“แล้วแกนึกยังไงถึงเช่าโรงแรมอยู่เป็นเดือน ตอนแรกบอกว่าจะขับรถไปกลับไง”
“ผมก็แค่อยากอยู่”“แกเบื่อบ้านสินะ ตอนกลับถึงไทยก็ไปพักอยู่ที่ภูเก็ตตั้งหลายวัน พอมาอยู่บ้านได้ไม่กี่วัน แค่จบงานแต่งพี่ชายแก แกก็ไปเช่าโรงแรมที่กรุงเทพฯ อยู่ต่อ”“โธ่แม่! อย่าทำเสียงน้อยใจไปหน่อยเลยน่า ผมคิดถึงแม่จะแย่อยู่แล้ว ผมอยากอยู่บ้านให้แม่จิกทุกวัน แต่ผมมีเรื่องคาราคาซังอยู่ทางนี้ อยากทำให้มันจบๆ”“เรื่องอะไรของแก”“ทวงหนี้”“ใครติดหนี้แก แล้วติดเท่าไร”“ไม่มากหรอก แต่ผมเจ็บใจ อยากทวง”“แล้วแกไปเป็นเจ้าหนี้เงินกู้ตั้งแต่เมื่อไร”“เพื่อนยืมน่ะ เขาเอาไปทำร้านเหล้าแล้วเจ๊ง ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว แต่ยังไม่คืนผม”“สมน้ำหน้า” สวนกลับเร็วทันใจสมเป็นคุณนายอรอร จนลูกชายต้องโอดครวญ“ไม่ให้กำลังใจกันเลย”“ขอให้แกทวงเงินได้ก็แล้วกัน” คุณนายเปลี่ยนใจอวยพร เพราะอยากให้ลูกชายกลับมาอยู่ที่บ้านไวๆ แต่อดที่จะบอก“ผมเห็นว่าแหล่งวัตถุดิบเดิมที่จะป้อนเข้าโรงไฟฟ้าในไตรมาสต่อไปหรือปีหน้าอาจมีจำกัด ไม่ทราบว่าบริษัทมีแนวทางรับมือหรือยังครับ และในรายงานนี้แจ้งมาว่าบริษัทมีแผนเข้าซื้อบริษัทดับเบิลยูวาย ส่วนนี้ดำเนินการถึงไหนแล้วครับ”ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับเจ็ดของบริษัทพลังงานเทรนด์รักษ์โลกที่นั่งอยู่ใกล้หัวโต๊ะถามขึ้น หากไม่ทันที่เขาจะได้คำตอบ เครื่องมือสื่อสารที่วางตรงหน้าก็ส่งสัญญาณเตือนครืด...ครืดโทรศัพท์มือถือที่ตั้งเป็นระบบสั่นแจ้งว่ามีสายเรียกเข้า เขาจึงหยิบมาพิมพ์ข้อความตอบกลับ“อีกครึ่งชั่วโมงพี่โทร.กลับ”อาณัติวางโทรศัพท์ลงที่เดิม แล้วกลับไปให้ความสนใจกับการประชุมต่อ“ทางเราติดต่อซัพพลายเออร์ที่พร้อมทำสัญญาขายไม้สับให้กับเราไว้แล้วครับ และเราจะเปิดรับซื้อซังข้าวโพดจากเกษตรกรไว้ป้อนโรงไฟฟ้าอีกช่องทางด้วย ภายในสองปีนี้ราคาวัตถุดิบยังไม่ปรับตัว ต้นทุนเราจะยังไม่เพิ่ม ส่วนการเข้าซื้อบริษัทดับเบิลยูวาย เราจะระดมทุนจากนักลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ แต่อย่างไรก็ตาม เรามีงบสำรองสำหรับกรณีที่ระดมเงินทุนไม่ได้ตามเป้าไว้แล้ว”การ
รถคันสีดำของแขกที่พักห้องสวีตแล่นมาจอดหน้าโรงแรมก่อนสี่โมงเย็น เขาเร่งทำเวลา และคิดว่าโชคดีที่รถของตนแล่นในทิศทางเข้าเมือง ซึ่งสวนทางกับรถส่วนใหญ่ที่แล่นอยู่ในช่องทางออกนอกเมือง เขาจึงไม่ต้องผจญกับรถติดหากเมื่อเข้ามาในล็อบบี้ หางตาก็แลเห็นเด็กชายในชุดอนุบาลวิ่งมาหา เจ้าตัวหยุดตรงหน้าเขาแล้วยกมือไหว้ ก่อนจะแหงนมองหน้าตั้งอชิระมองเขานิ่งๆ ไม่พูดไม่จา ช่างไม่รู้เลยว่าท่าทีนั้นทำเอาผู้ใหญ่ทำตัวไม่ถูกอาณัติกวาดสายตามองหาแม่ของเจ้าตัวน้อย เห็นหล่อนจ้ำเท้ามาหาอย่างไว เขาจึงถามหล่อนขึ้น“มารอนานแล้วหรือ”“สักครึ่งชั่วโมงแล้วค่ะ”สีหน้าของไปรยาจืดเจื่อน หล่อนเกรงใจอาณัติ เพราะคิดว่าเมื่อคืนตนลืมปลาหางนกยูงไว้ในรถของเขาเอง ไม่ใช่เขาเอาปลาของลูกไปสักหน่อย“อชิมารับพี่ปลาครับ”เด็กชายบอกหลังจากจบคำพูดของแม่ ถึงตอนนี้คนตัวโตเข้าใจแล้วว่าทำไมไปรยาถึงร้อนรนที่จะตามหาปลาหางนกยูงไปคืนลูกชายให้ได้...ก็ดูท่าทีมุ่งมั่นของเจ้าตัวน้อยสิ ใครจะกล้าขวางกันเล่า“ลุงเก็บปลาไว้ในห้องพัก อชิจะขึ้นไป
“นั่งรอตรงนี้ ไม่ต้องตามเข้าไป เดี๋ยวลุงจะเอาปลาออกมาให้”ไปรยาหรี่ตามองตามหลังคนที่ผลุบหายเข้าไปในโถงกว้างอย่างสงสัย รู้ว่าอาณัติกำลังปิดบังบางอย่าง แต่หล่อนเลือกที่จะไม่ทักถามเมื่อเห็นว่ามีเก้าอี้วางอยู่ข้างประตู หญิงสาวจึงรั้งร่างของลูกชาย ตั้งใจจะพาไปนั่งด้วยกัน แต่เจ้าตัวเล็กก็ดึงดัน เบี่ยงตัวออกจากแม่ ตั้งท่าแต่จะพุ่งไปหาพี่ปลาท่าเดียว...จนเสียงจากด้านในดังขึ้น“โอ๊ะ! อะไรวะ ยังไม่ตายเหรอ”อชิระวิ่งเข้าไปหาอย่างไวโดยที่ไปรยาห้ามไว้ไม่ทัน พลันเสียงร้องกรี๊ดของลูกชายก็ดังขึ้น หญิงสาวตกใจ แต่เมื่อตามไปถึงแล้วจึงเห็นลูกชายกระโดดอยู่ข้างโต๊ะ พลางชะโงกหน้ามองโถแก้วใสที่มีปลาหางนกยูงแหวกว่ายอยู่ข้างในอย่างดีใจ…หากท่าทางของคนตัวโตกลับต่างจากเด็กชายโดยสิ้นเชิง“พี่คิดว่าปลาตายแล้ว เมื่อเช้ามันหงายท้องตั้งสามตัว แต่มาดูอีกที มันกลับไม่ตาย ดีนะที่พี่ไม่ทำลายหลักฐาน”อาณัติสารภาพเสียงเบา สีหน้าดูไม่จืดเอาเสียเลย ไปรยาไม่รู้จะขำหรือโกรธเขาดี หลายอารมณ์กำลังตีกันวุ่น เมื่อได้ยินเสียงใสๆ ของเด็กชาย ชายหนุ่มก็ยิ่ง
“จริงๆ นะครับ”“ใช่ อชิอยากได้อะไรอีก บอกมาเลย”คนตัวโตที่กำลังเรียกความสนใจจากคนตัวจ้อยบอกอย่างใจป้ำ ไม่วายที่คนเป็นแม่จะส่งสายตาเขียวปัดไปให้ โทษฐานที่ตามใจลูกของหล่อนโดยไม่ปรึกษากันก่อน“แค่ปลาหางนกยูง” อาณัติบอกลอยๆ แค่เห็นสายตาของไปรยา เขาก็รู้ตัวว่าทำอะไรขัดใจหล่อน“มันคือปลาหางนกยูงสิบตัว และคุณซื้อมาอีกตั้งเท่าไร”“ยี่สิบตัว” อาณัติบอกหน้าตาเฉย ก่อนจะเขยิบไปใกล้ไปรยาแล้วพูดเสียงเบาลง เพราะไม่อยากให้คนตัวเล็กที่ง่วนอยู่กับปลาได้ยินด้วย “พี่ซื้อมาเผื่อมันตายน่ะ แต่ดูสิ ดันรอดทุกตัว สงสัยเป็นปลาพันธุ์ดี คนขายบอกว่าเขาส่งพันธุ์นี้ไปขายต่างประเทศด้วย พี่เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าปลาหางนกยูงเป็นสินค้าส่งออกด้วย”คำพูดและท่าทางของอาณัติแลดูธรรมดา แต่ความใกล้ชิดที่มีมากเกินไปนั้นทำให้ไปรยาผงะ เพราะหล่อนไม่ทันตั้งตัวหญิงสาวขยับตัวออกห่างแล้วเข้าไปใกล้ลูกชายมากขึ้น แต่หล่อนต้องทำอย่างระมัดระวัง ไม่อยากให้อาณัติสังเกตเห็นว่าหล่อนไม่อยากอยู่ใกล้เขา เพราะนอกจากหัวใจจะเต้นแรง มือไม้ของหล่อน
หลายวันก่อนอชิระยังเกทับว่าตนมีคุณตาที่ตัวโตกว่าเขา หากวันนี้เจ้าตัวยกให้เขาตัวโตเทียบเท่าคุณตา...อภินิหารปลาหางนกยูงสินะอาณัติยิ้มอ่อนโยนขณะทอดมองเด็กชายด้วยท่าทีนิ่งๆ ผิดกับข้างในที่กำลังสับสนและพลุ่งพล่านอย่างหนัก หัวใจของเขากำลังเต้นไม่เป็นจังหวะ หากต้องบังคับตัวเองไว้ ไม่ดึงเด็กชายมากอดตามความปรารถนาที่กำลังพุ่งสูงขึ้นหากจะนับเดือนนับปี เขาจากไปรยาไปสามปีกับสิบเดือน เมื่อกลับมา เขากลับพบว่าหล่อนมีลูกชายอายุสามขวบ...‘คุณตามาหาอชิที่บ้านไหม’‘มาครับ คุณตามีของมาให้แม่กุ๊บกิ๊บกับอชิเยอะแยะเลยครับ อชิช้อบชอบ’‘แล้วมีใครมาหาอชิกับแม่กุ๊บกิ๊บอีกบ้าง’‘คุณป้าติ๋วมาด้วยครับ คุณป้าติ๋วมากับคุณตา แต่คุณป้ามาไม่บ่อย’อาณัติไม่รู้จักชื่อนี้ แต่มันทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง คนสำคัญของอชิระ นอกจากแม่และคุณตาแล้ว ยังมีใครอีกคนที่เขาไม่รู้จัก แต่ไม่มีพ่อ ไม่มีลุงที่ชื่อปกป้อง ราวกับว่าสองคนนี้ไม่มีตัวตนในชีวิตของเจ้าตัวเล็ก...หรือถ้ามีก็คงรั้งท้ายเต็มที เด็กชายจึงไม่ได้พูดถึง‘คุณลุงเป็นอะไรครับ คุณลุ
รถคันสีขาวค่อนข้างเก่าแล่นเข้าไปจอดหน้าบ้านหลังสีฟ้า อชิระปีนลงมาจากรถ แล้วตามแม่ไปเปิดท้ายรถเพื่อจะขนอ่างบัวลงมา“หนักน่าดูเลย สงสัยต้องให้คุณตามาช่วยยก เดี๋ยวแม่ไปดูก่อนว่าคุณตากลับบ้านหรือยัง”ไปรยาเปรยถึงลุงชัชที่อยู่บ้านหลังติดกัน หลังจากหล่อนลองขยับอ่างบัวแล้วพบว่าตนคนเดียวคงยกมันลงจากท้ายรถไม่ไหว ทว่าเสียงใสๆ ของคนที่อยู่ข้างหลังทำให้ลมหายใจของหญิงสาวต้องสะดุด“ถ้าคุณลุงมาด้วย คุณลุงจะยกอ่างบัวให้แม่กุ๊บกิ๊บ”ออกจากโรงแรมมาได้ไม่ถึงชั่วโมง แต่อชิระพูดถึงอาณัติหลายครั้งแล้ว จนไปรยารู้สึกสะดุด“คุณลุงเป็นคนอื่น เรารบกวนเขาไม่ได้ค่ะ”“ทำไมล่ะครับ”คำถามยามถูกขัดใจตามมาทันที เมื่อแม่ไม่ตอบ อชิระก็ทำปากยู่ เดินไปนั่งกอดอกบนเก้าอี้ไม้ใกล้ประตูหน้าบ้าน ท่าทางนี้บอกให้รู้ว่าเจ้าตัวกำลังงอนไม่ต่างกับคนเป็นแม่นัก หล่อนต้องเสมองไปทางอื่นพลางกะพริบตาถี่ๆ เพื่อกลบน้ำใสที่รื้นดวงตาให้แห้งเหือดไปรยารับรู้ได้ไม่ยากว่าการได้อยู่ใกล้เขาจะทำให้อชิระมีความสุข และการต้องขัดความสุขของลูกที่เป
“งั้นมึงไปถามจากคนข้างบ้านเขา เชื่อกู คนข้างบ้านรู้ดีที่สุดว่ากุ๊บกิ๊บมีแฟนอยู่หรือเปล่า และหลังจากที่มึงไม่อยู่ เขาคบคนอื่นอีกไหม”ข้อเสนอของเกริกวิทย์คงน่าสนใจ เพราะอาณัติถึงกับนิ่งคิดตาม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาบอกจนอีกฝ่ายต้องชะงักกึก“มึงไปถามให้กูหน่อย”“กูเหรอ”เกริกวิทย์ชี้เข้าหาตัวเองอย่างไม่มั่นใจในสิ่งที่ได้ยิน จนอาณัติต้องย้ำบอก“มึงนั่นแหละ เพราะนอกจากมึง กูก็ไม่มีใครอีก แล้วกูก็ไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องนี้ด้วย”“ตกลงๆ”ไหนๆ ก็ไหนแล้ว เกริกวิทย์ยอมรับในโชคชะตาที่พาเขาให้มารับบทนักสืบ...ยายแม้นเพื่อนยายเมาท์ คนข้างบ้านของไปรยาต้องมาแล้วในจุดนี้“กูไม่เจอกุ๊บกิ๊บตั้งสี่ปี ตั้งแต่เลิกคบกับมึง ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง หน้าตาเปลี่ยนไปจากเดิมหรือเปล่า มึงมีรูปให้ดูหรือเปล่า”“มึงจะดูรูปเขาทำไม”“อ้าว! มึงจะให้กูไปสืบเรื่องของเขา แต่ไม่ให้เห็นรูปร่างหน้าตาปัจจุบันของเป้าหมาย จะให้ระลึกชาติเองหรือไง”นักสืบจำเป็นให้เหตุผล คน
เช้าวันนี้อากาศสดชื่น คุณนายอรอรตื่นนอนตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อออกกำลังกายแบบโยคะบริเวณหน้าบ้าน ผ่านไปนับชั่วโมงเธอจึงมานั่งพักจิบกาแฟ โดยมีสตรอว์เบอร์รีหวานฉ่ำจากไร่ของลูกชายคนโตจัดใส่จานวางบนโต๊ะไว้ด้วยเด็กรับใช้เดินมาหา แล้วส่งโทรศัพท์มือถือไปให้ พร้อมทั้งบอกเธอ“คุณนายคะ คุณอู๋โทร.มาค่ะ”เมื่อรับมาดู เธอจึงเห็นว่าอีกฝ่ายวางสายไปแล้ว แต่เจ้าตัวส่งข้อความทักเข้ามาแทนอาณัติ : แม่ครับคุณนายอรอร : มีอะไรถามไปแล้ว แต่ลูกชายคนเล็กไม่ตอบกลับมา คุณนายอรอรทำท่าจะโทร.ไปหา แต่หางตาแลเห็นลูกชายคนรองเดินมาหย่อนกายนั่งตรงกันข้ามเธอเสียก่อน“น้องแกติดต่อมา ทักแล้วเงียบ พวกแกนิสัยเสียจริงๆ มีอะไรแทนที่จะพูดทีเดียวให้มันจบ กลับเว้นช่วงยาวๆ ให้ฉันคอยห่วง”“นิสัยอย่างนี้มีแต่นายอู๋แหละแม่ ผมกับอั๋นไม่เคยทำ ว่าแต่แม่อย่าไปสนใจมันเลย ถ้ามันไม่พูด แม่ก็ไม่ต้องถาม”“ฉันก็ห่วงอีกนะสิว่าน้องแกมีปัญหาอยู่หรือเปล่า”“มันไม่มีอะไรหรอก”…เพราะถ้ามีปัญหาเร่งด่วน อาณัติคง
รถคันสีขาวค่อนข้างเก่าเคลื่อนมาจอดหน้าบ้านจัดสรรที่อยู่ค่อนไปทางด้านหลังของโครงการหรู แม้บ้านหลังนี้จะมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับหลังอื่นในโครงการเดียวกัน แต่พื้นที่รอบบ้านนั้นกว้างขวางไม่ต่างกันไปรยาเปิดประตูรถออกมาหลังจากดับเครื่องยนต์แล้ว เมื่อสักครู่หล่อนขับรถผ่านป้อมยามหน้าหมู่บ้านก็สัมผัสได้ถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยที่มีค่อนข้างสูง หากพอมาถึงบ้านหลังนี้ หล่อนก็ขับรถเข้ามาได้เลย เพราะประตูรั้วเปิดกว้างอยู่หล่อนมาไม่ผิดบ้านแน่นอน เพราะเห็นรถคันสีดำคุ้นตาจอดอยู่ เมื่อมองผ่านผนังกระจกเข้าไปในห้องหนึ่งซึ่งมีสภาพโล่งว่าง ไม่มีผ้าม่านกำบัง และทั่วทั้งห้องก็แทบไม่มีเฟอร์นิเจอร์ หล่อนก็เห็นลูกชายกำลังนั่งอยู่กลางพื้นห้อง ใกล้กันนั้นก็เห็นคนตัวใหญ่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าทางจดจ่ออยู่กับอะไรสักอย่าง...พวกเขายังไม่รู้ถึงการมาของหล่อนไปรยาตัดสินใจเดินเข้าไปในบ้าน ผ่านห้องโถงใหญ่แล้วตรงไปยังห้องนั้น เมื่อหล่อนปรากฏตัวอยู่ตรงประตู พวกเขาจึงเงยหน้าขึ้นมามอง“แม่มารับอชิแล้ว”อชิระร้องบอก รอยยิ้มกว้างประดับบนดวงหน้าเล็กกลมที่เปรอะเปื้อนเศษอาหาร เนื้อตัวก็มอ
เป็นเวลานานกว่าสองสัปดาห์แล้วที่อาณัติรับหน้าที่ไปรับอชิระกลับจากโรงเรียน โดยไปรยาได้แจ้งกับทางโรงเรียนไว้ล่วงหน้าแล้ว เนื่องจากช่วงนี้สถานการณ์ของโรงแรมดีขึ้น ลูกค้าเข้ามาพักมากกว่าเดิม หัวหน้าแผนกจึงขอให้หล่อนยืดเวลาเลิกงานเป็นห้าโมงเย็นเหมือนกับพนักงานคนอื่นหลังจากเลิกเรียน อชิระจึงต้องอยู่กับพ่อ เพื่อรอแม่เลิกงานแล้วกลับบ้านไปพร้อมกัน ระหว่างนั้นเด็กชายจะอยู่ในห้องพักของพ่อในโรงแรม แต่บางวันพ่อก็จะพามาที่บ้านหลังใหม่ที่เพิ่งซื้อได้ไม่นาน ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่ในโครงการหรูที่อชิระเคยมาดูพร้อมพ่อและแม่นั่นเอง และตอนนี้บ้านหลังนี้ก็อยู่ในระหว่างการตกแต่ง“พ่อครับ อชิเอาปลาหางปายูนมาอยู่กับปลาคาร์ปได้ไหมครับ”อชิระถามขึ้นเมื่อเกาะผนังกระจกในห้องพักผ่อนแล้วมองออกไปข้างนอก เห็นคนงานกำลังสร้างบ่อปลาคาร์ปภายในพื้นที่สวน เด็กชายเห็นว่าบ่อมีขนาดใหญ่ ถ้าหากจะให้ปลาหางนกยูงของตนมาอยู่ด้วยก็คงน่าสนใจไม่น้อย“ปล่อยให้ปลาหางนกยูงอยู่ในอ่างบัวนั่นแหละดีแล้ว มันอยู่ตรงนั้นสบายแล้วนะ”อาณัติเกรงว่าถ้าปล่อยให้ปลาทั้งสองชนิดมาอยู่ร่วมกัน ปลาหางนกยูงอาจ
ไปรยาออกมาจากห้องนอนหลังจากอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนแล้ว เสียงโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่นยังคงดังมาให้ได้ยิน หญิงสาวจึงเดินไปดูลูกชายที่นอนปิกนิกที่หล่อนปูไว้ให้นั้นว่างเปล่า แต่มีรอยยับย่นของผ้าปูนอนซึ่งบอกให้ว่าเจ้าตัวคงเพิ่งลุกไปไหนสักที่ และไม่ต้องมองหานาน หญิงสาวก็เห็นร่างเล็กยืนขยุกขยิกข้างโต๊ะไม้ตรงมุมห้อง ซึ่งบนโต๊ะนั้นมีช่อดอกไม้วางอยู่“อชิทำอะไรคะ” ไปรยาถาม หลังจากมองลูกอยู่หลายวินาที แล้วเด็กชายก็หันมาตอบ“อชิดูดอกไม้ครับ”“อชิชอบหรือคะ แม่ยกให้เอาไหม”“ไม่เอาครับ ดอกไม้ของแม่กุ๊บกิ๊บ พ่ออู๋ให้ดอกไม้สวยๆ แม่กุ๊บกิ๊บต้องเก็บไว้ดีๆ นะครับ”“หือ...อะไรเนี่ย ลูกชายของแม่”ไปรยานึกขันคนเจ้ากี้เจ้าการ ตั้งแต่เป็นธุระจัดการนำดอกไม้มาให้หล่อน กระทั่งบอกให้หล่อนเก็บดอกไม้ช่อนี้ไว้ดีๆ“งั้นแม่จะเอาดอกไม้ใส่แจกันไว้ก็แล้วกันนะคะ”ไปรยาตอบสนองคำพูดของลูกชาย เพราะเห็นว่าดอกไม้ช่อนี้คงมีราคาไม่น้อย หากปล่อยให้เหี่ยวเฉาเร็วเกินไปก็น่าเสียดาย
กว่าครอบครัวเล็กซึ่งประกอบด้วยพ่อแม่และลูกชายตามสายตาของพนักงานขายบ้านโครงการหรูจะเสร็จสิ้นจากการดูบ้านและขับรถออกจากโครงการก็เป็นเวลาใกล้หกโมงเย็น หากพวกเธอยินดีให้บริการ เพราะสัมผัสได้ว่าลูกค้ามีกำลังซื้อ อีกทั้งเขาสนใจที่จะซื้อบ้านอย่างจริงจังอาณัติพาไปรยาและอชิระไปรับประทานอาหาร เขาเลือกร้านอาหารที่อยู่ใกล้โครงการบ้านจัดสรรแห่งนั้น เพราะเห็นว่าเลยเวลาอาหารเย็นของเด็กชายไปพอสมควร แต่เจ้าตัวเล็กก็ไม่บ่นว่าหิวสักคำ เพราะได้กินทั้งนมและขนมไปจนอิ่มแปล้แล้วดังนั้นกว่ารถคันสีดำจะแล่นไปจอดหน้าบ้านชั้นเดียวหลังสีฟ้าได้ก็เป็นเวลาหัวค่ำ อาณัติลงจากรถแล้วไปเปิดประตูให้ลูกชายลงมา ขณะที่ไปรยากำลังไขกุญแจประตูรั้วบ้าน“อชิหยิบดอกไม้ของพ่อมาด้วย”ดอกไม้ช่อใหญ่ที่วางบนเบาะหลังข้างเก้าอี้ที่นั่งของอชิระยังคงงดงามดี แม้มันจะไม่สดเหมือนกับตอนที่ร้านมาส่ง เด็กชายหอบดอกไม้ช่อนั้นแทบไม่ไหว จนพ่อต้องยื่นมือไปช่วยอีกแรงไปรยาหันไปมองสองพ่อลูกที่ช่วยกันหอบดอกไม้ทั้งช่ออย่างแปลกใจ พวกเขาเดินผ่านประตูรั้วที่หล่อนเปิดกว้างไว้ให้เข้ามาในเขตบ้าน หล่อนนึกสงสัยว่าทั้งสองคน
“แม่ว่ายังไงครับ หลังนี้เป็นบ้านตัวอย่างนะ แต่จะมีอีกหลังที่คล้ายกัน อยู่ด้านหลังของโครงการ หลังนั้นไม่มีสระว่ายน้ำ อชิน่าจะชอบครับ เพราะรอบบ้านเป็นสนามหญ้าทั้งหมด”อาณัติกำลังวิดีโอคอลกับคุณนายอรอร ไปรยาเห็นเข้าก็ดึงลูกชายออกมาห่างๆ เพราะหล่อนไม่รู้ว่าแม่ของเขาคิดกับอชิระอย่างไร อีกทั้งหล่อนเองก็ยังไม่รู้จักแม่ของเขา รู้แต่ว่าท่านเป็นเศรษฐินีที่มีชื่อในระดับจังหวัด และหล่อนก็รู้เรื่องนี้หลังจากเลิกรากับอาณัติไปแล้ว‘ไอ้อู๋มันทิ้งกุ๊บกิ๊บไปเมืองนอก เพราะเงินไม่กี่แสนเนี่ยนะ ทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วย ไม่เข้าใจจริงๆ เป็นลูกเศรษฐีประสาอะไร...คิดเล็กคิดน้อยไม่เข้าท่า’ปกป้องต่อว่าอาณัติลับหลัง ไปรยาได้ฟังก็น้ำตาตกใน เวลานั้นหล่อนสับสน ทุกข์ใจ และหดหู่ ได้แต่รับรู้การตัดสินใจของพี่ชายว่าเขาจะออกไปจากบ้านด้วย แล้วสุดท้ายก็เหลือเพียงหล่อนคนเดียว กระทั่งพ่อเข้ามาจัดการจนทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ซึ่งทำให้ไปรยาลุกขึ้นเดินไปข้างหน้าได้อีกครั้ง“กำลังคิดอะไร หน้าเศร้าอีกแล้ว”เสียงนุ่มทุ้มดังอยู่ใกล้ๆ ไปรยารู้สึกตัวก็ต
จุดหมายปลายทางของอาณัติเป็นหมู่บ้านจัดสรรที่มีจำนวนบ้านไม่กี่หลัง หากแต่ละหลังนั้นเรียกว่าราคาไม่น้อย จากป้ายหน้าโครงการบอกว่าราคาเริ่มต้นอยู่ที่ยี่สิบล้านแล้วไปรยามุ่นคิ้ว แล้วหันไปถามเขา“คุณมาที่นี่ทำไมคะ”“พี่มีนัดกับอชิว่าจะมาเที่ยวที่นี่ ใช่ไหมครับอชิ”อาณัติตอบหญิงสาว ก่อนจะหาแรงสนับสนุนจากลูกชายซึ่งกำลังมองออกไปนอกรถอย่างสนใจ หากเจ้าตัวเล็กก็ไม่ลืมหันกลับมาพยักพเยิดกับพ่อ“ใช่ครับ พ่อพาอชิมาเที่ยว”ชะรอยว่าคำตอบของสองพ่อลูกจะไม่เป็นที่ถูกใจของคนเป็นแม่ หล่อนปั้นหน้าตูมพลางยกสองมือขึ้นมากอดอก เพราะรู้สึกว่าถูกลูกชายเอาใจออกห่างเรื่อยๆ แล้ว...แถมผู้ชายอีกคนก็เจ้าเล่ห์เหลือเกิน“พี่มาดูบ้าน ตัดสินใจปุบปับไปหน่อย เลยไม่ได้บอกกุ๊บกิ๊บไว้ก่อน เพื่อนพี่แนะนำโครงการนี้ให้ พี่โทร.มานัดกับเซลล์ไว้แล้ว เลยตั้งใจแวะมาดู”“ถ้าคุณจะซื้อบ้าน คุณไม่ต้องบอกฉันก็ได้ค่ะ” ไปรยารีบออกตัว อาการน้อยใจหายไปทันที เหลือแต่สีหน้าเก้อเขิน“พี่ไม่ได้ซื้อเองหรอก แม่เพิ่งบอกให้หาบ้านสักหลั
เมื่อรถคันสีดำแล่นไปถึงโรงเรียนอนุบาลที่อยู่ไม่ห่างจากโรงแรมนัก ผู้ปกครองของเด็กชายอชิระก็พบว่าพวกเขามาถึงก่อนเวลาและมาถึงก่อนใคร เพราะในบริเวณลานจอดรถสำหรับผู้ปกครองนั้นยังไม่มีรถคันอื่นเลยสักคันอาณัติไม่เดือดร้อน เขากลับชอบเสียอีก เพราะอยากมีเวลาส่วนตัวกับไปรยาอยู่แล้ว หากหญิงสาวกลับรู้สึกตรงกันข้ามกับเขาอย่างสิ้นเชิงเพียงแค่รถจอดสนิท ไปรยาก็คิดอยากจะออกไปสูดอากาศข้างนอก ช่วงนี้อากาศหนาวเย็น การออกไปสัมผัสสายลมอ่อนๆ ที่พัดรินก็คงดีกว่าอยู่ภายในรถกับเขาหากแค่ยื่นมือไปแตะประตูรถเพื่อจะเปิดออก มืออีกข้างกลับถูกเขายึดไว้ สัมผัสจากมือหนาและร้อนผ่าวนั้นทำให้ไปรยาสะดุ้ง ซึ่งอาณัติก็ปล่อยทันที เพราะไม่อยากให้หล่อนตกใจหรืออึดอัดใจ“พี่อยากเริ่มต้นใหม่กับกุ๊บกิ๊บ”เมื่อได้เริ่มแล้ว ชายหนุ่มก็ไม่อยากถอย อีกทั้งความห่วงใยในตัวหญิงสาวก็ทำให้เขาตัดสินใจเดินหน้า...หากเหมือนว่าเขารุกหล่อนเร็วเกินไป“ไม่ได้ค่ะ ฉันไม่สะดวก”ไปรยาตอบกลับทันควัน ปากคอสั่นทีเดียว เพราะไม่นึกว่าเขาจะพูดคำนี้ออกมา หล่อนตั้งตัวไม่ทัน และคำตอบ
อาณัติตัดสินใจบอกแม่ว่าตนยังไม่กลับบ้านในเร็วๆ นี้ โชคดีที่ผู้จัดการแผนกที่เขาทำงานอยู่นั้นส่งงานให้เขาทำทางไกลได้ ชายหนุ่มคิดจะใช้ห้องพักในโรงแรมทำงานไปยาวๆ...เพราะที่แห่งนี้เขาจะได้อยู่ใกล้ไปรยา อีกทั้งยังไปรับไปส่งลูกชายที่โรงเรียนได้ แล้วคำพูดของแม่ที่พ่วงตำแหน่งนายจ้างก็ทำให้หัวใจของชายหนุ่มเบิกบาน...หลังจากหงุดหงิดมาครึ่งค่อนวัน“เงินเดือนของแกทั้งเดือนยังไม่พอจ่ายค่าที่พัก ยังหวังจะดูแลลูกเมียอีกนะ”“งั้นผมพาลูกเมียไปเกาะแม่กินก็แล้วกัน แม่จะว่ายังไงครับ”“อย่าดีแต่ปากพูด พามาให้ได้เถอะ ถึงแกจะมีลูกเป็นโหล ฉันก็มีเงินพอให้แกเลี้ยงลูก...ว่าแต่แน่ใจนะว่าเมียของแกยังไม่มีคนอื่น”“กุ๊บกิ๊บไม่มีใครหรอก นอกจากผม แค่มองตาเขา ผมก็รู้แล้วแม่ แล้วเมื่อเช้าผมก็ไปนั่งกินข้าวในบ้านของเขามาแล้วด้วย ลูกชายของผมจัดการให้ผมเอง”“ดูท่าลูกแกจะฉลาดนะ”จู่ๆ ก็มีก้อนแข็งๆ ตีตื้นถึงลำคอ ไม่คิดว่าชีวิตนี้เขาจะรักใครได้มากขนาดนี้ในระยะเวลาไม่กี่วัน“ผมอยากให้แม่เจออชิ”“พามาบ้าน
เมื่อรถคันสีดำมาจอดหน้าโรงเรียนอนุบาลซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้าน อชิระปีนลงจากเก้าอี้เมื่อแม่เปิดประตูรถให้ แล้วเด็กชายก็จูงมือแม่เดินไปหาคุณครูที่รอรับอยู่หน้าประตูรั้วโรงเรียน“สวัสดีครับคุณครู อชิมาแล้วครับ”“สวัสดีค่ะอชิ สวัสดีค่ะคุณแม่”คุณครูที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีทักทายอชิระและแม่ของเจ้าตัว และดูเหมือนวันนี้จะเป็นวันพิเศษของเด็กชายอีกด้วย“พ่ออู๋มาส่งอชิด้วยนะครับ”อชิระบอกอย่างมีความสุข ซึ่งไปรยาก็นึกไม่ถึงว่าลูกจะพูดออกมา แถมยังชี้ให้คุณครูดูพ่อของตัวเองที่ยืนอยู่ข้างรถอีกด้วยไปรยายืนส่งลูกอยู่ที่หน้าประตูรั้ว จนเห็นว่าลูกเข้าไปในห้องเรียน หล่อนจึงวางใจแล้วเดินออกมา พลันนึกได้ว่าตัวเองไม่มีรถมาด้วยนี่นะดวงหน้าสวยเงยขึ้นมา แล้วสบตากับคนที่ยืนเอียงคอมองอยู่ก่อนแล้ว“เชิญครับคุณแม่ของอชิ”อาณัติคงได้ยินคำพูดของลูกเมื่อสักครู่ รอยยิ้มกริ่มจึงเกลื่อนทั่วใบหน้า“หมดธุระของคุณแล้ว คุณก็กลับไปได้แล้วค่ะ ฉันจะไปรถรับจ้าง”“พูดเป็นเล่นน่า พี่จะกล