หนึ่งชั่วโมงผ่านไป_ หลังจากถ่ายภาพเซทริมหาดเสร็จแล้ว คู่นางแบบและนายแบบต่างรีบวิ่งเข้าที่ร่ม ให้บรรดาช่างหน้าประโคมครีมกันแดดให้ เพื่อต่อต้านแสงแดดยามบ่ายร้อนระอุ"ไอว่าถ่ายแบบที่นี่มันแปลกๆเนอะยู ปกติริมหาดมันต้องชิดกันหน่อยป่ะ แถมเสื้อดูปิดแมร่งหมดตัวเลย" คริสพูดอย่างสงสัย ปกติแล้วเคยรับงานคู่รินเซ่ถ่ายแนวริมทะเล ส่วนมากจะเป็นเซทชุดว่ายน้ำเสียมากกว่า ทำเขาอดดูของดีบนเรือนร่างอรชรเลย"เขาเน้นแนวกีฬามั้ง ตอนยูรับงานเขาบอกว่าไงล่ะ" รินเซ่เอียงหันไปถาม ขณะฝ่ามือบางกำลังลูบทาครีมกันแดดบนเรียวขาขาว"เขามาติดต่อผ่านผู้จัดการไอว่า แค่ถ่ายภาพไม่ให้โดนตัวนางแบบอ่ะ ยูป่วยเหรอ?" เขาจะเริ่มระแวงแทนล่ะ เหตุใดไม่มีใครอยากให้เขาเข้าใกล้นางแบบสาวเลย หรือมีความลับแต่บอกใครไม่ได้"จะบ้าป่ะเนี้ยคริส ถ้ายูป่วยจะมาตากแดดทำไม" ร่างบางหลุดขำเสียงดัง แกล้งทำเป็นไม่สนใจตอนนักธุรกิจหนุ่มเดินตรวจงานถ่ายรอบต่อไป แต่ด้านข้างดันเป็นปูเป้ซะเอง ทำสีหน้าวิตกราวกับคิดหนัก มุ่งตรงมายังจุดที่สองคนนั่งอยู่"คริส...คือว่าเซทต่อไปไม่ต้องถ่ายล่ะนะ ส่วนค่าตัวยังได้เท่าเดิม แล้วทางบริษัทเพิ่มค่าน้ำใจให้อีกนิดหน่อย คริสอย่า
นาทีต่อมา_ปรื้น~"ว๊ายยยกรี๊ดดดด!!!ไอบ้าคลิน!!!" ร่างบางแทบตกหล่นยามคนขับเจ็ทสกีออกตัวอย่างรุนแรง สองท่อนแขนเรียวรีบกอดเอวจากด้านหลังแน่น เธอได้แต่สาปแช่งในใจต่อเกรงว่าอีกฝ่ายได้ยินแล้วจะโดนแกล้งเพิ่ม"อยากไปดื่มกับมันมากนะเหรอ เอาสิถ้ากลับไปไหวอยู่" เขาเอียงมองคนด้านหลังเพียงนิด ใบหน้าสวยซีดเจื่อนเกือบน่าสงสาร หากไม่ติดว่าก่อนหน้านี้ยังเถียงเขาทุกประโยค แถมยังพูดจาถึงคนอื่นชวนคิดไกล ทางทีมงานต่างขึ้นเรือลำเล็กตามมากลางทะเล ถือกล้องถ่ายเก็บภาพสวยๆ ระหว่างนายแบบและนางแบบสาวพูดคุย ทำราวกับว่าได้รูปธรรมชาติ"คลินไม่เอาแล้ว รินกลัวจริงๆ..." หัวใจดวงน้อยเกือบเต้นปะทุหนัก ต่อให้เขาบิดกุญแจดับเครื่องยนต์ แต่คลื่นทะเลต่างหากที่ทำให้ตอนนี้มันโยกเอน จนสองมือได้แต่กอดอีกฝ่ายแน่นไม่กล้าแกะออกสักนิดเดียว ไม่รู้ว่าความกลัวของเธอคือความสุขของเขาหรือไร ถึงได้เล่นสนุกบนความทุกข์คนอื่น โดยที่เขาไม่ได้เห็นใจกันบ้างเลย"เมื่อกี้ยังบอกขอบคุณฉันอยู่เลยนะ ว่าทำให้เธอได้ความคิดใหม่ๆ มันจริงหรือเปล่าล่ะรินเซ่" แค่ใบหน้าหล่อเหลาเอียงเพียงนิด ช่างภาพก็ได้รูปอย่างดูดี เขาขึ้นกล้องเวลาถ่ายยิ่งกว่านายแบบทั
หลายวันต่อมา_ ครืน~ ครืน~ เมื่อเสียงโทรศัพท์รบกวนคนหลับยามเช้าตรู่ ร่างบางบนเตียงนอน รีบส่งมือบอบบางควานหาบนโต๊ะโคมไฟ ก่อนจะแง้มเปลือกตามองดูเบอร์ปลายทางถึงรู้ว่ากระหน่ำโทรมา"ว่าไงพี่นาถ ยังเช้าอยู่เลย" น้ำเสียงหวานพูดบอกตามเจตนารมณ์ เธออุตส่าห์งดรับงานวันนี้เพื่อพักผ่อนโดยเฉพาะ หลังกลับมาจากทะเลวันนั้น ทำเธอรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว ราวจะมีไข้อยู่ตลอดเวลา ส่วนคนต้นเหตุหายสาบสูญเข้ากลีบเมฆไปปริยาย~เกิดเรื่องใหญ่แล้วริน!!!พี่จะทำไงกับเราดีเนี้ย~ ปลายทางมีน้ำเสียงร้อนรนพาลคนฟังรีบสะดุ้งตัวลุกพรวดนั่งบนเตียงกว้าง"ค่อยๆพูดมาเถอะ ใจเย็นๆบอกก็ได้" รินเซ่พยามรวบรวมสติตั้งใจฟังเสียงอีกฝ่าย~บริษัทของคุณเอเดน ยกเลิกจ้างงานของเราทั้งหมดเลยริน ในข้อหาที่เราผิดสัญญา ไปถ่ายแบบให้คุณมาคลินก่อน~ ผู้จัดการส่วนตัวบอกราวกับ เสียดายมูลล่าเงินหลักล้าน มันหายไปเพียงพริบตาเดียวและคงอีกนานด้วย"อะไรน่ะ!!!ต้องถึงขนาดนั้นเลยหรอ ทำไมพวกนั้นรู้ข่าวได้ล่ะพี่นาถ" เธอยังไม่เห็นมีโฆษณาตัวไหนผ่านหน้าจอโทรทัศน์บ้างเลย กะว่าจะหาข้อยกเลิกงานถ่ายแบบตัวนั้นเลื่อนไปก่อน~ก็ทางนั้นใช้ป้ายประกาศหน้าบริษัท ตั้งแต่ตอนเช้า
โรงพยาบาลชื่อดัง หลังจากที่มาคลินได้ซักถาม อาการคนเจ็บจากแพทย์ผู้รักษา เขารีบเข้ามายังห้อง พักฟื้นพิเศษทันที โชคดีที่รินเซ่แค่หมดสติไป ส่วนญาติเธอไม่มีใครมาเยี่ยมเลย เพราะอยู่ต่างประเทศซะหมด จึงวานให้ชายหนุ่มช่วยดูแลแทนไปชั่วคราวก่อน คนตัวสูงนั่งอยู่ข้างเตียงยังกุมมือบางไม่ปล่อย ขณะมีตำรวจและผู้จัดการส่วนตัวยืนอยู่ร่วมในห้อง ต่างเข้าใจถึงความสัมพันธ์ที่มาคลินแสดงออก"ทางตำรวจได้ภาพจากกล้องวงจรปิดแถวนั้นแล้วนะครับ คุณรินเซ่เธอหักหลบ มอเตอร์ไซค์เลยเสียหลักพุ่งเข้าข้างทาง เดี๋ยวทางเราจะรีบติดตามคู่กรณี มาชดใช้ค่าเสียหายให้นะครับ" ตำรวจคนนึงบอก หลังได้รับรายงาน ของสายตรวจบริเวณจุดเกิดเหตุ"หลบมอเตอร์ไซค์?" นักธุรกิจหนุ่ม รีบหันขวับตามที่ตำรวจบอก เขาอยากเห็นเหลือเกินใบหน้าคนขับมอเตอร์ไซค์ รินเซ่ไม่ใช่ชอบความเร็ว ตอนสมัยเรียนมหาลัย เคยวานให้เธอขับรถช่วงที่เขากับเอเดนไปดื่มหนัก ยังช้ากว่าเดินกลับบ้านด้วยซ้ำ"ไม่น่าเลยริน...ก่อนที่รถจะชน รินบอกว่าจะไปหาคุณด้วยนะ รถดันมาชนซะก่อนได้ไงเนี้ย!" นาถรีบรุดไปข้างเตียง เธอรู้สึกสงสารเหลือเกิน เมื่อไหร่นางแบบสาวจะมีความสุขจริงๆ บ้างสักครั้ง ใจแกร
ชั่วโมงต่อมา_"นายจะให้ฉันอยู่ที่นี่เหรอ มันคงไม่ดีมั้งดูจะรบกวน กิจวัตรแต่ละวันนายไม่น้อยเลย" เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะเอาแต่ใจถึงขนาดสั่งบรรดาแม่บ้าน ให้ยกสัมภาระของใช้เธอมาไว้รวมกับห้องส่วนตัวมาคลิน ร่างบางนั่งไขว่ห้างบนโซฟาปลายเตียง ไล่สายตาสำรวจรอบห้องใหม่ ดูเหมือนว่าคราวนี้ห้องแต่งตัวถูกตกแต่งได้ดีกว่าเดิม เพิ่มอนาเขตและเปลี่ยนโต๊ะเครื่องสำอางค์ใหม่ยกชุด"ฉันยังไม่ได้พูดนะ หรือเธอกลัวอะไร?" ร่างสูงยืนเอ่ยบอกระหว่างพิมพ์โทรศัพท์มือถือคุยกับเลขาคนสนิท นัยน์ตาคมเลิกมองคู่สนทนาอย่างจับผิดการกระทำอีกฝ่ายแทน"ใช่กลัว! กลัวนายนั่นแหละคลิน อย่ามาทำเจ้าเล่ห์หน่อยเลย" รินเซ่บอกอย่างตรงไปตรงมา ดูออกว่าเขาอยากจะแกล้งเธอจริงๆ"ฉันมีอะไรให้น่ากลัวอย่างนั้นเหรอ เธอเห็นมาแล้วทุกมุมนี่หน่า หรือยังไม่พอ...ดี?" ฝ่ามือหนาลดมือลงมุ่งก้าวร่างสูงไปหาคนตัวเล็ก ใบหน้าสวยอยู่ในระดับตรงกล้ามท้องชาย ดวงตากลมมองลอกแลกจนเขาอยากแกล้งต่อ"พอ!ถอยออกไปได้แล้วคลิน ฉันจะบอกอะไรให้นะ ว่าแดดดี๊กลับมาไทยเมื่อไหร่ ฉันขนของกลับทันทีเลย" น้ำเสียงหวานบอกจริงจัง ฝ่ามือบางรีบผลักกล้ามท้องชายขยับหนี รู้ทั้งรู้ว่าแรงน้อย
หลายวันต่อมา_บริษัท Makin Group"หลังจากเปิดตัวโฆษณาตัวนี้ รายได้ไตรมาสแรกของเราขยับไปหลายจุดเลยนะครับ" เป็นเสียงของเมฆถือแฟ้มเอกสารเข้ารายงานเจ้านายภายในห้อง ซึ่งมีนางแบบสาวนั่งอยู่อีกฝากนึง หลังว่างงานไปหลายเดือน"แล้วค่าเสียหายชดใช้ที่ทางนั้นเรียกร้อง สรุปว่าเท่าไหร่" น้ำเสียงเข้มถามอย่างสุขุม วางมาดน่าเกรงขามดูสง่ายามเข้าในบริษัทตัวเอง เขาผิดชอบทุกคำพูดและการกระทำยิ่งกว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกันซะอีก แต่รินโซ่ที่กำลังดูภาพจากโลกโซเชียลเกี่ยวกับแฟชั่นต่างๆ ต้องหยุดสนใจเลือกโฟกัสในสิ่งที่ได้ยินตอนนี้อยู่"สิบล้านครับ" เลขาคนสนิทบอก แม้เขาไม่ได้เห็นด้วยเลยถ้าต้องเสียเงินมหาศาลแลกกับพรีเซ็นเตอร์ชื่อดัง"เอาเอกสารมาให้ฉันเซ็นต์อนุมัติได้เลย" เสียงจากรองประธานเอ่ยบอก ก่อนตวัดสายตามาทางร่างบางซึ่งจ้องมองเขาพอดี"ครับนาย" เมฆรีบก้มรับคำสั่ง แล้วรีบไปจัดการตามที่บอกทันที"นายไม่เสียดายเงินหรอคลิน มันคุ้มไหมล่ะตั้งสิบล้านเชียวนะ" เธอรู้สึกว่ามันไม่คุ้มเลยจริงๆ ขนาดไม่ใช่คนจ่ายด้วยซ้ำ แล้วไหนจะค่าตัวที่นาถกำลังเอาเช็คไปเข้าธนาคารให้อีก"มันไม่ใช่เรื่องของเธอ แล้วเย็นนี้จะกินอะไรฉันจะได้สั่
ช่วงค่ำ_ กระทั่งร่างบางถึงบ้านของมาคลิน แต่ไร้วี่แววที่เจ้าของจริงๆ จะกลับมา บรรยากาศเงียบเหงาจึงปลุกอารมณ์บางอย่าง รินเซ่มุ่งขึ้นไปบนห้องไม่พูดจากับใคร"...เห็นฉันเป็นอะไรน่ะ" น้ำเสียงหวานพูดพึมพำ ขณะเข้าห้องส่วนตัวโดยไปทิ้งกายบนโซฟา แต่เสี้ยวความคิดนึงดันแล่นพล่าน เธอรีบดีดตัวลุกขึ้นมุ่งไปยังโต๊ะทำงาน"....." เธอรีบเปิดลิ้นชักสำรวจทุกอย่างที่อยากรู้ เขายังเก็บภาพความทรงจำสมัยเรียนมหาลัย คนสามคนในภาพถ่ายดูสนิทกัน แค่เธอเห็นตัวเองครั้งวันวานยังหลุดยิ้มเลย ฝ่ามือบางล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายมากดถ่ายรูป ก่อนกดแต่งอีกนิดหน่อยบนใบหน้าคมคาย หวังส่งไปแกล้งเจ้าของห้อง เธอลืมไปเสียสนิทว่าอดีตคนรักก็ยังอยู่ในรูปนั้น"นายมันน่าแกล้งจริงๆคลิน" รูปตอนสมัยนั้นมาคลินยังใส่แว่นสายตาสีดำหนาเตอะอยู่เลย คงจะเป็นอันเดียวกันกับอันข้างโน๊ตบุ๊ค เธอเลยลองหยิบมาสวมเล่นดู ก่อนนิ้วมือจะไปกดโดนสวิตซ์เปิดเครื่อง"ทำไม..." ด้วยความสงสัยเต็มปรี่ที่มาคลินเคยเล่าให้ฟังถึงเรื่องคาลาส เธอกดเข้าแฟ้มข้อมูลภาพวงจรปิด ถึงรู้ว่าเธอสลบไปหลังเพื่อนชายซะอีก แล้วทำไมเขาถึงไม่ส่งไปให้เอเดนดู ทุกคนจะได้หมดข้อกล่าวหาแ
วันต่อมา_ช่วงบ่าย"ฉันไม่เคยมีน้องสาว และอย่ามายุ่งอีก!" เป็นเสียงของมาคลินดังมาจากชั้นล่าง ทำให้รินเซ่ที่พึ่งขึ้นมาหยิบหนังสือเลยรีบลงไปดู เพราะไม่เคยเห็นอีกฝ่าย มีอารมณ์เกรี้ยวกราดใส่ใครถ้าไม่ถูกกระทำก่อน"พี่คลิน...พลอยแค่จะมาหาพ่อเอง" เพชรพลอยเอ่ยบอกพร้อมน้ำตานองใบหน้าใส ไม่กล้าจะจับมือผู้เป็นพี่ชายร้องขอ"อย่าให้ฉันรำคาญไปมากกว่านี้" น้ำเสียงเข้มบอกดัง จนทำคนมองแอบกลัว ยังดีที่รินเซ่ลงมาห้ามเขาไว้ได้ทัน ฝ่ามือบางรีบเกาะเข้าท่อนแขนใหญ่ลูบเบาๆ เธอไม่เคยทราบเช่นกันว่ามาคลินมีน้องสาว เขาไม่เคยเอ่ยเล่าเรื่องนี้ให้ฟังเลย"คุณพ่ออยู่ที่สวนนะพี่เห็นเมื้อกี้" น้ำเสียงหวานของรินเซ่เอ่ยบอกอย่างสงสาร หญิงสาวตรงหน้าดูอายุน้อยกว่าเธอไปหลายปี แต่ดันโชคร้ายเพราะเหตุใดมาคลินถึงตั้งแง่กับน้องตัวเอง"ค่ะ ขอบคุณนะคะ" เพชรพลอยรีบยกมือไหว้ก้มหัวนอบน้อมใส่รินเซ่ ก่อนมุ่งเดินออกไปตรงสวนข้างบ้าน"นายมีน้องสาวด้วยเหรอ ไม่เห็นบอกกันบ้างเลย" รินเซ่ถามทันที เธอจะได้วางตัวถูกรู้จักคนในครอบครัวเขามากขึ้น พอรู้ว่าตัวเผลอจับท่อนแขนใหญ่เลยรีบปล่อยพันธการทิ้ง"มันไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องรู้" แต่มาคลินกับไม่ชอบใจที่ต้
ช่วงเย็น_ "พี่รินระวังสะดุดหินนะคะ เมื่อกี้พิพิมพึ่งโยนก้อนหินมาทางนี้" เพชรพลอยรีบเอ่ยเตือน ยามเห็นคนท้องก้าวเท้ามาทางสวนข้างบ้าน เธอเกรงว่าอาจเกิดอุบัติเหตุแล้วกระทบแก่ทารกในครรภ์ ยิ่งดูเท่าไหร่ก็ยิ่งเห็นพี่ชายหวงแหนนัก"พี่ซื้อของเล่นมาฝากพิพิมด้วยนะ แต่มาคลินเอาไปไว้ไหนไม่รู้" ก่อนกลับเข้ามาบ้าน เธอบังคับให้สามีหนุ่มพาแวะห้างสรรพสินค้า เลือกซื้อตุ๊กตาบาร์บี้ดั่งที่เด็กหญิงชอบเล่น"ไม่ต้องเดินไปซื้อให้เหนื่อยหรอกริน เธอท้องอยู่นะ เดี๋ยวไอคลินมาบ่นอีก" เอเดนเอ่ยบอก เขาพึ่งวิ่งไล่จับลูกสาววัยเกือบสองขวบ ใบหน้ายังมีเม็ดเหงื่อไหล แต่ภรรยาสาวดันอมยิ้มชอบใจ"คลินไม่บ่นเลย แค่โดนรินบังคับเอง เพื่อหลานหน่ะเดน" รินเซ่รีบพุ่งไปบีบแก้มป่องๆของพิพิม เปรียบเสมือนดวงใจของเอเดนและเพชรพลอย จนเธออยากให้ถึงวันที่คลอดบุตรเร็วๆ อยากรู้ว่ามาคลินจะตื่นเต้นขนาดไหน"ปะป้า..อะอิน...ขะขาา" แต่แล้วเสียงเด็กหญิงก็รีบเรียกชื่อ เพราะรินเซ่ชอบเล่นกับเธอมาตั้งแต่เกิด พยามยืดแขนป้อมๆเขาหาผู้เป็นป้า แต่เอเดนล็อคไว้ไม่อยากให้คนท้องต้องแบกรับน้ำหนักเยอะ"ป้ารินมีน้องอยู่นะพิพิม ป้ารินอุ้มเด็กอ้วนไม่ไหวหรอก" เพชรพลอย
หนึ่งปีผ่านไป_บริษัท Makin Group"สามีบอกให้เลิกไปถ่ายแบบได้แล้วไงครับ...คุณรินเซ่" น้ำเสียงเข้มของสามีหนุ่มกำชับบอก ขณะเคลียร์งานเซ็นต์เอกสารสำคัญบนโต๊ะ หลังได้รับตำแหน่งประธานบริษัทเต็มตัว ปล่อยบิดาให้พักผ่อนช่วยน้องสาวเลี้ยงหลานอยู่บ้านเขาวางแผนแล้วว่าให้ภรรยาสาวลาวงการ เพราะพึ่งทราบว่าเธอตั้งครรภ์อ่อนๆอยู่ แต่โชคดีที่ยังไม่ถึงขั้นมีอาการแพ้ใดใด"คลินคะ....รินพักก็ได้ แต่ต้องรีบกลับบ้านกันนะ รินคิดถึงน้องพิพิมจะแย่แล้ว" น้ำเสียงหวานออดอ้อนบอก เธอเองก็เริ่มติดลูกสาวของเพชรพลอย ช่วยดูแลประหนึ่งลูกตัวเอง ร่างอรชรยังสวยสมบูรณ์แม่ตั้งครรภ์อยู่ ตรงไปนั่งบนตักแกร่งยียวน ลูบคลำตรงเป้าตุงหยอกล้อ"แน่ใจนะว่าอยากกลับบ้านเพราะคิดถึงหลาน" ใบหน้าคมคายอมยิ้มอย่างรู้ทัน เมียรักเริ่มมีอารมณ์หื่นกามตั้งแต่รู้ว่าตัวเองท้อง และเขาก็ชอบด้วยที่ได้ปรนเปรอเธอทุกคืน ฝ่ามือหนาเริ่มล้วงเข้าใต้กระโปรงทรงเอสีครีม แหวกเพนตี้ตัวจิ๋วก่อนส่งนิ้วยาว ทักทายกลีบดอกไม้งาม"คะคลิน..." ดั่งอารมณ์ตอบสนองรวดเร็ว คนท้องรีบหันข้างวางใบหน้าสวยใส่ซอกคอหนา น้ำเสียงกระเซ้าเรียกสามี ทำอีกฝ่ายมีความต้องการตาม"ในห้องทำงานผมก็ค
ช่วงค่ำ_ "ขอบใจนะที่เดนยอมดูกล้องวงจรปิดคืนนั้น" น้ำเสียงหวานของคนที่ยังรู้สึกว่ามีตราบาปได้ละลายหายไป ยามอดีตคนรักได้พูดคุยดีกับเธอ พร้อมยอมรับว่าตัวเองนั่นแหละ ที่ไม่ยอมฟังคำอธิบายบ้าง"เราขอโทษนะสำหรับเรื่องในอดีต ถ้ารู้ว่ามันกล้าวางยาเธอกับไอคลิน ฉันตามไปฆ่ามันตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว" เอเดนพูดน้ำเสียงเบา เขายังมองเห็นเธอเป็นคนเดิม แต่ไม่ใช่ฐานะคนรัก เพราะตอนนี้เขารักเพชรพลอยจนสุดหัวใจแล้ว ถ้าตอนนั้นเขาลดทิฐิลงสักเล็กน้อย คงไม่เสียเวลาทำลายความผูกพันธ์ระหว่างเพื่อนไป ป่านนี้คงหาอะไรสนุกทำร่วมกันนานแล้ว"ไปเป็นไรเลยเดน ตอนนี้เรากับคลินก็รักกันจริงๆด้วยแหละ ต้องขอบใจคืนนั้นเหมือนกัน แค่รู้ว่าเดนไม่โกรธกันก็พอแล้ว" หัวใจดวงน้อยสั่นไหวยามพูดถึงแฟนหนุ่ม เธอพยามมองหาเขาอยู่แต่ไม่รู้ทำอะไร เผื่อหันมาเจอเธอนั่งคุยกับเอเดน จะทำตัวหวงก้างเป็นเรื่องใหญ่อีก ทว่าในทางกลับกัน เขาแอบยืนยิ้มอยู่ระยะใกล้หลังต้นไม้ใหญ่ กับคำพูดของรินเซ่ที่ทำลายความสับสนของเขาลงให้กระจ่างสักที และหลังจบเรื่องคาลาสไป เขากับเอเดนจึงไร้ปัญหาแต่เพียงหยั่งเชิงไว้แกล้งกันสนุกก็พอ"ดีใจนะที่เธอกับไอคลินรักกัน" เอเดนบอกจากใ
หลายวันต่อมา_ "คุณพ่อค่อยๆเดินนะคะ ถ้าล้มขึ้นมานี่แย่เลย" รินเซ่พูดบอก ตอนช่วยประคองทศพลมานั่งหน้าทีวี มีมาคลินช่วยอยู่ข้างๆ หลังท่านออกจากโรงพยาบาลแต่ร่างกายยังต้องพักฟื้นอยู่ เพราะป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะลุกลาม"พ่อไม่เป็นขนาดนั้นหรอก แต่พวกเราไปเตรียมสวนไว้นะ พ่อชวนพลอยมากินบาบีคิวกับเราเย็นนี้" ผู้เป็นบิดาบอก หลังจากออกจากโรงพยาบาล ก็ดูเหมือนว่าพี่น้องคู่นี้จะเริ่มกันดีแล้ว ส่วนรินเซ่เองก็แวะมาบ้านท่านบ่อยขึ้น จนอยากจับจองเป็นสะใภ้เต็มทน"ครับ""งั้นคุณพ่อต้องนอนพักนะคะ กว่าจะเย็นต้องง่วงแน่ๆเลย" หญิงสาวบอกอย่างเป็นห่วง เธอเป็นคนช่วยป้าแม่บ้านจัดยาให้ท่านตอนเที่ยง เลยทราบดีว่าฤทธิ์ยาต้องทำให้ง่วงนอนมาก"พ่อจะนอนพักก็ได้ ถ้าได้หนูรินมาดูแลอยู่บ้านเราตลอด คงจะดีไม่น้อยเนอะตาคลินว่าไหม?" แต่ผู้เป็นพ่อวกกลับมาทางลูกชาย ท่านรู้ว่าพูดถูกใจเขาขนาดไหน"นั่นสิครับคุณพ่อ เอาแบบจัดพิธีใหญ่ๆ ด้วยนะครับ" น้ำเสียงเข้มยิ่งพูดเสริม พอเห็นคนตัวเล็กมีสีหน้าเขินอาย เขายิ่งหมั่นเขี้ยวอยากบีบแก้มเนียนซ้ำ"พอเลยคลิน ให้คุณพ่อนอนพักก่อน ไปช่วยรินเตรียมบาบีคิวกันดีกว่านะ อ้อ...หนังสือเล่มนั้นเรายังอ่านไม่จ
เวลาต่อมา_ แค่เพียงไม่นานดี น้องสาวต่างมารดาก็มาพร้อมอดีตเพื่อนชาย ที่เขาตราหน้าว่าเป็นศัตรู มาคลินรีบลุกยืนจากเก้าอี้จ้องมอง เขาเคยสั่งห้ามน้องสาวไม่ให้ยุ่งกับมันด้วยซ้ำไป"ไอเดน!/พี่คลิน" มาคลินส่งเสียงดัง อย่างไม่พอใจกับการกระทำของน้องสาวแบบนี้ ซึ่งเอเดนไม่ได้สะทกสะท้านตีหน้านิ่งราวเย้าเย้ยกัน"พามันมาด้วยทำไม?" น้ำเสียงเข้มยังถามต่อ จ้องใบหน้าน้องสาวอย่างเอาเรื่อง ในเวลายากลำบากของครอบครัว เธอดันดึงมือศัตรูเข้ามาเกี่ยวข้อง จนเขารู้สึกโมโหเป็นไหนๆ"พลอยจำเป็นต้องติดรถเขามา มันมีเรื่องฉุกเฉินหน่ะค่ะ คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะ" เพชรพลอยพยามจะเอื้อมมือไปจับกับพี่ชายทว่าเขาชักกับทันที เหตุใดเธอแสร้งไม่สนใจคำสั่งของเขาบ้าง"ไอระยำ!" แต่เอเดนขบฟันกรามพูด"มึงสิไอเวร!" เรื่องอะไรที่เขาจะต้องยอมอีกฝ่ายด้วย มาคลินยกมือชี้หน้าด่ากลับทันที เขาไม่ชอบจริงๆที่มายุ่งกับน้องสาว"ถ้าจะกัดกันไปข้างนอกนะคะ อย่าให้พลอยต้องดุนะ" น้องสาวสบัดตัวถอยหลัง เธอไม่ยืนคั่นกลางห้ามใครตอนนี้ มือบางกรีดนิ้วชี้ไปทางประตูบานเลื่อน สื่อความหมายว่าไล่จริงจังไม่แคร์สายตาใคร นับเป็นครั้งแรกที่เธอโมโหจนน่ากลัว ทำชายบุรุษสองค
วันต่อมา_บริษัท Makin Group "คุณมาคลินครับ นี่คือแฟ้มเอกสารสรุปการประชุม ช่วงที่คุณคลินไม่อยู่ครับ" เลขาคนสนิทรีบถือแฟ้มเอกสารเข้ารายงาน ภายในห้องทำงานท่านรองประธาน แม้ว่าจะส่งผ่านทางอีเมล์ ไปให้เจ้านายอ่านอยู่รอบ แต่เพื่อแน่ชัดจึงอยากนำฉบับจริงให้ดูอีกครั้ง"อืม ทำไมฝ่ายจัดซื้อไม่สั่งพักงานคนทำผิด หรือคำสั่งของฉันไม่มีผลแล้ว" ขณะเอื้อมไปหยิบแฟ้มเอกสารมาเปิดอ่าน เขาพึ่งนึกได้ตอนเข้าบริษัท เมื่อเช้าตรู่พบว่าฟรานตอกบัตรทำงานแล้ว ทั้งที่เพิ่งจะสั่งพักงานไปได้เดือนเดียวเอง"คุณฟรานแจ้งกับหัวหน้าว่า คุณมาคลินอนุญาตให้กลับมาทำงานแล้วครับ ทางหัวหน้าเลยไม่กล้าขัดเผื่อเป็นคำสั่งของคุณมาคลินครับ""นั่นก็เท่ากับว่า ถ้าใครอ้างชื่อหรืออ้างว่ารู้จักฉัน แปลว่าจะไม่โดนโทษหรอกเหรอ?" รองประธานจงใจใช้ประโยคเชิงตำหนิ ถ้ามีใครเอาชื่อเขามาอ้างไปซะหมด ระบบการทำงานจะเป็นเช่นไร ไม่ต้องแบ่งกฏระเบียบให้ยุ่งยากดีกว่าไหม"ขอโทษครับ" เมฆก้มหน้าเอ่ยบอก"ไปจัดการที่ฉันสั่ง แล้วเรื่องนี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง" เขาพึ่งนึกอะไรได้ ต่อให้คนอื่นไปจัดการเรื่องของฟรานแทนก็คงจะอ้างเหตุผลเดิมซ้ำๆ เพราะเขาเคยสนิมสนม ถึงขั้นชวนลง
หลายวันต่อมา_ "วันนี้เราจะทำอะไรกินหรอริน ฉันหิวจะแย่แล้ว" คนตัวสูงพุ่งมาสวมกอดร่างอรชรจากด้านหลัง ขณะเธอทำอาหารมื้อง่ายๆในช่วงเย็น ส่วนบุพการีของเธอแวะไปอออกงานราตรี เลยเหลือเพียงสองคนในบ้านเท่านั้น"กินข้าวผัดกันไง ฉันทำเป็นไม่กี่อย่าง นายลืมหรือเปล่าคะคุณมาคลิน" เธอเคยบอกเขาไปแล้วหรือว่าอีกฝ่ายลืม แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ใช่ปัญหาเลย"สงสัยอ่านงานหนักไปหน่อย งั้นให้ฉันช่วยนะ" ฝ่ามือหนาละออกจากร่างอรชร ไปช่วยตักข้าวสวยใส่ถ้วยไว้ด้านข้าง หยิบผักรวมนิดหน่อยเลือกปะปนเสริมโภชนาการ พอเขามาอยู่สถานที่ห่างไกลบริษัทนานๆ เลยต้องกระตือรือร้นเรื่องงานอ่านเกือบข้ามคืน จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของประธานคนเดียวคงไม่ไหว อายุท่านมากแล้วควรใกล้วางมือ"ถ้านายยุ่งอยากกลับไปก่อนไหมคลิน ฉันว่าไม่ดีหรอก ถ้ารองประธานมาเที่ยวนานนับเดือนขนาดนี้ ลูกน้องนายจะอยู่ยังไงกัน" คนตัวเล็กเอ่ยบอก เธอก็รู้สึกผิดเช่นกันไม่น่ารั้งเขาไว้ด้วยวิธีนี้เธอเลย"แต่ฉันห่วงเธอนะริน เดี๋ยวออกไปเที่ยวอีกใครจะดูแล" ขณะยืนด้านข้างร่างอรชร ใบหน้าสากเกยไหล่มนมองดูกระทะเช่นกัน คอยช่วยหยิบซอสเครื่องปรุงเติม กลิ่นหอมอ่อนๆเรียกอาการหิวได้ดี"
บ้านรินเซ่ "นายมาคนเดียวเหรอ?" คนตัวเล็กเอ่ยถาม ตอนที่รถยนต์ของเธอจอดอยู่หน้าบ้านตัวเองเสียแล้ว เธอโยนกุญแจและบอกทางให้มาคลินรู้ เพราะไม่อยากให้ชายหนุ่มไปหาโรงแรมที่พักกลางดึก ค่อยนอนบ้านเธอสักคืนจะเป็นไรไป"อืม ว่างงานแล้วเลยรีบมาจัดการคนบางคนซะหน่อย ช่วงนี้ดื้อสุดเลย" คนตัวสูงรีบดับเครื่องยนต์ก้าวขาลงตามร่างอรชร เธอถูกฤทธิ์แอลกอฮอล์เข้าสิง แต่ยังคงแสร้งยืนตัวตรงคงกลัวเขาเอ็ดดุ"ใครหรอดื้อ เราไม่ได้ดื้อนะคลิน" เธอรีบหันกลับมาบอก ขณะไขกุญแจเข้าบ้านอย่างเบาๆ เกรงว่าจะทำบุพการีตื่นแล้วถูกต่อว่าเช่นเคย"อ้อ..เหรอ" ท่าทีของคนตัวเล็กทำให้เขาต้องเบาเสียงลง กระตุกยิ้มมุมอย่างหมั่นเขี้ยว จนฝ่ามือหนาต้องฟาดใส่สะโพกมน แม่คุณเล่นทำเหมือนโจรย่องเข้าบ้านทั้งที่ของตัวเอง"นาย!!เงียบเลยนะ ถ้าแม่ตื่นนายไปนอนโรงแรมเลย" น้ำเสียงหวานแห้วใส่ พร้อมส่งดวงตาถมึงจ้องมอง ก่อนจับข้อมือใหญ่จูงเขาขึ้นบ้านข้างบน"ทำเหมือนฉันแอบย่องขึ้นบ้าน ไปหาลูกสาวท่านเลยเนอะ" ครั้งนึงตอนสมัยมหาลัยทั้งมาคลินและเอเดนเคยมาพักที่นี่ ช่วงเธอเรียนซัมเมอร์แล้วพวกเขาแวะมาเที่ยว แต่ได้นอนอีกห้องสำหรับแขกพิเศษเท่านั้น"ฉันลากนายขึ้นมาต
ประเทศอังกฤษ@ Werry Lounge"มันก็หลายเดือนแล้วนะยู ไม่คิดจะกลับไทยบ้างเหรอไง ไอยังอยากไปกินอาหารที่นู้นเลยนะ" คริสเพื่อนนายแบบเอ่ยถาม เขามาเที่ยวเล่นเป็นเพื่อนรินเซ่เกือบทุกคืน ยังไม่รวมบรรดาคนในแวดวงการเดียวกัน เรียกได้ว่าพบเจอเธอทุกวันเลย"กลับไปทำไมล่ะ ที่นู้นไม่ได้น่าตื่นเต้นแบบนี้ซะหน่อย" ขณะร่างอรชรเต้นคลอเคลียกับบรรดาเพื่อนเบาๆ เธอจับแก้วไวน์ยกจิบลิ้มรสชาติมัน กาลเวลามันช่วยให้ลืมใครบางคนได้จริงๆ ยิ่งเวลาออกเที่ยวกลางคืนยังไม่นึกถึงเลย"เรียบร้อยแล้วริน ไอไปบอกเขาแล้วนะว่ารินไม่มีแฟน เต้นสวยๆไปเลยจ้า เดี๋ยวต้องเดินมาหาแน่" หนึ่งในเพื่อนนางแบบพูด พวกเธอชอบดูเวลารินเซ่บริหารเสน่ห์ แล้วมารวมเงินพนันกันว่าใครจะเลี้ยงค่าเครื่องดื่มคืนนี้"บอกแค่โต๊ะเดียวพอนะ คืนนี้กลับดึกไม่ได้แด๊ดดุแล้ว" คนบอกยิ้มพอใจ เหมือนกับกลุ่มชายแปลกหน้ากำลังจ้องมายังเธอ ร่างอรชรรีบสะบัดผมสลวย เชิดใบหน้าขึ้นเล็กน้อยสร้างองศาให้ดูมีมิติ"ยูยังโดนแด๊ดดุเลย ไอนี่สิบ้านมัมจะไม่ได้เข้ายูแล้ว ออกเที่ยวทุกคืนขนาดนี้" คริสพูด เขาก็แอบเล็งสาวอีกโต๊ะนึงด้วย ยิ่งค่ำคืนนี้เน้นโชว์หุ่นนายแบบ เลยเลือกใส่เพียงเสื้อเชิ้ตตั