“เพราะว่าคุณโง่ไง” ฟู่สือถิงที่เมาแล้วพูดตรงมาก “ผมให้คุณสองพันล้าน คุณจะเอาไปทำอะไรก็ได้ แต่คุณกลับไปเกลือกกลั้วกับฟู่เย่เฉิน นั่นก็แปลว่าพวกคุณเป็นคนประเภทเดียวกัน” คำพูดของเขาทิ่มแทงเสิ่นอวี๋อย่างรุนแรง! สองพันล้าน... ถูกฉินอันอันเอาไปตั้งนานแล้ว! ถ้าตอนนี้เสิ่นอวี๋มีสองพันล้านอยู่ในมือ ทำไมเธอจะต้องยอมลำบากใช้เด็กมัดตัวฟู่เย่เฉินเอาไว้ด้วย?ตอนนี้ฟู่เย่เฉินคือผู้ชายที่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่เธอหาได้ในตอนนี้ยังไงล่ะบอดี้การ์ดประคองฟู่สือถิงขึ้นรถ โรลส์รอยซ์สีดำหายวับไปอย่างรวดเร็วในค่ำคืนอันมืดมิด เสิ่นอวี๋ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา ด้านหลังเธอไม่ไกล ฟู่เย่เฉินเอาสองมือล้วงกระเป๋าแล้วพูดอย่างเย็นชา “เสิ่นอวี๋ ดูสิว่าตอนนี้คุณเป็นยังไง ผมขายหน้าจริง ๆ อาของผมไม่ต้องการคุณตั้งนานแล้ว แล้วทำไมคุณยังทำตัวเหมือนหมาของเขาอยู่อีก! ตอนนี้ผู้ชายที่คุณต้องเอาใจคือผมต่างหาก!” เมื่อได้ยินคำพูดถากถางของเขา เสิ่นอวี๋ก็หันกลับมา “ฟู่เย่เฉิน เมื่อก่อนตอนที่ฉันมีเงิน คุณไม่กล้าพูดแบบนี้กับฉันเลยนะ!” “ตอนนี้คุณไม่มีเงินแล้ว! และต่อจากนี้ก็หาเงินมากขนาดนั้นไม่ได้อีกแล้ว! คุณควรตระหนักถึงคว
โจวจื่ออี้เดาได้ว่าทำไมเขาถึงโกรธจึงรีบอธิบายว่า “ฉินอันอันไม่ได้ยอมให้ให้รุ่ยลาเข้าวงการบันเทิง เป็นรุ่ยลาที่ขอร้องและตั้งใจที่จะสัมผัสประสบการณ์นี้เอง คุณเองก็รู้ว่ารุ่ยลาหน้าตาน่ารักขนาดไหน ใครจะปฏิเสธเธอได้ลง” “รุ่ยลาไม่รู้ประสา เธอก็ไม่รู้เรื่องไปด้วยงั้นเหรอ? ในฐานะแม่ เธอควรมีหน้าที่ในการกำกับดูแลไม่ใช่ตามใจเธอ!” ฟู่สือถิงโต้กลับอย่างเคร่งขรึม โจวจื่ออี้ “ถ้ารุ่ยลามาขอร้องคุณ คุณจะทำตัวเที่ยงตรงไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งนั้นได้จริง ๆ เหรอครับ?” ใบหน้าฟู่สือถิงหม่นมืดลงทันที “ไม่ต้องพูดว่าฉันทำได้หรือเปล่า ฉันคิดว่านายกำลังเห็นคนอื่นดีกว่าฉันอยู่นะ!” โจวจื่ออี้แสดงความจงรักภักดีอย่างรวดเร็ว “ไม่ใช่แน่นอนครับ ผมแค่แทนตัวเองเป็นฉินอันอัน ถ้ารุ่ยลามาขอร้องผม ผมจะต้องยอมทุกอย่างที่เธอต้องการแน่ ๆ ก็เธอน่ารักขนาดนั้น… ผมไม่เคยเห็นเด็กผู้หญิงตัวน้อยที่น่ารักแบบนั้นมาก่อนเลย” คำเยินยอของโจวจื่ออี้ทำให้ฟู่สือถิงเย็นลง รุ่ยลาน่ารัก เขาเองก็รู้ดี อย่างไรเสียรุ่ยลาก็หน้าตาเหมือนฉินอันอัน ฉินอันอันมักจะยั่วให้เขาโกรธบ่อย ๆ แต่เขาไม่เคยลงมือกับเธอได้จริง ๆ สักครั้ง ถ้าเธอหดตัวเล็กลงไ
ระหว่างทางไปร้านอาหาร ฉินอันอันพูดกับบอดี้การ์ดว่า “ห้ามบอกใครเรื่องแผนการเดินทางทั้งหมดของฉันในประเทศบี กับไมค์ก็ห้ามบอก ตอนนี้เขานับว่าเป็นคนของฟู่สือถิงไปครึ่งตัวแล้ว ฉันไม่ชอบถูกจับตามอง ใครถามคุณถึงเรื่องของฉันก็บอกไปว่าฉันพักผ่อนอยู่ที่บ้าน” บอดี้การ์ดได้ยินแล้วก็พยักหน้า “เจ้านายครับ ผมไม่มีวันรับสินบน” ฉินอันอันเลิกคิ้วและถามอย่างประหลาดใจ “มีคนติดสินบนคุณเหรอ?” บอดี้การ์ดนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าอีกครั้ง “ผู้ช่วยของฟู่สือถิง เขาพยายามติดสินบนผม แต่ผมปฏิเสธอย่างเด็ดขาดไปแล้วครับ” ฉินอันอันทอดถอนใจ ไมค์ถูกผู้ช่วยเขากำราบแล้ว เขายังคิดจะติดสินบนบอดี้การ์ดของเธออีก! นี่คือคิดจะแทรกซึมเข้ามาในชีวิตของเธอทุกด้าน! เธอก็แค่ตั้งท้องไม่ใช่เหรอ? ทำไมเขาถึงกังวลขนาดนี้? ยิ่งเขาทำตัวแบบนี้ เธอก็ยิ่งไม่อยากให้เขารู้ว่าเธออยู่ที่ไหน เมื่อรถมาถึงร้านอาหาร การนัดพบกับลูกค้ารายล่าสุดก็สำเร็จ ลูกค้าพบเธอแล้วก็เอ่ยอย่างตื่นเต้น “คุณหมอฉิน อาการป่วยพ่อของฉันดีขึ้นมากแล้ว! ต้องขอบคุณคุณมาก คราวก่อนฉันบอกไปแล้วว่าจะแนะนำแขกให้คุณรู้จัก วันนี้ฉันเอาเคสการป่วยของเขามาด้วย ฉ
เธอลุกขึ้นนั่งอย่างตกใจ “เขาแค่แอบไปดูการถ่ายทำเท่านั้น ไม่ได้รบกวนรุ่ยลาเลย” ไมค์กล่าวเพิ่มเติม “จื่ออี้บอกฉันว่าเขาน่าจะรู้แล้วว่าเสี่ยวหานกับรุ่ยลาเป็นลูกของเขา เพียงแต่เขาไม่กล้ายอมรับ เพราะเด็กสองคนไม่ชอบเขา อีกอย่าง เธอคงไม่ยอมให้เขายอมรับพวกเด็ก ๆ ดังนั้นเขาจึงอดทนกับความเจ็บปวดที่ต้องพลัดพรากกับเลือดเนื้อเชื้อไขอย่างเงียบ ๆ มาโดยตลอด” “นอกจากนี้ เขาไม่อยากให้รุ่ยลาเข้าวงการบันเทิงเอามาก ๆ เลยด้วย” ไมค์พูดต่อ “ดังนั้น เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเขาเธอรีบกลับมาเร็ว ๆ เถอะ วันไหนเขาเกิดอดกลั้นไม่ไหวไปก่อเรื่องวุ่นวายที่การถ่ายทำรายการ ฉันคงควบคุมสถานการณ์ไม่ไหว” ฉินอันอันปวดหัวมาก เพราะอาการเจ็ทแลค เมื่อคืนนี้เธอจึงนอนไม่หลับเล็กน้อย ตอนนี้เธอไม่อยากนั่งเครื่องบินอีกจริง ๆ “วันนี้ฉันจะยังไม่กลับ” เธอสูดหายใจลึก ๆ “ฉันปวดหัว วางแผนว่าจะพักผ่อนที่บ้านทั้งวัน” “อ้อ...แบบนี้เอง! ถ้าเธอไม่สบาย งั้นก็พักผ่อนเยอะ ๆ นะ” ไมค์กล่าว “เมื่อวานเครื่องลงแล้วทำไมไม่ส่งข้อความหาฉันล่ะ? ฉันรู้สึกว่าเธอไม่ชอบติดต่อฉันมากขึ้นเรื่อย ๆ เลย เธอไม่พอใจอะไรฉันหรือเปล่า?” ฉินอันอันไม่อยากให
ฟู่สือถิงนอนไม่หลับ ไม่ใช่เพราะฉินอันอัน แต่เป็นเพราะรุ่ยลา จิ้นซือเหนียนพารุ่ยลาเข้าร่วมรายการวาไรตี้ เป็นรายการวาไรตี้ที่ถ่ายทำกลางแจ้ง รายการนี้หลัก ๆ แล้วคือการให้ดาราใช้ชีวิตอยู่กับเด็กน้อยหน้าใหม่ ทำให้ดาราได้รับประสบการณ์ของการเป็นพ่อ พวกเขาเฟ้นหาเด็กน้อยหน้าใหม่หลายคน มีทั้งชายและหญิง หน้าตาดีมากทุกคน แน่นอนว่าสำหรับเขา ไม่มีใครหน้าตาดีสู้รุ่ยลาได้ เหตุผลที่ฟู่สือถิงนอนไม่หลับเพราะเขากลัวว่ารุ่ยลาจะเปลี่ยนไประหว่างที่อยู่จิ้นซือเหนียน เธออาจจะซึมซับและถือว่าจิ้นซือเหนียนเป็นพ่อของเธอ! เขาถามคำถามผู้กำกับอย่างละเอียดในตอนที่อยู่ ณ สถานที่ถ่ายทำ ผู้กำกับตอบเขาว่า เด็กกับดาราจะกินด้วยกัน เล่นด้วยกัน เช่นเดียวกับพ่อแม่จริง ๆ เลี้ยงดูลูก ตอนนั้นหัวใจของเขาเย็นเยือกมากขึ้น เขาอยากแบนรายการนี้… ไม่ใช่สิ เขาอยากแบนจิ้นซือเหนียน! ถ้าหากรุ่ยลายืนกรานจะเข้าร่วมรายการนี้ ก็ให้รุ่ยลาเปลี่ยนคู่หู เขาจะได้ไม่ต้องอึดอัดใจขนาดนี้ แต่เขาก็รู้ว่า รุ่ยลาเข้าร่วมรายการเพราะจิ้นซือเหนียน ถ้าเขาแบนจิ้นซือเหนียนอีกรอบ ฉินอันอันจะต้องทะเลาะกับเขาครั้งใหญ่แน่นอน ตอนนี้ท้องเธอใหญ่
การพบปะครั้งนี้ดูเหมือนจะราบรื่นเกินกว่าที่คิดไว้ ครอบครัวคนไข้เข้าใจดีถึงความเสี่ยงของการผ่าตัดที่เธอพูดถึง พวกเขาขอร้องให้ฉินอันอันช่วยทำการรักษา ถึงแม้การผ่าตัดจะล้มเหลวก็ยอมรับได้ หลังจากการพูดคุยจบลง ฉินอันอันก็ออกมาจากบ้านของคนไข้ เธอหันไปมองวิลล่าที่อยู่ด้านหลังเธอแล้วขึ้นรถด้วยอารมณ์ที่จริงจังและหนักอึ้ง หลังจากบอดี้การ์ดเตือนให้เธอคาดเข็มขัดนิรภัยแล้ว เขาก็ขับรถไปบนถนนกว้าง เธออดไม่ได้ที่จะพูดว่า “คุณเคยเห็นคนแปลกหน้าสองคนอยู่คนละประเทศแต่หน้าตาคล้ายกันมากหรือเปล่า?” บอดี้การ์ด “เจ้านาย ผมไม่ค่อยได้ไปเมืองนอก เลยแทบไม่รู้จักชาวต่างชาติเลยครับ” “งั้นคุณเคยเห็นคนแปลกหน้าที่มาจากประเทศเดียวกันแต่หน้าคล้ายกันมากไหม?” เธอเปลี่ยนคำพูด บอดี้การ์ดคิดอย่างละเอียดรอบคอบ “ผมรู้จักคนไม่มากนัก… แต่ผมคิดว่าสถานการณ์แบบนี้น่าจะมีอยู่ เพียงแต่มีน้อย คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นเรื่องแบบนี้ในข่าว... เจ้านาย ทำไมจู่ ๆ คุณถึงถามแบบนี้ล่ะครับ?” ฉินอันอันนิ่งอึ้งอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ส่ายหัว “ไม่มีอะไร พวกเราไปซื้อของที่ห้างกันเถอะ” บอดี้การ์ด “คุณต้องการซื้ออะไรเหรอครับ? ผมไปส่
“แต่ฉันรอเข้าไปดูแทบไม่ไหวแล้วค่ะ!” นั่วนั่วอ้อนวอน “พี่สือถิง พี่พาฉันเข้าไปดูได้ไหมคะ? ฉันสัญญาว่าจะไม่สร้างปัญหาให้พี่ อีกอย่างฉันในฐานะที่เป็นแฟนตัวยงของดรีมซิตี้ พอฉันเข้าไปดูแล้วก็สามารถเสนอแนะและแบ่งปันความรู้สึกได้นะคะ!” ฟู่สือถิงคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ตอบตกลง ทุกคนสวมหมวกนิรภัยแล้วก็ตามผู้จัดการโครงการเข้าไปในสถานที่ก่อสร้าง ผู้จัดการโครงการแนะนำความคืบหน้าของการก่อสร้างแต่ละจุด ตลอดจนปริมาณงานที่ยังเหลืออยู่และระยะเวลาก่อสร้าง นั่วนั่วตั้งใจฟังอย่างละเอียดและตอบกลับเป็นครั้งคราว เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นแฟนตัวยงของดรีมซิดี้จริง ๆ “นั่วนั่ว หลังจากดรีมซิตี้สร้างเสร็จแล้ว ฉันย้ายเธอมาทำงานที่นี่ได้นะ” ฟู่สือถิงคิดว่าการตัดสินใจนี้จะทำให้เธอมีความสุขมาก แต่กลับไม่มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าเธอ “แบบนี้จะไม่ไกลจากลูกพี่ลูกน้องของฉันเหรอคะ?” เธอพึมพำ “พี่สือถิง ฉันมาเที่ยวที่นี่ได้ทุกอาทิตย์ แต่พี่ไม่ต้องย้ายฉันมาทำงานที่นี่ได้ไหมคะ?” ฟู่สือถิงเห็นเธอขมวดคิ้วและพูดออดอ้อนเสียงเบาแบบนี้แล้ว ใบหน้าของฉินอันอันปรากฏขึ้นในใจอีกครั้ง ! น้อยครั้งมากที่ฉินอันอันจะอ้อนเขาแบบนี้
เวลาสองทุ่ม รถโรลส์รอยซ์สีดำคันหนึ่งค่อย ๆ ขับเข้าไปในคฤหาสน์สตาร์ริเวอร์ ไมค์ได้ยินเสียงจึงเดินออกมาจากคฤหาสน์ “ฟู่สือถิง คุณมาทำอะไรดึกดื่น?” ไมค์ล้อเลียนเสียงเย็นชา “คุณบอกว่าจะมาตอนบ่ายไม่ใช่เหรอ? ฟ้ามืดขนาดนี้แล้ว บ่ายของคุณนี่ไม่เหมือนบ่ายของคนอื่นสินะ?” ฟู่สือถิงเงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตาเข้มขรึม “ผมมาตอนบ่ายกับมาตอนนี้มันต่างกันตรงไหน?” “ต่างกันอยู่แล้ว ถ้าคุณมาตอนบ่าย ฉินอันอันจะอยู่บ้าน แต่ถ้าคุณมาตอนนี้ ฉินอันอันไม่อยู่บ้านหรอก” ไมค์ยืนอยู่ในลานบ้านโดยไม่คิดที่จะเปิดประตู “งั้นผมไม่เชิญคุณเข้ามาก็แล้วกัน” ฟู่สือถิงตึงเครียด “เธอไปไหน?” “คุณบอกผมมาก่อนสิว่าตอนบ่ายคุณไปทำอะไรมา? ตอนแรกบอกว่าจะมาตอนบ่าย แล้วทำไมไม่มา?” ไมค์ถามอย่างมั่นใจ ลูกกระเดือกของฟู่สือถิงกลิ้งขึ้นลงและเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “เมื่อตอนบ่ายนั่วนั่วออกจากโรงพยาบาล ผมก็เลยไปรับเธอไปส่งที่บ้าน ครอบครัวของเธอยืนกรานที่จะรั้งผมให้ทานมื้อเย็นด้วยกัน ผมจึงปฏิเสธไม่ได้” ไมค์หัวเราะเยาะ “ถ้าครอบครัวของเธอสั่งให้คุณค้างคืน คุณก็คงปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันใช่ไหม?” ฟู่สือถิง “ค้างคืนแล้วไงล่ะ? คุณไม่มีสิทธิ