ตึกอธิการบดีโซ่เดินหน้าตึงเข้ามาที่ตึกอธิการบดีแล้วตรงขึ้นไปชั้นบนสุดของตึกทันทีเลขาหน้าห้องของอาจารย์ชลธีร์ อธิการบดีของมหาวิทยาลัยหันมาเห็นเขาก็ทักทายทันทีด้วยความสงสัย เพราะวันนี้นางรู้ว่ามหาวิทยาลัยมีกิจกรรมรับน้องรวมแต่การที่โซ่ขึ้นมาบนนี้แสดงว่าต้องมีเรื่องอะไรแน่ ๆ“คุณศิรวิทย์?”โซ่ไม่สนใจเลขาวัยกลางคนเลยสักนิด เขาตรงไปที่หน้าประตูแล้วกระชากออกทันที“คุณโซ่คะ ท่านอธิการประชุมอยู่นะคะ!!” เลขาหน้าห้องเห็นเช่นนั้นก็ตกใจเป็นอย่างมาก รีบเข้าไปห้ามทันทีแกรกแต่โซ่ไม่ฟัง เปิดประตูออกด้วยใบหน้าถมึง ทำให้ผู้ใหญ่ที่นั่งพูดคุยเรื่องงานกันอยู่ชะงัก แล้วหันมามองเขาที่อยู่หน้าประตูเป็นตาเดียว“อ้าว โซ่?”ท่านอธิการตวัดสายตามามองอย่างดุ ๆ หวังจะต่อว่าเลขาที่เสียมารยาท แต่พอเห็นว่าเป็นหลานชายภรรยาของเขาเองที่เปิดประตูเข้ามา ก็มองอย่างแปลกใจตึก ตึก ตึกโซ่ไม่สนใจสายตาของใครที่มองมาที่เขาด้วยสายตาแปลกใจ สงสัย หรือตำหนิ เขาเดินตรงไปที่โต๊ะคอมพิวเตอร์ที่เป็นมุมกล้องวงจรปิดของมหา’ลัย ซึ่งกำลังฉายภาพจอเป็นกล้องมุมต่าง ๆ ในมหา’ลัยหลายจอเขาเปิดไปที่กล้องตัวที่อยู่ใกล้เต็นท์คณะตัวเองมากที่สุด แล
เมื่อถึงเวลาเลิกกิจกรรม โซ่ก็พาเจ้าแก้มเดินออกมาจากตึกคณะของเขา เดินกันมาถึงด้านหน้าคณะของเจ้าแก้ม“กลับยังไง?” เขาเอ่ยปากถามขึ้นก่อนที่จะแยกย้ายกัน “คะ?” เจ้าแก้มที่คิดอะไรเพลิน ๆ อยู่ก็หันมาหาโซ่แล้วทำหน้าสงสัยแต่โซ่กลับยืนเงียบและรอคอยคำตอบ เจ้าแก้มจึงพยายามนึกว่าเมื่อครู่เขาถามอะไรเธอแล้วตอบออกไป“อ๋อ พี่ชายแก้มมารับค่ะ”และแล้วโทรศัพท์ของเจ้าแก้มก็สั่นขึ้นสายเรียกเข้า : พี่คนโตของเจ้าแก้ม“อุ๊ย โทรมาพอดีเลย” พอเห็นว่าปลายเป็นใคร เจ้าแก้มก็ยิ้มสดใส ดวงตาของเธอเปล่งประกายเป็นอย่างมาก“แก้มไปนะคะ สวัสดีค่ะ” เจ้าแก้มหันมาเอ่ยลาโซ่แล้วยิ้มสดใส“ค่าพี่กราฟ” พอเธอหันหลังให้เขาแล้วก็กดรับสายพี่ชายทันที“อยู่ตรงไหนคะ? โอ๊ะ แก้มเจอแล้วค่ะ”เจ้าแก้มพยายามชะเง้อหารถของพี่ชายที่มารับ เธอพูดเจื้อยแจ้วไปตลอดทาง โดยมีสายตาของโซ่มองตามไปด้วยความเอ็นดู และรู้สึกเสียดาย ที่เขาไม่ได้ไปส่งเธอเองเจ้าแก้มไม่ได้รับรู้ถึงความคิดของใคร เมื่อเห็นรถของพี่ชายแล้วเธอก็ตรงไปปรี่หาแล้วเปิดประตูขึ้นไปนั่งทันที“สวัสดีค่ะ”เจ้าแก้มวางของในมือลงแล้วหันไปยกมือไหว้พี่ชายด้วยรอยยิ้มสดใส“อื้ม” เพียงแต่ตอนนี้สายต
“อ้าว เจ้าแก้มลูก” เธอจึงเอ่ยเรียกลูกสาวก่อนที่เจ้าแก้มจะเดินขึ้นห้องไปเสียก่อน“คุณแม่” เจ้าแก้มหันมาเห็นแม่ตัวเองก็รีบวิ่งมาหาทันทีพรึบเจ้าแก้มกอดอ้อนแม่แล้วหันไปมองค้อนพี่ชายที่เดินตามมา“เป็นอะไร? ทำไมหน้าตึงกันมาทั้งพี่ทั้งน้อง”นั่นยิ่งทำให้คนเป็นแม่สงสัยยิ่งกว่าเดิม เพราะปกติแล้วสามพี่น้องจะรักกันมาก และพี่ชายทั้งสองก็ตามใจเจ้าแก้มที่สุด ไม่เคยทะเลาะกันเลย“ถามลูกสาวคุณแม่สิครับว่างอนอะไร” แต่ครั้งนี้หมอกราฟกลับโยนงานไปให้น้องสาวแทนเสียอย่างนั้น“ชิ” เจ้าแก้มจึงเชิดหน้าใส่พี่ชายด้วยความงอนกว่าเดิม“งอนอะไรพี่เขาลูก” คุณหมอกัลย์สุดาจึงหันไปเอ่ยปากถามลูกสาวเสียงนุ่ม“พี่กราฟพูดไม่เพราะกับเจ้าแก้มค่ะคุณแม่” เจ้าแก้มจึงรีบฟ้องแม่ทันที ถึงพฤติกรรมไม่ดีของพี่ชาย“หื้มมม?” ทำให้คุณหมอกัลย์สุดาหันขวับมามองลูกชายตาเขม็ง“ผมลืมตัวน่ะครับ” หมอกราฟเอ่ยขึ้นแก้ตัวเสียงอ่อน“ไม่ใช่! พี่กราฟตั้งใจ” แต่เจ้าแก้มที่กำลังงอนหนักมากก็สวนขึ้นทันทีพี่ชายตั้งใจ เธอดูออก!!“แล้วจะให้ทำยังไงถึงจะหายโกรธ?” หมอกราฟจึงหันไปมองน้องสาวแล้วเอ่ยถาม“ต้องพูดเพราะ ๆ ขอโทษแก้ม และขอโทษพี่โซ่ด้วย” เจ้าแก้มจึงทำ
เช้าวันต่อมาเจ้าแก้มมาที่มหาวิทยาลัยโดยมีหมอกลูมมาส่ง เพราะว่าเธอกับหมอกราฟงอนกันอยู่นั่นเอง ทำให้เช้านี้ที่บ้านก็ไม่ค่อยจะสดใสนัก เจ้าแก้มแบะหมอกราฟนั้นแทบจะไม่คุยกันเลย นั่นทำให้คนอื่นในบ้านปวดหัวกันเป็นอย่างมาก“พี่กลูมเป็นอะไรคะ?” เจ้าแก้มหันไปถามพี่ชายที่ขับรถไป และทำท่าทางฮึดฮัดไปด้วย“เปล่า”เพียงแต่หมอกลูมปฏิเสธ แม้ว่าอยากจะถามเรื่องผู้ชายที่มาจีบน้องสาวแค่ไหน แต่เขาก็ไม่อยากทะเลาะกับเจ้าแก้มเหมือนกับพี่ชายหรอก เดี๋ยวมาสืบเองก็ได้รถหรูของคุณหมอสุดฮอตเคลื่อนตัวมาที่ด้านหน้าคณะของเจ้าแก้ม“ขอบคุณที่มาส่งนะคะ” เจ้าแก้มหันไปยกมือไหว้พี่ชายแล้วเปิดประตูลงรถไปทันทีหมอกลูมยกนาฬิกาขึ้นมาดูและชั่งใจว่าจะลงตามน้องสาวไปดีไหม เพียงแต่วันนี้เขามีงานด่วนที่ต้องทำ จึงไม่ได้ตามไปแต่คราวหน้าไม่พลาดแน่“แก้ม ทางนี้” ชิงชิงโบกมือให้กับเพื่อนสนิทของตัวเองพร้อมกับยิ้มให้“มาแต่เช้ากันจัง?” เจ้าแก้มจึงรีบเดินมาหาเพื่อนสนิททันที“ก็คลาสนี้สายได้ที่ไหนกัน” หนูดีบ่นขึ้นบ้าง เพราะคลาสเรียนภาคเช้าในวันนี้ เธอไม่สามารถโดดได้เลย“ก็จริง” ซึ่งเพื่อนอีกสองคนก็พยักหน้าเห็นด้วย จากนั้นทั้งสามคนก็เดินขึ้นไ
โรงอาหารคณะวิศวกรรมศาสตร์สามสาวขับรถมาถึงบริเวณคณะวิศวะก็หาที่จอดแล้วเดินไปที่โรงอาหารทันทีเมื่อเดินมาถึงก็ค่อนข้างจะตกใจ เพราะมีคนมากมายเลยทีเดียวในโรงอาหารแห่งนี้“คนเยอะเหมือนกันนะ”“เออ มีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น” ชิงชิงพยักหน้าแล้วมองสาว ๆ ที่ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าไม่ใช่คนของคณะนี้แน่ ๆ“แสดงว่าอาหารที่นี่ต้องอร่อยมากแน่ ๆ” เจ้าแก้มพูดแล้วยิ้มจนตาหยี คนมากินเยอะขนาดแสดงว่าอาหารต้องอร่อยมากแน่ ๆซึ่งนั่นทำให้เพื่อนทั้งสองหันไปมองหน้ากันอย่างเอือมระอาใช่ที่ไหนกันเล่า?สาว ๆ พวกนี้คงจะมาส่องผู้ชายวิศวะกันมากกว่า“ไปหาโต๊ะนั่งกันเถอะ” หนูดีกรอกตามองบนแล้วชวนเพื่อนไปหาโต๊ะนั่ง“เจ้าแก้มจะกินอะไร?” พอได้โต๊ะแล้วหนูดีก็หันไปถามเจ้าแก้มที่ยังคงมองสำรวจไปรอบ ๆ อยู่“อยากกินข้าว ชิงชิงกับหนูดีไปเถอะ เดี๋ยวเจ้าแก้มขอเดินไปหาร้านข้าวเอง” เจ้าแก้มทำหน้าครุ่นคิดสักหน่อย จากนั้นก็พูดขึ้น“แน่ใจนะ?”“แน่สิ ไม่ต้องห่วง” เจ้าแก้มว่าแล้วก็เดินไปหาร้านข้าวทันทีเพื่อนทั้งสองจึงหันไปมองหน้ากันอย่างปลง ๆ จากนั้นก็เดินไปหาร้านสุกี้กันภาพของสาวน้อย น่ารักที่เดินคนเดียวแล้วมองร้านอาหารที่เรียงแถวกันอยู่ ไม่สนใ
เจ้าแก้มที่ไม่รู้ว่าตนเองตกเป็นหัวข้อสนทนาของใครก็เดินหาร้านอาหารที่คิดว่าจะอร่อย จนมาถึงร้านหนึ่งที่คนต่อคิวค่อนข้างเยอะ จึงตัดสินใจไปต่อคิวทันทีเธอรับรู้ว่ามีคนมายืนอยู่ข้างหลัง เพียงแต่ไม่ได้สนใจหันไปมองโซ่มองร่างบางที่ยืนอยู่ตรงหน้าแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย กลิ่นหอมของแป้งเด็กที่โชยมาจากเธอทำให้เขารู้สึกเสพติดโดยไม่รู้ตัว“อ้าว? โซ่” คนที่อยู่ด้านหน้าหันมาเห็นเขาจึงทักทายอย่างเป็นกันเอง“อื้ม” โซ่เองก็พยักหน้าให้อีกฝ่ายเช่นกันเสียงที่คุ้นเคยทำให้เจ้าแก้มหันขวับไปมองทันที“พี่โซ่?” เธอมองเขาด้วยความแปลกใจ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าที่นี่คือคณะของเขา เธอก็ยิ้มออกมา“มาทำอะไรที่นี่?” โซ่รู้สึกหวงรอยยิ้มนี่เป็นอย่างมาก เขาตีหน้าขรึมแล้วถามเธอเสียงเข้มให้ตายเถอะ เขาหวงยัยเด็กนี่ชะมัด“มากินข้าวไงคะ” เจ้าแก้มก็ตอบกลับมาอย่างซื่อ ๆ พร้อมกับชี้ไปที่ร้านข้าว“กวน” โซ่จึงยกมือขึ้นไปจับหัวเธอแล้วโยกเบา ๆ ด้วยความมันเขี้ยวเจ้าแก้มยู่หน้าให้เขาแล้วขยับไปต่อคิวเพราะคนข้างหน้าได้ข้าวแล้ว คิวจึงเริ่มขยับ“พี่โซ่เพิ่งเลิกเรียกเหรอคะ?” แล้วเธอก็หันมาชวนโซ่คุยต่อ“อื้ม” ซึ่งเขาก็พยักหน้าแล้วมองเธอด้วยสายตา
ส่วนเจ้าแก้มก็กลับมาที่คณะพร้อมกับเพื่อนทั้งสอง แล้วไปเตรียมตัวรอรับน้องในช่วงบ่าย ซึ่งหลังจากรับน้องใหญ่ของมหาวิทยาลัยแล้ว คณะเภสัชก็จะรับน้องต่ออีกแค่ 1 อาทิตย์ จากนั้นก็จะปล่อยให้น้อง ๆ พักกัน และจะได้มารวมกันอีกทีคือกีฬามหาวิทยาลัยโดยปีนี้จะไม่มีการรับน้องนอกสถานที่ เพราะการจัดการของปีที่แล้วที่ไม่ครอบคลุมพอ จึงทำให้กิจกรรมถูกยกเลิกไปในบางส่วน“เจ้าแก้ม” แล้วจู่ ๆ ก็มีเพื่อนในคณะที่เดินเข้ามาหาเจ้าแก้มพร้อมกับเอ่ยเรียก“หื้ม?” เจ้าแก้มจึงหันไปมองด้วยความแปลกใจ เพราะไม่เคยพูดคุยกับเพื่อนกลุ่มนี้มาก่อน“เราจะถามเรื่องข่าวลือเธอกับพี่โซ่น่ะ” อีกฝ่ายจึงถามเข้าเรื่องทันทีด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว พร้อมกับมองเจ้าแก้มด้วยสายตาไม่พอใจ“เอ๊ เรากับพี่โซ่เหรอ?” เจ้าแก้มเอียงคอมองปฏิกิริยาของอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจเป็นอย่างยิ่ง“ใช่ เธอเป็นอะไรกับเขาเหรอ?”“เป็นคนรู้จักกันไง” เจ้าแก้มตอบกลับไปอย่างซื่อ ๆ“คนรู้จักบ้าอะไรจะเป็นแบบนั้น!!”เพราะความหมั่นไส้ในความใสซื่อของเจ้าแก้ม ทำให้เธอหมดความอดทน ตะคอกใส่เจ้าแก้มเสียงดังนั่นทำให้กลุ่มปีสองที่ช่วยกันจัดสถานที่อยู่หันมามองเจ้าแก้มสะดุ้งด้วยค
เจ้าแก้มทำตาปริบ ๆ มองไปที่หน้าจอโทรศัพท์นิ่ง เขาเอาช่องทางการติดต่อเธอมาจากไหนกันเนี่ย?หนูดีที่อยู่ข้าง ๆ ชะโงกไปดูแล้วหันไปทำปากบอกกับชิงชิงอีกทีว่าใครเป็นคนส่งข้อความมาหาเพื่อนสนิทของพวกเธอชิงชิงพยักหน้ารับรู้แล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย เจ้าแก้มกดพิมพ์ตอบไป“รอคนขับรถที่บ้านมารับค่ะ”“อยู่ไหน?” แล้วข้อความก็ถูกอ่านและตอบกลับมาในทันที“หน้าคณะค่ะ”“เดี๋ยวไปหา”พอข้อความสุดท้ายถูกส่งมา เขาก็หายไป เจ้าแก้มก็ได้แต่ทำหน้างง“รีบกลับหรือเปล่า?” เธอเงยหน้าขึ้นถามเพื่อนสนิททั้งสองคน“ก็ไม่รีบ ทำไมอ่ะ?” ชิงชิงยักไหล่แล้วถามขึ้น“เดี๋ยวจะโทรให้คนขับรถที่บ้านมารับ”เจ้าแก้มทำหน้ามุ่ยแล้วกำลังจะกดโทรหาคนขับรถ“ทำไมไม่ให้พี่โซ่ไปส่งล่ะ?”เพียงแต่คำพูดต่อมาของหนูดีทำให้มือของเธอชะงักไปทันที“หื้มม จะบ้าหรือไง?”“บ้าอะไร เขาจะมาหาไม่ใช่หรือไง?” “ก็...” เจ้าแก้มขมวดคิ้วแล้วทำท่าจะเถียง“หึ ไปนั่งตรงนั้นกัน” ชิงชิงจึงรีบดึงแขนเพื่อนสนิทไปนั่งที่โต๊ะหินอ่อนหน้าคณะทันที“อื้ม”พอมานั่งลง ทันใดนั้นก็มีรถหรูคันหนึ่งมาจอดที่หน้าคณะ พร้อมกับร่างสูงในชุดช็อปวิศวะเดินลงมาแล้วตรงมาที่พวกเธอ“ทำไมต้องเท่ห์ขนาด
“คะ?” เจ้าแก้มชะงักไปทันที แล้วหันมามองโซ่อย่างตั้งคำถามอีกครั้ง“...” เพียงแต่โซ่ไม่ตอบอะไร เขามองเธอนิ่ง “เจ้าแก้มไม่ได้โกรธค่ะ” เจ้าแก้มส่ายหน้าเบา ๆ และขบคิดด้วยความสับสน“แล้วเป็นอะไร?” โซ่จึงจี้ถาม แม้จะมั่นใจแล้วก็ตามว่าเธอเป็นอะไร“เจ้าแก้มก็ไม่รู้” เจ้าแก้มส่ายหน้าตอบกลับมา เพราะเธอไม่รู้จริง ๆ ว่าตัวเองเป็นอะไร มันอธิบายความรู้สึกไม่ได้ในตอนนี้“เห็นรูปนั้นใช่ไหม?” “ค่ะ” เมื่อถูกถามอย่างนั้น เจ้าแก้มยอมรับไปตรง ๆ แล้วก้มหน้าลงทันที“พี่ไม่รู้เรื่องด้วย ไม่รู้จัก ไม่เคยคุยกันเลยด้วยซ้ำ” โซ่อธิบายให้เธอฟังอย่างใจเย็น เขาไม่รู้จักรุ่นน้องคนนั้นมาก่อน และไม่มีความคิดที่จะนอกใจเจ้าแก้มเลยสักครั้ง“อีกอย่างรูปนั้นพี่สั่งให้ไอ้ลีนไปลบให้แล้ว” แล้วก็บอกเล่าว่าเขาสั่งให้เพื่อนไปลบรูปนั้นแล้ว“พี่ดีใจนะ”“ดีใจอะไรเหรอคะ?” เจ้าแก้มเงยหน้าขึ้นแล้วมองโซ่อย่างแปลกใจ ที่จู่ ๆ ก็พูดขึ้นว่าดีใจ“ก็ดีใจที่เจ้าแก้มหึงพี่” โซ่กล่าวแล้วยิ้มกรุ้มกริ่มออกมาอย่างอารมณ์ดี“บ้า ใครหึงกัน ไม่มีนะ” ทำให้เจ้าแก้มหน้าร้อนขึ้นมาแล้วรีบปฏิเสธทันที เธอไม่ได้หึงเขาเสียหน่อย แค่ไม่พอใจที่เห็นเขากับคนอื่นก็เ
เจ้าแก้มมึนตึงกับโซ่เป็นอย่างมาก จนกลายเป็นความอึดอัดใจ“วันนี้พี่ไปส่งนะ” เขาอาสาไปส่งเธอที่บ้านด้วยตัวเอง เพื่อที่จะได้คุยกัน“พี่กราฟจะมารับค่ะ” แต่เจ้าแก้มกลับปฏิเสธมาเสียอย่างนั้น“เดี๋ยวพี่จะโทรบอกพี่กราฟเอง” โซ่จึงอาสาโทรหากราฟเอง เพราะอย่างไรวันนี้ต้องได้คุยกันก่อนทำให้เจ้าแก้มไม่สามารถปฏิเสธได้“พี่ไปนะ” โซ่จำใจต้องลาเจ้าแก้ม เพื่อไปเรียน แต่ก็ยังคงมีความกังวลอยู่ไม่น้อย“แกตึงใส่เขาเกินไปหรือเปล่า?” เมื่อโซ่เดินออกไปแล้ว ชิงชิงก็หันมาถามเจ้าแก้มทันที“นั่นสิ” หนูดีเองก็เห็นด้วย ว่าเจ้าแก้มเฉยชากับแฟนหนุ่มของเธอมากไปจริง ๆ“เจ้าแก้มไม่รู้” คำพูดของเพื่อนทั้งสองทำให้เจ้าแก้มรู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีในตอนนี้“ถ้าแกไม่รู้ แกควรจะถาม หรือพูดคุยกับเขาไปนะเจ้าแก้ม ไม่ควรทำแบบนี้” ชิงชิงจึงค่อย ๆ พูดให้เจ้าแก้มคิด และเข้าใจ“เจ้าแก้มงี่เง่าไปเหรอ?” เข้าแก้มจึงถามกลับมา เธอไม่อยากเป็นอย่างนี้เลย เพียงแต่จัดการกับความรู้สึกของตัวเองไม่ได้จริง ๆ“ไม่ใช่หรอก แต่แกก็รู้ว่าพี่โซ่เขารักแกแค่ไหน”“ใช่ ตึงใส่เขาไปแบบนั้นจะเรียนรู้เรื่องไหมน่ะ” คำพูดของหนูดีทำให้เจ้าแก้มชะงัก แล
“พี่ไลอ้อน” เจ้าแก้มหยุดชะงักแล้วยกมือไหว้เพื่อนสนิทของแฟนหนุ่ม“ไม่เห็นไอ้โซ่บอกเลยว่าเราจะมา?” ไลอ้อนรับไหว้แล้วพึมพำขึ้น เพราะก่อนหน้านี้โซ่ไม่เห็นจะบอกพวกเขาเลยว่าเจ้าแก้มจะมากินข้าวที่โรงอาหารของพวกเขา“เจ้าแก้มไม่ได้บอกพี่โซ่น่ะค่ะ” เจ้าแก้มบอกกับเขาไปเสียงนิ่ง“อ้าว” นั่นทำให้ไลอ้อนขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ และไหนจะอาการมึนตึงของเจ้าแก้มอีก เขาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่“ขอตัวไปสั่งข้าวก่อนนะคะ” เจ้าแก้มตัดบทแล้วขอตัวไปสั่งข้าวทันทีไลอ้อนมองตามหลังของเธอไปด้วยความงงงัน“น้องชิงชิง?” จากนั้นก็หันมามองชิงชิงอย่างตั้งคำถาม“ขอตัวนะคะ” แต่ชิงชิงไม่สามารถพูดอะไรได้เช่นกัน จึงค้อมหัวให้รุ่นพี่เล็กน้อย จากนั้นก็วิ่งตามหลังเจ้าแก้มไปติด ๆทิ้งให้ไลอ้อนได้แต่เกาหัวแกรก ๆ มองตามหลังไปทางด้านของโซ่ ในตอนนี้เขากำลังรอเจ้าแก้มตอบกลับข้อความ หลังจากที่เขาส่งไปหาเธอตั้งแต่สิบนาทีที่แล้ว“มึงเห็นนี่ยัง?” แล้วจู่ ๆ พายัพก็ยื่นโทรศัพท์ของเขาไปให้กับโซ่ซึ่งโซ่ก็มองด้วยความแปลกใจ และรับไปดูก็เห็นว่าเป็นรูปตอนที่เขาไปทำบุญเมื่อเช้านี้ และมีรุ่นน้องคนหนึ่ง มาอยู่ข้าง ๆ ซึ่งเขาไม่ได้รู้จัก หร
เช้าวันต่อมา ในวันนี้เจ้าแก้มมาเรียนโดยมีพี่ชายมาส่ง เพราะโซ่มีนัดกับรุ่นน้องแต่เช้า เพื่อมาทำบุญคณะกัน เจ้าแก้มจึงไม่ได้รบกวนเขาในขณะที่นั่งรอเรียนอยู่นั้น ก็มีเสียงฮือฮาดังขึ้นเป็นระยะ และเจ้าแก้มเองก็รู้สึกว่ามีสายตาของหลายคนมองมาที่เธอแปลก ๆเจ้าแก้มจึงเงยหน้าขึ้นมองด้วยความงงงัน จนหันมาเห็นสายตาของเพื่อนสนิททั้งสองนี่แหละ“มีอะไรเหรอ?” เจ้าแก้มถามขึ้นด้วยความสงสัย“ดูนี่สิ”“หือ?” เจ้าแก้มขมวดคิ้วด้วยความสงสัย จากนั้นก็รับโทรศัพท์จากมือของหนูดีมาดูซึ่งบนหน้าจอกำลังโชว์ภาพของโซ่และผู้หญิงคนหนึ่งกำลังทำบุญอยู่ข้างกัน พร้อมกับแคปชันหวานซึ้งเจ้าแก้มเลื่อนอ่านเม้นก็มีแต่คนพูดว่าเหมาะสมกัน และถามถึงเธอด้วย“โอเคนะ?” ชิงชิงถามขึ้นแล้วมองเจ้าแก้มด้วยสายตาเป็นกังวลเพราะสีหน้าเจ้าแก้มมีความเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังกำโทรศัพท์ในมือแน่นเจ้าแก้มได้สติเงยหน้าขึ้นมาเพื่อนสนิททั้งสองแล้วถามขึ้น“ใครเหรอ?”“เห็นบอกว่าเป็นรุ่นน้องปีหนึ่งน่ะ” หนูดีเป็นฝ่ายตอบ เพราะเธอได้ถามมาแล้วก่อนที่จะเอารูปให้เจ้าแก้มดู คนรู้จักของเธอบอกว่าเป็นรุ่นน้องปีหนึ่ง“อื้ม” เจ้าแก้มพยักหน้ารับรู้แล้วทำเป็น
โซ่เองก็ให้เจ้าแก้มมานั่งข้าง ๆ เขาเช่นกัน แล้วหยิบน้ำมาเปิดฝาให้เธอ“ขอบคุณค่ะ” เจ้าแก้มรับน้ำมาแล้วเอ่ยขอบคุณโซ่“หิวไหม?” โซ่จึงถามอย่างใส่ใจ เพราะทุกครั้งเวลานี้เจ้าแก้มจะต้องได้กินของว่าง แต่เขาติดธุระ ไม่มีเวลาไปรับเธอเลย คิดแล้วก็มีสีหน้ารู้สึกผิดขึ้นมาทันที“ไม่ค่อยหิวค่ะ” เจ้าแก้มรู้สึกหิวเล็กน้อย เพราะความเคยชินที่ได้กินอาหารเวลานี้ แต่ก็ไม่อยากรบกวนโซ่ จึงตอบกลับไป“แสดงว่าหิว?” แต่คำว่า ไม่ค่อย ของเธอนั้นทำให้โซ่ขมวดคิ้วแล้วหรี่ตามองเธอ“แฮ่ ๆ” เจ้าแก้มไม่อยากโกหกว่าไม่หิวจึงยิ้มแหยให้เขาไป“รอก่อนนะ เดี๋ยวพี่พาไปหาอะไรกิน” โซ่จึงพูดขึ้นแล้วหันไปมองตามรับน้องของคณะตัวเองด้วยความหงุดหงิด ใจเขาอยากจะเข้าไปปล่อยรุ่นน้องและพาเจ้าแก้มกลับตอนนี้เลย แต่ไม่สามารถทำได้อย่างที่คิด“ไม่เป็นไรค่ะ ถ้ากินตอนนี้ กลับบ้านไปคงกินข้าวไม่ได้” เจ้าแก้มเห็นสีหน้าโซ่จึงรีบบอกกับเขาไป เพราะเวลานี้เธอคงกินอะไรไม่ได้แล้ว เพราะว่าต้องกลับไปกินข้าวกับที่บ้านต่อด้วย“อื้ม” โซ่เองก็พึ่งนึกขึ้นได้จึงพยักหน้าเข้าใจรอไม่นานกลุ่มพี่ว้ากก็มีการปล่อยรุ่นน้องให้กลับบ้านทำให้โซ่เองก็พาเจ้าแก้มกลับได้เช่นก
เวลาผ่านไป หลังจากวันนั้นที่โซ่ง้อเจ้าแก้มได้สำเร็จ ทั้งสองก็ตัวติดกันตลอด ไม่ห่างไปไหนช่วงปิดเทอมบ้านของเจ้าแก้มก็มีโซ่ไปเป็นแขกประจำ จนคุ้นเคยกับทุกคนในบ้านพี่ชายทั้งสองของเจ้าแก้ม เห็นโซ่ดูแลน้องสาวของพวกเขาเป็นอย่างดีก็อ่อนให้โซ่แล้ว ไม่มีจิกกัดเหมือนแต่ก่อนจวบจนเปิดเทอม เจ้าแก้มขึ้นปี 3 ส่วนโซ่ก็เป็นรุ่นพี่ปี 4 แล้วในวันนี้เจ้าแก้มมาที่มหาวิทยาลัยโดยมีโซ่มาส่ง ส่วนตัวเขานั้นยังไม่ได้มีการเรียนอะไร มีเพียงคอยดูแลเรื่องการรับน้องในคณะก็เท่านั้นซึ่งโซ่ได้รับเลือกเป็นประธานสภาของมหาวิทยาลัย เขาจึงวุ่นวายเป็นอย่างมากส่วนเจ้าแก้มนั้นขึ้นปีสาม เป็นปีของพี่ว้าก ที่ไม่ต้องไปวุ่นวายการรับมากนัก แต่วันนี้เธอถูกเพื่อนสนิทลากมาดูพี่ว๊าก ซึ่งก็คือเพื่อนปีเดียวกันกับเธอลงว้ากเป็นครั้งแรก“เงียบ!!”เสียงว๊ากที่ดังขึ้นทำให้น้อง ๆ ที่กำลังฮือฮากันอยู่เงียบเสียงลงทันทีบรรยากาศโดยรอบกำลังเกิดเดดแอร์ ไม่เว้นแม้แต่เจ้าแก้มที่เผลอเกร็งไปกับน้อง ๆ ด้วย“ดุชะมัด” ชิงชิงหันไปกระซิบกับหนูดีเพราะพี่ว้ากปีของพวกเธอ มาจากกลุ่มผู้ชายที่ดูจะนุ่มนวลที่สุดแล้ว ทุกคนจึงไม่เชื่อนักว่าพวกเขาจะว้ากได้จริง จึ
พรึบเขาดึงแขนเธอเข้าไปประชิดตัวเองไว้ จากนั้นก็ดันหลังเธอชนกับกำแพงห้องแล้วฉกจูบลงมา“อื้อออออ” เจ้าแก้มเบิกตากว้างอย่างตกใจแล้วก็เอามือดันไหล่เขาไว้“พะ พี่โซ่” เธอพยายามห้ามเขาที่กำลังซุกไซ้ซอกคอของเธออยู่ในตอนนี้“พี่ขอโทษ” เขาเงยหน้าขึ้นมองเจ้าแก้มด้วยสายตาอ้อนวอน ขอให้เธอหายโกรธเขาซึ่งในตอนนี้เจ้าแก้มไม่ได้โกรธเขามากขนาดนั้นแล้วจึงใจอ่อน“นะครับ” โซ่ทำเสียงออดอ้อน จากนั้นก็มองเธออย่างอ้อนวอน“เจ้าแก้มหายโกรธก็ได้ แต่พี่โซ่อย่าทำแบบนั้นอีกนะคะ”เจ้าแก้มจึงยอมใจอ่อน หายโกรธเขา แต่ก็ยังกำชับไม่ให้เขาพูดแบบนั้นอีก เพราะเธอไม่ชอบจริง ๆ“ครับ” โซ่ตอบรับแล้วยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจโซ่ทำการช้อนตัวเจ้าแก้มขึ้นอุ้มโดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัว“พี่โซ่!!” เจ้าแก้มหวีดร้องด้วยความตกใจแล้วยกมือขึ้นโอบรอบคอโซ่ไว้กันไม่ให้ตัวเองตกโซ่พาเธอเข้ามาในห้องนอนแล้ววางเธอลงบนเตียงอย่างทะนุถนอมหลายวันที่ผ่าน ไม่ได้คุยกับเจ้าแก้มแล้วเขารู้สึกจะคลั่งตาย โซ่สบตามองเจ้าแก้มอย่างลึกซึ้งจนเจ้าแก้มรู้สึกเขินอายฟอดดดด“ขอนะครับ” โซ่โน้มหน้ามาหอมแก้มเธอแล้วกระซิบข้างหูเสียงแหบพร่าเขาค่อย ๆ ทำการโน้มน้าวโลม
และนี่ก็สามวันแล้วที่เจ้าแก้มโกรธโซ่ ไม่ยอมพูดคุยด้วย อีกทั้งยังเมิน หลบหน้าเขาอีกด้วย จนโซ่ต้องมานั่งซึมแบบนี้ผับ F “ท่าทางจะอาการหนักว่ะ” ไลอ้อนหันไปพูดกับพายัพติดตลกแล้วมองไปที่โซ่“เออ กูก็ว่างั้น” ซึ่งพายัพเองก็เห็นด้วยเป็นอย่างมากเพราะในตอนนี้โซ่กำลังนั่งเหม่อถือแก้วเหล้ากระดกเป็นน้ำเปล่า ไม่ยอมพูดจากับใครทั้งสิ้น“มันเป็นอะไร?” คำพูดของทั้งสองทำให้คนบนโต๊ะหันไปมองโซ่เป็นตาเดียว และก็มีคนถามขึ้น“เจ้าแก้มงอนมันน่ะสิ” เรย์จึงเป็นฝ่ายตอบแล้วหยิบขวดเหล้ามารินให้กับตัวเอง“หือ?” นั่นทำให้ทุกคนที่ได้ยินขมวดคิ้วสงสัย เนื่องจากเจ้าแก้มอ่อนหวานและเรียบง่ายแบบนั้น โซ่ไปทำอะไรให้อีกฝ่ายโกรธมากันจากนั้นก็มีคนหนึ่งที่ทำการสอดส่องสาว ๆ อยู่เขาสะดุดอยู่ที่โต๊ะหนึ่งแล้วหรี่ตามอง“อะไร?” จนเพื่อน ๆ เห็นท่าทางนั้นแล้วรู้สึกสงสัย จึงถามขึ้น“มึงช่วยกูดูหน่อย ว่านั่นใคร?” คนนั้นจึงชี้ไปที่โต๊ะหนึ่งทันทีทำให้สายตาของทุกคนยกเว้นโซ่หันไปมองตาม“กะ กูไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหมว่ะ?” ไลอ้อนพูดขึ้นแล้วขยี้ตาเพราะที่พวกเขาเห็นคือเจ้าแก้มและกลุ่มเพื่อนของเธอนั่นเอง“ไอ้โซ่” ลีออนจึงหันไปเรียกโซ่ที่นั่งนิ่ง
“สวัสดีครับ”“คะ?” เจ้าแก้มหันไปมองหนุ่มหล่อหน้าตาดีในชุดมหาวิทยาลัยอื่นที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาแปลกใจ“ผมเซนนะครับ” อีกฝ่ายจึงรีบแนะนำตัวทันที“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ?” เจ้าแก้มพยักหน้ารับรู้แล้วถามขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ“เอ่อ ผมจะมาขอไลน์คุณน่ะครับ” เซนยื่นโทรศัพท์ในมือมาให้เจ้าแก้ม เพื่อขอช่องทางการติดต่อของเธอตามที่พูด“เอ่อ” นั่นทำให้เจ้าแก้มมีท่าทีอึกอัก ทำตัวไม่ถูกขึ้นมาทันที“ไม่ทราบว่าคุณชื่อ?” เซนทำเป็นไม่เห็นท่าทางลำบากใจของเธอ และทำเป็นถามชื่อ ในตอนแรกที่เขาเห็นเธอก็รู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก และมองจนเพื่อนของเขารู้ พร้อมกับเชียร์ให้เขาเข้าหาเธอ“เจ้าแก้ม” เจ้าแก้มยังไม่ทันได้ตอบอะไรไป ก็มีเสียงเรียกเธอดังขึ้นเสียก่อน“พี่โซ่!” เจ้าแก้มหันมองก็เห็นว่าเป็นโซ่นั่นเองที่ยืนหน้านิ่งอยู่ในชุดนักกีฬา“มีอะไรหรือเปล่า?” โซ่เดินเข้ามาแล้วถามขึ้น พร้อมกับปรายตามองไปที่ผู้ชายคนนั้นเล็กน้อยเขากำลังจะมาหาเจ้าแก้ม แต่กลับเห็นเธอยืนคุยกับผู้ชายคนอื่นอยู่ จึงเกิดความไม่พอใจ“คือว่า” เจ้าแก้มกำลังจะอธิบายให้แฟนหนุ่มของเธอฟัง“ผมมาขอไลน์คุณเจ้าแก้มน่ะครับ” แต่เซนกลับพูดขึ้นเสียก่อน ทำให้เธอช