“ถ้าหล่อนยินยอมดีๆ ฉันก็จะไม่ขวางหรอกนะ แต่ถ้าไม่!!” ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกันคนที่ไม่ชอบยุ่งกับคนอื่นอย่างอีธาน นึกอยาก ‘เสือก’ เป็นครั้งแรก
เขากำลังอารมณ์ไม่ดี เนื่องจากเพิ่งโดนบิดาเฉ่งมาหมาดๆ เรื่องความไม่เอาไหนของตัวเอง ทั้งๆ ที่เป็นทายาทคนเดียวแท้ๆ แต่เรื่องงานในบริษัท อีธานแทบจะไม่สนใจ เขาสนุกไปกับการสังสรรค์ ท่องราตรี ควงสาวไม่ซ้ำหน้า เพื่อนฝูงรุมล้อม แต่บิดากลับไม่ปลื้ม คำสั่งด่วนก่อนที่เขาจะมาหมกตัวอยู่ที่นี่ คือการระงับบัตรเครดิตทุกใบของเขา และหากยังไม่เดินทางกลับไปพบบิดา ท่านจะยึดสิ่งอำนวยความสะดวกของเขาทั้งหมด
อีธานเลยมาทิ้งทวน ด้วยการดื่มอย่างหนัก ก่อนที่อิสรภาพของเขา จะหมดสิ้นลง...
“ไอ้หนุ่มอย่า ‘เสือก’ ได้มั้ยวะ หมูเขาจะหาม อย่าเอาคานเข้ามาสอด”
สุภาษิตสอนใจของคนโบราณ หนุ่มลูกครึ่งขมวดคิ้ว เขาได้ยินแต่ไม่เข้าใจ ฟังรู้เรื่องแต่แปลความหมายไม่ออก เมื่อตั้งแต่เด็ก จนโต อีธานใช้ชีวิตที่อเมริกาเป็นส่วนใหญ่ เพียงแต่มัทนาที่เป็นคนไทย นางไม่ทิ้งขว้างภาษาบ้านเกิด อีธานเลยเป็นหนุ่มลูกครึ่งที่พูดได้ถึงสามภาษา ไทย จีน และอังกฤษ
ชายหนุ่มปรายตามองผู้หญิงหนึ่งเดียวในที่นั้น เขาไหวไหล่ เมื่อหล่อนไม่ได้มีทีท่าร้อนรน หลังหล่อนผงกศีรษะขึ้นมาจากการนอน หล่อนก็ยังคงดื่มเครื่องดื่มในมือแบบสบายอารมณ์ ไม่ได้สนใจความวุ่นวายรอบตัวสักนิด เขาเลยยอมถอย
“ตามสบาย เธอคงยินดี” อีธานไม่ใช่คนดีนัก แต่เขาก็คงทนไม่ไหวหากคนอ่อนแอกว่าถูกรังแก
แต่เหตุการณ์ตรงหน้ามันราบเรียบ ไร้การขู่บังคับ เพียงแต่แม่โฉมงามนั่นสวยซึ้งเกินกว่าจะถูกรุมทึ้งจากเสือหิวกักขฬะ
ชายหนุ่มถอยกลับมานั่งที่เดิม แต่สายตาของเขาไม่ได้ละจากวงหน้างดงามนั่นสักนิด
“ยัยบ้าจะโดนลากไปปู้ยี่ปู้ยำยังไม่รู้ตัว” เสียงบ่นพึมพำ แก้วบรั่นดีถูกยกขึ้นกรอกปาก เพื่อลดทอนความหงุดหงิดในหัวใจ
เมรีเอียงคอมองสองหนุ่มแปลกหน้าที่ยังคงตื๊อไม่เลิก เธอขมวดคิ้ว ถามเสียงแหลมด้วยความไม่พอใจ
“คุณต้องการอะไรหะ ฉันบอกแล้วไงว่าจะดื่มเงียบๆ”
เสียงของเมรีอ้อแอ้จนแทบฟังไม่รู้เรื่อง เนื่องจากแอลกอฮอลล์จำนวนมากที่เธอดื่มเข้าไปนั้น ทำให้การควบคุมตัวลดน้อยลง
“พี่แค่อยากนั่งดื่มเป็นเพื่อนน้อง มาคนเดียวไม่เหงาเหรอไงจ๊ะ” ลีลาพ่อปลาไหลเพื่อให้สาวสวยหลงเคลิ้ม เพียงแต่เมรีไม่ชื่นชอบ เธอกำลังกลัดกลุ้มมากกว่าอยากเสวนากับคนแปลกหน้า
“ไม่เลยยยย ไปไหนก็ไป ฉันอยู่คนเดียวได้” เสียงของเมรีเริ่มดังขึ้น เปลือกตาหรี่ปรือลงทุกขณะเพราะความเมามาย
“อย่าเสียงดังสิจ๊ะ อยากโวยเพราะมีปัญหาทางบ้านเหรอไง? ไปกับพี่สิ... เดียวพี่หาที่เงียบๆ ให้ระบายให้เต็มที่” หนุ่มใหญ่จอมเจ้าเล่ห์เริ่มตะล่อม เขาลดสายตาลง กวาดไล่ตั้งแต่เนินอก จนถึงสะโพกผายงามงอน ลูกกระเดือกที่ลำคอเต้นพล่าน เพราะความกระสันซ่านตีตื้นขึ้นมาจุกอก
คำพูดของฝ่ายตรงข้ามกระทบความรู้สึกเจ็บปวด มือเรียวงามยกขึ้นฟาดปัง!! บนผิวโต๊ะ “หึ!! เมรีมันก็แค่ส่วนเกิน เป็นตัวปัญหาของพ่อ...เชิญเลย ไม่เห็นจะสน!!” ความรู้สึกลึกๆ ผุดพรายขึ้นมา เธอบ่นว่าบิดาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
และมันเข้าทางคนที่จ้อง...
“อ๋อ!! ทะเลาะกับพ่อมา พ่อไม่รักหรือไงล่ะ?” ช่วงวัยของเขาก็มีบุตรสาววัยประมาณนี้เลย แต่ก็ไม่นึกละอายที่คิดจะทำมิดีมิร้ายกับสาวแปลกหน้า
“เมรีไม่สนหร๊อก อยากแต่งงานเหรอ... เชิญ!!” ความประสงค์ของเก่งกาจ เขาต้องการมีเพื่อนปรับทุกข์ในบั้นปลายชีวิต แต่เมรีไม่ต้องการ เธอรู้สึกเหมือนถูกพราก ใครอีกคนแย่งความรักของบิดาไป
แก้วใบสวยในมือของเมรีว่างเปล่า หนุ่มใหญ่จอมเจ้าเล่ห์จึงรินบรั่นดีที่หนีบมาด้วยลงไปแทน คนสติสัมปชัญญะไม่เต็มร้อย แถมยังไม่รู้ว่ามีคนจ้องจะทำลาย เผลอยกกระดกใส่ปาก ครั้งนี้มันไม่ใช่น้ำพั๊นที่ผสมแอลกอฮอล์แบบเจือจาง แต่มันคือบรั่นดีรสแรง มีแอลกอฮอลล์มากกว่า40ดีกรี ผลที่ได้คือ...
สติอันน้อยนิดของเมรีหลุดผึ่ง เธอเมาหนักกว่าเก่า จนแม้แต่การทรงตัวยังไม่ไหว
เสือหิวที่จ้องตะครุบยิ้มร่า เขาโบกมือให้บริกร พร้อมกับชำระค่าใช้จ่ายของเมรี ก่อนจะหิ้วปีกเธอออกไปจากสถานที่แห่งนั้น
ถึงจะเมามายจนสติเหลือเพียงน้อยนิด เมรีก็ยังรับรู้ถึงความน่ากลัว ของชายแปลกหน้า เธอพยายามขัดขืนแล้ว แต่มันไร้ประโยชน์ เรี่ยวแรงที่เธอมีนั้น แม้แต่ยกแขนยังยาก ดวงตาหรี่ปรือ กวาดมองหาทางรอดให้ตัวเอง พยายามส่งเสียงบอกคนอื่นๆ แต่มันไม่ต่างอะไรกับเสียงกระซิบ...
“ปะ ปล่อยฉัน...”
หนุ่มใหญ่จอมเจ้าเล่ห์ยิ้มกริ่ม มันแอบสูดดมกลิ่นเนื้อนาง ลูบคลำสัดส่วนยวนตาของสาวขี้เมาด้วยความลำพอง ไม่สนใจเสียงร้องห้าม แสนแผ่วเครือนั่น
หญิงสาวพยายามขืนตัวไว้ แต่ไร้ประโยชน์ ทุกย่างก้าวที่เดินผ่านใกล้ประตูนรกเข้าไปทุกที
เมรีรวบรวมกำลังเฮือกสุดท้าย เธอสลัดผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นจนหลุด เรือนกายอวบอุ่นเซถลาไม่ต่างอะไรกับนกปีกหัก ล้มฟุบ!! แทบปลายเท้าของใครบางคนที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวนั้น...
อีธานเอียงคอมอง เขากระดิกปลายรองเท้าไปมา มือแข็งแรงแกว่งแก้วบรั่นดีทรงสูง จนน้ำสีอำพันด้านในกลิ้งไปกลิ้งมา
“ชะ ช่วยด้วย!!”
เมรีเค้นเสียงวอนขอออกมาจนได้ เธอฟุบหน้าแนบกับพื้นสกปรก สติสัมปชัญญะหลุดลอยไปแบบสิ้นเชิง
หนุ่มใหญ่นักล่าถลาเข้าไปใกล้ๆ หญิงสาว เขาทำท่าจะไปประคองเธอ
ปลายรองเท้าสีดำเสือกเสยเฉียดหน้าตนเองไปแบบเฉียดฉิว มันผงะ!! ล้มก้นกระแทกพื้น พร้อมแหกปากร้องลั่น
“โอ้ย!! ไอ้หนุ่มอยากมีเรื่องหรือไงวะ กูบอกแล้วใช่มั้ยอย่าเสือก” มันตะโกนพูดเสียงดังจนน้ำลายกระเซ็น ดวงตาเบิกโตจ้องมองหนุ่มแปลกหน้าด้วยความโกรธจัด
ดวงตาคมกริบจ้องมองหนุ่มใหญ่เหมือนกำลังตั้งใจหาเรื่อง!! ในดวงตานั้น หาได้มีความเกรงกลัว มีรอยยิ้มเยาะมุมปาก จนคนมองเห็นเดือดจัดมากขึ้น
“แถวนี้พี่คุมรู้ไว้ด้วยไอ้หน้าอ่อน”
หลังจากลุกขึ้นยืนได้ หนุ่มใหญ่วางก้ามข่ม มันเอ่ยเสียงกร้าวประกาศศักดา แบบตั้งใจข่มขู่
“อ๋อเหรอออ?” อีธานลากเสียงยานคาง เขาเลิกหัวคิ้วขึ้นสูง กวาดตามองคนตรงหน้าด้วยสายตาดูแคลน
“กูบอกแล้วมึงไม่ฟัง แบบนึ้คงต้องสั่งสอนให้รู้สำนึกเสียบ้าง” มันปรี่เข้ามาหา ทำท่าเหมือนจะประทุษร้าย
ขนาดมีคนขู่เหย็งๆ ตรงหน้า ยังไม่มีวี่แววของความเกรงกลัว หนุ่มใหญ่ลังเลนิดๆ แต่เหยื่อเนื้อหวานแสนโอชะนั่น จะให้ทิ้งไปง่ายๆ ก็คงเสียดายแย่ มันจำใจเดินหน้าต่อ พร้อมกับเริ่มรู้สึกหวาดๆ เมื่อไอ้หน้าอ่อนที่เขาปรามาส มันนิ่งเกินจนรู้สึกกลัว
สมัยนี้ รูปร่างหน้าตาวัดความแกร่งไม่ได้ บางคนรูปร่างอ้อนแอ้น แต่เขี้ยวเล็บกับมีอยู่รอบตัว คนตรงหน้านี่ รูปร่างสูงใหญ่ไม่ใช่น้อย แม้หน้าตาจะหล่อเหลา กระเดียดไปทางผู้หญิง เมื่อผู้ชายคนนี้ผิวขาวจั๊วะ แถมยังแต่งตัวนำแฟชั่น เหมือนลูกหลานคนมีสตางค์ที่สำรวยมากกว่าห้าวหาญ
อาวุธร้ายกาจสีเงินวาว!!
ถูกมือเรียวที่เขาแค่นว่า หยิบออกมาจากซอกเสื้อสูทที่มันสวม วางเสียงดังปัง!! ตรงหน้า พร้อมกับรอยยิ้มเยาะที่แต้มมุมปาก
“ฉันไม่ได้ขู่ แล้วไอ้นี่ก็ไม่ได้มีไว้โชว์ ฉันซ้อมยิงปืนมาตั้งแต่อายุ10ขวบ แกคิดว่าระยะแค่นี้ฉันจะพลาดมั้ย?”
อีธานเปรย เขาฉวยแก้วบรั่นดีมากระดกดื่ม ไม่ได้รู้สึกกริ่งเกรงคนแปลกหน้าสักนิด
หนุ่มใหญ่จอมเจ้าเล่ห์กลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ มันขยับถอยหลังแบบอัตโนมัติ ถึงจะเสียดายเหยื่อแสนหวานแทบขาดใจ แต่หากต้องแลกกับลมหายใจตนเอง...คงต้องของบาย...
“โธ๋!! ลูกพี่อยากได้หล่อนก็ไม่บอก...ผมถอยให้ก็ได้”
สรรพนามเรียกขานเปลี่ยนไป มันพูดลิ้นรัว ก่อนจะรีบเผ่นแน่บ หายไปท่ามกลางคนมุง
ชายหนุ่มเก็บอาวุธหนักกลับเข้าที่เดิม เขาทรุดตัวลงไปประคองสาวน้อยที่เกือบจะสิ้นชื่อ พร้อมกับบ่นพึม
“ลูกเต้าเหล่าใครล่ะนี่ เมาขนาดนี้สมควรเสียตัวหรอก”
เมรีที่หมดสติไปแล้ว ตอนที่ถลาลงมาแทบเท้าอีธาน หล่อนหลับไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเป็นอันตราย...
บทที่2.เจ้าชาย...หรือโจร!! ห้องพักที่อีธานอาศัยซุกตัวนอน วันนี้เตียงกว้างของเขาถูกยึดครองจากคนแปลกหน้าที่สู้อุตส่าห์หิ้วมาจากสถานบันเทิงแห่งนั้น เพราะหากหล่อนทิ้งไว้...พรุ่งนี้เช้าคงมีข่าวโศกนาฏกรรมดังคึกโครม เมื่อฝูงหมาป่าเป็นโขยง จ้องรอจะเขมือบหล่อนอยู่“แกกับหล่อนก็ไม่ต่างกันหรอกน่า”อีธานเปรย เขายืนเท้าสะเอวมองเมรีที่นอนหลับบนเตียงด้วยสายตาหนักใจเขาเป็นทายาทคนเดียวของจางไท่กรุ๊ปก็จริง...แต่ช่วงนี้เขาถูกบิดาคาดโทษ จึงหลบมาพักอยู่ในโรงแรมแห่งนี้ รอเวลาให้ความผิดที่สร้างเรื่องฉาวโฉ่ ลดทอนความรุนแรงลง แม้บัตรเครดิตทุกใบของเขาถูกระงับ เขามีแค่เงินสดติดตัวกับที่ซุกหัวนอน และรถยนต์หนึ่งคัน ยานพาหนะที่ใช้ขับขี่ไปไหนมาไหน มันอึดอัดทรมาน จนอีธานเกือบทนไม่ไหว แต่พอเอาเข้าจริงๆ เขาก็อยู่ได้ โดยไม่ลำบากเท่าไร แม้จะรู้สึกหงุดหงิดไปบ้าง...เสื้อสูท ตามด้วยเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ถูกสลัดทิ้ง เขาคงต้องอาบน้ำ ล้างคราบเหม็นๆ ที่เกาะติดตามตัวออกไปก่อน ก่อนที่จะนอนหลับ และตื่นมาสู้กับความวุ่นวายในวันพรุ่งนี้15นาทีต่อมา...อีธานเดินผิวปากออกมาจากห้องน้ำ เขาเกือบสะดุดชายพรมจนหกล้ม เมื่อสายตามองเลยไ
บทที่3.ของขวัญจากพระเจ้า3เดือนต่อมา...เมรีกำแท่งพลาสติกในมือแน่น น้ำตาเธอไหลรินเป็นทาง ความรู้สึกสับสนกำลังทำร้ายเธอ!!หญิงสาววัย23ปีทรุดฮวบลงบนพื้นห้อง ขาของเธออ่อนแรงไม่มีเรี่ยวแรงเหลือพอให้พยุงตัวเอง น้ำตาไหลหยดเปียกปอนหลังมือ แต่...ไร้เสียงสะอื้น เป็นความรันทดรวดร้าวที่ไม่สามารถเปิดปากบอกใครได้ จากนี้ไป...เธอควรทำเช่นไรกับอนาคตตัวเอง...เป็นคำถามที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้คำตอบ...อนาคตที่เคยวาดหวังไว้พังคลื่น!!“เกิดอะไรขึ้น หนูร้องไห้ทำไมลูก!!?”เก่งกาจถลาเข้ามาประคองบุตรสาว ถุงขนมหล่นอยู่ที่หน้าประตู เมื่อท่านถือขนมเหล่านั้นมาให้บุตรสาวที่เก็บเนื้อเก็บตัว นับตั้งแต่วันที่ทะเลาะกันขั้นร้ายแรง“พ่อจ๋า...เมรี” หญิงสาวผวากอดบั้นเอวบิดา เธอเกลือกกลิ้งหน้ากับแผ่นอกของท่าน น้ำตาเปียกเป็นหย่อมๆ กับตัวเสื้อของบิดา“เกิดอะไรขึ้นกับหนู...เมรี?” เก่งกาจใจหายแวบ บุตรสาวสุดเข้มแข็งของท่านมีอาการผิดปกติ เธอไม่เคยฟูมฟายมากมายขนาดนี้ ครั้งสุดท้ายที่เขาเคยเห็นเมรีร่ำไห้ คือตอนที่ภรรยาของเขาเสียชีวิต หลังจากนั้นแทบไม่เคยเห็นน้ำตาของเมรี ครั้งนี้มันต้องมีเรื่องอะไรร้ายแรงมากๆ ไม่อย่างนั้น คนใจแข็งอย่าง
บทที่1.รอยตราที่ไม่อาจลืม... เพี้ยะ!! เส้นผมนุ่มสลวยสะบัดปลิวเพราะแรงตบ มือเรียวบางยกขึ้นกุมซีกแก้ม ดวงตากลมโตเอ่อคลอไปด้วยน้ำใสๆ ที่พร้อมใจกันไหลรินเหมือนสายฝน“พ่อขอโทษ พ่อไม่ได้ตั้งใจ” มือเหี่ยวย่นสั่นระริก หลังตนเองเผลอตัวตบหน้าบุตรสาวเข้าเต็มแรงหญิงสาวแค่นยิ้มกล่าวตอบเสียงแข็ง “พ่อไม่จำเป็นต้องขอโทษเมรีเลยค่ะ มันเป็นความสุขของพ่อ เมรีมันก็แค่ส่วนเกิน” สาววัยละอ่อนตัดพ้อบิดา น้ำตาไหลทะลักเหมือนทำนบพัง“เมรี ฟังพ่อก่อน” เก่งกาจพยายามอธิบายให้บุตรสาวฟัง ความอ้างว้าง ความหงอยเหงาที่เขาอดทนเอาไว้มาแรมปี เพราะอยากให้เมรีประสบความสำเร็จในชีวิตเสียก่อน แต่เมื่อสามารถส่งบุตรสาวถึงฝั่งฝัน เขาก็แค่อยากมีความสุขเหมือนคนอื่นบ้าง มีคู่คิดเป็นเพื่อนคุยคอยปรับทุกข์ ในเวลาที่เมรีต้องออกไปทำงาน“พ่ออย่าพูดเลยค่ะ เมรีเข้าใจพ่อ” หญิงสาวปัดมือของบิดา ยกมือขึ้นปาดคราบน้ำตาลวกๆ ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรง เสียงตะโกนในใจดังลั่นเธอกำลังถูกพ่อทิ้ง!!ชายสูงวัยโครงศีรษะ บุตรสาวตะโกนลั่นๆ ว่าเข้าใจ แต่เก่งกาจรู้ สิ่งที่เมรีแสดงออกตรงข้ามกับความคิดของเธอ“เมรี...” ผู้เป็นพ่อท้วงเสียงอ่อน“ขอ
บทที่3.ของขวัญจากพระเจ้า3เดือนต่อมา...เมรีกำแท่งพลาสติกในมือแน่น น้ำตาเธอไหลรินเป็นทาง ความรู้สึกสับสนกำลังทำร้ายเธอ!!หญิงสาววัย23ปีทรุดฮวบลงบนพื้นห้อง ขาของเธออ่อนแรงไม่มีเรี่ยวแรงเหลือพอให้พยุงตัวเอง น้ำตาไหลหยดเปียกปอนหลังมือ แต่...ไร้เสียงสะอื้น เป็นความรันทดรวดร้าวที่ไม่สามารถเปิดปากบอกใครได้ จากนี้ไป...เธอควรทำเช่นไรกับอนาคตตัวเอง...เป็นคำถามที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้คำตอบ...อนาคตที่เคยวาดหวังไว้พังคลื่น!!“เกิดอะไรขึ้น หนูร้องไห้ทำไมลูก!!?”เก่งกาจถลาเข้ามาประคองบุตรสาว ถุงขนมหล่นอยู่ที่หน้าประตู เมื่อท่านถือขนมเหล่านั้นมาให้บุตรสาวที่เก็บเนื้อเก็บตัว นับตั้งแต่วันที่ทะเลาะกันขั้นร้ายแรง“พ่อจ๋า...เมรี” หญิงสาวผวากอดบั้นเอวบิดา เธอเกลือกกลิ้งหน้ากับแผ่นอกของท่าน น้ำตาเปียกเป็นหย่อมๆ กับตัวเสื้อของบิดา“เกิดอะไรขึ้นกับหนู...เมรี?” เก่งกาจใจหายแวบ บุตรสาวสุดเข้มแข็งของท่านมีอาการผิดปกติ เธอไม่เคยฟูมฟายมากมายขนาดนี้ ครั้งสุดท้ายที่เขาเคยเห็นเมรีร่ำไห้ คือตอนที่ภรรยาของเขาเสียชีวิต หลังจากนั้นแทบไม่เคยเห็นน้ำตาของเมรี ครั้งนี้มันต้องมีเรื่องอะไรร้ายแรงมากๆ ไม่อย่างนั้น คนใจแข็งอย่าง
บทที่2.เจ้าชาย...หรือโจร!! ห้องพักที่อีธานอาศัยซุกตัวนอน วันนี้เตียงกว้างของเขาถูกยึดครองจากคนแปลกหน้าที่สู้อุตส่าห์หิ้วมาจากสถานบันเทิงแห่งนั้น เพราะหากหล่อนทิ้งไว้...พรุ่งนี้เช้าคงมีข่าวโศกนาฏกรรมดังคึกโครม เมื่อฝูงหมาป่าเป็นโขยง จ้องรอจะเขมือบหล่อนอยู่“แกกับหล่อนก็ไม่ต่างกันหรอกน่า”อีธานเปรย เขายืนเท้าสะเอวมองเมรีที่นอนหลับบนเตียงด้วยสายตาหนักใจเขาเป็นทายาทคนเดียวของจางไท่กรุ๊ปก็จริง...แต่ช่วงนี้เขาถูกบิดาคาดโทษ จึงหลบมาพักอยู่ในโรงแรมแห่งนี้ รอเวลาให้ความผิดที่สร้างเรื่องฉาวโฉ่ ลดทอนความรุนแรงลง แม้บัตรเครดิตทุกใบของเขาถูกระงับ เขามีแค่เงินสดติดตัวกับที่ซุกหัวนอน และรถยนต์หนึ่งคัน ยานพาหนะที่ใช้ขับขี่ไปไหนมาไหน มันอึดอัดทรมาน จนอีธานเกือบทนไม่ไหว แต่พอเอาเข้าจริงๆ เขาก็อยู่ได้ โดยไม่ลำบากเท่าไร แม้จะรู้สึกหงุดหงิดไปบ้าง...เสื้อสูท ตามด้วยเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ถูกสลัดทิ้ง เขาคงต้องอาบน้ำ ล้างคราบเหม็นๆ ที่เกาะติดตามตัวออกไปก่อน ก่อนที่จะนอนหลับ และตื่นมาสู้กับความวุ่นวายในวันพรุ่งนี้15นาทีต่อมา...อีธานเดินผิวปากออกมาจากห้องน้ำ เขาเกือบสะดุดชายพรมจนหกล้ม เมื่อสายตามองเลยไ
“ถ้าหล่อนยินยอมดีๆ ฉันก็จะไม่ขวางหรอกนะ แต่ถ้าไม่!!” ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกันคนที่ไม่ชอบยุ่งกับคนอื่นอย่างอีธาน นึกอยาก ‘เสือก’ เป็นครั้งแรกเขากำลังอารมณ์ไม่ดี เนื่องจากเพิ่งโดนบิดาเฉ่งมาหมาดๆ เรื่องความไม่เอาไหนของตัวเอง ทั้งๆ ที่เป็นทายาทคนเดียวแท้ๆ แต่เรื่องงานในบริษัท อีธานแทบจะไม่สนใจ เขาสนุกไปกับการสังสรรค์ ท่องราตรี ควงสาวไม่ซ้ำหน้า เพื่อนฝูงรุมล้อม แต่บิดากลับไม่ปลื้ม คำสั่งด่วนก่อนที่เขาจะมาหมกตัวอยู่ที่นี่ คือการระงับบัตรเครดิตทุกใบของเขา และหากยังไม่เดินทางกลับไปพบบิดา ท่านจะยึดสิ่งอำนวยความสะดวกของเขาทั้งหมดอีธานเลยมาทิ้งทวน ด้วยการดื่มอย่างหนัก ก่อนที่อิสรภาพของเขา จะหมดสิ้นลง...“ไอ้หนุ่มอย่า ‘เสือก’ ได้มั้ยวะ หมูเขาจะหาม อย่าเอาคานเข้ามาสอด”สุภาษิตสอนใจของคนโบราณ หนุ่มลูกครึ่งขมวดคิ้ว เขาได้ยินแต่ไม่เข้าใจ ฟังรู้เรื่องแต่แปลความหมายไม่ออก เมื่อตั้งแต่เด็ก จนโต อีธานใช้ชีวิตที่อเมริกาเป็นส่วนใหญ่ เพียงแต่มัทนาที่เป็นคนไทย นางไม่ทิ้งขว้างภาษาบ้านเกิด อีธานเลยเป็นหนุ่มลูกครึ่งที่พูดได้ถึงสามภาษา ไทย จีน และอังกฤษชายหนุ่มปรายตามองผู้หญิงหนึ่งเดียวในที่นั้น เขาไหวไหล่ เม
บทที่1.รอยตราที่ไม่อาจลืม... เพี้ยะ!! เส้นผมนุ่มสลวยสะบัดปลิวเพราะแรงตบ มือเรียวบางยกขึ้นกุมซีกแก้ม ดวงตากลมโตเอ่อคลอไปด้วยน้ำใสๆ ที่พร้อมใจกันไหลรินเหมือนสายฝน“พ่อขอโทษ พ่อไม่ได้ตั้งใจ” มือเหี่ยวย่นสั่นระริก หลังตนเองเผลอตัวตบหน้าบุตรสาวเข้าเต็มแรงหญิงสาวแค่นยิ้มกล่าวตอบเสียงแข็ง “พ่อไม่จำเป็นต้องขอโทษเมรีเลยค่ะ มันเป็นความสุขของพ่อ เมรีมันก็แค่ส่วนเกิน” สาววัยละอ่อนตัดพ้อบิดา น้ำตาไหลทะลักเหมือนทำนบพัง“เมรี ฟังพ่อก่อน” เก่งกาจพยายามอธิบายให้บุตรสาวฟัง ความอ้างว้าง ความหงอยเหงาที่เขาอดทนเอาไว้มาแรมปี เพราะอยากให้เมรีประสบความสำเร็จในชีวิตเสียก่อน แต่เมื่อสามารถส่งบุตรสาวถึงฝั่งฝัน เขาก็แค่อยากมีความสุขเหมือนคนอื่นบ้าง มีคู่คิดเป็นเพื่อนคุยคอยปรับทุกข์ ในเวลาที่เมรีต้องออกไปทำงาน“พ่ออย่าพูดเลยค่ะ เมรีเข้าใจพ่อ” หญิงสาวปัดมือของบิดา ยกมือขึ้นปาดคราบน้ำตาลวกๆ ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรง เสียงตะโกนในใจดังลั่นเธอกำลังถูกพ่อทิ้ง!!ชายสูงวัยโครงศีรษะ บุตรสาวตะโกนลั่นๆ ว่าเข้าใจ แต่เก่งกาจรู้ สิ่งที่เมรีแสดงออกตรงข้ามกับความคิดของเธอ“เมรี...” ผู้เป็นพ่อท้วงเสียงอ่อน“ขอ