ตอนที่ 29
สัปดาห์ต่อมา
แซนด้าหันมองกระเป๋าเดินทางใบโตที่เธอสั่งให้สาวใช้จัดให้เมื่อช่วงกลางดึกอยู่อึดใจ ก่อนจะเดินลากลงไปหาบิดามารดาในห้องนั่งเล่น ที่วันนี้มีพี่ชายจอมดุของเธออยู่ด้วย
“ตื่นสายอีกแล้วนะแซนด้า” ลูคัสเอ่ยถามทันที่เมื่อได้เห็นหน้าน้องสาว
“ก็วันนี้วันหยุด” แซนด้าเถียงพี่ชายด้วยใบหน้าไม่พอใจ
“เธอทำงานแล้วเหรอแซนด้า ถึงได้บอกว่าวันนี้เป็นวันหยุด” ลูคัสที่อยากให้น้องสาวเข้าไปช่วยทำงานโต้กลับ แล้วก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกันที่จะทำให้น้องสาวเข้าไปช่วยงาน ส่วนพ่อและแม่ก็เหนื่อยที่จะพูดแล้ว
“พี่ลูคัส!”
“แซนด้า ลูคัส เลิกเถียงกันได้แล้ว” คนเป็นพ่อโบกมือห้ามทัพ แล้วหันไปพูดกับลูกสาว “หอบหิ้วกระเป๋ามาจะไปไหน”
“แซนด้าจะไปเ
ตอนที่ 30“คุณคลินท์! ถ้าคุณอยากรู้เหตุผลจริงๆ ก็ไปถามคุณย่าของคุณสิ แล้วคุณจะเข้าใจ ว่าทำไมฉันต้องหนีกลับมา” เสียงหวานเอ่ยบอก แต่คนที่หันหลังเดินออกจากห้องไม่สนใจ เธอจึงทำได้แค่เพียงเดินออกไปทำอาหารตามคำสั่งของเขาราวครึ่งชั่วโมงอาหารไทยก็ถูกวางไว้บนโต๊ะ โดยเธอเลือกทำข้าวผัดให้กับลูกชายที่อีกไม่กี่นาที เธอก็จะได้เห็นหน้า แต่ความหวังที่จะได้พบหน้าลูกก็ดับสิ้น เมื่อเขาไล่เธอกลับไปอยู่ในห้อง‘เมื่อไหร่แม่จะได้เห็นลูก’ นิธาราเดินกลับเข้าห้องด้วยสภาพน้ำตาคลอ ท้องก็ร้องหาอาหาร ที่เธอก็มัวแต่ดีใจที่จะได้พบหน้าลูกชาย เลยได้แต่เร่งมือทำอาหารจนลืมในส่วนของตัวเอง ตอนนี้ก็ได้แต่ดื่มน้ำประทังชีวิต ส่วนภายในห้องทานข้าวสองพ่อลูกก็กำลังทานอาหารอย่างมีความสุข ก่อนจะมีคนบางคนเข้ามาขัดจังหวะ“คลินท์ ทำไมแกนั่งทานข้าวกันแค่สองพ่อลูก แล้วแม่เจ้าหนูไปไหน” ราชันทักทายอย่างอารมณ์ดี“ลูกชายฉันไม่เคยมีแม่” คลินท์ตอบเสีย
ตอนที่ 31คนฉวยโอกาสจูบอ้อยอิ่งกับความหวานจากโพรงปากเล็ก ก่อนจะใช้สองมือประคองใบหน้าสวย แล้วปล้ำจูบอย่างเอาแต่ใจ ยิ่งเธอดิ้นเขาก็ยิ่งบดขยี้จุมพิตจนปากอิ่มช้ำ“อื้อ!” เมื่ออากาศที่ใช้หายใจเริ่มหายร่างเล็กก็ดิ้นรน“หยุดดิ้นได้แล้ว” คลินท์ยอมตัดใจจากความหวานแล้วกระซิบสั่งคนตัวเล็ก“ก็ปล่อยฉันสิ ปล่อย”“นิด ผมบอกให้หยุด” เสียงทุ้มห้าวดังชิดปากอิ่มที่แดงช้ำจากการถูกปล้ำจูบ อึดใจต่อมาก็ประกบปากจูบอีกครั้งอย่างป่าเถื่อนจนหนำใจก็ถอยห่างจากร่างเล็กนิธาราขยับห่าง หน้าตาแดงก่ำ“ก็แค่จูบถึงกับจะร้องไห้เลยหรือไง”“คนเลว เมื่อไหร่จะปล่อยฉันไปจากที่นี่“จนกว่าผมจะพอใจไง”“แต่คุณไม่มีสิทธิ์อะไรมากักขังฉัน”“สิทธิ์ในฐานะผัวของคุณไง” คลินท์เอ่ยตอบเสียงเย็น อึดใจต่อมาก็เดินเข้าไปหาร่างเล็กด้วยใบหน้าเ
ตอนที่ 32ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!เสียงเคาะประตูดังติดต่อกันหลายครั้ง ร่างสูงที่อยู่ในสภาพเปลือยกายเหลียวมองไปที่ประตู ฟังเสียงเคาะประตูที่เขาจำได้ดีว่าเป็นฝีมือของใคร อึดใจต่อมาสองเท้าใหญ่ก็พาเจ้าของเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าคว้าเสื้อคลุมมาสวมทับ จากนั้นก็หยิบออกมาอีกหนึ่งชุดไปโยนให้ร่างเล็กที่กำลังห่อตัวด้วยผ้าห่ม“ใส่ซะ แล้วเก็บเสื้อผ้าออกไปให้หมด” คนสั่งชี้นิ้วไปตามเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายทั่วพื้น ขณะที่นิธาราก็รีบคว้าชุดคลุมมาสวมแล้วเก็บเสื้อผ้าทั้งของเธอและของเขาจนครบทุกชิ้น ก่อนที่จะถูกลากมายังห้องน้ำ“เข้าไป แล้วอย่าออกมาจนกว่าผมจะเรียก” คลินท์สั่งแล้วรีบเดินไปเปิดประตูเจอลูกชายตัวน้อยยืนยิ้มแป้น พร้อมกับชูมือขึ้นเป็นอันรู้กันว่าคนเป็นพ่อต้องอุ้ม“อุ้มๆ” เสียงใสๆ ของลูกชายทำให้คนเป็นพ่อยิ้มกว้าง“ได้ครับ” คลินท์ตอบแล้วย่อตัวอุ้ม ก่อนจะหอมแก้มของลูกชายไปหลายฟอดตามมาด้วยเสียงหัวเราะชอบใจจากเจ้าของแก้ม และนั่นทำให้คนที่ถูกบังคับให้อยู่ใน
ตอนที่ 33วันต่อมา สิริขับรถกลับบ้านด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ หลังจากพยายามตามหาคู่หมั้นแต่ก็ไม่พบ ไปรอที่คอนโดก็ไม่เจอ โทรหาก็ปิดเครื่อง เลยทำให้เขาต้องมาถามกับมารดาที่บ้าน แม้จะถามไปหลายครั้งแล้วท่านก็ไม่บอกเขาเสียที แต่วันนี้เขาต้องรู้ให้ได้ว่าคู่หมั้นสาวหนีไปอยู่ที่ไหน “คุณแม่! คุณแม่รู้ใช่ไหมครับว่านิดอยู่ที่ไหน” สิริถามแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้างกับมารดา“ฉันจะไปรู้ได้ไง”“แต่ว่าคุณแม่รู้”“แล้วแกล่ะ เป็นคู่หมั้นประสาอะไรถึงไม่รู้ว่าคู่หมั้นไป หรือวันๆ เอาแต่หมกตัวอยู่แม่ผู้ช่วยเลขา ถึงไม่รู้อะไรเลย” ได้ทีคนเป็นแม่ก็อดไม่ได้ที่จะกระแหนะกระแหนลูกชายที่มัวแต่หลงผู้ช่วยเลขา“ผมขอร้อง บอกผมทีเถอะว่านิดไปไหน” สิริตีหน้าเศร้า หวังจะให้มารดาเห็นใจแล้วยอมบอกว่า
ตอนที่ 34นิธาราขัดขืนและฝืนตัวเอาไว้ แต่แรงเท่ามดหรือจะสู้แรงเท่าช้างอย่างเขาได้ ในที่สุดก็ถูกพาขึ้นเรือแล้วก็ถูกพาไปอยู่ในห้องตาคู่สวยกวาดมองไปรอบๆ ห้องอย่างระมัดระวัง แต่เมื่อไม่มีอะไรอย่างที่นึกกลัว เธอก็เดินไปหย่อนสะโพกนั่งริมหน้าต่าง มองออกไปเห็นน้ำทะเล แล้วก็ได้แต่นั่งเหม่ออยู่อย่างนั้นจนไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน แต่ก็มาสะดุ้ง ตอนประตูห้องถูกผลักเข้ามาร่างสูงยืนจังกาอยู่หน้าประตูในมือก็มีขวดน้ำ แล้วเดินเข้าไปหาร่างเล็กที่ลุกหนีอัตโนมัติ ปากหยักกดยิ้มเล็กน้อยแล้วเดินไล่ต้อนคนตัวเล็ก ที่คงไม่รู้ว่าหนีให้ตายก็หนีเขาไม่พ้น!“ออกไปห่างๆ ฉันนะ” เธอร้องบอกเสียงเขียว หากแต่แววตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก“รังเกียจผมงั้นเหรอ” คลินท์เอ่ยถามเสียงยียวน“ไม่ใช่แค่รังเกียจ แต่ฉันขยะแขยงคนอย่างคุณมาก” นิธาราตอบกลับเสียงดังฟังชัด พลางปัดมือหนาที่ยื่นมาลูบไล้แก้มของเธอออก
ตอนที่ 35 ภายหลังคุยกับผู้ย่าเรียบร้อยและยืนคิดอะไรเพลินๆ อยู่พักใหญ่คลินท์ก็เดินออกมาตามหาลูกชาย แต่เดินหาทั่วบ้านก็ไม่พบจนร้อนใจกลัวว่านิธาราจะพาลูกชายหนีขึ้นเรือ“บารอน! บารอน!” คลินท์เรียกหาบอดี้การ์ดเสียงดังลั่นบ้าน“คุณคลินท์มีอะไรครับ”“ลูกฉันอยู่ไหน”“ออกเดินไปเล่นกับคุณนิดข้าง...” บารอนยังพูดไม่จบ เจ้านายหนุ่มก็จำอ้าวไปแล้ว ไม่นานก็เดินมาถึงชายหาด เจอกับสองแม่ลูกกำลังเล่นก่อกองทรายกันอยู่อย่างสนุกสนาน ภาพนั้นทำให้เขาเผลอยิ้มอย่างมีความสุข ก่อนที่รอยยิ้มจะค่อยๆ จางหาย เมื่อนึกถึงสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นทำกับลูกชายของเขา“น้องฟลินท์! กลับเข้าบ้านกันนะครับ” คลินท์เดินเข้าไปแทรกกลางสองแม่ลูกแล้วพูดกับลูกชายที่กำลังเล่นทรายอย่างสนุกสนาน“ไม่กลับครับ ฟลินท์จะเล่นก
ตอนที่ 36นิธารานิ่งไปครู่ใหญ่ ก่อนจะยอมเล่าเรื่องวันนั้นให้เขาฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอต้องหอบเงินกลับเมืองไทย พอเล่าจบเธอก็เดินกลับเข้าบ้านพักไป ส่วนเขาจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่เขาคลินท์ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม คิดวนไปวนมากับสิ่งที่ได้ฟังจากจากอดีตคนรัก‘ในวันที่ฉันคลอดลูกได้สามวัน คุณเซียล่าก็มาหาฉันพร้อมกับเงินยี่สิบล้าน แล้วสั่งให้ฉันกลับเมืองไทย แล้วบอกว่าคุณเป็นคนสั่ง คุณเซียล่าบอกว่าคุณคุณต้องการแค่ลูก ไม่ต้องการฉัน แต่ฉันไม่ยอมรับเงินและไม่ยอมทิ้งลูกไว้ที่นี่ ถ้ากลับฉันก็ต้องพาลูกไปด้วยแต่คุณเซียล่าไม่ยอม ฉันกับคุณเซียล่าจึงมีปากเสียงกัน กระทั่งคุณเซียล่าขู่ฉันว่า ถ้าฉันไม่กลับเมืองไทย ท่านจะทำร้ายลูกของฉัน และนั่นทำให้ฉันจำใจกลับเมืองไทย ทั้งที่ไม่อยากกลับ แล้วจากวันนั้น ฉันก็ไม่เคยติดต่อกับคุณอีกเลย เพราะเป็นห่วงลูก แต่เมื่อไม่นานคุณเซียล่าส่งคนมาจับฉัน แล้วข่มขู่ฉันว่าหากฉันกลับไปยุ่งกับคุณ ท่า
ตอนที่ 37ที่ผับแห่งหนึ่ง ได้เวลาปิดของผับแล้วแต่สาวผมทองยังคงนั่งดื่มอย่างไม่สนใจใคร แม้พนักงานหนุ่มจะบอกหลายครั้งแล้วก็ตาม แต่แม่สาวผมทองก็ไม่ยอมกลับจนต้องไปเรียกเพื่อนมาช่วยพูด “คุณครับ ผับจะปิดแล้วครับ”“อย่ามายุ่งกับฉัน” เสียงอ้อแอ้ตวาดกลับ ทั้งหงุดหงิด ทั้งเบื่อ เพราะตามหาว่าที่คู่หมั้นหนุ่มไม่เจอ แม้กระทั่ง คุณย่าเซียล่าก็ยังช่วยเธอไม่ได้ “คุณกลับเถอะครับ ผับจะเปลี่ยนแล้ว หรือจะให้ผมไปเรียกแท็กซี่มาให้” “ฉันไม่กลับ แล้วก็ไปเอาเหมือนเดิมมาอีก ฉันอยาก
ตอนอวสาน สามทุ่มตามเวลานัดหมาย คลินท์ก็เดินทางมาถึงตึกร้างตามเวลานัด จากนั้นเขาก็เดินถือกระเป๋าเงินเข้าไปในด้านใน เดินไปได้สักพักก็มีคนออกมารับพร้อมอาวุธในมือ “เงินอยู่ไหน!” หนึ่งในคนร้ายเอ่ยถามพร้อมกับมองไปที่กระเป๋า “นี่ไง” คลินท์โยนกระเป๋าเงินให้สองคนร้าย แล้วมองหาผู้เป็นย่าด้วยความเป็นห่วง ส่วนคนร้ายก็เปิดกระเป๋าดูเงิน เห็นแล้วพากันตาโต ไม่คิดว่าจะหาเงินได้ง่ายขนาดนี้ “ครบหรือเปล่าว่ะ” หนึ่งในคนร้ายเอ่ยถาม “ถ้าพวกแกกลัวฉันให้ไม่ครบ ก็นับดู แต่ปล่อยคุณย่าของฉันมาก่อน” คลิน
ก่อนอวสาน ช่วงเย็นของวันคลินท์เดินทางมาถึงบ้านของคุณหญิงฤทัยรัตน์และขอเข้าพบเจ้าของบ้าน ที่ตอนนี้คนในบ้านกำลังนั่งเล่นอยู่กับหนุ่มน้อยช่างพูด นิธาราเองก็มองลูกชายอย่างรักใคร่ แต่ดูเหมือนความสุขจะหยุดชะงัก เมื่อสาวใช้เข้ามาแจ้งว่ามีผู้ชายชื่อ คลินท์ อธิวัตน์ คาร์เตอร์ มาขอพบคุณหญิงฤทัยรัตน์ “ไปเรียกเข้ามาเลย” จบคำเจ้าของบ้าน คลินท์ก็เดินเข้ามาและทันทีที่น้องฟลินท์เห็นพ่อก็วางของเล่นแล้ววิ่งเข้าไปหา สองพ่อลูกกอดหอมกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่คลินท์จะปล่อย หนุ่มน้อยลงแล้วเข้าไปทักทายเจ้าของบ้าน ที่นั่งอยู่กับแม่สาย “นี่แม่สาย แม่ของยัยนิด” คุณหญิงฤทัยรัตน์เอ่ยแนะนำ
ตอนที่ 51บ้านคุณหญิงฤทัยรัตน์ที่ห้องรับแขกเวลานี้เจ้าของบ้านและแม่บ้านคนสนิทกำลังพากันมองหนุ่มน้อยที่มากับนิธาราเป็นตาเดียว แล้วก็สงสัยว่าเด็กคนนี้เป็นใครมาจากไหน “นิด มีอะไรก็บอกคุณหญิงไปสิ จะมัวนั่งเงียบอยู่ทำไม แล้วเด็กคนนี้เป็นใครมาจากไหน เราไปเก็บมาได้หรือไง” คนเป็นแม่สะกิดบอกลูกสาวเสียงเครียด ใจก็ภาวนาขออย่าให้เป็นอย่างที่ใจกำลังคิดเลย นิธารามองหน้าลูกชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ยกมือลูกศีรษะเล็กอย่างรักใคร่ ก่อนจะหันมาก้มลงกราบขอโทษมารดาและคุณหญิงฤทัยรัตน์ ที่ท่านเมตตาส่งเสียเงินทองให้เธอไปเรียนแต่เธอกลับทำให้ท่านผิดหวัง แล้วยังปิดบังเรื่องนี้มาหลายปี “ยัยนิด เป็นอะไรนะเรา จู่ๆ ก็มากราบแม่กับคุณหญิง” คนเป็นแม่เอ่ยถามลูกสาวเสียงสั่น
ตอนที่ 50 วันต่อมานิธาราขับรถไปยังบ้านของราชันแต่เช้าตรู่ หลังจากเมื่อคืนอีกคนกลับเข้ามาบอกว่าต้องอยู่เฝ้าผู้เป็นย่า เพราะท่านไม่ค่อยสบาย ที่เธอก็อยากจะเข้าไปเยี่ยมเหมือนกัน แต่กลัวไปแล้วจะยิ่งทำให้ท่านเครียด เธอจึงตัดสินใจไม่ไปและเช้ามืดวันนี้เธอก็ตั้งใจจะพาลูกชายไปกราบขอโทษผู้มีพระคุณและมารดา หลังจากเธอปิดบังเรื่องมีครอบครัวเอาไว้ เกือบสี่ปี ที่เธอเก็บเงียบ ไม่ยอมบอกใครแม้กระทั่งเพื่อน ที่วันนี้เธอตัดสินใจมาที่ร้านของเพื่อนก่อนไปบ้านผู้มีพระคุณ“นิด! ไปอุ้มลูกใครมาเนี่ย” ศุภิสราที่ไม่ได้เจอหน้าเพื่อนนานเอ่ยทัก และดีใจมากๆ ที่เพื่อนโทรมาหาว่าจะมาหาที่ร้าน แต่เมื่อเห็นหน้าเพื่อนแล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อเพื่อนรักมาพร้อมเด็กฝรั่ง หน้าตาน่ารัก“เข้าไปคุยในร้านนะ แล้วในร้านมีคนเยอะหรือเปล่า”“ไม่มีเลย”“งั้นเข้าไปในร้านก่อนนะแล
ตอนที่ 49 “แล้วผู้หญิงคนนั้นก็จะมาอยู่กับตาคลินท์หลานของย่า” คนอยากชังหน้าเมียของหลานชายพึมพำออกมาเบาๆ แต่ก็พอให้แซนด้าได้ยิน “เอ่อ...” แซนด้าถึงกับพูดไม่ออก เพราะรู้ดีว่าผู้อาวุโสไม่ชอบเมียของหลานชายจนถึงกับเอาชีวิตเด็กตัวเล็กๆ มาข่มขู่ จนอีกฝ่ายต้องเผ่นกลับประเทศ “หนูไม่ต้องพูดหรอก เพราะถ้าย่ายังอยู่ ย่าไม่มีวันให้ตาคลินท์ได้อยู่กับผู้หญิงคนนั้น” “โธ่...คุณย่า” “นี่ก็ดึกแล้ว ย่าว่าหนูไปพักผ่อนเถอะ” 
ตอนที่ 48นิธาราเดินกลับห้องพักไปอย่างคนใจลอย หลังจากมาถึงบ้านพักแล้วเธอกับคุณคลินท์ก็พากันไปเดินเล่นรับลมสักครู่ก็พากันกลับเข้าบ้าน แล้วก็เจอกับแซนด้าที่เข้ามาขอคุยธุระกับคุณคลินท์แบบส่วนตัว เธอเลยเดินกลับห้องพักตามลำพัง แต่ขณะที่กำลังจะถึงห้องพักท่อนแขนก็ถูกกระชากอย่างแรง“นิด!”“พี่สิริ!”“ใช่! พี่เอง”“พี่...พี่มีธุระอะไรกับนิดเหรอคะ” ถามไปก็พยายามปลดมือของอีกคนไปด้วย“เธอแอบมีลูกมีผัวอยู่แล้วทำไมต้องปิดบังพี่”“พี่สิริ!”“ตกใจมากหรือไงที่พี่รู้ความจริง”“นิด...นิดขอโทษค่ะ”“คิดว่าขอโทษแล้วจะจบง่ายๆ หรือไง” สิริบีบแขนเล็กจนเจ้าของแขนหน้าเบ้ด้วยความเจ็บ“พี่สิริ นิดเจ็บ” นิธาราพยายามดึงแขนออกจากมือของคู่หมั้นหนุ่ม“แล้วทีเธอหลอกพี่ล่ะ แล้วไหนจะทำเป็นเล่นตัวกับ พี่อีก สะใจเธอมากใ
ตอนที่ 47 “ผมไม่ยอม ผมต้องการคุณกับลูก แล้วผมไม่มีวันให้เราสามคนต้องแยกกันอีกแล้ว” เขาให้คำมั่น แม้ยังมีอุปสรรคขวางอยู่ก็ตาม “แต่คุณย่าของคุณพรากน้องฟลินท์ไปจากฉันนานแล้ว คุณเห็นใจฉันบ้างเถอะ ขอให้น้องฟลินท์ไปอยู่กับฉัน แล้วฉันสัญญาว่าจะไม่พาน้องฟลินท์หนีไปไหน หากคุณอยากเจอ ก็มาเจอได้เลย” “ไม่ได้นิด” คลินท์ยืนกรานปฏิเสธ “คุณจะใจร้ายกับฉันไปถึงไหน คุณคลินท์” เธอถามอย่างตัดพ้อ “ผมไม่ได้ใจร้าย ทั้งที่ผมอยากใจร้ายกับคุณให้มากกว่านี้ตั้งแต่กลับมาหาคุณ แต่ผมก็ทำไม่ได้ เพราะผมยังรักคุณ ได้ยินไหมนิด ผ
ตอนที่ 46ช่วงเย็นของวัน“คลินท์!” ราชันที่เพิ่งกลับจากการทำงานแล้วแม่บอกว่าเพื่อนมาหา ตอนนี้นั่งอยู่ที่ศาลาหลังบ้านท่าทางเหมือนคนมีเรื่องไม่สบายใจ เขาเลยรีบเดินมาหาเพื่อน แต่เรียกเพื่อนไปแล้ว เพื่อนก็นิ่งราวกับโดนสาป “คลินท์!!” ราชันเรียกดังกว่าเดิมแล้วเดินเข้าไปนั่งกับเพื่อนรัก“ราชัน แกทำงานเสร็จแล้วเหรอ”“อืม แล้วแกเป็นอะไร นั่งเหม่อใจลอยคิดถึงใคร”“เปล่า” คนบอกเปล่าหน้าตาเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด“หน้าตาแกชัดขนาดนี้ อย่าปิดเลยเพื่อน บอกมาเถอะ เผื่อแกจะสบายใจขึ้น” ราชันคาดคั้น ส่วนอีกคนก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะให้เพื่อนได้ฟังเสียงสนทนาของผู้เป็นย่าและนิธารา ที่เขาได้บันทึกลงในโทรศัพท์ หลังจากเมื่อวานได้โทรสั่งให้ลูกน้องติดเครื่องดักฟังและกล้องจับภาพรอบบ้าน เพราะเขามั่นใจว่าเมื่อคุณย่าเจอกับนิธารา ทั้งสองคนจะต้องพูดอะไรกันแน่ๆ แล้วก็พูดจริงๆ“แล้วแกจะเอาไงต่อ” หลังจากได้ฟั
ตอนที่ 45 “แล้วหล่อนคิดว่าตาคลินท์จะยอมให้หล่อนพาลูกไปง่ายๆ งั้นเหรอ” “คุณคลินท์ต้องยอมค่ะ” “หลานฉันไม่มีวันยอม หล่อนอย่าฝันไปเลย” “แต่ถ้าคุณคลินท์รู้ความจริงว่าคุณเป็นคนยัดเยียดเงินให้นิด แล้วก็เอาชีวิตน้องฟลินท์มาขู่ให้นิดไปจากคุณคลินท์ คุณคลินท์ต้องยอมให้ลูกกับนิด” “ตาคลินท์จะไม่มีวันได้รู้ความจริงเรื่องนี้!” “ความลับไม่มีในโลกนี้ค่ะ คุณเซียล่า” นิธาราบอกอย