แชร์

บทที่ 690

ผู้เขียน: วิ๋นเจิง
หากกองทัพของแคว้นหนานเย่สูญเสียทหารไปสามพันนาย แคว้นอู๋ตะวันตกจะสูญเสียทหารไปห้าพันนาย

ในการเปรียบเทียบนี้ กำลังทหารทั้งสองฝั่งกำลังหมดลงอย่างรวดเร็ว

สุดท้ายศพอันเย็นเยือกในสนามรบก็กลายเป็นเพียงจำนวนของการตายที่ฟังดูไร้ความรู้สึก

ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุดของทั้งสามกองทัพ เย่เสวียนถิงจะเป็นผู้นำกองทัพทั้งหมดไปยังสนามรบด้วยตัวเองและไปอยู่ที่แถวหน้าเสมอ

และทุกครั้งเขาก็ยังเป็นคนที่สังหารศัตรูได้มากที่สุด

แม่ทัพของศัตรูที่ไม่มีความกล้าหาญเช่นเย่เสวียนถิงเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังเสมอ ซึ่งสิ่งนี้ได้ส่งผล

กระทบอย่างมากต่อขวัญกำลังใจของทหารของแคว้นอู๋ตะวันตก

ดังนั้นแม้คู่ต่อสู้จะมีกำลังคนมากและมีอาวุธกับชุดเกราะที่ผลิตมาอย่างดี แต่ในระยะเวลาอันสั้นนี้พวกเขาก็ยังไม่สามารถชิงความได้เปรียบกลับมาได้

สถานการณ์ในการสู้รบขณะนั้นที่ต่างฝ่ายต่างเข้าโรมรันกันจนแยกไม่ออกดูเหมือนจะเริ่มมาถึงทางตัน

อย่างน้อยในช่วงเวลาอันสั้นนี้ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่าใครคือผู้ชนะ

ยิ่งมีทหารจำนวนมาก ความต้องการเสบียงก็มีมากขึ้น แม่ทัพคนปัจจุบันของแคว้นอู๋ตะวันตกนั้นไม่ใช่

เหยียนจั๋ว เขาผู้นั้นรู้สึกหวาดกลัวเป็นกัง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 691

    หัวหน้าพลทหารหยิบยาผงที่ไม่ได้ใช้จากหมอที่อยู่ข้าง ๆ มาห่อหนึ่งเย่เสวียนถิงถือห่อนั้นมาแนบที่ปลายจมูก กลิ่นอันคุ้นเคยทำให้ดวงตาของเขาสว่างวาบขึ้นทันทีเขาเคยเห็นยาชนิดนี้อยู่ที่ซูชิงอู่มาก่อน เมื่อตอนที่เขาบอกว่าอยากใช้ยานี้ในสนามรบ เขาก็แค่พูดไปอย่างนั้น เพราะเขารู้ถึงคุณค่าของยารักษาบาดแผลชนิดนี้ ซึ่งไม่มีทางที่จะผลิตมาใช้ในสนามรบได้ในปริมาณมากเพราะมันต้องใช้จำนวนเงินสูง แม้ชีวิตจะสำคัญกว่า แต่ก็ไม่สามารถจ่ายได้แต่ตอนนี้ยาตัวนี้กลับมาโผล่อยู่ในกองทัพเขารีบถามว่า “ยานี้ถูกส่งมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”“เรียนท่านอ๋อง มีการเริ่มใช้ยานี้เมื่อสองเดือนก่อน ยาถูกจัดส่งมาพร้อมกับเสบียง ส่วนผู้รับผิดชอบในการคุ้มกันเสบียงคือแม่ทัพซูพ่ะย่ะค่ะ”ในแคว้นหนานเย่มีแม่ทัพซูอยู่เพียงคนเดียวนั่นคือซูเชียนหมิง คุณชายรองแห่งตระกูลซูและบุตรชายคนรองของอดีตเสนาบดีเย่เสวียนถิงพยักหน้าพลางยิ้มมุมปาก ดวงตาของเขาอ่อนโยนอย่างยิ่งอาอู่ใส่ใจในทุกคำพูดที่เขาพูด อีกทั้งในช่วงเวลาสั้น ๆ ยังส่งยาที่มีประสิทธิภาพเช่นนี้มาให้กับทหารชายแดนด้วยเมื่อรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นมา เย่เสวียนถิงก็กวาดตามองบริเวณนี้เป็นค

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 692

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินว่าซูชิงอู่ส่งบางอย่างมาให้เขา เขาก็ตกใจและมองไปทันที “อะไรนะ?”คนขององครักษ์เงาลำดับที่สิบเจ็ดทำการเปิดกล่อง เผยให้เห็นชุดเกราะเงินสามสิบชุดที่อยู่ด้านในเย่เสวียนถิงตกตะลึง ชุดเกราะครบชุดวางอยู่ตรงหน้าเขา ทำให้เขาประหลาดใจมาก“ได้มาจากไหน?”องครักษ์เงาลำดับที่สิบเจ็ดเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “พระชายาอาจจะไปยึดคลังสมบัติมาพ่ะย่ะค่ะ”เย่เสวียนถิง “...”จริงสินะ นั่นเป็นสิ่งที่ชายาของเขาสามารถทำได้เขาก้าวไปข้างหน้าพลางหยิบชุดเกราะขึ้นมาเพื่อตรวจสอบ ชุดเกราะเทียนหลินซึ่งมีน้ำหนักเบาและคงกระพัน เมื่อสวมใส่มันเข้าสู่สนามรบ แม้อยากตายก็คงเป็นเรื่องยากหากคนสามสิบคนสวมชุดเกราะนี้ คาดว่าจะสามารถฝ่าวงล้อมขนาดใหญ่ได้เย่เสวียนถิงรู้ถึงประโยชน์ของสิ่งนี้ ก็เรียกรองแม่ทัพทุกคนที่อยู่รอบตัวมาทันที“ให้คนสวมชุดเกราะเหล่านี้แล้วมารวมตัวกันต่อหน้าข้า ข้าจะสั่งการเพิ่ม”“พ่ะย่ะค่ะ!”เย่เสวียนถิงหันมามององครักษ์เงาลำดับที่สิบเจ็ด“ส่วนเรื่องอื่นที่เหลือข้าจะกลับมาคุยทีหลัง”องครักษ์เงาลำดับที่สิบเจ็ดลูบคอพลางรู้สึกเสียวสันหลังวาบเย่เสวียนถิงรีบขึ้นหลังม้าและสั่ง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 693

    ทหารทุกคนที่ประจำการอยู่ที่ปราการเจิ้นเป่ยในแคว้นหนานเย่คาดไม่ถึงว่าท่านอ๋องของพวกเขาจะดูเหมือนเทพลงมาจุติและนำคนของตนไล่สังหารศัตรูจนเกิดเป็นสนามรบที่นองเลือดเห็นได้ชัดว่าแม่ทัพศัตรูที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังคาดไม่ถึงมาก่อนว่าผู้นำของอีกฝ่ายจะรุดหน้าทำการสังหารด้วยตัวเองจนมาถึงตรงหน้าเขาได้มาถึงตอนนี้ก็สายเกินกว่าที่จะคิดแผนอะไร ทหารธรรมดา ๆ ที่อยู่รอบตัวเขาไม่สามารถหยุดกองทัพเกราะเงินที่นำโดยเย่เสวียนถิงได้“รีบปกป้องข้าเร็วเข้า!”เขารู้ว่าเย่เสวียนถิงแข็งแกร่งเพียงใด คนมากมายที่พุ่งเข้าไปหาเขาสุดท้ายก็ถูกฆ่าตายทั้งหมดดาบยาวในมือของเขาโค้งงอจากการต่อสู้เมื่อครู่ ระหว่างทางจึงต้องเปลี่ยนดาบเมื่อเย่เสวียนถิงมองเห็นตำแหน่งของผู้นำฝ่ายตรงข้ามก็ยิงธนูใส่ ด้านแม่ทัพผู้นั้นที่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก็รีบซ่อนตัวอยู่ด้านหลังทหารที่อยู่ข้าง ๆ ทันทีเขาใช้คนของตัวเองเป็นโล่บังลูกธนู“ฆ่าเลย รีบฆ่าอ๋องเสวียนเร็วเข้า หากใครสามารถฆ่าเขาได้ ข้าจะตบรางวัลให้อย่างงามแน่นอน แล้วก็จะทูลขอให้องค์รัชทายาททรงเลื่อนขั้นให้พวกเจ้าคนใดคนหนึ่งได้เป็นแม่ทัพด้วย!”หลังจากได้ยินคำพูดของผู้นำ ทหารจาก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 694

    ทหารทุกคนของกองทัพปราการเจิ้นเป่ยแห่งแคว้นหนานเย่เข้าสู่ความบ้าคลั่ง ไล่บั่นหัวกองกำลังศัตรูที่หนีไม่ทัน!ในสงครามชายแดนครั้งนี้ กองทัพปราการเจิ้นเป่ยที่นำโดยเย่เสวียนถิงได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์!ไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าชุดเกราะเทียนหลินเพียงไม่กี่สิบชุดจะแสดงแสนยานุภาพได้ถึงเพียงนี้แน่นอนว่าหากไม่ใช่เพราะทักษะการต่อสู้ของเย่เสวียนถิง ผลก็คงไม่ออกมาเป็นเช่นนี้……กองทัพของแคว้นอู๋ตะวันตกถูกบังคับให้ล่าถอยไปหลายร้อยลี้ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่เขตชายแดนได้รับ ทำให้เหล่าทหารและม้าของฝ่ายตรงข้ามกระจัดกระจายไปด้วยความหวาดกลัว ทันทีที่ข่าวการได้รับชัยชนะถูกส่งไปยังเมืองหลวง ราษฎรนับไม่ถ้วนก็ส่งเสียงกู่ร้องด้วยความยินดีใครบ้างไม่อยากชนะสงคราม นี่เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าแคว้นหนานเย่แข็งแกร่งเพียงใด และพวกเขาจะไม่ถูกใครรังแกอีกอีกทั้งไม่มีวันที่จะสูญสิ้นแผ่นดินเกิดแน่นอนว่าซูชิงอู่ก็ได้รับข่าวในทันทีเช่นกัน ดวงตาของนางยิ้มแย้มและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผ่อนคลาย เวลาครึ่งปีกว่าผ่านไปอย่างรวดเร็ว และนางจะใจเต้นรัวทุกครั้งที่ได้รับข่าวจากชายแดนเด็กน้อยทั้งสามเองก็โตขึ้นมากแล้วกาลเวลาได้ผ่านเข

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 695

    ซูชิงอู่มองไปยังสุนัขที่กำลังจะตาย มันมีเลือดไหลออกมาจากมุมปาก ราวกับถูกรถม้าทับจนกระทบอวัยวะภายในมีผู้คนเฝ้าดูอยู่แต่ไม่กล้าเข้าไปใกล้ พวกเขาทำได้แค่ยืนมองจากระยะไกลโดยไม่กล้าพูดอะไรเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ อายุประมาณเจ็ดแปดขวบกำลังร้องไห้อย่างเศร้าโศกสุดใจขณะอุ้มสุนัขขนยุ่งทหารอารักขาเดินไปที่ข้างรถม้าและทำความเคารพซูชิงอู่ “พระชายา สุนัขตัวนั้นทำให้ท่านตกใจ ไม่ทราบว่าจะให้จัดการอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ?”จู่ ๆ ซูชิงอู่ก็ลุกขึ้นยืนและลงจากรถม้าเมื่อทุกคนเห็นท่าทีของนาง พวกเขาทั้งหมดแสดงสีหน้าประหลาดใจผู้ชมเหตุการณ์หันมามองเด็กหญิงตัวน้อยด้วยสายตาที่เห็นอกเห็นใจอย่างยิ่งกระทำความผิดร้ายแรงขนาดนี้ เด็กน้อยคนนั้นคงจบเห่แล้วละขณะที่ทุกคนกำลังคิดเช่นนั้น ซูชิงอู่ก็ก้มลงและยื่นมือไปให้เด็กหญิง “มา ให้ข้าดูสุนัขของเจ้าหน่อยสิ บางทีมันอาจจะรอดก็ได้”เด็กหญิงตัวน้อยปล่อยมือด้วยความงุนงงจนซูชิงอู่อุ้มสุนัขไปสุนัขตัวนี้สกปรก ซึ่งตรงกันข้ามกับชุดของพระชายาที่แสนสะอาดและมีราคาแพงของซูชิงอู่ ทหารอารักขาบางคนแสดงสีหน้าประหลาดใจเมื่อเห็นพระชายาทำเช่นนี้เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นสตรีร่ำรวยในตำแหน่ง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 696

    หนอนกู่ที่รูปร่างเหมือนเส้นเลือด มีสีแดงสดและลำตัวเรียวยาว และเมื่อมาวางทาบบนมือคนก็จะดูเหมือนมีขนติดอยู่ซูชิงอู่หลุบตามองพลางตบไหล่ของเด็กหญิงตัวน้อย“ไม่ต้องกลัว ซ่อนตัวอยู่กับลูกสุนัขไปนะ”เด็กหญิงตัวน้อยกะพริบตาและในที่สุดก็ได้สติจากอาการตกใจ นางวิ่งเข้าไปข้างในพร้อมกับลูกสุนัขในอ้อมแขนทันทีโดยไม่หันกลับมามองซูชิงอู่บดขยี้หนอนกู่ด้ายแดงให้ตายอย่างง่ายดายมีเสียงตะโกนแห่งการสังหารอยู่นอกตรอก และองครักษ์เงาก็ถูกส่งไปต่อสู้กับนักฆ่าที่มาลอบสังหารนางแล้วซูชิงอู่เคยชินกับเรื่องเช่นนี้แล้วซึ่งนาน ๆ ทีจะได้เจอกับมันอยู่บ้างเห็นได้ชัดว่าตอนนี้นางกลายเป็นเป้าหมายของคนจำนวนมาก และไม่แน่ใจว่าลับหลังมีคนต้องการชีวิตของนางอยู่กี่คนผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของฉีเทียนหยวน หรือสมาชิกที่ยังเหลืออยู่ของตระกูลเฝิง ตระกูลเจียวผู้ทะเยอทะยาน และ...ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่แอบวางแผนยึดครองใต้หล้า…ซูชิงอู่รออย่างอดทนที่มุมหนึ่งเพื่อเฝ้าดูผลการต่อสู้ด้านนอกองครักษ์เงาที่เย่เสวียนถิงทิ้งไว้ให้นางนั้นแข็งแกร่งมากและในช่วงนี้ก็ได้ช่วยนางจัดการกับสถานการณ์ต่าง ๆ ไปไม่น้อยซูชิงอู่คงไม่กล้าพอที่จะออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 697

    ซูชิงอู่ขึ้นรถม้าอีกครั้งและมุ่งหน้าไปยังพระราชวังเมื่อไปถึงก็มีขันทีหนุ่มคนหนึ่งนำทางพาซูชิงอู่เข้าไปในตำหนักบูรพา ซึ่งเย่ชิวหมิงรออยู่ที่นั่นนานแล้วสีหน้าเคร่งขรึมของเขาแนบมาพร้อมกับความกังวล“พระชายาเสวียนไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”ซูชิงอู่ส่ายหัว “ไม่เป็นไรเพคะ ที่จู่ ๆ องค์รัชทายาทก็เรียกหม่อมฉันเข้าวัง ไม่ทราบว่าทรงมีเรื่องสำคัญอะไรหรือเพคะ?”ดูเหมือนนางไม่อยากจะพูดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนักฆ่าที่เจอระหว่างทางแต่ถึงอย่างไรเย่ชิวหมิงก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ“ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าจะมีนักฆ่าดักอยู่ที่ถนน ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อดูว่าใครที่มันบังอาจทำเช่นนี้”ซูชิงอู่ส่ายหัว “ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบหรอกเพคะ เสียเวลาเปล่า ๆ ”เย่ชิวหมิงไม่เข้าใจอยู่ชั่วขณะว่าที่ซูชิงอู่พูดนั้นหมายถึงอะไรนางถูกลอบสังหารกลางถนน หากเป็นคนปกติตอนนี้ก็คงจะขวัญเสียอยู่ไม่น้อย“พระชายาไม่สนใจผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หรือ?”ซูชิงอู่กล่าวว่า “จะเป็นฝีมือของใคร สำหรับหม่อมฉันมันไม่ต่างไปหรอกเพคะ”เย่ชิวหมิง “หา?”ซูซิงอู่ยิ้มอย่างไม่แยแส “เพราะในอนาคต ไม่ว่าศัตรูจะเป็นใครขอเพียงแค่ฆ่าให้หมดก็พอแ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 698

    เย่ชิวหมิงไม่เข้าใจว่าซูชิงอู่หมายถึงอะไรซูชิงอู่พูดเสียงเรียบ “ท่านคือว่าที่ฮ่องเต้ของแคว้นหนานเย่ พวกเขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ท่านพอใจ ขอเพียงท่านทำตามที่หม่อมฉันพูด คนเหล่านั้นก็จะสนับสนุนท่านทุกวิถีทางเพคะ…”ดวงตาของเย่ชิวหมิงเป็นประกาย จากนั้นเขาก็พยักหน้าแรง ๆเช้าวันรุ่งขึ้น เย่ชิวหมิงเชิญพ่อค้าเศรษฐีที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงไปงานเลี้ยงที่หอจุ้ยชุนทุกคนที่ได้รับคำเชิญต่างก็มีความคิดที่ซับซ้อน และพวกเขาไม่เข้าใจว่าที่องค์รัชทายาททรงทำเช่นนี้นั้นหมายความว่าอย่างไรแต่พ่อค้าทุกคนล้วนมีใจที่ไม่บริสุทธิ์ พ่อค้าเหล่านี้เองก็ระวังตัวเช่นกัน พวกเขาได้เดาความจริงบางอย่างคร่าว ๆ ก่อนที่จะไปที่นั่นแล้วปัจจุบันคลังสมบัติของแผ่นดินว่างเปล่า และเนื่องจากผู้คนที่ประสบภัยแล้งทางตอนเหนือกำลังดิ้นรนหาเลี้ยงชีพ คำเชิญขององค์รัชทายาทที่ส่งถึงพวกเขาในเวลานี้จึงเป็นการปล้นทรัพย์สินของพวกเขาก็เท่านั้นทุกคนต่างหวาดกลัว แต่พวกเขาก็ไม่กล้าปฏิเสธเย่ชิวหมิงนั่งอยู่บนที่นั่งเจ้าบ้าน พลางมองพ่อค้าคหบดีที่มาถึงทีละคน พวกเขานั่งก้มหน้าโดยไม่มองอาหารบนโต๊ะด้วยซ้ำทันใดนั้นเขาก็ถอนหายใจเสีย

บทล่าสุด

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status