พรึ่บ!“มาตกลงกันก่อน ถ้าถูกใจจะพาไปกินข้าว” เสืออุ้มเธอมาวางลงบนตัก ก่อนเขาจะเอนหลังไปกับโซฟา ด้วยท่าทีสบายๆ“เราไม่มีอะไรต้องตกลง เราไม่ได้เป็นอะไรกัน พลาดก็คือพลาด ตอนนี้ฉันกินยาคุมแล้ว คุณไม่ต้องห่วง” นิราพูดเสียงเบา“คิดว่ายานั่นจะได้ผลกี่เปอร์เซ็นต์กัน” เสือถามนิราด้วยใบหน้าจริงจัง พอต้องมาคุยเรื่องแบบนี้ กลับไม่ได้รู้สึกลำบากใจอย่างที่คิด“……. ก็น่าจะ50/50” นิราไม่กล้าบอกไปมากกว่านี้ มันมีเคสที่ตั้งท้องทั้งที่กินยาคุมให้เห็นเยอะแยะ“มาทำงานให้ฉัน จนกว่าจะมั่นใจว่าไม่ได้ท้อง” เสือยื่นคำขาด“แต่ฉัน….” นิราจะเลือกอะไรดีละ เธอมีทางเลือกอื่นอีกไหมเนี้ย อยู่กับเขาเธอเปลืองตัวมาก“5 หมื่นกับงานเลขา แต่ถ้าอยากได้เพิ่ม ก็มานอนกับฉัน” เสือคิดว่าผู้หญิงทุกคน คงอยากจะกระโจนเข้าใส่แน่ๆ ถ้ายื่นข้อเสนอแบบนี้ออกไป“ใครเขาจะอยากนอนกับคุณ ปล่อยได้รึยัง ฉันหิวแล้ว ฉันจะรับแค่งานเลขาเท่านั้น” นิราพูดจบก็ตั้งท่าจะลุกจากตักแกร่งที่กักขังเธอมาเนินนาน“ไม่เปลี่ยนใจเหรอ ฉันเด็ดนะ เทคนิคก็แพรวพราว ฉันว่าเธอต้องติดใจแน่ๆ” เสือพูดอ้อยอิ่งชิดลำคอระหง เขาใช้มือรวบผมสีดำทั้งหมดของเธอไปไว้ด้านข้าง กดริมฝีปากค
“ห้าแสน เป็นผู้หญิงของฉันสองเดือน” เขาคิดว่าสองเดือน ตัวเองก็น่าจะเบื่อเธอแล้วแหละ เพราะคนอื่นๆ ก็ไม่เกิน 2ครั้งด้วยซ้ำ แต่ตั้งไว้สองเดือน ก็เผื่อติดใจเธอ จะได้ไม่ต้องเริ่มคุยใหม่“เอาเงินไปบริจากเถอะค่ะ” นิราพูดจบก็เดินไปที่เตียงรวบผ้าห่มดึงออกจากตัวเขาแรงๆ ด้วยความหงุดหงิด“ลุกค่ะ ฉันจะเปลี่ยนที่นอน นอนไปได้ยังไงทั้งที่มันเลอะขนาดนั้น” นิรามองเตียงสีชมพูที่มันเลอะคราบเลือดของเธออยู่ เขาไม่อาย แต่เธออายไง“เธอใจแข็งชะมัด” เสือเดินไปนั่งที่โซฟาอย่างขัดใจ ปล่อยให้นิราเดินไปจัดที่นอนเงียบๆ“จะไปไหนอีก” เสือเห็นนิราเดินไปหยิบเสื้อผ้าในตู้ออกมาถือไว้“จะไปอาบน้ำค่ะ ฉันเหนียวตัวมากๆ เพราะไอ้ครีมที่ทาอยูบนตัวนี่ หวังว่าออกมาจะไม่เจอคุณนะคะ อ่อ! ฉันไม่ได้ไล่นะ แต่รีบไปเลยค่ะ”ปึ่งนิราเดินไปปิดประตูห้องน้ำใส่เขาทันที ไม่สนใจเสือที่ยิ้มอย่างอารมณ์ดี ทำไมเขาต้องกลับ หน้าด้านซะอย่าง ของกินที่เขาสั่งมาเยอะแยะ ยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ เขาเป็นคนจ่ายเงิน เขาควรได้กินมันสิกริ่งๆ กริ่งเสือนั่งรอเกือบชั่วโมง ก็มีคนมากดกริ่ง สงสัยว่าจะเป็นคนส่งอาหารนั่นแหละแก๊ก!“คุณยังไม่กลับอีกเหรอ” นิราที่รีบออกมาเพร
“มีอะไร” เสือถามเมื่อรับรู้ว่านิราหยุดมือลง“พอแล้วไงคะ นี่เย็นมากแล้ว” นิราพูดจบก็เดินออกไปจากห้องไม่สนใจเสืออีกเลย เสือได้แต่ทำหน้างง มองแผ่นหลังแบบบางที่เดินจากไปจะรู้สึกหวงทำไม ในเมื่อไม่ได้เป็นอะไรกัน นิราได้แต่คิดในใจ“คุณเจนจะกลับแล้วเหรอคะ” นิราเดินออกมา เจอเจนจิราที่กำลังเก็บของเตรียมกลับบ้านพอดี“ป่าวค่ะ เจนมีธุระที่ต้องไปต่อ คุณนิราไปด้วยกันไหมคะ ร้านเหล้าน่ะ” เจนจิราบอก และถามนิราทันที บางทีมีเพื่อนดื่มก็น่าจะดีกว่าดื่มคนเดียว“จะไปไหนต่อครับสาวๆ ผมไปด้วยสิ” นรสิงค์ที่กำลังจะกลับบ้าน เดินออกมาพอดีเลยได้ยินเจนจิราชวนนิราไปร้านเหล้า“ถ้าท่านเลี้ยงนะคะ” เจนจิราพูดอย่างห่างเหินมากกว่าปกติ จนนรสิงค์ต้องย่นคิ้ว“ถ้าไม่เลี้ยง จะไม่ให้ไปด้วยเลยเหรอครับ” เธอไม่เคยไปไหนกับเขา นอกเหนือเวลางานเลยสักครั้ง“ค่ะ” เจนจิราตอบรับ ไม่ได้อยากให้คุณสิงค์ไปด้วยสักนิด“คุณเจนไปร้านไหนไลน์บอกนิราหน่อยนะคะ เดี๋ยวนิราตามไปค่ะ ขอกลับไปเปลี่ยนชุดแป๊ปนึงค่ะ” นิราพูดจบก็ก้าวเดินจากไปเพราะเธอมีไลน์เจนจิราอยู่ เดี๋ยวค่อยถามชื่อร้านเอาทีหลังก็ได้“สรุปจะไปไหมคะ” เจนจิราถามคนที่ยืนมองเธอนิ่งๆ เหมือนกำลัง
นิราเดินเข้าไปในร้าน ก่อนจะมองหาเจนจิรา ทางโซนที่เธออ่านมาจากในไลน์ เห็นเจนจิรากวักมือเรียกอยู่ด้านในสุด โดยที่ข้างกายคุณเจน คือคุณสิงค์รองประธานสุดหล่อนั่นเอง“อ่า! คุณสิงค์ก็มาเหรอคะ” นิราถามขึ้นเมื่อเดินมาถึงโต๊ะ ก่อนจะนั่งลงเก้าอี้ ตัวที่นรสิงค์ลุกขึ้นดึงออกมาให้เธอใช้นั่ง“ถ้ากลัวว่ามีผมแล้วมันจะไม่สนุก ผมไปนั่งที่อื่นก็ได้นะครับ” นรสิงค์พูดอย่างเกรงใจสองสาว ในขณะที่เจนจิรานั่งดื่มเงียบๆตั้งแต่มาถึงร้าน“ไม่เป็นไรค่ะ หลายคนสนุกดี จริงไหมคะคุณเจน” นิรายิ้มแย้มให้เจนจิรา แม้เธอกับเจนจิราจะอายุเท่ากัน แต่นิราก็ยังติดเรียกคุณอย่างให้เกียรติเสมอ“เรียกเจนเฉยๆ เถอะค่ะ เราเพื่อนกันนี่นา ถ้าไม่สะดวกใจก็ค่อยเรียกแบบปกติตอนทำงานก็ได้ค่ะ” เจนจิรายกยิ้ม เธอเป็นคนที่ยิ้มได้สวยมากๆ แต่นิราแทบจะไม่เคยเห็นเจนจิรายิ้มเลย หรือเห็นแทบจะนับครั้งได้“ยิ้มแล้วสวยมากครับ”นรสิงค์พูดชมกับภาพที่เขาเห็น ตอนนี้เจนจิราหน้าขึ้นสีนิดๆ ดูน่ามอง ไหนจะรอยยิ้มที่แต่งแต้มใบหน้าสวยหวานของเธอนั่นอีก เจนจิราสวยมาก“สวยแต่ไม่ถูกใจ” เจนจิราพึมพำเบาๆอยู่คนเดียว เพราะคุณสิงค์หันไปชนแก้ว กับผู้หญิงโต๊ะข้างๆ ที่ยิ้มให้เขารา
“ค่ะ ฉันชื่อนิรา” นิราบอกยิ้มๆ เธอไม่ใช่คนปิดกั้นตัวเอง เธอเปิดโอกาศให้ทุกคน แต่ไม่ได้เปิดใจให้ใครขนาดนั้น พอคุยแล้วไม่ถูกใจเธอก็บาย ไม่อยากเสียเวลา และไม่เคยเสียตัวให้ใครเลยยกเว้นเสียให้คุณเสือตอนเมานั่นแหละ รู้สึกเสียดายนิดๆ ที่เสียให้คนไม่เห็นคุณค่ามันแบบเขา แต่เธอพลาดเอง จะพูดอะไรได้ละ รู้ว่างานร้านเหล้ามันอันตราย แต่ไม่คิดว่ามันจะเกิดกับตัวเองจนได้“มีแฟนรึยังครับ ทำไมมาคนเดียว เหงาเหรอ” ตรินถามพลางยิ้มกริ่ม มือไม้เริ่มขยับ นี่คือตัวตนจริงๆ ของเขา ที่ซ่อนมันไว้ภายใต้รูปลักษณ์ของนายแว่นที่แสนดี“ค่ะ มาคนเดียว/ มากับผัว และกำลังจะกลับไปนอนเอากันแล้วด้วย” เสือตะโกนใส่คนทั้งคู่ ก่อนจะดึงแขนนิราให้ลุกขึ้นยืน เขามองมาที่เธอตลอด จนไม่ได้สนใจผู้หญิงที่มาด้วยสักนิด ก่อนจะเดินมาหาเธออย่างร้อนรน เมื่อผู้ชายคนนั้นกำลังลูบไล้แผ่นหลังของนิรา“ผัวเหรอ? เสียเวลาชิบหาย!” ตรินพูดจบก็เดินจากไปอย่างหงุดหงิด“คุณเสือ! ใครเมียคุณ” นิรายืนกอดอกมองเสือนิ่งๆ ไม่คิดจะขยับไปไหน เธอเพิ่งสั่งเหล้าไป และดูเหมือนจะได้จ่ายเองด้วย เพราะเขาไล่คนที่อาสาจ่ายค่าเหล้าให้เธอไปแล้ว“เธอเป็นเมียฉัน” เสือย้ำชัดๆ เขาได
“ฉันเพื่อนเล่นเหรอนิรา” เสือมองคนที่เอาแต่หนีไปอยู่อีกฝั่งของเตียง“ไม่ใช่ค่ะ แต่คุณเสือเป็นเจ้านาย มันน่ารังเกียจ ถ้าเราจะทำเรื่องแบบนั้นกัน” นิราเอาแต่วิ่งหนี เสือที่ไล่ตะครุบเธอราวกับเหยื่อ“ฉันก็บอกเธอทุกวันให้มาเป็นผู้หญิงของฉัน แต่เธอไม่เคยยอมไง” เสือหยุดเมื่อเริ่มเหนื่อย“คุณเสือ นี่คุณเคยรักใครบ้างไหมเนี่ย!” นิราละปวดหัวมากกว่าปวดใจคนๆ นี้เคยมีความรู้สึกรักบ้างไหม? รักที่แบบอยากให้ผู้หญิงคนนั้นเป็นของเขาคนเดียว หรือรักแบบที่อยากเป็นผู้ชายคนเดียวของผู้หญิงคนรักอะ แต่คนอย่างเขาน่าจะไม่เคยมี“ไม่เคย ทำไม? เธอรักฉันรึไง” เสือถามนิ่งๆ เหนื่อยที่จะวิ่งตามเธอแล้ว“คุณเสือโตเป็นควายแล้วนะ ต้องรู้จักรักและให้เกียรติคนอื่นบ้าง ไม่ใช่เห็นผู้หญิงเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์นะ” นิราได้ทีก็สอนคนตัวโต ที่นั่งนิ่งหมดแรงอยู่บนเตียง“นิรา อย่าปากดี” เสือหันหน้ามาดุ นี่เขาเป็นเจ้านายหรือลูกเธอกันแน่“นิราแค่อยากรู้ ว่าคุณเสือไม่เคยรักใคร หรือไม่คิดจะรักใครจริงๆเลยเหรอคะ” นิรามีสีหน้าเศร้าลง“อยากรู้ไปทำไม”เสือไม่เคยถูกใครถามแบบนี้มาก่อน เขาไม่ได้รักสนุก แต่ที่ทำกับผู้หญิงที่เข้าหาเขาพวกนั้น เขาก็ทำแค
หลายวันต่อมาเสือนั่งทำงานนิ่งๆ ไม่มีกะจิตกระใจทำงานเท่าที่ควร ทั้งที่งานกองเต็มหน้า แต่เขากลับไม่หยิบมันมาดูสักอย่าง ปล่อยให้มันกองท่วมหัวอย่างนี้แหละ เบื่อ!“พี่เสือ คุณนิรายังไม่กลับมาอีกเหรอ ลาเกือบห้าวันแล้วนะครับ” สิงค์เดินถือแฟ้มงานเข้ามาให้เสือ แต่หน้าห้องกลับว่างเปล่า ไร้เงาของเลขาคนสวย เขาจึงต้องเดินเอามาให้เอง“เห็นใครไหมละ ถ้าลาเพิ่มอีก 2 วัน หาคนใหม่มาแทนด้วย” เสือพูดจบก็หันหลังหนีหน้าน้องชายอย่างหงุดหงิด“อ่า ครับ” สิงค์รีบเดินออกไปจากห้องเร็วๆ ก่อนจะโดนระเบิดลง“คุณเจน ไปกินข้าวกัน” สิงค์เดินกลับมาเรียกเลขาตัวเองที่นั่งทำหน้าเรียบเฉยอยู่“ไม่ไป” เจนจิราตอบห้วนๆ อย่างไม่ชอบใจเจ้านายตอนนี้เอามากๆ“โกรธอะไรอีก หืม” สิงค์เอามือมาไล้วนใบหน้าสวยของเธอ“คุณสิงค์ไปยกเลิกงานหมั้นของเจนได้ยังไง” เจนจิราถามเสียงดุ เจ้านายเธอถืออภิสิทธิ์อะไร ไปยกเลิกกับทางนั้นเอง ทั้งที่คืนนั้นคุยกันแล้วว่า เธอจะเป็นฝ่ายไปคุยเอง“อยากหมั้นกับมันรึไงครับ ทั้งที่มีผัวแล้วนี่นะ” สิงค์นั่งลงบนโต๊ะของเธอ ตรงส่วนที่มันว่างเปล่า ก่อนจะมองมาที่เธอยิ้มๆ“นั่นมันเพราะคุณสิงค์บังคับ” เจนจิราพูดเสียงเบา กับสิ่
“พี่ไม่กล้าเข้าห้องผู้หญิงตัวคนเดียวหรอกครับ พี่กลับเลยดีกว่า ไปแล้วนะไอ้อ้วน” ภพรักลูบหัวแมวอ้วน ก่อนจะลูบหัวนิราอย่างหมั่นเขี้ยว เดินกลับไปขึ้นลิฟท์ที่มันยังหยุดอยู่ชั้นเดิมนิราไม่มีมือที่จะไหว้ลาภพรัก ได้แต่อุ้มเจ้าอ้วนไว้ ยืนมองภพรักที่หันกลับมาโบกมือให้เธอ ก่อนจะมองเลยไปอีกด้านของคอนโด ที่มีผู้ชายตัวสูงที่คุ้นเคย ยืนพิงกำแพงมองมาที่เธอเช่นกัน“แย่แล้ว!” นิรารีบหันหลัง ก่อนจะเปิดหาคีย์การ์ดในกระเป๋าออกมาอย่างยากลำบาก เพราะอุ้มเจ้าแมวอ้วน“มานี่” เสือเดินมาใกล้เธอ ก่อนจะจับมือเธอให้เดินตามเขาไปเงียบๆ"คุณเสือคะ จะพานิราไปไหนคะ"นิรากอดเจ้าโอ้ไว้ในอ้อมแขนแน่นขึ้น เมื่อแมวอ้วนเริ่มตะกายเล็บไปทางมือเธอที่โดนเสือจับอยู่“ไอ้แมวนี่! เดี๋ยวจับโยนลงข้างล่างซะเลย” เสือหันมาดุไอ้ก้อนส้มๆ ที่ตะกุยเล็บใส่มือเขาไม่ยั้งอย่างหงุดหงิด“คุณเสืออย่าทำน้องโอ้นะ” นิรากอดแมวส้มแน่นขึ้น เมื่อเสือทำท่าจะมาจับมันโยนลงอย่างที่เขาว่าจริงๆติ๊ด!“เข้าไปสิ ทั้งคนทั้งแมวนั่นแหละ” เสือพูดก่อนจะเปิดประตูให้กว้างขึ้น เพื่อให้ทั้งเขาและเธอเข้าไปข้างในได้สะดวกขึ้น“ห้องใครคะคุณเสือ” นิราถามเสียงเบา มองรอบตัวช้าๆ
“ทำไมไม่กลับบ้านเลยละ” เสือเดินออกมาถามลูกสาว ที่ยังไม่ยอมเข้าไปในบ้าน ข้างๆ เขาคือภรรยาและลูกสาวคนกลาง“ทำไมต้องกลับมาที่นี่ละคะ งานยุ่งจะตาย ตอนนี้คุณพ่อก็มีทุกอย่างครบแล้วนี่คะ จะแคร์ทำไม กับอีแค่ลูกคนเดียวไม่กลับมาบ้าน”ทุกครั้งที่เธอกลับมา เธอจะระเบิดความน้อยใจที่อัดอั้นไว้ทุกครั้งและหนีกลับไป แค่ดูเหมือนครั้งนี้จะแตกต่าง เพราะไอ้ตัวแสบที่กอดเธอไม่ปล่อย จึงไม่สามารถกลับขึ้นรถที่อยู่ห่างออกไปเพียงนิดเดียวได้เลย“นินทำไมพูดกับพ่อแบบนั้นละลูก”“แม่ก็เข้าข้างพ่อตลอด อยากรู้ไหมทำไมหนูถึงไม่อยากกลับ ก็เพราะว่าที่นี่ไม่ต้องการผู้หญิงแบบนินไง”นิรากำลังจะเอื้อมมือไปดึงลูกสาวของเธอที่กำลังร้องไห้น้อยอกน้อยใจอย่างทุกทีที่กลับมาบ้าน แต่คนเป็นสามีกลับเดินไปถึงตัวเธอก่อน แล้วดึงเธอมากอดไว้อย่างหวงแหน“ใครบอกครับว่าพ่อไม่ต้องการนิน พ่อรู้ว่าที่นิน ทำทุกอย่างจนมันเหนื่อย พ่อผิดเองที่ยกทุกอย่างให้นินดูแล แต่เพราะว่านั่นคือสิ่งที่พ่อเชื่อมั่น ว่านินทำได้ พ่อถึงยกให้ นินมีค่านะครับมีค่ากับพ่อและน้องทุกคน และนินมีค่าที่สุดกับแม่”“พ่อขอโทษที่ทำให้เสียใจ เพราะพ่ออยากได้ลูกชายมากจริงๆ แต่ไม่ใช่ว่าพ่อ
“พี่แพท จะไปเที่ยวกับลินินไหมคะ”“ทำไมต้องไป” แพทริคพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะเสมองไปทางอื่นเมื่อยัยเด็กไม่รู้จักโตยื่นหน้ามาใกล้“ก็ลินินกับมิรินเพิ่งเคยมา ไม่รู้จักที่นี่เลย นะคะ” เด็กน้อยให้เหตุผลแกมออดอ้อน ถึงพ่อจะพาไปเที่ยวบ่อยๆ แต่ที่นี่เพิ่งเคยมาจริงๆ“นะก่ะ” มิรินวัยสามขวบแล้วแต่พูดยังไม่ชัด เอ่ยปากพูดตามพี่สาว ก่อนที่เพเทอร์จะหัวเราะ โตแล้วแต่เธอยังพูดไม่ชัดเลย“ฟันหลอรึเปล่า ทำไมพูดไม่ชัด” เพเทอร์เป็นเด็กซนต่างจากพี่ชายที่นิ่งๆ เพเทอร์พูดจบก็จับใบหน้าน้องเล็กที่สุด แล้วเอามือไปดูฟันของน้องจริงๆ“ฮาฮา มิรินฟันหลอ” เพเทอร์หัวเราะสนุกสนาน และเด็กน้อยวัยสามขวบก็หัวเราะตามผู้ใหญ่ที่นั่งคุยกันอยู่ถึงกับส่ายหน้ากับเด็กๆ“พักผ่อนกันก่อนนะครับ พรุ่งนี้ค่อยพาเด็กๆ เที่ยว” อภิวัฒน์ พูดจบก็จับมือภรรยาลุกขึ้น“เด็กๆ ต้องกลับแล้ว น้องจะได้พักผ่อน พรุ่งนี้ค่อยมา” สิ้นเสียงเรียก เด็กชายทั้งสองก็วิ่งมาทางพ่อแม่ ก่อนจะวิ่งออกไปทางประตูโดยไม่รอใครเลย“เราก็ไปพักกันดีกว่า” นิราเดินมานั่งกับลูกสาวทั้งสอง ก่อนจะอุ้มมิรินไว้ในอ้อดกอด ส่วนลินินก็พยายามจะขึ้นมาขี่ที่หลังของนิราด้วยความลำบาก“ลิ
ตลอดเวลาที่อยู่ในห้อง เธอกับเขาทำเพียงแค่นั่งคุยกันถึงเรื่องราวที่ผ่านมา เพราะรู้จักกันไม่นานเธอกับเขาก็มีลูก และใช้เวลาทั้งหมดไปกับการเลี้ยงลูกและดูแลคนในครอบครัว จึงแทบไม่ค่อยได้คุยกันจริงจังแบบนี้เลยสักครั้งและการคุยกันแบบนี้มันช่างสนุก และมีความสุข เหมือนเธอกับเขาเพิ่งจะได้คุยกันเหมือนแฟนเป็นครั้งแรกเสือมองหน้าแดงระเรื่อของภรรยา ส่วนปากเธอก็ขยับคุยเรื่องของเธอให้เขาฟังไม่หยุด เมื่อไหร่จะเมาเนี้ย หมดไปสองขวดแล้วนะ“สนุกไหมครับ” เสือถามคนที่ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม คงจะคอแห้งนั่นแหละ เล่นพูดไม่หยุดแบบนี้“ทั้งๆ ที่แต่งงานกันมา8 ปีแล้ว เพิ่งจะได้มาทำอะไรที่เหมือนแฟนกันครั้งแรก” นิราบอกด้วยรอยยิ้ม วันนี้เธอมีความสุขนะ แม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาจะมีความสุขดี แต่การคุยกันแบบนี้ก็ทำให้เธอเข้าใจพี่เสือมากขึ้น“ครับ พี่ก็รู้สึกแบบนั้น”เสือปัดปอยผมออกให้ภรรยา ก่อนจะดึงเธอเข้ามากอด รอไม่ไหวหรอก ถ้ารอให้ยัยนี่เมาเขาต้องหลับก่อนแน่ๆเสือวางเธอลงบนเตียงกว้าง ทั้งยังสบตาคนที่มองเขาอยู่ตลอด เขาจะลองเสี่ยงดวงอีกครั้ง ถ้าครั้งนี้ไม่ท้อง เขาก็จะตัดใจเรื่องลูกชาย จะไปทำหมันแล้วนิราพลิกตัวขึ้นมาคร่อมทับคนที่
3 ปีผ่านไป“คุณพยัคฆ์ค่ะ ช่วยเซ็นอนุมัติการผลิตรถรุ่นใหม่ด้วยค่ะ”เลขาคนสวยที่มากด้วยความสามารถเดินเข้ามาวางเอกสารลงบนโต๊ะของเสือ ก่อนจะส่งสายตายั่วยวนให้เจ้านายสุดหล่อของเธอเธอเพิ่งจะมาทำงานได้เดือนเดียว เพราะคนเก่าของคุณพยัคฆ์ลาออกไป มันจึงเป็นโอกาศเหมาะที่เธอจะได้ทำงานเลขาให้เขาพยัคฆ์ตรงหน้าดูหล่อเหลา และภูมิฐาน แม้จะอายุ 38 ปีแล้ว แต่เขาก็ยังดูดีไปหมดทุกอย่างแก๊ก ปังงงงงงงนิราเปิดและปิดประตูลงเสียงดัง จนเลขาที่กำลังสงสายตาให้พยัคฆ์อยู่สะดุ้งทันที ก่อนเธอจะมองนิราที่เข้ามาใหม่อย่างสำรวจ ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน เธอไม่เคยเห็น ก็สวยอยู่หรอกแต่ดูท่าทางไม่น่าจะใช่สเปคเจ้านายเธอ“บริษัทของพี่ทัศติดต่อมา ให้พี่เสือบินไปต่างประเทศด่วน ไม่ได้อ่านไลน์เหรอคะ”นิราไม่สนใจเลขาคนใหม่ของสามี แต่เดินมาหยุดหน้าโต๊ะ แล้วถามสามีนิ่งๆตอนนี้เธอทำหน้าที่ประสานงานกับบริษัทคู่ค้าทั้งหมดของอัครโยธินกุล และบริหารร้านเบเกอรี่ จึงต้องเข้าออกบริษัทบ่อยครั้ง แต่เลขาคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามายังไม่เคยเจอเธอ และคงไม่รู้ว่าสามีเธอแต่งงานแล้ว มีลูกด้วยกันกับเธอถึงสองคน“ครับ พี่ยุ่งอยู่ยังไม่ได้อ่านไลน์ เดี๋ยวเสร็จนี
เสือพานิราอยู่ที่สวิตฯเดือนเดียวจริงๆ แต่ก็ถือว่าเที่ยวได้เยอะพอสมควร เพราะได้ครอบครัวของเมลานีที่อาศัยอยู่บ้านข้างๆ นำเที่ยวตลอด และตอนนี้ครอบครัวของเธอก็ยังอาสามาส่งที่สนามบินอีกด้วย“ถ้าคลอดแล้ว พาลูกสาวมาเที่ยวบ้างนะคะ” เมลานี บอกกับเสือและนิราที่นั่งรอขึ้นเครื่อง“แพทริคอยากไปหาน้องบ้าง” แพทริคที่พูดได้คล่อง บอกเบาๆ พลางวางมือลงบนท้องน้อยๆ ของนิรา“ถ้าน้องคลอดแล้ว จะส่งตั๋วเครื่องบินมาให้แพทริคนะคะ” นิราลูบหัวเด็กชายตัวน้อยอย่างเอ็นดู แพทริคชอบมาหาเธอบ่อยๆ และบ้านของเมลานีก็คอยช่วยเหลือเธอกับเสือมาตลอดหนึ่งเดือน“สัญญานะครับ”“จ้า” นิราเกี่ยวก้อยสัญญากับลูกครึ่งไทย-สวิตฯ ที่โตขึ้นต้องฉายแววความหล่อเหมือนแม่กับพ่อแน่ๆ“เดินทางปลอดภัยนะครับ” สามีของเมลานี ยกมือขึ้นจับเสือเป็นการกล่าวลา ก่อนจะพาเด็กๆ และภรรยาเดินจากไป“กลับบ้านเรากันเถอะครับ”เครื่องบินลำใหญ่ พาเสือกับนิรามาถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ ก่อนคนทั้งคู่จะขึ้นรถที่คุณหญิงส่งไปรับกลับมาที่บ้านของตัวเองเท่านี้ก็ถือว่าเขากับเธอปลอดภัยแล้วที่เหลือก็ใช้ชีวิตปกติ และรอแค่ลูกคลอดเท่านั้น“พี่เสือของขวัญเต็มบ้านเลยค่ะ” ทันทีที่เปิดเข
ก๊อกๆๆเหมือนผีจะหลอกเขากลางวันแสกๆ เพราะเสือไม่เห็นใครเลยแต่เสียงเคาะประตูยังดังอย่างต่อเนื่อง เสือจึงต้องเปิดประตูออกไปดู ว่าผีที่ไหนมาเคาะประตูบ้านกลางวันแสกๆ“Gruetzi”ทันทีที่เสือเปิดประตูออกไป ก็เจอเด็กคนนึงยืนยิ้มกว้าง ก่อนจะพูดอะไรก็ไม่รู้“????” เสือทำหน้างงอย่างหนัก เด็กผีนี่มาจากไหน ทำไมพ่อแม่ปล่อยออกมาเล่นคนเดียวแบบนี้ แถมพูดอะไรที่เขาฟังไม่รู้เรื่อง“Was musst du tun, Kind?” เสียงผู้หญิงที่ออกมาจากบ้านข้างๆ ตะโกนมาทางเขาและเด็กชายตัวน้อยเสือเข้าใจว่าคนสวิตฯส่วนใหญ่ใช้ภาษาเยอรมันในการสื่อสาร แต่เขาไม่มีความรู้เรื่องภาษาเยอรมันเลย เพราะเขาทำธุรกิจอยู่โซนเอเชีย ที่เน้นหลักทางจีน ภาษาจีนกับอังกฤษจึงเป็นภาษาที่เขามั่นใจมากที่สุด“สวัดดีค่ะ” ผู้หญิงที่เพิ่งออกมาจากบ้านข้างๆ เดินมาใกล้ก่อนจะพูดเป็นภาษาไทย เมื่อคนตรงหน้าเธอมีสีหน้างงๆ“ครับ?? คนไทย?”“เปล่าค่ะ แต่สามีฉันเป็นคนไทย” ผู้หญิงที่ดูยังไงก็เป็นชาวต่างชาติ พูดด้วยภาษาไทยที่ไม่ค่อยชัด แต่เสือกลับฟังรู้เรื่องกว่าภาษาที่เธอกับเด็กคนนี้พูดออกมาก่อนหน้านั้น“แพทริค ทำไมไม่สวัสดีละ แล้วการที่มาเคาะบ้านคนอื่น รู้ไหมมันเสียมารย
“พี่เสือเร็วหน่อย”นิราเอ่ยเร่งคนที่ทำหน้าที่ยกกระเป๋าเดินทางลงจากรถ ทั้งของเธอกับเขา เสือได้แต่ส่ายหัวกับความตื่นเต้นของเธอ แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่เธอจะตื่นเต้น ก็นี่คือครั้งแรกที่เธอได้มาต่างประเทศอะเนอะ“ถ้าวิ่งพี่จะตีจริงๆ นะนิว” เสือดุคนที่เดินนำเขาไปทางบ้านพักหลังไม่ใหญ่นัก ใกล้ๆ ทะเลสาบลูเซิร์นที่เปรียบเสมือนหัวใจของประเทศสวิตเซอร์แลนด์“ขอบคุณนะคะที่พามา” นิราหันมาขอบคุณผู้ชายที่เธอรักที่สุด ก่อนกระชับเสือโค้ทกันหนาวแน่นขึ้นตอนนี้เพิ่งจะต้นเดือนมีนาเอง อากาศเลยยังหนาวอยู่นิดหน่อย แต่มันก็หนาวน้อยกว่าช่วง ธันวา-กุมภา อยู่ดี“ต้องไปขอบคุณมิล ที่ยกบ้านพักตากอากาศให้เรามาอยู่ฟรีๆ ถึงสองเดือน”ทันทีที่เสือเล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนๆ ฟัง และบอกว่าแม่เขาให้ไปพักผ่อนที่ต่างประเทศจนกว่าท่านจะจัดการเรื่องเสร็จ อรุณก็ต่อสายหามัลลิกา และเธอก็เสนอบ้านพักตากอากาศสุดหรู ริมทะเลสาบลูเซิร์นให้ทันที“พี่มิลบอกว่าเป็นของขวัญแต่งงานค่ะ” เธอคุยกับมัลลิกาแล้ว และพี่มิลยังบอกอีกว่า สงสารที่พี่เสือไม่เคยพาเธอไปฮันนีมูลเลย จึงยกบ้านพักให้เธอกับพี่เสือมาฮันนีมูลนั่นแหละ“ของขวัญที่คนให้วันแต่งเกาะยังไม่หมด
“รู้แล้วค่ะ โอ้ยมันจักจี้” นิราหลบคนที่เอาแต่แกล้งเธอ ด้วยการถูจมูกไปตามซอกคอ จนไรหนวดน้อยๆ นั่นทิ่มผิวเธอจนเกิดรอยแดงจางๆ“ไม่รักพี่เหรอครับ” เสือหยุดทุกการกระทำ ก่อนจะมองหน้าคนที่เขารักนิ่งๆ เธอไม่ค่อยบอกรักเขาเลย จนสงสัยว่าเธอรักเขาจริงหรือเปล่า“ถ้าไม่รักจะยอมเอาตัวเข้าแลกไหมละคะ มันจะมีผู้หญิงบ้าที่ไหน เอาตัวไปยั่วยวนคนที่ตัวเองไม่ได้รักละ” นิราพูดด้วยเสียงแผ่วเบา คิดถึงเรื่องนี้ทีไรก็ต้องอายหน้าแดงทุกที“ยั่วพี่บ่อยๆ นะ ไม่งั้นพี่จะทิ้งจริงๆ ด้วย”เสือชอบแกล้งเธอนะ เวลาที่เธอโกรธจนใบหน้าเล็กๆ นัั่นบูดบึ้งมันน่าหมั้นเขี้ยวที่สุด“ก็ลองดูสิคะ” นิราเลื่อนมือลงไปตามหน้าอกกว้าง ก่อนจะออกแรงบิดเมื่อเจอเป้าหมาย“โอ้ยยยย! ยัยบ้า พี่เจ็บนะ” เสือลูบหัวนมตัวเองปอยๆ ยัยนี่เป็นอะไรกับหัวนมนักหนาเนี้ย เดี๋ยวกัดคืนซะเลยนิ“ก็พูดไม่เข้าหู ถอยไปเลยค่ะ นิวจะไปอาบน้ำ ช้ากว่านี้เช้าพอดี” นิราดุคนที่ทิ้งตัวนอนลงบนที่นอน ทั้งยังกอดเอวเธอไว้หลวมๆ จนเธอขยับไปไหนไม่ได้เลย นี่มันจะเช้าแล้วนะ ตีสองแล้ว ขืนดึกกว่านี้เธอจะไม่อาบน้ำแล้วนะ“ไม่อาบก็ไม่เป็นหรอก นอนเถอะครับมันดึกแล้ว” ไม่อยากให้เธออาบน้ำดึกๆ เท
“ไม่เอาอย่าร้อง เดี๋ยวลูกในท้องจะเสียใจ อ่านคู่มือไหมเนี้ย เขาบอกว่าคนท้องห้ามเครียด ห้ามๆๆ เข้าใจไหม” มัลลิกาเช็ดน้ำตาให้นิราเบาๆ เห้อ!! เหมือนแม่ยัยเด็กนี่เข้าไปทุกที เธอแย่งคนที่ฉันรักไปนะยะ ยังจะมาอ้อนอะไรฉันแบบนี้อีก“นิวเป็นห่วงพี่เสือ”“รู้แล้วๆ ไม่ร้องนะ เดี๋ยวพาไปรอที่บ้านคุณแม่ จะได้มีคนอยู่ด้วย” มัลลิกาจับมือนิราไว้เบาๆไม่กล้าไปส่งเธอไว้บ้าน เพราะไม่อยากให้เธออยู่คนเดียว ตอนนี้แม่ของยัยเด็กนี่อยู่ที่บ้านคุณหญิงทิพย์อาภา เพราะคุณหญิงไม่อยากให้นิรารับภาระดูแลแม่ป่วย ท่านจึงอาสาดูแลให้ทั้งหมด ยัยนี่โชคดีขนาดไหนที่มีแม่สามีดีขนาดนี้ปังงงงงงงเสือเปิดประตูเข้ามาในร้านอย่างแรง จนประตูแบบผลัก ชนกันเสียงดัง เรียกให้นิรา มัลลิกา และเมธาวีที่เป็นผู้จัดการร้าน หันไปมองอย่างตกใจ“ขอโทษ!! นี่รีบมาแล้ว นิวกลับบ้านกันเถอะ”เสือเบาเสียงในตอนท้าย เมื่อนิราเดินแกมวิ่งมากอดเขาแน่น อย่างไม่คิดว่าตัวเองจะท้องอยู่สักนิด“ไปไหนมาคะ”“เดี๋ยวถึงบ้านพี่เล่าให้ฟังนะครับ” เสือแกะคนที่กอดเขาออกเบาๆ ก่อนจะยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนเป็นห่วงเธอมาก อยากจะมาหาเธอตั้งแต่ออกจากบริษัท แต่ก็วางใจเพราะมีมัลลิกาอย