ตอนที่สิบเจ็ด สืบหา
เมื่อหมดเรื่องไป่เหลียนฮวาจึงขอตัวกลับไปอย่างเคร่งเครียด
นางควรจะต้องคิดแผนว่าจะสืบเรื่องของท่านพ่อผู้ล่วงลับไปอย่างไร หากเขาโดนหลอกลวงจนทำผิดจริง ไม่แน่โทษอาจจะได้รับการลดหย่อนลงบ้างก็เป็นได้
หลังจากนั้นไป่เหลียนฮวาก็ทำทีมีของฝากไปให้มารดาและพี่น้องอยู่ทุก3-4วันเพื่อให้พี่สาวคนรองได้ส่งข่าวความคืบหน้ามา
ไป่เหม่ยฮวาพี่สาวรองเล่ามาว่า ลุงกู่มาหาพวกนางทุก2-3วัน แม้แต่ท่านป้าผู้ดูแลยังอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาร่ำรวยมาจากที่ใดจึงมีเงินทองใช้จ่ายอย่างมือเติบเช่นนี้
จากการเอ่ยถามยามร่วมรักซึ่งลุงกู่ผู้นี้มักปล่อยตัวพูดจาหยามเกียรติหญิงสาวใต้ร่างอย่างลำพองใจ สุดท้ายพี่สาวรองก็ได้ความมาว่าผู้ที่อยู่ใต้แผนการนี้แซ่ลู่
&n
ตอนที่สิบแปด หลักฐาน หลังจากวันนั้น พวกเขาเข้าใจว่าเรื่องคงจบลงอย่างที่ควรเป็นจึงไม่ได้ใส่ใจหญิงสาวนางนี้นัก ผู้ใดจะคิดว่าองค์ชายกลับพานางมาพักอยู่ที่แหล่งกบดานลับของพวกเขา สองหนุ่มสาวใช้ชีวิตร่วมกันอย่างหวานชื่น องค์ชายของพวกเขามีอารมณ์ที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขาหัวเราะเสียงดัง ยิ้มแย้มแจ่มใส กินอาหารได้มาก และลดความเครียดลงอย่างที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน นั่นทำให้หัวหน้าองครักษ์อย่างพี่เซินพยายามยืดเวลากลับเมืองหลวงออกไปเรื่อยๆเพื่อให้องค์ชายได้มีชีวิตอันแสนสุขบ้าง แต่เมื่อมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น องค์ชายและพรรคพวกจึงต้องรีบกลับไป แต่องค์ชายกลับทิ้งเขาเอาไว้เฝ้าหญิงสาวนางนี้&nbs
ตอนที่สิบแปด หลักฐาน ผ่านไปหลายวัน จนไป่เหม่ยฮวาส่งจดหมายมาสอบถามความคืบหน้าอยู่หลายฉบับก็ยังไม่มีข่าวคราวจากคุณชายจ้าว ไป่เหลียนฮวาละอายใจกับพี่สาวคนรองอย่างมาก จึงคิดจะเข้าไปสืบหาหลักฐานด้วยตนเองที่จวนสกุลกู่ “เจ้ากำลังจะไปที่ใดหรือ” คุณชายจ้าวเดินเข้ามาเมื่อเห็นหญิงสาวแต่งกายงดงามอย่างกับจะไปยั่วยวนชายอื่น “คุณชายจ้าว ท่านมาแล้ว” ไป่เหลียนฮวาลืมสิ้นว่าตนเองกำลังจะทำอันใด นางวิ่งโผเข้าไปกอดเขาแน่นด้วยความคิดถึงห่วงหา&n
ตอนที่สิบเก้า พูดคุยกัน สองหนุ่มสาวคลอเคลียกันในอ่างน้ำเพื่อปลุกเร่าอารมณ์กันจนร้อนแรง ชายหนุ่มจับร่างงามพาดกับขอบอ่างก่อนจะยืนขึ้นสอดใส่แก่นกายแกร่งลงไปโดยไม่รอช้า “โอว....” ไป่เหลียนฮวาร้องเสียงหลงเพราะไม่ทันได้เตรียมตัวเขาช่างสอดใส่ได้ทุกท่วงท่าเสียจริง หญิงสาวเอื้อมมือไปเท้ากับพื้นเพราะชายหนุ่มสอดใส่มาจากด้านหลังจนหน้าของนางคะมำลงไป ด้วยท่านี้หัวของนางจึงต้องคว่ำลงโยกจนหัวสั่นหัวคลอนตามแรงกระแทกอย่างน่าเวียนหัว “พอแล้วเจ้าคะ ข้าเวียนหัว” ไป่เหลียนฮวาทนไม่ไหวต้องร้องขอเปลี่ยนท่วงท่า
ตอนที่ยี่สิบสรุปว่าคุณชายจ้าวออกไปแต่เช้าเช่นเคย กว่าจะกลับก็เย็นย่ำ เขาเข้ามาเติมพลังรักอย่างเร่าร้อนในทุกค่ำคืน “ข้าขอเติมพลังจากเจ้าให้มากสักหน่อย พรุ่งนี้พวกเราจะเผด็จศึกเจ้าเมืองแซ่ลู่ผู้นั้นแล้ว” เมื่อได้ยินเช่นนั้นมีหรือที่ไป่เหลียนฮวาจะปฏิเสธ นางทุ่มเทแรงกายแรงใจเติมพลังให้ชายหนุ่มอย่างเต็มที่เพื่อหวังให้เขาจัดการเจ้าเมืองลู่คนนั้นอย่างสาสม หลังผ่านค่ำคืนอันดุเดือด แม้ไป่เหลียนฮวาจะรู้สึกเหนื่อยอ่อนเมื่อยร่างอยู่บ้างแต่นางกลับตื่นเต้นจนต้องลุกขึ้นเดินไปมาไม่หยุดทั้งวัน ป่านนี้พวกเขาจะจัดการเจ้าเมืองลู่นั่นได้หรื
ตอนที่ยี่สิบเอ็ดข่าวดีไป่เหลียนฮวาเดินไปโค้งให้ไป่เหม่ยฮวาเพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ว่าเรื่องนี้ ผู้ที่ลงแรงมากที่สุดก็คือนาง เรื่องขุนนางสกุลกู่ อาหนิงได้เล่าให้พวกเขาฟังบ้างแล้ว จึงมีแต่ผู้สาปแช่งอดีตเพื่อนสนิทของสามีอย่างเคียดแค้น “ขอให้ไอ้ชั่วแซ่กู่นั่นโดนประหารตายตามท่านพี่ไป” “แล้วพวกเราเล่า พวกเราล้วนแขวนป้ายขายเรือนร่างกันไปแล้ว จะเรียกร้องสิ่งใดกลับคืนมาได้บ้าง” ไป่อิงฮวาเอ่ยทั้งน้ำตา นางเพิ่งโดนแขวนป้ายไปเมื่อไม่นานหลังจากที่มีบรรดาชายหนุ่มเรียกร้องให้ไป่เหลียนฮวาออกมาแขวนป้ายหลังจากเปิดประมูลไปหลายวันแล้ว แต่ด้วยการซื้
ตอนที่ยี่สิบสองรับรางวัลเมื่อออกมายังโถงกลาง นางจุดกลิ่นหอมหวานจนทั่วอย่างไม่เสียดาย เขาทุ่มเทช่วยเหลือนางถึงเพียงนี้ นางจะให้รางวัลเขาน้อยเกินไปได้อย่างไร หญิงสาวออกไปเก็บดอกไม้สวยจากในสวนเข้ามาจัดแต่งอย่างงดงาม ก่อนจะริดกลีบดอกไม้สวยไปโปรยในอ่างน้ำเพื่อรอท่าชายหนุ่ม เสียดายที่ไม่มีเสียงเพลงไพเราะ แต่ไม่เป็นไร นางจะร้องเอง เมื่อจัดเตรียมเรียบร้อย หญิงสาวจึงเข้าไปเตรียมเตียงนอนและผ้าผ่อนเพื่อทำความสะอาดร่างกายให้พร้อม ราตรีนี้นางคงไม่ได้นอน ดัง
ตอนที่ยี่สิบสามช่างยั่วเย้ายิ่งนักหญิงสาวเริ่มเอ่ยปากต่อรอง “ข้าขอไปผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีหรือไม่” “มิจำเป็นหรอก ถึงอย่างไรก็ต้องถอดออกทั้งหมดอยู่ดี” “ข้าขอออกไปนำเครื่องหอมมาจุดก่อนนะเจ้าคะ” “เพียงดอกไม้ทั่วห้องนี้ก็หอมมากแล้ว” “เช่นนั้น ข้าขอตั้งสติสักครู่” ไป่เหลียนฮวาถอยออกมาตั
ตอนที่ยี่สิบสี่ออกเดินทางยามนี้มิใช่ค่ำคืน แสงสว่างยังคงจ้าถึงพวกนี้ พวกเขาเปลือยกายเดินไปทั่วเช่นนี้คงไม่ดีนักชายหนุ่มหาใส่ใจไม่ เขาสั่งการให้ทุกผู้คนถอยห่างไปหมดแล้ว เพียงเสียงดังของพวกเขาก็ไม่มีผู้ใดกล้าแอบดูแล้วเขาเดินอุ้มร่างบางโยกคลึงไปทั่วบ้าน ไม่นานนางก็เปล่งเสียงร้องออกมา“เหตุใดจึงไม่รอข้าก่อน” ชายหนุ่มกล่าวหาก่อนจะเดินกระแทกกระทั้นไปจนถึงเตียงนอนเขาวางร่างบางลงโดยยกขาขึ้นสูงแล้วกระแทกต่ออย่างไม่ยั้ง“โอว....”น้ำขุ่นขาวไหลลงไปตามร่องขาเรียวงามชายหนุ่มปล่อยให้ร่างบางนอนพักเพียงครู่ก่อนจะอุ้มนางขึ้นมาเพื่อรับรางวัลต่อกว่าจะหมดแรงด้วยกันทั้งคู่ก็บ่ายคล้อยแล้ว“ข้าขอพักกินอาหารก่อนได้หรือไม่”ไป่เหลียนฮวาขอเวลาพักด้วยนางต่อสู้กับเขาจนแทบขาดใจแล้วการรับรางวัลพักไปไม่นานก็เริ่มขึ้นอีก กว่าจะได้หลับนอนกันก็ค่ำมืดดึกดื่นแล้ว&nb
ตอนที่สามสิบเอ็ดป้อนรางวัลหญิงสาวใช้สองมือเรียวประคองมังกรแกร่งซึ่งขยายใหญ่จนคับมือให้ขึ้นลงเป็นจังหวะก่อนที่นางจะเลียไปรอบข้างเพื่อปลุกเร้าให้มากขึ้น นางสลับดูดกลืนกับการใช้มือประคองขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ เดี๋ยวเร็วเดี๋ยวช้า สุดท้ายชายหนุ่มก็ทนไม่ไหวร้องครางออกมาพร้อมน้ำขุ่นขาวพ่นแรงจนเปื้อนใบหน้างาม หญิงสาวนำผ้ามาเช็ดน้ำรักออกจากใบหน้าและทำความสะอาดแท่งหฤหรรษ์ซึ่งพ่นพิษออกมาแล้ว ก่อนจะเงยหน้าสบตาท้าทายอีก “ต่ออีกไหมเจ้าคะ” ชายหนุ่มรีบพยักหน้ารัวเร็ว&nb
ไป่เหลียนฮวาดูแลเช็ดตัวป้อนยาจนองค์ชายหนุ่มนอนหลับไปด้วยฤทธิ์ยา นางจึงได้ทรุดตัวลงนอนข้างเตียงโดยไม่ยอมห่าง กลางดึกองค์ชายหนุ่มมีไข้สูงอย่างที่หมอบอกเอาไว้ หญิงสาวจึงเฝ้าเช็ดตัวให้ตลอดคืนอย่างห่วงใย ผ่านไปเพียงสองวันอาการขององค์ชายหนุ่มก็ดีขึ้น หญิงสาวค่อยคลายใจลงบ้าง นางให้อาเฉียนไปส่งข่าวที่บ้านสกุลไป่แล้ว จึงยังไม่คิดจะกลับไปโดยง่าย หญิงสาวอยากดูแลเขาอย่างใกล้ชิด จนแน่ใจว่าเขาปลอดภัย “เจ้าเหนื่อยหรือไม่” องค์ชายหนุ่มถามขึ้นเมื่อเห็นว่าหญิงสาวดูแลเขาโดยไม่ได้พักผ่อน “ไม่เจ้าค่ะ ข้าอยากดูแลท่าน” หญิงสาวเอ่ยจากใจจริง “เจ้าช่างเหมือนเดิม ไม่เคยถามไถ่ให้วุ่นวาย เพียงทำหน
ตอนที่สามสิบบาดเจ็บไป่เหลียนฮวารอฟังข่าวจากสาวใช้อาหนิงก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความสาแก่ใจเพียงเท่านี้ชื่อเสียงของชายแซ่เฉาก็คงป่นปี้จนต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะเรียกคืนมาได้ แม้เขาจะพยายามอธิบายอย่างไรก็ไม่มีผู้ใดใส่ใจจะฟังด้วยสภาพความอุจาดตาของเขามีผู้พบเห็นมากมายการที่ไป่เหลียนฮวากล้าทำถึงเพียงนี้ก็ด้วยมั่นใจว่าหากมีข้อผิดพลาดขึ้นมา อาเฉียนคงรีบเข้ามาช่วยนางอย่างแน่นอนขณะที่ไป่เหลียนฮวานั่งยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี จู่ๆอาเฉียนก็พุ่งร่างเข้ามาอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“แม่นางไป่ รีบไปกับข้าเร็วเข้า”ไป่เหลียนวิ่งตามเขาออกมาอย่างรวดเร็วโดยยังไม่ทันได้ถามไถ่“เกิดเหตุใดขึ้นหรือ” นางเพิ่งได้ถามขณะปืนขึ้นรถม้าซึ่งนำมาจอดไว้ด้านหลัง“องค์ชายโดยลอบทำร้ายได้รับบาดเจ็บ”ไป่เหลียนฮวาทรุดตัวลงนั่งจนกระแทกกับผนังรถม้า นางรู้สึกดั่งมีดกรีดกลางใจองค์ชาย คุณชายจ้าว เขาโดนทำร้ายได้รับบาดเจ็บ เขาจะเป็นอย่างไรบ้าง หญิงสาวรีบเปิดผ้า
ไป่เหลียนฮวาทรุดลงนั่งหายใจเร็วแรงด้วยความโกรธ นางยังไม่เคยแก้แค้นที่เขาใจร้ายใจดำจนเจ้าของร่างนี้ต้องตรอมใจจนตาย แต่เขากลับมาหยามเกียรติดูหมิ่นนางถึงเพียงนี้ ในเมื่อไม่รู้สำนึก ก็อย่าหาว่านางใจร้ายก็แล้วกัน ไป่เหลียนฮวาคิดวางแผนในใจอย่างเงียบๆ จนแน่ใจว่าน่าจะไม่มีช่องโหว่ จึงเรียกสาวใช้อาหนิงมาซักซ้อมทำความเข้าใจ “คุณหนูสามจะทำเช่นนี้จริงหรือเจ้าคะ” “ข้าไม่เคยคิดแก้แค้นเขามาก่อน แต่เขากลับไม่ยอมปล่อย ยังคงมาแว้งกัดอยู่อย่างที่เจ้าเห็น หากไม่สั่งสอนเสียบ้าง จะต้องทนปล่อยให้เขามาหยามเก
พวกเขาทั้งสองคงไม่คิดว่าจะมีผู้ใดกลับบ้านมา จึงกล้าบรรเลงเพลงรักกันกลางบ้านเช่นนี้ ไป่เหลียนฮวาได้แต่ยืนหลบอยู่ด้วยไม่อยากให้พวกเขาเห็น แต่นางก็ไม่กล้าขยับออกไปด้วยพวกเขาเดินโยกกระแทกกันมาจนใกล้ถึงจุดที่นางยืนอยู่แล้ว ใช่ พวกเขาเดินไปโยกกระแทกกันไป โดยพี่หญิงรองของนางหันหลังยกสะโพกลอยส่งให้พี่หานสอดกระแทกเข้าใส่อย่างเหมาะเจาะ ชายหนุ่มบีบเคล้นขยี้เต้าทรวงอวบของพี่สาวรองของนางอย่างเต็มแรง ขณะโยกส่วนล่างกระแทกด้วยความรุนแรง “เจ้าช่างตอดรัดยิ่งนัก โอ๊ย...ข้าไม่ไหวแล้ว” เสียงครางต่ำของชายหนุ่มร้องออกมา ก่อนที่พี่สาวของนางจะกรีดร้องตาม เฮ้อ...พวกเขาเสร็จสมกันเสียที นางคงหาโอกาสหลบออกไปได้
ตอนที่ยี่สิบแปดทำมาหากิน“ท่านเจ้าของร้าน พวกเราขอถามสักหน่อยได้หรือไม่”ไป่เหลียนฮวาตัดสินใจสอบถามข้อมูลการค้าจากเขา “ได้เลยขอรับคุณหนู” “ข้ากับพี่สาวคิดอยากเปิดการค้าสักอย่าง แต่พวกเราไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ท่านมีคำแนะนำดีดีบ้างหรือไม่” “ตลาดในเมืองนี้สิ่งที่ขายดีที่สุดแน่นอนว่าย่อมเป็นอาหารการกิน ส่วนเสื้อผ้าแพรพรรณ ของใช้สตรีล้วนอยู่ในมือของตระกูลใหญ่ พวกคุณหนูไม่เคยทำการค้าใดมาก่อน ไม่ควรไปต่อกรกับตระกูลใหญ่เหล่านั้น ข้าคิดว่าท่านลองเปิดร้านอาหารหรือขนมน้ำชาอย่างข้าก็ได้ แม้จะเป็นเพียงร้านเล็กๆแต่ก็พออยู่ได้มีกำไรพอควรนะขอรับ” ชายเจ้าของร้านรีบแนะนำอย่างหวังดี&
ตอนที่ยี่สิบเจ็ดไปอยู่ด้วยกันไหม“ข้ารู้ว่ายามนี้เจ้าเป็นอิสระแล้ว อาจมีชายหนุ่มมากมายมาติดพันและสู่ขอเจ้าไปเป็นภรรยา ครั้งนี้หากข้าไม่พาเจ้าไปอยู่ด้วย คราหน้าพวกเราคงไม่สามารถพบกันได้อีก เพียงคิดว่าเจ้าจะกลายไปเป็นภรรยาของชายอื่น ข้าก็ไม่อาจทนไหว เหลียนฮวาเจ้าจะยอมไปอยู่กับข้าหรือไม่” ไป่เหลียนฮวารู้สึกสับสนลังเลใจ ใช่ว่านางจะไม่อยากไปอยู่กับเขา นั่นเป็นความใฝ่ฝันของนางมาโดยตลอด แต่นางไม่อยากเข้าไปอยู่ในวังวนอันยุ่งยาก การเข้าไปอยู่ในวังหลวง เป็นอนุขององค์ชายรัชทายาท มิใช่การพาตัวเองเข้าไปอยู่ใจกลางความวุ่นวาย การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น และการโดนลอบทำร้ายหรอกหรือ หากชายหนุ่มเป็นเพียงสามัญชนธรรมดา นางจะไม่เสียเวลาคิดแม้แต่น้อยคงรีบเก็บผ้าผ่อนตามเขาไปอย่างรวดเร็ว 
ตอนที่ยี่สิบเจ็ดไปอยู่ด้วยกันไหม“เอาเถอะ ไป่เหลียนฮวา ข้ายอมรับว่าชอบเจ้า ไม่เช่นนั้นคงไม่หาเวลาไปอยู่กับเจ้าตั้งนาน และคงไม่พาเจ้ามาด้วย พอใจหรือยัง” “ท่าน ชอบข้า ข้าก็ชอบท่าน” ไป่เหลียนฮวาสารภาพความในใจไปอย่างไม่รั้งรอ องค์ชายรัชทายาทแล้วอย่างไร เขาชอบนาง นางก็ชอบเขา พวกเราชอบกัน ขอเพียงได้มีเวลาอยู่ด้วยกันบ้าง เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว เมื่อต้องพำนักอยู่ในที่พักเชิงเขาหลายวัน องค์ชายจ้าวหลงเทียนจึงให้ขันทีผู้ดูแลที่พักจัดหาข้าวของเครื่อ
ตอนที่ยี่สิบหกองค์ชายรัชทายาทจ้าวหลงเทียนก้าวเข้ามาอุ้มหญิงสาวเดินออกไปอย่างรวดเร็วก่อนจะส่งนางขึ้นไปบนม้าอีกครั้ง เขากระโดดขึ้นมาซ้อนด้านหลังโอบกอดร่างบางเอาไว้แล้วควบขี่ออกไปอย่างช่ำชอง ขบวนเล็กๆของพวกนางขี่ม้ากันมาเกือบสองชั่วยามกว่าจะถึงที่พักเชิงเขาที่พวกเขาพูดถึง จ้าวหลงเทียนอุ้มหญิงสาวลงมา แต่ไป่เหลียนฮวายืนไม่อยู่แล้วด้วยความปวดเมื่อยไปหมดทั้งร่าง ชายหนุ่มจึงตัดสินใจอุ้มร่างบางก้าวยาวๆเข้าที่พักไปอย่างเร็วชายหนุ่มพาหญิงสาวไปนอนพักในห้องก่อนที่จะออกไปพูดคุยกับองครักษ์และทหารติดตาม “คนกลุ่มนั้นรู้ได้อย่างไรว่าพวกเราจะผ่านทางนั้น”