ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 36 ฉันรู้สึกหน้าชา… สิ่งที่เฝ้าวนเวียนหาคำตอบอยู่ในหัวจนแทบไม่เป็นอันกินอันนอนมาตลอดหลายวัน เฉลยชัดเอาตอนนี้เอง นอกจากเก๋าจะไม่ได้คิดอะไรแบบเดียวกัน มีแค่ฉันเท่านั้นที่ละเมอเพ้อพกไปเอง แต่การพูดแบบนี้ ก็ไม่ต่างอะไรจากการบอกว่าทุกเรื่องระหว่างเราที่ผ่านมามันเป็นแค่เรื่องของสัญญา ไม่มีความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าเราจะสนุกด้วยกันแค่ไหน ไม่ว่าจะเหมือนมีความสุขแค่ไหน แต่มันก็เป็นฉันที่คิดเอาเองฝ่ายเดียวว่าสิ่งที่ได้รับมันคือเรื่องจริง มีแค่เสี้ยวเล็ก ๆ ในความคิดเท่านั้นที่คิดไปว่าเป็นเพราะงานมันก็แย่ที่ดันคิดเข้าข้างตัวเองมากขนาดนี้ เป็นฉันเองที่คำนวณตาชั่งสองฝั่งในใจผิดพลาดไป ห้วงคิดพลันย้อนนึกกลับไปยังค่ำคืนหนึ่งที่เราสองคนเอ่ยปากท้าทายกัน… ‘ผมใจดีด้วยแบบนี้ พี่อย่ามาตกหลุมรักก็แล้วกัน’ ถึงตอนนี้ก็ได้ผลสรุปออกมาแล้ว ว่ากานดาคนนี้พ่ายแพ้หมดรูปจริง ๆ ความสงัดเงียบระหว่างเราต่างไปจากทุกที เก๋าเงียบไปแล้ว และเบนสายตามองไปทางอื่นด้วยสีหน้าลำบากใจ ฉันเองก็เงียบเหมื
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 37 เก๋าวันนี้เป็นวันที่ 3 ที่ผู้ว่าจ้างบอกให้ผมหยุดงาน…หลังจากคืนแรกที่ผมทำหน้าด้านแวะไปดูกานดาเพราะความเป็นห่วง พูดอยู่ได้ไม่กี่คำก็ถูกปิดประตูกระแทกหน้า คืนที่สองก็ไม่ได้ต่างกัน ซ้ำคืนหลังนี้ยังไม่ทันได้พูดอะไรด้วยซ้ำกานดาก็ปิดประตูไล่ทันทีแต่คืนนี้มันจะไม่เป็นแบบนั้น ผมคิดมาแล้วว่าจะแวะเข้าไปตอนดึก ๆ หน่อย เจ้าของห้องเป็นคนนอนไว ซ้ำถ้าได้นอนหลับลึกแล้วจะไม่ค่อยตื่น และจากตรงนี้ผมก็คิดว่าเจ้าตัวคงไม่มีอารมณ์ลุกมาไล่แขกกลางดึกกลางดื่นแน่อีกอย่าง… ผมมีทั้งคีย์การ์ด ทั้งกุญแจห้อง จะต้องกลัวอะไร เข้านอกออกในได้สบายอยู่แล้วการสนทนากันอย่างจริงจังครั้งสุดท้ายของเรามันจบไม่สวยเท่าไรตอนที่ผมพูดไปว่าระหว่างเรามันก็แค่งานก็ถ้าบอกว่า เดาไม่ได้ว่ากานดากำลังคิดอะไร คงจะเป็นการตอแหลหน้าด้าน ๆแต่เพราะรู้ ผมถึงหลุดพูดออกไป…แรกเริ่มที่เราต่างฝ่ายต่างรู้จักกัน วันที่นั่งร่างสัญญาด้วยกันในคืนนั้นผมยังจำได้ดีทุกอย่าง ข้อสัญญาของเรามันค่อนข้างชัดว่าหลักแล้วเป็นเรื่องของผลประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่ายผมทำเพื่อเงิน ส่วนกานดาทำเพื่อจุดประสงค์ส่วนตัวอย่างการหาค
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 38 วันต่อมา ตลอดเช้าที่ผ่านมาช่างเป็นช่วงเวลาที่น่าอึดอัด ฉันต้องฝืนทำตัวเป็นปกติทั้งที่ในใจนั้นไม่ใช่เลย สามวันที่ผ่านมาแม้จะบอกให้เก๋าหยุดงานเพื่อที่ฉันจะได้ลองอยู่กับตัวเองดูบ้าง แต่คนที่ขีดเส้นความสัมพันธ์ของเรากลับเป็นฝ่ายมาเคาะประตูห้องทุกคืน ซ้ำยังทำหน้ามึนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนที่ว่ายังคงทำตัวเหมือนปกติทั้งที่สถานการณ์ระหว่างเรามันไม่ปกติเลยแม้แต่น้อย มีบ้างที่ดูจะปั้นหน้าไม่ถูกเวลาโดนพูดดักคอ แต่สุดท้ายเก๋าก็เต๊ะท่าทำนิ่งเฉยได้อยู่ดี วันนี้เป็นวันที่เราจะไปยังเกาะที่อยู่ห่างออกไปจากชายฝั่งของทะเลจังหวัดชลบุรี และรอบนี้ไม่ได้มีแค่ฉันกับเก๋า แต่เมื่อหลายวันก่อนฉันเองเป็นฝ่ายเอ่ยปากชวนเพื่อนของเก๋าไปด้วยกันเพราะทุกคนว่างและยังไม่ได้กลับไปเรียน มหา’ลัยยังไม่เปิดพวกนักศึกษาคงจะว่างอยากหาอะไรทำ และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมตอนนี้บนเรือสปีดโบตที่เราเหมาลำส่วนตัวถึงได้เห็นหน้าคนคุ้นเคยอย่าง ช้าง กานต์ และพายุ ซึ่งเป็นสามคนที่ว่างไปด้วยกันกับเรา ทุกอย่างมันก็ควรจะเป็นไป
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 39 สองเท้าเดินตัดชายหาดมาไกลจนปลายเท้าแตะเข้าที่ทรายเม็ดละเอียดซึ่งยังคงชื้นอยู่ และวินาทีต่อมาเกลียวคลื่นเล็ก ๆ ของน้ำทะเลก็สาดซัดเบา ๆ เข้าหาเท้าทั้งสองข้าง เวลานี้เริ่มจะเย็นแล้ว แดดไม่ค่อยแรงเท่าไรแต่ก็ยังพอมี เด็กเล็กเริ่มลงมาก่อกองทราย เริ่มลงไปเล่นในระดับน้ำตื้นกันแล้ว แม้เสียงหัวเราะของเด็กน้อยที่ได้ยินจะฟังดูสดใสแค่ไหน แต่มันไม่ได้ช่วยให้อารมณ์ของฉันผ่อนคลายลงแม้แต่น้อย ในใจยังเต็มไปด้วยความรู้สึกนึกคิดสารพัด แบบที่ตัดออกไปแม้สักเรื่องยังทำไม่ได้ ระหว่างที่ยืนมองเกลียวคลื่น ร่างสูงของคนที่เดาได้ว่าเป็นใครก็มาหยุดยืนที่ข้างกาย พร้อมกล้องถ่ายรูปซึ่งคงเป็นของใครสักคนที่เตรียมเอามาด้วย “น้องสาวของเธอไม่อ้อนจะมาด้วยเหรอ?”รู้อีกทีก็พึมพำประชดเสียงเบา ช่วงนี้ฉันประชดเก่งมาก ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน… “พี่อยากถ่ายตรงไหน? ไปตรงโขดหินตรงนู้นไหม?”คนฟังเปลี่ยนเรื่องในทันทีพร้อมทั้งชี้นิ้วไปยังทิศที่ตนว่า แต่สายตาฉันกลับมองไปเห็นกลุ่มสาว ๆ ที่กำลังถ่ายรูปอยู่ใกล้ ๆ กันเข้าพอดี เหตุ
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 40 ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันหลับไปตอนไหน แต่เดาว่าคงสลบหมดแรงไปทั้งยังทำกันอยู่เพราะจำไม่ได้จริง ๆ ว่าเก๋าหยุดกระหน่ำสอบสะโพกเข้าใส่เมื่อไร… และแค่ขยับตัวที่กึ่งกลางกายก็จุกจนต้องค้างอยู่ท่าเดิมอีกครู่ใหญ่ สายตากวาดมองไปรอบห้องก็พบว่าเหลือแค่ฉันคนเดียวที่นอนห่มผ้าจนถึงคออยู่บนเตียง ห้องทั้งห้องสงัดเงียบเชียบ แสงที่ลอดผ่านชายขอบผ้าม่านเข้ามาดูจะอ่อนแสงลงหลายเท่า ตอนนี้คงใกล้จะค่ำแล้ว… เพราะเก๋าคนเดียวเลยจริง ๆ ที่ทำให้ฉันไม่ได้ทำอย่างอื่นนอกจากนอนรับแรงกระแทก แต่แค่ใจพลันคิดถึงฉากที่ว่า ประกอบกับกลิ่นเบาบางของอะไรบางอย่างที่ยังคงอวลอบอยู่ในห้องก็ทำเอาร่างกายร้อนรุ่มขึ้นมาอีก หลังจากใช้เวลานอนทำใจอยู่นานฉันก็ลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้าเพื่อที่จะออกไปข้างนอก หากสายตากลับต้องชะงักอยู่ที่ถังขยะซึ่งอยู่ข้างเตียง ในนั้นมีถุงยางใช้แล้วไหนจะกล่องเปล่า ๆ ของของที่ว่านั่นก็อีก เราเก็บกดอะไรกันขนาดนี้ก็บรรยายไม่ถูกเหมือนกัน… ข้างนอกเริ่มจะมืดแล้วแต่ยังมีแสงสีส้มรำไรที่ปลายขอบฟ้า บังกะโลที่เราจองไว้
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 41 หลังจากกินอาหารมื้อค่ำเสร็จแล้ว เราทั้งหมดพากันมานั่งก่อกองไฟที่ชายหาดตรงบริเวณด้านหน้าของที่พักบรรยากาศดี วิวดี พระจันทร์เต็มดวง เสียงระลอกคลื่นสาดซัดดังคลอเป็นจังหวะราวกับกำลังบรรเลงบทเพลงไพเราะเสนาะหู รวมถึงการสนทนากันอย่างสนุกสนานของทุกคนทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาไม่ได้ช่วยให้จิตใจของฉันสงบลงแม้แต่นิดเดียว กานต์เอากีตาร์โปร่งมาด้วย และตอนนี้นอกจากเสียงเกลียวคลื่นแล้ว ก็ยังมีเสียงเกาสายกีตาร์ดังคลอประกอบกับเสียงหวานใสแจ๋วของหมวยที่รับหน้าที่ร้องเพลงโดยมีทุกคนนั่งฟังด้วยสีหน้ารื่นเริง คงเป็นเพราะหมวยนั้นหน้าตาน่ารัก ทั้งเนื้อเสียงก็หวานหูออกอย่างนั้น แม้ใจลึก ๆ จะรู้สึกบางอย่างแต่ฉันก็จำต้องตามน้ำไป พยายามจะไม่คิดถึงเรื่องเมื่อชั่วโมงก่อนตอนที่เราได้นั่งสนทนากันเพียงลำพัง ขวดเบียร์เย็น ๆ ถูกส่งต่อมาให้หลังจากพนักงานของรีสอร์ตหอบหิ้วเอาถังใบโตซึ่งบรรจุน้ำแข็งกับเบียร์มาส่ง และรอบนี้ฉันไม่ลังเลที่จะยกมันขึ้นดื่มด้วยเพราะบรรยากาศเป็นใจในการทำกิจกรรมยามค่ำคืนแบบที่วัยรุ่นมักจะทำกัน อีกอย่างคงเพราะตัวฉันเ
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 42 หลังจากนั้นก็วงแตก… คล้อยหลังสองคนนั้นไปได้ไม่ถึงสองนาทีฉันก็ขอตัวกลับเข้าที่พัก เพราะบรรยากาศมันคงไปต่อไม่ได้แล้ว แต่สวรรค์คงจะไม่ได้เอ็นดูกานดาคนนี้อีกเหมือนเคย ที่ทำให้ฉันต้องมาเห็นภาพบาดตาเข้าอีกรอบ… ทางเดินมืด ๆ มีเพียงแสงจากไฟทางบนพื้นซึ่งคงจะไม่ได้เปลี่ยนหลอดไฟมานานส่งผลให้รอบตัวเป็นเพียงภาพสลัวรางและแม้ภาพที่ได้เห็นจะไม่คมชัดขนาดทีวี 4K แต่ฉันก็มองชัดถึงขนาดนั้น ห่างออกไปไม่ถึงห้าเมตร เก๋ากับหมวยกำลังยืนคุยกันอยู่ด้วยท่าทีซีเรียสจริงจัง และน่าตลกเหลือเกินที่ฉันดันมาได้ยินอะไรที่ไม่อยากจะได้ยินเข้าให้ แม้ใจจะบอกให้หันหลังกลับแต่ขามันไม่ยอมขยับ ยังคงยืนนิ่งฟังอยู่อย่างนั้น ยังตั้งอกตั้งใจเงี่ยหูฟัง ทั้งที่รู้ว่าตัวเองจะต้องปวดใจ… “เฮียละเลยหมวยมานานมากแล้ว” “ก็บอกว่าต้องทำงาน” “แล้วจะมาสัญญาว่าจะดูแลทำไม?” “ที่โอนเงินให้ใช้ทุกเดือนนี่ไม่เรียกว่าดูแลตรงไหน?” “หมวยไม่ได้ต้องการแค่เงิน” “หมวย…” “
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 43 วันต่อมาเรากลับมาแล้ว และเก๋ากำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำระหว่างที่รอฉันก็ช่วยเก็บกระเป๋าให้คนที่ว่าซึ่งคงไม่คิดว่าสัญญาจ้างงานของเราจะจบลงในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้…แม้จะทำใจแข็งแค่ไหน แต่น้ำตามันก็เอาแต่ไหลจนน่าหงุดหงิดสัมภาระ รวมถึงของใช้ส่วนตัวของเก๋าทุกชิ้นถูกฉันจับยัดใส่กระเป๋าเป้ใบโตที่ได้เห็นบ่อย ๆ เวลาเราออกต่างจังหวัดด้วยกันยัดไปยัดมามันก็เต็มจนแทบจะรูดซิปปิดไม่ได้ เลยมีบางส่วนที่ยังคงกองรวมกันไว้รอให้คนในห้องน้ำออกมาจัดการต่อเองฉันนั่งลงที่ขอบเตียงพร้อมหนังสือสัญญาในมือที่ไม่อยากจะอ่านแต่ก็เผลอลากสายตาเลื่อนผ่านจนได้สัญญาที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นสัญญาใจ ไม่มีหลักค้ำประกัน ไม่มีพยาน ไม่มีใครเคยเห็นสัญญาฉบับนี้ ตอนนี้มันกำลังจะกลายเป็นโมฆะน้ำตาที่ยังคงเอ่อล้นร่วงหยดลงบนร่องรอยที่เป็นลายเส้นจากปลายปากกาซึ่งฉันเองเป็นคนเขียนเติมเรื่องค่าน้ำมันเดือนละหนึ่งพันห้าร้อยบาทด้วยอารมณ์หงุดหงิดใจในตอนนั้น ตอนนี้กลับต้องมองด้วยความรู้สึกอีกแบบ แบบที่ทำเอากลางอกปวดแสบปวดร้อนทรมานใจอย่างถึงที่สุดเสียงประตูห้องน้ำเปิดออกพร้อมกับเจ้าของเรือนกายโ
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนพิเศษ 3 หลายปีต่อมา เพราะมีบ้านแล้วและเพราะฉันว่างมากจากอาชีพเดิมคือการเป็นเทรดเดอร์ นอกจากวัน ๆ จะต้องนั่งเฝ้าจอดูราคาหุ้น ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดแทบจะตลอดเวลา ฉันก็ว่างแหละ ไม่ก็พยายามจะว่าง…ช่วงนี้ฉันตื่นแต่เช้าตรู่ทุกวัน จัดการทำข้าวกล่องส่งขายตามตลาดเช้าเพื่อหารายได้เพิ่มเติมจากรายได้เดิมที่มันก็ไม่ได้แย่อะไร และกว่าข้าวกล่องพวกนี้จะเสร็จก็กินเวลาเกือบเจ็ดโมงหากเป็นวันธรรมดาในเวลาเดียวกันนี้ จะได้เห็นร่างสูงของเก๋าในเชิ้ตกับสแล็กส์เรียบร้อยเตรียมพร้อมที่จะออกไปทำงาน แต่เพราะวันนี้เป็นวันหยุดจึงไม่ได้เห็นคนที่ว่าอยู่ในสภาพดังกล่าวฉันอาจจะลืมเล่าไปถึงเรื่องที่ว่า คนเป็นสามีเรียนจบวิศวะเครื่องกลมา และตอนนี้กำลังทำงานควบคุมออกแบบ ติดตั้งเครื่องจักรกลที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ถึงหน้าตาเก๋าเหมือนไม่ได้เรื่องสักเท่าไร แต่อย่างที่เห็นว่าพอจะได้เรื่องอยู่บ้าง วันนี้เป็นวันหยุดของเก๋า แต่กลับได้ยินเสียงคนที่ว่าดังมาจากทางห้องนั่งเล่นซึ่งอยู่บริเวณส่วนหน้าของตัวบ้านตั้งแต่เวลาย่ำรุ่ง และไม่ใช่เสียงเก๋าคนเดียว… แต่ม
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนพิเศษ 2 “คุณเป็นยังไงบ้าง?” น้ำเสียงติดขัดเอ่ยถามขึ้นก่อน สายตาจะเลื่อนขึ้นสบในวินาทีต่อมา “ชีวิตฉันตอนนี้ดีมาก ดียิ่งกว่าปีไหน ๆ”ฉันเอ่ยตอบในทันทีด้วยรอยยิ้ม แม้จะแฝงไปด้วยอารมณ์เกลียดขี้หน้าเหลือประมาณก็ตามที “ผมคิดถึงคุณนะ” คงเพราะสายตาสื่อความนัยแบบที่แค่มองก็รู้ว่าคิดอะไร ส่งผลให้รอยยิ้มของฉันคลายลงโดยอัตโนมัติ พึมพำตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่พยายามจะเค้นขู่ลอดไรฟัน “เกิดจะคิดถึงขึ้นมาได้เชียว” “เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ไว้ไปหาอะไรอร่อย ๆ กินกันไหม? ผมเป็นเจ้ามือเอง ยังไงก็คนคุ้นเคย…” คำว่า ‘คนคุ้นเคย’ กับการแสดงออกผ่านสายตาน่ารังเกียจ ทำเอาฉันรู้สึกอยากจะขย้อนอาเจียนออกมาให้รู้แล้วรู้รอด ธนาก้าวเข้ามาอีกก้าวแล้วควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะเข้าสู่หน้าแอปพลิเคชันสำหรับใช้ติดต่อ “พลอยคงจะเสียใจถ้ารู้ว่าคุณทำตัวแบบนี้” คนฟังระบายรอยยิ้มน่ารังเกียจอีกครั้ง แล้วกระซิบตอบด้วยน้ำเสียงที่ยิ่งฟังยิ่งทุเรศหู “พลอยไม่รู้หรอก” แล้วก็ยื่นโทรศัพท์มา
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนพิเศษ 1 เขาว่ากันว่าเวรกรรมมีจริง ใครทำอะไรมักจะได้อย่างนั้น ผลของการกระทำมักจะเข้าเล่นงานแบบไม่ทันให้ตั้งตัว… ห้างสรรพสินค้า S ฉันกับเก๋าเราออกมาซื้อข้าวของเครื่องใช้เตรียมตัวย้ายเข้าสู่เรือนหอของเราทั้งคู่ หลังจากงานแต่งผ่านพ้นไปได้ร่วมสองเดือน และแน่นอนว่าตอนนี้ฉันกลายเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของผู้ชายที่เมื่อแรกเจอเราทั้งคู่กัดกันยิ่งกว่าอะไร… “ที่รัก” “…” “ที่รัก” “…” “กานดา” “ฮะ?” เพราะฉันกำลังให้ความสนใจกับของตกแต่งบ้านชิ้นหนึ่งที่ดูแล้วเหมาะน่าจะเอาไปตั้งในห้องนอนของเรา เลยไม่ทันได้ยินเสียงของคนด้านหลัง หันไปมองก็พบว่าคนเรียกกำลังยืนล้วงกระเป๋ากางเกง สีหน้าเบื่อหน่ายฉายชัด “ทำไมจะต้องสรรหาสรรพนามอื่นมาเรียกกันด้วย? ผมเรียก พี่ก็ไม่หันอยู่ดี” “เมื่อกี้ไม่ได้ยิน เรียกอีกที ๆ” “…” ฉันที่เพิ่งรู้ตัวว่าทำผิดข้อตกลงเรื่องล่าสุดระหว่างเราจำต้องรีบหมุนตัวกลับอีกครั้ง แสร้งทำเป็นดูของตกแต่งชิ้
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 52 สามปีต่อมา ฉันหมดแรงทิ้งเข่าทรุดกายลงตรงจุดซึ่งมีธงปักอยู่บ่งบอกว่าเราได้มาถึงจุดสูงสุดของยอดเขาซึ่งอยู่ทางแถบภาคตะวันตกของประเทศเป็นที่เรียบร้อย ด้านบนนี้ลมพัดแรงจนผมเผ้าที่รวบเป็นหางม้าไว้ด้านหลังสะบัดปลิวพลิ้วไหว ขายาวของคนที่มาด้วยกัน หยุดยืนลงที่ด้านข้าง เงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าเก๋านั้นไม่ได้ดูหมดสิ้นเรี่ยวแรง กระทั่งแสดงออกว่าเหนื่อยสักนิดก็ยังไม่มี คนเป็นแฟนยืนทิ้งเข่า ยกขวดน้ำขึ้นจิบด้วยท่วงท่าสบาย ๆ สายตาทอดมองไปยังเบื้องหน้าซึ่งเป็นภาพของเหล่าภูเขาสลับซับซ้อนเรียงรายมองไปไกลสุดลูกหูลูกตา ก่อนนัยน์ตาซึ่งหรี่เล็กน้อยเพราะแรงลมจะเลื่อนต่ำลงมองสภาพของฉันด้วยสายตาที่บ่งชัดว่ากำลังสมน้ำหน้ากัน โอเค…ฉันมันบ้าเองที่อยากจะเดินป่าขึ้นเขาขึ้นดอยให้ได้ และตอนแรกเก๋าก็ไม่เห็นด้วยกับการทำอะไรประเภทนี้ถึงแม้ฉันจะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำก็จริง แต่เพราะยังไม่เคยทำกิจกรรมอย่างนี้มาก่อนเลยทำให้คนเป็นแฟนมีทีท่าไม่เห็นด้วยอย่างที่บอกเก๋าค้านว่า อย่างน้อยเราก็ต้องมีประสบการณ์เดินทางไกล หรือไม่ก็ต้อ
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 51 หนึ่งเดือนต่อมา ร่างกายร้อนผ่าวของฉันนอนทาบทับคร่อมเรียวขาอยู่เหนือเรือนร่างเปลือยเปล่าของเก๋า ก้นสองข้างกำลังถูกฝ่ามือหนาจับสับโยกเข้าหาความแข็งขืนของตัวตนที่ผงาดกร้าวตั้งเป็นลำตอนนี้เป็นเวลาตีห้าเกือบจะหกโมงเช้า พระอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้น แต่แค่เรานอนกอดนอนเกยกันนิดเดียวก็เกิดจะปลุกเปลวเพลิงให้ลุกโชติช่วงขึ้นมาได้ เสียงร่องเนื้อรูดขึ้นลงตามจังหวะการทิ้งสะโพกเป็นเสียงเดียวที่ดังอยู่ในขณะนี้ คนที่นอนอยู่ด้านล่างคลอเคลียจูบเข้าที่ซอกคอ หอมเข้าที่ข้างแก้มไม่หยุดมาตั้งแต่เราเริ่มบรรเลงบทรักเมื่อชั่วโมงก่อน “เสียวไหม?”เสียงห้าวแหบเอ่ยถาม ทั้งมือยังคงควบคุมจังหวะความเร็วอยู่อย่างนั้น ฉันเลื่อนริมฝีปากกระซิบเข้าที่ข้างหูของคนเป็นแฟนก่อนจะเอ่ยบอกเสียงพร่า“เสียวจนจะแตกอีกแล้ว”“ชอบของผมไหม?”เก๋าหยักยิ้มเอ่ยขอคำชมที่ก็มักจะขอเสมอ และฉันก็ให้คำตอบด้วยการออกแรงขย่มสับรัวเร็วอย่างเอาใจ พลางกระซิบบอกด้วยน้ำเสียงที่พร่าสั่นหนักกว่าเดิม“ขึ้นให้ทุกเช้าแบบนี้ เธอคิดว่าชอบไหม?”“ชอบตรงไหน?”“ชอบทุกตรง”“ผมก็ชอ
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 50 หลายวันต่อมา หลายวันที่ผ่านไปคนที่บอกว่าจะจีบก็มาจีบทุกวัน เช้ารอบ เย็นอีกรอบ แต่ถ้าวันไหนติดงานแล้วมาไม่ได้ก็จะส่งกลอนหวานเลี่ยนมาทางแชตแทน แม้เป็นการจีบที่ไม่ได้เรื่อง แต่เก๋าก็ทำให้ฉันยิ้มได้ไม่หยุดและตอนนี้ซึ่งเป็นเวลาค่ำแล้ว การได้เห็นเจ้าตัวปรากฏตัวจึงไม่ได้น่าแปลกใจเพราะก็มาอยู่ทุกวัน แต่วันนี้ต่างไปจากวันอื่นตรงที่เก๋าแบกเอากีตาร์มาด้วยร่างสูงอยู่ในชุดนิสิตเหมือนหลายวันที่ผ่านมาเพราะมหา’ลัยเปิดเรียนแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นคนที่ว่าก็ยังมีความพยายามที่จะขับมอเตอร์ไซค์มาหา“มาจีบ”ไม่ต้องรอให้ถามเจ้าตัวก็รีบชิงพูดขึ้นทันทีที่ฉันเงยหน้าขึ้นมอง แต่ก็เหมือนจะแกล้งกันเล่น เก๋าปลดกระเป๋ากีตาร์ออกจากหลัง ก่อนจะเริ่มทำการปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ด สายตาร้อนแรงจับจ้องมองกันแบบไม่วางตา“ถอดเสื้อถอดผ้าทำไม?”“ร้อน”“โกหก”“ใช่”“ถอดกางเกงทำไม?”“ร้อน”“เก๋า”“ใช่ ผมโกหก”ฉันหลุบตาลงมองนิยายในมือที่กำลังอ่านอยู่ขี้คร้านจะต่อล้อต่อเถียงด้วย กระทั่งพื้นที่ว่างบนเตียงยุบลงก็ต้องเงยหน้าขึ้นมองอีกทีเก๋าในสภาพกึ่งเปลือยมีกีตาร์วางพาดอยู่
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 49 ความเงียบ สายลม รวมถึงสิ่งที่เพิ่งจะได้ยินได้ฟัง มันควรจะเป็นโมเมนต์สุดแสนโรแมนติก ทว่าฉันกลับไม่ได้รู้สึกดีใจอย่างที่ควรจะเป็นเมื่อรู้ว่าเราสองคนใจตรงกัน ริมฝีปากเม้มแน่นก่อนจะเอ่ยถามต่อ “แล้วหมวยจะไม่เป็นไรเหรอ?” “ไม่ต้องห่วง มีคนที่ดูแลหมวยได้ดีพอกับที่ผมทำช่วยรับหน้าที่ต่อแล้ว ถึงผมจะยังคงรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้น้องมัน แต่เรื่องอื่น ๆ น้องชายผมจะเป็นคนจัดการแทน” “เธอเคลียร์กับหมวยแล้วเหรอ?” “ผมบอกไปตรง ๆ ว่าผมชอบพี่ และเรื่องระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้ อันที่จริงก็ไม่ได้พูดครั้งแรกแต่พูดมาหลายครั้งแล้ว” “…” “และการตัดสินใจให้น้องผมเป็นคนดูแลหมวยต่อก็มีข้อดี หมวยจะได้ตัดใจจากผมได้สักที” “…” “และเพราะพี่เป็นแบบนี้ไง… ผมถึงได้ชอบ” เก๋าระบายรอยยิ้มอีกครั้งพลางก็ถอนหายใจเบา ๆ “ใครจะเห็นอกเห็นใจคนอื่นทั้งที่ไม่รู้จักกัน ใครจะปากแว้ด ๆ ๆ แต่จริงแล้วเป็นคนใจดี” “นี่ชมหรือด่า?” “
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 48 หลายวันต่อมา วันนี้ วันที่ยี่สิบพฤศจิกายน… ฉันในชุดเดรสสีชมพูอ่อน รวบผมเป็นหางม้า ใส่รองเท้าส้นสูงคู่ที่เพิ่งซื้อมาใหม่เมื่อไม่นานมานี้ กำลังหมุนตัวซ้ายขวาตรวจดูความเรียบร้อยของตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะคว้ากระเป๋าเดินออกจากห้องในช่วงเวลาเช้าตรู่ของวัน เพื่อไปงานแต่งงานของคนสองคนที่ครั้งหนึ่งเคยมีบทบาทมากมายในช่วงชีวิตที่ผ่านมาของฉันตั้งแต่สมัยมัธยม มหา’ลัย กระทั่งเริ่มต้นทำงานอย่างจริงจัง งานแต่งของสองคนที่ว่าจัดขึ้นที่จังหวัดระยองซึ่งเป็นบ้านเกิดของธนาอดีตแฟนของฉันเอง พลอยส่งโลเคชันที่จัดงานมาให้ตั้งแต่เมื่อสามเดือนก่อนแล้ว และถึงฉันจะไม่ได้ตอบรับว่าจะไป แต่ก็มีเก๋าเสนอหน้าช่วยตอบให้ ทั้งยังแนบรูปที่เป็นของเราสองคนส่งไปด้วย เก๋าบอกว่าเราเป็นแฟนกันทั้งที่ตอนนั้นเพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่กี่วันเท่านั้น และถึงตอนนี้ไอ้คำว่าแฟนที่ว่าก็ยังไม่ได้เป็น ใช้เวลาขับรถจากกรุงเทพฯ มาถึงระยองกินเวลากว่าสามชั่วโมง มาถึงสถานที่จัดงานก็เป็นเวลาที่พิธีการเริ่มต้นขึ้นพอดิบพอดี งานแต่งงาน
ระหว่างนั้น ฉันตกหลุมรักตอนที่ 47 ยี่สิบนาทีต่อมา แน่นอนว่าผมรถล้ม… และเกือบจะได้ไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มที่โรงพยาบาล แต่โชคยังดีที่ไม่ได้บาดเจ็บมากเท่าไรนัก ถึงแขนจะถลอก หน้าจะเกือบแหก แต่ก็ยังพอไหว… ความเร่งรีบทำให้ผมลืมแม้กระทั่งสิ่งสำคัญอย่างหมวกนิรภัยที่ปกติแล้วจะต้องใส่เสมอเพื่อความปลอดภัยของชีวิต แต่เพราะวันนี้จิตใจมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เรื่องที่ว่าไม่ควรจะลืมก็ดันมาลืมซะได้ แม้จะบาดเจ็บเล็กน้อย แม้ผิวเนื้อตรงจุดที่เลือดผุดซึมจะแสบ ๆ คัน ๆ แต่ก็ไม่มีเวลาให้สนใจ มาถึงคอนโดของกานดาได้ผมก็รีบวิ่งเข้าไปกระหน่ำกดลิฟต์ทันที มีลุงแช่ม รปภ. ประจำคอนโดรีบวิ่งตามเข้ามาด้วยอาการร้อนใจแทน ผมพยายามจะใจเย็นตอนที่บอกว่าไม่เป็นไรผมจะขึ้นไปดูเอง แต่ใจผมในตอนนี้มันเย็นแทบไม่ไหวแล้ว และทันทีที่กระหืดกระหอบวิ่งมาถึงหน้าห้องที่แสนจะคุ้นเคยก็รีบใช้กุญแจที่ตัวผมเองยังไม่ได้คืนให้เจ้าของห้องไขเข้าที่ลูกบิดทันทีพร้อมทั้งส่งเสียงเรียกไปด้วย “กานดา!” “…” “กานดา!” “…”