หญิงสาวยอมทำตามคำสั่งของเขา ร่างบางเดินเข้ามาในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ลุคส์เดินเคียงตลอดเส้นทางไม่ห่าง การกระทำของเขาทำให้เธออึดอัดไม่น้อย แต่กระนั้นกลับไม่กล้าพอต่อว่าต่อขาน เดินเลือกซื้อของแต่ไม่กล้าเลือกมากนัก ส่งผลให้คนเดินตามรู้สึกงุนงง“ทำไมไม่เลือก?”เขาถามเสียงเข้ม“ฉันไม่ได้รวยเหมือนคุณนี่คะ”“ก็บอกว่าจะจ่ายให้ยังไงล่ะ!”“ไม่ต้องค่ะ ฉันพอมีเงินอยู่บ้าง”“อย่าขัดคำสั่งฉัน!”ชายหนุ่มเริ่มหงุดหงิดอีกแล้วที่คำออกคำสั่งแบบนี้ เธอก็คงต้องทำตามอีกแล้วใช่ไหม เธอมองไปรอบๆ แล้วจัดการเลือกเสื้อผ้าทันที ดีเหมือนกันหากเขาต้องการแบบนั้นก็คงไม่ต้องเกรงใจกันแล้วร่างสูงใหญ่ยื่นบัตรเครดิตให้กับพนักงาน แล้วสั่งให้ลูกน้องมาขนของไปไว้ที่บ้านให้เขาแทน“วันพ่อฉันต้องทำอะไรบ้าง”ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย“ทำไมคะ?”“ฉันต้องการรู้ เพราะฉันจะไปร่วมงานนี้”“ก็ไม่ต้องทำอะไรมากค่ะ ไทม์จะติดดอกไม้ที่หน้าอกคุณ แล้วก็เอาพวงมาลัยดอกมะลิมาไหว้คุณค่ะ”“ทำไมต้องไหว้ล่ะ?”“เพราะจะได้ระลึกถึงพระคุณของพ่อที่ให้กำเนิดมา...”หญิงสาวบอกเสียงเศร้าร่างสูงใหญ่นิ่งงันไปชั่วครูเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ เขาไม่เคยคิดเลยว่าการทำให้
เสียงเล็กๆ กำลังเรียกเขาทำให้เขาตื่นจากภวังค์อันแสนโหดร้าย รอยยิ้มดูสดใสบริสุทธิ์ยิ่งทำให้ใจเขาชุ่มชื่น นี่เป็นความสุขครั้งแรกที่เขาได้รับมาในชีวิต เขาอยากให้ความสุขแบบนี้อยู่กับเขาตลอดไป มันพอจะเป็นไปได้ไหม“ว่าไงครับไทม์”“พ่อจะไม่ไปไหนจากไทม์กับแม่ใช่ไหมครับ พ่อจะอยู่กับเราตลอดไปใช่ไหม” เด็กชายถามน้ำเสียงตื่นเต้นคนเป็นแม่ชะงักช้อนสายตามองเขา ริมฝีปากบางเม้มแน่น เธอไม่เคยคาดหวังอะไรอยู่แล้ว หวังแค่หากเขาจะไปก็ขอให้ตอบคำถามโดยนึกถึงใจลูกบ้าง และคิดถึงความรู้สึกของเธอสักนิดก็ยังดี“พ่อจะไม่ไปไหนจากไทม์แล้วครับ พ่อจะอยู่กับไทม์แล้วก็แม่ด้วย” ชายหนุ่มตอบแล้วสบตาหญิงสาว ปรางค์ปรียานิ่งงันแล้วหลุบตามองอาหาร ในหัวใจเต้นโครมคราม เหตุใดถึงรู้สึกเช่นนี้นะเธอไม่เข้าใจพินอาภาขับรถมาเยี่ยมเยือนเพื่อนตนเอง แต่รถดันมาเสียกลางทางซอยเปลี่ยวแม้จะรู้สึกหงุดหงิดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ โทรศัพท์ถูกยกขึ้นมาเพื่อใช้ติดต่อกับอู่ซ่อมรถ แต่อู่กลับบอกให้รอ... แล้วเธอจะต้องรอถึงเมื่อไหร่กันเสียงพูดคุยดังขึ้น เธอหันไปมองสายตากำลังจดจ้องไปยังกลุ่มวัยรุ่นสี่คนที่เดินมา และรู้สึกเหมือนว่าพวกมันกำลังเมาอยู่ เธอไม่รู้ว่
พินอาภาครุ่นคิดก่อนจะยอมขยับกายแต่ว่า... มันเจ็บคงเป็นไปไม่ได้หรอกที่เธอจะเดินไป บอดี้การ์ดหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาไม่สบอารมณ์อย่างแรงทำไมต้องมาซวยเจอเธอก็ไม่รู้“ขี่หลังผมไปแทนก็แล้วกัน...”เขากัดฟันพูดเขาย่อกายลง พินอาภาล้มตัวลงบนหลังพลางโอบรัดรอบคอเขาแน่น ท่อนแขนของเขารั้งเรียวขาไว้เพื่อความมั่นคง ใบหน้าเธอกำลังแดง แต่เมื่อเห็นเขาไม่ได้มีท่าทีอะไรใจที่เต้นโครมครามค่อยสงบลงทันทีที่ถึงบ้านร่างบางรีบตะเกียกตะกายหาเสื้อผ้าเพื่อนตนเองทันที แต่... มันไม่มีเลย เธอจะทำยังไงดีจะให้ใส่เสื้อผ้าแบบนี้เหรอ บอดี้การ์ดคนอื่นก็เริ่มมองมาที่เธอแล้ว“ไม่มีเลยแล้วฉันจะใส่อะไร!”มาติชเดินไปที่ห้องตนเอง ก่อนคว้าเสื้อกับกางเกงขาสั้นให้กับเธอ หญิงสาวรับมาอย่างงงๆ แต่ก็ย่อมดีกว่าไอ้แจ็กเก็ตหนังที่ใส่อยู่“รถคุณจอดไว้ที่นี่ก่อนเดี๋ยวผมจะไปส่งคุณที่บ้าน หรือคุณอยากจะไปหาหมอ?”“ไม่ค่ะ ฉันอยากกลับบ้าน”เขาเดินนำหญิงสาวออกมาด้านนอกพลางสตาร์ทรถรอ พินอาภารีบนั่งลงข้างคนขับเขาเหยียบคันเร่งรถออกไปทันที... อาการจุกแน่นของเธอเริ่มดีขึ้นมากแล้วเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเขาแล้วรู้สึกดีใจหากวันนี้คู่อริเธอไม่มาช่วยไว้ป่
เสียงฝีเท้าแว่วดังเข้ามา ในห้องซึ่งชายชรากำลังทอดสายตามองวิวด้านนอก เมแกนอดีตผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในฝรั่งเศส หันกลับมาสบตาหนุ่มหน้าเข้มผมสีบลอนด์ในชุดหนังสีดำสนิท“สืบว่าได้ความว่ายังไง” เขาถามเสียงแผ่ว“คุณชายอยู่กับผู้หญิงไทยคนหนึ่ง แล้วก็เด็กผู้อีกคน ผมสืบมาได้ว่าเด็กคนนั้นเป็นหลานท่านครับ”“หลานของฉันนะหรือ?”“ครับ”“งั้นแสดงว่าเด็กคนนั้น ก็เป็นทายาทของตระกูลอัลเบอร์ทีนสินะ!”สีหน้าครุ่นคิดตั้งแต่วันที่เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ในคฤหาสน์วันนั้น เขากับบุตรชายไม่เคยเข้าหน้ากันติดีอกเลย แต่การตายของมาเรียทำให้บุตรชายเขาเข้มแข็งและมีทุกวันนี้ได้สำหรับ เขาถือว่าคุ้มแล้ว“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร”“จากที่สืบเธอเป็นเด็กกำพร้าครับ คุณชายพบเธอเมื่อหกปีก่อนที่ฝรั่งเศสโดยบังเอิญ”“สืบต่อไปแล้วมารายงานฉันต่อ!”“ครับท่าน”น่าแปลก... ทำไมบุตรชายเขาถึงได้ลากผู้หญิงเช่นนั้นมาอยู่บ้านด้วย คนอย่างลุคส์ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษ แสดงว่ามีอะไรพิเศษมากกว่านั้น เขาหวังว่าบุตรชายคงไม่คิดอะไรไร้สาระ ไปมีความรักปัญญาอ่อน เพราะเขาจะไม่มีวันยอมให้มันเกิดขึ้นเด็ดขาด ผู้หญิงที่จะได้ครอบครองลุคส์มีเพียง เอมม่า แค
มือหนาดันกำแพงในห้องน้ำไว้ก่อนจะก้มลงให้สายน้ำรดบนศีรษะเพื่อไล่ความคิดทั้งหมด... เขากำลังมีความสุขแต่ก็กลัวกลัวที่จะรักใคร ห้ามใจแล้วแต่ทำไม่ได้เลยพยายามแข็งใส่แต่ใจกลับอ่อนระทวยทำไมกัน! เขาจะรักเธอไม่ได้รักของเขาจะทำร้ายเธอจะทำให้เธอต้องเจ็บปวด เขาจะทำยังไงดีร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าขนหนูพันกาย ตาของเขาสบเขากับดวงตาที่ยังเรื่อไปด้วยน้ำใสๆ เธอชะงักแล้วพยายามหลบสายตาจากเขา ไม่อยากถูกเห็นความอ่อนแอเลย“หายไปไหนมา?”เขาถามเสียงเข้ม“ออกไปดื่มน้ำมาค่ะ”“งั้นเหรอ ห้องน้ำว่างแล้วไปอาบน้ำสิจะได้มานอน พรุ่งนี้ได้พาไทม์ไปเที่ยวด้วยกัน”“ค่ะ”ร่างบางเดินเลี่ยงเข้าห้องน้ำไป ลุคส์จัดการแต่งตัวพลางเหลือบมอง เธอเป็นอะไรทำไมถึงได้ร้องไห้... เขาเห็นดวงตาคู่นั้นที่มีแววหม่นเศร้า การอยู่กับเขาคงทำให้เธอทรมานมาก เขาขอแค่มีความสุขสักพักจะได้ไหม รู้ดีว่าต้องปล่อยเธอไป แค่คิดหัวใจก็สั่นไหวไปหมดแล้ว มือหนากุมไปที่อกซ้าย พยายามจับจังหวะหัวใจกำลังเต้นระรัว ขอรับมันไว้บ้างไม่ได้หรือไง ไอ้สิ่งที่เรียกว่าความสุข... ทำไมเขาจะต้องเกิดมาแล้วได้รับโชคชะตาแบบนี้ด้วยนะหญิงสาวเดินออกมาจากห้องน้ำ สายตาเหลื
เอมม่ายืนจ้องหน้าคู่หมั้นแววตาตัดพ้อ และขอภาวนาอย่าให้มันเป็นอย่างที่คิด แต่สิ่งที่เห็นตรงหน้ามันเป็นเครื่องยืนยันได้ดี อะไรกัน! แค่ผ่านไปไม่กี่เดือนทำไมคู่หมั้นเธอถึงได้กลายเป็นอื่นไป แบบนี้ก็รู้อยู่หรอกว่าเธอควบคุมเขาไม่ได้ แต่เธอไม่มีวันปล่อยเขาไปเด็ดขาด เธออยู่กับเขามานานรู้นิสัยใจคอดี หากคนอย่างเขาไม่แคร์ มีหรือจะให้แม่ลูกมาอยู่ที่บ้านแบบนี้“ทำไมคุณทำกับเอมม่าแบบนี้คะลุคส์”“ผมทำอะไร!”“คุณรู้อยู่แก่ใจ ทำไมคุณถึงได้เอาผู้หญิงอื่นมาอยู่ในบ้านเดียวกับคุณ!” เอมม่าเริ่มตัดพ้อด้วยความไม่พอใจ“ผมจะทำอะไรมันก็เรื่องของผม เอมม่า คุณอย่ามายุ่งดีกว่า!”“เอมม่าเป็นคู่หมั้นคุณนะคะ ทำไมคุณทำแบบนี้ เอมม่าซื่อสัตย์ต่อคุณเพียงคนเดียวมาตลอด ไหนคุณบอกว่าเลิกยุ่งกับเธอไปแล้วยังไง แล้วทำไมถึงได้มาอยู่ด้วยกันแบบนี้!”“กลับฝรั่งเศสไปซะ ผมจะจัดการเรื่องคุณทีหลัง!”เขาสั่งเสียงกร้าว“ไม่! เอมม่าไม่ยอมเด็ดขาด”ไทม์มองดูพ่อกำลังสนทนากับหญิงสาวอีกคน ปรางค์ปรียารรีบรั้งลูกให้ก้าวตาม เธอไม่อยากให้ลูกต้องมาเสียใจอีกแล้ว มือเล็กๆ บีบมือมารดาไว้แน่น เขากำลังหาที่พึ่งทางใจเพียงหนึ่งตลอดระยะเวลาเติบโต คนเป็นแม่ยิ
มาติชช้อนร่างของปรางค์ปรียาไว้ในอ้อมแขน พาไปวางไว้บนโซฟาในห้องนั่งเล่น กดหาเบอร์โทรศัพท์ของผู้หญิงคนนั้น เขาจำเธอได้“ว่าไงจ๊ะปรางค์”พินอาภารับสาย“คุณเป็นเพื่อนคุณปรางค์ใช่ไหม!”“นั้น! นายเป็นใครกัน”“ผมเป็นบอดี้การ์ดของคุณลุคส์”“แล้วนายโทรมาเบอร์นี้ได้ยังไง!”“คุณอย่าเพิ่งซักอะไรผมเลย มาช่วยคุณปรางค์ก่อน เธอเป็นลมอยู่ที่บ้าน”“เกิดอะไรขึ้น!”พินอาภาร้องเสียงลั่น“ผมบอกว่าอย่าเพิ่งถามยังไงล่ะ มาดูเพื่อนคุณก่อน”“ได้ๆ ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”พินอาภาเดินเข้ามาในบ้าน เห็นเขายืนนิ่งมองดูเพื่อนสาวตนเองกำลังนอนสลบไม่ได้สติอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้างงๆ เธอเดินเข้าไปหามองดูเพื่อนด้วยความไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น มือบางรีบคว้ายาดมในกระเป๋าจ่อจมูกเพื่อนด้วยความเป็นห่วง“เกิดอะไรขึ้น?”เขานิ่งเพราะเขาเองก็บอกอะไรไม่ถูกเหมือนกัน เรื่องราวทุกอย่างมันรวดเร็วมาก แล้วถ้าหากว่าเธอรู้เรื่องนี้จะอาละวาดหรือเปล่า“ผมขอไม่ตอบ”“ฉันชักจะหมดความอดทนกับคุณแล้วนะ!”พินอาภาตวาดลั่นร่างสูงชะงักเมื่อเห็นแววตากร้าวส่งมา คนเป็นลูกน้องมักจะน้ำท่วมปากแบบเสมอแล้วจะให้ทำยังไง เขาจำเป็นต้องปกป้องศักดิ์ศรีของนายไว้ก่อน“อย่าม
ดวงตาสีน้ำทะเลมองด้วยความสะเทือนใจ... เขาไม่คิดว่าคู่หมั้นจะทำเช่นนั้น ปกติเอมม่าจะไม่กล้าขัดคำสั่งเขาเลย และไม่เคยตามมาตอแย น่าแปลก... ทำไมถึงมาที่นี่ได้ลุคส์เดินเข้าไปใกล้บุตรชายปรางค์ปรียามองเขา ก่อนเดินมาขวางไว้“อย่ามายุ่งกับลูกฉันอีก!”“ไทม์เป็นลูกของผมเหมือนกัน!”“ไทม์ไม่ใช่ลูกของคุณอีกต่อไปแล้ว ต่อไปนี้ฉันจะไม่ให้คุณเข้าใกล้ไทม์อีก!”เขาขบกรามแน่นพยายามระงับความโกรธเอาไว้ ทุกอย่างเขาผิดเอง เขาเข้าใจที่เธอต้องโกรธ แต่หากมากไปกว่านี้ เขาก็ชักหมดความอดทนแล้ว ไม่เคยมีใครกล้าตบหน้าเขา และไม่เคยมีใครกล้ายืนว่าเขาฉอดๆ แบบนี้“อย่ามาห้ามปรางค์ปรียา อย่าให้ฉันหมดความอดทน!”เขาเริ่มขู่“ทำไมคะ คุณจะฆ่าฉันหรือไงเชิญซิฆ่าเลย! ทุกวันนี้ฉันก็เหมือนตายทั้งเป็นอยู่แล้ว”เธอต่อว่าเขาน้ำตาคลอมือหนาคว้าท่อนแขนไว้ ปรางค์ปรียากัดฟันแน่น เธอจะไม่มีวันยอมเขาอีกแล้ว เธอจะปกป้องไทม์เท่าชีวิต“อย่าทำอะไรเพื่อนฉันนะ!”พินอาภารีบห้ามชายหนุ่มสะบัดท่อนแขนออกพร้อมถอนหายใจหนักออกมา จ้องหน้าเธอก่อนเดินออกจากห้องไป... ไอ้ตัวไหนที่บังอาจเล่นตลกกับเขา เขาจะไม่ไว้หน้ามันเด็ดขาดทันทีที่รถเลี้ยวเข้ามาถึงเขตบ้านที่
ปรางค์ปรียาลูบศีรษะบุตรชายเบาๆ วันนี้ลูกของเธอสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เธอขอร้องให้เพื่อนสาวมารับเพราะไม่อยากให้เขามารับผิดชอบอะไร พินอาภาเปิดประตูเข้ามาร่างบางหันหลังเพื่อทักทายแต่กลับพบกับสายตาของใครคนหนึ่ง กวินภพก้มหน้านิ่งอยู่ข้างหลังเพื่อนเธอ“ปรางค์... วินเขาขอมารับไทม์ด้วย”พินอาภาพยายามสานต่อรอยร้าว“ดีซิ ได้วินมาช่วย”เขาเงยหน้ามองเธอพร้อมกับยิ้มออกมา ปรางค์ปรียามองเขาแล้วยิ้มกลับ เธอไม่อยากถือโทษโกรธอะไร เพราะรู้ดีโดยเนื้อแท้แล้วกวินภพเป็นคนดี หากเธอไม่มีเรื่องผิดพลาดในชีวิตบางที่เธออาจจะได้แต่งงานกับเขาไทม์มองหน้าผู้ให้กำเนิดสีหน้าสับสน เด็กชายกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้อง เพื่อมองหาพ่อแต่ก็ไม่พบ“แม่ครับพ่อไหนเหรอ?”เด็กชายถามมารดาทันที“พ่อไปทำงานครับลูก”ทว่าเสียงเปิดประตูกลับดังขึ้นแอด...ลุคส์เปิดประตูเข้ามาในห้อง หญิงสาวมองหน้าเขาด้วยความไม่เข้าใจ เธอไม่ได้บอกเขานี่ว่าวันนี้ไทม์จะออกจากโรงพยาบาล แล้วเขารู้ได้ยังไง กวินภพทำหน้าไม่ถูกเมื่อเจอกับสายตากร้าวจ้องมา เขารีบเลี่ยงเดินออกไปจากห้องพยาบาลทันที พินอาภารีบเดินตามเพื่อนไป“ไทม์พ่อมารับกลับบ้านครับ” คนเป็นพ่อบอกแล้วตรง
ดวงตาสีน้ำทะเลมองด้วยความสะเทือนใจ... เขาไม่คิดว่าคู่หมั้นจะทำเช่นนั้น ปกติเอมม่าจะไม่กล้าขัดคำสั่งเขาเลย และไม่เคยตามมาตอแย น่าแปลก... ทำไมถึงมาที่นี่ได้ลุคส์เดินเข้าไปใกล้บุตรชายปรางค์ปรียามองเขา ก่อนเดินมาขวางไว้“อย่ามายุ่งกับลูกฉันอีก!”“ไทม์เป็นลูกของผมเหมือนกัน!”“ไทม์ไม่ใช่ลูกของคุณอีกต่อไปแล้ว ต่อไปนี้ฉันจะไม่ให้คุณเข้าใกล้ไทม์อีก!”เขาขบกรามแน่นพยายามระงับความโกรธเอาไว้ ทุกอย่างเขาผิดเอง เขาเข้าใจที่เธอต้องโกรธ แต่หากมากไปกว่านี้ เขาก็ชักหมดความอดทนแล้ว ไม่เคยมีใครกล้าตบหน้าเขา และไม่เคยมีใครกล้ายืนว่าเขาฉอดๆ แบบนี้“อย่ามาห้ามปรางค์ปรียา อย่าให้ฉันหมดความอดทน!”เขาเริ่มขู่“ทำไมคะ คุณจะฆ่าฉันหรือไงเชิญซิฆ่าเลย! ทุกวันนี้ฉันก็เหมือนตายทั้งเป็นอยู่แล้ว”เธอต่อว่าเขาน้ำตาคลอมือหนาคว้าท่อนแขนไว้ ปรางค์ปรียากัดฟันแน่น เธอจะไม่มีวันยอมเขาอีกแล้ว เธอจะปกป้องไทม์เท่าชีวิต“อย่าทำอะไรเพื่อนฉันนะ!”พินอาภารีบห้ามชายหนุ่มสะบัดท่อนแขนออกพร้อมถอนหายใจหนักออกมา จ้องหน้าเธอก่อนเดินออกจากห้องไป... ไอ้ตัวไหนที่บังอาจเล่นตลกกับเขา เขาจะไม่ไว้หน้ามันเด็ดขาดทันทีที่รถเลี้ยวเข้ามาถึงเขตบ้านที่
มาติชช้อนร่างของปรางค์ปรียาไว้ในอ้อมแขน พาไปวางไว้บนโซฟาในห้องนั่งเล่น กดหาเบอร์โทรศัพท์ของผู้หญิงคนนั้น เขาจำเธอได้“ว่าไงจ๊ะปรางค์”พินอาภารับสาย“คุณเป็นเพื่อนคุณปรางค์ใช่ไหม!”“นั้น! นายเป็นใครกัน”“ผมเป็นบอดี้การ์ดของคุณลุคส์”“แล้วนายโทรมาเบอร์นี้ได้ยังไง!”“คุณอย่าเพิ่งซักอะไรผมเลย มาช่วยคุณปรางค์ก่อน เธอเป็นลมอยู่ที่บ้าน”“เกิดอะไรขึ้น!”พินอาภาร้องเสียงลั่น“ผมบอกว่าอย่าเพิ่งถามยังไงล่ะ มาดูเพื่อนคุณก่อน”“ได้ๆ ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”พินอาภาเดินเข้ามาในบ้าน เห็นเขายืนนิ่งมองดูเพื่อนสาวตนเองกำลังนอนสลบไม่ได้สติอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้างงๆ เธอเดินเข้าไปหามองดูเพื่อนด้วยความไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น มือบางรีบคว้ายาดมในกระเป๋าจ่อจมูกเพื่อนด้วยความเป็นห่วง“เกิดอะไรขึ้น?”เขานิ่งเพราะเขาเองก็บอกอะไรไม่ถูกเหมือนกัน เรื่องราวทุกอย่างมันรวดเร็วมาก แล้วถ้าหากว่าเธอรู้เรื่องนี้จะอาละวาดหรือเปล่า“ผมขอไม่ตอบ”“ฉันชักจะหมดความอดทนกับคุณแล้วนะ!”พินอาภาตวาดลั่นร่างสูงชะงักเมื่อเห็นแววตากร้าวส่งมา คนเป็นลูกน้องมักจะน้ำท่วมปากแบบเสมอแล้วจะให้ทำยังไง เขาจำเป็นต้องปกป้องศักดิ์ศรีของนายไว้ก่อน“อย่าม
เอมม่ายืนจ้องหน้าคู่หมั้นแววตาตัดพ้อ และขอภาวนาอย่าให้มันเป็นอย่างที่คิด แต่สิ่งที่เห็นตรงหน้ามันเป็นเครื่องยืนยันได้ดี อะไรกัน! แค่ผ่านไปไม่กี่เดือนทำไมคู่หมั้นเธอถึงได้กลายเป็นอื่นไป แบบนี้ก็รู้อยู่หรอกว่าเธอควบคุมเขาไม่ได้ แต่เธอไม่มีวันปล่อยเขาไปเด็ดขาด เธออยู่กับเขามานานรู้นิสัยใจคอดี หากคนอย่างเขาไม่แคร์ มีหรือจะให้แม่ลูกมาอยู่ที่บ้านแบบนี้“ทำไมคุณทำกับเอมม่าแบบนี้คะลุคส์”“ผมทำอะไร!”“คุณรู้อยู่แก่ใจ ทำไมคุณถึงได้เอาผู้หญิงอื่นมาอยู่ในบ้านเดียวกับคุณ!” เอมม่าเริ่มตัดพ้อด้วยความไม่พอใจ“ผมจะทำอะไรมันก็เรื่องของผม เอมม่า คุณอย่ามายุ่งดีกว่า!”“เอมม่าเป็นคู่หมั้นคุณนะคะ ทำไมคุณทำแบบนี้ เอมม่าซื่อสัตย์ต่อคุณเพียงคนเดียวมาตลอด ไหนคุณบอกว่าเลิกยุ่งกับเธอไปแล้วยังไง แล้วทำไมถึงได้มาอยู่ด้วยกันแบบนี้!”“กลับฝรั่งเศสไปซะ ผมจะจัดการเรื่องคุณทีหลัง!”เขาสั่งเสียงกร้าว“ไม่! เอมม่าไม่ยอมเด็ดขาด”ไทม์มองดูพ่อกำลังสนทนากับหญิงสาวอีกคน ปรางค์ปรียารรีบรั้งลูกให้ก้าวตาม เธอไม่อยากให้ลูกต้องมาเสียใจอีกแล้ว มือเล็กๆ บีบมือมารดาไว้แน่น เขากำลังหาที่พึ่งทางใจเพียงหนึ่งตลอดระยะเวลาเติบโต คนเป็นแม่ยิ
มือหนาดันกำแพงในห้องน้ำไว้ก่อนจะก้มลงให้สายน้ำรดบนศีรษะเพื่อไล่ความคิดทั้งหมด... เขากำลังมีความสุขแต่ก็กลัวกลัวที่จะรักใคร ห้ามใจแล้วแต่ทำไม่ได้เลยพยายามแข็งใส่แต่ใจกลับอ่อนระทวยทำไมกัน! เขาจะรักเธอไม่ได้รักของเขาจะทำร้ายเธอจะทำให้เธอต้องเจ็บปวด เขาจะทำยังไงดีร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าขนหนูพันกาย ตาของเขาสบเขากับดวงตาที่ยังเรื่อไปด้วยน้ำใสๆ เธอชะงักแล้วพยายามหลบสายตาจากเขา ไม่อยากถูกเห็นความอ่อนแอเลย“หายไปไหนมา?”เขาถามเสียงเข้ม“ออกไปดื่มน้ำมาค่ะ”“งั้นเหรอ ห้องน้ำว่างแล้วไปอาบน้ำสิจะได้มานอน พรุ่งนี้ได้พาไทม์ไปเที่ยวด้วยกัน”“ค่ะ”ร่างบางเดินเลี่ยงเข้าห้องน้ำไป ลุคส์จัดการแต่งตัวพลางเหลือบมอง เธอเป็นอะไรทำไมถึงได้ร้องไห้... เขาเห็นดวงตาคู่นั้นที่มีแววหม่นเศร้า การอยู่กับเขาคงทำให้เธอทรมานมาก เขาขอแค่มีความสุขสักพักจะได้ไหม รู้ดีว่าต้องปล่อยเธอไป แค่คิดหัวใจก็สั่นไหวไปหมดแล้ว มือหนากุมไปที่อกซ้าย พยายามจับจังหวะหัวใจกำลังเต้นระรัว ขอรับมันไว้บ้างไม่ได้หรือไง ไอ้สิ่งที่เรียกว่าความสุข... ทำไมเขาจะต้องเกิดมาแล้วได้รับโชคชะตาแบบนี้ด้วยนะหญิงสาวเดินออกมาจากห้องน้ำ สายตาเหลื
เสียงฝีเท้าแว่วดังเข้ามา ในห้องซึ่งชายชรากำลังทอดสายตามองวิวด้านนอก เมแกนอดีตผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในฝรั่งเศส หันกลับมาสบตาหนุ่มหน้าเข้มผมสีบลอนด์ในชุดหนังสีดำสนิท“สืบว่าได้ความว่ายังไง” เขาถามเสียงแผ่ว“คุณชายอยู่กับผู้หญิงไทยคนหนึ่ง แล้วก็เด็กผู้อีกคน ผมสืบมาได้ว่าเด็กคนนั้นเป็นหลานท่านครับ”“หลานของฉันนะหรือ?”“ครับ”“งั้นแสดงว่าเด็กคนนั้น ก็เป็นทายาทของตระกูลอัลเบอร์ทีนสินะ!”สีหน้าครุ่นคิดตั้งแต่วันที่เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ในคฤหาสน์วันนั้น เขากับบุตรชายไม่เคยเข้าหน้ากันติดีอกเลย แต่การตายของมาเรียทำให้บุตรชายเขาเข้มแข็งและมีทุกวันนี้ได้สำหรับ เขาถือว่าคุ้มแล้ว“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร”“จากที่สืบเธอเป็นเด็กกำพร้าครับ คุณชายพบเธอเมื่อหกปีก่อนที่ฝรั่งเศสโดยบังเอิญ”“สืบต่อไปแล้วมารายงานฉันต่อ!”“ครับท่าน”น่าแปลก... ทำไมบุตรชายเขาถึงได้ลากผู้หญิงเช่นนั้นมาอยู่บ้านด้วย คนอย่างลุคส์ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษ แสดงว่ามีอะไรพิเศษมากกว่านั้น เขาหวังว่าบุตรชายคงไม่คิดอะไรไร้สาระ ไปมีความรักปัญญาอ่อน เพราะเขาจะไม่มีวันยอมให้มันเกิดขึ้นเด็ดขาด ผู้หญิงที่จะได้ครอบครองลุคส์มีเพียง เอมม่า แค
พินอาภาครุ่นคิดก่อนจะยอมขยับกายแต่ว่า... มันเจ็บคงเป็นไปไม่ได้หรอกที่เธอจะเดินไป บอดี้การ์ดหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาไม่สบอารมณ์อย่างแรงทำไมต้องมาซวยเจอเธอก็ไม่รู้“ขี่หลังผมไปแทนก็แล้วกัน...”เขากัดฟันพูดเขาย่อกายลง พินอาภาล้มตัวลงบนหลังพลางโอบรัดรอบคอเขาแน่น ท่อนแขนของเขารั้งเรียวขาไว้เพื่อความมั่นคง ใบหน้าเธอกำลังแดง แต่เมื่อเห็นเขาไม่ได้มีท่าทีอะไรใจที่เต้นโครมครามค่อยสงบลงทันทีที่ถึงบ้านร่างบางรีบตะเกียกตะกายหาเสื้อผ้าเพื่อนตนเองทันที แต่... มันไม่มีเลย เธอจะทำยังไงดีจะให้ใส่เสื้อผ้าแบบนี้เหรอ บอดี้การ์ดคนอื่นก็เริ่มมองมาที่เธอแล้ว“ไม่มีเลยแล้วฉันจะใส่อะไร!”มาติชเดินไปที่ห้องตนเอง ก่อนคว้าเสื้อกับกางเกงขาสั้นให้กับเธอ หญิงสาวรับมาอย่างงงๆ แต่ก็ย่อมดีกว่าไอ้แจ็กเก็ตหนังที่ใส่อยู่“รถคุณจอดไว้ที่นี่ก่อนเดี๋ยวผมจะไปส่งคุณที่บ้าน หรือคุณอยากจะไปหาหมอ?”“ไม่ค่ะ ฉันอยากกลับบ้าน”เขาเดินนำหญิงสาวออกมาด้านนอกพลางสตาร์ทรถรอ พินอาภารีบนั่งลงข้างคนขับเขาเหยียบคันเร่งรถออกไปทันที... อาการจุกแน่นของเธอเริ่มดีขึ้นมากแล้วเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเขาแล้วรู้สึกดีใจหากวันนี้คู่อริเธอไม่มาช่วยไว้ป่
เสียงเล็กๆ กำลังเรียกเขาทำให้เขาตื่นจากภวังค์อันแสนโหดร้าย รอยยิ้มดูสดใสบริสุทธิ์ยิ่งทำให้ใจเขาชุ่มชื่น นี่เป็นความสุขครั้งแรกที่เขาได้รับมาในชีวิต เขาอยากให้ความสุขแบบนี้อยู่กับเขาตลอดไป มันพอจะเป็นไปได้ไหม“ว่าไงครับไทม์”“พ่อจะไม่ไปไหนจากไทม์กับแม่ใช่ไหมครับ พ่อจะอยู่กับเราตลอดไปใช่ไหม” เด็กชายถามน้ำเสียงตื่นเต้นคนเป็นแม่ชะงักช้อนสายตามองเขา ริมฝีปากบางเม้มแน่น เธอไม่เคยคาดหวังอะไรอยู่แล้ว หวังแค่หากเขาจะไปก็ขอให้ตอบคำถามโดยนึกถึงใจลูกบ้าง และคิดถึงความรู้สึกของเธอสักนิดก็ยังดี“พ่อจะไม่ไปไหนจากไทม์แล้วครับ พ่อจะอยู่กับไทม์แล้วก็แม่ด้วย” ชายหนุ่มตอบแล้วสบตาหญิงสาว ปรางค์ปรียานิ่งงันแล้วหลุบตามองอาหาร ในหัวใจเต้นโครมคราม เหตุใดถึงรู้สึกเช่นนี้นะเธอไม่เข้าใจพินอาภาขับรถมาเยี่ยมเยือนเพื่อนตนเอง แต่รถดันมาเสียกลางทางซอยเปลี่ยวแม้จะรู้สึกหงุดหงิดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ โทรศัพท์ถูกยกขึ้นมาเพื่อใช้ติดต่อกับอู่ซ่อมรถ แต่อู่กลับบอกให้รอ... แล้วเธอจะต้องรอถึงเมื่อไหร่กันเสียงพูดคุยดังขึ้น เธอหันไปมองสายตากำลังจดจ้องไปยังกลุ่มวัยรุ่นสี่คนที่เดินมา และรู้สึกเหมือนว่าพวกมันกำลังเมาอยู่ เธอไม่รู้ว่
หญิงสาวยอมทำตามคำสั่งของเขา ร่างบางเดินเข้ามาในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ลุคส์เดินเคียงตลอดเส้นทางไม่ห่าง การกระทำของเขาทำให้เธออึดอัดไม่น้อย แต่กระนั้นกลับไม่กล้าพอต่อว่าต่อขาน เดินเลือกซื้อของแต่ไม่กล้าเลือกมากนัก ส่งผลให้คนเดินตามรู้สึกงุนงง“ทำไมไม่เลือก?”เขาถามเสียงเข้ม“ฉันไม่ได้รวยเหมือนคุณนี่คะ”“ก็บอกว่าจะจ่ายให้ยังไงล่ะ!”“ไม่ต้องค่ะ ฉันพอมีเงินอยู่บ้าง”“อย่าขัดคำสั่งฉัน!”ชายหนุ่มเริ่มหงุดหงิดอีกแล้วที่คำออกคำสั่งแบบนี้ เธอก็คงต้องทำตามอีกแล้วใช่ไหม เธอมองไปรอบๆ แล้วจัดการเลือกเสื้อผ้าทันที ดีเหมือนกันหากเขาต้องการแบบนั้นก็คงไม่ต้องเกรงใจกันแล้วร่างสูงใหญ่ยื่นบัตรเครดิตให้กับพนักงาน แล้วสั่งให้ลูกน้องมาขนของไปไว้ที่บ้านให้เขาแทน“วันพ่อฉันต้องทำอะไรบ้าง”ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย“ทำไมคะ?”“ฉันต้องการรู้ เพราะฉันจะไปร่วมงานนี้”“ก็ไม่ต้องทำอะไรมากค่ะ ไทม์จะติดดอกไม้ที่หน้าอกคุณ แล้วก็เอาพวงมาลัยดอกมะลิมาไหว้คุณค่ะ”“ทำไมต้องไหว้ล่ะ?”“เพราะจะได้ระลึกถึงพระคุณของพ่อที่ให้กำเนิดมา...”หญิงสาวบอกเสียงเศร้าร่างสูงใหญ่นิ่งงันไปชั่วครูเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ เขาไม่เคยคิดเลยว่าการทำให้