ตอนที่ 25
“อย่าเข้ามานะ!” นิธาราร้องห้ามเสียงสั่นๆ หันซ้ายแลขวาหาทางรอด แต่ไม่มีทางหนีทางไหนเลย นอกจากโดดระเบียงลงไป
“โดดลงไปเลย” คลินท์พูดขึ้น เพราะรู้ดีว่าอดีตคนรักไม่กล้าโดดลงไป
“ฉัน...ไม่โดด”
“งั้นก็เดินมาหาผม” คลินท์อ้าแขนรอรับ
“ฉันไม่ไป ส่วนคุณออกไปจากห้องฉันได้แล้ว”
“ผมบอกแล้วไงว่าอยากสนุกกับคุณก่อนกลับ” น้ำเสียงของเขายียวนกวนโมโหคนฟังเป็นที่สุด
“ฉันไม่มีวันยอมให้คุณมาทำอะไรฉัน” เธอประกาศกร้าว
“แน่ใจว่าไม่ยอม” คลินท์ย้อนถามเสียงกลั้วหัวเราะ
“ฉันแน่ใจ” นิธาราตอบกลับอย่างมั่นใจ ก่อนที่เธอจะถูกคนตรงหน้ายื่นไปรวบเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด ทำเอาเธอร้องเสียงหลง “กรี๊ด!! ปล่อยฉันนะ คนเลว ปล่อย”
“ไม่ปล่อย” พูดจบจมูกโด่งก็ซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่นอย่างไม่สนใจแรงขัดขืนของคนในอ้อมกอด
“คุณ
ตอนที่ 26คลินท์เงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนใต้ร่างพร้อมกับลงน้ำหนักมือในการทรมานปทุมถันไปด้วย จนร่างเล็กดิ้นพล่านทั้งเจ็บทั้งวาบหวาม ร่างกายร้อนฉ่าราวกับยืนอยู่กลางกองไฟขนาดใหญ่“ปล่อยฉัน ได้โปรด ปล่อยฉัน” คนที่กำลังพ่ายแพ้ให้กับเพลิงราคะเอ่ยขอร้องด้วยเสียงสั่นเครือ“สั่นเพราะความอยากขนาดนี้แล้ว ยังจะร้องให้ปล่อยอีกเหรอ” ขาดคำก็แนบปากจูบปากอิ่มอีกครั้งอย่างป่าเถื่อน แต่ไม่นานก็เริ่มเปลี่ยนเป็นนุ่มนวล หวังทำให้คนใต้ร่างหลงใหลนิธารานิ่งราวกับท่อนไม้ให้อดีตคนรักปล้ำจูบตามอำเภอใจ ไม่นานน้ำตาไหลก็อาบแก้ม คลินท์ที่สัมผัสกับน้ำตาได้ ค่อยๆ ถอยห่าง“คิดว่าเล่นไม้นี้แล้วผมจะหยุดหรือไง” มุมปากหยักกระตุกยิ้ม อึดใจต่อมาก็ลากมือไปตามส่วนเว้าส่วนโค้ง มืออีกข้างก็เคลื่อนเข้าหาปทุมถัน“คุณมันเลว”“เลิกทำตัวเป็นท่อนไม้แล้วมาสนุกกันเถอะนิด ผมรู้ว่าคุณร้อนแรงขนาดไหนเวลาอยู่บนเตียง แล้วก็รู้ด้วยว่าคุณทนได้ไม่นาน&rd
ตอนที่ 27 นิธาราที่หนีออกไปไหนไม่ได้ เพราะเปิดประตูออกไปก็เจอลูกน้องคนใจร้ายเธอเลยเข้าไปหลบอยู่ในห้องน้ำ แล้วภาวนาขอให้อดีตคนรักกลับไป แต่ทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่ใจหวัง เมื่อยินเสียงของอดีตคนรักสั่งให้ออกมา “นิด! ออกมา” นิธารานั่งเงียบ ไม่คิดโต้ตอบคนด้านนอก “ถ้าอยากอยู่ในนั่นก็ตามใจ” พูดจบเขาเดินเข้าไปในครัว ชงกาแฟ เมื่อได้กาแฟมาแล้วนั่งดื่มกาแฟอย่างใจเย็น ด้านคนในห้องน้ำก็นิ่ง แล้วก็ฟังความเคลื่อนไหวจากด้านนอก “คุณคลินท์” หลังนั่งคอยฟังเสียงความเคลื่
ตอนที่ 28“ฉันจะพาคนบางคนไปอยู่ด้วย” คลินท์เอ่ยตอบเสียงเรียบๆ จากนั้นก็หันไปหาบอดี้การ์ดบอกให้พาคนในรถออกมา“คลินท์! แกต้องทำขนาดเลยเหรอ” ราชันพอเห็นหน้าคนที่เพื่อนจะพาไปด้วยก็รีบถามทันที“ฤทธิ์เยอะ เลยต้องทำแบบนี้”“จริงเหรอเพื่อน”“เอ่อ!” คำตอบของคลินท์ทำให้ราชันได้แต่ยกมือหัวแกรกๆ คิดไม่ออกว่าจะหาวิธีไหนมาทำให้เพื่อนทั้งสองกลับคืนมาดีกัน แต่เอ...สองคนนี้มีลูกด้วยกันแล้ว‘สงสัยต้องให้เจ้าฟลินท์เป็นกาวใจ” ราชันแอบคิดในใจแล้วยิ้มกริ่มน่าสงสัยเลยโดนเพื่อนตบบ่าเข้าให้“ไอ้คลินท์! แกตีฉันทำไม“แล้วแกยิ้มทำไม”“อะไรของแก ยิ้มก็ไม่ได้” ราชันส่ายหน้าเบาๆ จากนั้นก็บอกให้เพื่อนพาเมียรักขึ้นรถเพื่อเดินทางไปยังบ้านพัก กระทั่งทั้งหมดเดินทางมาถึงบ้านพักคลินท์ก็สั่งให้ลูกน้องพานิธาราไปขังไว้ในห้อง“คุณคลินท์! คุณจะ
ตอนที่ 29 สัปดาห์ต่อมา แซนด้าหันมองกระเป๋าเดินทางใบโตที่เธอสั่งให้สาวใช้จัดให้เมื่อช่วงกลางดึกอยู่อึดใจ ก่อนจะเดินลากลงไปหาบิดามารดาในห้องนั่งเล่น ที่วันนี้มีพี่ชายจอมดุของเธออยู่ด้วย“ตื่นสายอีกแล้วนะแซนด้า” ลูคัสเอ่ยถามทันที่เมื่อได้เห็นหน้าน้องสาว“ก็วันนี้วันหยุด” แซนด้าเถียงพี่ชายด้วยใบหน้าไม่พอใจ“เธอทำงานแล้วเหรอแซนด้า ถึงได้บอกว่าวันนี้เป็นวันหยุด” ลูคัสที่อยากให้น้องสาวเข้าไปช่วยทำงานโต้กลับ แล้วก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกันที่จะทำให้น้องสาวเข้าไปช่วยงาน ส่วนพ่อและแม่ก็เหนื่อยที่จะพูดแล้ว“พี่ลูคัส!”“แซนด้า ลูคัส เลิกเถียงกันได้แล้ว” คนเป็นพ่อโบกมือห้ามทัพ แล้วหันไปพูดกับลูกสาว “หอบหิ้วกระเป๋ามาจะไปไหน”“แซนด้าจะไปเ
ตอนที่ 30“คุณคลินท์! ถ้าคุณอยากรู้เหตุผลจริงๆ ก็ไปถามคุณย่าของคุณสิ แล้วคุณจะเข้าใจ ว่าทำไมฉันต้องหนีกลับมา” เสียงหวานเอ่ยบอก แต่คนที่หันหลังเดินออกจากห้องไม่สนใจ เธอจึงทำได้แค่เพียงเดินออกไปทำอาหารตามคำสั่งของเขาราวครึ่งชั่วโมงอาหารไทยก็ถูกวางไว้บนโต๊ะ โดยเธอเลือกทำข้าวผัดให้กับลูกชายที่อีกไม่กี่นาที เธอก็จะได้เห็นหน้า แต่ความหวังที่จะได้พบหน้าลูกก็ดับสิ้น เมื่อเขาไล่เธอกลับไปอยู่ในห้อง‘เมื่อไหร่แม่จะได้เห็นลูก’ นิธาราเดินกลับเข้าห้องด้วยสภาพน้ำตาคลอ ท้องก็ร้องหาอาหาร ที่เธอก็มัวแต่ดีใจที่จะได้พบหน้าลูกชาย เลยได้แต่เร่งมือทำอาหารจนลืมในส่วนของตัวเอง ตอนนี้ก็ได้แต่ดื่มน้ำประทังชีวิต ส่วนภายในห้องทานข้าวสองพ่อลูกก็กำลังทานอาหารอย่างมีความสุข ก่อนจะมีคนบางคนเข้ามาขัดจังหวะ“คลินท์ ทำไมแกนั่งทานข้าวกันแค่สองพ่อลูก แล้วแม่เจ้าหนูไปไหน” ราชันทักทายอย่างอารมณ์ดี“ลูกชายฉันไม่เคยมีแม่” คลินท์ตอบเสีย
ตอนที่ 31คนฉวยโอกาสจูบอ้อยอิ่งกับความหวานจากโพรงปากเล็ก ก่อนจะใช้สองมือประคองใบหน้าสวย แล้วปล้ำจูบอย่างเอาแต่ใจ ยิ่งเธอดิ้นเขาก็ยิ่งบดขยี้จุมพิตจนปากอิ่มช้ำ“อื้อ!” เมื่ออากาศที่ใช้หายใจเริ่มหายร่างเล็กก็ดิ้นรน“หยุดดิ้นได้แล้ว” คลินท์ยอมตัดใจจากความหวานแล้วกระซิบสั่งคนตัวเล็ก“ก็ปล่อยฉันสิ ปล่อย”“นิด ผมบอกให้หยุด” เสียงทุ้มห้าวดังชิดปากอิ่มที่แดงช้ำจากการถูกปล้ำจูบ อึดใจต่อมาก็ประกบปากจูบอีกครั้งอย่างป่าเถื่อนจนหนำใจก็ถอยห่างจากร่างเล็กนิธาราขยับห่าง หน้าตาแดงก่ำ“ก็แค่จูบถึงกับจะร้องไห้เลยหรือไง”“คนเลว เมื่อไหร่จะปล่อยฉันไปจากที่นี่“จนกว่าผมจะพอใจไง”“แต่คุณไม่มีสิทธิ์อะไรมากักขังฉัน”“สิทธิ์ในฐานะผัวของคุณไง” คลินท์เอ่ยตอบเสียงเย็น อึดใจต่อมาก็เดินเข้าไปหาร่างเล็กด้วยใบหน้าเ
ตอนที่ 32ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!เสียงเคาะประตูดังติดต่อกันหลายครั้ง ร่างสูงที่อยู่ในสภาพเปลือยกายเหลียวมองไปที่ประตู ฟังเสียงเคาะประตูที่เขาจำได้ดีว่าเป็นฝีมือของใคร อึดใจต่อมาสองเท้าใหญ่ก็พาเจ้าของเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าคว้าเสื้อคลุมมาสวมทับ จากนั้นก็หยิบออกมาอีกหนึ่งชุดไปโยนให้ร่างเล็กที่กำลังห่อตัวด้วยผ้าห่ม“ใส่ซะ แล้วเก็บเสื้อผ้าออกไปให้หมด” คนสั่งชี้นิ้วไปตามเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายทั่วพื้น ขณะที่นิธาราก็รีบคว้าชุดคลุมมาสวมแล้วเก็บเสื้อผ้าทั้งของเธอและของเขาจนครบทุกชิ้น ก่อนที่จะถูกลากมายังห้องน้ำ“เข้าไป แล้วอย่าออกมาจนกว่าผมจะเรียก” คลินท์สั่งแล้วรีบเดินไปเปิดประตูเจอลูกชายตัวน้อยยืนยิ้มแป้น พร้อมกับชูมือขึ้นเป็นอันรู้กันว่าคนเป็นพ่อต้องอุ้ม“อุ้มๆ” เสียงใสๆ ของลูกชายทำให้คนเป็นพ่อยิ้มกว้าง“ได้ครับ” คลินท์ตอบแล้วย่อตัวอุ้ม ก่อนจะหอมแก้มของลูกชายไปหลายฟอดตามมาด้วยเสียงหัวเราะชอบใจจากเจ้าของแก้ม และนั่นทำให้คนที่ถูกบังคับให้อยู่ใน
ตอนที่ 33วันต่อมา สิริขับรถกลับบ้านด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ หลังจากพยายามตามหาคู่หมั้นแต่ก็ไม่พบ ไปรอที่คอนโดก็ไม่เจอ โทรหาก็ปิดเครื่อง เลยทำให้เขาต้องมาถามกับมารดาที่บ้าน แม้จะถามไปหลายครั้งแล้วท่านก็ไม่บอกเขาเสียที แต่วันนี้เขาต้องรู้ให้ได้ว่าคู่หมั้นสาวหนีไปอยู่ที่ไหน “คุณแม่! คุณแม่รู้ใช่ไหมครับว่านิดอยู่ที่ไหน” สิริถามแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้างกับมารดา“ฉันจะไปรู้ได้ไง”“แต่ว่าคุณแม่รู้”“แล้วแกล่ะ เป็นคู่หมั้นประสาอะไรถึงไม่รู้ว่าคู่หมั้นไป หรือวันๆ เอาแต่หมกตัวอยู่แม่ผู้ช่วยเลขา ถึงไม่รู้อะไรเลย” ได้ทีคนเป็นแม่ก็อดไม่ได้ที่จะกระแหนะกระแหนลูกชายที่มัวแต่หลงผู้ช่วยเลขา“ผมขอร้อง บอกผมทีเถอะว่านิดไปไหน” สิริตีหน้าเศร้า หวังจะให้มารดาเห็นใจแล้วยอมบอกว่า
ตอนอวสาน สามทุ่มตามเวลานัดหมาย คลินท์ก็เดินทางมาถึงตึกร้างตามเวลานัด จากนั้นเขาก็เดินถือกระเป๋าเงินเข้าไปในด้านใน เดินไปได้สักพักก็มีคนออกมารับพร้อมอาวุธในมือ “เงินอยู่ไหน!” หนึ่งในคนร้ายเอ่ยถามพร้อมกับมองไปที่กระเป๋า “นี่ไง” คลินท์โยนกระเป๋าเงินให้สองคนร้าย แล้วมองหาผู้เป็นย่าด้วยความเป็นห่วง ส่วนคนร้ายก็เปิดกระเป๋าดูเงิน เห็นแล้วพากันตาโต ไม่คิดว่าจะหาเงินได้ง่ายขนาดนี้ “ครบหรือเปล่าว่ะ” หนึ่งในคนร้ายเอ่ยถาม “ถ้าพวกแกกลัวฉันให้ไม่ครบ ก็นับดู แต่ปล่อยคุณย่าของฉันมาก่อน” คลิน
ก่อนอวสาน ช่วงเย็นของวันคลินท์เดินทางมาถึงบ้านของคุณหญิงฤทัยรัตน์และขอเข้าพบเจ้าของบ้าน ที่ตอนนี้คนในบ้านกำลังนั่งเล่นอยู่กับหนุ่มน้อยช่างพูด นิธาราเองก็มองลูกชายอย่างรักใคร่ แต่ดูเหมือนความสุขจะหยุดชะงัก เมื่อสาวใช้เข้ามาแจ้งว่ามีผู้ชายชื่อ คลินท์ อธิวัตน์ คาร์เตอร์ มาขอพบคุณหญิงฤทัยรัตน์ “ไปเรียกเข้ามาเลย” จบคำเจ้าของบ้าน คลินท์ก็เดินเข้ามาและทันทีที่น้องฟลินท์เห็นพ่อก็วางของเล่นแล้ววิ่งเข้าไปหา สองพ่อลูกกอดหอมกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่คลินท์จะปล่อย หนุ่มน้อยลงแล้วเข้าไปทักทายเจ้าของบ้าน ที่นั่งอยู่กับแม่สาย “นี่แม่สาย แม่ของยัยนิด” คุณหญิงฤทัยรัตน์เอ่ยแนะนำ
ตอนที่ 51บ้านคุณหญิงฤทัยรัตน์ที่ห้องรับแขกเวลานี้เจ้าของบ้านและแม่บ้านคนสนิทกำลังพากันมองหนุ่มน้อยที่มากับนิธาราเป็นตาเดียว แล้วก็สงสัยว่าเด็กคนนี้เป็นใครมาจากไหน “นิด มีอะไรก็บอกคุณหญิงไปสิ จะมัวนั่งเงียบอยู่ทำไม แล้วเด็กคนนี้เป็นใครมาจากไหน เราไปเก็บมาได้หรือไง” คนเป็นแม่สะกิดบอกลูกสาวเสียงเครียด ใจก็ภาวนาขออย่าให้เป็นอย่างที่ใจกำลังคิดเลย นิธารามองหน้าลูกชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ยกมือลูกศีรษะเล็กอย่างรักใคร่ ก่อนจะหันมาก้มลงกราบขอโทษมารดาและคุณหญิงฤทัยรัตน์ ที่ท่านเมตตาส่งเสียเงินทองให้เธอไปเรียนแต่เธอกลับทำให้ท่านผิดหวัง แล้วยังปิดบังเรื่องนี้มาหลายปี “ยัยนิด เป็นอะไรนะเรา จู่ๆ ก็มากราบแม่กับคุณหญิง” คนเป็นแม่เอ่ยถามลูกสาวเสียงสั่น
ตอนที่ 50 วันต่อมานิธาราขับรถไปยังบ้านของราชันแต่เช้าตรู่ หลังจากเมื่อคืนอีกคนกลับเข้ามาบอกว่าต้องอยู่เฝ้าผู้เป็นย่า เพราะท่านไม่ค่อยสบาย ที่เธอก็อยากจะเข้าไปเยี่ยมเหมือนกัน แต่กลัวไปแล้วจะยิ่งทำให้ท่านเครียด เธอจึงตัดสินใจไม่ไปและเช้ามืดวันนี้เธอก็ตั้งใจจะพาลูกชายไปกราบขอโทษผู้มีพระคุณและมารดา หลังจากเธอปิดบังเรื่องมีครอบครัวเอาไว้ เกือบสี่ปี ที่เธอเก็บเงียบ ไม่ยอมบอกใครแม้กระทั่งเพื่อน ที่วันนี้เธอตัดสินใจมาที่ร้านของเพื่อนก่อนไปบ้านผู้มีพระคุณ“นิด! ไปอุ้มลูกใครมาเนี่ย” ศุภิสราที่ไม่ได้เจอหน้าเพื่อนนานเอ่ยทัก และดีใจมากๆ ที่เพื่อนโทรมาหาว่าจะมาหาที่ร้าน แต่เมื่อเห็นหน้าเพื่อนแล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อเพื่อนรักมาพร้อมเด็กฝรั่ง หน้าตาน่ารัก“เข้าไปคุยในร้านนะ แล้วในร้านมีคนเยอะหรือเปล่า”“ไม่มีเลย”“งั้นเข้าไปในร้านก่อนนะแล
ตอนที่ 49 “แล้วผู้หญิงคนนั้นก็จะมาอยู่กับตาคลินท์หลานของย่า” คนอยากชังหน้าเมียของหลานชายพึมพำออกมาเบาๆ แต่ก็พอให้แซนด้าได้ยิน “เอ่อ...” แซนด้าถึงกับพูดไม่ออก เพราะรู้ดีว่าผู้อาวุโสไม่ชอบเมียของหลานชายจนถึงกับเอาชีวิตเด็กตัวเล็กๆ มาข่มขู่ จนอีกฝ่ายต้องเผ่นกลับประเทศ “หนูไม่ต้องพูดหรอก เพราะถ้าย่ายังอยู่ ย่าไม่มีวันให้ตาคลินท์ได้อยู่กับผู้หญิงคนนั้น” “โธ่...คุณย่า” “นี่ก็ดึกแล้ว ย่าว่าหนูไปพักผ่อนเถอะ” 
ตอนที่ 48นิธาราเดินกลับห้องพักไปอย่างคนใจลอย หลังจากมาถึงบ้านพักแล้วเธอกับคุณคลินท์ก็พากันไปเดินเล่นรับลมสักครู่ก็พากันกลับเข้าบ้าน แล้วก็เจอกับแซนด้าที่เข้ามาขอคุยธุระกับคุณคลินท์แบบส่วนตัว เธอเลยเดินกลับห้องพักตามลำพัง แต่ขณะที่กำลังจะถึงห้องพักท่อนแขนก็ถูกกระชากอย่างแรง“นิด!”“พี่สิริ!”“ใช่! พี่เอง”“พี่...พี่มีธุระอะไรกับนิดเหรอคะ” ถามไปก็พยายามปลดมือของอีกคนไปด้วย“เธอแอบมีลูกมีผัวอยู่แล้วทำไมต้องปิดบังพี่”“พี่สิริ!”“ตกใจมากหรือไงที่พี่รู้ความจริง”“นิด...นิดขอโทษค่ะ”“คิดว่าขอโทษแล้วจะจบง่ายๆ หรือไง” สิริบีบแขนเล็กจนเจ้าของแขนหน้าเบ้ด้วยความเจ็บ“พี่สิริ นิดเจ็บ” นิธาราพยายามดึงแขนออกจากมือของคู่หมั้นหนุ่ม“แล้วทีเธอหลอกพี่ล่ะ แล้วไหนจะทำเป็นเล่นตัวกับ พี่อีก สะใจเธอมากใ
ตอนที่ 47 “ผมไม่ยอม ผมต้องการคุณกับลูก แล้วผมไม่มีวันให้เราสามคนต้องแยกกันอีกแล้ว” เขาให้คำมั่น แม้ยังมีอุปสรรคขวางอยู่ก็ตาม “แต่คุณย่าของคุณพรากน้องฟลินท์ไปจากฉันนานแล้ว คุณเห็นใจฉันบ้างเถอะ ขอให้น้องฟลินท์ไปอยู่กับฉัน แล้วฉันสัญญาว่าจะไม่พาน้องฟลินท์หนีไปไหน หากคุณอยากเจอ ก็มาเจอได้เลย” “ไม่ได้นิด” คลินท์ยืนกรานปฏิเสธ “คุณจะใจร้ายกับฉันไปถึงไหน คุณคลินท์” เธอถามอย่างตัดพ้อ “ผมไม่ได้ใจร้าย ทั้งที่ผมอยากใจร้ายกับคุณให้มากกว่านี้ตั้งแต่กลับมาหาคุณ แต่ผมก็ทำไม่ได้ เพราะผมยังรักคุณ ได้ยินไหมนิด ผ
ตอนที่ 46ช่วงเย็นของวัน“คลินท์!” ราชันที่เพิ่งกลับจากการทำงานแล้วแม่บอกว่าเพื่อนมาหา ตอนนี้นั่งอยู่ที่ศาลาหลังบ้านท่าทางเหมือนคนมีเรื่องไม่สบายใจ เขาเลยรีบเดินมาหาเพื่อน แต่เรียกเพื่อนไปแล้ว เพื่อนก็นิ่งราวกับโดนสาป “คลินท์!!” ราชันเรียกดังกว่าเดิมแล้วเดินเข้าไปนั่งกับเพื่อนรัก“ราชัน แกทำงานเสร็จแล้วเหรอ”“อืม แล้วแกเป็นอะไร นั่งเหม่อใจลอยคิดถึงใคร”“เปล่า” คนบอกเปล่าหน้าตาเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด“หน้าตาแกชัดขนาดนี้ อย่าปิดเลยเพื่อน บอกมาเถอะ เผื่อแกจะสบายใจขึ้น” ราชันคาดคั้น ส่วนอีกคนก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะให้เพื่อนได้ฟังเสียงสนทนาของผู้เป็นย่าและนิธารา ที่เขาได้บันทึกลงในโทรศัพท์ หลังจากเมื่อวานได้โทรสั่งให้ลูกน้องติดเครื่องดักฟังและกล้องจับภาพรอบบ้าน เพราะเขามั่นใจว่าเมื่อคุณย่าเจอกับนิธารา ทั้งสองคนจะต้องพูดอะไรกันแน่ๆ แล้วก็พูดจริงๆ“แล้วแกจะเอาไงต่อ” หลังจากได้ฟั
ตอนที่ 45 “แล้วหล่อนคิดว่าตาคลินท์จะยอมให้หล่อนพาลูกไปง่ายๆ งั้นเหรอ” “คุณคลินท์ต้องยอมค่ะ” “หลานฉันไม่มีวันยอม หล่อนอย่าฝันไปเลย” “แต่ถ้าคุณคลินท์รู้ความจริงว่าคุณเป็นคนยัดเยียดเงินให้นิด แล้วก็เอาชีวิตน้องฟลินท์มาขู่ให้นิดไปจากคุณคลินท์ คุณคลินท์ต้องยอมให้ลูกกับนิด” “ตาคลินท์จะไม่มีวันได้รู้ความจริงเรื่องนี้!” “ความลับไม่มีในโลกนี้ค่ะ คุณเซียล่า” นิธาราบอกอย