“ปีเตอร์ ชุดตำรวจที่นายเตรียมไว้ฉันไม่อยากได้ เพราะมีคนที่คิดจะหักหลังพวกนั้นเหมือนกันมันชื่อแจ็คคนที่นำหรือคุมตำรวจ เพราะฉะนั้นแกต้องหาทางสกัดกั้นพวกมันไว้ ส่วนชุดตำรวจที่นายต้องไปนำมาก็คือแพททริค งานนี้นอกจากจะให้แพททริคล้างอายให้ตัวเองที่เคยถูกแจ็คหลอกแล้ว ยังสามารถเล่นงานแจ็คได้และที่สำคัญจะสามารถจับตัวนายโทมัสได้อย่างไม่มีข้อกังขาใด ๆ นายต้องหาทางติดต่อเขาให้ได้ และนายก็ต้องเป็นคนนำเขามาจะวิธีใดก็ตาม ในขณะเดียวกัน นายต้องไม่ทำให้แจ็คสันสงสัยใด ๆ ไม่อย่างนั้นแผนเราจะพังทันที ระวังตัวด้วย เพราะคนหน่วยนี้ฝีมือดีทุกคน ต้องไม่มีคำว่าพลาด”“รับทราบครับ ผมจะระวังตัว” ฉันพยักหน้าให้มัน ก่อนจะหันไปมองหน้าแพรว“อุปกรณ์ที่ติดตามตัวนายโทมัสเป็นหน้าที่ของแพรว ที่ต้องรายงานให้ทราบว่า อยู่ที่ไหนจุดไหนพิกัดใด และหาทางทำลายระบบวงจรของมันให้ได้ ไม่เช่นนั้นต่อให้เราสามารถพาแพททริคมาได้แต่เจาะเข้าข้อมูลมันไม่ได้ ก็ถือว่าเรื่องทุกอย่างเป็นศูนย์ ดูเหมือนจะไม่อันตรายแต่แท้จริงแล้วกลับอันตราย ระบบของมันฉันจำไม่ได้ว่าอะไรแต่ความหมายคือ เมื่อไหร่ที่เราเจาะผิดเกินสองครั้งทางนั้นจะรู้ตัวและหันมาเล่นงานเธอ ม
“ฮัลโหลยัยมีน” ฉันโทรศัพท์หายัยมีนเพื่อจะคุยเรื่องงานกับมันต่อ รอไม่นานปลายสายก็รับ“ว่าไงแก”“เมื่อถึงวันปฏิบัติการ ฉันไม่ต้องการให้แกมาช่วย”“แต่...”“อย่าลืมสิยัยมีน แกยังมีเรื่องต้องจัดการอยู่นะ ศัตรูของแกไง ถ้าให้ดีปิดวันนั้นเลย แล้วถ้าแกปิดเสร็จแกจะมาฉันจะไม่ว่าแกเลย” ฉันร่ายยาว“แกรู้เหรอ”“ไม่มีอะไรที่ฉันไม่รู้หรอกมีน อยู่ที่ว่าฉันจะพูดหรือเปล่า สนามนั้นแกรักมากฉันรู้ เพราะฉะนั้นอย่าให้ปัญหาที่มาจากคนเลว ๆ มาทำให้สิ่งที่แกรักพัง จัดการซะให้เรียบร้อย ฉันห่วงแกนะ ระวังตัวด้วยล่ะ”“ขอบใจมากนะลิน แกก็เหมือนกัน ระวังตัวด้วย”“อืม งั้นแค่นี้นะ บาย” วางสายจากยัยมีนไม่ทันไร ฉันก็ต้องรีบกดรับสายเมื่อคนที่ฉันรักเคารพและนับถือโทรมาอีกครั้ง“Hi, Daddy”“ว่าไงลูกรัก”“รู้แล้วใช่ไหม ลินเพิ่งคุยกับสมิธไปเมื่อสักครู่นี่เอง”“555 ไม่ได้หรอกเดี๋ยวแด๊ดจะไม่ทันสมิธมัน”“หึหึ ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง แต่ลินคิดว่า ไหวค่ะแด๊ด”“เอาเป็นว่าแด๊ดจะดูห่าง ๆ แล้วกัน แต่ถ้าเห็นท่าไม่ดี แด๊ดจะเข้าช่วยทันที ตามนี้นะ”“ก็ได้ค่ะแด๊ด แค่นี้ก่อนนะคะ บาย” ฉันพูดกับทอมสันจบท่านก็วางสายไปเฮ้อฉันคงขัดเขาทั้งสองไม่ได้
“คุณพ่อคะ เรื่องของนายดนัยที่ยักยอกเงินบริษัทกับเรื่องที่เอาความลับของบริษัทไปเปิดเผยให้นายโทมัสได้รับรู้ ลินต้องการให้คุณพ่อปิดเอาไว้ห้ามคณะกรรมการคนอื่นรู้เด็ดขาด เพราะลินจะไม่ไล่นายดนัยออก เขาถูกบังคับให้ทำ” ฉันไม่ตอบคนเป็นแม่แต่หันไปคุยกับพ่อแทน“โทมัส ลูกรู้ได้อย่างไรว่าเป็นโทมัส แล้วถ้านายดนัยทำผิดจริงเขาก็สมควรได้รับโทษ”“ถึงแม่จะไม่รู้ แต่แม่คิดว่าคุณพ่อพูดถูก”“ลินรู้ค่ะ ลินก็มีวิธีการจัดการของลินเหมือนกัน คนเราทำผิดได้และเมื่อสำนึกผิดก็สมควรได้รับการให้อภัยไม่ใช่เหรอคะ ลินอยากจะให้โอกาสนายดนัยอีกสักครั้ง ลินว่าลินดูคนไม่ผิด”“แล้วลูกจะจัดการยังไง” คุณพ่อถาม ซึ่งคุณแม่ก็ถามฉันทางสายตาเหมือนกัน“ปิดบัญชีนายโทมัสไงคะ เบื้องหลังที่คนอื่นไม่รู้ กำลังจะถูกเปิดเผย”“เปิดเผย นี่ลูกไปรู้อะไรมาเหรอ” คุณพ่อพูด“นายโทมัสทำการค้าประเวณี รวมไปถึงยาเสพติดแทบจะทุกชนิด และสิ่งผิดกฎหมายอีกมากมาย ลินจะปิดตำนานนายโทมัสค่ะพ่อ”“ไม่ได้ แม่ไม่ยอมหรอกมันอันตราย และอีกอย่างลินเป็นผู้หญิงทำไมไม่ให้ตำรวจจัดการล่ะลูก ไม่รู้แหละแม่ไม่ยอม” แม่ฉันพูดออกมา“คุณแม่คะ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ลินดูแลตัวเองได้ อีกอ
"สวัสดีโทมัส อยากเจอเรามากจนต้องส่งคนมาล้วงความลับเลยเหรอ ได้อะไรไปบ้างละ หึหึ อีกไม่นานเราจะได้เจอกัน นายอยากรู้จักเรา เราก็จะไปหานาย เตรียมตัวไว้ให้ดี เพราะเมื่อเจอกันแล้วนายอาจคาดไม่ถึง แต่ที่แน่ ๆ เลยก็คือ เมื่อเจอกันแล้วเราจะไม่ออมมือเลย โชคดีนะ...มัจจุราช"“โธ่เว้ย นี่มันบ้าบอคอแตกอะไรกันเนี่ย หงุดหงิดโว้ย"ไม่ต้องตกใจหรอกครับ ผมเองแหละโทมัส หลังจากที่ได้รับข้อความซึ่งไม้รู้ว่ามันมาจากไหน แต่รู้ว่าใครส่งมันมามัจจุราช! ไม่ต้องคิดให้ปวดหัว มีแค่คนเดียวเท่านั้น ก็นายใหญ่ขององค์กรนั่นไง มันส่งมาให้ผมแบบนี้ บอกให้ผมเตรียมตัวรับมือ แสดงว่ามันจะเปิดศึกกับผมแน่นอน โอ๊ย ปวดหัวผมได้แต่หงุดหงิดกับอารมณ์ของตัวเอง แต่เอ๊ะ เดี๋ยวนะ เมื่อเจอแล้วอาจคาดไม่ถึงอย่างงั้นเหรอ แสดงว่านายใหญ่ขององค์กรจะต้องเป็นคนที่ผมรู้จักอย่างนั้นสิ ใครกัน แต่ถ้ามันบอกผมอย่างนี้ เห็นทีว่าต้องเตรียมตัวให้ถึงที่สุดซะแล้ว หึ อยากจะรู้เหมือนกันแหละ ว่าคนที่ทุกคนต่างให้ความเกรงกลัวกันนักหนา แท้จริงแล้วมีหน้าตาอย่างไร"ได้ในเมื่อแกบอกให้ฉันเตรียมตัว ฉันก็จะเตรียม แล้วเรามาดูกัน ว่าแกกับฉันใครมันจะแน่กว่ากัน หึ" ผมพูดคนเ
"ฮัลโหล สวัสดีครับคุณโทมัส โทรมาแต่เช้าเลย""ผมแค่จะโทรมาบอกว่า ไอ้มาร์ทมันไปแล้วนะ พร้อมเพื่อนมันอีกสองคน""ลื้อรู้ได้ยังไง ข่าวที่ได้มาชัวร์แน่นะ""แน่ใจสิเสี่ยบรรจง เพราะผมรู้มาจากปากเมียของมันสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อกี้นี้เอง""งั้นก็ดี ขอบคุณมากที่โทรมาบอก อั๊วจะเตรียมของขวัญต้อนรับมันอย่างดีเลย""ครับ โชคดี สวัสดีครับ" หลังจากที่โทมัสวางสายไป ผมก็มองหาลูกน้องคนสนิทเพื่อสั่งงาน"อาสิน ลื้อเตรียมลูกน้องสักสิบคนไปต้อนรับไอ้มาร์ทที่สนามบินด้วยนะ จากนั้นเตรียมตัวให้พร้อม อีกสามวันเราจะถล่มเกาะมุก" ผมพูด“ครับเสี่ย เฮ้ย ได้ยินใช่ไหม รีบไปจัดการสิ" ไอ้สินพูดจบก็เดินออกไปทันทีไอ้สินเป็นลูกน้องฝีมือดี ซื่อสัตย์ ผมมันคนไม่มีลูกเมีย พอไปเห็นไอ้สินก็เอามันมาเลี้ยงดู มันไม่เคยทำผมผิดหวังเลยสักครั้ง ผมรักมันเหมือนลูก กิจการทุกอย่างของผมเมื่อถึงเวลาผมก็จะยกให้มันหึ ทุกคนคงอยากรู้จักผมแล้วละสิ ผม เสี่ยบรรจง คนของแผ่นดินไงล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่าถ้าถามว่าทำไมผมต้องทำร้ายไอ้มาร์ท ตอบเลยว่าผมอยากได้เกาะมุกมาไว้ในครอบครองไง สัมปทานเกาะมุกควรจะเป็นของผม ถ้าหากไม่มีไอ้มาร์ทเด็กบ้านั่นมาขวาง หรือถ้ามันยอมเซ็นยกให้
เสียงปืนดังขึ้นเป็นชุดทั้ง ๆ ที่พวกผมก็ไม่ได้หลบแต่ทำไมถึงไม่รู้สึกเจ็บหรือรู้สึกโดนยิงบ้างเลยล่ะ มองไปที่เพื่อนสองคนของผมก็ไม่มีใครเป็นอะไรเลยสักคนเดียว ผมหันสายตาไปหาพวกเมื่อกี้กลับพบว่ามันนอนตายกันหมด กระสุนถูกยิงเข้าที่จุดตาย ใคร ในหัวของผมเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามว่าใครกันที่มาช่วยลุง ใช่สิลุงคนเมื่อกี้ ผมหันไปก็เห็นว่าลุงปลอดภัย จึงไปช่วยพยุงแกลุกขึ้น"เป็นอะไรไหมครับลุง" ผมถาม"ไม่เป็นไร ขอบใจนะที่ช่วย แล้วก็ลุงยกลูกสาวให้ถือเป็นคำตอบแทนจากลุง อย่างน้อยพ่อหนุ่มก็ช่วยดูแลลูกสาวลุงได้" ลุงพูด ผมนี่ถึงกับตกใจเลย ให้ตายเถอะ มีหวังหูขาดแน่"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเต็มใจ" ผมพูด"ลูกสาวลุงสวยนะ เซ็กซี่ด้วย หน้าดุนิด ๆ ไม่สนเลยเหรอ"ลุงยังพูดต่อ เพื่อนผมมันก็มองผมยิ้ม ๆ"คือผมมีเมียแล้วน่ะครับลุง ผมรักเธอมาก และที่สำคัญผมไม่อยากทำให้เธอเสียใจด้วยน่ะครับ ขอโทษนะครับที่พูดตรง ๆ" ผมพูด“ฮ่าฮ่าฮ่า”แล้วก็ต้องตกใจเมื่อลุงตรงหน้าหัวเราะอย่างกับชอบใจสักอย่าง ผมได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ ไปให้"ถูกใจว่ะ จำคำพูดตัวเองไว้ให้ดีล่ะ เมื่อไหร่ที่ผิดคำพูดเธอจะเสียใจ ลุงไปก่อนนะ" พูดจบลุงก็เดินออกไปเลย ปล่อยให้ผ
"นายท่านครับ เราทำแบบนี้ถ้าคุณลินรู้ คุณลินอาจโกรธได้นะครับ""เอาน่าจอร์จ ฉันก็แค่อยากรู้จักว่าที่ลูกเขยฉันเท่านั้นเอง ถ้าแกไม่พูดฉันไม่พูด ลินก็ไม่มีทางรู้หรอก ที่สำคัญลินไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่รู้ว่าพักหลัง ๆ มานี้ เราส่งคนติดตามเธอ" ผมพูด"แต่ว่าดูเธอไม่สงสัยเลยนะครับนายท่าน" จอร์จพูด"หึหึ แกอย่าลืมสิว่าลินฉลาดแค่ไหน เธอไม่มีทางตกใจหรอกที่รู้ว่ามีคนตาม" ผมพูด"เหอะ นั่นสิเนอะ ผมก็ลืมไปว่าคุณลินไม่ใช่เด็กแล้ว แต่เธอเป็นถึงนายใหญ่ขององค์กรที่ผู้คนต่างให้ความเกรงกลัวเลยนี่น่า" จอร์จพูด"หึ ใช่แล้ว ลูกสาวสมิธซะอย่างปั้นมาเองกับมือ" ผมพูด"แต่ก็อย่าลืมนะครับว่านายท่านไม่ได้ปั้นเธอมาคนเดียว ยังมีอีกหนึ่งคนที่สำคัญที่ช่วยปั้นคุณลินขึ้นมาให้เข้มแข็ง แข็งแกร่ง เด็ดเดี่ยวนะครับ"ไอ้จอร์จพูดถึงกับทำให้ผมไม่สบอารมณ์ไปทันที ก็จะอะไรซะอีกล่ะย้อนไปเมื่อตอนที่ผมเจอลินครั้งแรก เป็นการเจอกันแบบไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ ตอนนั้นเธออายุ 16 ขวบ อยู่เกรด11 คือผมเองชื่อ สมิธ เป็นมาเฟียที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซียและเป็นเจ้าของเรือสินค้าที่ใหญ่ที่สุดอีกด้วย เหตุการณ์วันนั้นผมยังจำได้ดีผมกำลังปะทะกับพวกไอ้ทอมสัน มันเป
มีดปืนคือสิ่งที่ผมถนัดผมได้ถ่ายทอดไปให้เธอจนหมดสิ้น ลินเป็นเด็กหัวไว เรียนรู้เร็ว ช่างสังเกต แม้แต่วันนั้นผมโดนมีดจากพวกศัตรูทำร้ายอาการปางตาย หมอกลับรักษาไม่ได้จนไอ้ทอมสันขู่จะฆ่าหมอคนนั้นแล้วพาผมกลับบ้าน เพราะผมบอกมันว่าถ้าตายขอตายที่บ้านเด็กผู้หญิงอายุ 16 รีบวิ่งเข้ามาหาผมทันทีที่รู้ข่าว เธอไม่ร้องไห้แต่สีหน้าเป็นกังวลชัดเจน เธอเดินมาดูรอยมีดเล็ก ๆ ที่บาดเข้าที่หัวไหล่แต่กลับทำให้ผมอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด เธอดูรอยแผลของผมแวบเดียวก่อนจะถามพวกผมว่า มีดที่ทำรอยแผลนี่อยู่ไหนแน่นอนรอยมีดที่ทำให้ผมเกือบตายผมก็ต้องให้ลูกน้องเก็บไว้เป็นธรรมดา ทันทีที่เธอรู้ เธอรีบสั่งให้ไปเอามีดมา แล้วก็เนื้อหมูสด ๆ หนึ่งชิ้น ทันทีที่มีดกรีดลงบนเนื้อหมู จากเนื้อสด ๆ กลายเป็นสีช้ำไปเลย ยาพิษคือคำที่ออกจากปากของเด็กผู้หญิงผมไม่แปลกใจที่เธอรู้เพราะผมก็พอจะรู้ แต่หมอไม่รู้ว่าเป็นตัวยาตัวไหนต่างหาก แล้วผมก็ต้องอึ้งอีกครั้งเมื่อเธอวิ่งไปที่ห้องพยาบาลของผม แล้วขนยามากมายออกมาก่อนจะทำการผสมยาเหล่านั้นแล้วรีบฉีดเข้าแผลผมทันที ผมร้องอย่างเจ็บปวด ก่อนจะต้องร้องออกมาอีกครั้งเมื่อเธอเทยาที่ผสมไว้ราดลงไปในแผล และเธอก็
ตอนนี้ฉันกับพี่มาร์ทก็มาถึงที่ห้างพี่ตินแล้ว แต่ทำไมคนมองฉันกับพี่มาร์ทแปลก ๆ อะ ก่อนเราจะเข้าไปในห้าง“ลินครับ ลินเข้าไปก่อนเลยนะครับ พี่ลืมของพี่ขอกลับไปเอาของก่อน”“เดี๋ยวลินรอก็ได้ค่ะ” เขายิ้มแต่ส่ายหน้า“เข้าไปก่อนเลยครับ เดี๋ยวพี่ตามเข้าไปนะ” ถึงเขาจะพูดอย่างนั้นแต่หน้าเขาก็ยังคงเครียดอยู่ฉันจึงพยักหน้าเศร้า ๆ ก่อนที่จะเดินเข้าไปหลังจากที่เดินเข้ามาในห้างคนก็ยิ่งมองฉันและที่สำคัญทุกคนอมยิ้มให้ฉันจนฉันรู้สึกเก้อเขินไปหมด ฉันเดินไปตามทางเรื่อย ๆ จนเจอรูปตัวเองห้อยลงมามันเป็นรูปตอนที่ฉันอยู่ในช่วงอายุมอสี่มอห้าฉันจำได้ดีเพราะช่วงเวลานั้นทำให้ฉันต้องหนีไปอเมริกาฉันเดินมองรูปทีละรูปตามทาง ตามลูกศรไปเรื่อย ๆ รูปตอนเด็กค่อย ๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนเป็นรูปที่มาที่ประเทศไทยวันแรกในรอบสี่ปีในหลาย ๆ อิริยาบถฉันเริ่มตกใจ ฉันหยิบรูปนั้นมาดู“ลินครับ” ลายมือพี่มาร์ทหนิ ฉันเดินดูไปเรื่อย ๆ พลิกทีละรูปและแต่ละรูปจะมีข้อความเสมอ“พี่ขอโทษในทุกเรื่อง”“ขอโทษที่ทำให้ร้องไห้”“ขอโทษที่ทำให้เสียใจ”“ขอโทษที่เคยทำร้าย”“ทำร้ายคนที่พี่รักสุดหัวใจ” ฉันเดินอ่านจนมาถึงรูปนี้น้ำตาฉันก็ยิ่งคลอในหน่วยตา“ลินพอจะ
“อะอื้อ ฮื่ออ”“ตื่นได้แล้วครับสายแล้ว”“อื้อจะนอน อย่ามายุ่ง”“ถ้าไม่ตื่นพี่ปล้ำนะ”จุ๊บจุ๊บ“โอ๊ย ๆ ตื่นแล้ว ๆ ไม่ต้องมามองอย่างนั้นเลยนะ เมื่อคืนเล่นลินซะหนักเลยกว่าจะได้นอนก็ตีสี่เข้าไปแล้วไม่รู้เอาแรงมาจากไหนไม่เหนื่อยบ้างหรือไง”ฉันโวยคนตัวโตทันทีที่ตื่นขึ้นมาด้วยฝีมือของเขานั่นแหละ เอะอะปล้ำเอะอะปล้ำบ้าหรือเปล่า เมื่อคืนก็กว่าจะได้นอนเหนื่อยก็เหนื่อยเพลียก็เพลียแถมยังปลุกให้ลุกแต่เช้าอีก ฮือ อยากจะฆ่าพี่มันนัก“ลุกไปอาบน้ำเลยครับ ผู้ใหญ่มารอนานแล้วนะ ไม่น่ารักเลย”เดี๋ยวนะผู้ใหญ่เหรอหมายความว่าไงอะ“เมื่อกี้พี่มาร์ทว่าไงนะคะ ผู้ใหญ่มารอคือ ?” พี่มาร์ทยิ้ม“ไปอาบน้ำก่อนนะครับเดี๋ยวเสียฤกษ์” ฉันก็พยักหน้าอย่างงง ๆ ฤกษ์อะไรวะไม่เห็นรู้เรื่องเลยงงไปสิตุ้บ“โอ๊ย”ทันทีที่ลุกลงจากเตียงร่างของฉันก็หล่นตุ้บอยู่ข้างเตียง ฉันหันไปมองตัวต้นเหตุตาเขียวปั๊ด“หึหึ เจ็บเหรอครับมาพี่ช่วย”“ก็เพราะใครล่ะ บอกให้พอ ๆ ๆ เคยฟังปะ” ฉันมองเขาตาเขียวพร้อมกับบ่นไปด้วย“อ้าว พี่อาจจะผิดที่ไม่ฟังแต่พอพี่จะหยุดลินบอกเองนี่ครับอย่าหยุด อ๊ะ อื้อ เร็ว ๆ เร็วกว่านี้”เพี้ยะ“โอ๊ย ตีพี่ทำไมพี่พูดความจริงนะ ฮ่
“เฮ้ย!!!”O_O“ขะ เข้า เข้ามาได้ยังไง”ไม่ต้องตกใจครับ จะใครซะอีกล่ะนอกจากน้องลินยัยโหดของผมไงครับ ดูหน้าตาสิคืออะไร ตาจะโตไปไหน แล้วไอ้อาการอ้าปากค้างอีกนั่น อย่างกับว่าไม่เคยอยู่ด้วยกันยังไงยังงั้นอะ จะตกใจอะไรกันนักกันหนา“ถามว่าเข้ามาได้ยังไงคะพี่มาร์ท ออกไป ลินจะอาบน้ำ”“แหนะ ถามไม่ตอบ บอกให้ออกไปไง พี่มาร์ท ออกไปสิ”ผมยังยืนนิ่งอยู่ไม่ขยับไปไหน มองหน้ายัยตัวแสบนิ่ง ไม่มีทางยอมออกไปเด็ดขาดเอาสิ วันนี้มีเรื่องให้เคลียร์ เยอะแยะเต็มไปหมดเลย ยังไงก็ไม่ออกเด็ดขาด“ไป ออกไปค่ะ” ยัยตัวแสบเดินมาผลักผม เอามือดันหลังผมออกไป พอใกล้ถึงประตูหมับ“อ๊ะ พี่มาร์ท ทำอะไรคะ ปล่อยสิ เดี๋ยวพ่อกับแม่มาเห็น”“ไม่เห็นหรอกน่า อยู่ในห้องขนาดนี้ แถมยังล็อกประตูแล้วด้วย ใครจะมาเห็นครับ หื้ม”ฟอดผมพูดพร้อมหอมแก้มเธอไปด้วยแรง ๆ หนึ่งที“ไม่ได้ค่ะ ยังไงก็ต้องออกไป”“ไม่ออก ยังไงก็ไม่ออก เพราะอะไรรู้ไหม เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันยาวเลย”ผมพูดจบก็พาเธอมานั่งที่โซฟาโดยให้เธอนั่งตักและกอดเอวเธอไว้ เธอขมวดคิ้วมุ่น“เรื่องอะไรคะ ก็เมื่อข้างล่างบอกไปหมดแล้วนี่คะ” ลินพูด“ก็ลิน กอดนายอะไรนะ ไอ้ตำรวจ FBI นั่นอ่ะ” ผม
โอ๊ย ให้ตายเถอะไม่เคยกดดันขนาดนี้มาก่อนเลย ทั้งคุณพ่อคุณแม่ ของฉัน ของพี่มาร์ท ป๊าแด๊ดและเพื่อน ๆ ของฉันมองมาที่ฉันทุกคนเลยอะงืออออ เอาไงดีวะ ฉันกดดัน เอาวะยิ้มสู้"ไม่ต้องมายิ้มเลยไอ้ตัวแสบ" คุณพ่อ"ใช่ไม่ต้องยิ้ม" คุณแม่"เล่ามา" ปรางค์"อย่าหมกนะ" มีนเอาไงดีวะหาตัวช่วย พี่มาร์ท พอหันไปเท่านั้นแหละ ฮือ ลินอยากร้องไห้ สายตาดุกว่าคนอื่นอีก"ไง จะเล่าได้หรือยังจะเงียบอีกนานไหมผู้ใหญ่เขารอ""โธ่แด๊ดดด""ไม่ต้องโธ่ เล่ามาให้หมดนะครับคุณลลิน""ป๊าอะชิ" แต่ก็เท่านั้นแหละสุดท้ายก็ต้องเล่าอยู่ดี"คือว่ายังไงดี โอ๊ยงง" ฉันเอง"ก็ไม่เอายังไงเล่ามาทีละเรื่อง เรื่องแรกเลยไปเป็นหัวหน้าองค์กรได้ยังไง" คุณพ่อพูด ฉันยิ้มก่อนจะบอกว่า"อ๋อ ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่ลินชอบการต่อสู้แล้วบังเอิ๊ญบังเอิญได้เข้าไปช่วยคนที่อ่อนแอทำให้คนที่ลินช่วยเนี่ยน่าจะเคารพลินมั้งคะ จากหนึ่งก็เป็นสองจากสองก็เป็นร้อยเป็นพันจนกลายมาเป็นองค์กรและมีผู้ร่วมขบวนการอย่างปีเตอร์ มะนาว น้องแพรว ยัยมีน และยัยปรางค์นี่แหละค่ะ อิอิ" ฉันพูดด้วยความสุข"ยังจะมาหัวเราะ โอ๊ยแม่จะเป็นลม" คุณแม่พูดพลางดมยาดมกับคุณป้าแม่ของพี่มาร์ทพร้อม ๆ กัน"
หลังจากที่พวกผมสั่งงานทางนั้นเสร็จแล้ว พวกผมก็รีบเดินทางกลับไปหาลลินทันทีพร้อมกับมิสเตอร์สมิธ แต่เราไม่ได้กลับกรุงเทพกันนะครับเพราะมิสเตอร์สมิธบอกว่าเสียเวลา ไปเจอตัวลินเลยดีกว่า พูดอย่างอารมณ์ดีพร้อมบอกทางคนขับรถของผมให้ไปที่โกดังร้างนอกเมืองแทน"อะไร มองหน้าฉันทำไม"มิสเตอร์สมิธพูดออกมาหลังจากที่เราขึ้นรถคันเดียวกันพวกผมทั้งหมดก็นั่งมองหน้าเขามาตลอดทาง"คือพวกผมสะ..”"ถึงแล้ว ไม่ต้องสงสัยหรอกรีบไปกันเถอะ" ผมยังพูดไม่ทันจบประโยคท่านก็พูดออกมาซะก่อนตอนนี้เราอยู่ที่โกดังล้างนอกเมืองเรารีบเดินเข้าไปอย่างระมัดระวังก่อนที่จะตกใจกับสภาพคนที่นอนเจ็บและตายเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด จากสภาพที่เห็นทำให้ผมยิ่งเป็นห่วงคนตัวเล็กมากยิ่งขึ้น เธอจะเป็นอย่างไรบ้าง เธอจะเป็นอะไรไหม เธอจะเจ็บตัวหรือเปล่า แต่ที่ไวกว่าความคิดผมก็คงเป็นขาของผมนี่แหละมันวิ่งเข้าไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกของเพื่อน ๆ เลยด้วยซ้ำอ๊ากกกกกกกกกกกกกกแต่แล้วก็ต้องสะดุดลงเพราะได้ยินเสียงร้องโหยหวน ด้วยความกลัวจะเป็นยัยตัวเล็กอยู่ในอันตรายผมก็วิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ภาพที่ผมเห็นคือนายโทมัสนอนดิ้นอย่างทุรนทุราย สภาพร่างกายนี่ดูไม่ได้เลย รอ
“หึหึ ทำไมโกรธเหรอนังลิน แกมันนังงูพิษ ฉันน่าจะฆ่าแกตั้งนานแล้ว แต่ก็เอาเถอะยังไงวันนี้ฉันก็ต้องฆ่าแกให้ได้ เพราะอะไรรู้ไหม เพราะแกทำธุรกิจของฉันต้องพังไง” มันพูดและมองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น“งั้นเหรอ งั้นก็เข้ามาสิ”อ๊ากกกกกกกฟิ้ว นายโทมัสพุ่งเข้ามาใส่ฉันแต่ฉันหลบได้ ฉันยังไม่ทันจะตั้งตัวนายโทมัสก็ซัดหน้าท้องของฉันเต็มแรงอุกจุกชะมัด ฉันมองมันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป มันตกใจนิด ๆ ก่อนจะยิ้มออกมา“หึ เป็นไงฉันบอกแกแล้วว่าวันนี้ฉันจะฆ่าแก ตายซะเถอะ” พูดจบมันก็หยิบมีดมาเพื่อที่จะแทงฉันที่ยังไม่ทันได้ทรงตัวดีนัก ฉันพลิกตัวหลบมีดของมันได้ทันก่อนที่จะปังไอ้บ้านี่มันรอบกัดมันหยิบปืนยิงมาที่ฉันแต่ฉันม้วนตัวหลบได้ซะก่อน หึ ลอบกัดแบบนี้จะมาโทษฉันไม่ได้แล้วนะ ฉันหยิบมีดบิ่นที่ให้ยัยมะนาวทำเป็นพิเศษออกมา“ได้เวลาลองของเล่นใหม่แล้วลลิน” ฉันมองมีดบิ่นด้วยดวงตาเป็นประกายพร้อมด้วยรอยยิ้มความชั่วร้ายปัง ปัง ปัง เสียงปืนของนายโทมัสยิงใส่ฉันไม่หยุดปัง ปังฟิ้ว ปัก ฉึกเสียงปืนกับมีดบิ่นของฉันสองเล่มดังขึ้นพร้อมกันแต่มันพลาดกระสุนปืนของมันไม่โดนฉันสักนิดเดียว แต่มีดของฉันปักลงบนมือที่จับปืนและต้นขาขวา
"จะหนีไปไหน""นั่นสิอย่าหนีให้เหนื่อยเลยเพราะยังไงก็ไม่มีทางรอด""อย่าพยายามให้เหนื่อยเปล่า""ยอมไปกับพวกเราดี ๆ ดีกว่าจะได้ไม่เจ็บตัว"เสียงชายที่ล้อมรอบต่างพากันพูดด้วยรอยยิ้มของนักฆ่า"หึ พวกแกเป็นใคร กล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน" นายริชาร์ดพูด"เป็นใครไม่สำคัญ รู้แค่ว่าแกต้องไปกับพวกเราก็พอ" หนึ่งในสิบพูดขึ้น"ไม่มีวัน" นายริชาร์ดพูดก่อนจะเข้าไปต่อยหนึ่งในสิบตุบ ผละ ผัวะทั้งหมัดเข่าศอกถูกกระแทกจนเกิดเสียงดังเป็นการปะทะที่รุนแรงในสายตาคนธรรมดา แต่มันไม่ใช่สำหรับพวกเขาเพราะพวกเขาถูกฝึกมาจากแดนนรก!อ๊ากกกกกกเสียงของนายริชาร์ดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อถูกจับแขนไพล่หลังตุบเพล้งมือขวาคนสนิทกระโดดถีบชายที่ทำร้ายเจ้านายของตนก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่อย่างบ้าคลั่งตุบ ผละ ผัวะหมัดแลกหมัด ต่างฝ่ายต่างแลกการปล่อยหมัดใส่กันและกัน รวมถึงชั้นเชิงในการหลบหลีกตุบ ผัวะ"หนีไปครับนายเดี๋ยวผมถ่วงเวลาไว้ให้"ตุบ ผัวะ อ๊ากกกก"แต่ว่า""ไม่มีแต่ครับนายไปสิครับ"ตุบ ผละ ผัวะอ๊ากกกถึงแม้นายริชาร์ดไม่อยากทิ้งลูกน้องคนสนิทไว้ที่นี่ แต่เขาจำเป็นต้องออกไป"หึ นายแกหนีเอาตัวรอดไปแล้ว คิดว่าแกจะรอดเหรอ" ชายหน
"ฮัลโหลแพรว ฉันเอาเกมให้พวกนั้นเล่นแล้ว""หึ เห็นแล้วค่ะไวจริง ๆ" ยัยแพรว"รีบเจาะเอาฐานข้อมูลมาซะ""รับทราบค่ะนายใหญ่" แพรวพูด"เปิดระบบตัวสัญญาณการติดต่อติดตัวไว้ตลอดเลยนะคะ หลังจากนี้แพรวจะพูดผ่านสายเดียวแต่รับรู้ร่วมกันและเราสามารถติดต่อกันได้ทุกคน""อืม" พูดจบฉันก็วางสายทันทีฉันตัดสินใจขับรถมาแถว ๆ เขตปลอดคนเพราะฉันสังเกตได้ว่ามีคนตามมา แต่พอมองดี ๆ ฉันก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรถ้าคนพวกนี้เป็นคนของทอมสันติ๊ดติ๊ดติ๊ด"ทดสอบ ๆ ได้ยินกันไหมคะ" แพรว"ได้ยิน" ฉันปรางค์มีนและปีเตอร์"เย่ นายใหญ่คะ เจาะฐานข้อมูลได้แล้วค่ะ ถล่มได้เลย" ยัยแพรว"บอกพิกัดมา" ฉัน"ไปที่โกดังร้างเขตชานเมืองนะคะ นายโทมัสอยู่ที่นั่นระวังตัวด้วยนะคะ มันเอาคนไปเยอะเหมือนกัน" แพรวพูด"อืม" ฉัน"ฉันกำลังไปสมทบนะ" ยัยมีน"แกจัดการเรื่องของแกเสร็จแล้วเหรอ""ค่ะนายใหญ่ พอดีมีคนเก็บกวาดไว้แล้วน่ะค่ะ ฉันไปก็ปิดบัญชีกับมันเลย" ยัยมีนพูด"ส่วนฉันก็กำลังไปเหมือนกัน คาดว่าไม่เกินสิบนาทีถึงตัวนายใหญ่แน่นอนค่ะ" ยัยปรางค์"ฉันกำลังไปไม่เกินหนึ่งชั่วโมงถึงพิกัดแน่นอน" ปีเตอร์"แกสองคนแพรวนาวหลังจากเจาะฐานข้อมูลและทำลายข้อมูลของมันเรี
"จบสิ้นกันสักทีนะเสี่ยบรรจง" ผมมองตามเสี่ยบรรจงที่เดินออกไปจากเกาะของผมอย่างช้า ๆ ภาพการตายของนายสินยังติดตาของผมอยู่ว่าแล้วผมว่าเสี่ยบรรจงก็น่าสงสารเช่นกัน แต่ทำไงได้อะ เรื่องก็ต้องดำเนินต่อไป ต่อให้ศัตรูที่อยู่ตรงหน้าจะน่าสงสารแค่ไหนก็ตาม"ไอ้มาร์ทครับ กระผมเรียนเชิญไปให้ปากคำที่โรงพักด้วยนะครับรวมถึงพวกคุณมึงและเอ่อคุณลุงด้วยนะครับ" ไอ้ภูมินทร์พูดผมมองหน้ามันอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะตอบมันไป"เออ""ผมว่าพี่มาร์ทคงได้ปฏิวัติเกาะครั้งใหญ่เลยล่ะครับ สภาพเกาะตอนนี้นึกว่าเขตชายแดนไทยพม่าซะอีก" ไอ้มาร์คัสพูด"คงงั้น" ผมพูดยิ้ม ๆ ก่อนที่สายตาผมจะมองหาคุณลุงคนนั้นผมคิดว่าท่านคงไม่ธรรมดา"เฮ้ยไอ้มาร์ท ลุงคนนั้นอยู่ไหนวะ" ไอ้คิมถามผมมองตามันก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดกับร่างที่ดูสมบูรณ์ยืนหันหลังคุยกับผู้ชายอีกคนอยู่ ผมไม่รอช้ารีบเดินเข้าหาทันที"เอ่อขอโทษนะครับ""อ้าวมาพอดีเลย หึ" ชายตรงหน้าพูดยิ้ม ๆ ทำให้พวกผมหันมองหน้ากันอย่างสงสัย"เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ แล้วก็ขอบคุณมาก ๆ นะครับที่ช่วย" ผมพูด"ใช่ครับ การยิงนี่เด็ดขาดและก็แม่นสุด ๆ เลย" ไอ้คิมพูด"นั่นสิครับ คุณลุงดูเหมือนพ