"ไม่เอาครับ พี่สัญญานะ ว่าน้องจะเจ็บแค่นิดเดียวเท่ากับมดกัด เชื่อพี่นะครับ" คำพูดอ้อนวอนของพี่เหนือทำให้ฉันยอมใจอ่อน พยักหน้าเบา ๆ เพื่อเป็นการตอบรับ"พี่ต่อนะครับ"ปากหนากดจูบลงที่แก้มนวล จับขาชันขึ้นเป็นรูปตัวเอง น้ำเหนือชักแกร่งกายขึ้นลง 2 -3 ทีแล้วจ่อลงไปที่กลีบดอกไม้งามขวัญข้าวดันตัวเองถอยออกเล็กน้อย"พี่เหนือไม่ใส่ถุงเหรอคะ"ผมสายหน้า"ครั้งแรกของเราสองคนพี่ขอสดนะครับ"สิ้นเสียงผมค่อย ๆ กดท่อนเอ็นลงไปทีละนิด แต่ด้วยร่องดอกไม้งามที่ยังไม่เคยมีผู้มาเชยชมทำให้การเข้าไปชมช่างยากเย็นแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคอย่างน้ำเหนือ เมื่อแกร่งกายขยับเขยื้อนลงไปเรื่อยๆ ถึงแม้ว่ามันจะคับแน่นมากก็ตามฉันสะดุ้งเมื่อพี่เหนือจะพยายามดันน้องชายของเขาเข้ามา มันเจ็บและแสบตรงกลางใจของน้องสาวฉันถ้าพี่เหนือทำต่อพรุ่งนี้ฉันอาจระบบที่หรืออาจจะไม่สามารถลุกไปทำงานตอนเช้าไม่ได้"พี่เหนือ เจ็บคะ เอาออกไปเลย ไหนพี่บอกว่ามดกัดไง" ฉันสายหัวไปมาบนโซฟารู้สึกว่ามีเหนื่อยไหลเต็มกรอบหน้าของฉันมือน้อยยกขึ้นมาตีลงที่ท่อนแขนแกร่งแรง ๆผมได้ยินเสียงแฟนหมาด ๆ ของผมพูดห้ามให้หยุด แต่เนื่องด้วยตอนนี้อารมณ์ปราถนาที่อยู่ในตัวผมมันแรงมาก
ขวัญข้าวรู้สึกตัวตื่น เมื่อร่างบางที่อยู่ในอ้อมกอดขยับตัวน้ำเหนือก็รู้สึกตัวตาม"ตื่นแล้วเหรอครับ ไม่นอนต่อเหรอยังเช้าอยู่เลย"ผมที่เอ๋ยถามด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า แต่รู้สึกตัวเมื่อคนที่อยู่ในอ้อมกอดของผมขยับตัวแล้วกำลังจะเอามือผมออกจากร่างของคนตัวเล็ก"ตื่นแล้วคะตอนนี้ 7 โมงเช้าแล้ว ไม่ตื่นไปทำงานเหรอคะ"ฉันที่หันไปถามคนที่นอนข้างฉันตายังไม่ลืมขึ้นมา มือยังไม่ยอมปล่อยฉันออกจากอ้อมกอด"เราหยุดต่ออีกสักวันไหม ผมรู้สึกเพลียอย่าไงไม่รู้" จริง ๆ แล้วผมไม่ได้เป็นอะไรหรอกแต่วันนี้ผมอยากที่จะเกงาน อยู่ใช้เวลาสวีทหวานกับคนในอ้อมกอดต่อ"แต่วันนี้พี่เหนือมีประชุมตอนบ่าย 2 นะคะ"คนตัวเล็กทำหน้าที่เลขารายงานตารางการทำงานของเจ้านายทันที"อยู่บนเตียงเขาไม่พูดเรื่องงานครับ เขาคุยเรื่องอื่นกัน"ไม่พูดเปล่าพี่เหนือก็กดปากมาจูบที่ปากบางฉัน "อืม...พอแล้วคะ ไม่เหม็นปากเหรอคะ ยังไม่แปรงฟันเลย"ฉันที่ดันหน้าพี่เหนือทำตาใสแป๋วใส่พี่เหนือ ยกมือขึ้นป้องปากตัวเอง"ก็ไม่เหม็นคะครับ ไหนมาลองจูบอีกที่เพื่อพิสูจน์ว่าเหม็นหรือหอม"ผมที่กำลังจะก้มลงจูบคนตัวเล็กอีกครั้ง แต่มือบางของแฟนมาด ๆ ก็ยกขึ้นปิดที่ปากตัวเอง"ไม่เอาแล
@บริษัททุกคนมองมาทางฉันกับพี่เหนือที่เดินเคียงคู่มายังบริษัท เสียงซุบซิบนินทาที่ดังเข้ามาในโสตประสาทของฉันเป็นระยะ"แกทำไมประธานถึงมาทำงานพร้อมยัยเลขากได้ ฉันได้ยินว่าหายไปเที่ยวกันสองคนด้วยนะ""แกไปได้ยินมาจากไหน แต่ก็น่าแปลกอยู่ พอท่านประธานไม่อยู่คุณเลขาก็ไม่มาทำงาน""ดูชุดที่หลอนใส่สิแบรนด์ดังเลยนะแก ฉันว่าชัวร์คบกันชัวร์""เสียดายท่านประธานอะแก โดนยัยเลขาหน้าห้องคาบไปกินแล้วหล่อก็หล่อแถมยังรวยอีกอิจฉายัยเลขาเนอะ""รอดูต่อไปเถอะคนระดับนั้นเขาคงไม่เอาคนธรรมดามาเป็นแฟนเชื่อฉัน"ฉันที่ได้ยินเสียงนินทรารีบเดินจำอ้าวไปขึ้นลิฟท์โดยไม่รอพี่เหนือที่เดินตามหลังฉันมาติด ๆ ลิฟท์มาจอดชั้นที่ห้องทำงานประธาน ฉันที่เดินออกจากลิฟท์กำลังจะนั่งลงโต๊ะทำงานที่อยู่หน้าห้องประธาน"ทำไมเมื่อกี้รีบเดินจังเลย ทำไมไม่รอพี่ละครับ"ผมมองแฟนหมาด ๆ ของผมที่ตอนนี้นั่งที่โต๊ะทำงานเรียบร้อยแล้ว น้องขวัญกำลังจะเปิดคอมพิวเตอร์ไม่สนใจหันมามองทางผมเลยฉันเสยมองหน้าคนพูดที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานฉัน"พี่เหนือไม่ได้ยินที่พนักงานข้างล่างเขาพูดกันเหรอ""พูดอะไรพี่ไม่ได้ยิน เขาพูดถึงเราเหรอ ใครคนไหนบอกพี่มาเดี๋ยวพี่จัดการให้
หลังจากที่คุยกับพี่เหนือเสร็จพี่เหนือก็ให้ฉันส่งข้อความนัดเพื่อนสนิททั้งสองคนมาทานข้าวตอนเย็น ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังแถวสุขุมวิท ด้วยเป็นห้องที่ส่วนตัว ในห้องมีเพียง ฉัน พี่เหนือ ปลายฝัน กุ้งนาง"ว่าไงแกนัดฉันสองคนมามีอะไรจะบอกไหม"ปลายฝันที่เป็นคนพูดขึ้นมาก่อนมองไปทางเพื่อนสนิทอย่างขวัญข้าวกับพี่เหนือที่นั่งคู่กัน "พี่เหนือพูดก่อนเลยคะ"ฉันหันไปสบตากับพี่เหนือที่นั่งข้างฉันมือฉันบีบที่หัวเข่าไม่รู้ว่าจะเกร็งทำไมเพราะว่าทั้งสองคนนี้ก็คือเพื่อนที่สนิทที่สุด"คือแบบนี้นะฝันเราสองคนตกลงกันแล้วว่าจะคบกัน"ผมเอ๋ยบอกน้องสาวกับกุ้งนางที่เป็นเพื่อนสนิทของแฟนผม"อ้าว ก็เป็นเรื่องดีนี่คะแล้วคืออะไรอย่างไงที่เรียกเราสองคนมาเพื่อที่จะประกาศว่างั้นเถอะ"ฉันปลายฝันที่มองหน้าพี่เหนือสลับกับยัยขวัญที่ตอนนี้ยัยขวัญนั่งก้มหน้า แก้มทั้งสองข้างเริ่มขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ"ฉันก็อยากบอกให้ทั้งสองได้รู้ไง แกเป็นเพื่อนสนิทฉันนะเวลาที่ฉันเจ็บแกสองคนก็อยู่ข้างฉันเสมอตอนนี้ฉันมีความสุขก็อยากบอกให้แกสองคนรู้เหมือนกัน"ฉันค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองเพื่อนทั้งสองคนที่อยู่ด้านหน้าฉัน"พี่ก็อยากบอกให้สองคนได้รู้เหมือนกันเพรา
"พี่อยากอาบน้ำกับเมีย"และนี่คือสิ่งที่พี่เหนือตอบฉัน"ไม่ได้คะออกไปเลย"ฉันเอ๋ยบอกคนตัวใหญ่ที่พรวดพราดเข้ามา"ขออาบน้ำด้วยคนน่าา"ผมพูดพลางส่งสายตาอ้อนวอนไปที่แฟนสาวคำว่าอาบน้ำของพี่เหนือไม่มีอยู่จริงเมื่อมาถึงด้านในห้องน้ำ พี่เหนือรีบถอดเสื้อผ้าทำให้ตอนนี้ร่างกายเราเปลือยเปล่าไม่มีอะไรปกปิดร่างกายเลยสักชิ้น ฉันที่ทั้งเขินและอายหน้าเริ่มเห่อแดงรีบหันหลังหนีสายตาเจ้าเล่ห์ทันทีมือข้างหนึ่งปิดหน้าอกอวบอิ่มและอีกข้างปิดตรงกลางใจสาว"ไม่ต้องปิดหรอกครับพี่เห็นหมดแล้ว"ผมที่มองคนตัวเล็กเอามือปิดหน้าอกคู่งามและมืออีกข้างปิดที่ใจกลางสาว หันหลังมาทางผมด้วยความหมั่นเขี้ยวมือผมฝาดลงที่ก้นงามที่โชว์หลาอยู่ด้านหน้าผม จนเกิดรอยแดง"อุ๊ย ตีก้นขวัญทำไมมันแสบพี่"ฉันรู้สึกแสบที่ก้นฉันอยู่ดี ๆ พี่เหนือก็ตีลงที่ก้นฉันอย่างไม่ทันตั้งตัว ฉันหันหน้าไปว่าพี่เหนือทันที "อืม..." พี่เหนือกดจูบที่ริมฝีปากฉันลิ้นหนากวาดต้อนเกี่ยวลิ้นบางอย่างหยอกเย้า ตอนนี้สติของฉันได้แตกกระเจิง สมองเริ่มไม่สั่งการยอมทำตามคนตัวใหญ่ที่มอบให้ผมเริ่มจูบที่ปากบางถึงแม้จะเป็นการจูบที่เงะงะไม่เป็นภาษาแต่ช่างปลุกกำหนัดให้ผมยิ่งนัก มือผมเร
"ตื่นได้แล้วครับคนดี"ผมก้มลงกระซิบข้างหูคนที่นอนหลับฝันดีอยู่ข้าง ๆ ผม"อืม...กี่โมงแล้วคะ"ดวงตาสวยของฉันค่อยเปิดออกกระพริบตาถี่เพื่อเปิดรับแสง สองมือกำไว้ ท่อนแขนยืดตรงบิดขี้เกียจหมุนไปมา จำได้ว่าบทรักแสนหวานในห้องน้ำแค่ยกเดียวก็เหนื่อยจนไม่อยากจะลุกออกจากที่นอนที่นุ่มนิ่มแล้ว ผิดกับคนที่นอนข้าง ๆ ฉัน เขาดูกระปรี้กระเปร่าเหมือนได้ยาโด๊ปชั้นดี" หกโมงครึ่งครับ จะนอนต่อก็ได้นะยังเช้าอยู่เลย"ผมยกมือปัดปรอยผมออกจากกรอบหน้าหวานของคนเป็นแฟน ก้มลงกดจูบที่หน้าผากมล แม้แต่ตอนเพิ่งตื่นนอนคนตัวเล็กของผมก็ยังดูดี หน้าขาวใสราวกับเด็กมัธยม"วันนี้เรามีนัดคุยงานลูกค้านี่คะ ถ้างั้นน้องลุกเลยดีกว่าพี่เหนืออยากทานอะไรคะ ข้าวต้มใส่หมูเด้งไหมคะ น้องเปิดตู้เย็นเห็นมีหมูเด้งอยู่ในตู้เย็น""น้องขวัญทำอาหารเป็นด้วยเหรอครับ"ผมมองหญิงคนรักที่นอนเอาผ้าห่มคุมแค่ครึ่งตัว ส่งสายตามาทางผม"ทำเป็นสิคะ ง่ายจะตาย เดี๋ยวน้องไปทำให้พี่เหนือเลยนะคะ พี่เหนือก็ลุกไปอาบน้ำได้แล้ว"ฉันหันไปพูดกับพี่เหนือพร้อมกับบอกให้พี่เหนือไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะไปทำงาน"ครับ"ผมลุกออกจากเตียงนอนอย่างว่าง่าย เดินตรงไปที่ห้องน้ำเพื่อที่จะท
หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จเราสองคนมาทำงานที่บริษัท ฉันที่นั่งพิมพ์งานอยู่หน้าห้องประธานสุดที่รัก สายตาจ้องมองไปที่คอมพิวเตอร์ที่อยู่ด้านหน้า โดยไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัว "นี่เธอ"ฉันเสยหน้าไปตามเสียงที่เรียก หญิงสาวหุ่นดีราวกับนางแบบ เสื้อผ้าแบรนด์ดังทั้งตัว ใบหน้าสวย โฉบเฉี่ยว ยืน อยู่ด้านหน้าฉัน หัวคิ้วขมวดกันยุ่ง ผู้หญิงที่อยู่ด้านหน้าขึ้นมาได้ไง ทำไม่ ประชาสัมพันธ์ข้างล่างถึงปล่อยขึ้นมาได้ ทำไมไม่โทรมาแจ้งก่อนเหมือนทุกครั้ง"คุณมาพบใครคะ"ฉันเอ๋ยถามผู้หญิงที่อยู่ด้านหน้า ละมือจากแป้นพิมพ์ ที่พิมพ์งานอยู่บนโต๊ะสายตายังจับจ้องมองไปคนด้านหน้า"ฉันมาพบเหนือ บอกประธานเธอว่านีน่า มาขอพบ" ปากสวยที่ฉาบด้วยลิปสติกสีแดงเอ๋ยบอกฉันอะไรนะมาขอพบพี่เหนืออย่างนั้นเหรอ เธอเป็นใครกันสมองฉันคิดวนไปวนมา"นี่เธอ ได้ยินฉันไหม บอกเหนือว่า นีน่า มาของพบ"เสียงหวานเอ่ยบอกฉันอีกครั้ง คงเห็นฉันเหม่อไม่ได้มีการตอบสนองปฎิกริยาคนด้านหน้า"อ๋อ รอสักครู่นะคะ เดียวดิฉันไปบอกท่านประธานให้"ฉันลุกออกจากโต๊ะทำงานเดินไปหน้าห้องยกมือขึ้นกำแบบหลวม ๆ เคาะที่ประตูห้องแล้วเปิด เดินไปหยุดอยู่ด้านหน้าโต๊ะพี่เหนือที่ตอนนี้กำลังนั่งเซ็
ร้านอาหารไทยที่มองดูแล้วร่มรื่นน่านั่งเหมาะแก่การรับประทานอาหาร มีทั้งส่วนกลางแจ้งที่ถูกจัดตกแต่งด้วยต้นไม้และดอกไม้อย่างสวยงาม และส่วนข้างในร้านที่ตกแต่งสวยงามเช่นกัน พี่นีน่าจองโต๊ะที่อยู่กลางแจ้ง อาหารที่ถูกสั่งเตรียมไว้อยู่แล้วถูกจัดวางบนโต๊ะ"เหนือทานนี่สิคะ ไก่ผัดเม็ดมะม่วง หิมพานต์ ของโปรดเหนือเลย เราจำได้ว่าเหนือมาทีไรก็สั่งทุกที"นีน่าตักผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์วางที่จานข้าวน้ำเหนือ"ขอบใจนีน่ามานะ แต่ไม่ต้องตักให้เหนือก็ได้ นีน่าทานเถอะ"ผมมองไปที่เพื่อนสนิทที่ตักอาหารมาให้นีน่าชอบทำแบบนี้เสมอเวลาที่มาทานข้าวด้วยกันแต่ตอนนี้ผมเป็นห่วงความรู้สึกแฟนผมมากกว่า"น้องขวัญทานนี่ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อนของขึ้นชื่อของร้านเลยนะพี่มาเมื่อไรก็ต้องสั่งทุกที"ผมตักห่อหมกที่อยู่ด้านหน้าวางในจานของน้องขวัญ"ขอบคุณคะพี่เหนือ"ฉันเอ๋ยขอบคุณพี่เหนือทันที อาหารที่อยู่ตรงหน้าถึงแม้ว่าหน้าตาจะดี รสชาติจะถูกปากแต่ด้วยสถานการณ์ตรงหน้าทำให้ฉันกินข้าวไม่ลงพูดก็พูดเถอะฉันไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลยถึงแม้บรรยากาศภายในร้านจะดีแค่ไหน แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกอึดอัดอยากจะลุกออกไปตอนนี้เลยแต่ก็ติดว่ามันจะดูน่าเกลียดเกินไป"แห
ชายหาดสีขาวละเอียดฉันนอนเล่นบนเปลชายหาดของทางโรงแรม ด้วยเป็นพื้นที่ของทางโรงแรมจึงมีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก ส่วนใหญ่ก็เป็นนักท่องเที่ยวของทางโรงแรม สายตาที่ทอดมองไปที่พื้นน้ำทะเลกว้างใหญ่สีฟ้าคราม ตอนนี้ฉันอยู่ในชุดเดรสสีขาว ยาว ผ้าพริ้วไหว มีหมวกแล้วแว่นตาช่วยกันแสงแดด"สวัสดีครับ ไม่ทราบคุณมาเที่ยวเหรอครับ"ฉันลุกนั่งขึ้นบนเปลชายหาดหันมามองคนมาใหม่ที่ไม่คุ้นหน้า เอ๋ยถามด้วยเสียงที่เป็นมิตร ผู้ชายหน้าคม ผิวสีแทน ตัวสูงราว 185 ซม.ได้"ใช่คะ มาเที่ยว"ฉันเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ"ผมชื่อ กันนะครับ ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไร""ชื่อขวัญคะ ขวัญข้าว คุณก็มาเที่ยวเหมือนกันเหรอคะ"ฉันเอ่ยถามคนที่ชื่อกันที่ตอนนี้เขาถือวิสาสะนั่งลงเกาอี้ชายหาด ตัวถัดจากฉัน"ใช่ครับ ผมมาเที่ยว วันนี้ตอนกลางคืนทางโรงแรมเข้าจัดปาร์ตี้ขอบคุณนักท่องเที่ยว ถ้าคุณขวัญว่างลงมาสนุกด้วยกันนะครับ"คนชื่อกันเอ่ยชวน"คะ ขอบคุณนะคะที่ชวน"ฉันเอ่ยขอบคุณตามมารยาท "ขวัญ"ฉันหันไปมองตามเสียงที่เรียกเห็นคนตัวใหญ่ที่กำลังสาวเท้ามาทางฉัน ด้วยหน้าตาบึ้งตึง"อ้าวพี่เหนือคุยงานเสร็จแล้วเหรอคะ"ฉันหันไปถามพี่เหนือปนความสงสัย พี่เหนือออกไปคุยงาน
ตลอดการเดินทางจากเขาใหญ่มากรุงเทพ เราสองคนแวะถ่ายรูปมาตลอดทาง เพราะแถวนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นฟาร์มโคนมชื่อดังหรือจะเป็นไร่องุ่นขึ้นชื่อ"พี่เหนือรูปนี้ก็สวย รูปนี้ก็สวย พี่เหนือถ่ายรูปเก่งจังเลยคะ"ฉันเลื่อนรูปจากโทรศัพท์มือถือดูทีละรูป ไม่ว่าจะเป็นภาพที่ฉันถ่ายรูปคู่กับแปลงดอกไม้ หรือจะเป็นภาพที่ถ่ายคู่กับองุ่นพวงโตที่ห้อยลงมาจากต้น"ถ้าชอบเดี๋ยวพี่พามาเที่ยวบ่อย ๆ ก็ได้ใกล้แค่นี้เอง จริงสิเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ต้องไปคุยกับลูกค้าที่หัวหินอีกเราไม่ต้องแวะที่ไหนแล้วเนอะ"ผมขับรถออกจากสถานที่ท่องเที่ยวหลังจากที่เราแวะถ่ายรูปมาเกือบตลอดทาง คิดขึ้นได้ว่าในวันรุ่งต้องไปคุยงานเลยเอ๋ยบอกคนตัวเล็กที่นั่งข้าง ๆ จ้องมองดูรูปทางโทรศัพท์"อ้าวเหรอคะ ให้ขวัญไปด้วยได้ไหมหรือจะให้ขวัญเข้าไปดูเอกสารในบริษัท"ฉันละออกจาหน้าจอโทรศัพท์เอ๋ยถามพี่เหนือที่กำลังตั้งใจขับรถกลับกรุงเทพฯ"น้องก็ต้องไปกับพี่อยู่แล้วส่วนเรื่องที่บริษัทพี่เพิ่งรับเลขาใหม่มา เลยไม่ยุ่งเหมือนตอนที่โดนเลขาคนเก่าเทงานแล้วแอบหนีไปไม่ยอมบอก"ผมเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงที่กระแนะกระแหนนิด นึกถึงตอนที่คนตัวเล็กหนีไป งานตอนแรกที่เป็นห
ค่ำคืนอันแสนเงียบสงบภายในห้องที่แสนเงียบสนิทมีเพียงสองหนุ่มสาวที่กำลังปลุกไฟสวาท ร้อนระอุไปตามแรงอารมณ์ปราถนามือของผมยังคงสาละวนไม่ละออกจากเนินเนื้อนางที่แสนจะเย้ายวน ปลายนิ้วขยับเขยื้อนเพื่อเข้าไปสำรวจโพรงอุ่นร้อนอ่อนนุ่ม ดึงเข้าออกเป็นจังหวะ สะโพกผายส่ายขึ้นลงเป็นจังหวะเรียวนิ้วร้าย น้ำหล่อเลี้ยงเริ่มผลิตอาบชะโลมรอบนิ้วแกร่ง"อ๊า.."ฉันส่งเสียงหวานครางออกมาจาลำคอระหง ความรู้เสียวซ่านอยากที่จะอกทนต่อไปได้ เนื้อตัวอ่อนระทวย ความรู้สึกวาบหวามที่คนตัวใหญ่มอบให้ทุกครั้งที่นิ้วร้ายดันเข้าออกผมขยับปากออกจากอกอวบอิ่มเลื่อนผ่านแอ่งสะดื้นบุ๋ม มือใหญ่เกี่ยวแพ๊ทตี๊ตัวจิ๋วให้พ้นทาง โน้มใบหนาคมลงที่เนินเนื้อนาง ปลายลิ้นร้าย ส่งเข้าสำรวจรอบกลีบดอกไม้หอมมีหญ้าปกคลุมอยู่ลำไร้ ปลายลิ้นเรียวลัดเลาะตามซอกกลีบดอกไม้หอมเย้ายวน ร่องงามผลิตน้ำหวานผสมน้ำลายจนเปียกชื้น"อ๋าส์....พี่เหนือ น้องใจจะขาดอยู่แล้วใส่เข้ามาเลย"ฉันส่งเสียงครางกระเส้าทุกครั้งที่ปลายลิ้นหนาส่งผ่านมาที่ร่องน้องสาวฉัน พี่เหนือใช้นิ้วร้ายกดลงที่ปุ่มกระสันนวดคลึง ตอนนี้ฉันรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วหัวใจ อยากจะบอกคนตัวใหญ่ว่าพอแล้วดุ้นลิ้นอยากไ
ฉันมองไปที่คนตัวใหญ่ที่เดินโอบฉันอยู่ ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ ขอกลับไปนอนห้องตัวเองจะทันไหมนะ เร็วเท่าความคิดฉันเอ่ยบอกคนตัวใหญ่ทันที^_^"ขวัญว่า ขวัญกับไปนอนห้องตัวเองดีกว่า"ฉันเอ่ยตอบพี่เหนือคนตัวโตถึงกับส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ พร้อมกับสายตาวิววับเป็นประกาย ยิ่งทำให้ฉันไม่มั่นใจว่าเราสองคนจะไม่ได้แค่นอนเฉย ๆ"ขวัญไม่อยากรู้แล้วเหรอว่าทำไมพี่ถึงรู้ว่าน้องขวัญอยู่ที่นี่"ผมเอ่ยถามคนตัวเล็กที่คิดจะหนีไปนอนห้องตัวเองเรื่องอะไรผมจะยอมเมื่อทุกคนรับรู้เรื่องของเราหมดแล้ว"แล้วพี่เหนือรู้ได้อย่างไงคะ"เสียงหวานเอ่ยถามขึ้นด้วยหน้าตาที่น่ารักอยากจะดึงคนตัวเล็กเข้ามาบดจูบตรงนี้เลยแต่ติดที่ว่าตรงนี้เป็นทางเดินที่จะไปห้องพักกลัวว่าถ้าใครเดินผ่านมาเห็นมันจะดูไม่งาม"เราไม่คุยต่อที่ห้องดีกว่า"ผมไม่รอให้คนตัวเล็กได้ตอบมือใหญ่ของผมที่โอบกอดไหล่บางของคนตัวเล็กมายังห้องพักสาวเท้าเข้ามาจนถึงเตียงกว้างดึงคนตัวลงนั่งผมนั่งซ้อนด้านหลังน้องขวัญหน้าผมก้มลงจูบซับที่ไหล่บางเบา ๆ ลมหายใจที่อุ่นรดลงที่ไหล่บางจนน้องขวัญต้องขวัญหัวไหล่หนี"จะบอกขวัญได้หรือยังว่าใครเปฺ็นคนบอกพี่เหนือ"ฉันดันใบหน้าคมออกจากหัวไหล่ของฉันเ
บรรยากาศช่วงค่ำคุณป้าจัดงานเลี้ยงฉลองให้ฉันอย่างชื่นมื่น ทุกคนมีความสุขกับบรรยากาศที่ห้อมล้อมไปด้วยแมกไม้แล้วขุ่นเขาอากาศที่เย็นสบายจากแอร์ธรรมชาติกระทบกับผิวกายฉัน ที่ตอนนี้ทุกคนอยู่ในชุดสบาย ยิ่งทำให้บรรยากาศเป็นกันเองมากยิ่งขึ้น"ชอบไหม ป้าจัดเลี้ยงบาร์บีคิวให้เลยนะ"คุณป้าเอ่ยถามฉันที่ตอนนี้ ฉัน พี่เหนือ ปลายฝัน พี่นิวตัน และต้นไม้ ยืนร่วมกลุ่มอยู่ข้าง โต๊ะอาหาร ส่วนพวกผู้ใหญ่ก็นั่งร่วมกลุ่มอยู่ไม่ไกลจากพวกเรามากนัก"ชอบมากเลยคะ ขอบคุณ คุณป้ามากเลยนะคะ"ฉันยกมือขึ้นไหว้คุณป้า ท่านก็ส่งยิ้มมาให้"ถ้าชอบก็พากันกินเยอะ ๆ เลยนะวันนี้ไม่อั้นจ๊ะ เดี๋ยวป้าไปนั่งกับพวกพ่อแม่เราดีกว่ายืนนาน ๆ แล้วป้าปวดขา"คุณป้าเอ่ยบอกฉันพร้อมกับหันเดินไปทิศทางของเป้าหมายทันที"ลูกเขย มาหาพ่อหน่อย"เสียงพ่อเอ่ยขึ้นพร้อมกับกวักมือเรียกพี่เหนือให้มาหา ซึงข้างหน้าพ่อมีขวดเหล้าสีอำพันตั้งอยู่"ครับคุณลุง"ผมเอ่ยตอบพร้อมกับก้าวเท้าเดินตรงไปหาพ่อตาทันที"คุณลุงอะไร ต้องเรียกพ่อซิถึงจะถูกจริงไหมแม่"คุณพ่อน้องขวัญเอ่ยขึ้น"ครับคุณพ่อ""มาดื่มเป็นเพื่อนพ่อหน่อย เรียกพ่อหนุ่มคนนั้นมาด้วย ต้นไม้ด้วยนะ ถือว่าวันนี้วันดี ม
ตอนนี้ทุกคนมาอยู่ ภายในห้องทำงานของป้ามณีเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องสงสัยทันทีที่ป้ามณีโทรหา พ่อแม่ฉัน และพี่เหนือโทรหาพ่อแม่ตัวเอง การเดินทางจากกรุงเทพ-โคราช เป็นระยะทางที่ใกล้ไปโดยถนัดตา พ่อแม่ฉันให้ต้นไม้น้องชายฉันขับรถมาให้ ส่วนพ่อแม่ของพี่เหนือให้พี่นิวตันขับรถมาให้โดยมีปลายฝันนั่งมาเป็นเพื่อนพี่นิวตันด้วย ทั้งหมดมองหน้าฉันกับพี่เหนือ"ยัยขวัญมีเรื่องอะไรหรือเปล่าถึงได้โทรหาพ่อกับแม่ฉันให้มาหาแกกับพี่เหนือถึงเขาใหญ่"ปลายฝันกระซิบถามฉันด้วยเสียงที่แผ่วเบาได้ยินกันแค่สองคน"เฮ้ย ! เดี๋ยวแกก็รู้นั่งฟังก่อน"ฉันถอนหายใจออกมาอย่างรู้สึกท้อข้างในหัวใจ"โอเค ไม่ถามแกก็ได้"ปลายฝันส่งสายตามองค้อนมาทางฉัน"เราเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าคะ ลูกชายพวกคุณมาล่วงเกินหลานสาวถึงรีสอร์ทของฉัน"เสียงคุณป้ามณีเอ๋ยขึ้นด้วยเสียงที่แข็งก้าวไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง"มันเป็นเรื่องของเด็ก ๆ พวกเราเป็นผู้ใหญ่ไม่ควรเข้าไปยุ่งนะครับ"พ่อพี่เหนือเอ๋ยขึ้นบ้าง"แต่เรื่องของเด็ก ๆ คือหลานสาวฉันนะที่เสียหาย"คุณป้าเอ๋ยสวนขึ้นทันควัน "คุณป้าคะขวัญผิดเองคะที่"ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบประโยคคุณป้าฉันก็เอ๋ยขึ้นมาทันควัน"หยุดเลยยัยขวัญทาง
ช่วงเช้าของวัน"นี่เห็นคุณขวัญไหมทำไมไม่ลงมาสักที"ป้ามณีหันมาถามพนักงานด้วยความสงสัย เพราะตอนเช้าของทุกวันต้องเห็นหลานสาวลงมาดื่มกาแฟในช่วงเช้าของทุกวัน"ยังไม่เห็นเลยคะ หนูมาทำงานตั้งแต่ 8:00 แล้วยังไม่เห็นคุณขวัญลงมาทานข้าวและดื่มกาแฟเลย"พนักงานเอ๋ยบอกเจ้าของรีสอร์ท"เป็นอะไรหรือเปล่านะ เอากุญแจห้องคุณขวัญมาให้ฉันหน่อย"คุณป้ามณีรู้สึกเป็นห่วงหลานสาวขึ้นมาทันทีเอ๋ยบอกสาวพนักให้เอากุญแจห้องพักของหลานสาวมาให้"ได้คะ"พนักงานสาวเอ๋ยตอบรับหมุนร่างบางเดินไปหยิบกุญแจที่วางอยู่ในลิ้นชักของเคาเตอร์ประชาสัมพันธ์ส่งให้เจ้านาย คนเป็นเจ้านายรับกุญแจห้องพักรีบสาวเท้าไปยังห้องพักของหลานสาวด้วยความเร่งรีบป้ามณีเคาะประตูเรียกหลานสาวอยู่หลายรอบคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหลานไม่เปิดประตูให้คนเป็นป้าเสียทีด้วยความร้อนใจกลัวว่าหลานจะไม่สบายจึงรีบไขกุญแจเปิดประตูห้องเข้าไปกวาดสายตายาวไปทีละจุดเปิดประตูห้องน้ำก็ไม่เห็นหลานสาว หญิงที่อายุล่วงเลยมาจนจะใกล้เลข 60 หันมาถามพนักงานสาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ อย่างร้อนใจ"อ้าวขวัญไม่อยู่ในห้องจะไปไหนได้อีก เธอแน่ใจใช่ไหมว่าไม่เห็นคุณขวัญจริง ๆ"คนเป็นนายพึมพำให้ลูกน้องสาวได้ยิน
@ Love 9ก๊อก ก๊อก ฉันเคาะไปที่ประตูห้องที่พี่เหนือพักอยู่ แต่ไม่มีสัญญาณว่าคนข้างในจะเปิดประตูห้องพักให้ฉันสักที ฉันเลยลองเอื้อมมือไปบิดที่ลูกบิดหมุนไปมาเปิดประตูห้องพัก Love 9 ดูเอ๊าไม่ได้ล๊อกเหรอเนี่ย ฉันมองเข้าไปภายในห้องที่ตอนนี้ข้างในมืดสนิทหัวคิ้วขมวดขึ้นมาชนกันจนเป็นปม ฉันเลยถือวิสาสะเดินเข้าข้างในห้องพร้อมกับเรียกคนตัวโตไปด้วย"พี่เหนืออยู่ไหมคะ"ฉันเอ๋ยเรียกด้วยเสียงที่ไม่ดังมาก"พี่เหนือขวัญมาแล้วคะ"เงียบไม่มี สัญญาณว่าจะมีพี่เหนืออยู่ข้างใน "ไปไหนของเขาหนอ" ได้แต่พึมพำคนเดียวเบาๆ"อุ๊ย ! ปล่อยนะใครเนี่ย"ฉันอุทานออกมาเสียงดังตื่นตกใจที่จู่ ๆ ก็มีคนเข้ามาสวมกอดฉันจากทางด้านหลัง แต่กลิ่นหอมเฉพาะตัวทำให้ฉันจำได้ว่าเป็นใคร"พี่เองครับ"พี่เหนือเอ๋ยบอกฉัน พร้อมกับโน้มใบหน้าคมมาคลอเคลียที่ซอกคอฉันไปมา"พี่เหนือจะทำอะไรปล่อยก่อนสิคะ"ฉันย่นคอเข้าหากันทันทีเพราะลมหายใจที่แผ่วร้อนรดลงที่ต้นคอฉันมันทั้งรู้สึกขนลุกและจักจี้ในเวลาเดี๋ยวกัน"เรื่องอะไรพี่จะปล่อย พี่ลงโทษน้องขวัญที่ทิ้งพี่ให้อยู่คนเดี๋ยว"คนตัวโตเอ๋ยบอกริมฝีหนายังคงไม่ละออกจากต้นคอฉัน"อย่าคะพี่ น้องจักจี้"ฉันดันหน้าคนหน้
การอยู่ช่วยงานป้าที่ฟ้ามณีรีสอร์ทก็ไม่เลวมีอะไรให้ทำเยอะแยะจนบ้างครั้งฉันลืมเรื่องเศร้าไปได้เยอะ แต่เมื่อไรที่กลับมาถึงห้องพักใจไม่รักดี กลับดันไปคิดถึงคนที่ทำให้เจ็บทุกครั้งฉันส่งจดหมายลาออกให้พี่เหนือเรียบร้อยแล้วทางอีเมล์คงไม่มีเรื่องอะไรต้องเจอหน้ากันอีก สายตาทอดมองออกไปนอกหน้าต่างห้องพักดูวิวภูเขาที่เขียวชะอุุ่ม หัวใจก็เริ่มคิดถึงคนที่ไม่อยากเจออีกแล้ว เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้ฉันหลุดออกจากพวัง มือเรียวหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นดูหน้าจอปลายฝัน [ขวัญแกเป็นไงบ้าง] เสียงจากปลายสายดังขึ้นเมื่อฉันกดรับเป็นเสียงที่ราบเรียบแต่ทำไมใจฉันต้องว้าวุ่นด้วยก็ไม่รู้ขวัญข้าว [สบายดีแก โทรมามีอะไรหรือเปล่า] ฉันเอ๋ยถามเพื่อนสนิทเหมือนทุกครั้งปลายฝัน [ มีสิ วันที่ 9 นี้ที่แกตกลงจะมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวฉัน ยังเหมือนเดิมอยู่ไหม อีกอย่าง ฉันไม่รู้ว่าจะหาใครแทนอกด้วย] อ่อจริงสิ ใกล้ถึงงานแต่งงานเพื่อนแล้ว ฉันเสียใจจนลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท แล้วนี่ดันไปตกปากรับคำว่าจะไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้อีกขวัญข้าว [ก็ต้องไปอยู่แล้ว แกแต่งงานทั้งที] ฉันเอ๋ยบอกเพื่อนเมื่อถึงวันนั้นจริงฉันคงจะทำใจยอมรับกับชะตากรรมข้างหน้าได้