ตอนที่[35]ไปหมู่บ้านหมูดำเจ้าเสี่ยวหลงนั้นบ้าพลังนัก ยิ่งพอพลังกลับมา เขาก็นำมาระบายกับพวกนางสองพี่น้องทันที จากจะฝึกหนึ่งเดือนกลายเป็นว่าต้องฝึกถึงหกเดือน เป็นหกเดือนอันเข้มข้น แต่นี่ก็มิใช่เรื่องไม่ดีอันใด นางในยามนี้แข็งแกร่งขึ้นมาก รู้สึกคล้ายว่ามีพลังหมุนวนในร่างกาย สามารถกระโดดได้สูงมาก ส่วนพี่ใหญ่นั้นจะตามหลังนางอยู่สักหน่อยแต่ก็ถือว่าดี และพี่ใหญ่ของนางนั้นนอกจากจะเรียนต่อสู้ยังได้เรียนเขียนอ่านตำรารวมถึงศึกษาเกี่ยวกับจิตใจผู้คน ทำให้ยามนี้เขามีความเปลี่ยนแปลงไม่น้อยในยามที่พวกเราออกมาจากในมิติเพื่อที่จะเร่งไปหมู่บ้านเฮยจูโหยวก็ได้พบกับเหตุไม่คาดฝัน เมื่อเห็นบุรุษผู้หนึ่งกำลังลากบุรุษอีกผู้หนึ่งที่เต็มไปด้วยเลือดไปด้วยความทุลักทุเลเพื่อตรงไปยังป่าอีกด้านในยามที่พวกเราออกมาจากในมิติเพื่อที่จะเร่งไปหมู่บ้านเฮยจูโหยวก็ได้พบกับเหตุไม่คาดฝัน เมื่อเห็นบุรุษผู้หนึ่งกำลังลากบุรุษอีกผู้หนึ่งที่เต็มไปด้วยเลือดไปด้วยความทุลักทุเลเพื่อตรงไปยังป่าอีกด้าน คราแรกนางจะไม่ยุ่ง แต่ทว่าเสียงก็เสี่ยวหลงก็ดังขึ้น “นายหญิงรีบไปช่วยเขา!” นางจึงต้องรีบลงจากรถพร้อมพี่ใหญ่และเก็บรถเข้ามิติ
ตอนที่[36]รองเท้าแก้ว? มือเย็นจับที่ข้อมือของนางแน่นในขณะที่เปลือกตาของเขายังปิดสนิท เนื้อตัวของเขามีเลือดหลั่งไหลออกมาไม่หยุด เวลานี้ไม่ควรรอช้า แม้จะขบคิดในใจว่าเขาใช่คนดีหรือไม่ แต่ในเมื่อเสี่ยวหลงบอกให้ช่วย เขาย่อมเป็นคนดีไม่น้อยกระมัง และดูแล้วเขาคงมิใช่คนฐานะธรรมดา ทั้งรูปลักษณ์ไหนจะการแต่งกายแม้ยามนี้จะสวมอาภรณ์สีทึบแต่ก็ดูออกว่าเป็นผ้าที่คุณภาพดีมาก เมื่อพี่ใหญ่เอื้อมมือมาแตะที่ไหล่ของนางในขณะที่บุรุษรูปงามตรงหน้าก็จับที่ข้อมือของนางเช่นกัน จากนั้นนางจึงพาพวกเขาเข้าไปในมิติทันทีเบื้องหน้าคือเครื่องรักษาตนที่เตรียมพร้อมแล้ว ไม่รอช้าจึงรีบพยุงเขาเข้าไปในประจำที่นั่ง จนถึงยามนี้เขาก็ไม่ปล่อยมือที่จับที่ข้อมือของนาง“เขาอาจจะ...ต้องการกำลังใจกระมัง เจ้าให้เขาทำไปเถิดหยวนเออร์” ฉินกุ้ยหยางเอ่ยขึ้นเพราะก่อนหน้าพยายามจะแกะมือนั้นออกจากข้อมือของน้องสาวแล้วแต่ทว่าแกะอย่างไรก็ไม่เป็นผลและคนผู้นี้กำลังมีอาการเนื้อตัวสั่นเทา จึงเผลอคิดว่าในช่วงเวลาเช่นนี้เขาอาจจะต้องการกำลังใจ หรือที่พึ่งทางใจเพราะกำลังเจ็บปวดกระมัง “เช่นนั้นก็รักษาไปทั้งอย่างนี้แหละเจ้าค่ะ” ฉินกุ้ยหยวนกล่าวจบ
ตอนที่[36]รองเท้าแก้ว?“ท่านไม่ต้องเกรงใจ นี่เป็นสิ่งที่ควรจะทำ เสร็จธุระแล้ว อย่างไรพวกข้าต้องขอตัวก่อน ขอให้พวกท่านอยู่รอดปลอดภัย” ว่านเสิ่นได้ยินเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยถามออกไป ทั้งสองดูจะรีบมากจริง ๆ “ข้าขอถามนามของพวกท่านได้หรือไม่ ในอนาคตหากข้าได้มีโอกาสตอบแทนบุญคุณในครั้งนี้….” “ท่านไม่ต้องคิดอันใดมาก อย่าถือว่าเป็นบุญคุณเลย ข้าบอกแล้วว่านี่เป็นสิ่งที่ควรจะทำ แต่ว่ายามนี้ข้าและพี่ใหญ่จะต้องเร่งออกเดินทางแล้ว หากมีโอกาสอีกครั้งพวกเราอาจจะได้พบกัน” ว่าแล้วก็ค้อมศีรษะให้เขาเล็กน้อยก่อนรีบดึงพี่ใหญ่ให้เดินจากไป ฉินกุ้ยหยางก็รีบหันมาค้อมศีรษะเช่นกัน จากนั้นคนทั้งสองหายลับไปจากสายตาอย่างรวดเร็วทั้งคู่มีวรยุทธ์!!ว่านเสิ่นตกใจไม่น้อยด้วยท่าทางของทั้งคู่ไม่คล้ายกับผู้ฝึกยุทธ์ แม้จะตกใจแต่ก็ไม่ลืมหันมาสำรวจผู้เป็นนายอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเบิกตากว้างขึ้นอีกครั้งผะ..แผล หายไปหมดแล้ว อีกทั้งนั่น....“นายท่าน....”ต้องเร่งกลับเมืองหลวงแล้ว หลังจากที่เสียเวลาไปครู่ใหญ่ก็ได้เวลาออกเดินทางต่อ แต่ครั้งนี้จะต้องระวังมากขึ้น เพราะคุณชายที่นางเพิ่งรักษาเขาไปและคนของเขาเพิ่งหนีตายมาจากทิศทางที่น
ตอนที่[36]รองเท้าแก้ว?ด้านผู้อื่นเมื่อได้ยินคำว่าผักดองตระกูลฉินก็มีเสียงพูดคุยกันดังขึ้น พวกเขาจะไม่รู้จักได้อย่างไร ไม่กี่วันนี้จู่ ๆ ชื่อนี้ก็โด่งดังขึ้นมา อีกทั้งจางข่ายที่ไปส่งสินค้ายังได้ซื้อกลับมาอีก เมื่อได้ลิ้มลองแล้วก็ต้องตาเป็นประกายมันอร่อยและแปลกใหม่มากจริง ๆ ยังพากันบ่นจางข่ายว่าเหตุใดจึงซื้อมาน้อยนัก แต่เขาบอกว่าเพียงเท่านี้ก็แย่งมาจากผู้อื่นอีกที ไม่น่าเชื่อว่าจุดเริ่มต้นจะมาจากแม่นางน้อยรูปโฉมงดงามผู้นี้“จะจริงหรือไม่ อย่างไรก็ต้องมาพิสูจน์กันอยู่แล้ว เหตุใดต้องรีบร้อนด้วยเล่า จ้วงเถา จางข่ายเจ้าไปเตรียมที่พักให้คุณหนูคุณชายทั้งสองเถิด คงเดินทางกันมาเหนื่อย ๆ อย่างไรพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน” เดินทางมาถึงหมู่บ้านในช่วงเวลาต้นยามซื่อเช่นนี้ มิใช่ออกเดินทางตั้งแต่ยามอิ๋นเลยหรือ เห็นจางข่ายบอกว่าทั้งคู่มาจากหมู่บ้านหวงหลิง โหวสุ่นคิด “ท่าน....”“อ้อ ข้ามีนามว่าโหวสุ่น เป็นผู้นำหมู่บ้านเฮยจูโหยวแห่งนี้” โหวสุ่นแนะนำตัวออกไปเมื่อเห็นแม่นางน้อยคล้ายจะเอ่ยเรียกเขาไม่ถูก “อ่า ท่านโหวสุ่น ข้าคิดว่าควรจะเริ่มมื้อแรกให้เจ้าหมูดำตั้งแต่มื้อเย็นวันนี้เลยดีกว่าจะได้ไม่เป็นการเสียเว
ตอนที่[37]ยอมรับแม้ว่าเหล่าหมูดำจะเพิ่งได้กินมันหวานเป็นมื้อแรกเมื่อวานนี้แต่เหล่ากลุ่มคนที่เป็นผู้ดูแลให้อาหารหมูก็สังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างได้ เพราะเหล่าหมูดำดูคึกคักมากกว่าเดิมอีกทั้งมูลของมันนั้น กลิ่นเจือจางจนแทบไม่เหม็นฉุนอีกแล้ว แน่นอนว่าเรื่องนี้ถูกรายงานให้กับท่านผู้นำอย่างโหวสุ่นอย่างรวดเร็ว เมื่อได้รับรายงานเขาจึงรีบมาดูทันทีและพยักหน้าอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นผลการเปลี่ยนแปลงนั้น ส่วนจ้วงเถาก็ไม่พลาดที่จะติดตามมาดูเช่นกัน พร้อมทั้งรู้สึกทึ่งไม่น้อยเพียงแค่คืนเดียวก็ได้ผลถึงเพียงนี้เลยหรือในยามให้อาหารนางไม่ได้ไปวุ่นวายกับพวกเขามากนัก เพียงแวะไปดูในยามปกติเป็นครั้งคราว เวลาที่เหลืออยู่จึงได้ไปเดินชมตลาดกับพี่ใหญ่ พบว่าในหมู่บ้านแห่งนี้ก็มีของที่แปลกตามากมาย รวมถึงมีสินค้าที่ระลึกตั้งขายตามรายทาง หมู่บ้านแห่งนี้แม้จะอยู่สุดชายแดนตะวันตกของอำเภอจางเย่ แต่ด้วยความที่มีชื่อเสียงจึงทำให้คนแวะเวียนมาเยี่ยมชมไม่น้อย นางจึงแวะซื้อของที่ระลึกไปฝากคนที่บ้านหลายชิ้น ทั้งยังแวะชิมอาหารที่ร้านอาหารริมทางของที่นี่ด้วย ในยุคนี้การปรุงอาหารไม่พิถีพิถันนัก ดีที่เนื้อหมูดำนั้นมี
ตอนที่[37]ยอมรับเมื่อทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน การทำสัญญาจึงเริ่มต้นทันทีท่ามกลางสักขีพยานมากมาย กล่าวคือพวกเขาจะทำสัญญาคู่ค้ากับนางและจะต่อสัญญากันทุก ๆ ห้าปี ห้าปีนี้เป็นการเสนอของนางเอง ซึ่งที่จริงแล้วพวกเขาไม่ได้กำหนดอันใด แต่นางคิดว่าการได้ทบทวนสัญญากันบ่อย ๆ น่าจะเป็นเรื่องดีเพราะไม่รู้ว่าในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร โดยการซื้อขายนั้นจะเป็นการยื่นหมูยื่นแมว เขาให้หมู นางให้มัน ซึ่งเป็นข้อเสนอที่สมน้ำสมเนื้อสุด ๆ นอกจากนี้พวกเขายังจะติดต่อซื้อผักดองกับนางด้วย แต่ทว่านางอยากให้พวกเขาติดต่อผ่านร้านผักดองตระกูลฉิน โดย โรงเตี๊ยมไท่เฉิงเสียมากกว่า เพราะอย่างไรพวกเขาก็จะไปส่งหมูที่นั่นบ่อย ๆ อยู่แล้ว ทั้งยังไม่เป็นการข้ามหน้าข้ามตาท่านลุงหลิวด้วย “แม่หนูฉิน แต่ปัญหามันก็มีอยู่นะ” ครานี้ท่านผู้นำโหวหรือยามนี้นางเรียกว่าท่านลุงโหว เอ่ยขึ้นพร้อมแสดงสีหน้าคล้ายลำบากใจบางอย่าง “ท่านลุงว่ามาเถิดเจ้าค่ะ” “เจ้าก็รู้ว่าอีกไม่นานเหมันต์จะมาเยือน การสัญจรและการค้าในช่วงนี้มักจะหยุดชะงักหากไปส่งสินค้าให้เจ้ารอบนี้แล้ว ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นจะทำได้หรือไม่ คงต้องส่งรอบนี้ให้มากหน่อย” เหมันต์มาเยื
ตอนที่[37]ยอมรับ “นี่เรียกว่าหยางเหมยเจ้าค่ะ รสชาติหวานอมเปรี้ยว กินสด ๆ ก็ได้ หรือจะเอาไปแปรรูปก็ได้” “เช่นนั้นหรือ” ดวงตาของผู้ฟังเป็นประกาย หากน้องสาวว่าเช่นนี้มันต้องอร่อยแน่ “นายหญิงแล้วต้นมันอยู่ที่ใด เราไปเก็บกัน” เสี่ยวหลงก็ดีใจไม่แพ้กัน “ข้าควรถามเจ้าไม่ใช่หรือเสี่ยวหลง” “แหะ ๆ เสี่ยวหลงลืมไป” เขาตื่นเต้นจนลืมว่าใช้พลังตรวจจับครู่เดียวก็หาเจอแล้ว จากนั้นจึงรีบหลับตาเพื่อหาต้นหยางเหมยที่ว่า “อยู่ตรงนั้นนายหญิง เข้าไปจากทางแยกนี้ไม่ไกล” “เช่นนั้นเราก็ไปกันเลย” “นายหญิง อย่างไรเราก็รีบเก็บแล้วรีบไปเถิด เสี่ยวหลงรับรู้ถึงพลังงานไม่ดีบางอย่างที่อยู่ไม่ไกลออกไป” เมื่อฉินกุ้ยหยวนได้ยินเช่นนั้นก็นิ่งไปครู่หนึ่งเพราะว่านึกถึงคุณชายผู้หล่อเหลาผู้นั้น หรือเขาหนีตายมาจากแถว ๆ นี้กันนะ “เอาอย่างไรดีหยวนเออร์จะไปเก็บหรือไม่” ฉินกุ้ยหยางก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน “ไปเก็บไม่นานได้ใช่หรือไม่เสี่ยวหลง” “ได้ขอรับ” “เช่นนั้นรีบเก็บแล้วก็รีบกลับกันเถิด” “จากนั้นทั้งสามจึงกลับไปยังพาหนะแล้วรีบมุ่งตรงเข้าไปในทางแยกนั้น และไม่นานก็พบกับต้นหยางเหมยสามต้นที่เต็มไปด้วยผลสีแดงน่
ตอนที่[38]มีความคืบหน้า หลังจากที่ตั้งใจกับการเดินทางไม่นานยานพาหนะอันล้ำสมัยก็เคลื่อนที่เข้าอยู่ปากทางเข้าหมู่บ้านพร้อมด้วยเกวียนลากที่เพิ่งนำออกมาจากในมิติก่อนที่จะเข้าสู่เขตหมู่บ้าน ในยามนี้พื้นที่ตั้งแต่ตัวบ้านลากยาวมาจนถึงติดถนนในพื้นที่ของบ้านตระกูลฉินนั้นเต็มไปด้วยคนงานมากมาย ราวกับมีงานเทศกาลประจำปี เมื่อสองพี่ถึงหน้าบ้านตระกูลฉินนายช่างฉือก็รีบวิ่งมาหาทันที เมื่อมาถึงก็หอบแฮกไม่น้อย ไม่รู้ว่าเขามีเรื่องด่วนอะไร “คะ...คุณหนูฉิน มาแล้วหรือ” “มาแล้วเจ้าค่ะ นายช่างฉือมีอันใดหรือเจ้าคะ” “คะ...คือข้าอยากจะบอกว่า งานมีความคืบหน้าไปค่อนข้างเร็ว คนงานที่มารับงานรอบนี้ล้วนแต่ขยันขันแข็ง” กล่าวแล้วก็พยายามหายใจให้สม่ำเสมอ นางจึงมองไปที่เหล่าคนงาน คงเพราะพวกเขาต้องการเงินไว้ซื้อเสบียงในยามหน้าหนาวนี้ จึงได้ตั้งใจยิ่งขึ้น “หากขยันก็เป็นเรื่องที่ดีเจ้าค่ะ ฝากท่านลุงไปบอกพวกเขาด้วยนะเจ้าคะ หากตั้งใจทำงานและทำออกมาดี ข้าจะให้ผักดองตระกูลฉินให้กับพวกเขาเอาไว้เป็นการกักตุนเสบียงคนละสองจินด้วย” “จะ…จริงหรือ” ฉือโจวตาลุกวาว มีผู้ใดไม่รู้บ้างว่ายามนี้ผักดองตระกูลฉินนั้นโด่งดังและราคา
ตอนพิเศษ[2]เสี่ยวหลงขอร้องเทพชะตา “หมั้นหมาย ๆ เสด็จพ่อกล่าวคำอื่นไม่เป็นแล้วหรือ!” เสี่ยวหลงได้แต่ฟึดฟัดไปมาในใจหงุดหงิดอยู่เพียงผู้เดียว เขายังเป็นเด็กน้อยของนายหญิงจะรีบให้หมั้นหมายไปอันใด ได้ข่าวว่าสตรีผู้นั้นอายุมากกว่าเขาเป็นหมื่นปี นี่ไม่เท่ากับว่าเขากำลังถูกล่อลวงหรือ ไม่ได้! จะให้ร่างกายบริสุทธิ์ของเขาถูกฉกชิงไปไม่ได้! ยามนี้เขานอนอยู่ในสวนท้อบนแดนสวรรค์ เห็นว่าปีนี้มันมีรสชาติที่อร่อยขึ้น จึงอยากมาลองชิมดูว่าจะอร่อยกว่าในมิติหรือไม่ ปรากฏว่าสู้ในมิติไม่ได้สักนิด จึงเตรียมที่จะกลับไปในมิติ ซึ่งก่อนจะไปหางตาของเขาก็เห็นหลังไว ๆ ของใครบางคน นั่นมันตาเฒ่านี่ ใช่แล้ว! เรื่องที่เขากลุ้มใจตาเฒ่าอาจจะช่วยได้ “นี่ ท่านเทพชะตา” “เว้ยยยยย” เทพชะตาตกใจทันทีเมื่อจู่ ๆ ก็มีคนโผล่มาด้านหน้าของตนเอง “องค์ชายห้า ข้าตกใจหมด” “ข้าต้องขอโทษท่านด้วย ข้าไม่ได้ตั้งใจ”เมื่อเทพชราได้ยินอีกฝ่ายกล่าวขอโทษก็เกิดความระแวดระวังโดยทันที เหตุใดองค์ชายห้าดูเป็นมิตรขึ้น “ไม่ต้องระวังข้าถึงเพียงนั้น วันนี้ข้าเพียงอารมณ์ดีเท่านั้น” “อะ…อ้อ แล้วองค์ชายมีอันใดให้ข้ารับใช้หรือ” “รับใช้อันใด
ตอนพิเศษ[1]หานฉิน (เซี่ย?) ร่วมใจหมู่บ้านหวงหลิงนั้นยามนี้เปลี่ยนไปมากจากหมู่บ้านห่างไกลกลายเป็นศูนย์กลางการค้าที่ยิ่งใหญ่ พื้นที่ของหมู่บ้านขยายของไปอย่างมากแต่หากเป็นการขยายไปทางอำเภอจางเย่ หมู่บ้านเฮยจูโหยว มิใช่ทางหมู่บ้านเถียนเกา คิดแล้วก็ขำขันยิ่ง บริเวณแถบนี้ล้วนแต่ร่ำรวยและเจริญขึ้น มีเพียงหมู่บ้านเถียนเกาที่ดิ่งลง เปลี่ยนผู้นำหมู่บ้านมาหลายคน สุดท้ายก็ไม่รอด จนนางได้ข่าวว่าพวกเขาเริ่มขายบ้านแล้วย้ายไปอยู่ที่อื่น แน่นอนผู้ที่รอจังหวะนั้นอยู่คือท่านน้าเจิงซื่อและเสี่ยวจวน ทั้งคู่เริ่มกว้านซื้อที่ดินได้มากมาย อดีตเคยถูกขับไล่ ปัจจุบันกว้านซื้อมาให้หมด!หากได้มาแล้วค่อยขยายพื้นที่มาทางนี้ก็ยังไม่สาย เมื่อถึงยามนั้นจะเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านด้วยผ่านไปสองวันเหล่าขบวนผู้สูงศักดิ์ก็เคลื่อนมาถึงอาณาจักรตระกูลฉินกันครบทุกคน “หลินเออร์” เมื่อมาถึงก็พากันวิ่งเข้าหาหลานสาวตัวกลมทันที จากนั้นจึงพากันงัดของขวัญออกมามากมาย มีทั้งอาภรณ์และเครื่องประดับที่งดงามออกมามากมาย เท่านั้นยังไม่พอยังพากันสวมใส่ให้หานหยวนหลินทันที ยามนี้เด็กน้อยราวกับตุ๊กตาล้มลุกก็ไม่ปาน แต่ดูท่าเจ้าตัวจะไม่ปลื้มเท่าใดน
ตอนพิเศษ[1]หานฉิน (เซี่ย?) ร่วมใจหานหยวนเหมินในวัยแปดหนาวกำลังนั่งกอดอกมองน้องสาววัยห้าหนาวอย่างหานหยวนหลินด้วยความไม่สบอารมณ์ “หลินเออร์ พี่บอกให้เจ้าไปขัดขวางท่านพ่อ เหตุใดพอแค่ได้ขนมที่ท่านพ่อไปเอาจากท่านแม่มามอบให้ก็ล้มเลิกแผนการเดิมของเราแล้วเล่า”“พี่ใหญ่ หลินเออร์ว่าท่านปล่อยท่านพ่อท่านแม่ไปเถิด ของอร่อยจะเยียวยาทุกสิ่งนะเจ้าคะ” “ปล่อยอันใดกัน นี่เจ้าลืมแล้วหรือว่าเราไม่เห็นหน้าท่านแม่มากี่วันแล้ว เพราะท่านพ่อมัวแต่กักขังท่านแม่เอาไว้คนเดียวในมิติ เจ้าไม่คิดถึงท่านแม่หรือ” “คิดถึง…...” ใบหน้ากลมของหานหยวนหลินเศร้าลงเมื่อนึกได้ว่าตนคิดถึงท่านแม่ไม่น้อย ท่านแม่มักถูกท่านพ่อนำตัวไปใช้เวลากันสองคนในมิติ ยามออกมาท่านพ่อก็จะใบหน้าสดใส ในขณะที่ท่านแม่ราวกับคนป่วยอ่อนแรง หรือว่าท่านแม่จะโดนบังคับนะ หานหยวนเหมินเมื่อรู้ตัวว่าสามารถกล่อมน้องสาวได้สำเร็จแล้ว จึงได้กล่าวต่อ“หลินเออร์ พวกเราต้องทวงท่านแม่คืนมานะ”ด้านในมิติ“ท่านพี่ พอได้แล้ว ข้าช้ำหมดแล้ว”“หยวนหยวนเจ้าไม่คิดถึงพี่หรือ พี่ทำงานติดกันเป็นเดือนกว่าจะเวลาว่างได้ หรือเจ้าไม่รักพี่แล้ว….” “ท่านไม่ต้องมากล่าวเช่นนี้ หากข
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ “ท่านตา ท่านยาย พี่ใหญ่ หยวนหยวนตอนนี้นางตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้วขอรับ พวกเรากำลังจะมีสมาชิกใหม่แล้วขอรับ” !!!ทุกคนที่ได้ยินต่างก็ตกตะลึง แต่ไม่นานก็แปรเปลี่ยนเป็นความยินดี “ข้ากำลังจะมีเหลนแล้วหรือ หยวนเออร์ดีนัก” นางเฉาซื่อเอ่ยขึ้นก่อนใคร ก่อนจะตามด้วยผู้เฒ่าฉิน ผู้เฒ่าเจียวก็รีบเข้ามาแสดงความยินดีกับสหาย “ข้าดีใจกับเจ้าด้วยนะตาเฒ่า เจ้าจะได้มีเหลนแล้ว ปีใหม่ปีนี้ช่างดีนัก มีข่าวดีให้ชื่นใจด้วย” จากนั้นผู้คนจึงสลับกันมาอวยพรสองสามีภรรยาอย่างคับคั่ง ฉินกุ้ยหยวนเลิกร้องไห้แล้ว นางขำขันตนเองไม่น้อย ร้องไห้ราวกับเด็ก ๆ เจ้าก้อนแป้งที่อยู่ในท้องคงแสบไม่น้อยสินะ ถึงทำให้มารดาเปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ “พี่สะใภ้ข้าอยากเห็นหน้าหลานแล้ว ต้องน่ารักมากแน่ ข้าจะเลี้ยงลูกของพวกท่านจนเติบใหญ่เลย” หานจื่ออี้พูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น “แล้วเจ้าไม่เลี้ยงบุตรของเจ้าหรืออย่างไร” “จะยากอันใดก็เอามาเลี้ยงด้วยกันอย่างไรเล่า” หานจื่ออี้กล่าวอย่างไหลลื่น แต่เมื่อคิดว่าตนเพิ่งกล่าวอันใดไปก็มีใบหน้าขึ้นสีพลางมองไปที่คู่หมายแวบหนึ่งนางกล่าวว่าจะมีลูกกับเขาหรือฉินกุ้ยหย
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ “พี่ไม่ อุ๊บ” หานจื่อหลันยังกล่าวไม่จบ เขาก็มีอาการพะอืดพะอมเอามือปิดปากแล้วรีบวิ่งเข้าบ้านไปทันที ฉินกุ้ยหยวนเห็นเช่นนั้นจึงตื่นตระหนกยิ่ง รีบหันมาบอกทุกคน ที่ยามนี้ล้วนแต่หยุดปฏิกิริยาของตนแล้วส่งสายตากังวลไปที่หานจื่อหลัน “เดี๋ยวจะจะจัดการเอง พวกท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ” ฉินกุ้ยหยวนหันมากล่าวกับทุกคนก่อนที่รีบวิ่งเข้าบ้านไป นางเดินไปด้วยความเร่งร้อน เมื่อไปถึงก็พบว่าหานจื่อหลันอาเจียนออกมาและนั่งล้มพักอยู่ข้างอ่างน้ำในห้องครัวอย่างหมดสภาพ “พี่จื่อหลัน พี่เป็นอันใดกัน ท่านป่วยหรือเจ้าคะ เป็นข้าที่ดูแลท่านไม่ดี” “หยวนหยวน พี่รู้สึก…พะอืดพะอม อยากจะอาเจียนตลอดเวลา พี่…อุ๊บ” เขาลุกขึ้นไปเกาะที่อ่างน้ำนั่นอีกครั้งก่อนจะอาเจียนออกมา “รีบไปที่เครื่องรักษาตนเถิดเจ้าค่ะ” นางไม่อยากรั้งรออันใด รีบคว้าแขนเขาแล้วพาเข้ามิติทันที เมื่อถึงเครื่องรักษาก็รีบประคองเข้าไปนั่งแล้วเริ่มทำการรักษาอย่างด่วนที่สุด หานจื่อหลันที่ได้เข้าเครื่องรักษาไม่นานอาการพะอืดพะอมก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง แต่ฉินกุ้ยหยวนนั้นสงสัยนัก ที่หน้าจอแสดงผลของเครื่องรักษาตนที่อัปเกรดใหม่นั้น บ
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ กลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบันนางมองอาณาจักรตระกูลฉินของนางยามนี้ที่คึกคักไม่น้อย ทั้งร้านหมูกระทะและเรือนรับรอง ผู้คนต่างหลั่งไหลกันมาที่นี่อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง และที่นี่เหมือนว่าเป็นที่ที่หลายคนตั้งเป้าว่าจะมาฉลองปีใหม่ด้วยกัน ‘สถานที่ที่แสนอบอุ่น’ ทำให้หลายคนกล้าฉีกกรอบวัฒนธรรมเดิม ๆ ที่ปีใหม่ต้องฉลองกันที่บ้านของตนเอง ท่านลุงโหว ท่านลุงหลิว แม้กระทั่งนายช่างฉือยังพาครอบครัวมาฉลองปีใหม่ที่นี่ ก่อนวันขึ้นปีใหม่หนึ่งวันในที่สุดมิติของนางก็มีสัญญาณบางอย่างเกิดขึ้น นางจึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้านท่ามกลางการห้ามปรามของสามีที่กลับว่านางจะล้มเอาได้ “ท่านพี่เดี๋ยวข้ามาเจ้าค่ะ” เมื่อเข้าไปในห้องของตนเองนางก็รีบเข้าไปในมิติ “เสี่ยวหลง” “นายหญิง” “เสี่ยวหลงเจ้า….” “นายหญิงเสี่ยวหลงกลับมาแล้ว” หนึ่งคนหนึ่งหมีต่างก็สบตากันกก่อนจะโผกอดกันด้วยความคิดถึง “ข้ารอเจ้าอยู่กลัวว่าเจ้าจะไม่กลับมา” “เสี่ยวหลงจะไม่มาได้อย่างไร ในเมื่อนายหญิงอยู่ที่นี่ ท่านตาผู้เฒ่า ท่านยายผู้เฒ่า ฮูหยินท่านแม่ ไหนจะคนอื่น ๆ อีก เสี่ยวหลงต้องกลับมาอยู่แล้ว” ที่จริงแล้วหน้าที่บนโลกมนุษย์ของ
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่เสี่ยวหลงกลับไปแดนสวรรค์นานแล้ว เขาส่งข่าวคราวมาแค่ช่วงแรกแล้วหลังจากนั้นบอกว่าต้องเข้าถ้ำเพื่อไปบำเพ็ญตบะคงไม่ได้ติดต่อกลับมาอีกจนกว่าการบำเพ็ญตบะจะเสร็จสิ้น เวลาผันไปกว่าแปดเดือนแล้ว อีกไม่กี่วันก็เข้าถึงการเฉลิมฉลองปีใหม่ ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาทันได้ฉลองร่วมกันหรือไม่ “คิดถึงเสี่ยวหลงอยู่หรือ” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นพร้อมอ้อมกอดที่อบอุ่นที่กอดกระชับมาจากด้านหลัง เมื่อเห็นว่าเป็นสามีสุดที่รักของนางรอยยิ้มก็เปิดกว้างขึ้น“เจ้าค่ะ เขาหายไปนานแล้ว คิดถึงเขาไม่รู้ว่าจะกลับมาทันปีใหม่หรือไม่” ยามนี้นางอยู่ที่อาณาจักรตระกูลฉิน อย่างไรนางก็อยากกลับมาเฉลิมฉลองปีใหม่อยู่ที่นี่ พี่ใหญ่ก็กลับมาด้วยเนื่องจากข้าราชการก็มีวันหยุดเพื่อจะได้กลับบ้านมาฉลองปีใหม่เช่นกัน แต่ทว่าเขาเกือบจะไม่ได้กลับมาพร้อมนางแล้ว เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อน เขาพาครอบครัวมาที่จวนตระกูลหานพร้อมกล่าวบางอย่างที่ชวนหยุดหายใจ “องค์หญิง ท่านเสนา ท่านชาย ข้าฉินกุ้ยหยางอยากจะมาสู่ขอท่านหญิงหานจื่ออี้มาเป็นฮูหยินของข้าขอรับ” “……”อย่าว่าแต่ครอบครัวหานตกใจเลย ครอบครัวของนางก็เช่นกัน เพราะพี่ใหญ่ไม่มีสัญญาณว่า
ตอนที่[60]ความจริงของเสี่ยวหลงในช่วงก่อนที่เขาจะจัดการกับคนที่สวีหุ่ยส่งมา นั่นคือเป็นช่วงที่พลังของเขากลับมาเรื่อย ๆ จนสามารถกลายเป็นร่างมังกรดำได้ และในที่สุดสามปีผ่านไปในตอนที่นายหญิงมั่งคั่งและมีความสุขมากที่สุดเขาก็ได้ร่างเดิมกลับ ไม่สิ ร่างใหม่เพราะยามนี้เขาได้ผ่านเคราะห์และเลื่อนระดับพลังเป็นที่เรียบร้อยฉินกุ้ยหยวนเป็นห่วงเสี่ยวหลงมากเพราะยามนี้เขาหายไปเหลือแต่เจ้ามังกรยักษ์ที่น่าเกรงขามแทน แต่ทว่าเมื่อมองสบตาของเจ้ามังกรตัวนั้นมันช่างคุ้นเคยเหลือ จนกระทั่งที่เขาได้ยินเสียงของมัน “นายหญิง” “เสี่ยวหลง!!”เหตุใดเสี่ยวหลงของนางจึงกลายเป็นมังกรทองไปได้ หรือว่าเป็นดังเช่นคราวก่อนที่เขาแกล้งแปลงร่างเป็นมังกรดำเพื่อไปจัดการกับคนของสวีหุ่ยหานจื่อหลันนั่นพบว่าแม้ว่าจะผ่านไปสามปีแต่ก็มีเรื่องมาให้เขาแปลกใจอยู่ตลอด ในมิติแห่งนี้เขาได้เข้ามาบ่อยครั้ง จนรู้สึกสนิทใจกับเจ้าหมีขาวตัวยักษ์นี่แล้ว แต่วันนี้กลับพบเขาในรูปลักษณ์ที่แปลกตาออกไป ยิ่งยามนี้ที่เขากล่าวเพื่อยืนยันบางอย่างกับพวกเขา“นายหญิง นายท่านสามี เสี่ยวหลงเดิมที่มิใช่หมีขาวแต่เป็นมังกรทองขอรับ” “…..”จากนั้นเจ้ามังกรทอง ก
ตอนที่[60]ความจริงของเสี่ยวหลง ร่างของมังกรทองตัวเขื่องนอนหายใจรวยรินหลังจากผ่านการระเบิดเลื่อนขั้นพลังขั้นใหญ่มาย้อนไปก่อนที่หยกจะมาเป็นฉินกุ้ยหยวน ดินแดนสวรรค์ เกิดเรื่องใหญ่เกิดขึ้นกับเทพชราผู้หนึ่ง ‘เทพชะตา’ เขาเดินงุ่นง่าน สีหน้าไม่สู้ดีนัก คิดอย่างปลงไม่ตกว่าจะทำอย่างไรดี เขาทำพลาดครั้งยิ่งใหญ่ “ท่านเทพชะตาหาอันใดอยู่หรือ” จ้าวหนิงหลงหรือเสี่ยวหลง มังกรทองตัวน้อยบุตรชายคนเล็กของราชามังกรเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นว่าเทพชราของดินแดนสวรรค์เอาแต่เดินก้มหน้าก้มตาวนรอบบริเวณเดิมคล้ายกับหาของบางอย่าง ในขณะนั้นเองที่ดวงตาของเทพชะตาก็เปล่งประกาย เขารอดแล้ว! ที่จริงแล้วเทพชะตานั้นทำผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงคือการไปดึงดวงวิญญาณที่อนาคตต่อไปจะรุ่งเรืองและเติบโตอย่างมากในภายภาคหน้า แต่เขากลับไปทำให้นางต้องจบชีวิตลงจากการทำงานผิดพลาด หากเป็นคนทั่วไปก็ว่าไปเถิด แต่นี่เป็นคนที่แต้มบุญกำลังจะทำงาน แต่เขาดันไปขัดขวางทำให้นางหมดโอกาสที่จะใช้ชีวิตในชาตินั้น จะแก้ไขอันใดก็ไม่ได้ เพราะเขาไม่มีพลังมากพอ สิ่งที่พอจะทำได้คือการดึงวิญญาณของนางส่งไปใช้ชีวิตที่โลกอื่นแต่อย่างที่บอกหลังจากใช้พลังในการ