ตอนที่ยี่สิบห้า
ลอบโจมตี
องครักษ์คนสนิทของเขาถึงกับชะงักเมื่อเขาบอกว่าจะพาไป่เหลียนฮวาเดินทางไปด้วย ด้วยพวกเขาต้องเปลี่ยนแผนจากการขี่ม้าเป็นนั่งรถม้าแทนซึ่งต้องใช้เวลามากขึ้น
“พานางไปด้วยก็ดีจะได้ไม่ผิดสังเกตมากนัก พวกอ๋องฉีคงไม่คาดว่าข้าจะนั่งรถม้าไปอย่างเชื่องช้าโดยมีหญิงสาวไปด้วย” จ้างหลงเทียนพยายามหาเหตุผล
“กระหม่อมจะไปเตรียมรถม้าพ่ะย่ะค่ะ” อาเฉียนซึ่งคุ้นเคยกับไป่เหลียนฮวามากกว่าใคร รีบเดินออกไป
พวกเขารู้ดีว่าองค์ชายรัชทายาทโปรดปรานสตรีนางนี้มากเพียงใด แต่การพานางไปด้วยไม่น่าจะใช่ความคิดที่ดีนัก
แต่ในเมื่อเป็นรับสั่งขององค
ตอนที่ยี่สิบหกองค์ชายรัชทายาทจ้าวหลงเทียนก้าวเข้ามาอุ้มหญิงสาวเดินออกไปอย่างรวดเร็วก่อนจะส่งนางขึ้นไปบนม้าอีกครั้ง เขากระโดดขึ้นมาซ้อนด้านหลังโอบกอดร่างบางเอาไว้แล้วควบขี่ออกไปอย่างช่ำชอง ขบวนเล็กๆของพวกนางขี่ม้ากันมาเกือบสองชั่วยามกว่าจะถึงที่พักเชิงเขาที่พวกเขาพูดถึง จ้าวหลงเทียนอุ้มหญิงสาวลงมา แต่ไป่เหลียนฮวายืนไม่อยู่แล้วด้วยความปวดเมื่อยไปหมดทั้งร่าง ชายหนุ่มจึงตัดสินใจอุ้มร่างบางก้าวยาวๆเข้าที่พักไปอย่างเร็วชายหนุ่มพาหญิงสาวไปนอนพักในห้องก่อนที่จะออกไปพูดคุยกับองครักษ์และทหารติดตาม “คนกลุ่มนั้นรู้ได้อย่างไรว่าพวกเราจะผ่านทางนั้น”
ตอนที่ยี่สิบเจ็ดไปอยู่ด้วยกันไหม“เอาเถอะ ไป่เหลียนฮวา ข้ายอมรับว่าชอบเจ้า ไม่เช่นนั้นคงไม่หาเวลาไปอยู่กับเจ้าตั้งนาน และคงไม่พาเจ้ามาด้วย พอใจหรือยัง” “ท่าน ชอบข้า ข้าก็ชอบท่าน” ไป่เหลียนฮวาสารภาพความในใจไปอย่างไม่รั้งรอ องค์ชายรัชทายาทแล้วอย่างไร เขาชอบนาง นางก็ชอบเขา พวกเราชอบกัน ขอเพียงได้มีเวลาอยู่ด้วยกันบ้าง เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว เมื่อต้องพำนักอยู่ในที่พักเชิงเขาหลายวัน องค์ชายจ้าวหลงเทียนจึงให้ขันทีผู้ดูแลที่พักจัดหาข้าวของเครื่อ
ตอนที่ยี่สิบเจ็ดไปอยู่ด้วยกันไหม“ข้ารู้ว่ายามนี้เจ้าเป็นอิสระแล้ว อาจมีชายหนุ่มมากมายมาติดพันและสู่ขอเจ้าไปเป็นภรรยา ครั้งนี้หากข้าไม่พาเจ้าไปอยู่ด้วย คราหน้าพวกเราคงไม่สามารถพบกันได้อีก เพียงคิดว่าเจ้าจะกลายไปเป็นภรรยาของชายอื่น ข้าก็ไม่อาจทนไหว เหลียนฮวาเจ้าจะยอมไปอยู่กับข้าหรือไม่” ไป่เหลียนฮวารู้สึกสับสนลังเลใจ ใช่ว่านางจะไม่อยากไปอยู่กับเขา นั่นเป็นความใฝ่ฝันของนางมาโดยตลอด แต่นางไม่อยากเข้าไปอยู่ในวังวนอันยุ่งยาก การเข้าไปอยู่ในวังหลวง เป็นอนุขององค์ชายรัชทายาท มิใช่การพาตัวเองเข้าไปอยู่ใจกลางความวุ่นวาย การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น และการโดนลอบทำร้ายหรอกหรือ หากชายหนุ่มเป็นเพียงสามัญชนธรรมดา นางจะไม่เสียเวลาคิดแม้แต่น้อยคงรีบเก็บผ้าผ่อนตามเขาไปอย่างรวดเร็ว 
ตอนที่ยี่สิบแปดทำมาหากิน“ท่านเจ้าของร้าน พวกเราขอถามสักหน่อยได้หรือไม่”ไป่เหลียนฮวาตัดสินใจสอบถามข้อมูลการค้าจากเขา “ได้เลยขอรับคุณหนู” “ข้ากับพี่สาวคิดอยากเปิดการค้าสักอย่าง แต่พวกเราไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ท่านมีคำแนะนำดีดีบ้างหรือไม่” “ตลาดในเมืองนี้สิ่งที่ขายดีที่สุดแน่นอนว่าย่อมเป็นอาหารการกิน ส่วนเสื้อผ้าแพรพรรณ ของใช้สตรีล้วนอยู่ในมือของตระกูลใหญ่ พวกคุณหนูไม่เคยทำการค้าใดมาก่อน ไม่ควรไปต่อกรกับตระกูลใหญ่เหล่านั้น ข้าคิดว่าท่านลองเปิดร้านอาหารหรือขนมน้ำชาอย่างข้าก็ได้ แม้จะเป็นเพียงร้านเล็กๆแต่ก็พออยู่ได้มีกำไรพอควรนะขอรับ” ชายเจ้าของร้านรีบแนะนำอย่างหวังดี&
พวกเขาทั้งสองคงไม่คิดว่าจะมีผู้ใดกลับบ้านมา จึงกล้าบรรเลงเพลงรักกันกลางบ้านเช่นนี้ ไป่เหลียนฮวาได้แต่ยืนหลบอยู่ด้วยไม่อยากให้พวกเขาเห็น แต่นางก็ไม่กล้าขยับออกไปด้วยพวกเขาเดินโยกกระแทกกันมาจนใกล้ถึงจุดที่นางยืนอยู่แล้ว ใช่ พวกเขาเดินไปโยกกระแทกกันไป โดยพี่หญิงรองของนางหันหลังยกสะโพกลอยส่งให้พี่หานสอดกระแทกเข้าใส่อย่างเหมาะเจาะ ชายหนุ่มบีบเคล้นขยี้เต้าทรวงอวบของพี่สาวรองของนางอย่างเต็มแรง ขณะโยกส่วนล่างกระแทกด้วยความรุนแรง “เจ้าช่างตอดรัดยิ่งนัก โอ๊ย...ข้าไม่ไหวแล้ว” เสียงครางต่ำของชายหนุ่มร้องออกมา ก่อนที่พี่สาวของนางจะกรีดร้องตาม เฮ้อ...พวกเขาเสร็จสมกันเสียที นางคงหาโอกาสหลบออกไปได้
ไป่เหลียนฮวาทรุดลงนั่งหายใจเร็วแรงด้วยความโกรธ นางยังไม่เคยแก้แค้นที่เขาใจร้ายใจดำจนเจ้าของร่างนี้ต้องตรอมใจจนตาย แต่เขากลับมาหยามเกียรติดูหมิ่นนางถึงเพียงนี้ ในเมื่อไม่รู้สำนึก ก็อย่าหาว่านางใจร้ายก็แล้วกัน ไป่เหลียนฮวาคิดวางแผนในใจอย่างเงียบๆ จนแน่ใจว่าน่าจะไม่มีช่องโหว่ จึงเรียกสาวใช้อาหนิงมาซักซ้อมทำความเข้าใจ “คุณหนูสามจะทำเช่นนี้จริงหรือเจ้าคะ” “ข้าไม่เคยคิดแก้แค้นเขามาก่อน แต่เขากลับไม่ยอมปล่อย ยังคงมาแว้งกัดอยู่อย่างที่เจ้าเห็น หากไม่สั่งสอนเสียบ้าง จะต้องทนปล่อยให้เขามาหยามเก
ตอนที่สามสิบบาดเจ็บไป่เหลียนฮวารอฟังข่าวจากสาวใช้อาหนิงก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความสาแก่ใจเพียงเท่านี้ชื่อเสียงของชายแซ่เฉาก็คงป่นปี้จนต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะเรียกคืนมาได้ แม้เขาจะพยายามอธิบายอย่างไรก็ไม่มีผู้ใดใส่ใจจะฟังด้วยสภาพความอุจาดตาของเขามีผู้พบเห็นมากมายการที่ไป่เหลียนฮวากล้าทำถึงเพียงนี้ก็ด้วยมั่นใจว่าหากมีข้อผิดพลาดขึ้นมา อาเฉียนคงรีบเข้ามาช่วยนางอย่างแน่นอนขณะที่ไป่เหลียนฮวานั่งยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี จู่ๆอาเฉียนก็พุ่งร่างเข้ามาอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“แม่นางไป่ รีบไปกับข้าเร็วเข้า”ไป่เหลียนวิ่งตามเขาออกมาอย่างรวดเร็วโดยยังไม่ทันได้ถามไถ่“เกิดเหตุใดขึ้นหรือ” นางเพิ่งได้ถามขณะปืนขึ้นรถม้าซึ่งนำมาจอดไว้ด้านหลัง“องค์ชายโดยลอบทำร้ายได้รับบาดเจ็บ”ไป่เหลียนฮวาทรุดตัวลงนั่งจนกระแทกกับผนังรถม้า นางรู้สึกดั่งมีดกรีดกลางใจองค์ชาย คุณชายจ้าว เขาโดนทำร้ายได้รับบาดเจ็บ เขาจะเป็นอย่างไรบ้าง หญิงสาวรีบเปิดผ้า
ไป่เหลียนฮวาดูแลเช็ดตัวป้อนยาจนองค์ชายหนุ่มนอนหลับไปด้วยฤทธิ์ยา นางจึงได้ทรุดตัวลงนอนข้างเตียงโดยไม่ยอมห่าง กลางดึกองค์ชายหนุ่มมีไข้สูงอย่างที่หมอบอกเอาไว้ หญิงสาวจึงเฝ้าเช็ดตัวให้ตลอดคืนอย่างห่วงใย ผ่านไปเพียงสองวันอาการขององค์ชายหนุ่มก็ดีขึ้น หญิงสาวค่อยคลายใจลงบ้าง นางให้อาเฉียนไปส่งข่าวที่บ้านสกุลไป่แล้ว จึงยังไม่คิดจะกลับไปโดยง่าย หญิงสาวอยากดูแลเขาอย่างใกล้ชิด จนแน่ใจว่าเขาปลอดภัย “เจ้าเหนื่อยหรือไม่” องค์ชายหนุ่มถามขึ้นเมื่อเห็นว่าหญิงสาวดูแลเขาโดยไม่ได้พักผ่อน “ไม่เจ้าค่ะ ข้าอยากดูแลท่าน” หญิงสาวเอ่ยจากใจจริง “เจ้าช่างเหมือนเดิม ไม่เคยถามไถ่ให้วุ่นวาย เพียงทำหน
ไป่เหลียนฮวาดูแลเช็ดตัวป้อนยาจนองค์ชายหนุ่มนอนหลับไปด้วยฤทธิ์ยา นางจึงได้ทรุดตัวลงนอนข้างเตียงโดยไม่ยอมห่าง กลางดึกองค์ชายหนุ่มมีไข้สูงอย่างที่หมอบอกเอาไว้ หญิงสาวจึงเฝ้าเช็ดตัวให้ตลอดคืนอย่างห่วงใย ผ่านไปเพียงสองวันอาการขององค์ชายหนุ่มก็ดีขึ้น หญิงสาวค่อยคลายใจลงบ้าง นางให้อาเฉียนไปส่งข่าวที่บ้านสกุลไป่แล้ว จึงยังไม่คิดจะกลับไปโดยง่าย หญิงสาวอยากดูแลเขาอย่างใกล้ชิด จนแน่ใจว่าเขาปลอดภัย “เจ้าเหนื่อยหรือไม่” องค์ชายหนุ่มถามขึ้นเมื่อเห็นว่าหญิงสาวดูแลเขาโดยไม่ได้พักผ่อน “ไม่เจ้าค่ะ ข้าอยากดูแลท่าน” หญิงสาวเอ่ยจากใจจริง “เจ้าช่างเหมือนเดิม ไม่เคยถามไถ่ให้วุ่นวาย เพียงทำหน
ตอนที่สามสิบบาดเจ็บไป่เหลียนฮวารอฟังข่าวจากสาวใช้อาหนิงก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความสาแก่ใจเพียงเท่านี้ชื่อเสียงของชายแซ่เฉาก็คงป่นปี้จนต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะเรียกคืนมาได้ แม้เขาจะพยายามอธิบายอย่างไรก็ไม่มีผู้ใดใส่ใจจะฟังด้วยสภาพความอุจาดตาของเขามีผู้พบเห็นมากมายการที่ไป่เหลียนฮวากล้าทำถึงเพียงนี้ก็ด้วยมั่นใจว่าหากมีข้อผิดพลาดขึ้นมา อาเฉียนคงรีบเข้ามาช่วยนางอย่างแน่นอนขณะที่ไป่เหลียนฮวานั่งยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี จู่ๆอาเฉียนก็พุ่งร่างเข้ามาอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“แม่นางไป่ รีบไปกับข้าเร็วเข้า”ไป่เหลียนวิ่งตามเขาออกมาอย่างรวดเร็วโดยยังไม่ทันได้ถามไถ่“เกิดเหตุใดขึ้นหรือ” นางเพิ่งได้ถามขณะปืนขึ้นรถม้าซึ่งนำมาจอดไว้ด้านหลัง“องค์ชายโดยลอบทำร้ายได้รับบาดเจ็บ”ไป่เหลียนฮวาทรุดตัวลงนั่งจนกระแทกกับผนังรถม้า นางรู้สึกดั่งมีดกรีดกลางใจองค์ชาย คุณชายจ้าว เขาโดนทำร้ายได้รับบาดเจ็บ เขาจะเป็นอย่างไรบ้าง หญิงสาวรีบเปิดผ้า
ไป่เหลียนฮวาทรุดลงนั่งหายใจเร็วแรงด้วยความโกรธ นางยังไม่เคยแก้แค้นที่เขาใจร้ายใจดำจนเจ้าของร่างนี้ต้องตรอมใจจนตาย แต่เขากลับมาหยามเกียรติดูหมิ่นนางถึงเพียงนี้ ในเมื่อไม่รู้สำนึก ก็อย่าหาว่านางใจร้ายก็แล้วกัน ไป่เหลียนฮวาคิดวางแผนในใจอย่างเงียบๆ จนแน่ใจว่าน่าจะไม่มีช่องโหว่ จึงเรียกสาวใช้อาหนิงมาซักซ้อมทำความเข้าใจ “คุณหนูสามจะทำเช่นนี้จริงหรือเจ้าคะ” “ข้าไม่เคยคิดแก้แค้นเขามาก่อน แต่เขากลับไม่ยอมปล่อย ยังคงมาแว้งกัดอยู่อย่างที่เจ้าเห็น หากไม่สั่งสอนเสียบ้าง จะต้องทนปล่อยให้เขามาหยามเก
พวกเขาทั้งสองคงไม่คิดว่าจะมีผู้ใดกลับบ้านมา จึงกล้าบรรเลงเพลงรักกันกลางบ้านเช่นนี้ ไป่เหลียนฮวาได้แต่ยืนหลบอยู่ด้วยไม่อยากให้พวกเขาเห็น แต่นางก็ไม่กล้าขยับออกไปด้วยพวกเขาเดินโยกกระแทกกันมาจนใกล้ถึงจุดที่นางยืนอยู่แล้ว ใช่ พวกเขาเดินไปโยกกระแทกกันไป โดยพี่หญิงรองของนางหันหลังยกสะโพกลอยส่งให้พี่หานสอดกระแทกเข้าใส่อย่างเหมาะเจาะ ชายหนุ่มบีบเคล้นขยี้เต้าทรวงอวบของพี่สาวรองของนางอย่างเต็มแรง ขณะโยกส่วนล่างกระแทกด้วยความรุนแรง “เจ้าช่างตอดรัดยิ่งนัก โอ๊ย...ข้าไม่ไหวแล้ว” เสียงครางต่ำของชายหนุ่มร้องออกมา ก่อนที่พี่สาวของนางจะกรีดร้องตาม เฮ้อ...พวกเขาเสร็จสมกันเสียที นางคงหาโอกาสหลบออกไปได้
ตอนที่ยี่สิบแปดทำมาหากิน“ท่านเจ้าของร้าน พวกเราขอถามสักหน่อยได้หรือไม่”ไป่เหลียนฮวาตัดสินใจสอบถามข้อมูลการค้าจากเขา “ได้เลยขอรับคุณหนู” “ข้ากับพี่สาวคิดอยากเปิดการค้าสักอย่าง แต่พวกเราไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ท่านมีคำแนะนำดีดีบ้างหรือไม่” “ตลาดในเมืองนี้สิ่งที่ขายดีที่สุดแน่นอนว่าย่อมเป็นอาหารการกิน ส่วนเสื้อผ้าแพรพรรณ ของใช้สตรีล้วนอยู่ในมือของตระกูลใหญ่ พวกคุณหนูไม่เคยทำการค้าใดมาก่อน ไม่ควรไปต่อกรกับตระกูลใหญ่เหล่านั้น ข้าคิดว่าท่านลองเปิดร้านอาหารหรือขนมน้ำชาอย่างข้าก็ได้ แม้จะเป็นเพียงร้านเล็กๆแต่ก็พออยู่ได้มีกำไรพอควรนะขอรับ” ชายเจ้าของร้านรีบแนะนำอย่างหวังดี&
ตอนที่ยี่สิบเจ็ดไปอยู่ด้วยกันไหม“ข้ารู้ว่ายามนี้เจ้าเป็นอิสระแล้ว อาจมีชายหนุ่มมากมายมาติดพันและสู่ขอเจ้าไปเป็นภรรยา ครั้งนี้หากข้าไม่พาเจ้าไปอยู่ด้วย คราหน้าพวกเราคงไม่สามารถพบกันได้อีก เพียงคิดว่าเจ้าจะกลายไปเป็นภรรยาของชายอื่น ข้าก็ไม่อาจทนไหว เหลียนฮวาเจ้าจะยอมไปอยู่กับข้าหรือไม่” ไป่เหลียนฮวารู้สึกสับสนลังเลใจ ใช่ว่านางจะไม่อยากไปอยู่กับเขา นั่นเป็นความใฝ่ฝันของนางมาโดยตลอด แต่นางไม่อยากเข้าไปอยู่ในวังวนอันยุ่งยาก การเข้าไปอยู่ในวังหลวง เป็นอนุขององค์ชายรัชทายาท มิใช่การพาตัวเองเข้าไปอยู่ใจกลางความวุ่นวาย การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น และการโดนลอบทำร้ายหรอกหรือ หากชายหนุ่มเป็นเพียงสามัญชนธรรมดา นางจะไม่เสียเวลาคิดแม้แต่น้อยคงรีบเก็บผ้าผ่อนตามเขาไปอย่างรวดเร็ว 
ตอนที่ยี่สิบเจ็ดไปอยู่ด้วยกันไหม“เอาเถอะ ไป่เหลียนฮวา ข้ายอมรับว่าชอบเจ้า ไม่เช่นนั้นคงไม่หาเวลาไปอยู่กับเจ้าตั้งนาน และคงไม่พาเจ้ามาด้วย พอใจหรือยัง” “ท่าน ชอบข้า ข้าก็ชอบท่าน” ไป่เหลียนฮวาสารภาพความในใจไปอย่างไม่รั้งรอ องค์ชายรัชทายาทแล้วอย่างไร เขาชอบนาง นางก็ชอบเขา พวกเราชอบกัน ขอเพียงได้มีเวลาอยู่ด้วยกันบ้าง เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว เมื่อต้องพำนักอยู่ในที่พักเชิงเขาหลายวัน องค์ชายจ้าวหลงเทียนจึงให้ขันทีผู้ดูแลที่พักจัดหาข้าวของเครื่อ
ตอนที่ยี่สิบหกองค์ชายรัชทายาทจ้าวหลงเทียนก้าวเข้ามาอุ้มหญิงสาวเดินออกไปอย่างรวดเร็วก่อนจะส่งนางขึ้นไปบนม้าอีกครั้ง เขากระโดดขึ้นมาซ้อนด้านหลังโอบกอดร่างบางเอาไว้แล้วควบขี่ออกไปอย่างช่ำชอง ขบวนเล็กๆของพวกนางขี่ม้ากันมาเกือบสองชั่วยามกว่าจะถึงที่พักเชิงเขาที่พวกเขาพูดถึง จ้าวหลงเทียนอุ้มหญิงสาวลงมา แต่ไป่เหลียนฮวายืนไม่อยู่แล้วด้วยความปวดเมื่อยไปหมดทั้งร่าง ชายหนุ่มจึงตัดสินใจอุ้มร่างบางก้าวยาวๆเข้าที่พักไปอย่างเร็วชายหนุ่มพาหญิงสาวไปนอนพักในห้องก่อนที่จะออกไปพูดคุยกับองครักษ์และทหารติดตาม “คนกลุ่มนั้นรู้ได้อย่างไรว่าพวกเราจะผ่านทางนั้น”
ตอนที่ยี่สิบห้าลอบโจมตีองครักษ์คนสนิทของเขาถึงกับชะงักเมื่อเขาบอกว่าจะพาไป่เหลียนฮวาเดินทางไปด้วย ด้วยพวกเขาต้องเปลี่ยนแผนจากการขี่ม้าเป็นนั่งรถม้าแทนซึ่งต้องใช้เวลามากขึ้น “พานางไปด้วยก็ดีจะได้ไม่ผิดสังเกตมากนัก พวกอ๋องฉีคงไม่คาดว่าข้าจะนั่งรถม้าไปอย่างเชื่องช้าโดยมีหญิงสาวไปด้วย” จ้างหลงเทียนพยายามหาเหตุผล “กระหม่อมจะไปเตรียมรถม้าพ่ะย่ะค่ะ” อาเฉียนซึ่งคุ้นเคยกับไป่เหลียนฮวามากกว่าใคร รีบเดินออกไป พวกเขารู้ดีว่าองค์ชายรัชทายาทโปรดปรานสตรีนางนี้มากเพียงใด แต่การพานางไปด้วยไม่น่าจะใช่ความคิดที่ดีนัก แต่ในเมื่อเป็นรับสั่งขององค