“พี่รู้” สิ้นคำของเขาเธอก็ขยับตัวออก พร้อมกับจับมือทั้งสองของเขาเอาไว้แล้วรั้งให้เดินตามมาที่ห้องนอน เธอไม่ได้ยั่วเขาหรอก ไม่ได้ยั่วจริงๆ พอมาถึงห้องเธอก็เอาหมอนและผ้าห่มอีกชุดให้เขานอนข้างๆ เตียงเธอนั่นแหละ“อย่างน้อยก็มีหมอนกับผ้าห่ม” เขาแกล้งแซวและยิ้มมุมปาก“ทนปวดหลังสักคืนนะคะ” “จะลองทนดูค่ะ” เขาตอบก่อนจะวางหมอนกับพื้นก่อนจะนั่งลง ส่วนเธอก็ขยับขึ้นนอนบนเตียง ทว่านอนขอบๆ หน่อยเพราะอยากเห็นหน้าเขา “เรามีรั้วในใจใช่ไหมคะ” อลินถามเพื่อหยั่งเชิงเขา“ตราบเท่าที่ตัวเล็กร้องขอ” จอมทัพตอบ จากนั้นเธอก็ยิ้มก่อนจะเอื้อมมือไปจับแก้มเขาเพื่อเป็นการขอบคุณ ทว่าจังหวะเดียวกันนั้นเขาก็ขยับปากจูบที่มือเธอพร้อมกับสบตากันอยู่ “ฝันดีนะคะพี่เฉิน” อลินเอ่ยเสียงหวานและเบา เขาจึงเอื้อมมือไปลูบศีรษะเธอบ้างแล้วจึงเอ่ย“ฝันดีค่ะตัวเล็ก” เขาบอกด้วยความเอ็นดู ก่อนจะยิ้มหวานแล้วจึงเอนตัวลงไปนอน อลินถึงกับถอนหายใจเบาๆ แล้วจึงปิดไฟ ทั้งคู่ยังไม่ได้หลับตาหรอก หากแต่นอนตะแคงมองกันในความสลัว เพราะภายในห้องไม่ได้มืดมาก เนื่องจากเธอเปิดไฟที่หัวเตียงเอาไว้เล็กน้อย แต่ชั่ววินาทีเธอก็เอื้อมมือลงมาหาเขา เพราะว่าเตียงไ
“เอ่อ แล้ว... พี่เฉินละคะ” อลินถามพลางมองไปรอบๆ แต่ก็ไร้วี่แวว จังหวะเดียวกันนั้นโจว์ก็หยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงขนาดเล็กออกมาวางให้เธอบนโต๊ะ“เอ่อ อะไรคะเนี่ย” อลินถามด้วยความสงสัยพลางเงยหน้ามอง“แล้วพี่เฉินล่ะคะ คุณโจว์ยังไม่ตอบเล็กเลย” “คุณท่าน เอ่อ ฝากสิ่งนี้เอาไว้ให้คุณตัวเล็ก” โจว์บอกพร้อมกับดันกล่องสีแดงนั้นเข้าไปให้เธอใกล้ๆ “คุณโจว์ สีหน้าคุณโจว์ดูไม่สู้ดีเลย พี่เฉินไม่ได้มาด้วยเหรอคะ”“ผมขอโทษครับ ขอโทษที่นัดคุณตัวเล็กมาโดยที่คุณท่านไม่ได้มาตามนัด ท่านต้อง... ต้องไป ต้องเดินทาง”“ดะ ดะ เดินทาง ไป... ไปอเมริกา” เธอถามเสียงสั่นเลยทีเดียว “ครับ ต้องไปอเมริกาห้าถึงหกเดือน วันนี้คือวันเดินทาง”“พี่เฉินไม่เคยบอกว่าเป็นวันนี้ ทำไมไม่บอก” อลินแทบจะชาไปทั้งตัว ภาพของค่ำคืนที่ผ่านมามันปะเดปะดังเข้ามาในห้วงคำนึง นี่หรือเปล่าที่เขาอยากอยู่กับเธอนานๆ เป็นเพราะว่าเขาต้องไปแล้วหรือ เขาจะทิ้งเธอไปอย่างนั้นหรือ“ทำไม ทำไมพี่เฉินไม่บอกเล็กสักคำ ว่าต้องไป แล้วเมื่อคืนเรา...” “เปิดดูกล่องนั่นหน่อยสิครับ” เขาบอกอีกครั้งเมื่อเธอยังไม่ยอมเปิด ว่าแล้วเธอก็หยิบมาเปิดดูด้วยมืออันสั่นเทา แล้วภายในคือแห
แน่นอนว่าหกเดือนเป็นช่วงเวลาพิสูจน์หัวใจ และความรู้สึกของตัวเอง จอมทัพพยายามทำงานเพื่อให้คลายความคิดถึงเจ้าตัวเล็กลงไปบ้าง ไม่ได้ทำเพื่อให้ลืมเธอ แต่เพื่อให้เวลาผ่านไปโดยเร็วจะได้มาหาขวัญของใจอีกครั้ง เขาไม่วกแวกไม่สนใจผู้หญิงคนไหน ยังคงสวมแหวนหมั้นเอาไว้ตลอดราวกับประกาศให้รู้ว่าเขามีเจ้าของ ผ่านไปแต่ละวันจอมทัพเอาแต่ดูคลิปตอนที่เขาอยู่กับอลิน ซึ่งโจว์แอบถ่ายมาให้ตลอดระยะเวลาเจ็ดวันที่อยู่ด้วยกัน พอจะทำให้เขายิ้มออกมาทุกครั้งและมีกำลังใจที่จะรอต่อไป ขณะที่อลิน เรียนจบอย่างเป็นทางการ และเริ่มต้นทำงานในบริษัทของครอบครัว แต่ละวันเธอทำงานเหมือนกลัวจน กลัวไม่มีเงินใช้หนี้ แต่เปล่า อลินแค่กลัวว่าถ้าหากว่าจะคิดถึงจอมทัพน่ะสิ เธอจึงต้องทำงานฆ่าเวลาและต้องมีความสุขไปกับมัน เพื่อรอให้ครบกำหนดที่จอมทัพจะกลับมาเมืองไทยอีกครั้งแต่ฟ้าช่างทำร้ายหัวใจเธออย่างรุนแรง มรสุมลูกใหญ่ถาโถสู่ครอบครัว เท่านั้นยังไม่พอ ตัวเธอที่เฝ้ารอชายคนรักให้กลับมาทว่าเขากลับไม่ใช่คนนั้นที่เฝ้ารอ นี่มันเกิดอะไรขึ้น จอมทัพผู้แสนจะอ่อนโยน สุภาพบุรุษ และอบอุ่นจากไปไหนเสียแล้ว แต่เป็นอสูรร้ายที่กำลังจะกระชากเธอให้ตายตกตามน้อง
“ทำไมพระเจ้าเล่นตลกกับผมแบบนี้ ผมทำอะไรให้ท่านเกลียด น้องต้องมาตาย แล้วคนที่ผมรักกลับ...” จอมทัพพร่ำเพ้อด้วยอาการที่เริ่มเมา ตาพร่าเล็กน้อย จิตใจครุ่นคิดถึงกับสัมผัสในคืนก่อนจาก เขาจะไปทำให้มันจบเพื่อเป็นการลงทัณฑ์ในบทเรียนแรก ว่าแล้วเขาก็ลุกแบบเซๆ ออกจากห้อง ในมือถือกุญแจเพื่อจะไปเปิดห้องที่อลินอยู่ เสียงเปิดล็อกกุญแจทำให้อลินที่ผล็อยหลับไปถึงกับตื่น เธอลืมตาขึ้นเมื่อมีคนเข้ามาในห้อง จึงได้รีบลุกแล้วพลิกตัวหันไปมอง ซึ่งไม่ทันแล้วเพราะคนตัวโตจับเธอพลิกแล้วคร่อมเอาไว้ “อุ้ย! พี่เฉิน! คุณ!” อลินร้องอุทานด้วยความตกใจ ขณะที่เห็นสีหน้าของเขาภายใต้แสงไฟสลัวพร้อมด้วยกลิ่นไวน์และเหล้าผสมกันไปหมด “ออกไปนะ จะทำอะไร” เธอบอกพร้อมกับขัดขืนและดิ้น ทว่ายิ่งดิ้นชุดคลุมก็ยังเปิดออก เนินอกอวบอัดก็ค่อยๆ โผล่ออกมาให้เขาเห็น สายตาคมกริบเหลือบมองเล็กน้อยก่อนจะมองหน้า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็น และไม่พูดอะไรทั้งสิ้นแต่กลับก้มหน้าลงช้าๆ กระทั่งเกือบชิดกับปากอิ่ม “พี่... พี่เฉิน” ความเคยชินเธอก็เรียกเขาอย่างสนิทปาก โดยลืมไปว่าคนนี้ไม่ใช่ แต่มันก็ช่วยให้เขาชะงักได้ เพราะไปกระตุ้นความรู้สึกที่แท้จริงที่เขา
“พี่เฉิน... พี่เฉินไม่เอา อย่า” เธอเอ่ยขอร้องเบาๆ พร้อมกับหายใจหอบทั้งซ่านสยิวและร้อนรุ่ม “อย่าทำเพราะความโกรธเล็กสิ” คราวนี้น้ำเสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อยและหยุดดิ้น ขณะที่เรียวปากของเขากำลังละเลงเล้าโลมกับบัวคู่งามอย่างหิวกระหาย สลับปาดป่ายเรียวลิ้นร้อนไปมาทั้งสองฝั่ง ทั้งดูดดึงขบเม้มเม็ดทับทิมสีหวานหนักหน่วง ซ่านสยิวเพียงใดแต่ความหวาดกลัวและเสียใจมันมีมากกว่า เธอรักเขาและยอมเป็นของเขา หากทำด้วยความรัก ไม่ใช่ความเกลียดชังและเกลี้ยวกราดแบบนี้“คุณจอมทัพ” เมื่อเขายังไม่หยุด เธอจึงเรียกชื่อเต็มเขาเสียเลย และมันได้ผลจริงๆ ด้วย เขาหยุดและเงยหน้ามองเธอพลางกัดฟันข่มอารมณ์“ทำไม ไม่อยากได้เหรอ” เขากระซิบถาม“ถ้าคุณใช้กำลัง คุณก็อาจจะได้ฉัน แต่หัวใจฉันมันก็จะแหลกสลาย” เธอตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเช่นเคย“แล้วใจผมล่ะ มันต้องแหลกสลายกี่ครั้ง” “แต่มันต้องไม่จบแบบนี้ ฟังเล็กบ้าง” เธอทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงแผ่วเบามีน้ำตาคลอ ทำให้เขาสับสนในหัวใจพอสมควร“ผมจะฟัง แต่ต้องหลังจากหนึ่งชั่วโมง นับจากนี้” สิ้นคำเขาก็ก้มลงจะจูบเธออีกรอบทว่าเธอเบือนหน้าหนี“มะ มะ ไม่เอา พี่เฉิน ไม่!” คราวนี้เธอขัดขืนรุนแรง
แต่ขณะเดียวกันจอมทัพก็ออกยืนสงบสติอารมณ์อยู่ที่ห้องนั่งเล่น มองผ่านกระจกออกไปน้ำในลำธารไหลไม่ขาดสาย สายตาของเขามองเหม่อ มีน้ำตาคลอเล็กน้อย ก่อนจะยกมือข้างซ้ายของตนเองขึ้นมาดู มือขวาสัมผัสแหวนด้วยอาการสั่นเทา ความเมาหายไปหมด เขาจะทำอย่างไรกับความรู้สึกนี้ คิดถึงเหลือเกิน คิดถึงแทบขาดใจ แต่สุดท้ายเขาก็ต้องตัดใจจากความรู้สึกรักออกไปทั้งหมด บอกตัวเองว่าเธอทำให้เขาเจ็บปวด เธอทำให้ต้าเอสตาย“ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้” จอมทัพพูดเพียงลำพังด้วยน้ำเสียงสั่น รักน้องก็รัก แต่ก็รัก... รักเหลือเกิน ทว่าได้แค่คิดแล้วก็ยกมือปิดหน้าเอาไว้ด้วยความเครียด แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ตัดสินใจล็อกบ้าน ล็อกหน้าต่างทุกบานแล้วกลับเข้าห้อง จากนั้นก็โทรศัพท์ไปหาโจว์เพื่อให้ซื้อบางอย่างเข้ามาให้ในวันพรุ่งนี้ พอสั่งอะไรเสร็จสรรพเขาก็ปิดไฟแล้วกลับเข้าห้องเก็บตัวเงียบ ไม่ได้ดื่มเหล้า นอนไปพร้อมกับความทุกข์เป็นสองเท่า พอเช้าวันรุ่งขึ้น ในห้องที่อลินนอนสว่างจ้า เพราะด้านนอกน่าจะสายมากแล้ว เธอตื่นสายเพราะเมื่อคืนนอนไม่หลับ กล่อมตัวเองอยู่นานนับชั่วโมง จนกระทั่งหลับไปโดยไม่รู้ตัวว่าหยุดร้องไห้เมื่อไหร่ มาตอนนี้รู้สึกอ่อนเพลียอย่า
“มิน่าล่ะ เราถึงไม่รู้ว่าต้าเอสมีญาติพี่น้อง เขาเป็นผู้มีอิทธิพลระดับไหนคะ” “ก็ระดับ... มังกรตัวใหญ่ จะเรียกมังกรเสียทีเดียวก็ไม่ใช่ ท่านมีเชื้ออเมริกัน” “เป็นมาเฟีย” อลินให้ความเห็นน้ำเสียงตระหนกพอสมควร พลางมองไปที่แผ่นหลังของจอมทัพที่มีรอยสักลายมังกรอยู่ เธอรู้สึกหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิมเสียอีก ใช่... พี่เฉินคนนั้น แทบจะเป็นคนละคนกับจอมทัพ เธอไม่รู้จักผู้ชายที่เธอนอนด้วยในคืนนั้นเลย “ไม่เรียกว่ามาเฟียดีกว่าครับ ท่านเป็นคนดีนะ” คนดีที่สามารถซ้อมคนให้บางตายได้น่ะสิ “ที่ทำอยู่นั่นแหละ เรียกว่าใช่เลยค่ะ คนธรรมดาที่ไหนจะกล้าลักพาตัวคนอื่นมาทำร้ายได้แบบนี้” “ก็ใช่แหละครับ เขาไม่เหมือนคนที่คุณเล็กรู้จัก เวลารักเขารักหมดหัวใจ เวลาแค้นเขาก็แค้นจนสามารถฆ่าได้เหมือนกัน ฉะนั้น คุณเล็กรู้คร่าวๆ เท่านี้พอ ค่อยๆ ทำความรู้จักกับเขาไป ผมขอตัว” “ดะ ดะ เดี๋ยว แล้วเล็ก เอ่อฉัน ต้องอยู่ที่นี่กับเขาเหรอ” “คุณเป็นเชลยเขานี่ ดีแค่ไหนแล้วที่เขาไม่มัดหรือขังคุณเอาไว้เหมือนนายกรณ์นั่น”“เชลยเหรอ ไม่มีทาง ฉันไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้น” “หึๆ ทำตัวน่ารักไว้นะครับ เผื่อเขาใจดี ไว้ชีวิตคุณ” ดูเหมือนโจว์กำลังเยาะ
แต่เขาก็ยังคงอ้อยอิ่งไล่ปลายจมูก มาสัมผัสกับริมฝีปากของเธอแผ่วเบา ภาพความทรงจำเมื่อหกเดือนที่แล้วมันหวนคืนกลับมาอีกครั้ง จูบและอ้อมกอดอุ่นมันยังอยู่ในความทรงจำไม่เคยจ่าง และรอคอยที่จะได้เป็นเจ้าของหัวใจดวงนี้ แต่วันนี้เขาทำอะไรลงไป “ตัวเล็ก” เสียงกระซิบทุ้มนุ่มเปล่งออกมาจากปากร้อนเบาๆ และนั่นทำให้เธอรู้สึกว่าได้เขากลับคืนมาเพียงชั่วครู่ก็ยังดี“พี่... พี่เฉิน” เธอตอบเสียงเบาเช่นกัน จากนั้นจึงยกมือขึ้นลูบไล้แก้มของเขาคล้ายจะพิสูจน์ว่าใช่เขาจริงๆ และยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรต่อ เรียวปากร้อนก็ประกบจูบแนบแน่นอีกครั้ง คราวนี้ต่างฝ่ายต่างเต็มใจพร้อมกับดึงความทรงจำแห่งความสุขนั้นกลับคืนมา ผ่านสัมผัสเร่าร้อนและดูดดื่มอยู่เนิ่นนาน จนรู้สึกถึงลมหายใจหอบพร่าและร่างกายที่ร้อนรุ่มขึ้น จวบจนกระทั่งพอใจ เรียวปากจึงได้พละออกจากกัน แต่หน้าผากยังคงแนบกันอยู่ ชั่วอึดใจเขายกมือซ้ายเชยคางเธอให้เงยหวังจะจูบอีกสักที แต่ความโกรธแค้นและเสียใจมันตีกับความรู้สึกถวิลหาเหลือเกิน“พี่เฉิน ได้โปรด ฟังเล็กได้ไหม เล็กไม่ได้...” อลินเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นพลางเอามือขวาจับมือซ้ายของเขาข้างที่ประคองใบหน้าเธอเอาไว้ แต่เธอกลับส
“เมียฉัน วันนี้มีหลายอย่างให้ทำเลย” เขาบอกพลางหรี่ตามองเธอ และยกยิ้มมุมปาก ครั้นเธอจะเถียงคนก็เยอะแยะ ทำได้แค่กัดฟัน“ถ้างั้น ผมจะไปทำงานอื่นดีกว่า มีอะไรก็โทรเรียกก็แล้วกันครับ”“อืม” จอมทัพตอบสั้นๆ จากนั้นทั้งโจว์และลูกน้องทั้งหมดจึงได้แยกย้ายและหน้าที่ขนของลงเป็นของอลิน“พูดคำว่าเมียอีกคำ ฉันต่อยคุณแน่”“ก็เมียไหมล่ะ นี่ก็ผัว” เขาตอบหน้าตาเฉย พลางชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง“ไม่ได้เป็น” เธอเค้นเสียงและทำหน้าบึ้งใส่“ก็ใส่เข้าไปเต็มลำขนาดนั้น แค่ยังไม่เสร็จ”“คุณ!” เธอไม่รู้จะเถียงอย่างดี จึงได้แต่ยกมือขึ้นผลักอกเขาแรงๆ แล้วเดินไปยังท้ายรถ ทยอยขนทุกอย่างลงแล้วเดินดุ่มๆ เข้าไปในบ้าน ชอบใจเขาเสียจริงที่ทำให้เธอมีน้ำโหได้เนี่ย คิดแล้วก็เผลอยิ้มแต่เพียงชั่วครู่เท่านั้นเขาก็ต้องหุบยิ้มในทันที จากนั้นก็เดินเข้าบ้าน ไปนั่งชิลๆ ในห้องนั่งเล่น พลางหยิบไวน์มารินจิบ
“อ้าว ป้าก็นึกว่าสามคนผัวเสียซะอีก เห็นยุคนี้นิยมโลกหลายใบ เลยนึกว่ามีเหมือนเขาบ้าง” แหมป้าขายผักฟิวป้าข้างบ้านจริงๆ เชียว“แล้วคุณคนนี้ก็ไม่ใช่...” “เอาผักนี้ครับ เอาอันนี้ด้วย อุ้ยอันนี้ด้วยครับ” จอมทัพรู้ว่าเธอจะพูดอะไรจึงแทรกพูดสารพัด“โจว์ช่วยเลือกที” จอมทัพยังเสริมขึ้นอีก แล้วทำเป็นเลือกนั่นนั่นแล้วส่งให้ป้าคนขาย จ่ายเงินเสร็จก็คว้ามืออลินออกไปจากหน้าร้าน ไปยังร้านอื่นๆ โดยมีโจว์เป็นคนนำ เพราะจ่ายตลาดเก่งที่สุดแล้วล่ะ ได้เนื้อสัตว์สารพัดเพื่อจะได้นำไปเก็บไว้ในตู้เย็น“คุณจะขังฉันไว้ที่บ้านพักตากอากาศกี่ปี ซื้อไปเยอะแยะขนาดนั้น” อลินอดแซวไม่ได้ เมื่อยังเดินอยู่ในตลาด“ได้ทั้งชีวิต” จอมทัพตอบเสียงเรียบ เหมือนไม่คิดอะไร แต่อลินกลับเหลือบมอง“หยุดมองผมด้วยสายตาแบบนั้น” จอมทัพว่า“อยากมองตายล่ะ” เธอเถียงกลับ จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก“อารมณ์งอนผัว
“โจว์ไปกับฉัน ฉันจะพาเชลยฉัน ไปจ่ายตลาด” จอมทัพเอ่ยน้ำเสียงเยาะอีกครั้ง“ครับ” โจว์ก็รับคำอย่างว่าง่าย พร้อมกับเดินไปที่รถและเปิดให้เจ้านาย“เชิญครับ” เขาผายมือ จอมทัพจึงดันอลินขึ้นไปนั่งก่อน จากนั้นจอมทัพจึงตามขึ้นไปประกบ และเมื่อเคลื่อนรถออกไปจากหน้าบ้านได้ อลินก็เอามือดันเขาออกไปให้ห่างๆ แล้วหันมามองอย่างเอาเรื่อง“จะเอายังไงคะ” เธอถามแบบหาเรื่อง“สนุกดีออก หรือชอบแบบที่ผมทำกับไอ้กรณ์”“ฉันไม่รู้ว่าคุณทำอะไรคุณกรณ์” ดูเหมือนการย้ำของเขา จะทำให้เธออยากรู้มากขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีโอกาสได้ถามเลย“หึๆ” เขาได้แต่หัวเราะใจลำคอ ก่อนจะเปิดโทรศัพท์เพื่อเอาคลิปให้เธอดู เท่านั้นแหละเธอก็ช้อก อ้าปากค้างไปเลย เพราะไม่คิดว่าผุ้ชายที่เคยขึ้นชื่อว่าสุภาพบุรุษกับเธอจะ...“คุณมัน... ชั่วร้ายที่สุด” เธอไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาต่อว่าเขา ส่วนเขาน่ะหรือได้แต่หัวเราะชอบใจ
“พอได้แล้วนรา” บิดาเอ่ยแทรกขึ้น“ทุกคน ฉันขอโทษ ฉันแค่รักคุณอา” ต้าเอสพยุงตัวลุกขึ้นนั่งแล้วประนมมือไหว้สั่นๆ“หนอย! มึงมันไร้ยางอาย” สิ้นคำคุณหญิงนวลอนงค์ก็ถีบเข้าไปที่ใบหน้าของต้าเอสอย่างแรง“เอส” ท่านวันชัยร้องเรียก ก่อนจะวิ่งเข้าไปพยุง“คุณหญิง จะเกินไปแล้วนะ”“คุณแม่ คุณแม่ เรากลับกันเถอะค่ะ พอได้แล้ว เรื่องมันไปกันใหญ่แล้ว”“ถ้ามันไม่ตายวันนี้ กูจะทำให้มันตายวันหน้า คอยดู เชิญคุณเสวยสุขกับมันไปก่อนเถอะ” เมื่อพูดจบคุณหญิงนวลอนงค์ก็สะบัดตัวขึ้นรถ มีอลินคอยประคองเอาไว้ โดยที่นรา คีตะภัทร ขึ้นรถอีกคัน ทิ้งให้ท่านวันชัยกอดร่างของต้าเอสเอาไว้ เวลานี้เขาเต็บไปด้วยความอับอาย เพราะชาวบ้านมุงดูกันเต็มไปหมด และเขาไม่รู้จะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร สุดท้ายได้แต่อุ้มเธอขึ้นรถเพื่อพาไปโรงพยาบาล จอมทัพกำโทรศัพท์เอาไว้แน่นจนมือสั่น พร้อมกับสันกรามที่ขบกันแน่นด้วยความโกรธ จะไม่ให้เขาแค้นได้อย่างไรใจเมื่อสิ่งที่คนพวกนั้นทำเกินกว่าคำว่าคน แม้ต้าเอส
“อีกสองคนเหรอ” จอมทัพถามกลับ“ครับ”“เฮ้อ โจว์ มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันวะ เหมือนจะผิดแผนไปหมด” จอมทัพบอกด้วยน้ำเสียงเครียดเล็กน้อย“มันไม่ได้ผิดแผนหรอกครับ แต่ มันเป็นชะตากรรมของพวกเราทุกคน”“ทำไมต้องเป็นเธอ ครอบครัวเธอ ที่ทำให้เอสต้องมาลาโลกแบบนี้”“ผมเข้าใจความเจ็บปวดของคุณท่าน”“แล้วคุณท่านจะเอายังไงต่อไปครับ”“ความเจ็บปวด และความแค้นมันฝังแน่นอยู่ในอก ชีวิตต้องแลกชีวิตเท่านั้น พวกมันสะใจที่เห็นต้าเอสโดนโซเชียลกระทำ และฆ่าทั้งเป็น แต่ฉันจะไม่รอให้โซเชียลเอาคืนคนพวกนั้นหรอก ฉันนี่แหละจะจัดการเอง”“แล้ว คุณเล็กล่ะครับ”“เล็กก็ส่วนเล็ก” ดูเหมือนว่าเอาเข้าจริงๆ แล้วจอมทัพตอบไม่ได้เลยว่าจะทำอย่างไรกับอลิน“ให้คนสะกดรอยตามคนที่เหลือ แค่สะกดรอยตามนะ เอาให
แต่เขาก็ยังคงอ้อยอิ่งไล่ปลายจมูก มาสัมผัสกับริมฝีปากของเธอแผ่วเบา ภาพความทรงจำเมื่อหกเดือนที่แล้วมันหวนคืนกลับมาอีกครั้ง จูบและอ้อมกอดอุ่นมันยังอยู่ในความทรงจำไม่เคยจ่าง และรอคอยที่จะได้เป็นเจ้าของหัวใจดวงนี้ แต่วันนี้เขาทำอะไรลงไป “ตัวเล็ก” เสียงกระซิบทุ้มนุ่มเปล่งออกมาจากปากร้อนเบาๆ และนั่นทำให้เธอรู้สึกว่าได้เขากลับคืนมาเพียงชั่วครู่ก็ยังดี“พี่... พี่เฉิน” เธอตอบเสียงเบาเช่นกัน จากนั้นจึงยกมือขึ้นลูบไล้แก้มของเขาคล้ายจะพิสูจน์ว่าใช่เขาจริงๆ และยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรต่อ เรียวปากร้อนก็ประกบจูบแนบแน่นอีกครั้ง คราวนี้ต่างฝ่ายต่างเต็มใจพร้อมกับดึงความทรงจำแห่งความสุขนั้นกลับคืนมา ผ่านสัมผัสเร่าร้อนและดูดดื่มอยู่เนิ่นนาน จนรู้สึกถึงลมหายใจหอบพร่าและร่างกายที่ร้อนรุ่มขึ้น จวบจนกระทั่งพอใจ เรียวปากจึงได้พละออกจากกัน แต่หน้าผากยังคงแนบกันอยู่ ชั่วอึดใจเขายกมือซ้ายเชยคางเธอให้เงยหวังจะจูบอีกสักที แต่ความโกรธแค้นและเสียใจมันตีกับความรู้สึกถวิลหาเหลือเกิน“พี่เฉิน ได้โปรด ฟังเล็กได้ไหม เล็กไม่ได้...” อลินเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นพลางเอามือขวาจับมือซ้ายของเขาข้างที่ประคองใบหน้าเธอเอาไว้ แต่เธอกลับส
“มิน่าล่ะ เราถึงไม่รู้ว่าต้าเอสมีญาติพี่น้อง เขาเป็นผู้มีอิทธิพลระดับไหนคะ” “ก็ระดับ... มังกรตัวใหญ่ จะเรียกมังกรเสียทีเดียวก็ไม่ใช่ ท่านมีเชื้ออเมริกัน” “เป็นมาเฟีย” อลินให้ความเห็นน้ำเสียงตระหนกพอสมควร พลางมองไปที่แผ่นหลังของจอมทัพที่มีรอยสักลายมังกรอยู่ เธอรู้สึกหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิมเสียอีก ใช่... พี่เฉินคนนั้น แทบจะเป็นคนละคนกับจอมทัพ เธอไม่รู้จักผู้ชายที่เธอนอนด้วยในคืนนั้นเลย “ไม่เรียกว่ามาเฟียดีกว่าครับ ท่านเป็นคนดีนะ” คนดีที่สามารถซ้อมคนให้บางตายได้น่ะสิ “ที่ทำอยู่นั่นแหละ เรียกว่าใช่เลยค่ะ คนธรรมดาที่ไหนจะกล้าลักพาตัวคนอื่นมาทำร้ายได้แบบนี้” “ก็ใช่แหละครับ เขาไม่เหมือนคนที่คุณเล็กรู้จัก เวลารักเขารักหมดหัวใจ เวลาแค้นเขาก็แค้นจนสามารถฆ่าได้เหมือนกัน ฉะนั้น คุณเล็กรู้คร่าวๆ เท่านี้พอ ค่อยๆ ทำความรู้จักกับเขาไป ผมขอตัว” “ดะ ดะ เดี๋ยว แล้วเล็ก เอ่อฉัน ต้องอยู่ที่นี่กับเขาเหรอ” “คุณเป็นเชลยเขานี่ ดีแค่ไหนแล้วที่เขาไม่มัดหรือขังคุณเอาไว้เหมือนนายกรณ์นั่น”“เชลยเหรอ ไม่มีทาง ฉันไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้น” “หึๆ ทำตัวน่ารักไว้นะครับ เผื่อเขาใจดี ไว้ชีวิตคุณ” ดูเหมือนโจว์กำลังเยาะ
แต่ขณะเดียวกันจอมทัพก็ออกยืนสงบสติอารมณ์อยู่ที่ห้องนั่งเล่น มองผ่านกระจกออกไปน้ำในลำธารไหลไม่ขาดสาย สายตาของเขามองเหม่อ มีน้ำตาคลอเล็กน้อย ก่อนจะยกมือข้างซ้ายของตนเองขึ้นมาดู มือขวาสัมผัสแหวนด้วยอาการสั่นเทา ความเมาหายไปหมด เขาจะทำอย่างไรกับความรู้สึกนี้ คิดถึงเหลือเกิน คิดถึงแทบขาดใจ แต่สุดท้ายเขาก็ต้องตัดใจจากความรู้สึกรักออกไปทั้งหมด บอกตัวเองว่าเธอทำให้เขาเจ็บปวด เธอทำให้ต้าเอสตาย“ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้” จอมทัพพูดเพียงลำพังด้วยน้ำเสียงสั่น รักน้องก็รัก แต่ก็รัก... รักเหลือเกิน ทว่าได้แค่คิดแล้วก็ยกมือปิดหน้าเอาไว้ด้วยความเครียด แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ตัดสินใจล็อกบ้าน ล็อกหน้าต่างทุกบานแล้วกลับเข้าห้อง จากนั้นก็โทรศัพท์ไปหาโจว์เพื่อให้ซื้อบางอย่างเข้ามาให้ในวันพรุ่งนี้ พอสั่งอะไรเสร็จสรรพเขาก็ปิดไฟแล้วกลับเข้าห้องเก็บตัวเงียบ ไม่ได้ดื่มเหล้า นอนไปพร้อมกับความทุกข์เป็นสองเท่า พอเช้าวันรุ่งขึ้น ในห้องที่อลินนอนสว่างจ้า เพราะด้านนอกน่าจะสายมากแล้ว เธอตื่นสายเพราะเมื่อคืนนอนไม่หลับ กล่อมตัวเองอยู่นานนับชั่วโมง จนกระทั่งหลับไปโดยไม่รู้ตัวว่าหยุดร้องไห้เมื่อไหร่ มาตอนนี้รู้สึกอ่อนเพลียอย่า
“พี่เฉิน... พี่เฉินไม่เอา อย่า” เธอเอ่ยขอร้องเบาๆ พร้อมกับหายใจหอบทั้งซ่านสยิวและร้อนรุ่ม “อย่าทำเพราะความโกรธเล็กสิ” คราวนี้น้ำเสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อยและหยุดดิ้น ขณะที่เรียวปากของเขากำลังละเลงเล้าโลมกับบัวคู่งามอย่างหิวกระหาย สลับปาดป่ายเรียวลิ้นร้อนไปมาทั้งสองฝั่ง ทั้งดูดดึงขบเม้มเม็ดทับทิมสีหวานหนักหน่วง ซ่านสยิวเพียงใดแต่ความหวาดกลัวและเสียใจมันมีมากกว่า เธอรักเขาและยอมเป็นของเขา หากทำด้วยความรัก ไม่ใช่ความเกลียดชังและเกลี้ยวกราดแบบนี้“คุณจอมทัพ” เมื่อเขายังไม่หยุด เธอจึงเรียกชื่อเต็มเขาเสียเลย และมันได้ผลจริงๆ ด้วย เขาหยุดและเงยหน้ามองเธอพลางกัดฟันข่มอารมณ์“ทำไม ไม่อยากได้เหรอ” เขากระซิบถาม“ถ้าคุณใช้กำลัง คุณก็อาจจะได้ฉัน แต่หัวใจฉันมันก็จะแหลกสลาย” เธอตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเช่นเคย“แล้วใจผมล่ะ มันต้องแหลกสลายกี่ครั้ง” “แต่มันต้องไม่จบแบบนี้ ฟังเล็กบ้าง” เธอทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงแผ่วเบามีน้ำตาคลอ ทำให้เขาสับสนในหัวใจพอสมควร“ผมจะฟัง แต่ต้องหลังจากหนึ่งชั่วโมง นับจากนี้” สิ้นคำเขาก็ก้มลงจะจูบเธออีกรอบทว่าเธอเบือนหน้าหนี“มะ มะ ไม่เอา พี่เฉิน ไม่!” คราวนี้เธอขัดขืนรุนแรง