กว่าที่เจ้าแก้มจะหลุดพ้นจากพี่ชายทั้งสองออกมาได้ก็แทบจะหมดแรงเพราะทั้งหมอกราฟและหมอกลูมทำการซักฟอกเธออย่างหนักจนหมอกัลย์สุดาต้องมาช่วยห้ามเจ้าแก้มขึ้นมาบนห้องก็เปิดหนังสืออ่านตามปกติครืด ครืดแรงสั่นของโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ ทำให้เจ้าแก้มต้องหันไปหยิบขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นข้อความจากกลุ่มเพื่อนของเธอเองที่มีกันสามคนซึ่งข้อความที่ถูกส่งมานั้นคือเพจข่าวของมหาวิทยาลัยเจ้าแก้มขมวดคิ้วเล็กน้อย และจำได้ว่าเพจข่าวนี้เคยนำรูปเธอไปลงเธอจิ้มลิงก์ที่หนูดีส่งมาแล้วเลื่อนไปดู“ข่าวด่วน หนุ่มหล่อดีกรีเฮดว้ากวิศวะ ควงสาวน้อยที่เคยเป็นข่าวกันไปนั่งเฝ้าถึงคณะ”และก็มีภาพที่เธอนั่งอยู่ที่ลานกิจกรรมของคณะวิศวะเจ้าแก้มเลื่อนไปดูคอมเมนต์ก็มีทั้งดีและไม่ดี เธอขมวดคิ้วแล้วอ่านคอมเมนต์จากสาว ๆ ที่ด่าเธอเหมือนแค้นกันมานาน ทั้ง ๆ ที่เธอไม่รู้จักใครสักคนเลยครืด ครืดแต่แล้วหน้าจอก็เปลี่ยนไปเป็นหน้าการโทรที่มีสายเรียกเข้าเจ้าแก้มตกใจเกือบทิ้งโทรศัพท์ลงพื้นแล้วสายเรียกเข้า : 092xxxxxxxx“เบอร์ใครนะ?” เจ้าแก้มพึมพำขึ้นกับตัวเองแล้วกดรับสาย“สวัสดีค่ะ”“ทำอะไรอยู่?” เสียงนิ่งที่ดังขึ้นมาจากปลายสายทำให้เ
“เจ้าแก้ม พี่กราฟ?” ชิงชิงที่เห็นเพื่อนเดินหน้าเอ๋อเข้ามาก็โบกมือทักทาย แต่พอเห็นคนที่เดินตามหลังเจ้าแก้มมาก็ขมวดคิ้วสงสัยทันที“สวัสดีค่ะ” แต่ก็ยังไม่ลืมยกมือไหว้พี่ชายของเพื่อนด้วยท่าทีนอบน้อม“ครับ” หมอกราฟรับไหว้แล้วนั่งลงอีกฝั่งเพื่อนทั้งสองของน้องสาว“พี่กราฟไม่ไปทำธุระเหรอคะ?” เจ้าแก้มนั่งลงแล้วถามพี่ชายตาใส“นี่ไง ธุระพี่” หมอกราฟก็ตอบกลับน้องสาวมาทันที“???”“นี่พี่กราฟมาเฝ้าเจ้าแก้มเหรอคะ?” เป็นหนูดีที่พอจะเดาอะไรออกบ้างแล้ว จึงถามขึ้น“ใช่” ซึ่งคำตอบของหมอกราฟก็ไม่ได้เกินความคาดหมายของเพื่อนสนิทเจ้าแก้มมากนัก“มาเฝ้าทำไมคะ?” มีแต่เจ้าแก้มนั่นแหละที่ไม่เข้าใจว่าพี่ชายของเธอเล่นอะไรอยู่ เขาจะมาเฝ้าเธอทำไมกัน“ก็มีหมามาจ้องปลาย่างที่พี่ย่างมาตั้งนาน พี่ต้องมาเฝ้าสิ” หมอกราฟตอบกลับมาหน้าตาเฉย“เขามีแต่แมวหรือเปล่า?” ชิงชิงและหนูดีหันไปกระซิบกระซาบกันเสียงเบา“ใช่” “ปลาย่างอยู่ไหนคะ? พี่กราฟพูดอะไรเนี่ย?” เจ้าแก้มมองซ้ายขวาเพื่อหาปลาย่างที่พี่ชายพูดถึง แต่ก็ไม่เห็นจะมี “ช่างเถอะน่า แล้วนี่ไม่ได้ไปเรียนเหรอ?” หมอกราฟจึงพูดปัดไปแล้วถามขึ้นทำให้สามสาวนึกขึ้นได้ว่ามีเรียน จึงเดิน
โซ่เดินเข้ามาในตึกคณะเภสัช และเจอเข้ากับกลุ่มของจิน พี่ว้ากคณะนี้พอดี“ไอ้โซ่?” จินจึงเป็นฝ่ายทักทายเขาก่อน“อื้ม” โซ่จึงเดินไปหาแล้วพยักหน้าให้ทุกคน“ไปไงมาไงว่ะ?” เพื่อนในกลุ่มของจินทักขึ้นแล้วมองโซ่ด้วยสายตาแปลกใจ“จะมาทำไมล่ะ ก็คงมาเฝ้าน้องแก้มน่ะสิ” เพื่อนอีกคนในกลุ่มที่พอจะรู้ข่าวเรื่องโซ่กับเจ้าแก้มบ้างจึงแซวขึ้น“แก้มไหน?” ฟีน พี่รหัสของเจ้าแก้มที่นั่งฟังอยู่หันไปถามเพื่อนตัวเองทันที“เอ้า ก็น้องรหัสมึงไง”“นะ นี่มึงจีบเจ้าแก้มเหรอไอ้โซ่?” พอได้ยินเช่นนั้น ฟีนก็หันขวับไปมองโซ่ด้วยความตกใจ ใบหน้าหวานมีความตื่นตะหนกเป็นอย่างมาก เพราะเธอคือพี่รหัสของเจ้าแก้มที่รู้เรื่องราวของน้องรหัสเป็นอย่างดี“อื้ม” ซึ่งโซ่ก็พยักหน้ารับ“ฉิบหายแล้ว!!” ฟีนจึงพูดขึ้นด้วยความตกใจเมื่อได้รับคำตอบเช่นนั้น“ทำไมวะ?” เพื่อนคนอื่นจึงมองท่าทีของฟีนด้วยความสงสัย“มึงลืมไปแล้วหรือไงว่าพี่เจ้าแก้มหวงน้องแค่ไหน”“เออ ก็จริง” และพอได้ยินคำพูดของฟีน พวกเขาก็นึกขึ้นได้ว่าพี่ชายของเจ้าแก้มเป็นใคร จึงไปหันไปมองโซ่ด้วยแววตาสงสาร“งานหยาบแน่มึงไอ้โซ่” จินเองก็พูดกับโซ่แล้วยิ้มสะใจออกมา“อ้าว นี่มันวันอะไรว่ะ ทำไมห
“สวัสดีครับ” โซ่ยกมือไหว้อีกฝ่ายก่อน“กองไว้ตรงนั้นแหละ” ซึ่งหมอกราฟก็ตอบกลับมาโดยที่ไม่ให้คนที่รอฟังผิดหวังเลยสักนิด“พี่กราฟ นิสัยไม่ดีเลยนะคะ” เจ้าแก้มได้ยินเช่นนั้นก็หันขวับไปมองพี่ชาย จากนั้นก็ทำหน้าดุใส่เขา ซึ่งท่าทางไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด“เจ้าแก้ม นี่กล้าว่าพี่เหรอ?” หมอกราฟถลึงตาน้องสาวที่กล้าต่อว่าเขาต่อหน้าผู้ชายคนอื่น“ก็พี่กราฟทำนิสัยไม่ดี เจ้าแก้มฟ้องคุณแม่นะ” เจ้าแก้มพองลมแล้วทำหน้าดุขู่พี่ชาย“เหอะ” ซึ่งพอพูดถึงผู้เป็นแม่ หมอกราฟก็ดูอ่อนลงเพราะเมื่อคืนเขาเพิ่งโดนหมอกัลย์สุดาเรียกไปพูดคุยเรื่องของเจ้าแก้ม“งานหยาบแล้วไอ้โซ่” กลุ่มเพื่อนของโซ่เห็นเข้าก็รู้ทันทีว่าพี่ชายของเจ้าแก้มไม่ชอบใจเพื่อนของพวกเขาสักเท่าไรนัก“พี่โซ่ไม่มีเรียนเหรอคะ?” เจ้าแก้มสะบัดหน้าหนีพี่ชาย จากนั้นก็หันมาถามโซด้วยรอยยิ้ม“เรียนเช้าเสร็จแล้ว บ่ายว่าง”“เจ้าแก้มก็ว่างค่ะ แต่ต้องรอรับน้อง” เจ้าแก้มพยักหน้ารับรู้และบอกกล่าว ถึงเรื่องตัวเองไปด้วย วันนี้เธอเองก็มีเรียนแค่ช่วงเช้าแต่ช่วงบ่ายก็ต้องเข้ากิจกรรมรับน้องเหมือนเดิม“ไปกินข้าวกันไหม?” โซ่จึงถือโอกาสชวนเจ้าแก้มไปกินข้าวด้วยกัน“ไม่ให้ไปโว้ยยยย
พอมาถึงร้านอาหาร หมอกราฟก็จับน้องสาวมานั่งข้าง ๆ ในขณะที่สาว ๆ กำลังสั่งอาหารกันอยู่นั้น สองหนุ่มก็จ้องหน้ากันนิ่ง ต่างไม่มีใครยอมใครเลยสักคนโซ่ไม่หลบสายตาดุดันของพี่ชายเจ้าแก้มเลยเพื่อแสดงความจริงใจ“พี่กราฟ พี่โซ่ เอาอะไรเพิ่มไหมคะ?” เจ้าแก้มหันไปถามสองหนุ่มที่นั่งนิ่งอยู่ว่าต้องการอะไรเพิ่มเติมไหม“ไม่ล่ะ” หมอกราฟปฏิเสธเพราะที่น้องสาวของเขาและเพื่อนของเธอสั่งมาก็เยอะมากพอแล้ว อีกอย่าง เห็นหน้าโซ่แล้วเขากินไม่ลงจริง ๆ“พี่ก็ไม่” โซ่เองก็ส่ายหน้าเช่นกัน“อย่างนั้นเอาแค่นี้ค่ะ” เจ้าแก้มจึงหันไปพูดกับพนักงานที่รอรับออร์เดอร์อยู่ จากนั้นก็ยิ้มให้เล็กน้อย“ลูกค้ารออาหารสักครู่นะคะ” พนักงานค้อมหัวให้กับลูกค้าแล้วเดินออกไปจัดการกับออร์เดอร์ที่โต๊ะของเจ้าแก้มสั่งทันทีจากนั้นทุกคนก็หันกลับมานั่ง ๆ ซึ่งบรรยากาศที่หมอกราฟและโซ่สร้างขึ้นไม่ค่อยจะดีนัก จนสองสาวเพื่อนสนิทของเจ้าแก้มรู้สึกอึดอัด จะมีเพียงเจ้าแก้มเท่านั้นที่ไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย“เอ่อ แก้ม เราไปเข้าห้องน้ำกันไหม?” หนูดีพูดขึ้นแล้วชวนเพื่อนสาวไปเข้าห้องน้ำ“ไปสิ” เจ้าแก้มเองก็พยักหน้าให้แล้วลุกขึ้น“เดี๋ยวเจ้าแก้มมานะคะ” จากนั้นก็ห
หมอกราฟได้รับข้อความจากคลินิกของเขาว่ามีเคสด่วนเข้ามา เขาจึงต้องเข้าไปดูด้วยตัวเอง เพียงแต่ต้องไปส่งน้องสาวก่อนก็เท่านั้น“เจ้าแก้ม เดี๋ยวพี่ไปส่งแล้วจะไปคลินิกนะ ตอนเย็นเดี๋ยวจะไปรับ” เขาเงยหน้าจากโทรศัพท์แล้วบอกกับน้องสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ“ค่ะ” เจ้าแก้มพยักหน้าเข้าใจ“พี่กราฟจะกลับไปกลับมาทำไมล่ะคะ พี่โซ่กลับไปมหา’ลัยหรือเปล่าคะ?” ชิงชิงเห็นท่าทางรีบร้อนของหมอกราฟก็เลยเสนอทางที่ดีขึ้น เพราะคิดว่ายังไงโซ่ก็ต้องกลับไปที่มหาวิทยาลัยอยู่แล้ว เนื่องจากคณะวิศวะก็มีกิจกรรมรับน้องเช่นกัน“กลับครับ”“นั่นไง เดี๋ยวพวกเรากลับพร้อมกับพี่โซ่ได้ค่ะ” ซึ่งพอได้รับคำตอบจากโซ่แล้ว เธอก็หันไปพูดกับหมอกราฟทันที“จริงด้วย พี่กราฟไปทำงานเถอะค่ะ เจ้าแก้มกลับพร้อมพี่โซ่เอง” นั่นทำให้เจ้าแก้มนึกขึ้นได้ เลยให้พี่ชายกลับไปทำงานได้เลยไม่ต้องห่วง“แต่” หมอกราฟมีท่าทีลังเลแม้ว่าเขาจะอ่อนให้อีกฝ่ายจีบน้องสาวแล้วแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไว้ใจขนาดนั้น“คะ?” เจ้าแก้มเอียงคอมองพี่ชาย ด้วยความสงสัย“เออ ก็ได้ แต่พี่จะมารับเองนะตอนเย็น” หมอกราฟจึงยอมอนุญาตและย้ำว่าตอนเย็นเขาจะมารับเธอเอง เป็นการบอกกล่าวโซ่ไปด้วยว่าไม่ต้
“เจ้าแก้ม”เสียงเรียกที่ดังขึ้นทำให้เจ้าแก้มหันไปมองก็เจอกับแพทและกลุ่มเพื่อนของอีกฝ่ายที่ยืนอยู่ด้านหน้าประตูห้องน้ำซึ่งเจ้าแก้มไม่ได้เห็นสายตาไม่เป็นมิตรจากอีกฝ่ายเลย เธอทักทายคนมาใหม่ด้วยรอยยิ้ม“อ้าว แพท หวัดดี”“หึ วันนี้ข่าวเธอดังมากเลยนะเจ้าแก้ม” เพียงแต่แพทกลับเมินคำทักทายของเธอแล้วเดินเข้าไปหาเจ้าแก้มพร้อมกับพูดจาเชือดเฉือนอีกฝ่าย จงใจโจมตีอย่างเห็นได้ชัด“หื้ม? ข่าวอะไรเหรอ?” ซึ่งเรื่องนี้เจ้าแก้มไม่รู้อะไรเลย เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวัน ๆ มีข่าวอะไรบ้างเกี่ยวกับเธอ มีเพียงเมื่อคืนเท่านั้นที่เพื่อนส่งเข้าไปในกลุ่ม เธอจึงได้เข้าไปอ่านและก็ไม่น่าดูเลยสักนิด เธอจึงไม่อยากจะเสพเรื่องราวพวกนี้มากนักเพียงแต่ช่วงนี้ก็รู้สึกว่าเธอก็ตกเป็นเป้าสายตาของใครหลายคนเหมือนกัน“ไม่รู้จริงดิ?” เพื่อนอีกคนของแพทที่เดินตามเข้ามา มองเจ้าแก้มด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อและมีความดูแคลนซึ่งเจ้าแก้มก็ส่ายหน้าปฏิเสธ เพราะเธอไม่รู้จริง ๆ“ฉันชักจะไม่แน่ใจแล้วนะ ว่าเธอใสซื่ออย่างที่แสดงออกมาหรือเปล่า?” แพทพูดขึ้นด้วยความหมั่นไส้ แค่เห็นกิริยาของเจ้าแก้มเธอก็รู้สึกขัดตาและคิดว่าที่เจ้าแก้มแสดงออกมานั้นมันไม่จ
“หึ ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่าที่บ้านสอนมายังไงถึงได้ร้ายลึกขนาดนี้” เพื่อนของแพทปรายตามองท่าทางของเจ้าแก้มแล้วเบะปากเบา ๆ“นั่นสิ ตอนนี้มีแค่พวกฉัน แสดงธาตุแท้ออกมาก็ได้นะ”“อย่าว่าถึงที่บ้านเรานะ!!” พอได้ยินคำพูดที่พาดพิงถึงคนที่บ้านเจ้าแก้มก็รู้สึกโมโหขึ้นมาจริง ๆ เธอไม่ยอมให้ใครมาว่าที่บ้านเธอหรอก เพราะทุกคนในบ้านเธอนิสัยดีกันทุกคน ไม่ใช่กลุ่มของเพื่อนตรงหน้านี้ที่มักกล่าวหาเธอ“ทำไม อย่างเธอจะทำอะไรพวกฉันได้” แพทจึงพูดจาท้าทายเจ้าแก้มเพราะรู้ว่าเจ้าแก้มไม่ใช่คนที่จะสู้คนขนาดนั้น“ทำไมถึงต้องมาว่าเราด้วย เราไปทำอะไรให้?” เจ้าแก้มน้ำตาคลอขึ้นมาทันที แล้วถามขึ้นด้วยความไม่เข้าใจว่าเธอไปทำอะไรให้กับแพทและเพื่อนของแพทกันแน่ อีกฝ่ายถึงได้มาต่อว่ากันแบบนี้“ก็ไม่ได้ทำอะไรให้พวกฉันหรอก แต่ฉันแค่ขัดหูขัดตา”“นิสัยไม่ดี” คำตอบของแพททำให้เจ้าแก้มรู้สึกไม่ดี แค่ขัดหูขัดตาก็ต้องมาต่อว่ากันขนาดนี้เลยหรือยังไง“แกว่าใคร!!” แพทได้ยินเช่นนั้นก็ไม่พอใจ เธอตรงเข้าไปผลักเจ้าแก้มใส่ผนังด้วยความแรงพรึบ“โอ๊ยยย” เจ้าแก้มที่ไม่ทันตั้งตัว จึงล้มลงแล้วแขนกระแทกเข้ากับผนังอย่างแรงจนเกิดเสียงดังขึ้น บริเวณเท้าก็
“คะ?” เจ้าแก้มชะงักไปทันที แล้วหันมามองโซ่อย่างตั้งคำถามอีกครั้ง“...” เพียงแต่โซ่ไม่ตอบอะไร เขามองเธอนิ่ง “เจ้าแก้มไม่ได้โกรธค่ะ” เจ้าแก้มส่ายหน้าเบา ๆ และขบคิดด้วยความสับสน“แล้วเป็นอะไร?” โซ่จึงจี้ถาม แม้จะมั่นใจแล้วก็ตามว่าเธอเป็นอะไร“เจ้าแก้มก็ไม่รู้” เจ้าแก้มส่ายหน้าตอบกลับมา เพราะเธอไม่รู้จริง ๆ ว่าตัวเองเป็นอะไร มันอธิบายความรู้สึกไม่ได้ในตอนนี้“เห็นรูปนั้นใช่ไหม?” “ค่ะ” เมื่อถูกถามอย่างนั้น เจ้าแก้มยอมรับไปตรง ๆ แล้วก้มหน้าลงทันที“พี่ไม่รู้เรื่องด้วย ไม่รู้จัก ไม่เคยคุยกันเลยด้วยซ้ำ” โซ่อธิบายให้เธอฟังอย่างใจเย็น เขาไม่รู้จักรุ่นน้องคนนั้นมาก่อน และไม่มีความคิดที่จะนอกใจเจ้าแก้มเลยสักครั้ง“อีกอย่างรูปนั้นพี่สั่งให้ไอ้ลีนไปลบให้แล้ว” แล้วก็บอกเล่าว่าเขาสั่งให้เพื่อนไปลบรูปนั้นแล้ว“พี่ดีใจนะ”“ดีใจอะไรเหรอคะ?” เจ้าแก้มเงยหน้าขึ้นแล้วมองโซ่อย่างแปลกใจ ที่จู่ ๆ ก็พูดขึ้นว่าดีใจ“ก็ดีใจที่เจ้าแก้มหึงพี่” โซ่กล่าวแล้วยิ้มกรุ้มกริ่มออกมาอย่างอารมณ์ดี“บ้า ใครหึงกัน ไม่มีนะ” ทำให้เจ้าแก้มหน้าร้อนขึ้นมาแล้วรีบปฏิเสธทันที เธอไม่ได้หึงเขาเสียหน่อย แค่ไม่พอใจที่เห็นเขากับคนอื่นก็เ
เจ้าแก้มมึนตึงกับโซ่เป็นอย่างมาก จนกลายเป็นความอึดอัดใจ“วันนี้พี่ไปส่งนะ” เขาอาสาไปส่งเธอที่บ้านด้วยตัวเอง เพื่อที่จะได้คุยกัน“พี่กราฟจะมารับค่ะ” แต่เจ้าแก้มกลับปฏิเสธมาเสียอย่างนั้น“เดี๋ยวพี่จะโทรบอกพี่กราฟเอง” โซ่จึงอาสาโทรหากราฟเอง เพราะอย่างไรวันนี้ต้องได้คุยกันก่อนทำให้เจ้าแก้มไม่สามารถปฏิเสธได้“พี่ไปนะ” โซ่จำใจต้องลาเจ้าแก้ม เพื่อไปเรียน แต่ก็ยังคงมีความกังวลอยู่ไม่น้อย“แกตึงใส่เขาเกินไปหรือเปล่า?” เมื่อโซ่เดินออกไปแล้ว ชิงชิงก็หันมาถามเจ้าแก้มทันที“นั่นสิ” หนูดีเองก็เห็นด้วย ว่าเจ้าแก้มเฉยชากับแฟนหนุ่มของเธอมากไปจริง ๆ“เจ้าแก้มไม่รู้” คำพูดของเพื่อนทั้งสองทำให้เจ้าแก้มรู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีในตอนนี้“ถ้าแกไม่รู้ แกควรจะถาม หรือพูดคุยกับเขาไปนะเจ้าแก้ม ไม่ควรทำแบบนี้” ชิงชิงจึงค่อย ๆ พูดให้เจ้าแก้มคิด และเข้าใจ“เจ้าแก้มงี่เง่าไปเหรอ?” เข้าแก้มจึงถามกลับมา เธอไม่อยากเป็นอย่างนี้เลย เพียงแต่จัดการกับความรู้สึกของตัวเองไม่ได้จริง ๆ“ไม่ใช่หรอก แต่แกก็รู้ว่าพี่โซ่เขารักแกแค่ไหน”“ใช่ ตึงใส่เขาไปแบบนั้นจะเรียนรู้เรื่องไหมน่ะ” คำพูดของหนูดีทำให้เจ้าแก้มชะงัก แล
“พี่ไลอ้อน” เจ้าแก้มหยุดชะงักแล้วยกมือไหว้เพื่อนสนิทของแฟนหนุ่ม“ไม่เห็นไอ้โซ่บอกเลยว่าเราจะมา?” ไลอ้อนรับไหว้แล้วพึมพำขึ้น เพราะก่อนหน้านี้โซ่ไม่เห็นจะบอกพวกเขาเลยว่าเจ้าแก้มจะมากินข้าวที่โรงอาหารของพวกเขา“เจ้าแก้มไม่ได้บอกพี่โซ่น่ะค่ะ” เจ้าแก้มบอกกับเขาไปเสียงนิ่ง“อ้าว” นั่นทำให้ไลอ้อนขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ และไหนจะอาการมึนตึงของเจ้าแก้มอีก เขาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่“ขอตัวไปสั่งข้าวก่อนนะคะ” เจ้าแก้มตัดบทแล้วขอตัวไปสั่งข้าวทันทีไลอ้อนมองตามหลังของเธอไปด้วยความงงงัน“น้องชิงชิง?” จากนั้นก็หันมามองชิงชิงอย่างตั้งคำถาม“ขอตัวนะคะ” แต่ชิงชิงไม่สามารถพูดอะไรได้เช่นกัน จึงค้อมหัวให้รุ่นพี่เล็กน้อย จากนั้นก็วิ่งตามหลังเจ้าแก้มไปติด ๆทิ้งให้ไลอ้อนได้แต่เกาหัวแกรก ๆ มองตามหลังไปทางด้านของโซ่ ในตอนนี้เขากำลังรอเจ้าแก้มตอบกลับข้อความ หลังจากที่เขาส่งไปหาเธอตั้งแต่สิบนาทีที่แล้ว“มึงเห็นนี่ยัง?” แล้วจู่ ๆ พายัพก็ยื่นโทรศัพท์ของเขาไปให้กับโซ่ซึ่งโซ่ก็มองด้วยความแปลกใจ และรับไปดูก็เห็นว่าเป็นรูปตอนที่เขาไปทำบุญเมื่อเช้านี้ และมีรุ่นน้องคนหนึ่ง มาอยู่ข้าง ๆ ซึ่งเขาไม่ได้รู้จัก หร
เช้าวันต่อมา ในวันนี้เจ้าแก้มมาเรียนโดยมีพี่ชายมาส่ง เพราะโซ่มีนัดกับรุ่นน้องแต่เช้า เพื่อมาทำบุญคณะกัน เจ้าแก้มจึงไม่ได้รบกวนเขาในขณะที่นั่งรอเรียนอยู่นั้น ก็มีเสียงฮือฮาดังขึ้นเป็นระยะ และเจ้าแก้มเองก็รู้สึกว่ามีสายตาของหลายคนมองมาที่เธอแปลก ๆเจ้าแก้มจึงเงยหน้าขึ้นมองด้วยความงงงัน จนหันมาเห็นสายตาของเพื่อนสนิททั้งสองนี่แหละ“มีอะไรเหรอ?” เจ้าแก้มถามขึ้นด้วยความสงสัย“ดูนี่สิ”“หือ?” เจ้าแก้มขมวดคิ้วด้วยความสงสัย จากนั้นก็รับโทรศัพท์จากมือของหนูดีมาดูซึ่งบนหน้าจอกำลังโชว์ภาพของโซ่และผู้หญิงคนหนึ่งกำลังทำบุญอยู่ข้างกัน พร้อมกับแคปชันหวานซึ้งเจ้าแก้มเลื่อนอ่านเม้นก็มีแต่คนพูดว่าเหมาะสมกัน และถามถึงเธอด้วย“โอเคนะ?” ชิงชิงถามขึ้นแล้วมองเจ้าแก้มด้วยสายตาเป็นกังวลเพราะสีหน้าเจ้าแก้มมีความเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังกำโทรศัพท์ในมือแน่นเจ้าแก้มได้สติเงยหน้าขึ้นมาเพื่อนสนิททั้งสองแล้วถามขึ้น“ใครเหรอ?”“เห็นบอกว่าเป็นรุ่นน้องปีหนึ่งน่ะ” หนูดีเป็นฝ่ายตอบ เพราะเธอได้ถามมาแล้วก่อนที่จะเอารูปให้เจ้าแก้มดู คนรู้จักของเธอบอกว่าเป็นรุ่นน้องปีหนึ่ง“อื้ม” เจ้าแก้มพยักหน้ารับรู้แล้วทำเป็น
โซ่เองก็ให้เจ้าแก้มมานั่งข้าง ๆ เขาเช่นกัน แล้วหยิบน้ำมาเปิดฝาให้เธอ“ขอบคุณค่ะ” เจ้าแก้มรับน้ำมาแล้วเอ่ยขอบคุณโซ่“หิวไหม?” โซ่จึงถามอย่างใส่ใจ เพราะทุกครั้งเวลานี้เจ้าแก้มจะต้องได้กินของว่าง แต่เขาติดธุระ ไม่มีเวลาไปรับเธอเลย คิดแล้วก็มีสีหน้ารู้สึกผิดขึ้นมาทันที“ไม่ค่อยหิวค่ะ” เจ้าแก้มรู้สึกหิวเล็กน้อย เพราะความเคยชินที่ได้กินอาหารเวลานี้ แต่ก็ไม่อยากรบกวนโซ่ จึงตอบกลับไป“แสดงว่าหิว?” แต่คำว่า ไม่ค่อย ของเธอนั้นทำให้โซ่ขมวดคิ้วแล้วหรี่ตามองเธอ“แฮ่ ๆ” เจ้าแก้มไม่อยากโกหกว่าไม่หิวจึงยิ้มแหยให้เขาไป“รอก่อนนะ เดี๋ยวพี่พาไปหาอะไรกิน” โซ่จึงพูดขึ้นแล้วหันไปมองตามรับน้องของคณะตัวเองด้วยความหงุดหงิด ใจเขาอยากจะเข้าไปปล่อยรุ่นน้องและพาเจ้าแก้มกลับตอนนี้เลย แต่ไม่สามารถทำได้อย่างที่คิด“ไม่เป็นไรค่ะ ถ้ากินตอนนี้ กลับบ้านไปคงกินข้าวไม่ได้” เจ้าแก้มเห็นสีหน้าโซ่จึงรีบบอกกับเขาไป เพราะเวลานี้เธอคงกินอะไรไม่ได้แล้ว เพราะว่าต้องกลับไปกินข้าวกับที่บ้านต่อด้วย“อื้ม” โซ่เองก็พึ่งนึกขึ้นได้จึงพยักหน้าเข้าใจรอไม่นานกลุ่มพี่ว้ากก็มีการปล่อยรุ่นน้องให้กลับบ้านทำให้โซ่เองก็พาเจ้าแก้มกลับได้เช่นก
เวลาผ่านไป หลังจากวันนั้นที่โซ่ง้อเจ้าแก้มได้สำเร็จ ทั้งสองก็ตัวติดกันตลอด ไม่ห่างไปไหนช่วงปิดเทอมบ้านของเจ้าแก้มก็มีโซ่ไปเป็นแขกประจำ จนคุ้นเคยกับทุกคนในบ้านพี่ชายทั้งสองของเจ้าแก้ม เห็นโซ่ดูแลน้องสาวของพวกเขาเป็นอย่างดีก็อ่อนให้โซ่แล้ว ไม่มีจิกกัดเหมือนแต่ก่อนจวบจนเปิดเทอม เจ้าแก้มขึ้นปี 3 ส่วนโซ่ก็เป็นรุ่นพี่ปี 4 แล้วในวันนี้เจ้าแก้มมาที่มหาวิทยาลัยโดยมีโซ่มาส่ง ส่วนตัวเขานั้นยังไม่ได้มีการเรียนอะไร มีเพียงคอยดูแลเรื่องการรับน้องในคณะก็เท่านั้นซึ่งโซ่ได้รับเลือกเป็นประธานสภาของมหาวิทยาลัย เขาจึงวุ่นวายเป็นอย่างมากส่วนเจ้าแก้มนั้นขึ้นปีสาม เป็นปีของพี่ว้าก ที่ไม่ต้องไปวุ่นวายการรับมากนัก แต่วันนี้เธอถูกเพื่อนสนิทลากมาดูพี่ว๊าก ซึ่งก็คือเพื่อนปีเดียวกันกับเธอลงว้ากเป็นครั้งแรก“เงียบ!!”เสียงว๊ากที่ดังขึ้นทำให้น้อง ๆ ที่กำลังฮือฮากันอยู่เงียบเสียงลงทันทีบรรยากาศโดยรอบกำลังเกิดเดดแอร์ ไม่เว้นแม้แต่เจ้าแก้มที่เผลอเกร็งไปกับน้อง ๆ ด้วย“ดุชะมัด” ชิงชิงหันไปกระซิบกับหนูดีเพราะพี่ว้ากปีของพวกเธอ มาจากกลุ่มผู้ชายที่ดูจะนุ่มนวลที่สุดแล้ว ทุกคนจึงไม่เชื่อนักว่าพวกเขาจะว้ากได้จริง จึ
พรึบเขาดึงแขนเธอเข้าไปประชิดตัวเองไว้ จากนั้นก็ดันหลังเธอชนกับกำแพงห้องแล้วฉกจูบลงมา“อื้อออออ” เจ้าแก้มเบิกตากว้างอย่างตกใจแล้วก็เอามือดันไหล่เขาไว้“พะ พี่โซ่” เธอพยายามห้ามเขาที่กำลังซุกไซ้ซอกคอของเธออยู่ในตอนนี้“พี่ขอโทษ” เขาเงยหน้าขึ้นมองเจ้าแก้มด้วยสายตาอ้อนวอน ขอให้เธอหายโกรธเขาซึ่งในตอนนี้เจ้าแก้มไม่ได้โกรธเขามากขนาดนั้นแล้วจึงใจอ่อน“นะครับ” โซ่ทำเสียงออดอ้อน จากนั้นก็มองเธออย่างอ้อนวอน“เจ้าแก้มหายโกรธก็ได้ แต่พี่โซ่อย่าทำแบบนั้นอีกนะคะ”เจ้าแก้มจึงยอมใจอ่อน หายโกรธเขา แต่ก็ยังกำชับไม่ให้เขาพูดแบบนั้นอีก เพราะเธอไม่ชอบจริง ๆ“ครับ” โซ่ตอบรับแล้วยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจโซ่ทำการช้อนตัวเจ้าแก้มขึ้นอุ้มโดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัว“พี่โซ่!!” เจ้าแก้มหวีดร้องด้วยความตกใจแล้วยกมือขึ้นโอบรอบคอโซ่ไว้กันไม่ให้ตัวเองตกโซ่พาเธอเข้ามาในห้องนอนแล้ววางเธอลงบนเตียงอย่างทะนุถนอมหลายวันที่ผ่าน ไม่ได้คุยกับเจ้าแก้มแล้วเขารู้สึกจะคลั่งตาย โซ่สบตามองเจ้าแก้มอย่างลึกซึ้งจนเจ้าแก้มรู้สึกเขินอายฟอดดดด“ขอนะครับ” โซ่โน้มหน้ามาหอมแก้มเธอแล้วกระซิบข้างหูเสียงแหบพร่าเขาค่อย ๆ ทำการโน้มน้าวโลม
และนี่ก็สามวันแล้วที่เจ้าแก้มโกรธโซ่ ไม่ยอมพูดคุยด้วย อีกทั้งยังเมิน หลบหน้าเขาอีกด้วย จนโซ่ต้องมานั่งซึมแบบนี้ผับ F “ท่าทางจะอาการหนักว่ะ” ไลอ้อนหันไปพูดกับพายัพติดตลกแล้วมองไปที่โซ่“เออ กูก็ว่างั้น” ซึ่งพายัพเองก็เห็นด้วยเป็นอย่างมากเพราะในตอนนี้โซ่กำลังนั่งเหม่อถือแก้วเหล้ากระดกเป็นน้ำเปล่า ไม่ยอมพูดจากับใครทั้งสิ้น“มันเป็นอะไร?” คำพูดของทั้งสองทำให้คนบนโต๊ะหันไปมองโซ่เป็นตาเดียว และก็มีคนถามขึ้น“เจ้าแก้มงอนมันน่ะสิ” เรย์จึงเป็นฝ่ายตอบแล้วหยิบขวดเหล้ามารินให้กับตัวเอง“หือ?” นั่นทำให้ทุกคนที่ได้ยินขมวดคิ้วสงสัย เนื่องจากเจ้าแก้มอ่อนหวานและเรียบง่ายแบบนั้น โซ่ไปทำอะไรให้อีกฝ่ายโกรธมากันจากนั้นก็มีคนหนึ่งที่ทำการสอดส่องสาว ๆ อยู่เขาสะดุดอยู่ที่โต๊ะหนึ่งแล้วหรี่ตามอง“อะไร?” จนเพื่อน ๆ เห็นท่าทางนั้นแล้วรู้สึกสงสัย จึงถามขึ้น“มึงช่วยกูดูหน่อย ว่านั่นใคร?” คนนั้นจึงชี้ไปที่โต๊ะหนึ่งทันทีทำให้สายตาของทุกคนยกเว้นโซ่หันไปมองตาม“กะ กูไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหมว่ะ?” ไลอ้อนพูดขึ้นแล้วขยี้ตาเพราะที่พวกเขาเห็นคือเจ้าแก้มและกลุ่มเพื่อนของเธอนั่นเอง“ไอ้โซ่” ลีออนจึงหันไปเรียกโซ่ที่นั่งนิ่ง
“สวัสดีครับ”“คะ?” เจ้าแก้มหันไปมองหนุ่มหล่อหน้าตาดีในชุดมหาวิทยาลัยอื่นที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาแปลกใจ“ผมเซนนะครับ” อีกฝ่ายจึงรีบแนะนำตัวทันที“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ?” เจ้าแก้มพยักหน้ารับรู้แล้วถามขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ“เอ่อ ผมจะมาขอไลน์คุณน่ะครับ” เซนยื่นโทรศัพท์ในมือมาให้เจ้าแก้ม เพื่อขอช่องทางการติดต่อของเธอตามที่พูด“เอ่อ” นั่นทำให้เจ้าแก้มมีท่าทีอึกอัก ทำตัวไม่ถูกขึ้นมาทันที“ไม่ทราบว่าคุณชื่อ?” เซนทำเป็นไม่เห็นท่าทางลำบากใจของเธอ และทำเป็นถามชื่อ ในตอนแรกที่เขาเห็นเธอก็รู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก และมองจนเพื่อนของเขารู้ พร้อมกับเชียร์ให้เขาเข้าหาเธอ“เจ้าแก้ม” เจ้าแก้มยังไม่ทันได้ตอบอะไรไป ก็มีเสียงเรียกเธอดังขึ้นเสียก่อน“พี่โซ่!” เจ้าแก้มหันมองก็เห็นว่าเป็นโซ่นั่นเองที่ยืนหน้านิ่งอยู่ในชุดนักกีฬา“มีอะไรหรือเปล่า?” โซ่เดินเข้ามาแล้วถามขึ้น พร้อมกับปรายตามองไปที่ผู้ชายคนนั้นเล็กน้อยเขากำลังจะมาหาเจ้าแก้ม แต่กลับเห็นเธอยืนคุยกับผู้ชายคนอื่นอยู่ จึงเกิดความไม่พอใจ“คือว่า” เจ้าแก้มกำลังจะอธิบายให้แฟนหนุ่มของเธอฟัง“ผมมาขอไลน์คุณเจ้าแก้มน่ะครับ” แต่เซนกลับพูดขึ้นเสียก่อน ทำให้เธอช