ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้กล่าวอนุญาตให้ปล่อยวิญญาณร้ายตนนั้นก็ปรากฏโซ่ตรวนที่มาจากอากาศเข้ามาล่ามวิญญาณร้ายตนนั้นให้กลิ้งล้มลงไปเสียงกรีดร้องโหยหวนของวิญญาณร้ายตนนั้นเข้าสู่โสตประสาทของหญิงสาวอย่างรุนแรงหญิงสาวได้แต่มองวิญญาณร้ายที่ดีดดิhนอย่างหนทางสู้ด้วยความสงสารในใจในตอนนี้เธอมองเห็นแต่เพียงว่าวิญญาณร้ายตนนั้นหายลับไปเสียแล้วราวกับใครบางคนที่ส่งของมาสู่เธอนั้นได้กำจัดวิญญาณร้ายที่กำลังจะทรยศเขาด้วยน้ำมือของอาคมที่ถูกกำกับเอาไว้ดวงวิญญาณร้ายลอยตัวสูงขึ้นท่ามกลางโซ่ที่รอยรัดให้ร่างของมันแหลกสลายไม่นานนักก็เป็นดังที่นรีกุลคาดคิดไว้จริงๆเวลานี้ดวงจิตร้ายได้อันตรธานหายไปเสียแล้วหญิงสาวอดรู้สึกเสียดายไม่ได้ว่าด้วยวิญญาณร้ายตัวนี้จะได้ไปเกิดเสียทีแต่ใครกันที่ส่งวิญญาณร้ายไม่รู้อีโนอีเหน่ตัวนี้มาหาเธอ“อโหสิกรรมให้เขาเสียเถอะ” กุมารเทพที่อยู่ข้างกายของหญิงสาวเอ่ยขึ้นหญิงสาวผ่อนลมหายใจอย่างออกมาอย่างรุนแรง ราวกับจะปลดปล่อยความทุกข์ในใจที่หนักอึ้งอยู่ในตอนนี้เวลานี้ก็ดึกมากแล้วยังสาวคนเข้านอนได้เสียทีแต่ไม่ว่าจะนอนอย่างไรหญิงสาวก็ไม่อาจข่มตาลงหลับได้เมื่อเจอเหตุการณ์ เช่นนี้เป็นแน
มือสวยของเธอพลิกหน้าหนังสือโบราณขึ้นมาดู อารามไม่ทันระวังทำให้หนังสือที่หนักอึ้งเล่นนั้นหลุดออกจากมือของหล่อนไปยังด้านล่างของพื้นห้องนอนหญิงสาวหยิบ หนังสือที่กลับหัวขึ้นมามองอีกครั้งภาพที่ปรากฏตรงหน้าของหญิงสาวทำให้หัวใจของเธอเต้นเร็วอย่างรุนแรงหญิงสาวพบว่าเมื่ออ่านกลับหัวตัวอักษรนี้เป็นตัวอักษรรัสเซียโบราณที่มีอยู่มานานนับร้อยปีก่อนการค้นพบประวัติศาสตร์เสียอีกหญิงสาวค่อยๆสะกดทีละตัวตามที่ได้เรียนมาในโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งย่านใจกลางเมืองหลวงของประเทศไทยนิ้วมือข้างขวาของของเธอเริ่มจากยกนิ้วไล่ไปทีละบรรทัดทันทีที่หญิงสาวอ่านจบเธอก็อดรู้สึกขนลุกขนของสยองก้าวขึ้นมาไม่ได้ว่าในบันทึกเล่มนี้เป็นบันทึกของหญิงสาวคนหนึ่งชื่อว่าจารีย์ หนังสือเล่มนี้กล่าวว่า จารีเคยเป็นแฟนเก่าของกรวีซึ่งเป็นพี่ชายของสามีเธอ“งั้นแปลว่าผู้หญิงคนนี้เป็นพี่สะใภ้ของเราเหรอ” หญิงสาวกล่าวด้วยความไม่เข้าใจมากนักในบันทึกของพี่สะใภ้นั้นแม้จะเป็นภาษาที่อ่านออกยากแต่เธอก็เข้าใจดีว่าทำไมคฤหาสน์แห่งนี้ถึงเชื่อว่ามอนอฟอยด์เมื่อนำตัวอักษรทั้งหมดมาเรียงกันใหม่สามารถ แปลได้ว่าคฤหาสน์แห่งนี้เป็นคฤหาสน์ที่ชื่อว่าคฤหา
“อ้าย” เสียงหวีดร้องดังขึ้นท่ามกลางความสะใจของสตรีผู้หนึ่งที่มองมายังหญิงสาวเคราะห์ร้ายด้วยความโกรธเกลียดมีดเล่มคมปักลงบนหน้าอกของหญิงสาวอย่างที่อันนาเตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้ว โลหิตสีแดงฉานไหลเปอะชุดคลุมของหญิงสาว พรหมจรรย์อย่างอันนาท่ามกลางเสียงหัวเราะของเเราหญิงสาวที่อยู่ในลัทธิบูชาเงาเจ้านรกเวลานี้เป็นเวลาที่หญิงสาวควรนอนหลับได้แล้วหากแต่สอง ขาของหญิงสาวกับไม่ขยับออกจากบริเวณเสาต้นใหญ่ที่หล่อนหลบซ่อนอยู่ได้เลยภาพที่ปรากฏตรงหน้าของนรีกุลนั้นคือสตรีที่ถูกมีดเล่มคม-ขนาดเล็กแทงเข้าที่หัวใจ เลือดของผู้หญิงคนนั้นไหลออกมาเป็นทางยาวอันนาที่เตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้วว่าวันนี้จะต้องบูชายันต์เงาเทพเจ้านรกได้แต่นอนนิ่งให้อัญมณีกรีดเลือดของเธอออกมาในปริมาณมากหากหญิงสาวคาดคะเนไม่ผิดเลือดของอันนาหญิงสาวที่ได้ทะเลาะกันที่นรีกุลเห็นตรงหน้าทางเข้าประตูห้องลับนั้นคงหลายร้อยซีซีเป็นแน่หญิงสาวยกมืออุดปากแทบไม่ทันเมื่อเห็นอัญมณีใช้มีดแหลมคมปาดเข้าที่คอของคนรับใช้สาวอันนามือเรียวของอันนาายกมือไหว้แล้วมองจ้องไปยังแท่นพิธีบูชาเงาเทพนรกดังกล่าวแล้วขยับริมฝีปากที่โชกไปด้วยเลือดว่า“ข้าแต่เทพนรก อั
และเวลานี้เธอไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้ก็เพราะว่าคนในคฤหาสน์โหดร้ายเกินกว่าที่จะเป็นมนุษย์นั่นเองหญิงสาวนั้นล้มตัวลงนอนข้างๆสามีของของตนเองทั้งกอดเขาแล้วซุกตัวใต้อ้อมกอดภายใต้รัตติกาลที่เงียบงันและวังเวงหญิงสาวโน้มตัวลงนอนอย่างยากที่จะข่มตาหลับลงได้แต่ภาพที่เห็นนั้นทำให้เธอลุกขึ้นมาสำรอกเศษอาหารทั้งหมดที่ได้กินไปจากตลาดทันทีหญิงสาวอาเจียนออกมาจนหมดเสียงอาเจียนของเธอดังลั่นจนทำให้สามีของเธอต้องลุกขึ้นมาอย่างตกใจ“เกิดอะไรขึ้นเหรอนุ่น” ชายหนุ่มถามภรรยาของเขาอย่างรวดเร็ว“ไม่ค่ะ นุ่นแคร์รู้สึกพะอืดพะอมเท่านั้น” หญิงสาวกล่าวอย่างรวดเร็วพลางหลุบตาต่ำลงมือหนาของชายหนุ่มเอื้อมมาลูบหลังของหญิงสาวยังแผ่วเบาแต่ยิ่งเขาลูบมากเท่าไหร่เศษอาหารของนรีกุลก็ออกมากเท่านั้น“ไม่เป็นไรนะเดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้” สามีของหล่อนกล่าวแล้วเดินไปหาน้ำมาให้หญิงสาว“ไม่เป็นไรค่ะวีนุ่นเอาน้ำมาพอดีวีช่วยไปหยิบน้ำตรงนั้นให้หน่อยได้ไหมคะ” หญิงสาวกล่าวพลางชี้นิ้วไปยังขวดน้ำตนเองที่วางตั้งไว้“โอเคก็ได้” สามีของหล่อนกล่าวหญิงสาวสำรอกออกมาจนหมด ทั้งหมดนี่เป็นเพราะอัญมณีแท้ๆทีเดียวที่ทำให้หญิงสาวต้องอาเจียนอย่างไม่คาดคิดม
คฤหาสน์มอนอฟอยด์“กรี๊ด” เสียงหวีดร้องแหลมสูงของใครบางคนหวีดเสียงลั่นห้องหับโอ่โถง“นังนุ่นนังผู้หญิงแพศยา” อัญมณีกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งมือหยาบกร้านภายใต้ถุงมือสีดำแสนสวยฉวยหยิบมีดด้ามคมกรีดไปยังรูปถ่ายงานแต่งงานสายฟ้าฟาดของหลานชายเป็นทางยาวทว่านั่นยังไม่สาแก่ใจของอัญมณี คุณอาสาวหยิบกรรไกรขึ้นมาตัดภาพระหว่างนรีกุลและนัฐธวีร์จนขาดวิ่นไปทันทีแต่ไหนแต่ไรมาอัญมณีไม่เคยเกลียดและชิงชังผู้หญิงคนไหนเท่านังนรีกุลนี่มาก่อน เพราะนังหญิงแพศยานั้นคนเทียวที่ทำให้นัฐธวีร์หลานชายที่เธอรักยิ่งกว่าชีวิตเปลี่ยนไปเป็นคนละคนอัญมณีแอบรักหลานชายนอกไส้อย่างนัฐธวีร์มาตลอดเวลา จนกระทั่งเขาเลือกที่จะเดินออกมาจากอ้อมอกของผู้เป็นมารดา และกรพจน์ พี่ชายของอัญมณีไปนอนกกผู้หญิงเชื้อสายจีนอย่างนรีกุลทำให้อัญมณียิ่งทวีความเกลียดชังในตัวของหญิงสาวมากกว่าเดิมเพราะหล่อนเชื่ออย่างสุดใจว่าผู้หญิงอย่างนรีกุลจะหาดีอะไรได้ นอกเสียจากจะมีเงินมีทองให้หลานนอกไส้ผลาญเล่นก็เท่านั้นเอง“แอนหล่อนจับตามองนังนุ่นไว้ให้ดี ฉันเชื่อว่านังนุ่นมันจะต้องกลับมาอีกแน่ อีมารหัวใจของฉัน…อีนรีกุล” อัญมณีคำรามเล็ดลอดไรฟัน“เจ้าค่ะคุณอา” แอนรับค
หล่อนจำต้อง ‘กลืน’ ความรู้สึกที่อยากบอกเรื่องราวมากมายในคฤหาสน์กับเขาลงไปก่อนที่นัฐธวีร์จะมองว่าเธออาจจะป่วยเป็นโรคทางระบบประสาทเสีย“วีร์ค่ะ” นรีกุลเอ่ยขึ้นแล้วมองมาทางใบหน้าของนัฐธวีร์ด้วยนัยน์ตาจริงจัง“ครับนุ่น” นัฐธวีร์กล่าวพลางทอดมองใบหน้าสวยของหญิงสาวที่เวลานี้มีหยดน้ำเกาะพราวบริเวณริมฝีปากอวบอิ่ม“นุ่นว่า…”“ปากเลอะครับนุ่น” นัฐธวีร์เอ่ยขึ้นพลางเอื้อมมือหนาของเขาเขี่ยบริเวณริมฝีปากของหญิงสาวอย่างอ่อนโยนเจ้าหล่อนรู้สึกร้อนที่ใบหน้าผะผ่าวขึ้นมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ดวงหน้าของนรีกุลแดงระเรื่อ ริมฝีปากสวยขยับเอ่ยบางสิ่งบางอย่างออกมา“นุ่นว่าที่นี่มีอะไรแปลก ๆ ค่ะ” ในที่สุดนรีกุลก็กล่าวออกมาด้วยความรู้สึกหวาดกลัวคิ้วเข้มของชายหนุ่มขมวดมุ่นเข้าหากันเป็นปมใหญ่ เรียวปากหยักเอ่ยถาม“แปลกยังไงเหรอครับ” ชายคนรักถามเสียงเข้มขณะจ้องมองใบหน้าหญิงสาวอย่างเริ่มมีโทสะ“วีร์คะนุ่นยอมรับนะคะว่านุ่นรู้สึกแปลก ๆ กับกับคฤหาสน์มอนอฟอยด์ ที่นี่ทำให้นุ่นรู้สึกว่ามันเป็นเหมือนคฤหาสน์ผีสิงอย่างไรก็ไม่รู้ค่ะ” พูดจบเจ้าหล่อนเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น“นุ่น” นัฐธวีร์เอ่ยเรียกชื่อของหล่อนด้วยน้ำเสียงดัง เ
บนเตียงนอนขนาดคิงไซส์ปรากฎร่างของชายหนุ่ม และ หญิงสาวนอนกอดรัดกันอยู่บนเตียงนอนหนานุ่มขนาดกว้างประมาณ หก ฟุตได้…แขนข้างซ้ายของชายหนุ่มเหยียดยาวออกมาข้างหนึ่ง บนแขนข้างซ้ายของชายหนุ่มวัยยี่สิบเก้าปีมีศีรษะแข็งได้รูปสวยของหญิงสาวนอนหนุนอยู่คล้ายคู่รักข้าวใหม่ปลามันเรือนไหมนุ่มสลวยสีดำขลับของสาวเจ้าทิ้งตัวลงอย่างมีน้ำหนัก จมูกโด่งรั้นของชายหนุ่มจรดชิดหน้าผากกว้างของหญิงสาววัยยี่สิบห้าปีเศษ ๆดวงตาคู่กลมโตของหญิงสาวเปล่งประกายวาวระยับ ยามเมื่อเวลานี้นรีกุลได้ลอบสังเกตสีหน้าของคนรักหนุ่มด้วยเเววตา เปี่ยมสุข“นุ่นผมรักคุณนะ” เสียงเข้มของชายหนุ่มคนนั้นเอ่ยออกมาจากริมฝีปากสีชมพูระเรื่อพลางหันมามองหน้าอีกฝ่ายอย่างหลงใหลดวงตาคู่อ่อนโยนชวนฝันของนัฐธวีร์สะกดให้นรีกุลนอนนิ่ง อยู่กับที่หญิงสาวสบสายตาอันลุ่มลึกของนัฐธวีร์ราวกับหล่อนต้องอยู่ในมนต์สะกดของชายหนุ่มก็ไม่ปาน “วีร์คะ” เสียงหวานของนรีกุลเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา เรียวปากบางของหญิงสาวไร้ซึ่งการแต่งแต้มสีแดงสดขยับขึ้น“ครับ” นัฐธวีร์เอ่ยรับคำของหญิงสาวด้วยเสียงทุ้มสุภาพอ่อนโยน“ผมรักนุ่นนะ” นัฐธวีร์กล่าวกับหญิงสาวอย่างหวงแหนพลางใช้นิ้วสากของตน
“ตกลงค่ะ” เสียงหวานใสของนรีกุลเอ่ยขึ้นอย่างตะกุกตะกักความตื้นตันใจฉายชัดผ่านดวงตากลมโตสดใสของสาวเจ้านัฐธวีร์อดรู้สึกดีใจขึ้นมาไม่ได้ว่านรีกุลหญิงสาวคนรักของ เขาดีใจแม้หล่อนเห็นเพียงแหวนเงินเกลี้ยงเกลาธรรมดาสามัญที่เขา ตั้งใจเพียรเก็บหอมรอบริบมาทั้งเดือนนัฐธวีร์คาดไว้ว่านรีกุลคงจะไม่เหมือนจารีย์ผู้หญิงที่เขาคบคนก่อนหน้าที่ปรารถนาแต่ทรัพย์สมบัติของเขาและแหวนเพชร ราคาแพงเหยียบล้านหากนัฐธวีร์คาดคะเนไม่ผิดจากความเป็นจริงมากนัก นรีกุลจะต้องเป็นผู้หญิงที่มีแต่รักแท้…ให้เขาเป็นแน่ ชายหนุ่มครุ่นคิดอยู่ในใจหยาดน้ำใสไหลคลอหน่วยตาของเธอด้วยความปรีดา… นรีกุลที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยวันนี้มาแสนนานอดรู้สึกปลาบปลื้มใจ ชื้นขึ้นมาไม่ได้สองหนุ่มสาวโผเข้าหากอดกันด้วยความรักมือข้างซ้ายของนัฐธวีร์ช้อนเรือนร่างอรชรของคนตัวเล็กขึ้นมาแล้วจับเอวของเธอหมุนไปรอบ ๆ ห้องนอนโอ่งโถงอย่างมีความสุขนรีกุลสัมผัสได้ถึงความรักอันเต็มเปี่ยมของนัฐธวีร์ ความสุขของทั้งสองคนได้ขยับขึ้นแล้วในความสัมพันธ์ของทั้งคู่นรีกุลอดรู้สึกไม่ได้ว่าในเวลานี้เธอคงจะเป็นเจ้าสาวที่มีความสุขที่สุดในโลกเพราะเธอจะมีนัฐธวีร์เคียงข้างไปในทุกช
หล่อนจำต้อง ‘กลืน’ ความรู้สึกที่อยากบอกเรื่องราวมากมายในคฤหาสน์กับเขาลงไปก่อนที่นัฐธวีร์จะมองว่าเธออาจจะป่วยเป็นโรคทางระบบประสาทเสีย“วีร์ค่ะ” นรีกุลเอ่ยขึ้นแล้วมองมาทางใบหน้าของนัฐธวีร์ด้วยนัยน์ตาจริงจัง“ครับนุ่น” นัฐธวีร์กล่าวพลางทอดมองใบหน้าสวยของหญิงสาวที่เวลานี้มีหยดน้ำเกาะพราวบริเวณริมฝีปากอวบอิ่ม“นุ่นว่า…”“ปากเลอะครับนุ่น” นัฐธวีร์เอ่ยขึ้นพลางเอื้อมมือหนาของเขาเขี่ยบริเวณริมฝีปากของหญิงสาวอย่างอ่อนโยนเจ้าหล่อนรู้สึกร้อนที่ใบหน้าผะผ่าวขึ้นมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ดวงหน้าของนรีกุลแดงระเรื่อ ริมฝีปากสวยขยับเอ่ยบางสิ่งบางอย่างออกมา“นุ่นว่าที่นี่มีอะไรแปลก ๆ ค่ะ” ในที่สุดนรีกุลก็กล่าวออกมาด้วยความรู้สึกหวาดกลัวคิ้วเข้มของชายหนุ่มขมวดมุ่นเข้าหากันเป็นปมใหญ่ เรียวปากหยักเอ่ยถาม“แปลกยังไงเหรอครับ” ชายคนรักถามเสียงเข้มขณะจ้องมองใบหน้าหญิงสาวอย่างเริ่มมีโทสะ“วีร์คะนุ่นยอมรับนะคะว่านุ่นรู้สึกแปลก ๆ กับกับคฤหาสน์มอนอฟอยด์ ที่นี่ทำให้นุ่นรู้สึกว่ามันเป็นเหมือนคฤหาสน์ผีสิงอย่างไรก็ไม่รู้ค่ะ” พูดจบเจ้าหล่อนเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น“นุ่น” นัฐธวีร์เอ่ยเรียกชื่อของหล่อนด้วยน้ำเสียงดัง เ
คฤหาสน์มอนอฟอยด์“กรี๊ด” เสียงหวีดร้องแหลมสูงของใครบางคนหวีดเสียงลั่นห้องหับโอ่โถง“นังนุ่นนังผู้หญิงแพศยา” อัญมณีกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งมือหยาบกร้านภายใต้ถุงมือสีดำแสนสวยฉวยหยิบมีดด้ามคมกรีดไปยังรูปถ่ายงานแต่งงานสายฟ้าฟาดของหลานชายเป็นทางยาวทว่านั่นยังไม่สาแก่ใจของอัญมณี คุณอาสาวหยิบกรรไกรขึ้นมาตัดภาพระหว่างนรีกุลและนัฐธวีร์จนขาดวิ่นไปทันทีแต่ไหนแต่ไรมาอัญมณีไม่เคยเกลียดและชิงชังผู้หญิงคนไหนเท่านังนรีกุลนี่มาก่อน เพราะนังหญิงแพศยานั้นคนเทียวที่ทำให้นัฐธวีร์หลานชายที่เธอรักยิ่งกว่าชีวิตเปลี่ยนไปเป็นคนละคนอัญมณีแอบรักหลานชายนอกไส้อย่างนัฐธวีร์มาตลอดเวลา จนกระทั่งเขาเลือกที่จะเดินออกมาจากอ้อมอกของผู้เป็นมารดา และกรพจน์ พี่ชายของอัญมณีไปนอนกกผู้หญิงเชื้อสายจีนอย่างนรีกุลทำให้อัญมณียิ่งทวีความเกลียดชังในตัวของหญิงสาวมากกว่าเดิมเพราะหล่อนเชื่ออย่างสุดใจว่าผู้หญิงอย่างนรีกุลจะหาดีอะไรได้ นอกเสียจากจะมีเงินมีทองให้หลานนอกไส้ผลาญเล่นก็เท่านั้นเอง“แอนหล่อนจับตามองนังนุ่นไว้ให้ดี ฉันเชื่อว่านังนุ่นมันจะต้องกลับมาอีกแน่ อีมารหัวใจของฉัน…อีนรีกุล” อัญมณีคำรามเล็ดลอดไรฟัน“เจ้าค่ะคุณอา” แอนรับค
และเวลานี้เธอไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้ก็เพราะว่าคนในคฤหาสน์โหดร้ายเกินกว่าที่จะเป็นมนุษย์นั่นเองหญิงสาวนั้นล้มตัวลงนอนข้างๆสามีของของตนเองทั้งกอดเขาแล้วซุกตัวใต้อ้อมกอดภายใต้รัตติกาลที่เงียบงันและวังเวงหญิงสาวโน้มตัวลงนอนอย่างยากที่จะข่มตาหลับลงได้แต่ภาพที่เห็นนั้นทำให้เธอลุกขึ้นมาสำรอกเศษอาหารทั้งหมดที่ได้กินไปจากตลาดทันทีหญิงสาวอาเจียนออกมาจนหมดเสียงอาเจียนของเธอดังลั่นจนทำให้สามีของเธอต้องลุกขึ้นมาอย่างตกใจ“เกิดอะไรขึ้นเหรอนุ่น” ชายหนุ่มถามภรรยาของเขาอย่างรวดเร็ว“ไม่ค่ะ นุ่นแคร์รู้สึกพะอืดพะอมเท่านั้น” หญิงสาวกล่าวอย่างรวดเร็วพลางหลุบตาต่ำลงมือหนาของชายหนุ่มเอื้อมมาลูบหลังของหญิงสาวยังแผ่วเบาแต่ยิ่งเขาลูบมากเท่าไหร่เศษอาหารของนรีกุลก็ออกมากเท่านั้น“ไม่เป็นไรนะเดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้” สามีของหล่อนกล่าวแล้วเดินไปหาน้ำมาให้หญิงสาว“ไม่เป็นไรค่ะวีนุ่นเอาน้ำมาพอดีวีช่วยไปหยิบน้ำตรงนั้นให้หน่อยได้ไหมคะ” หญิงสาวกล่าวพลางชี้นิ้วไปยังขวดน้ำตนเองที่วางตั้งไว้“โอเคก็ได้” สามีของหล่อนกล่าวหญิงสาวสำรอกออกมาจนหมด ทั้งหมดนี่เป็นเพราะอัญมณีแท้ๆทีเดียวที่ทำให้หญิงสาวต้องอาเจียนอย่างไม่คาดคิดม
“อ้าย” เสียงหวีดร้องดังขึ้นท่ามกลางความสะใจของสตรีผู้หนึ่งที่มองมายังหญิงสาวเคราะห์ร้ายด้วยความโกรธเกลียดมีดเล่มคมปักลงบนหน้าอกของหญิงสาวอย่างที่อันนาเตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้ว โลหิตสีแดงฉานไหลเปอะชุดคลุมของหญิงสาว พรหมจรรย์อย่างอันนาท่ามกลางเสียงหัวเราะของเเราหญิงสาวที่อยู่ในลัทธิบูชาเงาเจ้านรกเวลานี้เป็นเวลาที่หญิงสาวควรนอนหลับได้แล้วหากแต่สอง ขาของหญิงสาวกับไม่ขยับออกจากบริเวณเสาต้นใหญ่ที่หล่อนหลบซ่อนอยู่ได้เลยภาพที่ปรากฏตรงหน้าของนรีกุลนั้นคือสตรีที่ถูกมีดเล่มคม-ขนาดเล็กแทงเข้าที่หัวใจ เลือดของผู้หญิงคนนั้นไหลออกมาเป็นทางยาวอันนาที่เตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้วว่าวันนี้จะต้องบูชายันต์เงาเทพเจ้านรกได้แต่นอนนิ่งให้อัญมณีกรีดเลือดของเธอออกมาในปริมาณมากหากหญิงสาวคาดคะเนไม่ผิดเลือดของอันนาหญิงสาวที่ได้ทะเลาะกันที่นรีกุลเห็นตรงหน้าทางเข้าประตูห้องลับนั้นคงหลายร้อยซีซีเป็นแน่หญิงสาวยกมืออุดปากแทบไม่ทันเมื่อเห็นอัญมณีใช้มีดแหลมคมปาดเข้าที่คอของคนรับใช้สาวอันนามือเรียวของอันนาายกมือไหว้แล้วมองจ้องไปยังแท่นพิธีบูชาเงาเทพนรกดังกล่าวแล้วขยับริมฝีปากที่โชกไปด้วยเลือดว่า“ข้าแต่เทพนรก อั
มือสวยของเธอพลิกหน้าหนังสือโบราณขึ้นมาดู อารามไม่ทันระวังทำให้หนังสือที่หนักอึ้งเล่นนั้นหลุดออกจากมือของหล่อนไปยังด้านล่างของพื้นห้องนอนหญิงสาวหยิบ หนังสือที่กลับหัวขึ้นมามองอีกครั้งภาพที่ปรากฏตรงหน้าของหญิงสาวทำให้หัวใจของเธอเต้นเร็วอย่างรุนแรงหญิงสาวพบว่าเมื่ออ่านกลับหัวตัวอักษรนี้เป็นตัวอักษรรัสเซียโบราณที่มีอยู่มานานนับร้อยปีก่อนการค้นพบประวัติศาสตร์เสียอีกหญิงสาวค่อยๆสะกดทีละตัวตามที่ได้เรียนมาในโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งย่านใจกลางเมืองหลวงของประเทศไทยนิ้วมือข้างขวาของของเธอเริ่มจากยกนิ้วไล่ไปทีละบรรทัดทันทีที่หญิงสาวอ่านจบเธอก็อดรู้สึกขนลุกขนของสยองก้าวขึ้นมาไม่ได้ว่าในบันทึกเล่มนี้เป็นบันทึกของหญิงสาวคนหนึ่งชื่อว่าจารีย์ หนังสือเล่มนี้กล่าวว่า จารีเคยเป็นแฟนเก่าของกรวีซึ่งเป็นพี่ชายของสามีเธอ“งั้นแปลว่าผู้หญิงคนนี้เป็นพี่สะใภ้ของเราเหรอ” หญิงสาวกล่าวด้วยความไม่เข้าใจมากนักในบันทึกของพี่สะใภ้นั้นแม้จะเป็นภาษาที่อ่านออกยากแต่เธอก็เข้าใจดีว่าทำไมคฤหาสน์แห่งนี้ถึงเชื่อว่ามอนอฟอยด์เมื่อนำตัวอักษรทั้งหมดมาเรียงกันใหม่สามารถ แปลได้ว่าคฤหาสน์แห่งนี้เป็นคฤหาสน์ที่ชื่อว่าคฤหา
ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้กล่าวอนุญาตให้ปล่อยวิญญาณร้ายตนนั้นก็ปรากฏโซ่ตรวนที่มาจากอากาศเข้ามาล่ามวิญญาณร้ายตนนั้นให้กลิ้งล้มลงไปเสียงกรีดร้องโหยหวนของวิญญาณร้ายตนนั้นเข้าสู่โสตประสาทของหญิงสาวอย่างรุนแรงหญิงสาวได้แต่มองวิญญาณร้ายที่ดีดดิhนอย่างหนทางสู้ด้วยความสงสารในใจในตอนนี้เธอมองเห็นแต่เพียงว่าวิญญาณร้ายตนนั้นหายลับไปเสียแล้วราวกับใครบางคนที่ส่งของมาสู่เธอนั้นได้กำจัดวิญญาณร้ายที่กำลังจะทรยศเขาด้วยน้ำมือของอาคมที่ถูกกำกับเอาไว้ดวงวิญญาณร้ายลอยตัวสูงขึ้นท่ามกลางโซ่ที่รอยรัดให้ร่างของมันแหลกสลายไม่นานนักก็เป็นดังที่นรีกุลคาดคิดไว้จริงๆเวลานี้ดวงจิตร้ายได้อันตรธานหายไปเสียแล้วหญิงสาวอดรู้สึกเสียดายไม่ได้ว่าด้วยวิญญาณร้ายตัวนี้จะได้ไปเกิดเสียทีแต่ใครกันที่ส่งวิญญาณร้ายไม่รู้อีโนอีเหน่ตัวนี้มาหาเธอ“อโหสิกรรมให้เขาเสียเถอะ” กุมารเทพที่อยู่ข้างกายของหญิงสาวเอ่ยขึ้นหญิงสาวผ่อนลมหายใจอย่างออกมาอย่างรุนแรง ราวกับจะปลดปล่อยความทุกข์ในใจที่หนักอึ้งอยู่ในตอนนี้เวลานี้ก็ดึกมากแล้วยังสาวคนเข้านอนได้เสียทีแต่ไม่ว่าจะนอนอย่างไรหญิงสาวก็ไม่อาจข่มตาลงหลับได้เมื่อเจอเหตุการณ์ เช่นนี้เป็นแน
หญิงสาวพยายามยกมือขึ้นสวดอ้อนวอนแต่ก็ไร้ผลเธอกลับยกมือไม่ขึ้นราวกับว่าเธอถูกผีอำอย่างไรอย่างนั้นยังไม่ทันธรรมดาหญิงสาวจะสวดมนต์จบเธอก็ได้ยินเสียงข้างหูพูดขึ้นมาว่า“พี่ไม่ต้องกลัวนะกุมารอยู่ด้วยทั้งคน”เวลานี้หญิงสาวลืมไปเสียสนิทเลยว่า หล่อนได้นำกุมารทองเข้ามายังคฤหาสน์แห่งนี้โดยไม่ได้ขออนุญาตเจ้าที่แห่งนี้เสียก่อนความเย็นแสนน่าหวาดกลัวแทรกซึมไปทั่วผิวกาย นรีdกุลรับรู้ได้ถึงมือหยาบกร้านของวิญญาณร้ายที่สัมผัสโดนผิวของหล่อนมือสากหยาบกร้านของผีร้ายอดทำให้รู้สึกไม่ได้ว่าหล่อนรังเกียจขยะแขยงมือของมันมากเพียงใดทว่ายังไม่ทันที่วิญญาณร้ายจะได้แผลงฤทธิ์ก็ปรากฏแสงสว่างสีทองมาครอบคลุมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าของหญิงสาวเอาไว้เสียก่อนแสงสีทองสว่างวาบทำให้วิญญาณร้ายกระเด็นออกจากตัวของหล่อนทันทีหญิงสาวรู้สึกฉงนในใจทว่าไม่นานนักหญิงสาวก็ได้คำตอบว่าแสงสีทองที่ทำให้วิญญาณร้ายหายไปนั้นมาจากใครภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าของหญิงสาวคือเด็กชายหัวจุก บนศรีษะประดับด้วยรัดเกล้าทองคำลงยาอร่ามตาใบหน้าของกุมารทองตนนั้นงดงามราวกับเทพสวรรค์ลงมาจุติหญิงสาวเคยได้ยินมาว่า เทพเจ้านาจาเทพประจำตระกูลของหญิงสาวนั้น เป็
8.กุมารเทพ ผู้ช่วยคนใหม่ ค่ำคืนนั้นสามีของหล่อนไม่ได้รับประทานอาหารที่นรีกุลตั้งใจว่าจะทำนรีกุลเดินลงมาบริเวณโถงในห้องอาหารขนาดกว้างมากกว่าสองห้องรวมกัน สายตาเจ้ากรรมของหญิงสาวเหลือบมองสาวใช้ที่นำอาหารมาจัดลงในจานทว่าเพียงแวบเดียวนรีกุลก็ยืนตัวเซ หญิงสาวจึงขอตัวกลับไปยังห้องนอนของเธอและสามีของเธอมือเรียวของนรีกุลเอื้อมหมุนลุกบิดแล้วผลักเข้าไปยังห้องนอนของเธอปลายเท้าเรียวขาวสะอาดของหญิงสาวสาวเท้าเข้าไปหยุดยังบานกระจกบานกว้างที่สลักลายบางอย่างมือเรียวของหญิงสาวหยิบหวีแปรงมาสางเส้นไหมที่พันกันยุ่งเหยิงให้เรียบร้อยดังเดิมนรีกุลได้ยินเสียงเคาะประตูห้องนอนดังขึ้น หญิงสาวรีบมุดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มทันที“คุณผู้หญิงคะ คุณอาอัญมณีให้ดิฉันนำอาหารค่ำมาให้ค่ะ” เสียงของคนรับใช้เคาะเรียกนรีกุลอยู่หน้าห้องนรีกุลชักสีหน้าเบื่อหน่ายในการกระทำบังคับบัญชาของอัญมณี คุณอาผู้ดูแลมรดกตกทอดของปู่กรชัย หญิงสาวกรอกตาไปมาพลางกระแอมไอเล็กน้อย“กลับมาแล้วเหรอจ้ะตาวีร์” อัญมณีเอ่ยถามชายหนุ่มด้วยแววตาเป็นประกาย“นุ่นละครับ คุณอา” นัฐธวีร์เอ่ยถามผู้ดูแลคฤหาสน์ด้วยน้ำเสียงสงสัยเมื่อไม่เห็นภรรยาสาวของตนเองร่วมโต
นรีกุลอดรู้สึกไม่ได้ว่าเธอหนักบ่าอย่างมาก หากแต่หญิงสาวไม่สะดวกในการนวดทำให้เธอต้องขับรถกลับทั้ง ๆที่หนักไหล่หนักบ่าอย่างมากรถยนต์คันหรูแล่นมาจอดเทียบหน้าคฤหาสน์มอนอฟอยด์นรีกุลสาวเท้าลงจากรถพร้อมข้าวของเครื่องใช้และอาหารสดมือเรียวของหญิงสาวเอื้อมมาบีบนวดไหล่ทันทีที่เธอส่งของให้สาวใช้ในคฤหาสน์ให้เอาไปเก็บนรีกุลเอื้อมมือดึงกุญแจแล้วไขประตูห้องนอนในเคหาสน์ สถานมอนอฟอยด์แห่งนี้ สายลมเย็นกรีดผิวเนื้อหอบเอากลิ่นเน่าเหม็นจากถังขยะเข้ามาสู่ห้องนอนของเธอและสามี“สงสัยเขาจะลืมไปว่า เราเอาขยะมาทิ้ง รีบปิดหน้าต่างดีกว่า” นรีกุลกล่าวพลางงับบานหน้าต่างอย่างรวดเร็วเงาสะท้อนของหน้าต่างทำให้นรีกุลเห็นรองเท้าสีดำพาดอยู่บนคอของเธอนรีกุลรู้สึกเย็นวาบราวกับอยู่กลางช่องแช่แข็งก็ไม่ปาน หญิงสาวเอื้อมมือไปเปิดหน้าต่างอีกครั้งแล้วรวบรวมสติทั้งหมดที่มีเข้าไว้ด้วยกัน“หยุดเพ้อเจ้อได้แล้วนุ่นที่นี่ไม่มีอะไรหรอก แค่แปลกไปจากที่ ที่เราเคยอยู่ และ ผู้คนที่เราเคยคุ้นเคยเท่านั้นเอง” นรีกุลปลอบตนเองอย่างแผ่วเบาหญิงสาวงับบานหน้าต่างเข้าหาตนเองอีกครั้ง คราวนี้ภาพสะท้อนของกระจกเงาก็พบว่าบนไหล่ของหญิงสาวว่าง เปล่า