“ผ้าใกล้หมดหรือยังปราย อยากเปลี่ยนบรรยากาศถ่ายรูปไหม ก้อยกำลังจะขึ้นดอย จำได้ไหมที่ก้อยเคยเล่าให้ฟัง สนใจไหม ถ้ายังไม่อยากลงใต้ ลองขึ้นดอยกัน เราหารทุกอย่างกันคนละครึ่ง ก้อยคิดถึงเด็กๆ ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง พวกเขาคงรอก้อย ถ้าปรายสนใจ ก้อยจะได้ไม่ต้องให้พี่เอกขึ้นไปส่ง ก้อยมีของไปฝากน้องๆ เยอะเลย ทั้งที่ได้รับบริจาค และที่เก็บสะสมไว้ คิดอยู่ว่าจะขนขึ้นไปยังไง ถ้าพี่เอกไม่ว่างไปส่ง”“ได้ซิ หญิงสาวตอบโดยไม่ต้องคิด ปรายอยากไป คิดไว้นานแล้วเหมือนกัน จริงๆ ผ้าปรายยังไม่หมด แต่ไม่เป็นปัญหา ไปได้เสมอ ดีเหมือนกันนะ ปรายจะได้อยู่ที่นี่จนหมดหนาว ก้อยคิดว่าจะอยู่นานขนาดไหน”“ก้อยแพลนไว้หกเดือน ขอพ่อกับแม่ไว้แล้ว ไหนๆ ท่านก็ไม่อยากให้ไปทำงานที่อื่น ให้ช่วยที่บ้าน ก่อนที่จะทำงานก็ขอเที่ยว และทำประโยชน์สักหน่อย เห็นเพื่อนก้อยบอกว่า ครูขาดหนึ่งคน เราไปช่วยกันสอนน้อง ๆ ดีไหม ก่อนที่ครูคนใหม่จะมา คงมีประโยชน์บ้าง”“ดีงามมากเลยก้อย อยู่กับเด็กๆ สนุกดี งั้นก้อยไม่ต้องกวนพี่เอกหรอก เอารถปรายไปกัน เราจะไปเมื่อไหร่ดี ปรายจะได้บอกคืนห้องเช่า”“อีกสักสามวันไหมปราย ก้อยขอจัดการพวกของที่จะต้องขนขึ้นไปก่อน จะคุย
ตะวันนั่งจ้องมองรูปชุดฮาวายสีสด พื้นสีเขียว ดอกชบาสีเหลืองใหญ่ แขนพองใหญ่เกือบเท่าหัวคน คอปาดเรียบ เลยเอวลงไปยังมีระบายสามชั้นฟูฟ่อง เขาสงสัยว่าแขนเสื้อแบบนี้ ช่างเขาทำยังไงแขนถึงได้พองยกขึ้นได้มากขนาดนี้ และชั้นของชั้นของกระโปรงก็ดูพองดีจัง ดูสวยแปลกตามาก เขาเห็นชุดแบบนี้บ่อยๆ น้องปราย กับน้องกานใส่ ยิ่งปรายลดาได้ใส่ สวยมาก อยู่ที่ไม้แขวนจริงๆตั้งแต่รู้จักกับปรายลดา ไปคัดผ้าที่ตลาดโรงเกลือที่อรัญประเทศ และที่ใต้ ด้วยกัน หลังจากนั้นเขาก็ชินกับชุดเดรสดีไซน์แปลกๆ บางทีก็เป็นเสื้อ เพราะน้องปรายใส่ประจำ ไม่ว่าจะอยู่บ้านหรือเดินทางไปไหนมาไหนเธอจะสวมใส่ตลอด ลามมาถึงน้องสาวของเขาด้วย กลายเป็นว่ากานดาราก็ชอบแต่งตัวเหมือนปรายลดา แต่น้องสาวเขาไม่ใส่แบบที่เวอร์วังเหมือนน้องปราย เวลาที่ใครก็ตามที่พบเห็นเกือบทุกคนก็จะหันหลังกลับมามอง ตลอด บางคนก็อาจชื่นชม บางคนก็จะมองแบบแปลกๆแต่เขาก็ไม่เคยเห็นน้องปรายสนใจใคร แต่งตัวในแบบที่ตัวเองชอบ และเพราะรักจริงๆ เขากลับมองว่าเธอใส่สวยมาก เขาชอบ เขาไม่ได้ติดตามเพจของปรายลดา เพราะน้องสาวเขาบอกว่า ถ้ากดติดตามเจ้าของเพจจะรู้ เขาไม่อยากให้ปรายลดาคิดมาก เกิดเธอเห็
“ก้อยเราจะพาน้องๆ ลงไปกินไก่ก่อนกลับใช่ไหม ปรายว่าจะเหมารถตู้ เพราะว่ารถคันนี้ไม่น่าจะพอ มีเด็กบางคนที่พ่อกับแม่ไม่ให้ไป อันนั้นไม่เป็นไร เราซื้อกลับมาฝากพวกเขาได้”“ก็ได้นะไม่มีปัญหา งั้นเราจะพาเด็กที่อยู่โรงเรียนประจำไปก่อน ส่วนเด็กๆ ที่ไป - กลับบ้าน เราก็ซื้อมาฝาก ช่วงนี้ใกล้ปิดเทอมแล้ว เด็กๆ ไม่ค่อยมาโรงเรียน ส่วนมากก็อยู่บ้านช่วยพ่อแม่ทำงาน ก้อยมีรถตู้ที่รู้จักกัน ราคาไม่แพงมาก พอจะกลับลงไปจริงๆ ก็เศร้าอีกแล้วล่ะปราย ก้อยเป็นแบบนี้ทุกปีเลย”“อย่าว่าแต่ก้อยเศร้าเลย ปรายก็เศร้าเหมือนกัน ขนาดเราอยู่ไม่กี่เดือนนะ เด็กๆ สอนอะไรเราหลายอย่างมาก เพราะงั้นปรายถึงอยากทำตามฝันของตัวเองให้เร็วที่สุด ปรายจะกลับบ้านไปช่วยพ่อกับแม่ ปรายไม่ควรทิ้งท่านมานานเกินไป ถึงแม้ว่าพ่อกับแม่จะไม่คิดอะไรก็ตาม แต่เราเริ่มคิดแล้วนะก้อย พอออกมาอยู่ข้างนอกนานๆ ปรายยิ่งคิดถึงบ้าน”“ว่าแต่ก้อยเถอะ คุยกับพี่เอกดีแล้วใช่ไหม ถ้าไปด้วยกันแล้วก้อยอยากกลับก่อนก็ไม่เป็นไรนะ ไม่ว่ากัน”“ไม่มีปัญหาหรอก พี่เอกเป็นผู้ใหญ่ เข้าใจก้อย อยากให้ก้อยเที่ยวให้เต็มที่เลย เพราะว่าถ้าแต่งงานแล้ว พี่เอกจะไม่ปล่อยให้เที่ยวแบบคนโสดแล้ว
“พี่ตะวันคะ พี่ตะวันคะ ตั้งสติก่อนค่ะ มือสั่นเลย มานี่ค่ะ เดี๋ยวกานหาเบอร์พี่เอกให้”กานดาราหยิบโทรศัพท์จากมือพี่ชายมาค้นหารายชื่อ เพื่อนพี่ชายที่ชื่อเอก พี่ชายเธอสติแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัว คงจะตื่นเต้นและดีใจมาก เธอเห็นสภาพพี่ชายแล้ว สงสารมาก เธอไม่ได้โกรธเขาแล้ว เพราะรู้ว่าพี่ชายเธอรักปรายลดามาก เธออยู่กับพี่ชายเธอเกือบทุกวัน ทำงานช่วยเขา รู้ว่าเขารอปรายลดาจริงๆ เขาสำนึกผิดจริงๆ“เจอแล้วค่ะ แต่...พี่ตะวันจะพูดอะไรบ้างคะ จะถามเรื่องปรายเลย หรือถามสารทุกข์สุขดิบของเพื่อนก่อน”“จริงซิ พี่จะเริ่มยังไงดี เพราะพี่ก็ไม่อยากให้น้องปรายรู้ เดี๋ยวเขาว่าพี่ฝืนคำสั่งเขา เขาสั่งไว้ว่าห้ามตามนี่นา” ตะวันหน้าเครียดขึ้นมาอีกครั้ง คุณน้าทั้งสองก็ไม่ให้เขาตาม น้องปรายเองก็ไม่ให้เขาตาม เขาต้องทำยังไง ตะวันนิ่งไปอีกครั้ง“ไม่เป็นไรเอาเบอร์เพื่อนตะวันมาให้พี่ เดี๋ยวพี่คุยเอง พี่จะคุยกับก้อย เชื่อว่าน้องต้องจำพี่ได้” ประภาษรับโทรศัพท์ของตะวันมากดเบอร์ของเอก“พี่ภาษคะ แล้วพี่เอกเขาจะสงสัยไม่ไหมคะ ว่าพี่เป็นใคร สนิทกันขนาดไหนถึงจะคุยกับแฟนเขา” กานดาราท้วงประภาษ นั่นทำให้ชายหนุ่มชะงัก“ขอบใจมากนะน้องกาน พี
นางดุจเดือน และกานดารายืนมองรถของประภาษแล่นออกไปตามถนน จนลับตา สองแม่ลูกมองหน้ากัน ไม่มีคำพูดอะไร ต่างคนต่างกลับไปในมุมส่วนตัวกานดารากลับไปที่ห้องของตัวเอง วันนี้เธอจะลงชุดที่ถ่ายไว้ เธออยากขายก่อนที่จะเดินทางไปใต้ ทำไปทำมาเธอก็ชอบงานขายของเหมือนปรายลดา สามเดือนแล้วที่ปรายลดาให้เธอเป็นผู้ดูแลเพจ ช่วงที่ปรายลดาอยู่บนดอย อาจเป็นเพราะสัญญาณเนต หรือติดปัญหาอะไรก็ตาม แต่เธอก็เต็มใจทำมาก เธอรู้ว่าปรายลดาคุยกันกับลูกค้าบ้าง แต่เธอไม่ก้าวก่ายช่วงสามเดือนมานี่ เธอกับปรายคุยกันบ่อย แต่เธอก็ไม่ถาม ว่าอยู่ไหน ทำอะไร แค่ได้คุยกันก็ดีแล้ว เรื่องอื่นก็ปล่อยให้ปรายตัดสินใจเอง เธอเคารพการตัดสินใจของเพื่อน แต่ก็แอบคิดว่าคงอีกไม่นานที่ปรายจะเดินทางกลับบ้านอีกไม่กี่วันเธอก็จะเดินทางไปหาดใหญ่แล้ว คงพอดีกับที่พี่ตะวันกับพี่ภาษกลับมา ถ้าได้ไปกับปรายสองคนก็คงดี หญิงสาวคิดไปเรื่อยเปื่อย“น้องกานลูก เดี๋ยวแม่จะไปบ้านน้ากรสักหน่อย ไปด้วยกันไหม” เห็นว่าน้ากรอยากกินแกงเลียง แม่จะไปทำให้สักหน่อย ไม่ได้กินข้าวด้วยกันหลายเวลาแล้ว“ได้เลยค่ะแม่ เอารถกอล์ฟไปล่ะกันนะคะแม่ วันนี้อากาศดี ไม่ร้อนมาก” กานดาราขับรถกอล์ฟค
"บ้านปรายเหมือนเดิมเลยนะ คุณน้าทั้งสองก็เหมือนเดิม ขนาดก้อยจากที่นี่ไปตั้งหลายปี ความรู้สึกก้อยยังเหมือนเดิมเลย ดีจัง นี่แหละเขาว่า ถ้าในอดีตเรามีเรื่องราวที่ดี นานขนาดไหน เราก็จะไม่มีวันลืมเลย""เหมือนเดิมทุกอย่างเลยก้อย เพิ่มเติมคือเรามีเพื่อนบ้านใหม่อีก 1 ครอบครัว ก็คือบ้านของกานดาราคนสวยนี่ไง"“ขอบใจนะจ๊ะที่ชมว่าสวย” กานดารายิ้มหน้าบาน "ปรายเราจะออกเดินทางกันวันไหน กานจะได้บอกแม่ ""ปรายว่าจะออกเดินทางวันมะรืน เพราะถ้ากานเปลี่ยนแผนไม่บินไป เราต้องเลื่อนทางหาดใหญ่ออกไปอีก เกรงใจเขา หรือกานว่ายังไง""อยู่ที่ว่าพี่ชายกานเขาจะกลับเมื่อไหร่ เพราะถ้าเราไป คุณป้าก็ต้องอยู่บ้านคนเดียว สงสารท่าน อันนี้แล้วแต่กานนะ" ก้อยออกความเห็น"งั้นเดี๋ยวคืนนี้กานคุยกับแม่ก่อน พรุ่งนี้กานให้คำตอบนะ แต่กานคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะ ดีเสียอีกที่กานได้ไปพร้อมปราย""ปราย กาน พี่เอกโทรมา ก้อยคุยกับพี่เอกแป๊ปนะ" พี่เอกมีอะไรน่ะปกติไม่โทรบ่อยแบบนี้ ก้อยบ่นพึมพำคนก่อนรับสายเอก"สวัสดีค่ะพี่เอก ยังไม่ถึงไหนค่ะ พี่เอกมีอะไรเหรอคะ เอ่อ....พอดีปรายแวะบ้านค่ะพี่เอก ยังไม่รู้ว่าจะพักอยู่กี่วัน "ก้อยตอบเลี่ยงไป ทั้
“น้องปราย จะไปนานไหมลูก” นายอลงกตถามลูกสาว ขณะที่สามคนพ่อแม่ลูกอยู่ในห้องพัก“ปรายว่าจะค่อยๆ เดินทางไปเรื่อยๆ ค่ะพ่อ แต่จะพักที่หาดใหญ่หลายวันหน่อย เพราะว่าปรายกับกานคุยกันว่าจะคัดผ้าค่ะ หลังจากนั้นจะไปต่อที่เบตง คิดว่าจะข้ามไปฝั่งมาเลย์ และปรายจะอยู่ที่นั่นสักพัก ส่วนก้อยกับกาน จะกลับมาก่อนค่ะ”“แล้วมีที่อยู่เหรอ ไว้ใจได้ไหมลูก” นางกรกนกลูบหัวลูกสาวด้วยความรักหญิงสาวลุกขึ้นนั่ง หลังจากที่นอนตักมารดามาสักพัก“ปรายมีเพื่อนอยู่ที่นั่นค่ะแม่ เรียนรุ่นเดียวกัน ค้าขายอยู่ทางโน้น เขาแต่งงานได้สามีเป็นคนมาเลย์ค่ะ ปรายเคยไปเที่ยวสมัยเรียน แถบที่เขาอยู่ค้าขายได้สบายเลยค่ะแม่"“พ่อกับแม่ขอให้ลูกเดินทางปลอดภัย ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ทำนะลูก แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามพ่อกับแม่ก็ยังรอลูกกลับบ้านเสมอ พ่อกับแม่จะปล่อยให้ลูกไปทำในสิ่งที่อยากทำ”“แล้วเรื่องพ่อตะวันล่ะลูก น้องปรายพูดให้แม่ฟังหน่อยซิ จะเอายังไงต่อไป เพราะแม่ดูแล้วว่าพ่อตะวันเขาก็คงไม่ปล่อยเราแน่ๆ โกรธและเกลียดเขามากเหรอลูก ถ้าน้องปรายรักพี่เขา เราก็ต้องปล่อยวางบ้างนะ ให้อภัยได้ก็ให้อภัยเขา แม่รู้ว่าน้องปรายไม่ชอบคนที่ไม่มีเหตุผล และคนที่เห็น
เช้านี้ที่บ้านไร่ ทุกคนรวมตัวกันที่ลานจอดรถหน้าบ้านปรายลดา“น้องปราย น้องก้อย ป้าฝากน้องกานด้วยนะลูก น้องกานอย่าลืมโทรบอกพี่เขาด้วยนะ เขาจะได้ไม่เป็นห่วง” นางดุจเดือนบอกลูกสาว นี่เป็นครั้งแรกที่ลูกสาวนางเดินทางท่องเที่ยว โดยที่ไม่มีแม่และพี่ชายไปด้วย นางเชื่อมั่นในตัวกานดารา ตั้งแต่ลูกสาวนางรู้จักคบหากับปรายลดา ลูกสาวนางเข้มแข็ง และแข็งแรงมาก เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นด้วยเอาจริงนางก็ห่วง แต่ไม่ห่วงมาก เพราะมีน้องปราย น้องก้อยไปด้วย เด็กทั้งสองคนไว้ใจได้“เดี๋ยวปรายขับเองนะ ไว้ถึงประจวบค่อยให้กานขับ ทางตรงไม่ใช่หน้าเทศกาล กานขับได้อยู่แล้ว ถึงชุมพรค่อยให้ก้อยขับ ดีไหมทุกคน”ปรายลดาถามเพื่อนทั้งสองคน“ได้เลย ก้อยไม่มีปัญหา ถ้าปรายเหนื่อยตอนไหน ก้อยเปลี่ยนก็ได้ สบายมาก”“กานก็ไม่มีปัญหาเลย ตกลงตามนี้นะ “สามสาวออกเดินทางจากนครนายก นางดุจเดือน และนางกรกนก เตรียมอาหาร ให้สามสาวเต็มที่ มีแต่ขอชอบ งของทุกคนทั้งนั้น รถจิ๊ปของปรายลดาคันใหญ่ จุของได้เยอะมากปรายลดาใส่ชุดฮาวายสีเหลืองสด ใส่รองเท้าผ้าใบสีขาว ชุดที่เธอใส่ไม่ได้เข้ากับรถที่ขับเลย แต่เธอไม่ได้สนใจเพราะชอบ เธอชอบใส่เดรสหลวมๆ มากกว่าใส่กางเ
วันนี้ปรายลดาปิดงานเสร็จเรียบร้อย อีก 2 วัน หญิงสาวจะต้องเดินทางกลับบ้าน จ่ายค่าที่พักเรียบร้อย ยังมีเวลา เหมือนเดิม เธอรีบไปที่ร้านผ้า เพื่อคัดผ้าที่เหลืออีกสักหน่อย และให้ร้านแพคส่งกลับที่ประเทศไทย หญิงสาวได้หนังสือดีๆ อีกมากมาย เจอค่าส่งก็เกือบถอดใจ แต่มันเป็นหนังสือที่หายาก และเธอก็รักมันมากสมัยเรียนมัธยม ปรายลดามีหนังสืออยู่ 2 เล่ม จำไม่ได้ว่าชื่อเรื่องอะไร เพราะนานมาก เนื้อเรื่องพระเอกเป็นเจ้าผู้ครองนคร นางเอกเป็นหมอ พ่อเป็นเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนในเมืองไทย นางเอกเจอพระเอกที่เมืองไทย เขาพาภรรยามารักษาตัว แต่ภรรยาเสียชีวิต นางเอกไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เข้าใจว่าเป็นองค์รักษ์ เนื้อเรื่องอ่านแล้วประทับใจมาก เธอเสียดายมาก พยายามหาก็ยังไงก็หาไม่เจอ แต่คิดไว้แล้วว่า จะต้องหาซื้อมือสองมาเก็บไว้อีก ก็ยังไม่มีโอกาสสักที กลับบ้านครั้งนี้แหละ จะต้องหามาเก็บไว้ในชั้นหนังสือให้ได้ที่ร้านผ้ามือสอง ระหว่างที่คัดผ้า ใจก็คิดถึงคราวที่ไปคัดผ้าที่ตลาดโรงเกลือ อรัญประเทศ เอาจริงๆ เธอก็ไม่เคยลืมเขาเลย ตะวันเป็นรักแรกของเธอ ถ้าไม่ติดตรงที่เขาทำผิด จะด้วยอะไรก็ตาม ประชด เอาแต่ใจตัวเอง คนอายุเท่าเขา มีตำแห
“อ่ะ.....อะไรเธอ” ปรายลดาเข้าไปเม้นในไอจีของ กานดารา รูปที่ลงล่าสุด นิ้วนางข้างซ้ายมีแหวนเพชรวงกำลังดี สวยงามมาก แค่นั้นหญิงสาวก็ทำงานต่อปรายลดาแปลเอกสารต่อ เธอชอบงานนี้รองลงมาจากงานขายของ เกาะแห่งนี้เงียบสงบมากๆ เหมาะกับงานที่เธอทำ เธอคิดว่าเสร็จจากงานนี้แล้วจะเดินทางกลับบ้านเกือบสามเดือนหลังจากที่กานกับก้อยกลับไปแล้ว ปรายลดาก็อยู่คนเดียว ทำงานคนเดียว เที่ยวคนเดียว ที่มาเลย์นี่ผ้าเยอะมาก เสร็จจากงานแปลเอกสาร เธอก็ไปหาคัดผ้า ได้พอสมควรก็ทยอยส่งกลับไทย“ว่าไงเธอ มีอะไรจะบอกฉันไหม” ปรายลดารับสายเมื่อกานดาราโทรไลน์หาเธอ“ก็อยากที่ปรายเห็นนั่นแหละ” กานดาราตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ดูมีความสุขมาก“นี่อย่าบอกนะว่าหมั้นกับพี่ภาษ” ปรายลดาส่งเสียงดีใจถามเพื่อนสาว“ใช่ ปรายเข้าใจไม่ผิด เมื่อวานนี่เอง กานไม่อยากรบกวนปราย อยากให้ปรายเร่งงานให้เสร็จจะได้กลับบ้านทีเดียวเลย ไม่ต้องมางานหมั้น มาตอนแต่งเลยดีกว่า งานหมั้นเล็กๆ มีแค่พวกเรา ไม่ได้บอกใคร เดี๋ยวได้ฤกษ์แต่งเมื่อไหร่ กานจะส่งข่าวนะปราย”“โห....เสียดายอ่ะ แต่ทำไงได้ ฉันเลือกเอง ไม่เป็นไรหรอก งานใกล้เสร็จแล้ว งานแต่งกานปรายได้ไปแน่ๆ รับรองไม่พลา
“พ่อครับ แม่ครับ ไปบ้านคุณป้าดุจเดือนอีกรอบให้ผมหน่อยได้ไหมครับ ผมว่าน่าจะสมควรแก่เวลาแล้ว ผมเกริ่นๆ กับตะวันไว้แล้ว เหลือแต่ไปคุยกับคุณป้า ให้เป็นเรื่องเป็นราวครับ” ประภาษ เอ่ยกับนายเกริกและนางยุรี“เฮ้อ....พ่อกับแม่ก็รอวันนี้มานานแล้ว คุยกับหนูกานดีแล้วใช่ไหมภาษ ไม่ใช่พ่อกับแม่ไปแล้วหน้าแตกกลับมานะ” นายเกริกหันมาพูดกับลูกชาย“ไม่หรอกครับพ่อ ผมคุยกับน้องกานแล้วครับ จริงๆ ว่าจะรอให้น้องปรายกลับมาก่อน ป่านนี้ยังไม่มาเลย ผมไม่รอแล้วครับ แรกๆ น้องกานห่วงคุณป้าดุจเดือน กลัวว่าแต่งงานแล้ว จะไม่มีคนดูแล แต่ตะวัน รับปากและยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าถ้าน้องกานมาอยู่บ้านเรา เขาจะดูแลคุณป้าดุจเดือนเอง”“ส่วนผมแล้วแต่น้องกานเลยว่าแต่งแล้วจะมาอยู่บ้านเรา หรืออยู่บ้านเขา น้องกานอยู่ที่ไหนผมก็อยู่ได้หมด หรือพ่อกับแม่ว่าไงครับ”“แม่ไม่ว่าอะไรหรอก เห็นใจบ้านโน้นเขาเหมือนกัน เพราะเดี๋ยวตะวันเขาแต่งกันหนูปราย ก็ต้องไปอยูบ้านหนูปรายใช่ไหม พ่อกับแม่น้องปราย ก็ไม่มีใคร ทางนี้ พ่อกับแม่ก็มีน้องตั้งสองคน ภาษไม่ต้องห่วงหรอกลูก เราอยู่ใกล้แค่นี้เอง ไม่มีปัญหาหรอก ใช่ไหมพ่อ” นางยุรีหันไปหาสามี“พ่อก็ไม่มีปัญหา
ที่ตรอกเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก ถ้าเป็นคนต่างถิ่นมา จะไม่รู้เลยว่า อาคารที่เรียงรายกันสองฝั่ง นี่คือโกดังผ้ามือสอง ที่มีผ้าเยอะมากๆ มันเป็นที่ๆ ปรายลดาคุ้นเคยอีกที่หนึ่ง เวลาที่ได้คัดผ้า มันเหมือนกับเธอได้หลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง อาจจะดูเวอร์เกินไป ถ้าจะไปเล่าให้คนอื่นฟัง ว่ามีความรู้สึกแบบนี้ก็เหมือนคนเรา ชอบอะไรบางอย่างนั่นแหละ ชอบอ่านหนังสือ เวลาอ่านหนังสือก็จะอยู่แต่กับหนังสือ ไม่สนใจใคร คนเล่นเกมส์ก็จะมีความสุขกับการเล่นเกมส์ คนที่ชอบเย็บปักถักร้อย เวลาถักก็จะมีความสุข เพลิดเพลินกับสิ่งที่กำลังทำ“ของทั้งหมดนี้เราจะขนกลับไปยังไงอ่ะปราย ในเมื่อเราต้องไปเบตง และเราจะไปยังไง ขับรถไปเองหรือยังไง ก้อยยังคิดไม่ออกเลย”“จริงด้วย กานว่าจะถามหลายวันแล้ว แต่ไม่ได้ถามสักที” กานดาราเอ่ยขึ้นบ้างผ้านี่ปรายจะให้ร้านส่งไปที่บ้าน บอกพ่อกับแม่ไว้แล้ว เราจะเช่ารถตู้ไปเบตง เพราะเราคงขับกันเองไม่ไหว ไม่ชำนาญทาง ขากลับปรายจะให้ก้อยกับกาน ขึ้นเครื่องกลับ ส่วนรถคันนี้ปรายจะฝากไว้ที่ปัตตานี ปรายมีเพื่อนที่นั่น ฝากได้ จนกว่าปรายจะกลับบ้าน เราจะเช่ารถตู้จากปัตตานีไปเบตงกันนะสาวๆ ค้างที่ปัตตานี เที่ยวในเมือง ที่ปัตต
เช้านี้ที่บ้านไร่ ทุกคนรวมตัวกันที่ลานจอดรถหน้าบ้านปรายลดา“น้องปราย น้องก้อย ป้าฝากน้องกานด้วยนะลูก น้องกานอย่าลืมโทรบอกพี่เขาด้วยนะ เขาจะได้ไม่เป็นห่วง” นางดุจเดือนบอกลูกสาว นี่เป็นครั้งแรกที่ลูกสาวนางเดินทางท่องเที่ยว โดยที่ไม่มีแม่และพี่ชายไปด้วย นางเชื่อมั่นในตัวกานดารา ตั้งแต่ลูกสาวนางรู้จักคบหากับปรายลดา ลูกสาวนางเข้มแข็ง และแข็งแรงมาก เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นด้วยเอาจริงนางก็ห่วง แต่ไม่ห่วงมาก เพราะมีน้องปราย น้องก้อยไปด้วย เด็กทั้งสองคนไว้ใจได้“เดี๋ยวปรายขับเองนะ ไว้ถึงประจวบค่อยให้กานขับ ทางตรงไม่ใช่หน้าเทศกาล กานขับได้อยู่แล้ว ถึงชุมพรค่อยให้ก้อยขับ ดีไหมทุกคน”ปรายลดาถามเพื่อนทั้งสองคน“ได้เลย ก้อยไม่มีปัญหา ถ้าปรายเหนื่อยตอนไหน ก้อยเปลี่ยนก็ได้ สบายมาก”“กานก็ไม่มีปัญหาเลย ตกลงตามนี้นะ “สามสาวออกเดินทางจากนครนายก นางดุจเดือน และนางกรกนก เตรียมอาหาร ให้สามสาวเต็มที่ มีแต่ขอชอบ งของทุกคนทั้งนั้น รถจิ๊ปของปรายลดาคันใหญ่ จุของได้เยอะมากปรายลดาใส่ชุดฮาวายสีเหลืองสด ใส่รองเท้าผ้าใบสีขาว ชุดที่เธอใส่ไม่ได้เข้ากับรถที่ขับเลย แต่เธอไม่ได้สนใจเพราะชอบ เธอชอบใส่เดรสหลวมๆ มากกว่าใส่กางเ
“น้องปราย จะไปนานไหมลูก” นายอลงกตถามลูกสาว ขณะที่สามคนพ่อแม่ลูกอยู่ในห้องพัก“ปรายว่าจะค่อยๆ เดินทางไปเรื่อยๆ ค่ะพ่อ แต่จะพักที่หาดใหญ่หลายวันหน่อย เพราะว่าปรายกับกานคุยกันว่าจะคัดผ้าค่ะ หลังจากนั้นจะไปต่อที่เบตง คิดว่าจะข้ามไปฝั่งมาเลย์ และปรายจะอยู่ที่นั่นสักพัก ส่วนก้อยกับกาน จะกลับมาก่อนค่ะ”“แล้วมีที่อยู่เหรอ ไว้ใจได้ไหมลูก” นางกรกนกลูบหัวลูกสาวด้วยความรักหญิงสาวลุกขึ้นนั่ง หลังจากที่นอนตักมารดามาสักพัก“ปรายมีเพื่อนอยู่ที่นั่นค่ะแม่ เรียนรุ่นเดียวกัน ค้าขายอยู่ทางโน้น เขาแต่งงานได้สามีเป็นคนมาเลย์ค่ะ ปรายเคยไปเที่ยวสมัยเรียน แถบที่เขาอยู่ค้าขายได้สบายเลยค่ะแม่"“พ่อกับแม่ขอให้ลูกเดินทางปลอดภัย ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ทำนะลูก แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามพ่อกับแม่ก็ยังรอลูกกลับบ้านเสมอ พ่อกับแม่จะปล่อยให้ลูกไปทำในสิ่งที่อยากทำ”“แล้วเรื่องพ่อตะวันล่ะลูก น้องปรายพูดให้แม่ฟังหน่อยซิ จะเอายังไงต่อไป เพราะแม่ดูแล้วว่าพ่อตะวันเขาก็คงไม่ปล่อยเราแน่ๆ โกรธและเกลียดเขามากเหรอลูก ถ้าน้องปรายรักพี่เขา เราก็ต้องปล่อยวางบ้างนะ ให้อภัยได้ก็ให้อภัยเขา แม่รู้ว่าน้องปรายไม่ชอบคนที่ไม่มีเหตุผล และคนที่เห็น
"บ้านปรายเหมือนเดิมเลยนะ คุณน้าทั้งสองก็เหมือนเดิม ขนาดก้อยจากที่นี่ไปตั้งหลายปี ความรู้สึกก้อยยังเหมือนเดิมเลย ดีจัง นี่แหละเขาว่า ถ้าในอดีตเรามีเรื่องราวที่ดี นานขนาดไหน เราก็จะไม่มีวันลืมเลย""เหมือนเดิมทุกอย่างเลยก้อย เพิ่มเติมคือเรามีเพื่อนบ้านใหม่อีก 1 ครอบครัว ก็คือบ้านของกานดาราคนสวยนี่ไง"“ขอบใจนะจ๊ะที่ชมว่าสวย” กานดารายิ้มหน้าบาน "ปรายเราจะออกเดินทางกันวันไหน กานจะได้บอกแม่ ""ปรายว่าจะออกเดินทางวันมะรืน เพราะถ้ากานเปลี่ยนแผนไม่บินไป เราต้องเลื่อนทางหาดใหญ่ออกไปอีก เกรงใจเขา หรือกานว่ายังไง""อยู่ที่ว่าพี่ชายกานเขาจะกลับเมื่อไหร่ เพราะถ้าเราไป คุณป้าก็ต้องอยู่บ้านคนเดียว สงสารท่าน อันนี้แล้วแต่กานนะ" ก้อยออกความเห็น"งั้นเดี๋ยวคืนนี้กานคุยกับแม่ก่อน พรุ่งนี้กานให้คำตอบนะ แต่กานคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะ ดีเสียอีกที่กานได้ไปพร้อมปราย""ปราย กาน พี่เอกโทรมา ก้อยคุยกับพี่เอกแป๊ปนะ" พี่เอกมีอะไรน่ะปกติไม่โทรบ่อยแบบนี้ ก้อยบ่นพึมพำคนก่อนรับสายเอก"สวัสดีค่ะพี่เอก ยังไม่ถึงไหนค่ะ พี่เอกมีอะไรเหรอคะ เอ่อ....พอดีปรายแวะบ้านค่ะพี่เอก ยังไม่รู้ว่าจะพักอยู่กี่วัน "ก้อยตอบเลี่ยงไป ทั้
นางดุจเดือน และกานดารายืนมองรถของประภาษแล่นออกไปตามถนน จนลับตา สองแม่ลูกมองหน้ากัน ไม่มีคำพูดอะไร ต่างคนต่างกลับไปในมุมส่วนตัวกานดารากลับไปที่ห้องของตัวเอง วันนี้เธอจะลงชุดที่ถ่ายไว้ เธออยากขายก่อนที่จะเดินทางไปใต้ ทำไปทำมาเธอก็ชอบงานขายของเหมือนปรายลดา สามเดือนแล้วที่ปรายลดาให้เธอเป็นผู้ดูแลเพจ ช่วงที่ปรายลดาอยู่บนดอย อาจเป็นเพราะสัญญาณเนต หรือติดปัญหาอะไรก็ตาม แต่เธอก็เต็มใจทำมาก เธอรู้ว่าปรายลดาคุยกันกับลูกค้าบ้าง แต่เธอไม่ก้าวก่ายช่วงสามเดือนมานี่ เธอกับปรายคุยกันบ่อย แต่เธอก็ไม่ถาม ว่าอยู่ไหน ทำอะไร แค่ได้คุยกันก็ดีแล้ว เรื่องอื่นก็ปล่อยให้ปรายตัดสินใจเอง เธอเคารพการตัดสินใจของเพื่อน แต่ก็แอบคิดว่าคงอีกไม่นานที่ปรายจะเดินทางกลับบ้านอีกไม่กี่วันเธอก็จะเดินทางไปหาดใหญ่แล้ว คงพอดีกับที่พี่ตะวันกับพี่ภาษกลับมา ถ้าได้ไปกับปรายสองคนก็คงดี หญิงสาวคิดไปเรื่อยเปื่อย“น้องกานลูก เดี๋ยวแม่จะไปบ้านน้ากรสักหน่อย ไปด้วยกันไหม” เห็นว่าน้ากรอยากกินแกงเลียง แม่จะไปทำให้สักหน่อย ไม่ได้กินข้าวด้วยกันหลายเวลาแล้ว“ได้เลยค่ะแม่ เอารถกอล์ฟไปล่ะกันนะคะแม่ วันนี้อากาศดี ไม่ร้อนมาก” กานดาราขับรถกอล์ฟค
“พี่ตะวันคะ พี่ตะวันคะ ตั้งสติก่อนค่ะ มือสั่นเลย มานี่ค่ะ เดี๋ยวกานหาเบอร์พี่เอกให้”กานดาราหยิบโทรศัพท์จากมือพี่ชายมาค้นหารายชื่อ เพื่อนพี่ชายที่ชื่อเอก พี่ชายเธอสติแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัว คงจะตื่นเต้นและดีใจมาก เธอเห็นสภาพพี่ชายแล้ว สงสารมาก เธอไม่ได้โกรธเขาแล้ว เพราะรู้ว่าพี่ชายเธอรักปรายลดามาก เธออยู่กับพี่ชายเธอเกือบทุกวัน ทำงานช่วยเขา รู้ว่าเขารอปรายลดาจริงๆ เขาสำนึกผิดจริงๆ“เจอแล้วค่ะ แต่...พี่ตะวันจะพูดอะไรบ้างคะ จะถามเรื่องปรายเลย หรือถามสารทุกข์สุขดิบของเพื่อนก่อน”“จริงซิ พี่จะเริ่มยังไงดี เพราะพี่ก็ไม่อยากให้น้องปรายรู้ เดี๋ยวเขาว่าพี่ฝืนคำสั่งเขา เขาสั่งไว้ว่าห้ามตามนี่นา” ตะวันหน้าเครียดขึ้นมาอีกครั้ง คุณน้าทั้งสองก็ไม่ให้เขาตาม น้องปรายเองก็ไม่ให้เขาตาม เขาต้องทำยังไง ตะวันนิ่งไปอีกครั้ง“ไม่เป็นไรเอาเบอร์เพื่อนตะวันมาให้พี่ เดี๋ยวพี่คุยเอง พี่จะคุยกับก้อย เชื่อว่าน้องต้องจำพี่ได้” ประภาษรับโทรศัพท์ของตะวันมากดเบอร์ของเอก“พี่ภาษคะ แล้วพี่เอกเขาจะสงสัยไม่ไหมคะ ว่าพี่เป็นใคร สนิทกันขนาดไหนถึงจะคุยกับแฟนเขา” กานดาราท้วงประภาษ นั่นทำให้ชายหนุ่มชะงัก“ขอบใจมากนะน้องกาน พี