“รถเคลียร์เสร็จยังวะ” ผมดึงสติแล้วเดินกลับเข้ามาในร้านซ่อมรถ เรื่องที่แม่พูดมาผมก็เฉย ๆ ครับ ก็คิดแหละ แต่ปากของผมมันโพล่งไปแล้วว่าให้เราเป็นแค่พ่อกับแม่ของลูกในเมื่อมันก็แอบคบคนอื่น เพราะฉะนั้นเรื่องของเราจบกันคงดีที่สุด“เรียบร้อยครับเฮีย เดี๋ยวอีกหนึ่งชั่วโมงลูกค้าจะมารับรถครับ” หนึ่งในลูกน้องในอู่ตอบผม“งั้นเดี๋ยวกูไปเคลียร์บิลให้ลูกค้าก่อน”“คือ...เจ้แจงแกมาเก็บของแล้วก็เลยอาสาทำให้ครับ พวกผมห้ามแล้ว แต่เจ้แกบอกว่าเผื่อเฮียจะกลับมาไม่ทัน” ลูกน้องทำหน้าเป็นกังวลเพราะผมสั่งห้ามเด็ดขาดว่าห้ามไม่ให้แจงมายุ่งกับเรื่องในร้านอีก“อืม” ผมพูดแค่นั้นแล้วเดินหันหลังเข้ามาในห้องทำบัญชีเมื่อผมเปิดประตูเข้ามาทุกอย่างที่รกเละเทะก็ถูกจัดสรรให้เข้าที่เข้าทาง เหมือนอย่างที่เคยมีมันอยู่ ก่อนที่เราจะทะเลาะกันไม่มีมันผมไม่มีความสุขหรอกครับ แต่พอคิดว่ามันสวมเขาให้ผม ผมก็ไม่คิดจะกลับไปง้อมันเมียทั้งคนทำไมผมจะไม่รัก แต่เพราะผมอยากทำให้มันเห็นว่าผมเด็ดขาด ผมไม่ใช่ควายเหมือนเมื่อหลายปีก่อนที่มันกับเอพากันเห็นผมเป็นหมาก“พ่อยิมจ๋า...” จัสมินตะโกนมาจากหลังร้าน เวลาจัสมินมาหาผม ผมสั่งให้เดินมาทางหลังร้า
“เย้ จัสดีใจที่สุดเลย” รอยยิ้มของลูกสาวทำเอาฉันพูดไม่ออกเลยทีเดียวก่อนหน้านี้จัสมินร้องไห้ปานจะขาดใจ เพราะแอบไปได้ยินเรื่องราวที่ฉันกับยิมเลิกกัน ฉันพยายามพูดปลอบ พยายามอธิบายแต่คำพูดของฉัน จัสมินไม่ต้องการรับฟัง เพราะสิ่งที่จัสมินต้องการคือการกลับไปอยู่ด้วยกันพ่อแม่ลูกแบบเมื่อก่อนนี้หลายประโยคของจัสมินทำเอาฉันสะอึกเลยทีเดียว“ถ้างั้นเราก็ไปกิน MK ได้แล้วใช่ไหมคะ” ฉันเช็ดน้ำตาให้ลูกสาวที่น่ารักของฉัน“ค่ะ จัสหิวมาก ๆ เลย” ความร่าเริงของจัสมินเริ่มกลับมาสดใสอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ร้องไห้จนน่าสงสารหนึ่งอาทิตย์จากวันนั้นที่เรามีปากเสียงกัน มันบอกเลิกฉัน เราสองคนไม่เจอหน้ากันเลย และป้าอันแม่ของยิมก็มาบอกเล่าถึงเหตุผลที่ยิมมันให้เมียเก่าของมันเข้าไปอยู่ที่เรือนหอถามว่าเข้าใจเหตุผลที่ยิมมันช่วยไหม ก็เข้าใจนะ แต่ก็ไม่ชอบใจ เพราะมันทำไม่ถูก มันเลือกที่จะโกหกฉัน แล้วที่อื่นก็มีไหม เช่าบ้าน เช่าห้อง หรืออะไรก็ได้ให้อยู่ไปดิ มีตั้งหลายวิธีแต่เลือกจะทำแบบนั้น เลือกจะโกหกฉัน เราก็เลยเสียความรู้สึกด้วยกันทั้งคู่ คงจะเหมือนกับที่ฉันโกหกมัน ต่างคนต่างโกหกกัน เราทั้งคู่ก็เลยอยู่ด้วยกันไม่
ผมเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ วันนี้ผมนอนบ้านของแจงมันครับ เพราะลูกสาวของผมต้องการ และเพราะรักลูกผมก็เลยไม่อยากจะให้ลูกเสียใจก็เลยต้องตามใจลูกสาวเพียงคนเดียวของผมผมมองไปที่เตียง ตอนนี้แจงมันหลับไปแล้ว ปกติมันไม่ใช่คนหลับเร็วแบบนี้ แต่นี่มันหลับผมเดินเอาผ้าเช็ดตัวมาเก็บ แล้วเดินมาส่องกระจกที่โต๊ะเครื่องแป้ง พวกครีมบำรุงของแจงมันหายไปไหนวะ ปกติมีกองเต็มโต๊ะไม่รู้ว่าตัวไหนเป็นตัวไหนแต่ช่างมันเถอะครับ เรื่องของมันผมเลิกสนใจเรื่องของมันแล้วเดินลงมาชั้นล่างเพื่อที่จะหาน้ำดื่ม ด้านแม่ของแจงก็ตึง ๆ ใส่ผมครับ ผมก็เข้าใจแหละ เพราะผมก็ทำไม่ดีใส่ลูกสาวท่าน ไหนจะทำร้ายร่างกาย พูดจาต่อว่าแจงมันเสีย ๆ หาย ๆ“หาอะไรล่ะ” เสียงของแม่เอ่ยทักเมื่อผมเดินเข้ามาในครัวแล้วเจอท่านกำลังยืนชงนม“น้ำครับ” กับแม่ยายต้องพูดให้ดีครับ ถึงแม้ตอนนี้จะเลิกกับลูกสาวท่านแล้วก็เถอะ“ยังคิดจะหย่าอยู่ไหมล่ะ ถ้าคิดจะหย่าจะเลิกก็ทำให้มันเนียน ๆ หน่อย อย่าให้จัสมินมันต้องร้องไห้เพราะพ่อแม่เลิกกัน อยากจะเลิกหรืออยากจะอยู่ด้วยกันก็แล้วแต่จะตัดสินใจ ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วไม่มีความสุขก็เลิกกันไป แต่จะทำอะไรก็ต้องห่วง
“อาจจะเป็นลูกของคนอื่นก็ได้นะ กูมั่วจะตายไป” พอเริ่มเปิดปากพูดฉันก็งัดประโยคนี้ขึ้นมาเลยค่ะจู่ ๆ มาเปลี่ยนอาการทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังบึ้งตึงใส่ฉัน นั่นแสดงว่ายิมมันรู้ว่าฉันท้องแต่แปลกที่ทำไมมันคิดว่าเป็นลูกของมัน ทั้งที่มันคิดมาตลอดว่าฉันมั่วทำไมมันไม่พูด ไม่ถามว่าลูกใคร“มึงรักกูจะตาย มึงจะไปเอากับคนอื่นได้ไง ต้องลูกกูอยู่แล้ว” ไอ้หมายิมมันพูดพร้อมกับหอมลงที่แก้มของฉันไอ้ผัวส้นตีน!“ทำไมถึงได้เพิ่งจะมาเชื่อว่ากูรักมึง ทั้งที่กูทั้งเหี้ยทั้งแรดทั้งร่าน ไอ้หมาตัวไหนมันพูด” คิดถึงคำที่พ่นออกมาจากปากหมา ๆ ของมันแล้วฉันก็อดที่จะหงุดหงิดไม่ได้“หมาตัวนี้นี่แหละ โอ๋ ๆ ไม่พูดคำหยาบดิมึง เดี๋ยวลูกของเราตกใจ” ไอ้ยิมมันพลิกตัวของฉันให้นอนหงายแล้วจากนั้นก็ขึ้นมาคร่อมฉันไว้ พร้อมกับยิ้มหวาน ทำหน้าไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร“ลงไป” ฉันชักสีหน้าใส่มัน“คุยกันก่อน”“เราไม่มีอะไรจะต้องคุยกันแล้วเว้ย” ฉันหันหน้าหนี“เยอะแยะเรื่องที่จะคุยกัน” ไอ้ยิมมันพูดจบก็หอมแก้มฉันค่ะ“วันนั้นมึงบอกเองไหมยิมว่าจะไม่มีทางกลับมาอยู่กับคนเหี้ย ๆ แบบกู”“บ้าไปแล้วแจง กูความจำเสื่อมจำอะไรไม่ได้ แต่กูก็ขอโทษนะ กูปากไม่ดีเ
เช้าวันต่อมา...แชะ แชะ...เสียงกดชัตเตอร์ดังรัว ๆ พร้อมกับที่นอนยวบยาบเหมือนมีคนเดินข้ามไปมา และเสียงหัวเราะคิกคัก เป็นการปลุกฉันได้ดีทีเดียวและคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากลูกสาวของฉัน“หัวเราะอะไรคนเดียวคะคนเก่ง” ฉันโอบรั้งจัสมินลงมานอนกอด เป็นจังหวะที่นางเดินมาทางฉันพอดีค่ะ“ก็ดีใจไงจ๊ะ พ่อกับแม่นอนกอดกัน จัสถ่ายรูปเก็บไว้ด้วย” แล้วจัสมินก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมากดให้ฉันดู นางกดเข้าคลังรูปภาพและโชว์ฉันค่ะเป็นรูปถ่ายที่ยิมมันนอนกอดฉัน หลายรูปมากค่ะ ทั้งที่อยู่ในอิริยาบถท่าเดียวล้วน ๆ“จัสมีความสุขที่สุดเลย” จัสมินวางมือถือแล้วพลิกตัวมากอดฉัน จากนั้นก็ย้ายตัวเองมานอนลงตรงกลางระหว่างฉันและยิม จัดแจงท่วงท่าให้ฉันโอบกอดนางและให้ยิมโอบกอดนางเช่นกัน คุณจัสเขาน่ารักนักล่ะ“ทำไมน่ารักแบบนี้ครับ” เวลาคุยกับลูกนี่พูดเพราะนักเชียว แต่ก็ดีแล้วค่ะ ถ้าพูดหยาบลูกคงตกใจ ฉันก็แค่อยากให้พูดกับฉันเพราะ ๆ บ้าง“น่ารักก็ต้องรักจัสเยอะ ๆ นะจ๊ะ” จ๊ะจ๋านี่มาตลอด ไม่มีเลิก“อยากให้รักเยอะ ๆ ก็ลุกไปแต่งชุดนักเรียนนะคะ วันนี้วันพุธใส่ชุดอะไรเอ่ย”“วันนี้ชุดพละ วันนี้เรียนพละจ้ะ”“เรียนพละแต่ห้ามใช้กำลังรุนแรงนะจ๊ะ” ฉัน
“นมครับ” ยิมมันยื่นแก้วนมมาตรงหน้าของฉัน พร้อมกับรอยยิ้ม“พูดเพราะแล้วขนลุก”“ตะร่อมไง” สายตาที่สื่อมานี่รู้ได้เลยอะว่ามันต้องการอะไรคืออีนี่ก็พร้อมอยู่แล้วไง ผลวิจัยออกมาว่าคนท้องมักมีความต้องการทางเพศสูง ซึ่งอีแจงเชื่อแล้วจ้า เชื่อมาก ๆ“รุนแรงไม่ได้นะบอกเลย” ฉันหยิบแก้วนมจากมือของยิมมาดื่ม และบอกกับยิม“ส่องกล้องเฉย ๆ พูดแล้วควยแข็งเลยไอ้เหี้ย” ฉันก้มหน้าลงมองทันทีที่ยิมมันพูดและเนื่องจากว่าเรากำลังจะนอนหลังจากที่ไปนอนเป็นเพื่อนจัสมินจนจัสมินหลับ ตอนนี้ยิมมันก็ใส่กางเกงนอนขายาวตัวเดียว ยืนตรงหน้าฉัน ซึ่งฉันก็เห็นเลยล่ะว่าไอ้ดุ้นของมันอะ แข็งจริง กำลังพองตัวขึ้นเรื่อย ๆ“อะไรจะขนาดนั้น” ฉันเล่นหูเล่นตาใส่และวางแก้วนมไว้ที่โต๊ะข้างเตียงเหมือนเคย และวันนี้คงไม่ลงไปชั้นล่าง เพราะยิมมันขนน้ำขึ้นมาเรียบร้อย“ไม่ได้เอานานไง เงี่ยน” พูดแล้วก็นั่งลงข้างฉันจากนั้นก็จับฉันขึ้นไปนั่งที่ตักของตัวเอง และก็หอมแก้มฉันค่ะ“เงี่ยนเหมือนกัน แต่เก็บอารมณ์อยู่” ฉันโอบที่ต้นคอของยิม และหอมแก้มมัน ตอนนี้ไม่มีกลิ่นบุหรี่แล้ว เพราะว่ายิมมันกลัวไม่ได้ใกล้ฉันกับลูกมันก็เลยเลิก แล้วก็ใช้สเปรย์ดับกลิ่นปากที่
หลายเดือนถัดมา...“คุณแจง คุณแจงจะเดินทำไมบ่อยนักคะ เดี๋ยวคุณจัสทำเองค่ะ” เสียงของลูกสาวผมเองครับ ปัจจุบันก็ยังเรียกคุณจัสคุณแจงคุณยิม และคุณกับทุกคนในครอบครัวตอนนี้จัสมินกำลังบ่นแจงที่กำลังเดินจดเลขทะเบียนรถของลูกค้าที่เอามาจอดไว้ล่าสุด โดยที่จัสมินซึ่งเดินมาจากบ้านแม่ของผมเริ่มโวยวายทันทีที่เห็นคุณแม่ท้องโตเดินเหินไปมา ในขณะที่ตอนนี้ผมและลูกน้องกำลังดูอาการของรถให้ลูกค้าอยู่“อันนี้คุณจัสทำไม่ได้นะคะ เดี๋ยวคุณแจงทำเอง คุณจัสไปนั่งกินขนมในห้องนะคะ คุณแจงเตรียมไว้ให้แล้ว”“ให้คุณยิมทำสิคะ เดี๋ยวน้องเหนื่อย คุณแจงไปพักกับคุณจัสเถอะค่ะ” เดี๋ยวนี้จากจ๊ะจ๋า กลายเป็นคะขาค่ะแล้วครับตามแต่แม่แจงไอดอลของจัสมินจะพาพูดนั่นแหละครับ“คุณยิมทำงานหลายอย่าง เห็นไหมคะรถลูกค้ารออีกตั้งหลายคัน เราต้องช่วย ๆ กันนะคะ”“ทำ ทำไมเยอะแยะคะคุณยิม น้องใกล้ออกมาแล้ว คุณยิมใช้แรงงานคุณแจงทำไมเยอะนักคะ คุณยิมไม่รักคุณแจงกับคุณจัสตินเหรอคะ” ตะโกนแหกปากมาต่อว่าผมครับไม่มีที่ลงก็ลงที่พ่ออย่างผมนี่แหละ แล้วชื่อของลูกชายคนเล็กของผมก็คือ‘จัสติน’ และคนที่ตั้งก็คือคุณจัสมินนั่นแหละครับ‘ถ้าไม่ให้คุณจัสตั้งชื่อน้อง คุ
สองปีต่อมา…“จัสมิน หนูเอาทองย่ามาเป็นของเล่นวิ่งล่อน้องไม่ได้นะลูก” แม่ของยิมส่งเสียงดังลั่นร้านทอง“จัสตินชอบค่ะคุณอัน คุณจัสขอยืมแป๊ปเดียวค่า” เสียงของจัสมินตะโกนกลับมาถ้าให้เดาเหตุการณ์ภายในร้านทองคงจะประมาณว่าพี่น้องวิ่งเล่นกันโดยที่พี่สาวเอาสร้อยทองมาหลอกล่อแน่นอนต้องบอกว่าจัสตินลูกชายของฉันชื่นและชอบทองมาก ๆ ต่างจากจัสมินที่ดูเหมือนจะชอบการซ่อมรถเหมือนพ่อ เวลาไม่กวนน้องก็จะไปถามเด็กที่ร้านว่าตรงนี้เรียกอะไร เอาไว้ทำอะไรและเรื่องเซอร์ไพรส์สองปีที่ผ่านมานั้น ประมาณสิบรอบได้ที่จัสมินโดนเรียกผู้ปกครอง เพราะทำร้ายร่างกายเพื่อน และคนที่ไปก็คือยิม รายนั้นบอกจะไปจัดการเอง เพราะว่าฉันยอมคน ยิมมันบอกว่าลูกสาวของมันปกป้องตัวเองถ้าไม่มีใครว่า จัสมินไม่มีทางลงมือทำร้ายใครก่อนก็นั่นแหละค่ะ พ่อลูกหัวร้อน อีแจงปวดหัว“ทำไมช้าวะ” ยิมมันเอ่ยถามเมื่อฉันเดินเข้ามาในร้าน หลังจากที่เดินไปเอาบิลรายการซ่อมรถของลูกค้าที่เมื่อคืนเอาไปทำที่บ้านของฉัน“ยืนแอบฟังย่ากับหลานป่วนกัน จัสมินเอาทองมาล่อน้องอีกแล้ว” ฉันเล่าให้ยิมฟังด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม “สมใจแม่เลยไง อยากมีหลาน แล้วจัสมินนี่อย่างมึน รอ
“มากันแล้ว มา ๆ ลูกเข้าบ้านเร็ว” แม่ของผมกวักมือเรียกผมและภามเพื่อเข้าบ้านหลังจากที่เมื่อคืนผมโดนจัดชุดใหญ่ เพราะไม่ไว้ใจเก็บเรื่องไร้สาระของภามไปฝันเป็นตุเป็นตะ พอตื่นมาก็งี่เง่าเง้างอนนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมกลับมาบ้านแล้วโดนกระหน่ำแทงเช้ามาภามมันเลยลากผมมาทานข้าวเช้าที่บ้านของผม เนื่องจากเมื่อคืนมันบังคับให้ผมโทรนัดครอบครัวซึ่งตลอดการเดินทางมาที่บ้านแม่ของผมนั้น ผมเกร็งมากครับ เกร็งกลัวไปหมด กลัวครอบครัวจะรับเรื่องของผมกับภามไม่ได้กลัวพวกท่านจะกีดกัน ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นผมคงทนไม่ได้แน่นอน“พ่อแม่สวัสดีครับ” ภามยกมือขึ้นไหว้พ่อกับแม่ของผม ซึ่งพ่อนั่งอยู่ที่เก้าอี้ของโต๊ะอาหาร ส่วนแม่ท่านเพิ่งจะเดินไปนั่งที่ข้างกายพ่อ“นั่ง ๆ ภาม แล้วนี่นึกอะไรถึงพากันมาแต่เช้า” พ่อยิ้มรับและชวนให้นั่ง ต้องขยายความก่อนนะครับว่าภามมาที่บ้านของผมบ่อย มาในฐานะเพื่อนในความเข้าใจของครอบครัวผม“มีเรื่องจะพูดคุยกับพ่อแม่ครับ” ภามเป็นคนตอบ ส่วนผมยังยืนเกร็งเพราะกลัวสิ่งที่กำลังจะเกิดในเวลาอีกไม่นานที่จะถึง“ดูท่าจะซีเรียส งั้นกินข้าวกันก่อนค่อยคุยกันนะ นั่งทานลงทานข้าวสิเค” แม่ของผมบอกแล้วยิ้ม ผมจึงนั่ง
“เค เค เคด่วย ไอ้เค!!!” เสียงแว่วมาของไอ้ภามมันเอ่ยเรียกผมพร้อมกับแรงเขย่าแรง ๆ“ไอ้ภาม!!!” ผมเงยหน้ามองมันด้วยความตกใจ“เป็นบ้าอะไรของมึง เห็นกูทำไมต้องตกใจ มึงมีความผิดอะไร พูดมา” ไอ้ภามมันเดินมาที่โซฟาที่ผมนอนอยู่และนั่งลงข้างผมก่อนจะยื่นมือมาดึงจับที่ตัวผม“อย่ามาจับกู ไอ้เหี้ย มึงมันเลว ใจร้าย ทำร้ายจิตใจกู ที่ทำทุกอย่างก็แค่สงสารกู มึงไม่เคยรักกูเลย” ผมขยับตัวหนีออกจากมันปัก!ไอ้ภามมันตบที่หัวของผม“ไอ้เค รอบนี้อะไรพูดมา กูงอนเรื่องที่บ้านของมึง มึงถึงขั้นเก็บเอาไปฝันคิดว่ากูนอกใจใช่ไหม มึงถึงได้นอนร้องไห้อยู่แบบนี้”เวรแล้วครับ“อย่าบอกนะว่าทั้งหมดเพราะกูฝันเป็นตุเป็นตะ” ผมมองไอ้ภามแล้วทำหน้าอึ้งรอครับ เพราะรู้สึกเหมือนจะรู้คำตอบแล้ว“เออดิ กูเนี่ยนะจะนอกใจมึง ไอ้เหี้ย เรื่องนี้นี่คิดไม่เลิกสักทีเนอะ แล้วนี่ยังไง”“ยังไงอะไรภาม” เมื่อรู้ตัวว่าทุกอย่างคือความฝันที่ผมสรรค์สร้างมันขึ้นมา ผมก็รีบขยับตัวนอนหนุนที่ตักของคนที่ผมเรียกว่าแฟน รีบเตรียมแผนอ้อนมันเลยครับ“มึงให้ลูกค้าในร้านกอดทำไม”แต่เดี๋ยวนะ!!!เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด เรื่องนี้ผมจะนอนท่านี้ไม่ได้เหมือนจะไม่ทัน ผมรู้ตัวช
สามวันผ่านไป...สามวันผ่านไปแล้ว ชีวิตของผมก็ยังจมอยู่กับความเมา ผมเช่าห้องพักรายวันแล้วซื้อเหล้าเข้ามากินแบบไม่คิดอะไรทั้งนั้น นอกจากเรื่องราวที่ผ่านมาของผมกับไอ้ภาม ผมคิดซ้ำ ๆ วกไปวนมา คิดแล้วคิดอีกและเมาหลับไปผมโคตรเสียศูนย์ที่ต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้แต่วันนี้มันถึงเวลาที่ผมจะต้องกลับใช้ชีวิตของผมแล้วครับเรื่องร้านที่ทำร่วมกันมา ถ้าหากว่ามันจะเอาคนรักของมันมาทำ ผมก็พร้อมจะเดินออกมาพร้อมเงินทุนและกำไรที่ผมสมควรได้เรื่องนี้คงต้องคุยกันอีกทีให้เข้าใจแต่ที่แน่ ๆ คือผมจะไม่กลับไปอยู่ในจุดที่มันสงสารผมแน่นอนครับสองชั่วโมงต่อมา...ณ ร้านอาหาร“สวัสดีค่ะคุณเค” พนักงานในร้านยกมือไหว้ผมเหมือนที่เคยทำตลอด แต่วันนี้มันแปลกไปตรงที่ผมไม่ยิ้มครับ คนที่ตกอยู่ในอารมณ์แบบผมคงไม่มีอารมณ์มาปั้นหน้ายิ้มหรอกใช่ไหมครับ ผมไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้นผมเดินผ่านพนักงานมาที่ห้องทำงานด้วยใบหน้าที่นิ่งขรึม ซึ่งผมไม่เคยเป็นแบบนี้เลยตั้งแต่เปิดร้านมา จึงไม่แปลกที่จะเป็นจุดสนใจ เพราะผมก็หายไปสามวันเต็ม ๆผมเดินเข้ามาในห้องทำงานแล้วนั่งดูยอดบัญชีการซื้อของเข้า และเมนูอาหารที่ขายออกไป ผมตรวจผมเช็กแบบที่ผมเคยทำ เพื่อ
ตอนนี้เวลาหนึ่งทุ่มนิด ๆ ครับ ผมกลับมาบ้านของภาม บ้านที่ภามมันซื้อไว้ก่อนที่เราจะรู้จักกัน เราอาศัยอยู่ที่นี่ด้วยกัน และนาน ๆ ครั้งเพื่อนจะมาปาร์ตี้ โดยที่มีแจงเป็นสายเมาที่ชอบเต้นจนสุดเหวี่ยง และสุดท้ายก็น็อกกลางอากาศ ตั้งแต่ที่แจงมีลูกคนที่สอง การเที่ยวเตร่เมาแล้วเลื้อยของแจงก็น้อยลง หรือเพราะมีความเป็นแม่ที่มากขึ้นก็ไม่รู้นะครับ แจงถึงได้ดูกลายเป็นคนดีแต่กว่าจะดีได้ กว่าจะลงตัวกับคนที่เป็นผัวอย่างยิมก็ยากเอาเรื่องนะครับ ไหนจะเรื่องของจัสมินที่แจงปกปิดแม้กระทั่งเพื่อนว่าใครคือพ่อ ไหนจะผู้ชายที่ตามจีบ และยังเมียเก่าของยิมที่ยิมเคยรักมาก แต่ละปัญหาของทั้งคู่มันทำให้ผมเหนื่อยและท้อแทนเลยครับ“เฮ้อ” ผมถอดถอนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เมื่อขวดเหล้ามันกระจัดกระจายระเนระนาดไปหมด แล้วก็ต้องเป็นผมที่ต้องเก็บเป็นประจำตอนนี้คนเมาคงอยู่ในห้องนอนแต่เดี๋ยวนะ!!!ทำไมมีแก้วสองใบ ใครมาดื่มกับมันวะสองเท้าของผมรีบเดินมาที่ห้องนอน ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อใจแต่ผมแค่อยากพิสูจน์ และไม่อยากให้เป็นแบบที่ผมคิดแต่แม่ง...ไม่ใช่ไง มันไม่ใช่เมื่อเสียงที่ดังแว่วมาจากห้องนอน ตามทางเดินที่ผมกำลังก้าวไป ยิ่งผมเฉียดใกล้
สวัสดีครับ เรียกผมว่า ‘เค’ อย่างที่แจงเรียกก็แล้วกันนะครับผมมีแฟนครับ ชื่อ ‘ภาม’ เป็นเจ้าของร้านอาหารที่เราสองคนร่วมกันสร้างขึ้นมาเพื่อเลี้ยงชีพของเราทั้งสอง กิจการร้านอาหารของเราดำเนินไปได้ด้วยดีครับคงจะเพราะเจ้าของร้านทั้งสองคนหล่อกันทั้งคู่ จะว่าผมหลงตัวเองไม่ได้นะครับ เพราะส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาทานอาหารร้านผมนั้นเป็นสาว ๆ กันซะมากกว่าคงไม่ต้องบอกพวกคุณที่ตามแจงมาก็คงจะรู้ว่าผมกับภามเป็นคู่รักร่วมเพศ เป็นคู่เกย์กันขอสารภาพตามตรงนะครับว่าตอนแรกผมก็ไม่คิดที่จะชอบผู้ชายด้วยซ้ำ เพราะที่ผ่านมาผมชอบผู้หญิงมาตลอด แต่แล้วจู่ ๆ ชีวิตที่เจอแต่ความผิดหวังก็ทำให้ความรู้สึกของผมเปลี่ยนไป อาจจะเพราะจุดเริ่มต้นมันมาจากการประชดชีวิตที่คบใครก็มีแต่โดนทิ้ง โดนหักหลังมาตลอดผมก็เลยลองมองหาผู้ชายดู เผื่อว่าจะได้ไม่ต้องเจอกับความเสียใจ เหมือนตอนที่คบกับผู้หญิงจุดเปลี่ยน จุดแปลกใหม่ในชีวิตของผมเกิดขึ้นเมื่อผมต้องมากลายเป็นฝ่ายรับจากผู้ชายที่เพิ่งจะรู้จักกัน ตอนนั้นขอเรียกเป็นวันไนท์สแตนด์แล้วกันนะครับที่เรียกวันไนท์สแตนด์ก็เพราะอยากจะทดลองก่อนที่จะเริ่มมีคนรักที่เรียกว่าเพศเดียวกันและผู้ชายคนแรกที่ไ
“พวกแกจะบ้ากันหรือไง ทำอะไรกันอยู่ กล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง!!!” แม่พูดเสียงสั่นดวงตากำลังเอ่อคลอด้วยน้ำตา ท่านกำลังมองฉันและพี่ชาย“แค่เรารักกัน ทำไมแม่ไม่เข้าใจ”“รักกันฉันเข้าใจ แต่พวกแกจะรักกันแบบนี้ไม่ได้ พี่น้องจะรักกันแบบนี้ไม่ได้”“แม่…”“หยุดเรื่องน่ารังเกียจนี้ซะยัยแพท แกเป็นถึงครู แกไม่ควรให้เรื่องนี้เกิดขึ้น” แม่หยิบยาดมขึ้นมาสูดดม“เรารักกันครับแม่ ผมรู้ว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ แต่เรื่องของหัวใจมันบังคับกันได้เหรอครับ แม่ครับ…”“เงียบปากไปเลยพีค นี่พวกแกเป็นบ้ากันหรือไง กำลังทำอะไรอยู่ ทำอะไรทำไมไม่คิดถึงใจฉันบ้าง” แม่ของฉันเริ่มหลั่งน้ำตาฉันกับพี่ชายกำลังทำให้แม่บังเกิดเกล้าเสียใจ เพราะเราทั้งสองตัดสินใจกลับมาบ้านและบอกเรื่องราวที่เราสองคนได้แอบทำร่วมกันมาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี เมื่อแม่ได้ยินเรื่องที่พี่ชายเป็นคนเอ่ยปากเริ่มเล่า ท่านก็เริ่มหน้าซีด และหลั่งน้ำตาน้ำตาของแม่ทำให้ฉันรู้สึกผิดมาก แต่เมื่อพูดออกไปแล้วคงจะแก้ไขอะไรไม่ได้อีก และคงต้องยอมรับความจริงซึ่งมันดูเหมือนเราทั้งคู่บีบบังคับให้แม่ยอมรับเรื่องของเราเรื่องระยำที่เราแอบทำ“แม่คะ แพทขอโทษ แต่
“คิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรแพท” เมื่อฉันก้าวขาเข้ามาในห้องของคอนโด พี่ชายที่พ่วงด้วยตำแหน่งสามีก็เริ่มโวยวาย“ยุ่งอะไรด้วย” ฉันวางของแล้วเดินหนี“นี่ผัว”“ผัวคนอื่นน่ะสิ” ฉันสวนกลับทันที“ไม่โดนเอาหลายวันเลยปากดีว่างั้น” พีคเดินมาดึงฉันเข้าหาตัว“อย่ามาพูดแบบนี้ เราเลิกกันแล้ว ถอยไป” ฉันชักสีหน้าและน้ำเสียงไม่พอใจ“พี่ไม่เคยเลิก และอย่าคิดจะมีใหม่ มาย้ำความสัมพันธ์กันเถอะจะได้จำว่าไม่ควรไปสนิทกับผู้ชายคนไหน” พีคว่าและอุ้มฉันขึ้นพาดบ่า จากนั้นก็พาฉันเดินเข้ามาในห้องนอนวางฉันลงที่เตียงนอน“ออกไปเดี๋ยวนี้ เราเลิก…อื้อ” กลีบปากหนาประกบชิดที่ริมฝีปากของฉัน คำพูดถูกกลืนหาย สัมผัสที่คุ้นเคยมานานหลายปีถูกแทรกเข้ามาแทน“อย่าบอกว่าเราเลิกกัน พีครักแพท รักแพทมาก ๆ” พี่ชายของฉันถอนจูบออกและพูดออกมา ในขณะที่พูดเขาก็ดึงกางเกงชั้นในของฉันออก และใช้นิ้วเข้ามาเขี่ยที่รูร่องแคบ จังหวะเดียวกันกับการป้อนจูบให้ฉันเคลิบเคลิ้มอีกครั้ง และอีกครั้ง จูบซ้ำ ๆ ย้ำอยู่แบบนั้นกระทั่งแท่งเอ็นสอดเข้ามาในช่องแคบของฉัน เอ็นแท่งเดียวที่มีโอกาสได้เข้า และคงจะเป็นดุ้นเดียวตลอดไปปึก!“อ้ะ! มันจุกนะพีค” ฉันร้องเพราะพีคกระแท
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา…หลังจากที่ฉันย้ายออกมาอยู่ข้างนอกเพียงลำพัง ภาพขวางหูขวางตาที่ต้องเห็นคนรักสวีตหวานกับภรรยาของเขาก็ไม่ปรากฏให้ฉันได้เจ็บปวดหัวใจจะมีก็แต่ความคิดถึง ซึ่งฉันคิดถึงเขามาก ฉันร้องไห้ตาบวมไปสอนเด็กทุกวันก็ฉันรักเขามาตั้งนาน จะไม่ให้คิดถึงเลยฉันคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้นะ เพราะฉันคิดถึงเขามาก มากสุดหัวใจเขาโทรมา ส่งข้อความมา แต่ฉันเพิกเฉยฉันไม่อยากจะเป็นชู้อีกต่อไปแล้ว ฉันไม่อยากทำเรื่องแบบนั้นอีก“ครูแพทไปไหนต่อไหมครับ” เสียงของครูหนุ่มเอ่ยทักฉันค่ะ“แพทว่าจะกลับคอนโดเลยค่ะ ครูหนุ่มมีอะไรให้แพทช่วยเหรอคะ” ฉันตั้งคำถามเผื่อว่าครูหนุ่มจะมีอะไรให้ฉันช่วยเหลือเรื่องงานของเขาครูหนุ่มคือครูที่ย้ายมาสอนแทนครูเอกที่สอนวิชาพละศึกษา“อ้อ ผมแค่ต้องการจะถามอุปนิสัยเด็กชั้นม. 4/3 บางคนน่ะครับ เห็นครูแพทสอนเด็กห้องนั้นด้วย พอดีรู้สึกเหมือนจะมีเด็กที่แตกต่างอยู่ครับ”“อ๋อ ถ้างั้นเด็กคนไหนคะ เอ่ยชื่อมาเลย แพทก็ค่อนข้างจดจำเด็กห้องนั้นได้พอสมควร”“จะเป็นอะไรไหมครับถ้าหากว่าจะไปทานข้าวเย็นด้วยกันแล้วพูดคุยกันไป” ครูหนุ่มพูดแล้วจับลูบที่หลังคอตัวเองฉันพอจะเข้าใจที่ครูหนุ่มสื่อแล้วล่ะเพ
“ฮัลโหลลล สามี มิสยูที่สุด” พนักงานแอร์ของสายการบินหนึ่งเดินเข้ามาสวมกอดผม“เหนื่อยไหม” ผมผละกอดออกและลากกระเป๋าเดินทางให้เธอ“ไม่อะ แต่ตอนนี้หิว แวะหาอะไรทานด้วยนะคะที่รัก”“อยากกินอะไร”“สเต็กโคขุนแล้วกัน”“โอเค”จากนั้นผมและเธอก็เดินมาที่ลานจอดรถครับ ผมชื่อ ‘พีค’ เป็นเพื่อนกับไอ้ยิม และไอ้แจง ที่นั่งเบาะข้างกายผมอยู่ตอนนี้ก็คือ ‘ภรรยา’ ใช่ครับ ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่ถูกต้องตามหัวใจที่เรียกร้องเพราะคนที่ผมรักมาตลอดคือน้องสาวของผม เธอชื่อ ‘แพท’ ผู้หญิงคนเดียวที่ผมรักแตกต่างจาก ‘ครีม’ ผู้หญิงที่แม่ของผมหาให้ ผมยอมแต่งงานกับครีมเพราะไม่อยากให้แพทต้องโดนบังคับแต่งกับผู้ชายอื่นที่แม่เลือกให้ ผมก็เลยเลือกที่จะแต่งเองและก็กลายเป็นว่าผมผิดคำพูด เห็นแก่ตัว ผิดสัญญา“บนรถดีไหมพีค ครีมอยากตื่นเต้นอะ” ขณะที่ผมกำลังจะขับรถออกจากลานจอดรถของสนามบินครีมเธอก็เริ่มเอ่ยชวนพร้อมการเล้าโลม“คนเยอะ”“แต่รถติดฟิล์มดำไง นะ ๆ ตื่นเต้นดีออก ขย่มกันตอนที่คนเดินผ่านไปมา ไหนดูซิ น้องชายของพีคคิดถึงน้องของครีมไหมน้า” แล้วครีมก็เริ่มลูบตรงเป้าของผมพร้อมกับรูดซิปลง“ครีม…” ผมเผลอครางออกมาเพราะเธอใช้ปาก