่ทำเพราะใคร”“ปากหวานเชียวนะ”“เมื่อกี้ก็ลองแล้ว น่าจะรู้รสชาติดี”“ไม่คุยกับริวแล้ว...รถแชตอยู่ทางนั้น”แชตดูเขินอาย เพราะจากการอมยิ้มผมว่าใช่ เธอหลบสายตาที่ผมจ้องมอง ก่อนจะบ่ายเบี่ยงเฉไฉไปเรื่องอื่นจากนั้นผมก็อาสาขับรถพาพวกเธอมาส่งที่พัก มันเป็นคอนโดที่อยู่ไม่ไกลมากนักจากร้านที่ผมนัดกับเพื่อน ประคองพาดอลลี่ขึ้นมายังชั้นที่พวกเธออยู่ เพราะถ้าให้แชตแบกมาคนเดียวมีหวังไม่รอด ผมสงสารแชตที่ต้องมาเจอตัวภาระแบบนี้จริง ๆ เลยครับ“ขอบใจนะริว ขอโทษด้วยนะที่ทำให้เสียเวลา” แชตเธอพูดขึ้น เมื่อผมแบกดอลลี่มาส่งที่ห้
สามรักสามหัวใจตอนที่ 11“รู้จักกันเหรอ?” ป๊าถามขึ้นเมื่อเดินไปนั่งเก้าอี้ประจำตำแหน่ง ที่แย่งผมอะ เพราะปกติผมจะนั่งทุกวัน แต่วันนี้เว้นให้ชั่วโมงหนึ่งละกัน“รู้จักสิป๊า รู้จักดีเลยล่ะ ใช่ไหมครับแชต” ผมลากเก้าอี้มานั่งข้างแชต แล้วตอบป๊าไป สายตาจ้องมองแค่แชตเท่านั้น ส่วนป๊าผมไม่ได้สนใจมาก ไม่ได้พิศวาสเท่าผู้หญิงตรงหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว“ให้มันน้อย ๆ หน่อยริว นี่ที่ทำงาน”“แล้วไง”ป๊าพูดขึ้นซึ่งผมก็ไม่รู้หรอก ป๊าจะมีสีหน้ายังไง เพราะตอนนี้ผมอยากมองแค่แชตคนเดียว“หน้าป๊าอยู่นี่ริว สนใจก็ที่เป็นพ่อบังเกิดเกล้ามึงสักแป๊บได้ไหม?” น้ำเสียงเริ่มจะกริ้วแล้ว ฉะนั้นผมควรจะทำตาม“ก็ได้ อย่าคุยนานนะริวอยากทำงานละ” มันก็แค่ข้ออ้างอะนะ ที่จริงอยากจะจีบสาวให้ติดมากกว่า อุตส่าห์ฟ้าเข้าข้างขนาดนี้ ต้องรีบทำคะแนน เพราะเดี๋ยวยัยดอลลี่ปากจัดจะแซงซะก่อน“แนะนำตัว” ป๊าสั่งเสียงเข้ม จากนั้นแชตก็เริ่มแนะนำตัวไปเรื่อย ๆ ส่วนผมก็นั่งมองเธอ ปากกระจับเล็ก ๆ ที่ขยับเวลาพูดมันดูน่าหลงใหล ยิ่งมองก็ยิ่งไม่อยากละสายตาไปไหน แชตดูน่ารักอ่อนหวาน ทั้งท่าทาง แววตา ทุกอย่างที่อยู่บนตัวเธอ มันทำให้ผมไม่อาจจะละสายตามองได้เลย
สามรักสามหัวใจตอนที่ 10วันนี้ผมตื่นแต่เช้าโดยที่ไม่ต้องให้พ่อปลุก อาบน้ำแต่งตัวอย่างรู้หน้าที่ บางทีการที่ได้เริ่มชอบใคร มันก็ทำให้เราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ไม่ยาก เพราะว่าอยากจะทำให้คนที่เราชอบปลื้มใจก๊อก ก๊อก ก๊อก(ริวตื่นยัง)“เสร็จแล้วพ่อ” ผมยืนหน้ากระจกแล้วใส่สูท แล้วตะโกนตอบพ่อออกไป“พ่อฝันแน่เลยว่ะริว นี่ริวจริงปะ? หรือว่าตัวห่าอะไรสิงลูกพ่อกันแน่” ดูสิคำพูดคำจาร้ายกาจจริง ๆ แค่ผมตื่นเช้าและตื่นเอง มันน่าแปลกใจตรงไหนกัน“เยอะแล้วพ่อ ริวก็โตพอแล้วไหม ตื่นเองก็ได้เถอะ” แก้ตัวหน้าหล่อ ๆ ก็เท่าที่เหมือนจะรู้ตัว ก็มีแต่พ่อที่ปลุกตลอด ฮ่าฮ่าฮ่า“เหรอริว ตื่นเองก็ได้งั้นเหรอ” เสียงแบบไม่เชื่อสักนิด ดูทำหน้าทำตาเข้า บางทีพ่อก็กวนเหมือนกันนะ“เออพ่อ ริวว่าริวกำลังมีความรัก” ผมคิดได้เลยพูดออกไป เพราะไม่เคยปิดบังสิ่งที่ผมเป็นกับป๊าและพ่อสักครั้ง ทุกอย่างผมจะเล่าและขอคำปรึกษาจากพ่อ เพราะบางอย่างผมก็คิดเองไม่ได้ มันคิดไม่ออก“หืม? ริวมีความรักเหรอ” พ่อมองหน้าผม แล้วทำสีหน้าเหมือนไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่ ก็แหงแหละผมบอกตลอดว่าเกลียดผู้หญิง ก็ยากที่พ่อจะเชื่อจริงไหม?“จริงนะพ่อ ริวรู้สึกว่าริวช
สามรักสามหัวใจตอนที่ 9“ป๊า”“อะไร?”ผมกับป๊านั่งทานมื้อเที่ยงกันที่ร้านไม่ไกลจากที่ทำงาน เพราะเผื่อเวลาเดินทางรถจะไม่ติดมาก ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ภาพเมื่อเช้ามันหวนเข้ามาในความคิด ภาพที่มันยังติดตาของผมอยู่ ใบหน้าของแม่ผู้ให้กำเนิดที่ผมได้เห็นชัดเจน เธอแตกต่างจากคนในรูปที่ผมเห็นอยู่บ่อยครั้งเมื่อตอนเด็ก นึกอยากรู้อะไรเกี่ยวกับเธอ เพราะสีหน้าและแววตาที่เธอมองก่อนจะเดินจากไป มันเหมือนมีอะไรที่เธอเก็บซ่อนเอาไว้ เหมือนเธอกำลังทุกข์ใจ มีเรื่องให้กังวล อะไรประมาณนั้น แววตาเธอมันดูเศร้าหมอง“ป๊าไม่เคยรู้ข่าวของคุณริกะบ้างเลยเหรอ ตลอดเวลาที่ผ่านมา” ผมเงยก้มหน้าถาม ไม่กล้าที่จะมองหน้าป๊า กลัวว่าสายตาที่ได้จ้องป๊าจะฉายแววอ่อนแอให้เห็น“ถามทำไม?” ป๊าทำหน้าเหมือนกังวล แล้วถามผมทันที“ริวก็แค่อยากรู้”“ถ้ารู้แล้วมันทำให้ริวเจ็บปวด ป๊าไม่โอเค”ผมบอกป๊าแต่ว่าเหมือนป๊าจะไม่ค่อยอยากพูดเท่าไหร่ รู้ดีว่าป๊าคงไม่อยากให้ผมเศร้า แค่ตอนนี้มันอยากรู้บ้าง ไม่ได้คิดอะไรมากหรอกครับ แล้วก็ไม่เสียใจด้วย“ริวโอเค แค่อยากรู้เฉย ๆ”“ป๊าก็ไม่รู้มากหรอก รู้แค่ว่าเธอติดคุกตอนพ่อกับยอนมินมันสุมหัวกันแจ้งจับ ที่ตอนนั้นเธอ
สามรักสามหัวใจตอนที่ 8“งั้นสรุปตามนี้นะคะคุณศิลา ส่วนเรื่องสัญญาซื้อขายคุณร่างมาได้เลยค่ะ”“ครับ ขอบคุณมากนะครับที่ยังวางใจในสินค้าของทางเรา”ผมได้ยินเสียงป๊ากับคุณวาสนา คุยกันเหมือนทุกอย่างเสร็จสิ้นดีแล้ว จึงละสายตาที่จ้องกับดอลลี่ไปมองทางผู้ใหญ่ทั้งสองคน ป๊าลุกยืนจับมือกับคุณวาสนา ผมก็เลยลุกตามและยิ้มให้คุณวาสนาเช่นกันตามมารยาท“งั้นขอตัวกลับก่อนนะคะ”“เดี๋ยวผมเดินไปส่ง”“ขอบคุณค่ะ”จากนั้นผมกับป๊าก็เดินลงไปส่งผู้หญิงทั้งสองคน ป๊ากับคุณวาสนาเดินคุยกัน ส่วนผมกับดอลลี่จ้องจะกัดกัน“หน้าอย่างนายเนี้ยนะลูกเจ้าของโรงงานใหญ่ขนาดนี้” ดอลลี่เธอเอนตัวเข้าหาแล้วกัดฟันพูดใส่ผม หน้าอย่างผมนี่แหละ มันไม่เหมาะจะเป็นลูกเจ้าของโรงงานใหญ่แบบนี้เหรอไง“แล้วหน้าอย่างเธอเนี้ยเหรอเป็นลูกคุณวาสนา เจ้าของบริษัทส่งออก ท่าทางนอกคอกฉิบหาย” ได้ทีก็ต้องเอาคืนสิ จะให้เธอว่าผมฝ่ายเดียวได้ไง เก่งกับผู้หญิงมีใครให้มากกว่าผมไหม?“ไอ้โหยก!”“ยัยกะหรี่”“อยากตายจริง ๆ ใช่ไหม?”“เธอสิอยากตายจริง ๆ ใช่ไหม?”“ดอลลี่ไปกลับบ้านกัน...ฉันขอตัวก่อนนะคะคุณศิลา” เสียงของคุณวาสนาทำให้ผมกับดอลลี่รีบปรับท่าทาง และสีหน้าให้เป็นป