ตอนที่สิบสอง
มาอยู่ด้วยกัน
“เดินชมอย่างเดียวใช่หรือไม่” ไป่เหลียนฮวามองด้วยสายตาหวาดระแวง ด้วยเมื่อกลางวันชายหนุ่มพานางเดินชมสวนจนหัวสั่นตัวโยกไปหมด แต่นางไม่เห็นอันใดเลย
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า หรือเจ้าอยากทำอย่างอื่นด้วย” ชายหนุ่มหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นหญิงสาวออกอาการเช่นนั้น
“ไม่ ข้าเหนื่อยมาก ขอพักหน่อยเถิด”
ชายหนุ่มแซ่จ้าวจูงมือนุ่มเดินช้าๆ เพื่อชี้บอกถึงบริเวณต่างๆของบ้านด้วยรอยยิ้มจนคนรอบข้างซึ่งเฝ้ามองอยู่แปลกใจ
บ้านของเขาใหญ่โตพอสมควร มีห้องพักหลายห้อง มีโถงกลางรับแขก มีห้องอาหารที่พวกนางเพิ่งนั่งกินกันมา มีห้องครัวซึ่งนางเห็นเพียงอาหารวางอยู่แต่ไม่เห็นคนครัว และมีสวนและลานกว้างขวาง
“พรุ่งนี้เจ้าไปนำข้าวของส่วนตัวมาไม่ต้องมาก หากขาดเหลือสิ่งใดก็หาซื้อเอาใหม่ ข้าจะมอบเงินให้ใช้จ่าย เจ้าอยู่ที่นี่ได้ตามสบาย ไม่มีผู้ใดมาวุ่นวาย บางวันข้าอาจจะออกไปทำงาน กลับไม่เป็นเวลา แต่บางวันอาจจะสามารถอยู่กับเจ้าทั้งวัน”
“อ้อ...ที่นี่ไม่มีสาวใช้ เจ้าจะนำสาวใช้ส่
ตอนที่สิบสามเอาอกเอาใจชายแซ่เฉาล้มลงไปบนพื้นอย่างแรง ก่อนจะพบว่าตนเองมีเลือดกบปากจึงชี้หน้าคุณชายจ้าวเสียงสั่น“ข้าไม่จำเป็นต้องรู้ว่าเจ้าเป็นผู้ใด แต่หากเจ้ารู้ว่าข้าเป็นผู้ใดคงไม่กล้ามาชี้หน้าอยู่ตรงนี้แน่ ยามนี้ไป่เหลียนฮวาเป็นสตรีของข้า อยู่ในความดูแลของข้า ดังนั้นมันผู้ใดบังอาจมาว่าร้ายหรือทำให้นางขุ่นเคืองใจ ก็จะโดนอย่างที่เจ้าโดน” คุณชายจ้าวตอบเสียงหนักแน่น ก่อนจะมองด้วยสายตาดุดันชายผู้ติดตามของคุณชายจ้าวรีบก้าวเข้ามาพาพวกเราเดินจากไปอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันฝูงชนที่โอบล้อมเข้ามาเมื่อกลับมาถึงรถม้า ไป่เหลียนฮวาจึงซบลงบนอกแกร่งขณะเอ่ยขอบคุณด้วยความซาบซึ้งใจเขากล้าประกาศกลางกลุ่มคนว่านางเป็นสตรีของเขา นี่คงเป็นความโชคดีเพียงหนึ่งเดียวตั้งแต่ฟื้นตื่นขึ้นมาในร่างนี้เมื่อกลับมาถึงบ้านชานเมือง ชายหนุ่มปล่อยให้ไป่เหลียนฮวาและสาวใช้ได้ใช้เวลาจัดข้าวของส่วนตัว โดยเขาขอตัวออกไปด้านนอกพร้อมผู้ติดตามเมื่ออยู่ตามลำพัง ไป่เหลียนฮวาจึงเดินสำรวจรอบบ้านอย่างละเอียดอีกครั้งบ้านห
ตอนที่สิบสี่ กลืนกินนางช้อนตามองขึ้นจนเห็นว่าชายหนุ่มเริ่มลืมตาแล้ว จึงตั้งอกตั้งใจลูบล้างขึ้นๆลงๆอยู่ตรงจุดเดียว“เจ้ากำลังยั่วอารมณ์ข้า” ชายหนุ่มกดเสียงต่ำ“ข้าเพียงอยากล้างให้ดีเท่านั้น” หญิงสาวแก้ตัว“เหตุใดต้องล้างให้ดี”“ก่อนจะออกศึกก็ควรทำความสะอาดให้ดีมิใช่หรือ” หญิงสาวช้อนตามองอย่างหยอกล้อ“คุณชายจ้าวอย่าเพิ่งผลีผลาม ราตรีนี้ยังอีกยาวไกล”ไป่เหลียนฮวารีบเอ่ยห้ามเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเริ่มขยับตัวพร้อมจะจู่โจมเข้ามาชายหนุ่มชะงักร่างก่อนจะนั่งลงอย่างเดิมเพื่อให้โอกาสหญิงสาวได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่“ข้านวดให้ท่านดีหรือไม่” หญิงสาวเสนอก่อนจะเปลี่ยนมือไปวางไว้บนไหล่แทนเพื่อลดขนาดของมังกรน้อยลงก่อนชายหนุ่มนั่งหลับตาลงรับสัมผัสอันแสนสบาย ไป่เหลียนฮวานวดอย่างเต็มที่เพื่อให้ชายหนุ่มได้ผ่อนคลายอย่างแท้จริงจนน้ำเริ่มเย็น“พวกเราไปนวดกันต่อที่เตียงดีหรือไม่&rdq
ตอนที่สิบสี่ กลืนกินสุดท้ายมังกรแกร่งซึ่งอัดแน่นไปด้วยพลังงานก็ระเบิดน้ำลาวาไหลออกมาจนพุ่งเข้าใส่ปากของหญิงสาวอย่างพอดิบพอดี“อ๊ากกกกกก....”เสียงร้องอย่างสุดกลั้นของชายหนุ่มดังขึ้นยาวนาน“อุ๊ย!”เสียงตกใจของหญิงสาวยามน้ำขุ่นขาวพุ่งเข้าในปากอย่างไม่ทันตั้งตัวดังขึ้นเกือบจะพร้อมกันไป่เหลียนฮวาขยับปากออกเหลือเพียงมือซึ่งยังคงดึงขึ้นลงอย่างไม่ยอมหยุดจนชายหนุ่มต้องเอื้อมมือมาจับเอาไว้“ข้ายอมแพ้แล้ว” เขาจำเป็นต้องเอ่ยปาก“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เสียงหัวเราะอย่างนางมารร้ายดังขึ้น ก่อนที่ร่างงามจะขยับกลีบกุหลาบงามไปจ่อใบหน้าหล่อเหลาอีกครา“ถ้าเช่นนั้นคุณชายจ้าวคงต้องส่งให้ข้าขึ้นสวรรค์ตามไปก่อน”นางพยายามอดกลั้นอยู่นาน ถึงยามนี้นางขอมีความสุขอย่างเต็มที่บ้าง ชายหนุ่มยินยอมปฏิบัติตามแค่โดยดี ด้วยลิ้นร้อนและนิ้วมือเรียวซึ่งสอดใส่เข้าไปพร้อมกัน ไม่นานหญิงสาวก็เก
ตอนที่สิบห้า ทำโทษเสียงหวานร้องครวญครางอย่างทนความเสียวซ่านไม่ไหว ก่อนจะเกร็งกระตุกรัด เห็นสวรรค์อย่างเร่าร้อนท่อนเอ็นแกร่งยังคงไม่หยุดทำงาน เขาเร่งจังหวะตอกย้ำความเสียวซ่านจากแรงตอดรัดเสียงทุ้มต่ำเปล่งคำรามอย่างจวนเจียนจะถึงฝั่งฝัน ก่อนจะกระตุกหนักๆพร้อมปล่อยน้ำรักออกมาจนล้นท่วมสองขาเรียวพักหายใจได้ไม่ถึงหนึ่งเค่อ ชายหนุ่มก็จับร่างบางยกขาขึ้นพาดไว้บนไหล่แกร่งก่อนจะขยับสะโพกเข้าหาร่องดอกไม้งามซึ่งเริ่มบวมขึ้น เขาจับประคองขาของหญิงสาวเอาไว้ก่อนจะสอดใส่เข้าไปช้าๆ“โอว...” ไป่เหลียนฮวาถึงกับต้องร้องออกมาด้วยท่านี้แท่งหยกของเขาเข้าไปลึกมากจนนางรู้สึกจุกแน่นชายหนุ่มรอให้หญิงสาวได้ปรับตัวครู่หนึ่งก่อนจะขยับสะโพกเพื่อส่งแก่นกลางกายเข้าไปทักทายให้ลึกที่สุด เมื่อได้จังหวะจึงเพิ่มแรงกระแทกและความเร็วจนหญิงสาวถึงกับร้องออกมาไม่เป็นภาษา“อ๊ายยยยย....อา....”สะโพกงามลอยขึ้นตามแรงกระแทกกระทั้นและความเสียวซ่าน จนครึ่งตัวของร่างบางไม่ติดอยู่ก
ตอนที่สิบหก ตื่นจากฝันสุดท้ายคุณชายจ้าวก็ตัดสินใจให้อาเฉียนนำเงินไปให้ผู้ดูแลหอเริงรมย์เพื่อซื้อเวลาของไป่เหลียนฮวาต่อ โดยกำชับให้นางรอเขาอยู่ที่บ้านชานเมือง โดยทิ้งอาเฉียนเอาไว้นัยหนึ่งก็เพื่อเฝ้าดูแลนาง แต่อีกนัยหนึ่งก็เพื่อสืบความต่อในเมืองแห่งนี้ไป่เหลียนฮวาใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังน้อยอย่างเงียบเหงา บ้านหลังนี้อยู่ห่างไกลผู้คนมาก จึงเหมือนว่านางโดนทิ้งอยู่เพียงลำพังยังดีที่นางสามารถร้องขอสิ่งใดก็ได้จากอาเฉียน หากไม่เหลือบ่ากว่าแรงเขาก็มักจะไปจัดหามาให้หลังจากคุณชายจ้าวจากไปแล้ว อาหารการกินจึงกลายเป็นหน้าที่ของสาวใช้อาหนิงโดยอาเฉียนเป็นผู้นำวัตถุดิบมาส่งให้ชีวิตของไป่เหลียนฮวาจึงผ่านไปอย่างเรียบง่ายและสุขสงบถึงจะน่าเบื่อ แต่ก็ดีกว่าอยู่ที่หอเริงรมย์ ต้องโดนแขวนป้ายขายร่างกายให้เหล่าชายหนุ่มมากหน้าหลายตา ไป่เหลียนฮวาครุ่นคิดอย่างปลอบใจตนเอง นางพยายามหาเรื่องทำเพื่อให้ตนเองไม่ฟุ้งซ่าน อย่างเช่นยามนี้ซึ่งนางนั่งอ่านหนังสือทำความเข้าใจประวัติศาสตร์ของแคว้นนี้อยู่“คุณหนูเจ้าขา”
ตอนที่สิบเจ็ด สืบหาเมื่อหมดเรื่องไป่เหลียนฮวาจึงขอตัวกลับไปอย่างเคร่งเครียด นางควรจะต้องคิดแผนว่าจะสืบเรื่องของท่านพ่อผู้ล่วงลับไปอย่างไร หากเขาโดนหลอกลวงจนทำผิดจริง ไม่แน่โทษอาจจะได้รับการลดหย่อนลงบ้างก็เป็นได้หลังจากนั้นไป่เหลียนฮวาก็ทำทีมีของฝากไปให้มารดาและพี่น้องอยู่ทุก3-4วันเพื่อให้พี่สาวคนรองได้ส่งข่าวความคืบหน้ามา ไป่เหม่ยฮวาพี่สาวรองเล่ามาว่า ลุงกู่มาหาพวกนางทุก2-3วัน แม้แต่ท่านป้าผู้ดูแลยังอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาร่ำรวยมาจากที่ใดจึงมีเงินทองใช้จ่ายอย่างมือเติบเช่นนี้ จากการเอ่ยถามยามร่วมรักซึ่งลุงกู่ผู้นี้มักปล่อยตัวพูดจาหยามเกียรติหญิงสาวใต้ร่างอย่างลำพองใจ สุดท้ายพี่สาวรองก็ได้ความมาว่าผู้ที่อยู่ใต้แผนการนี้แซ่ลู่&n
ตอนที่สิบแปด หลักฐาน หลังจากวันนั้น พวกเขาเข้าใจว่าเรื่องคงจบลงอย่างที่ควรเป็นจึงไม่ได้ใส่ใจหญิงสาวนางนี้นัก ผู้ใดจะคิดว่าองค์ชายกลับพานางมาพักอยู่ที่แหล่งกบดานลับของพวกเขา สองหนุ่มสาวใช้ชีวิตร่วมกันอย่างหวานชื่น องค์ชายของพวกเขามีอารมณ์ที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขาหัวเราะเสียงดัง ยิ้มแย้มแจ่มใส กินอาหารได้มาก และลดความเครียดลงอย่างที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน นั่นทำให้หัวหน้าองครักษ์อย่างพี่เซินพยายามยืดเวลากลับเมืองหลวงออกไปเรื่อยๆเพื่อให้องค์ชายได้มีชีวิตอันแสนสุขบ้าง แต่เมื่อมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น องค์ชายและพรรคพวกจึงต้องรีบกลับไป แต่องค์ชายกลับทิ้งเขาเอาไว้เฝ้าหญิงสาวนางนี้&nbs
ตอนที่สิบแปด หลักฐาน ผ่านไปหลายวัน จนไป่เหม่ยฮวาส่งจดหมายมาสอบถามความคืบหน้าอยู่หลายฉบับก็ยังไม่มีข่าวคราวจากคุณชายจ้าว ไป่เหลียนฮวาละอายใจกับพี่สาวคนรองอย่างมาก จึงคิดจะเข้าไปสืบหาหลักฐานด้วยตนเองที่จวนสกุลกู่ “เจ้ากำลังจะไปที่ใดหรือ” คุณชายจ้าวเดินเข้ามาเมื่อเห็นหญิงสาวแต่งกายงดงามอย่างกับจะไปยั่วยวนชายอื่น “คุณชายจ้าว ท่านมาแล้ว” ไป่เหลียนฮวาลืมสิ้นว่าตนเองกำลังจะทำอันใด นางวิ่งโผเข้าไปกอดเขาแน่นด้วยความคิดถึงห่วงหา&n
ไป่เหลียนฮวาดูแลเช็ดตัวป้อนยาจนองค์ชายหนุ่มนอนหลับไปด้วยฤทธิ์ยา นางจึงได้ทรุดตัวลงนอนข้างเตียงโดยไม่ยอมห่าง กลางดึกองค์ชายหนุ่มมีไข้สูงอย่างที่หมอบอกเอาไว้ หญิงสาวจึงเฝ้าเช็ดตัวให้ตลอดคืนอย่างห่วงใย ผ่านไปเพียงสองวันอาการขององค์ชายหนุ่มก็ดีขึ้น หญิงสาวค่อยคลายใจลงบ้าง นางให้อาเฉียนไปส่งข่าวที่บ้านสกุลไป่แล้ว จึงยังไม่คิดจะกลับไปโดยง่าย หญิงสาวอยากดูแลเขาอย่างใกล้ชิด จนแน่ใจว่าเขาปลอดภัย “เจ้าเหนื่อยหรือไม่” องค์ชายหนุ่มถามขึ้นเมื่อเห็นว่าหญิงสาวดูแลเขาโดยไม่ได้พักผ่อน “ไม่เจ้าค่ะ ข้าอยากดูแลท่าน” หญิงสาวเอ่ยจากใจจริง “เจ้าช่างเหมือนเดิม ไม่เคยถามไถ่ให้วุ่นวาย เพียงทำหน
ตอนที่สามสิบบาดเจ็บไป่เหลียนฮวารอฟังข่าวจากสาวใช้อาหนิงก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความสาแก่ใจเพียงเท่านี้ชื่อเสียงของชายแซ่เฉาก็คงป่นปี้จนต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะเรียกคืนมาได้ แม้เขาจะพยายามอธิบายอย่างไรก็ไม่มีผู้ใดใส่ใจจะฟังด้วยสภาพความอุจาดตาของเขามีผู้พบเห็นมากมายการที่ไป่เหลียนฮวากล้าทำถึงเพียงนี้ก็ด้วยมั่นใจว่าหากมีข้อผิดพลาดขึ้นมา อาเฉียนคงรีบเข้ามาช่วยนางอย่างแน่นอนขณะที่ไป่เหลียนฮวานั่งยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี จู่ๆอาเฉียนก็พุ่งร่างเข้ามาอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“แม่นางไป่ รีบไปกับข้าเร็วเข้า”ไป่เหลียนวิ่งตามเขาออกมาอย่างรวดเร็วโดยยังไม่ทันได้ถามไถ่“เกิดเหตุใดขึ้นหรือ” นางเพิ่งได้ถามขณะปืนขึ้นรถม้าซึ่งนำมาจอดไว้ด้านหลัง“องค์ชายโดยลอบทำร้ายได้รับบาดเจ็บ”ไป่เหลียนฮวาทรุดตัวลงนั่งจนกระแทกกับผนังรถม้า นางรู้สึกดั่งมีดกรีดกลางใจองค์ชาย คุณชายจ้าว เขาโดนทำร้ายได้รับบาดเจ็บ เขาจะเป็นอย่างไรบ้าง หญิงสาวรีบเปิดผ้า
ไป่เหลียนฮวาทรุดลงนั่งหายใจเร็วแรงด้วยความโกรธ นางยังไม่เคยแก้แค้นที่เขาใจร้ายใจดำจนเจ้าของร่างนี้ต้องตรอมใจจนตาย แต่เขากลับมาหยามเกียรติดูหมิ่นนางถึงเพียงนี้ ในเมื่อไม่รู้สำนึก ก็อย่าหาว่านางใจร้ายก็แล้วกัน ไป่เหลียนฮวาคิดวางแผนในใจอย่างเงียบๆ จนแน่ใจว่าน่าจะไม่มีช่องโหว่ จึงเรียกสาวใช้อาหนิงมาซักซ้อมทำความเข้าใจ “คุณหนูสามจะทำเช่นนี้จริงหรือเจ้าคะ” “ข้าไม่เคยคิดแก้แค้นเขามาก่อน แต่เขากลับไม่ยอมปล่อย ยังคงมาแว้งกัดอยู่อย่างที่เจ้าเห็น หากไม่สั่งสอนเสียบ้าง จะต้องทนปล่อยให้เขามาหยามเก
พวกเขาทั้งสองคงไม่คิดว่าจะมีผู้ใดกลับบ้านมา จึงกล้าบรรเลงเพลงรักกันกลางบ้านเช่นนี้ ไป่เหลียนฮวาได้แต่ยืนหลบอยู่ด้วยไม่อยากให้พวกเขาเห็น แต่นางก็ไม่กล้าขยับออกไปด้วยพวกเขาเดินโยกกระแทกกันมาจนใกล้ถึงจุดที่นางยืนอยู่แล้ว ใช่ พวกเขาเดินไปโยกกระแทกกันไป โดยพี่หญิงรองของนางหันหลังยกสะโพกลอยส่งให้พี่หานสอดกระแทกเข้าใส่อย่างเหมาะเจาะ ชายหนุ่มบีบเคล้นขยี้เต้าทรวงอวบของพี่สาวรองของนางอย่างเต็มแรง ขณะโยกส่วนล่างกระแทกด้วยความรุนแรง “เจ้าช่างตอดรัดยิ่งนัก โอ๊ย...ข้าไม่ไหวแล้ว” เสียงครางต่ำของชายหนุ่มร้องออกมา ก่อนที่พี่สาวของนางจะกรีดร้องตาม เฮ้อ...พวกเขาเสร็จสมกันเสียที นางคงหาโอกาสหลบออกไปได้
ตอนที่ยี่สิบแปดทำมาหากิน“ท่านเจ้าของร้าน พวกเราขอถามสักหน่อยได้หรือไม่”ไป่เหลียนฮวาตัดสินใจสอบถามข้อมูลการค้าจากเขา “ได้เลยขอรับคุณหนู” “ข้ากับพี่สาวคิดอยากเปิดการค้าสักอย่าง แต่พวกเราไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ท่านมีคำแนะนำดีดีบ้างหรือไม่” “ตลาดในเมืองนี้สิ่งที่ขายดีที่สุดแน่นอนว่าย่อมเป็นอาหารการกิน ส่วนเสื้อผ้าแพรพรรณ ของใช้สตรีล้วนอยู่ในมือของตระกูลใหญ่ พวกคุณหนูไม่เคยทำการค้าใดมาก่อน ไม่ควรไปต่อกรกับตระกูลใหญ่เหล่านั้น ข้าคิดว่าท่านลองเปิดร้านอาหารหรือขนมน้ำชาอย่างข้าก็ได้ แม้จะเป็นเพียงร้านเล็กๆแต่ก็พออยู่ได้มีกำไรพอควรนะขอรับ” ชายเจ้าของร้านรีบแนะนำอย่างหวังดี&
ตอนที่ยี่สิบเจ็ดไปอยู่ด้วยกันไหม“ข้ารู้ว่ายามนี้เจ้าเป็นอิสระแล้ว อาจมีชายหนุ่มมากมายมาติดพันและสู่ขอเจ้าไปเป็นภรรยา ครั้งนี้หากข้าไม่พาเจ้าไปอยู่ด้วย คราหน้าพวกเราคงไม่สามารถพบกันได้อีก เพียงคิดว่าเจ้าจะกลายไปเป็นภรรยาของชายอื่น ข้าก็ไม่อาจทนไหว เหลียนฮวาเจ้าจะยอมไปอยู่กับข้าหรือไม่” ไป่เหลียนฮวารู้สึกสับสนลังเลใจ ใช่ว่านางจะไม่อยากไปอยู่กับเขา นั่นเป็นความใฝ่ฝันของนางมาโดยตลอด แต่นางไม่อยากเข้าไปอยู่ในวังวนอันยุ่งยาก การเข้าไปอยู่ในวังหลวง เป็นอนุขององค์ชายรัชทายาท มิใช่การพาตัวเองเข้าไปอยู่ใจกลางความวุ่นวาย การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น และการโดนลอบทำร้ายหรอกหรือ หากชายหนุ่มเป็นเพียงสามัญชนธรรมดา นางจะไม่เสียเวลาคิดแม้แต่น้อยคงรีบเก็บผ้าผ่อนตามเขาไปอย่างรวดเร็ว 
ตอนที่ยี่สิบเจ็ดไปอยู่ด้วยกันไหม“เอาเถอะ ไป่เหลียนฮวา ข้ายอมรับว่าชอบเจ้า ไม่เช่นนั้นคงไม่หาเวลาไปอยู่กับเจ้าตั้งนาน และคงไม่พาเจ้ามาด้วย พอใจหรือยัง” “ท่าน ชอบข้า ข้าก็ชอบท่าน” ไป่เหลียนฮวาสารภาพความในใจไปอย่างไม่รั้งรอ องค์ชายรัชทายาทแล้วอย่างไร เขาชอบนาง นางก็ชอบเขา พวกเราชอบกัน ขอเพียงได้มีเวลาอยู่ด้วยกันบ้าง เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว เมื่อต้องพำนักอยู่ในที่พักเชิงเขาหลายวัน องค์ชายจ้าวหลงเทียนจึงให้ขันทีผู้ดูแลที่พักจัดหาข้าวของเครื่อ
ตอนที่ยี่สิบหกองค์ชายรัชทายาทจ้าวหลงเทียนก้าวเข้ามาอุ้มหญิงสาวเดินออกไปอย่างรวดเร็วก่อนจะส่งนางขึ้นไปบนม้าอีกครั้ง เขากระโดดขึ้นมาซ้อนด้านหลังโอบกอดร่างบางเอาไว้แล้วควบขี่ออกไปอย่างช่ำชอง ขบวนเล็กๆของพวกนางขี่ม้ากันมาเกือบสองชั่วยามกว่าจะถึงที่พักเชิงเขาที่พวกเขาพูดถึง จ้าวหลงเทียนอุ้มหญิงสาวลงมา แต่ไป่เหลียนฮวายืนไม่อยู่แล้วด้วยความปวดเมื่อยไปหมดทั้งร่าง ชายหนุ่มจึงตัดสินใจอุ้มร่างบางก้าวยาวๆเข้าที่พักไปอย่างเร็วชายหนุ่มพาหญิงสาวไปนอนพักในห้องก่อนที่จะออกไปพูดคุยกับองครักษ์และทหารติดตาม “คนกลุ่มนั้นรู้ได้อย่างไรว่าพวกเราจะผ่านทางนั้น”
ตอนที่ยี่สิบห้าลอบโจมตีองครักษ์คนสนิทของเขาถึงกับชะงักเมื่อเขาบอกว่าจะพาไป่เหลียนฮวาเดินทางไปด้วย ด้วยพวกเขาต้องเปลี่ยนแผนจากการขี่ม้าเป็นนั่งรถม้าแทนซึ่งต้องใช้เวลามากขึ้น “พานางไปด้วยก็ดีจะได้ไม่ผิดสังเกตมากนัก พวกอ๋องฉีคงไม่คาดว่าข้าจะนั่งรถม้าไปอย่างเชื่องช้าโดยมีหญิงสาวไปด้วย” จ้างหลงเทียนพยายามหาเหตุผล “กระหม่อมจะไปเตรียมรถม้าพ่ะย่ะค่ะ” อาเฉียนซึ่งคุ้นเคยกับไป่เหลียนฮวามากกว่าใคร รีบเดินออกไป พวกเขารู้ดีว่าองค์ชายรัชทายาทโปรดปรานสตรีนางนี้มากเพียงใด แต่การพานางไปด้วยไม่น่าจะใช่ความคิดที่ดีนัก แต่ในเมื่อเป็นรับสั่งขององค