บทที่1.รอยตราที่ไม่อาจลืม...
เพี้ยะ!!
เส้นผมนุ่มสลวยสะบัดปลิวเพราะแรงตบ มือเรียวบางยกขึ้นกุมซีกแก้ม ดวงตากลมโตเอ่อคลอไปด้วยน้ำใสๆ ที่พร้อมใจกันไหลรินเหมือนสายฝน
“พ่อขอโทษ พ่อไม่ได้ตั้งใจ” มือเหี่ยวย่นสั่นระริก หลังตนเองเผลอตัวตบหน้าบุตรสาวเข้าเต็มแรง
หญิงสาวแค่นยิ้มกล่าวตอบเสียงแข็ง “พ่อไม่จำเป็นต้องขอโทษเมรีเลยค่ะ มันเป็นความสุขของพ่อ เมรีมันก็แค่ส่วนเกิน” สาววัยละอ่อนตัดพ้อบิดา น้ำตาไหลทะลักเหมือนทำนบพัง
“เมรี ฟังพ่อก่อน” เก่งกาจพยายามอธิบายให้บุตรสาวฟัง ความอ้างว้าง ความหงอยเหงาที่เขาอดทนเอาไว้มาแรมปี เพราะอยากให้เมรีประสบความสำเร็จในชีวิตเสียก่อน แต่เมื่อสามารถส่งบุตรสาวถึงฝั่งฝัน เขาก็แค่อยากมีความสุขเหมือนคนอื่นบ้าง มีคู่คิดเป็นเพื่อนคุยคอยปรับทุกข์ ในเวลาที่เมรีต้องออกไปทำงาน
“พ่ออย่าพูดเลยค่ะ เมรีเข้าใจพ่อ” หญิงสาวปัดมือของบิดา ยกมือขึ้นปาดคราบน้ำตาลวกๆ ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรง เสียงตะโกนในใจดังลั่นเธอกำลังถูกพ่อทิ้ง!!
ชายสูงวัยโครงศีรษะ บุตรสาวตะโกนลั่นๆ ว่าเข้าใจ แต่เก่งกาจรู้ สิ่งที่เมรีแสดงออกตรงข้ามกับความคิดของเธอ
“เมรี...” ผู้เป็นพ่อท้วงเสียงอ่อน
“ขอบคุณค่ะที่พ่อเลี้ยงดูเมรีจนโต ต่อไปนี้เมรีจะดูแลตัวเอง เชิญพ่อไปเสวยสุขกับคนของพ่อเถอะค่ะ”
เธอดันตัวลุกขึ้นยืน แรงผลักทำเอาเก้าอี้ล้มโครม!! ก่อนจะวิ่งเตลิดออกไปโดยที่เก่งกาจห้ามไว้ไม่ทัน
“ไอ้ลูกบ้านี่ โตป่านนี้แล้วยังรั้นเหมือนเดิม”
เก่งกาจบ่นเบาๆ เขาชะเง้อคอมองตามบุตรสาวแต่ไม่ได้วิ่งตาม เมื่อสังขารตนเองไม่อำนวยเท่าเมื่อก่อน
เมรีวิ่งเตลิดออกมาจากบ้านเหมือนนกปีกหัก เธอเหมือนถูกเหวี่ยงออกมาจากชีวิตบิดา หากท่านมีใครคนนั้น ที่ของเธอล่ะ...จะอยู่ตรงไหน?
น้ำตาไหลอาบหน้า สะอื้นไห้จนแสบร้าวไปทั้งลำคอ ดวงตาแดงก่ำ กระบอกตาร้อนผ่าว เกล็ดน้ำตาไหลรินไม่ขาดสาย
“เมรีเป็นแค่ส่วนเกิน เป็นคนที่ไม่มีใครต้องการ” ความน้อยเนื้อต่ำใจ ผลักดันให้เมรีทำอะไรแบบที่ไม่เคยทำ เธอเดินเข้าสถานเริงรมย์เป็นครั้งแรก... สั่งบรั่นดีราคาแพงมาดื่มเป็นครั้งแรกอีกเช่นกัน ท่ามกลางสายตาวาววับของผู้ชายหลายคนที่จับตามอง
เสียงคร่ำครวญของเมรีค่อยๆ ทวีความดังขึ้น เมื่อแอลกอฮอลล์เข้าไปแทนที่ในกระแสเลือด
หน้าหวานหยดอิงแนบผิวโต๊ะ มือไม้โบกสะเปะสะปะ พร้อมกับเสียงบ่นพึมพำ
“ผู้หญิงคนน้านจะมาชอบคนแก่ๆ อย่างพ่อได้ยังงายยย คงหวังจะปอกลอกพ่อนั่นแหละ เมรีไม่ย๊อมมมมม ไม่ยอมให้พ่อมีครายเด็ดขาดดดด...”
เสียงบ่นขรม...เปลือกตาพลิ้มหลับ มีเสียงอ้อแอ้ดังลอดออกมาเรื่อยๆ ทุกคำคือเสียงต่อว่าบิดา
“เอามาอีกฉ้านนน มีตังจ่ายยยย”
บริกรยืนค้อมตัวอยู่ใกล้ๆ ฟังเสียงลูกค้าสาวที่เรียกร้องขอเครื่องดื่มเพิ่ม ด้วยความหนักใจ ประเมินสภาพของลูกค้าสาวแล้วหล่อนไม่น่าจะไหว
“คือว่า...คุณเมาแล้วครับ กลับบ้านเถอะครับ” เพราะความหวังดี บริกรหนุ่มผู้นั้นจึงพยายามเตือน เขาสังเกตเห็นสายตาประสงค์ร้ายหลายคู่ที่จับตามองมาที่เธอ
“ช้านไม่มาวววว เอามาอีก....”
เมรีทรงตัวขึ้นนั่ง เธอเถียงกลับน้ำเสียงอ้อแอ้ ศีรษะตก คอเอียง ลำคอเรียวโอนไปโอนมา เมื่อไม่คุ้นชินกับการดื่มสุราดีกรีแรงๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์ ดังนั้น หากเมรีจะเมาคงไม่แปลก
“ไอ้น้อง...คุณผู้หญิงเขาอยากได้อะไรล่ะ จัดมาสิ...ฉันจ่ายให้เอง”
ชายวัยกลางคนลักษณะไม่น่าไว้ใจนัก เดินแทรกเข้ามาคั่นกลาง สายตามันปลาบมองหญิงสาวตรงหน้าแบบประเมิน รอยยิ้มมุมปากน่ากลัวจนบริกรหนุ่มเกิดความสงสารคนเมาไม่ได้สติตรงหน้า เขาพยายามจะช่วย แต่คงเปล่าประโยชน์ เมื่อตนเองเป็นแค่พนักงาน หากมีเรื่องมีราวกับลูกค้า คงไม่แคล้วโดนเจ้าของร้านเฉ่งยับ
“ครายยยย” เมรีพยายามปัดมือที่เข้ามายุ่มย่ามกับตัว แม้สติจากรางเลือน แต่เธอก็รู้สึกถึงรังสีอันตราย
อนิจจา เรี่ยวแรงอันน้อยนิด หรือจะสู้แรงกำลังมหาศาลของคนแปลกหน้าได้
แต่ก่อนที่อันตรายจะถาโถมเข้าใส่ มีใครบางคนยื่นหน้าเข้าไปช่วย ไม่รู้ว่าหวังดี หรือต้องการมีเอี่ยวในเหยื่อแสนโอชะคนนี้ด้วย
“พี่ชาย...ผู้หญิงเขาไม่สนคนแก่หรอก สาวๆ แบบนี้ น่าจะเหมาะกับหนุ่มรุ่นแบบผมมากกว่า”
“อย่าเสือก!! จะไปไหนก็ไปเลยว่ะ คนนี้กูเจอก่อน!!” ชายแก่กว่าตะคอกกลับ จ้องคนมาใหม่ตาขวาง
“พี่ครับ ผมว่า...” บริกรหนุ่มพยายามช่วย
“อย่ายุ่งไอ้น้อง ไปเอาเหล้ามา แม่หนูนี่เขาต้องการ ไป๊ไป!!”
ชายวัยกลางคนคนนั้น หันไปไล่พนักงานซ้ำ เขาตวัดตาขุ่นขวางมองจิก เพราะไม่อยากให้ใครหน้าไหนแทรกเข้ามามีเอี่ยวด้วย
เพราะเท่าที่ดู ‘ไก่หลง’ ตรงหน้านี่ เขาได้กลิ่นสะอาดระเหยออกมาจากตัวหญิงสาวที่นอนฟุบหน้าบนโต๊ะนั่น กลิ่นของหล่อนสดสะอาดเหมือนกลีบดอกไม้ ไม่ใช่พวกย้อมแมวขาย ที่แสร้งทำกิริยาเหนียมอาย แต่มันคือการแสดงละครตบตา ตรงหน้าเขานี่ ของแท้!!
“พี่ชาย ผมขอต่อคิว”
เมื่อเห็นท่าทางแข็งขัน คนหนุ่มกว่าแต่มาทีหลังจึงยอมอ่อนให้
“ไม่ได้โว้ย...คนนี้กูต้องชิมก่อน”
มันหวงก้างแบบออกหน้า เมื่อเหยื่อสาวเนื้อหวานชวนชิมนี่ น่าจะสร้างความสุขให้ตนเองไม่น้อย
“อย่างกน่าลุง!! แบ่งๆ กันกินสิ นานๆ จะมีไก่หลงมาสักที”
เมรียังเมามายไม่ได้สติ เธอไม่รู้ว่าภัยร้ายกำลังคืบคลานเข้ามากล้ำกรายในชีวิต ภัยที่อาจจะทำให้ชีวิตของเธอแหลกยับ
“กูเจอก่อน ถ้าอยากต่อคิว...มึงคงต้องรออีกนานว่ะ”
ชายหนุ่มรุ่นใหญ่ยิ้มเจ้าเล่ห์ พลางคิดในใจ หากเป็นอย่างที่คิดจริง เขาพร้อมที่จะเลี้ยงดูหล่อน แม้จะมีครอบครัวอยู่เบื้องหลังแล้วก็ตาม แต่สมัยนี้ ผู้ชายส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้กันหมดนั่นแหละ มีบ้านเล็ก บ้านน้อยแอบๆ ไว้ตามซอกตามมุม เพื่อสนองอารมณ์ความต้องการของตนเอง
อีธานเบ้ปาก เขามองคนกลุ่มใหญ่อยู่นานพอดู พวกเขาเหล่านั้นส่งเสียงดังน่ารำคาญจนเขารู้สึกฉุนนิดๆ หนุ่มร่างใหญ่ผุดลุกขึ้นยืน เขาเดินไปร่วมวงสนทนาด้วย ไม่ใช่เพราะอยากมีเอี่ยว เขาแค่ต้องการให้เสียงเหล่านั้น เงียบลงสักที!!
“เมื่อไรจะเลิกพูดเสียงดังสักทีหะ”
สติของอีธานมีไม่เต็มร้อยเท่าไรหรอก เขาเองก็กำลังอารมณ์เสีย และต้องการอยู่เงียบๆ เพื่อคิดทบทวนอะไรสักหน่อย
สถานที่ที่เคยสงบเป็นนิจ วันนี้กลับไม่เป็นเหมือนเดิมเสียแล้ว ชายหนุ่มเซ็งสุดขีด!! เพราะเพิ่งโดนบิดาจอมเข้มงวดตะโกนด่า เพียงแค่เรื่องความเสเพลของเขา กับข่าวฉาวรายวันของทายาทตระกูลดังของ จางไท่กรุ๊ป
“อยากมีเอี่ยวด้วยเหรอลูกพี่ แต่คงยาก ตาลุงนี่หวงก้างฉิบหาย!!”
หนุ่มนักเที่ยวที่จ้องเมรีตาเป็นมันเอ่ยเสียงเซ็งสุดขีด
“มาอีกคนแล้ว ไอ้พวกพูดไม่รู้เรื่อง” หนุ่มใหญ่บ่นพึมพำ เขายกมือเท้าเอว โครงศีรษะไปมา เมื่อมีผู้ชายอีกคนเสนอหน้าเข้ามา เหมือนต้องการมีส่วนร่วม
หนุ่มลูกครึ่งไทย-จีนหรี่เปลือกตาลง เขามองเป้าหมายที่ทำให้เกิดกรณีพิพาท ด้วยสายตาประเมิน
วงหน้าที่เห็นแค่เสี้ยวเดียว เมื่อส่วนที่เหลือเอนซบผิวโต๊ะ จากสายตาเสเพลตัวพ่อ!! เขาคิดว่า ส่วนที่ไม่ได้เห็นก็คงงดงามไม่ใช่น้อย ผมสีดำนิลดั่งขนของนกกาน้ำเป็นมันระยับล้อเล่นกับแสงไฟ ปลายจมูกเล็กๆ นั่นเชิดขึ้นนิดๆ เหมือนเจ้าตัวเป็นคนแสนงอน ปากอิ่มรูปกระจับเคลือบลิปสติกสีอ่อน แต่ก็ชวนให้ชิดเชยไม่น้อย ไม่แปลกหรอกที่เสือหิวจะจ้องตะครุบ!! อีธานไล่สายตาลงไปเรื่อยๆ เอวคอดกิ่วของหล่อนทำให้น้ำลายในปากของเขาเหนียวหนึบ เรียวขาเรียวที่พ้นชายกระโปรงนั่นอีก เรียวสวยจนลมหายใจของเขาสะดุด
“ไปไหนก็ไปเลย คนนี้กูเจอก่อน” หนุ่มใหญ่กันท่าสุดฤทธิ์ เขาวางก้าม อวดเบ่งให้ตนเองน่าเกรงขาม จนใครๆ ก็ขยาดไม่กล้าเข้าใกล้
“ถ้าหล่อนยินยอมดีๆ ฉันก็จะไม่ขวางหรอกนะ แต่ถ้าไม่!!” ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกันคนที่ไม่ชอบยุ่งกับคนอื่นอย่างอีธาน นึกอยาก ‘เสือก’ เป็นครั้งแรกเขากำลังอารมณ์ไม่ดี เนื่องจากเพิ่งโดนบิดาเฉ่งมาหมาดๆ เรื่องความไม่เอาไหนของตัวเอง ทั้งๆ ที่เป็นทายาทคนเดียวแท้ๆ แต่เรื่องงานในบริษัท อีธานแทบจะไม่สนใจ เขาสนุกไปกับการสังสรรค์ ท่องราตรี ควงสาวไม่ซ้ำหน้า เพื่อนฝูงรุมล้อม แต่บิดากลับไม่ปลื้ม คำสั่งด่วนก่อนที่เขาจะมาหมกตัวอยู่ที่นี่ คือการระงับบัตรเครดิตทุกใบของเขา และหากยังไม่เดินทางกลับไปพบบิดา ท่านจะยึดสิ่งอำนวยความสะดวกของเขาทั้งหมดอีธานเลยมาทิ้งทวน ด้วยการดื่มอย่างหนัก ก่อนที่อิสรภาพของเขา จะหมดสิ้นลง...“ไอ้หนุ่มอย่า ‘เสือก’ ได้มั้ยวะ หมูเขาจะหาม อย่าเอาคานเข้ามาสอด”สุภาษิตสอนใจของคนโบราณ หนุ่มลูกครึ่งขมวดคิ้ว เขาได้ยินแต่ไม่เข้าใจ ฟังรู้เรื่องแต่แปลความหมายไม่ออก เมื่อตั้งแต่เด็ก จนโต อีธานใช้ชีวิตที่อเมริกาเป็นส่วนใหญ่ เพียงแต่มัทนาที่เป็นคนไทย นางไม่ทิ้งขว้างภาษาบ้านเกิด อีธานเลยเป็นหนุ่มลูกครึ่งที่พูดได้ถึงสามภาษา ไทย จีน และอังกฤษชายหนุ่มปรายตามองผู้หญิงหนึ่งเดียวในที่นั้น เขาไหวไหล่ เม
บทที่2.เจ้าชาย...หรือโจร!! ห้องพักที่อีธานอาศัยซุกตัวนอน วันนี้เตียงกว้างของเขาถูกยึดครองจากคนแปลกหน้าที่สู้อุตส่าห์หิ้วมาจากสถานบันเทิงแห่งนั้น เพราะหากหล่อนทิ้งไว้...พรุ่งนี้เช้าคงมีข่าวโศกนาฏกรรมดังคึกโครม เมื่อฝูงหมาป่าเป็นโขยง จ้องรอจะเขมือบหล่อนอยู่“แกกับหล่อนก็ไม่ต่างกันหรอกน่า”อีธานเปรย เขายืนเท้าสะเอวมองเมรีที่นอนหลับบนเตียงด้วยสายตาหนักใจเขาเป็นทายาทคนเดียวของจางไท่กรุ๊ปก็จริง...แต่ช่วงนี้เขาถูกบิดาคาดโทษ จึงหลบมาพักอยู่ในโรงแรมแห่งนี้ รอเวลาให้ความผิดที่สร้างเรื่องฉาวโฉ่ ลดทอนความรุนแรงลง แม้บัตรเครดิตทุกใบของเขาถูกระงับ เขามีแค่เงินสดติดตัวกับที่ซุกหัวนอน และรถยนต์หนึ่งคัน ยานพาหนะที่ใช้ขับขี่ไปไหนมาไหน มันอึดอัดทรมาน จนอีธานเกือบทนไม่ไหว แต่พอเอาเข้าจริงๆ เขาก็อยู่ได้ โดยไม่ลำบากเท่าไร แม้จะรู้สึกหงุดหงิดไปบ้าง...เสื้อสูท ตามด้วยเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ถูกสลัดทิ้ง เขาคงต้องอาบน้ำ ล้างคราบเหม็นๆ ที่เกาะติดตามตัวออกไปก่อน ก่อนที่จะนอนหลับ และตื่นมาสู้กับความวุ่นวายในวันพรุ่งนี้15นาทีต่อมา...อีธานเดินผิวปากออกมาจากห้องน้ำ เขาเกือบสะดุดชายพรมจนหกล้ม เมื่อสายตามองเลยไ
บทที่3.ของขวัญจากพระเจ้า3เดือนต่อมา...เมรีกำแท่งพลาสติกในมือแน่น น้ำตาเธอไหลรินเป็นทาง ความรู้สึกสับสนกำลังทำร้ายเธอ!!หญิงสาววัย23ปีทรุดฮวบลงบนพื้นห้อง ขาของเธออ่อนแรงไม่มีเรี่ยวแรงเหลือพอให้พยุงตัวเอง น้ำตาไหลหยดเปียกปอนหลังมือ แต่...ไร้เสียงสะอื้น เป็นความรันทดรวดร้าวที่ไม่สามารถเปิดปากบอกใครได้ จากนี้ไป...เธอควรทำเช่นไรกับอนาคตตัวเอง...เป็นคำถามที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้คำตอบ...อนาคตที่เคยวาดหวังไว้พังคลื่น!!“เกิดอะไรขึ้น หนูร้องไห้ทำไมลูก!!?”เก่งกาจถลาเข้ามาประคองบุตรสาว ถุงขนมหล่นอยู่ที่หน้าประตู เมื่อท่านถือขนมเหล่านั้นมาให้บุตรสาวที่เก็บเนื้อเก็บตัว นับตั้งแต่วันที่ทะเลาะกันขั้นร้ายแรง“พ่อจ๋า...เมรี” หญิงสาวผวากอดบั้นเอวบิดา เธอเกลือกกลิ้งหน้ากับแผ่นอกของท่าน น้ำตาเปียกเป็นหย่อมๆ กับตัวเสื้อของบิดา“เกิดอะไรขึ้นกับหนู...เมรี?” เก่งกาจใจหายแวบ บุตรสาวสุดเข้มแข็งของท่านมีอาการผิดปกติ เธอไม่เคยฟูมฟายมากมายขนาดนี้ ครั้งสุดท้ายที่เขาเคยเห็นเมรีร่ำไห้ คือตอนที่ภรรยาของเขาเสียชีวิต หลังจากนั้นแทบไม่เคยเห็นน้ำตาของเมรี ครั้งนี้มันต้องมีเรื่องอะไรร้ายแรงมากๆ ไม่อย่างนั้น คนใจแข็งอย่าง
บทที่3.ของขวัญจากพระเจ้า3เดือนต่อมา...เมรีกำแท่งพลาสติกในมือแน่น น้ำตาเธอไหลรินเป็นทาง ความรู้สึกสับสนกำลังทำร้ายเธอ!!หญิงสาววัย23ปีทรุดฮวบลงบนพื้นห้อง ขาของเธออ่อนแรงไม่มีเรี่ยวแรงเหลือพอให้พยุงตัวเอง น้ำตาไหลหยดเปียกปอนหลังมือ แต่...ไร้เสียงสะอื้น เป็นความรันทดรวดร้าวที่ไม่สามารถเปิดปากบอกใครได้ จากนี้ไป...เธอควรทำเช่นไรกับอนาคตตัวเอง...เป็นคำถามที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้คำตอบ...อนาคตที่เคยวาดหวังไว้พังคลื่น!!“เกิดอะไรขึ้น หนูร้องไห้ทำไมลูก!!?”เก่งกาจถลาเข้ามาประคองบุตรสาว ถุงขนมหล่นอยู่ที่หน้าประตู เมื่อท่านถือขนมเหล่านั้นมาให้บุตรสาวที่เก็บเนื้อเก็บตัว นับตั้งแต่วันที่ทะเลาะกันขั้นร้ายแรง“พ่อจ๋า...เมรี” หญิงสาวผวากอดบั้นเอวบิดา เธอเกลือกกลิ้งหน้ากับแผ่นอกของท่าน น้ำตาเปียกเป็นหย่อมๆ กับตัวเสื้อของบิดา“เกิดอะไรขึ้นกับหนู...เมรี?” เก่งกาจใจหายแวบ บุตรสาวสุดเข้มแข็งของท่านมีอาการผิดปกติ เธอไม่เคยฟูมฟายมากมายขนาดนี้ ครั้งสุดท้ายที่เขาเคยเห็นเมรีร่ำไห้ คือตอนที่ภรรยาของเขาเสียชีวิต หลังจากนั้นแทบไม่เคยเห็นน้ำตาของเมรี ครั้งนี้มันต้องมีเรื่องอะไรร้ายแรงมากๆ ไม่อย่างนั้น คนใจแข็งอย่าง
บทที่2.เจ้าชาย...หรือโจร!! ห้องพักที่อีธานอาศัยซุกตัวนอน วันนี้เตียงกว้างของเขาถูกยึดครองจากคนแปลกหน้าที่สู้อุตส่าห์หิ้วมาจากสถานบันเทิงแห่งนั้น เพราะหากหล่อนทิ้งไว้...พรุ่งนี้เช้าคงมีข่าวโศกนาฏกรรมดังคึกโครม เมื่อฝูงหมาป่าเป็นโขยง จ้องรอจะเขมือบหล่อนอยู่“แกกับหล่อนก็ไม่ต่างกันหรอกน่า”อีธานเปรย เขายืนเท้าสะเอวมองเมรีที่นอนหลับบนเตียงด้วยสายตาหนักใจเขาเป็นทายาทคนเดียวของจางไท่กรุ๊ปก็จริง...แต่ช่วงนี้เขาถูกบิดาคาดโทษ จึงหลบมาพักอยู่ในโรงแรมแห่งนี้ รอเวลาให้ความผิดที่สร้างเรื่องฉาวโฉ่ ลดทอนความรุนแรงลง แม้บัตรเครดิตทุกใบของเขาถูกระงับ เขามีแค่เงินสดติดตัวกับที่ซุกหัวนอน และรถยนต์หนึ่งคัน ยานพาหนะที่ใช้ขับขี่ไปไหนมาไหน มันอึดอัดทรมาน จนอีธานเกือบทนไม่ไหว แต่พอเอาเข้าจริงๆ เขาก็อยู่ได้ โดยไม่ลำบากเท่าไร แม้จะรู้สึกหงุดหงิดไปบ้าง...เสื้อสูท ตามด้วยเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ถูกสลัดทิ้ง เขาคงต้องอาบน้ำ ล้างคราบเหม็นๆ ที่เกาะติดตามตัวออกไปก่อน ก่อนที่จะนอนหลับ และตื่นมาสู้กับความวุ่นวายในวันพรุ่งนี้15นาทีต่อมา...อีธานเดินผิวปากออกมาจากห้องน้ำ เขาเกือบสะดุดชายพรมจนหกล้ม เมื่อสายตามองเลยไ
“ถ้าหล่อนยินยอมดีๆ ฉันก็จะไม่ขวางหรอกนะ แต่ถ้าไม่!!” ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกันคนที่ไม่ชอบยุ่งกับคนอื่นอย่างอีธาน นึกอยาก ‘เสือก’ เป็นครั้งแรกเขากำลังอารมณ์ไม่ดี เนื่องจากเพิ่งโดนบิดาเฉ่งมาหมาดๆ เรื่องความไม่เอาไหนของตัวเอง ทั้งๆ ที่เป็นทายาทคนเดียวแท้ๆ แต่เรื่องงานในบริษัท อีธานแทบจะไม่สนใจ เขาสนุกไปกับการสังสรรค์ ท่องราตรี ควงสาวไม่ซ้ำหน้า เพื่อนฝูงรุมล้อม แต่บิดากลับไม่ปลื้ม คำสั่งด่วนก่อนที่เขาจะมาหมกตัวอยู่ที่นี่ คือการระงับบัตรเครดิตทุกใบของเขา และหากยังไม่เดินทางกลับไปพบบิดา ท่านจะยึดสิ่งอำนวยความสะดวกของเขาทั้งหมดอีธานเลยมาทิ้งทวน ด้วยการดื่มอย่างหนัก ก่อนที่อิสรภาพของเขา จะหมดสิ้นลง...“ไอ้หนุ่มอย่า ‘เสือก’ ได้มั้ยวะ หมูเขาจะหาม อย่าเอาคานเข้ามาสอด”สุภาษิตสอนใจของคนโบราณ หนุ่มลูกครึ่งขมวดคิ้ว เขาได้ยินแต่ไม่เข้าใจ ฟังรู้เรื่องแต่แปลความหมายไม่ออก เมื่อตั้งแต่เด็ก จนโต อีธานใช้ชีวิตที่อเมริกาเป็นส่วนใหญ่ เพียงแต่มัทนาที่เป็นคนไทย นางไม่ทิ้งขว้างภาษาบ้านเกิด อีธานเลยเป็นหนุ่มลูกครึ่งที่พูดได้ถึงสามภาษา ไทย จีน และอังกฤษชายหนุ่มปรายตามองผู้หญิงหนึ่งเดียวในที่นั้น เขาไหวไหล่ เม
บทที่1.รอยตราที่ไม่อาจลืม... เพี้ยะ!! เส้นผมนุ่มสลวยสะบัดปลิวเพราะแรงตบ มือเรียวบางยกขึ้นกุมซีกแก้ม ดวงตากลมโตเอ่อคลอไปด้วยน้ำใสๆ ที่พร้อมใจกันไหลรินเหมือนสายฝน“พ่อขอโทษ พ่อไม่ได้ตั้งใจ” มือเหี่ยวย่นสั่นระริก หลังตนเองเผลอตัวตบหน้าบุตรสาวเข้าเต็มแรงหญิงสาวแค่นยิ้มกล่าวตอบเสียงแข็ง “พ่อไม่จำเป็นต้องขอโทษเมรีเลยค่ะ มันเป็นความสุขของพ่อ เมรีมันก็แค่ส่วนเกิน” สาววัยละอ่อนตัดพ้อบิดา น้ำตาไหลทะลักเหมือนทำนบพัง“เมรี ฟังพ่อก่อน” เก่งกาจพยายามอธิบายให้บุตรสาวฟัง ความอ้างว้าง ความหงอยเหงาที่เขาอดทนเอาไว้มาแรมปี เพราะอยากให้เมรีประสบความสำเร็จในชีวิตเสียก่อน แต่เมื่อสามารถส่งบุตรสาวถึงฝั่งฝัน เขาก็แค่อยากมีความสุขเหมือนคนอื่นบ้าง มีคู่คิดเป็นเพื่อนคุยคอยปรับทุกข์ ในเวลาที่เมรีต้องออกไปทำงาน“พ่ออย่าพูดเลยค่ะ เมรีเข้าใจพ่อ” หญิงสาวปัดมือของบิดา ยกมือขึ้นปาดคราบน้ำตาลวกๆ ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรง เสียงตะโกนในใจดังลั่นเธอกำลังถูกพ่อทิ้ง!!ชายสูงวัยโครงศีรษะ บุตรสาวตะโกนลั่นๆ ว่าเข้าใจ แต่เก่งกาจรู้ สิ่งที่เมรีแสดงออกตรงข้ามกับความคิดของเธอ“เมรี...” ผู้เป็นพ่อท้วงเสียงอ่อน“ขอ